เรื่องนี้มันฆ่าให้ตายแล้วยังย่ำจิตใจกันอีกด้วยถ้าลือออกไปเช่นนี้ ชื่อเสียงของเขาจะยังเหลืออีกหรือ?แล้วสมาคมหมอใหญ่จะกลายเป็นอะไรไปกัน?ประธานกงซุนไปอยู่ที่ไหนแล้ว?ซุนฉงหมิงแม้จะอยากเปลี่ยนจากรองประธานขึ้นเป็นประธาน แต่วิชาแพทย์ของประธานซุนกงอันที่จริงยังเหนือกว่าเขา ยิ่งไปกว่านั้น ศิษย์ของประธานกงซุนก็ยังยอดเยี่ยมมาก กระทั่งมีความสัมพันธ์อันดีกับคนของพันธมิตรโอสถใต้หล้าด้วย ดังนั้นสมาคมหมอใหญ่ถ้าต้องการวัตถุดิบยาอะไร แค่บอกกับพันธมิตรโอสถใต้หล้าคำเดียว พันธมิตรโอสถก็จะรีบจัดแจงนำมาให้พวกเขาเรื่องเหล่านี้เขาเทียบไม่ได้เลยดังนั้นชื่อเสียงของประธานกงซุนจึงนับว่ามีอยู่ถ้าหากถูกฟู่จาวหนิงลือออกไปเช่นนี้ แล้วเขาจะยังเผชิญหน้ากับประธานกงซุนได้อีกหรือ? พูดอย่างกับว่าสมาคมหมอใหญ่มีแค่เขาคนเดียวที่ออกมาตัดสินใจอย่างไรอย่างนั้น!"เจ้านี่มันไร้เหตุผลจริงๆ!"ซุนฉงหมิงเดือดดาล จากนั้นจึงมองไปทางประธานกงซุน "ประธาน ซุนฉงหมิงอย่างข้าเป็นคนเช่นไร ท่านน่าจะรู้ดีอยู่แล้ว""ประธานกงซุนต้องรู้อยู่แล้ว เขาย่ำเท้าหน้าเห็นด้วยให้ข้าเข้าร่วม ส่วนท่านก้าวเท้าหลังยืนยันที่จะคัดค้าน นี่ก็อธิบายได้
ฟู่จาวหนิงมองซุนฉงหมิง ยิ้มหวานให้"เช่นนั้น หลังจากนี้พวกเราก็เป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้วสินะ"เพื่อนร่วมงาน? ร่วมงานอะไร!ซุนฉงหมิงน่าจะเดาออกถึงความหมายนี้แล้ว เขาสีหน้าถมึงทึง ในใจก็ก่นด่าพวกคนที่อยู่ชั้นสองเหล่านั้นไปร้อยกว่ารอบแต่ละคนโง่กันขนาดนี้เชียว?ไม่รู้จักขึ้นมาดูเลย? ถ้าหากมีคนึ้นมา แค่มองสีหน้าเขา แค่มองสายตาเขา ก็ต้องเข้าใจความหมายของเขาแล้วสิ?แต่ไม่มีโผล่หัวมาสักคน!เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาหน่อยๆ ทำไมต้องมาฟู่จาวหนิงจับมาย่างไฟเช่นนี้! เมื่อครู่เขาก็ไม่ควรโดนนางกระตุ้นเลย น่าจะให้คนออกไปคัดค้านการเข้าร่วมของนางก่อน แล้วตัดโอกาสของนางออกไปเสียความสัมพันธ์กับประธานกงซุนค่อยๆ ฟื้นฟูเอาก็ได้!ต้องโทษแม่นางคนนี้ที่ทำตัวน่าโมโหเหลือเกิน พูดปาวๆ พร่ำเพรื่อจนดึงเขาเข้าไปด้วย น่าโมโหเสียจริงประธานกงซุนตอนนี้ใบหน้าก็มีรอยยิ้ม"ข้าขอเป็นตัวแทนสมาคมหมอใหญ่ต้อนรับแม่นางฟู่"หมอเทวดาอันกับผู้อาวุโสเหยาเองก็ยิ้มตาหยีเอ่ยยินดีกับนางพวกเขาเห็นฟู่จาวหนิงยุยงซุนฉงหมิงเช่นนั้น ทำเอาในใจเบิกบานขึ้นมาเลยทีเดียว หมอเทวดาซุนคนนี้ แต่ก่อนพวกเขาอาศัยตัวตนฐานะแคว้นหมิ่น กับความแข็งแก
