"ป้าหนิว ท่านพาคนป่วยที่อาการเบาลงแล้วพวกนั้นย้ายมาที่ห้องนี้ แล้วให้คนป่วยใหม่เข้ามา"ฟู่จาวหนิงชี้ไปที่ห้องที่นางพักอยู่ข้างๆ นี้ ตอนนี้มีแค่ห้องนี้แล้วที่ยังว่าง"อะไรนะ? ท่านจะให้พวกเขาเข้ามาอีกหรือ? แค่กๆๆ ไม่ได้นะ..."เฉินเซียงพอได้ยิน ก็คัดค้านทันที"ก่อนหน้านี้คุยกันไว้ดีแล้ว ว่าจะไม่ให้คนพวกนี้เข้ามา ตอนนี้ทำไมถึงกลับคำ...""ใครคุยไว้ดีแล้วกับเจ้ากัน?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยเสียงเย็นชาขึ้นมา ไม่สนใจนางคนป่วยห้าคนนั้นถูกส่งตัวเข้ามา ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่กับการจัดพวกเขา แล้วต้องไปรักษาพวกเขาอีกฟู่จิ้นเชินเองก็รีบเข้ามาช่วยเฉินเซียงโมโหจนทนไม่ไหว ปิดประตูดังปัง เข้าไปฟ้องกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"องค์หญิงใหญ่ ฟู่จาวหนิงน่ารังเกียจนัก นางไม่ญาติดีกับท่านจริงๆ! ตามหลักการแล้ว ก่อนหน้านี้ท่านก็แค่คิดจะเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนที่ทัดเทียมกับนางแค่นนั้นเอง ไม่ได้คิดจะให้นางออกจากตำแหน่งเสียหน่ยอ ท่านเป็นถึงองคืหญิงใหญ่ก็ถือว่าลดตัวลงมาแล้ว แต่นางกลับทำตัวหยิ่งยโส?"ความอ่อนโยนขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเกือบจะถูกทำลายลงเพราะอาการป่วยนี่แล้วนางนอนอยู่บนเตียง ไอจนแทบไม่อาลัยอาวรณ์ในชีวิตอีก
เฉินเซ๊ยงเดินไปเดินมา กัดฟัน ทำความเคาระ "หมอเทวดาฟู่ แค่กๆ รบกวนท่านไปฝังเข็มให้พวกเราที...""ยุ่งอยู่ ตอนนี้ยังไปไม่ได้" ฟู่จาวหนิงไม่แม้แต่จะเงยหน้าเฉินเซียงขบฟันแน่น "เช่นนั้นพวกเราจะรอ ขอเชิญหมอเทวดาฟู่รีบมาด้วย!"องค์หญิงใหญ่อ่อนข้อให้แล้ว นางเองก็ทำได้แค่ก้มหัวต่ำรอจนนางออกไปแล้ว ป้าหนิวจึงเบ้ปาก "กว่าจะมากันได้?"วิชาแพทย์ของหมอฟู่นั้นยอดเยี่ยมมาก ถ้าไม่ใช่พวกนางรนหาที่ตายกัน ต่อให้อาจจะไม่ได้ดีขึ้นทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ต้องดีขึ้นบ้างตอนนี้องค์หญิงใหญ่นั่นแค่ลุกจากเตียงก็ยังไม่ได้ เฉินเซียงนี่ก็เหมือนจะเป็นลมแหล่ไม่เป็นลมแหล่อยู่แล้วร่างกายของตัวเองแท้ๆ ทำไมต้องมาทะเลาะกับหมอแบบนี้กัน?ฟู่จาวหนิงกว่าจะจัดการเสร็จ มานั่งพักใต้ต้นไม้กับฟู่จิ้นเชินด้านนอกฟู่จิ้นเชินยื่นน้ำให้นางแก้วหนึ่ง จากนั้นลุกไปยืนด้านหลังนาง "รังเกียจที่ข้าจะนวดไหล่ให้ไหม?"ไม่รอให้ฟู่จาวหนิงพูด มือของเขาก็วางอยู่บนบ่านางแล้ว ออกแรงกดนวดให้นางหลายวันนี้ ฟู่จาวหนิงเหนื่อยเกินไปแล้ว ทุกวันเหมือนสองมือไม่ใช่ของตนเอง บ่ากับคอก็เมื่อยไปหมด ตอนนี้มีคนมาเป็นห่วงตนเองแบบนี้ ช่วยนวดให้ซักหน่อย นางก็ร
