ต้องให้พวกเขามาฟังเสิ่นเชี่ยวพูดด้วยเซียวหลันยวนกับเสิ่นเสวียนรีบขเ้ามา แต่กลัวว่าหลังจากเห็นพวกเขาเสิ่นเชี่ยวจะไม่พูดต่อ พวกเขาจึงยืนฟังอยู่ด้านนอกหน้าต่าง"วิธีอะไรหรือ?""หมอคนนั้นบอกว่า ขอแค่ให้สามีลืมเรื่องในอดีตไป เขาก็จะไม่เจ็บปวดแล้ว ไม่เช่นนั้น ทุกครั้งที่สามีต้องมาปวดหัวแทบแตก เขาจะยืนหยัดไม่ไหวอีกต่อไป""แล้วใช้วิธีไหน จึงสามารถทำให้เขาลืมเรื่องเก่าไปหรือ?""นั่นเป็นหมอผีคนหนึ่ง" เสิ่นเชี่ยวบอก "วิธีของเขา คือให้สามีกินยาลงไป แล้วยังฝังเข็มให้เขา แต่เข็มของเขากับเข็มของท่านไม่เหมือนกัน ข้าเองก็บอกไม่ถูก ถึงอย่างไรตอนนั้นก็รักษาไปเดือนเต็มๆ หลังจากสามีออกมาก็ลืมไปแล้วจริงๆ แต่คำว่าสกุลฟู่นี่ก็ราวกับเป็นสายฟ้าฟาด ถ้าเอ่ยขึ้นมากับเขาก็จะระเบิดขึ้นทันที จนทำให้เขาอาการกำเริบ"ฟู่จาวหนิงฟังถึงจุดนี้แล้วก็รู้สึกดูน่าขันหน่อยๆ"แล้วเขาลืมไปเช่นนี้ ไม่คิดถึงที่บ้านบ้างหรือว่ายังมีญาติหรือไม่ อย่างเช่นพ่อของเขาหรือลูกสาวที่ยังเล็กแบบนี้? ลืมพวกเขาไปจนหมด คิดคิดจะทอดทิ้งพวกเขาหรือ?""ไม่ใช่!"เสิ่นเชี่ยวรีบอธิบาย "ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะมีคนบอกว่า พวกเราถ้ายังกล้ากลับไปที่บ้าน
ฟู่จาวหนิงไฟโกรธลุกขึ้นมาบนหัวแล้ว คุมไม่อยู่ขึ้นมาหน่อยๆเสียงของนางสูงขึ้น"ท่านรู้อยู่แล้วว่าอ๋องเจวี้ยนยังเป็นเด็กทารกที่เล็กมาก ท่านไม่อยากจะสังหารเขา แล้วทำไมพอคนอื่นบอกว่าอ๋องเจวี้ยนห้ามมีชีวิตอยู่ ท่านจึงยังไปวางยาพิษอีก?"เสิ่นเชี่ยวดวงตาแดงรื้น"ข้าไม่ได้ไปวางยาพิษ ข้าปฏิเสธนางแล้ว แต่นางก็หมุนตัวเดินไปทันที นางบอกว่า ถ้าข้าไม่ทำเรื่องนี้ นางจะให้สามีเป็นคนทำ แล้วยังบอกอีกว่าพิษเตรียมไว้เรียบร้อย พร้อมชี้ไปยังห้องที่อ๋องเจวี้ยนอยู่ให้ข้ารู้ แล้วนางก็เดินออกไป""แล้วท่านล่ะ?"ฟู่จาวหนิงใจแขวนขึ้นมาแล้วนางสัมผัสได้ ตอนนี้สมองเสิ่นเชี่ยวแม้จะยังสับสน แต่ถ้ารีบถามต่อ นางจะจดจำบางอย่างขึ้นมาได้ครั้งคราว บางทีภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่นางพูดอาจจะเป็นเรื่องจริงไปหลายส่วน"ข้าหรือ? ข้าตอนนั้นคิดแต่ว่าจะให้สามีไปฟังนางไม่ได้ แต่ไม่รู้ทำไม ข้าก็ตรงไปยังห้องที่นางชี้ เข้าไปในตำหนัก เข้าไปยังห้องนั้น ต่อมาข้าก็จำอะไรไม่ได้แล้ว สมองข้าขาวโพลนไปหมด แล้วยังมึนหัวอีกด้วย จนตอนที่ข้าตื่นมา ก็มีคนมากมายกำลังล้อมข้าอยู่ ในมือข้ามีชามอยู่ใบหนึ่ง..."เสิ่นเชี่ยวปิดหน้าร้องไห้ขึ้นมา