"เฮอะ!"ผู้เฒ่าเถียนสะบัดชายเสื้อเดินออกไปพอเพิ่งออกประตู ก็ได้ยินเสียงดีอกดีใจของฟู่จาวหนิงดังขึ้น "เอาล่ะ คนที่ข้าเกลียดขี้หน้าก็ออกไปแล้ว พกวเราเริ่มกันดีกว่า"ผู้เฒ่าเถียนแทบจะสะดุดเท้าล้มลงน่าโมโหจริงๆ!พวกของประธานกงซุนแทบจะอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้แม่นางฟู่คนนี้นี่จริงๆ เลย...พวกเขาเพิ่งจะเคยเห็นคนที่ตรงไปตรงมาแบบนางเป็นครั้งแรก"แม่นางฟู่เป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนจริงหรือ?" ประธานกงซุนถาม แม้เขาจะรู้ว่าฟู่จาวหนิงน่าจะไม่ใช่คนที่เอาเรื่องเช่นนี้มาโกหกคนอื่น แต่พอคิดถึงข่าวลือในอดีตของอ๋องเจวี้ยนแคว้นเจา ก็ยังรู้สึกว่าที่เขาแต่งงานกับแม่นางเช่นนี้มันดูมหัศจรรย์มาก"แน่นอนสิ ข้าเองก็คงไม่น่าจะหาสามีสุ่มสี่สุ่มห้าให้ตัวเองหรอกกระมัง"ฟู่จาวหนิงอยากจะบอกว่า ทำไมเรื่องแบบนี้ก็ยังมาสงสัยกันล่ะ?"ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าอ๋องเจวี้ยนติดพิษมาตั้งแต่ในครรภ์ บาดเจ็บไปถึงรากฐาน สุขภาพแย่เอามากๆ....""ข้ารักษาเขาเรียบร้อยแล้ว" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงใจผู้อาวุโสเหยาก็สอดรู้สอดเห็นขึ้นมา "เช่นนั้นอ๋องเจวี้ยนจึงแต่งงานด้วยเพราะวิชาการแพทย์ที่สูงส่งของแม่นางหรือ?""นี่ก็เป็นหนึ่งในส
ซุนฉงหมิงออกมาจากหอวัฒนธรรมก็เดือดดาลแบบยากจะระงับเช่นกันเขาคิดไม่ถึงว่าตนเองจะถูกหญิงสาวคนหนึ่งทำให้โมโหได้แบบนี้แคว้นเจา อ๋องเจวี้ยนเขาคิดจะหาโรงสุราเพื่อดื่มระงับโกรธสักถ้วยสองถ้วย ผลคือที่โรงสุราเมื่อครู่มีหญิงสาวหน้าตาสะสวยเดินเข้ามา คารวะอย่างนอบน้อมแก่เขา"คารวะหมอเทวดาซุน ใต้ฝ่าพระบาทของข้าของเชิญท่านไปพบ""ใครกัน?""ใต้ฝ่าพระบาทของข้าคือองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น?เขาเหมือนจะไม่เคยติดต่อกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเลยนี่นา แต่ได้ยินว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นดวงดีเอามากๆซุนฉงหมิงจึงตามนางขึ้นไปยังห้องหรูชั้นสองด้านนอกมีลมพัด ในห้องเผาเตาถ่าน เตาดินสีแดงใบเล็กกำลังต้มน้ำ ส่งเสียงกลักกลักพ่นฟอง ความอบอุ่นตบลอบอวล ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเชิญเขาเข้ามา ดูเหมือนจะเป็นเรื่องดีหรือเปล่านะ?"หมอเทวดาซุน เชิญนั่ง"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนั่งอยู่ข้างโต๊ะชา พยักหน้าให้เขาเบาๆ"ข้าสกุลซุนคารวะองค์หญิงใหญ่""หมอเทวดาซุนไม่ต้องมากพิธี ได้พบกับหมอเทวดาซุน ถือเป็นเกียรติของฝูอวิ้น การมาเมืองจี้ครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าแล้ว"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลดตัวลงมาพอสมควร
ซุนฉงหมิงพูดคร่าวๆ บางส่วนกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลิงโลดขึ้นมา ก็อยากจะเข้าร่วมด้วยทันที สามารถช่วยหาวัตถุดิบยาได้ และสามารถออกเงินได้ด้วย ถึงตอนนั้นถ้ายาอายุวัฒนะสกัดสำเร็จ ก็ยังส่งให้องค์จักรพรรดิต้าชื่อได้ด้วยชุดหนึ่งพวกเขาคุยกันถูกคอตอนที่ซุนฉงหมิงออกไป เฉินเซียงก็เอ่ยกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างดีใจว่า "องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเป็นคนที่มีโชคจริงๆ มาเจอกับหมอเทวดาซุนเข้าพอดี พอทราบเรื่องที่ตระกูลซุนกำลังทำ พอกลับไปวังจักรพรรดิก็ยังไปแจ้งกับฝ่าบาทได้แล้วด้วย!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรุบตาต่ำ นางไม่ได้ทำเพื่อจะไปแจ้งกับฝ่าบาท นางแค่อยากจะใช้เรื่องนี้ออกไปจากต้าชื่อ!อ๋องเจวี้ยนแคว้นเจาทางนั้นยังหาทางเข้าหาไม่ได้ เช่นนั้นนางก็เดินทางอ้อมแทนยาอายุวัฒนะเป็นสิ่งล่อใจองค์จักรพรรดิอย่างมากแน่นนอน หมอเทวดาซุนจาแคว้นหมิ่น ก็ล้วนรับประกัน องค์จักรพรรดิจะต้องหวั่นไหวแน่ ถ้าหากนางพยายามอีกหน่อยไม่แน่อาจจะทำให้เขาเห็นด้วย ยอมให้นางไปที่แคว้นหมิ่น ถึงอย่างไรถ้ามีคนของตนเองคอยจับตาดูการค้นคว้ายาอายุวัฒนะก็น่าจะวางใจหน่อยถ้าออกจากต้าชื่อได้ นางค่อยมาคิดหาวิธี ดุว่าจะพาอ๋องเจวี้ยน
แคว้นเจา วังจักรพรรดิจักรพรรดิเจานั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะพิธี มองจดหมายลับในมือบนจดหมายเขียนเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนไปต้าชื่อไว้ รวมถึงเรื่องขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นด้วย แน่นอนว่าต้องมีเรื่องฟู่จาวหนิงและบนจดหมายังมีเรื่องของตระกูลเสิ่นอีก"องค์จักรพรรดิ นี่เป็นข่าวที่องครักษ์ลับตรวจสอบมาทั้งหมด" องครักษ์ลับคนหนึ่งแต่ละคนก้มหน้ายืนอยู่ข้างๆองค์จักรพรรดิเจาอ่านจดหมายจบ"วิชาแพทย์ของฟู่จาวหนิงดีมาก รักษาเสิ่นเสวียนจนหาย เรื่องนี้ข้ารู้ดี แม่ของเสิ่นเสวียนป่วย เชิญฟู่จาวหนิงเดินทางไกลไปที่ต้าชื่อ ให้นางไปรักษาไท่ไท่อาวุโสเสิ่น เรื่องนี้ข้าก็เข้าใจ"สายตาของเขายังอยู่บนจดหมาย ด้านบนเต็มไปด้วยตัวอักษรแน่นขนัดตรวจสอบมาไม่น้อยจริงๆ"แต่ข้าไม่เข้าใจ เพราะอะไรฟู่จาวหนิงจึงเรียกเสิ่นเสวียนว่าลุง เสิ่นเสวียนทำไมจึงเชื่อมั่นนางขนาดนี้""ข้าเองก็ไม่เข้าใจ เพราะอะไรอ๋องเจวี้ยนเองก็ต้องแจ้นไปไกลถึงต้าชื่อ ข้อมูลที่สำรวจมาทั้งหมดบนนั้น หลังจากเขาไปที่ต้าชื่อก็เจอกับฟู่จาวหนิง ไม่ได้ไปพบกับจักรพรรดิต้าชื่อเลย ไม่ได้เข้าวังจักรพรรดิต้าชื่อ กระทั่งว่า เขายังปฏิเสธองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นด้วย""ข้าคิดจุด