ภรรยาอายุน้อยคนหนึ่งกำลังหอบฟืนเดินเข้ามา พอได้ยินเสียงไอของแม่สามี จึงรีบเดินเข้าไป"ท่านแม่ ไม่สบายตรงไหนหรือเลป่า ให้ข้าต้มแทนให้เถอะ""แค่ต้มข้าวต้มเอง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่กๆๆ"ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาพอเห็ฯนาง แม้จะรู้สึกพูดลำบาก แต่พอได้ยินนางไออีกครั้งก็ยังทนไม่ไหว"ท่านแม่ ใต้เท้าโหยวไม่ใช่บอกแล้วหรือ ว่าคนที่ไปช่วยแจกข้าวต้มไม่ให้กลับมาบ้านชั่วคราว? เพราะว่ากลัวผู้ประสบภัยพวกนั้นระบาดโรคใส่หรือเปล่า ก่อนหน้านี้ท่านก็ไปช่วยมานี่นา ถ้าอย่างนั้น..."หญิงสาวตัวแข็งไป "ไม่ ไม่หรอกกระมัง? เมื่อวานข้าไม่ได้ไป วันก่อนเลยกลับมา"เมื่อวานบอกว่าคนที่ไปช่วยอย่าเพิ่งกลับบ้านชั่วคราว ให้อยู่ที่ศูนย์พักพิงกันก่อนเมื่อวันก่อนตอนกลางคืนนางมีธุระพอดีจึงขอลากลับมา พอได้ยินข่าวก็เลยไม่ได้ไปอีกเมื่อวานยังมีข้าราชการเข้ามาถามอยู่เลย ว่านางมีตรงไหนไม่สบายบ้างไหม แต่เมื่อวานนังยังไม่เริ่มไป แค่รู้สึกตัวเย็นหน่อยๆ ตอนนั้นรู้สึกว่าน่าจะเหนื่อยเกินไป ไม่ได้นอนดีดี ไม่รู้สึกว่าตนเองป่วยเลยบอกไปว่าไม่มีผลคือวันนี้กลับเริ่มไอเสียแล้ว"ศูนย์พักพิงทางนั้นวันนี้พาคนไปแล้วหลายคน ครั้งนี้บอกว่
เป็นเจ้าโรคนั้นแล้วหรือ?"ฮูหยิน ท่านไม่สบายตรงไหน?""มีไข้ มึนหัว ตอนนี้ทั้งตัวไม่มีแรงแล้ว เอว เอวก็ปวด แล้วยังไออีก"ต่งฮ่วนจือพอได้ยินก็รู้สึกว่าแย่แล้วเหมือนอาการจะตรงกันหมดเลยตอนนี้เองอาเหอก็ออกมา พอเห็นหญิงสาว แม้นางจะสวมหน้ากากปิดจมูกอยู่ แต่เนื่องจากหลายวันนี้เขายุ่งอยู่กับการจัดแจงที่พั จึงจำนางได้"ป้าอาหลี่?""ข้า ข้าเอง""ผู้จัดการต่ง นาง นางคือคนในท้องถิ่นขอรับ" อาเหอบอกต่งฮ่วนจือสองคนสบตากัน สายตาเคร่งขรึมฟู่จาวหนิงบอกไว้ว่ากังวลเรื่องที่คนท้องถิ่นจะติดโรคระบาด นั่นอาจจะระบาดออกเป็นวงกว้างได้ ตอนนี้มีคนท้องถิ่นติดโรคแล้วจริงๆป้าหาหลี่เอ่ยขึ้น "แล้วก้ พวกเราในซอยนั้นยังมีตาเฒ๋าอู๋ที่อาศัยอยู่คนเดียวอีกคน เมื่อครู่ตอนที่ข้าเดินผ่านบ้านเขา ก็ได้ยินเสียงไออย่างรุนแรง ข้าไม่กล้าไปดู ไม่รู้ว่าต้องรายงานใต้เท้าโหยวไหม?""ซู๊ด"สถานการณ์แย่แล้วจริงๆ"ป้าอาหลี่ ท่านรอก่อน"อาเหอเข้าไปบอกคำหนึ่ง ให้คนถอยออกไปก่อน จากนั้นจึงให้ป้าอาหลี่เข้ามา เดินตามตนเองไปยังห้องข้างฝั่งตะวันตกที่ประตูวงกลม ฟู่จิ้นเชินตรวจดูนางให้ก่อน จากนั้นค่อยตะโกนเรียกฟู่จาวหนิงส่วนอาเห