"แล้วพวกท่านทำไมถึงต้องออกจากเมืองหลวงล่ะ?" ในห้อง ฟู่จาวหนิงยังถามต่อ"ในวังมีคนจะสังหารพวกเรา พวกเราถ้าไม่หนี คืนนั้นคงตายอยู่ในคุกไปแล้ว สามีบอกว่าพวกเราถ้าต้องตายไปแบบนี้ แล้วไม่มีวันไหนที่ได้สืบค้นจนเจอความจริง คนที่บ้านก็จะต้องมารับภาระการตราหน้านี้ไปตลอด""พวกท่านไม่ใช่ว่าจำคนในครอบครัวไม่ได้แล้วหรือ?""สามีข้าที่จำไม่ได้ ส่วนข้า ข้ายังจำได้ ข้าจำได้ ในบ้านมีคนอยู่มากมาย ท่านพ่อตาเองก็เป็นคนดีมาก แล้วก็ แล้วก็..."ฟู่จาวหนิงกำลังกลั้นหายใจรอคำพูดต่อไปของนาง ถ้าพูดต่อไปจะนึกออกไหมว่ายังมีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง?ผลคือนางเห็นเสิ่นเชี่ยวบอกว่าแล้วก็อยู่นานสองนาน แต่ก็งงงันไม่พูดต่อ กลับก้มหน้าลงต่ำเสียด้วยซ้ำไป"ไม่ใช่สิ ข้าต้องลืมอะไรไปแน่ๆ สำคัญมากๆ ด้วย ทำไมข้าจึงคิดไม่ออกกัน!"นางเกือบจะพังทลายอยู่แล้วฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าตัวเองก็ใกล้พังทลายเหมือนกัน สามีภรรยาคู่นี้เป็นอะไรไป! ความทรงจำในสมองถึงได้เหมือนถูกแทงจนกลวงเป็นตะกร้า!"พวกเขาจำจาวหนิงไม่ได้" เสิ่นเสวียนถอนหายใจขึ้นมาอีก"ที่ควรจำดันไม่จำ" เซียวหลันยวนเองก็กัดฟันโชคดีที่จาวหนิงมีใจแข็งแกร่ง ไม่ใช่เด็กที่อ่อนแอขนาดน
ฟู่จาวหนิงถามเสิ่นเชี่ยวเสร็จ รู้สึกแค่ว่าอารมณ์ยังหนักอึ้งอยู่หน่อยๆและไม่รู้ว่าฟู่จิ้นเชินได้ยินไปมากน้อยแค่ไหน เขาตื่นขึ้นมาระหว่างนั้นรอจนฟู่จาวหนิงไม่ถามอะไรต่อ เขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง มองมาทางฟู่จาวหนิง"พวกท่านพาสามีภรรยาอย่างพวกเรามาที่นี่ เป็นเพราะอะไรกันแน่?""ท่านไม่ใช่ว่าพบกับเซียวหลันยวนแล้วหรือ?""ดังนั้น เพราะเขาคิดจะจับพวกเราอย่างนั้นหรือ? คิดจะล้างหนี้แค้นสมัยยังเด็กใช่ไหม" ฟู่จิ้นเชินคาดเดาไว้บ้างแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งจะยืนยันฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบฟู่จิ้นเชินยื่นมือมากุมมือภรรยา ปลอบประโลมนางที่อารมณ์ลนลานขึ้นอย่างชัดเจน"ดูท่าจะไม่ใช่แค่เพื่อล้างแค้น ไม่ใช่นั้นไม่จำเป็นต้องเสียเวลามารักษาพวกเรา แล้วยังถามเรื่องในอดีตมากมายถึงเพียงนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาต้องการเอ็นมังกรหยกแค่แย่งไปก็จบเรื่องแล้ว แต่นี่ยังคิดจะมาแลกเปลี่ยนกับพวกเราด้วยหรือ?"ฟู่จาวหนิงมองเขาอย่างประหลาดใจดูท่า ฟู่จิ้นเชินต่อให้ความทรงจำจะยังสับสน บางครั้งยังถูกกระตุ้นจนเกิดอาการวิงเวียน แต่สติสัมปชัญญะของเขาก็ยังใช้การได้อยู่"อ๋องเจวี้ยนยังรู้สึกสงสัยกับเรื่องในอดีตอยู่ใช่ไหม? เขาอยากจะรู้