ฟู่จาวเฟยเองก็โมโหกราดเกรี้ยว "พวกเขาคิดอะไรอยู่น่ะ! พี่เขยอ๋องเจวี้ยนของข้าก็รักพี่สาวข้าจะตาย แล้วจะไปมองพวกนางได้อย่างไรกัน? มีพี่สาวข้าที่เหมือนกับไข่มุกงามขนาดนั้นอยู่ พี่เขยข้าไม่มีทางชายตามองพวกนางหรอก!"ฟู่จาวเฟยถึงอย่างไรก็ยังเชื่อมั่นอย่างมากต่อตัวฟู่จาวหนิงพี่สาวข้าจะต้องครองใจอ๋องเจวี้ยนเอาไว้อย่างเต็มที่แน่นอน ไม่มีที่ว่างให้ผีเสื้อสักตัวลอดเข้าไปได้แน่ ไม่ต้องพูดถึงพวกหญิงสาวเลยถึงอย่างไรจักรพรรดิเจาพอเห็นข้อมูลเหล่านี้ก็ยังคิดไม่ออกเขายืนยันจุดนี้: ไม่ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะชอบอ๋องเจวี้ยนหรือไม่ เขาไม่มีทางให้พวกเขาได้แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กันเด็ดขาดแล้วก็ รออ๋องเจวี้ยนกลับมาก่อน เขาจะสั่งกักบริเวณอ๋องเจวี้ยนทันที!เพราะอ๋องเจวี้ยนโกหกต่อองค์จักรพรรดิ ออกจากเมืองหลวงโดยพลการ!"ไปตรวจสอบร่องรอยขององครักษ์เงามังกรต่อ ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนยังพาองครักษ์เงามังกรไปต้าชื่อ เช่นนั้นโทษของเขาก็หนักขึ้นไปอีก!"โกหกองค์จักรพรรดิ ออกจากเมืองหลวงโดยพลกาล พาองครักษ์เงามังกรที่คอยคุ้มครองจักรพรรดิคุ้มครองแคว้นไปยังเมืองหลวงต่างแคว้น สามกระทงนี้รวมด้วยกันก็เพียงพอที่จะมีความผิดแ
ต้าชื่อ เมืองจี้ต่งฮ่วนจือยังเชิญให้ฮูหยินเฉินจัดเตรียมงานเลี้ยงอาหารค่ำอีกครั้งครั้งที่แล้วพวกเขาไม่กล้ากินอย่างผ่อนคลาย เพราะองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วย บรรยากาาศไม่ถูกต้องเอามากๆ พวกเขาเกร็งกันไปหมดรู้สึกผิดต่อศิษย์น้องหญิงมากตอนนี้ศิษย์น้องหญิงเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่แล้ว น่ายินดีเสียจริง สำหรับพวกเราพันธมิตรโอสถใต้หล้าถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมาก คู่ควรที่จะเฉลิมฉลองเสียหน่อย"เพียงแต่ข้ารู้สึกว่า แม่นางฟู่เหมือนจะไม่ค่อยชอบข้า ให้ข้ามาช่วยแบบนี้ นางจะโกรธเอาไหม?" ฮูหยินเฉินกระวนกระวายหน่อยๆต่งฮ่วนจือพอได้ยินคำพูดของนางก็แปลกใจ "เป็นไปได้อย่างไร? ศิษย์น้องหญิงไม่เห็นพูดอะไรไม่ดีกับตัวเจ้าเลย เจ้าทำไมถึงคิดว่านางไม่ชอบเจ้าล่ะ?"เฉินฮ่าวจูเดินออกมาจากด้านใน สีหน้าเศร้าหมอง "ลุงต่ง ท่านแม่ แม่นางฟู่น่าจะไม่ชอบข้ามากกว่า""อ๋า?"ต่งฮ่วนจือคิดไม่ออก "เจ้าไปทำอะไรไว้หรือ?"พอได้ยินเขาถาม เฉินฮ่าวจูก็ชะงัก "ข้าไม่ได้ทำ!""เช่นนั้นศิษย์น้องหญิงทำไมถึงจะไม่ชอบเจ้า?"ต่งฮ่วนจูรู้สึกว่าพวกนางสองคนแปลกประหลาด ฟู่จาวหนิงยังไม่ได้พูดอะไรไม่ดีกับพวกนางแท้ๆ ไม่เอ่ยถึงด
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม
เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก
คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ
พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