ป้าหนิวคิดถึงครอบครัวตนเองที่ป่วยตายระหว่างทาง ก็ก้มหน้าลงปาดน้ำตาในใจนางเองก็เจ็บปวดมากในบ้านเหลือนางแค่คนเดียว ยิ่งไปกว่านั้นครอบครัวก็ล้วนป่วยตายกลางทางในจุดที่แตกต่างกัน กระทั่งไม่ได้จัดการฝังไว้ด้วยกันดีดี พอคิดแล้ว ก็เหมือนทั้งห้าคน ราวกับเป็นหลุมศพทิ้งร้างข้างทางห้าหลุมตอนนั้นนางไม่รู้จริงๆ ว่าโรคนี้จะระบาดได้รุนแรงขนาดนี้ คิดแค่ว่าครอบครัวพวกเขาเดิมทีก็อยู่ด้วยกัน ร่างกายก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ดังนั้นจะป่วยไปด้วยกันก็ไม่แปลกบ้านเกิดพวกเขาเองก็มีคนมากมายที่เป็นดรคหวัด ไม่กินไม่ดื่ม และไม่ได้รักษากินยา จนกระทั่งป่วยตายไปการป่วยตายสำหรับคนจนอย่างพวกเขาถือว่าเป็นเรื่องปกติ นางไม่ได้คิดอะไรมากขนาดนั้นตอนที่สามีนางตายบอกกับนางว่า ตายไปยังสู้มีชีวิตอยู่ไม่ได้ ต่อให้ในบ้านจะป่วยตายกัน เหลือนางแค่คนเดียวก็ยังต้องมีชีวิตต่อ หลังจากนี้จะได้ยังพอเผากระดาษให้ครอบครัวได้ด้วยประโยคนี้ ป้าหนิวจึงยืนหยัดต่อมาไม่เช่นนางนั้นคงตามคนในครอบครัวไปด้วยกันแล้ว"ป้าหนิว ท่านอย่าไปคิดมาก ท่านช่วงนี้ช่วยเหลือมามากมายแล้ว เป็นคนดีแน่นอน" ฟู่จาวหนิงตบลงบนบ่านาง"ขอบคุณมากหมอฟู่ ท่านมีงานอะไร
"พวกเราเองก็ไม่กล้าอยู่ต่อ จึงทำได้แค่รีบเดินทางต่อ" ป้าหนิวร้องไห้ออกมา "คงจะ คงจะไม่ได้ติดโรคมาตอนนั้นหรอกกระมัง?"ฟู่จาวหนิงกับฟู่จิ้นเชินสบตากันนี่มัน...เป็นไปได้มากเลย"ตอนที่พวกท่านพักที่นั่น ใช้อะไรของพวกเขาบ้าง?" นางถามขึ้นป้าหนิวหน้าซีด ไม่รู้ควรจะตอบอย่างไรไม่ต้องถามก็คือใช้ไปแน่นอนผ้าห่ม จานชาม"เพราะ เพราะพวกเขาโกรธที่พวกเราเข้าไปใช้ของพวกเขาหรือเปล่า ดังนั้นเลยสาปชีวิตครอบครัวเราแบบนี้..." ป้าหนิวนั่งทรุดลงกับพื้น ร้องไห้ขึ้นมานางร้องไห้ฟูมฟานจนตัวเขียวปัด"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยว เช่นนั้นก็ควรไปตรวจสอบหน่อย ว่ามีประชาชนจากหมู่บ้านหนิวโกวเข้ามาในเมืองเจ้อหรือเปล่า?""ให้คนไปตรวจแล้ว หมู่บ้านหนิวโกวนั้น ผู้ประสบภัยคนอื่นที่ผ่าน ก็เป็นไปได้ว่าจะเข้าหมู่บ้านไปพักกัน..."ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวยิ้มขืน "ตาเฒ่าอู๋เพื่อนบ้านป้าอาหลี่คนนั้นก็เข้าไปพักที่นั่นมาด้วย!""ข้าราชการที่ส่งจดหมายกลับมา ได้ถามสถานการณ์ตอนนี้ของหมู่บ้านหนิวโกวกหรือเปล่า? ตอนนี้มีผู้ประสบภัยคนอื่นป่วยไหม?""พวกเขาพอได้ยินเรื่องนี้ก็รีบถอยออกมาแล้ว รอจดหมายตอบกลับแล้วค่อยสืบต่อ"ข้าราชการพวกน
ต้องจ่ายเงินเองเพื่อซื้อวัตถุดิบยาจากโรงยาทงฝูจริงหรือ?"เช่นนั้นถ้าโรคนี้ระบาดออกมา คนป่วยยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ ล่ะ?" ต่งฮ่วนจือถามนั่นมันเป็นเงินก้อนโตมากเลยนะต่อให้จวนอ๋องเจวี้ยนก็เถอะ เงินของอ๋องเจวี้ยน จะหายไปจำนวนมากเลยทีเดียวเพราะพวกขเาไม่รู้ว่านับจากนี้จะมีคนป่วยมาอีกเรื่อยๆ หรือเปล่า ถ้าหากเพิ่มเป็นพันคนล่ะ?ถ้าหากระบาดไปถึงเมืองอื่นอีกล่ะ?"