คำพูดของฟู่จิ้นเชินยังไม่ทันพูดจบ เซียวหลันยวนก็ตัดบทเขา"ข้ายังไม่ตาย แต่การที่ไม่ตายมันหมายถึงว่าหลายปีนี้ข้าไม่ทุกข์ทรมานหรือไรกัน? ข้าทรมานในแบบที่พวกเจ้าจินตนาการไม่ออกด้วยซ้ำ มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลบหายไปได้"อย่าคิดว่าเขาไม่ตาย แล้วเรื่องที่วางยาพิษจะจบไปนะ"พวกเราไม่ได้หมายความเช่นนั้น"ฟู่จิ้นเชินกัดฟัน อธิบายมาคำหนึ่ง "ความหมายของข้าคือ อ๋องเจวี้ยนไม่ตาย เช่นนั้นถ้าพวกเรามีความผิดจริง จะลงโทษมาที่ข้าคนเดียวได้ไหม?""ท่นคิดจะปกป้องนางหรือ?""คุณ ต่อให้เรื่องวางยาพิษเป็นเรื่องจริง นั่นมันก็เป็นข้าที่ทำ ไม่เกี่ยวอะไรกับท่านเลย" เสิ่นเชี่ยวหันกลับมาจับมือฟู่จิ้นเชิน เอ่ยขึ้นอย่างร้อนรนว่า "ดังนั้นถ้าจะเอาผิดจริงๆ ก็ต้องมาลงที่ตัวข้าสิ"ฟู่จาวหนิงนิ่งงันไม่พูดอะไรดูท่าความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาของพวกเขาจะดีมากๆ มาโดยตลอด?"เรื่องเลห่านี้รอตรวจสอบความจริงแล้วค่อยว่ากันเถอะ" เสิ่นเสวียนมองเซียวหลันยวน "ได้ไหม?"เซียวหลันยวนหรุบตาต่ำเขาจะพูดอะไรได้อีกล่ะ?พอได้ยินพวกเขาพูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเรื่องในตอนนั้นมันแปลกประหลาด ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ในการพรรณนาของเสิ่นเ
"ฮูหยินขอให้นางช่วยพาเฟยเอ๋อร์ไป ครึ่งวัน แค่ครึ่งวันเท่านั้น พอพวกเราสลัดพวกมือสังหารหลุดก็จะมารับตัวเฟยเอ๋อร์กลับไป"ฟู่จิ้นเชินยิ้มขืนขึ้นมา ปิดหน้าผากก้มหน้า พยายามสะกดความเสียใจของตนเองพอพูดถึงเฟยเอ๋อร์ สำหรับเขาแล้วถือเป็นเรื่องที่ทรมานที่สุด"ข้าตอนนั้นก็ค้านไปแล้ว เพราะหญิงสาวคนนั้นอายุยังน้อยแล้วยังตั้งครรภ์อีก พวกเราฝากเด็กไว้กับนางไม่ได้ ถ้านางไปเจอกับเรื่องฆ่าฟันเข้าล่ะ?"เดิมทีก็ไม่ควรเห็นด้วยอยู่แล้วฟู่จาวหนิงนิ่งงันฟังเขาพูดต่อ"แต่ว่า ที่ทำให้ข้ารู้สึกเกินคาดก็คือ หญิงสาวอายุน้อยคนนั้นกลับใช้วาทศิลป์กล่อมจนข้ารับปาก บอกว่านางกล่อมเด็กเป็น เด็กอยู่ข้างกายนางจะเชื่อฟังเอามากๆ รับประกันได้ว่าไม่มีทางร้องไห้ ยิ่งไปกว่านั้นนางก็ได้ยินเรื่องที่พวกเราถูกล่าสังหารอยู่ นางยังบอกว่าบ้านของตนเองก็ถือว่ามีหน้ามีตาอยู่ไม่กลัวอันตรายใด และจะไม่มีใครไปหาที่บ้านนางแน่"ฟู่จิ้นเชินรู้สึกเสียใจมาก เสียใจที่ตอนนั้นถูกกล่อมจนเชื่อ"นางยังทิ้งที่อยู่ให้ข้าด้วย พูดอย่างละเอียดว่าตนเองอยู่ที่ไหน บ้านสามีชื่อว่าอะไร ให้พวกข้าไปหาเด็กตอนไหนก็ได้ นางบอกว่าในท้องนางก็ตั้งครรภ์อยู่คนหนึ่