นอกจากวัตถุดิบยา ยังมีกำลังคนอีก ยังต้องสถานที่อยู่อาศัยอีก จะมาแออัดกันแบบนี้ไม่ได้ ตอนที่ล้วป่วย ยังต้องมีคนคอยดูแลพวกเขา ศิษย์น้องหญิง ตอนที่เจ้ารักษาพวกเขายังต้องฝังเข็ม แต่ที่นี่มีเจ้าแค่คนเดียวที่เป็น..."ต่งฮ่วนจือยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่า หากยังดูแลต่อไป ฟู่จาวหนิงได้ตายก่อนแน่นางคนเดียว จะดูแลคนป่วยมากขนาดนั้นได้ยังไงกัน?"ศิษย์น้องหญิง ถ้าหากเจ้ายังทนต่อไป ต่อให้ไม่มมีโรคระบาด เจ้าก็จะล้มเอานะ"สืออีเองก็ตาแดงก่ำฟู่จาวหนิงเงียบไปพักหนึ่ง ตอบว่า "ใต้เท้าอันไประดมพลหมอกับวัตถุดิบยาจากที่อื่นแล้ว""พวกเรารู้ ใต้เท้าอันเป็นผู้ตรวจการคนหนึ่ง ตำแหน่งข้าราชการเขาไม่ได้ใหญ่โตขนาดนี้จะสั่งการผู้บริหารท้องถิ่นในสถานที่ต่างๆ เพื
"หมอฟู่ช่วยด้วย!"ข้าราชการหลายคนรีบแบกคนวิ่งเข้ามาพวกเขาล้วนรีบร้อนลนลาน คนที่ป่วยคือสหายของพวกเขา ดูแล้วน่ากลัวมาก นิ้วมือเองก็ม่วงหงิกงอไปแล้ว กระตุกไปทั้งตัวเพราะคนข้างกายจะตายอยู่แล้ว จึงทำให้พวกเขารีบจนลืมที่จะเลี่ยงออก"ท่านพ่อ เอาเข็มเงินให้ข้า!"ฟู่จาวหนิงลืมไปในพริบตาว่าตนเองอ่อนล้า ให้พวกเขาแบกคนเข้ามา วางไว้ในเรือน จากนั้นให้พวกเขาถอยออกไปให้หมดส่วนตนเองก็รีบเข้ามาช่วงเหลืออย่างเร่งด่วนข้าราชการคนนี้ดูแล้วอายุยังน้อย แต่ตอนนี้หน้ากับมือม่วงไปแล้วฟู่จิ้นเชินรีบเอากล่องยาของนางออกมา ฟู่จาวหนิงฝังเข็มอย่างรวดเร็วไม่รู้ว่าตอนไหน เฉินเซียงประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยืนอยู่ตรงประตูห้องข้างนั้นมองเข้ามาเฉินเซียงพอเห็นสภาพของข้าราชการคนนั้น สีหน้าก็ขาวซีดไปนางจับแขนขององค์หญิงใหญ่ไว้แน่นด้วยสัญชาตญาณ"องค์หญิงใหญ่ เขา เขาจะตายไหม...""แค่กๆๆ น่า น่าจะรักษาได้กระมัง?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็มองการรักษาของฟู่จาวหนิงอย่างตึงเครียดพวกเขาแค่เห็นครั้งแรกก็รู้สึกกลัวขนาดนี้แล้ว ก่อนหน้านี้แค่รู้สึกว่าไอจนรู้สึกแย่เท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่าคนจะตายคนทั้งหมดล้วนจ้องมองเ
คิดไม่ถึงว่าตรงนี้ยังมีเรื่องของนางอยู่ด้วย?"ข้าน้อยพบว่า สินค้ามากมายของนายท่านเจี๋ยเป็นของที่ฮูหยินอู๋คนนั้นให้มา ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านเจี๋ยก็ยังฟังคำพูดฮูหยินอู๋มากด้วย ฮูหยินเฉิงคิดว่านายท่านเจี๋ยชอบนางมากจริงๆ แต่อันที่จริงคนที่นายท่านเจี๋ยชอบคือฮูหยินอู๋"เซียวหลันยวนขมวดคิ้วพูดไปพูดมาก็ยังวกอยู่กับความรักของคนสามคนนั้น? สับสนยุ่งเหยิงไปหมดแต่เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่าคนผู้นี้พอพูดถึงฮูหยินอู๋แล้ว เรือ่งก็น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงระงับความรำคาญแล้วฟังต่อไป"นายท่านเจี๋ยมาที่เมืองจื่อซวี เป็นคำสั่งของฮูหยินอู๋ และที่นายท่านเจี่ยเลือกฮูหยินเฉิง ก็เป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย นายท่านเจี่ยให้ข้าไปคัดคน ให้พวกเขาขึ้นยอดเขาโยวชิงหาตัวพระชายามารักษาโรค น้ำเสียงที่บอกกับข้ามาตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย"ฟังถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็หน้าขรึมลง"ดังนั้น นี่เป็นคำสั่งของตระกูลอู๋รึ?""เรียนท่านอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่กล้ายืนยัน พูดได้แค่ว่าข้าน้อยได้ยินมาคือแบบนี้ ไม่กล้าปิดบังท่านอ๋อง เพื่อไม่ให้ท่านอ๋องตรวจสอบผิดทิศทาง""ให้เงินประชาชนพวกนั้นไปเท่าไร?""
พอได้ยินว่าหวดแส้ห้าสิบที แล้วยังสาดน้ำเกลืออีก คนติดตามคนนั้นก็พับยวบลงไป"อ๋องเจวี้ยนโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!""ตี" เซียวหลันยวนไม่มีปราณี พอเห็นว่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไรก็คิดจะตีลงมาฟาดแสห้าสิบที ชีวิตคงไม่เหลือแน่ๆ"ข้าบอกข้าบอกแล้ว!" คนติดตามตกใจจนน้ำหูน้ำตาไหลชิงอีเห็นเขาก็ร้องหึในลำคอ"ขี้ขลาดแบบนี้ ยังกล้าคิดจะวางแผนทำร้ายพระชายาเราอีก?"ยังคิดว่าจะแข็งกร้าวหน่อย ที่แท้ก็แค่นี้เอง?"ข้าน้อยแต่ก่อนเคยอยู่ที่เมืองหลวงจริงขอรับ เป็นญาติบ้านฝ่ายหญิงฮูหยินรองแห่งจวนตระกูลซ่งในเมืองหลวง"จวนตระกูลซ่ง ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยายังเป็นท่านหญิง จวนตระกูลซ่งทุกวันก็เต็มไปด้วยรถม้าสัญจรไปมา เป็นตระกูลที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูซ่งอวิ๋นเหยาคิดจะทำร้ายฟู่จาวหนิง นางกับตระกูลซ่งถูกเซียวหลันยวนถอนรากถอนโคน ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่มีจวนตระกูลซ่งอยู่อีกแล้วเซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีคนที่เกี่ยวข้องไปถึงจวนตระกูลซ่งอยู่ด้วย"หลังจากจวนตระกูลซ่งเกิดเรื่อง ครอบครัวของเราเองก็ล้วนหดหัวใช้ชีวิตกัน พวกเพื่อนๆที่เคยเรียกกันเป็นพี่น้องของข้าก็ทอดทิ้งข้าไม่สนใจข้า ร้านรวงที่เกี่ยวข้องกับจว