เซียวหลันยวนมองนาง และรู้สึกมหัศจรรย์มากเช่นกันเขาไม่สนใจว่าฟู่จิ้นเชินฟังออกหรือไม่ เอ่ยกับจาวหนิงขึ้นว่า "หนิงหนิง ข้ารู้สึกมาตลอด ว่าโชคของเจ้านี่มันสุดยอดจริงๆ เป็นไปได้ว่านี่นี่เป็นเพราะโชคของเจ้า คนถึงได้มาเจอกันแบบนี้""นี่มันเกี่ยวกับโชคตรงไหนกัน""เกี่ยวแน่นอน"นางมีญาติขึ้นมาหลายๆ คน แน่นอนว่าต้องดีวก่ามีญาติอย่างท่านผู้เฒ่าฟู่เพียงคนเดียวอยู่แล้วตอนที่เซียวหลันยวนสนใจความคิดนี้ ไม่ได้สังเกตถึงความคิดของตนเองเลย ว่าเขาไม่ได้มีความคิดที่จะให้เสิ่นเชี่ยวมาชดใช้ชีวิตแล้ว ยอมรับเป็นนัยๆ ว่าพวกเขาคือญาติของฟู่จาวหนิงญาติพออยู่ด้วยกัน รู้จักกันจึงจะเรียกว่าญาติ"อ๋องเจวี้ยนพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไรกัน? ถึงได้มาเจอกันแบบนี้ หมายถึงใครหรือ?"เซียวหลันยวนตอนนี้จึงมองไปทางฟู่จิ้นเชิน พ่อตาของเขาคนนี้ฉลาดจริงๆ และยังเฉียบคมมาก แค่ประโยคนี้ของเขาก็สามารถจับประเด็นได้แล้ว"ข้าทำไมต้องตอบเจ้าด้วย?" เซียวหลันยวนเชิดคางอย่างหยิ่งทะนงแม้อีกฝ่ายจะเป็นพ่อตาเขา แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จักกันเสียหน่อยเช่นนั้นเขาก็ยังทำตัวเป็นท่านอ๋องต่อหน้าฟู่จิ้นเชินได้อยู่ ถึงอย่างไรความแค้นของเขา
ฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวจึงพักลงมาที่นี่ในเมื่อหาคนเจอแล้ว ซ้ำยังกว่าจะหาจนเจอ ไม่ว่าจะฟู่จาวหนิงหรือเซียวหลันยวน กระทั่งเสิ่นเสวียน ก็ยังปล่อยพวกเขาออกไปไม่ได้สุขภาพของทั้งสองคนนี้อ่อนแออย่างมาก ฟู่จาวหนิงยังต้องคอยรักษาให้พวกเขาแต่ก่อนที่จะรักษา นางนำเอ็นมังกรหยกไปจัดเตรียมเสียก่อนโดยไม่พูดพล่ามทำเพลงผู้อาวุโสจี้พอรู้ว่านางได้เอ็นมังกรหยกแล้วก็ค่อนข้างตื่นเต้น จึงเขัามามองมองเอ็นมังกรหยกอย่างละเอียด"คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะทำให้เจ้าได้เอ็นมังกรหยกมาแล้ว! ครั้งนี้ไปในภูเขา หาวัตถุดิบยามาได้ตั้งเยอะแยะแท้ๆ แต่ก็ไม่มีเอ็นมังกรหยกอยู่เลย ข้ากำลังคิดว่ามันยากจริงๆ วัตถุดิบยาชนิดนี้เกรงว่ามันจะหาได้ยากเกินไป"ผู้อาวุโสจี้พูดเช่นนี้ ก็อธิบายได้ว่าช่วงนี้เขาเองก็ขบคิดอย่างสุดแรงมาตลอดเหมือนกัน ที่จะช่วยหาวัตถุดิบยาชนิดนี้ให้กับเซียวหลันยวนถึงแม้อาจจะทำเพื่อฟู่จาวหนิง แต่มันก็ไม่ต่างกัน"ท่านอาจารย์ เอ็นมังกรหยกนี้หายากจริงๆ""ใช่แล้ว หายากมาก ข้าเองยังคิดอยู่ว่าต้องรอไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิเลยไหม ตอนที่สรรพสิ่งฟื้นคืนอีกครั้ง เหล่างูเหล่ามดออกจากรังมาทำงาน ตอนนั้นน่าจะหาได้ แต่ต่อใ
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม
เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก
คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ
พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