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งที่พวกนางก่อนหน้านี้ทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนั้นแท้ๆ และรู้ว่าหล่อนต้องไม่ชอบนางแน่ แต่ก็ยังวิ่งแจ้นมาโผล่ตรงหน้าเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อยในเมื่อกระทั่งเซียวหลันยวนก็ยังปล่อยวางแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะอยู่ห่างจากนางหน่อยถึงจะถูก"นี่ท่าน...""หลบไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงผลักนางออกไปข้างๆ เดินผ่านข้างตัวนางไป"ฟู่จาวหนิง!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดจะยื่นมือไปดึงนาง แต่เสี่ยวเยว่ก็เข้ามาขวางแทนฟู่จาวหนิงแล้ว "องค์หญิงใหญ่โปรดสำรวมด้วย"อย่าเอาแต่พัวพันกับคุณหนูของพวกเขาให้ตายสิ แค่เพื่ออ๋องเจวี้ยนคนเดียว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพัวพันคุณหนูของพวกนางนานเกินไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้แค่มองฟู่จาวหนิงเดินจากไปนางกัดฟัน เต็มไปด้วยความจนใจและผิดหวังเซียวหลันยวนลงเขาไป เพียงไม่นานก็ตรวจสอบจนเจอคนที่ยุยงคนเหล่านั้นให้ขึ้นไปหาฟู่จาวหนิงบนยอดเขาโยวชิงแม้จะไม่ใช่ฮูหยินเฉิง แต่ก็เกี่ยวข้องกับฮูหยินเฉิงอยู่ระดับหนึ่งหลังจากเจ้าอุทยานเฉินตายไป มีพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่งนำขบวนพ่อค้าผ่านเมืองจื่อซวี ตนเองก็คิดไม่ถึงว่า จะสามารถทำกำไรอย่างมา
"แต่ที่ข้าเห็นในการทำนายดารา ถ้าหากข้ายังอยู่กับอ๋องเจวี้ยน สุด้ายข้าก็ถูกท่านฆ่าตายอยู่ดี! ท่านรู้ไหมว่าทำไมท่านถึงมาฆ่าข้า? เพราะท่านกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันตลอด หลังจากนี้ก็จะเจอความยากลำบากครั้งใหญ่ด้วยกัน เรื่องเหล่านั้นจะกดดันตัวท่าน ทำให้ท่านพังทลาย ตอนนั้นท่านก็บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เอาแต่จะเกาะเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวทั้งหมดที่เข้าใกล้อ๋องเจวี้ยน ท่านล้วนเกลียดชัง ล้วนคิดจะฆ่าทิ้งให้หมด!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลัวฟู่จาวหนิงไม่ฟัง ดังนั้นจึงพูดออกมาอย่างรวดเร็วและร้อนรนนางยื่นมือจะจับแขนฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกฟู่จาวหนิงเบี่ยงออก"จริงนะ แม้ข้าจะถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้ว แต่สุดท้ายสภาพเจ้าแบบนั้นก็น่ากลัวมาก! เจ้าเปลี่ยนไปหมด เหมือนนางปีศาจไม่มีผิด ไม่ใช่หมอเทวดาที่ผู้คนยกย่องอีกแล้ว ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ล้วนเป็นหญิงสาว ท่านเองก็ยังเคยรักษาโรคของข้ามาแล้ว ข้าไม่อยากเห็นท่านกลายเป็นแบบนั้นในตอนท้ายเลยจริงๆ!""ถึงตอนนั้น อ๋องเจวี้ยนก็จะรังเกียจท่าน ไม่ดีกับท่านอีกแล้ว สุดท้ายพวกท่านก็จะเกลียดชังกัน ข้าไม่เห็นว่าตอนสุดท้ายพวกท่านเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายท่านก็สู้เขาไม่ได
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม