ห่าวเย่วเล่อ ภรรยาผู้ไม่เป็นที่รักของสามี นางยอมเป็นสตรีบรรณาการเพื่อแลกกับความอยู่รอดของชนเผ่าห่าวอู๋ แม้ตัวตายหรือถูกทำร้ายจิตใจเพียงใด นางก็ยอม!!
View Moreบทที่ 1
เจ้าสาวแห่งเผ่าห่าวอู๋
หิมะสีขาวพิสุทธิ์โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย มีบางส่วนตกลงมาบนเกี้ยวเจ้าสาวที่ตกแต่งด้วยผ้ามงคลสีแดงสด แม้จะมีหิมะตกลงมาไม่หยุดหย่อน จนพื้นดินกลายสีขาวโพลนที่เต็มไปด้วยหิมะ แต่ก็มิอาจจะหยุดงานรื่นเริงมงคลแห่งแดนเหนือได้
เกี้ยวเจ้าสาวแปดคนหามกำลังมุ่งหน้าไปยังจวนเจียวหย่งโหวแห่งแดนเหนือ ตลอดสองฝั่งถนนมีผู้คนในเมืองเจียวออกมายืนดูเกี้ยวเจ้าสาวกันอย่างเนืองแน่น
ข่าวว่าเจ้าสาวคือบุตรีของหัวหน้าเผ่าห่าวอู๋ที่อยู่เหนือขึ้นไปจากเมืองเจียว เพราะเผ่าห่าวอู๋ประสบปัญหาขาดแคลนเสบียงเนื่องจากภัยหนาว และจากการรุกรานของชนเผ่าทุ่งหญ้า ทำให้หัวหน้าเผ่าตัดสินใจมอบบุตรีที่รักยิ่งมาเป็นบรรณาการให้แก่ฮ่องเต้แคว้นเป่ย เพื่อแลกกับความคุ้มครองและเสบียงอาหาร
ฮ่องเต้ทรงเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะลดทอนอำนาจของแดนเหนือ จึงพระราชทานงานมงคลสมรสให้แก่ ‘เย่เจียวหั่ว’ ผู้ปกครองแดนเหนือ โดยเจ้าสาวคือสตรีที่ได้รับบรรณาการจากเผ่าห่าวอู๋
ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่นักมุ่งหน้าสู่จวนเจียวหย่งโหว ด้านข้างมีขันทีหนุ่มผู้เป็นมือขวาของขันทีผู้รับใช้ฮ่องเต้ สายตาของเขากวาดตามองทุกอย่างโดยรอบ ตัวเขาถูกส่งตัวมาเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของงานมงคล และเพื่อจะแน่ใจว่าทางแดนเหนือจะไม่บิดพลิ้ว เขาจึงต้องมาดูด้วยตาตัวเอง
เกี้ยวเจ้าสาวสีแดงถูกวางอยู่ด้านหน้าจวนเจียวหย่งโหว บุรุษในอาภรณ์สีแดงยืนหน้านิ่งอยู่ด้านหน้า ทางด้านหลังของเขามีแขกเหรื่อที่เมียงมองกันดูหน้าเจ้าสาว
มือขาวผ่องที่โผล่พ้นชายอาภรณ์สีแดงยื่นออกมาจากตัวเกี้ยว เย่เจียวหั่วจึงเดินเข้าไปรับนางด้วยสีหน้าที่ดูบึ้งตึง ทันทีที่สัมผัสกับมือเล็ก คิ้วเข้มพลันขมวดมุ่น มือคู่นี้แม้จะขาวผ่องแต่ความรู้สึกที่หยาบกระด้างเล็กน้อยนั้น ทำให้เขารู้ว่าข่าวลือที่ได้ยินมานั้นไม่เกินจริงเลย
เสียงเครื่องดนตรีประเภทเป่าดังสนั่นกึกก้องไปทั่วหน้าจวนโหว เมื่อเจ้าบ่าวประคองเจ้าสาวเข้ามาด้านใน ทั้งสองก็เข้าพิธีมงคล ตรงตำแหน่งฝ่ายญาติบุรุษคือหญิงวัยกลางคนผู้เป็นมารดาของท่านโหว นามของนางคือ ‘หลิวเถียน’
หลิวเถียนทอดมองหญิงสาวในชุดมงคลอย่างพิจารณา แววตาคมกริบจับจ้องร่างระหงไม่วางตาที่ ท่วงท่าการเดินดูสง่างามผิดแปลกจากสตรีในห้องหอ แผ่นหลังเล็กยืดตรงทระนงในตนเอง ในสายตาของนางมีความไม่พอใจอยู่เปี่ยมล้นด้วยนางผู้เป็นมารดาได้มองหาผู้เป็นสะใภ้ไว้อยู่แล้ว ช่างน่าเสียดายที่มีราชโองการสมรสมาเสียก่อน ภายในใจของหลิวเถียนจึงค่อนข้างจะไม่ชอบสะใภ้จากชนเผ่าห่าวอู๋นัก ยิ่งนึกถึงสตรีผู้หนึ่งของชนเผ่าห่าวอู๋ นางก็ยิ่งไม่พอใจ และแน่นอนว่าบุตรชายของนางจะต้องคิดเช่นเดียวกับนางเป็นแน่
สตรีจากเผ่าห่าวอู๋ย่อมไม่มีดีสักคน!!
คู่บ่าวสาวเดินเข้ามายังแท่นพิธี ผู้ใหญ่ฝั่งเจ้าบ่าวคือหลิวเถียนผู้เป็นมารดา ส่วนฝั่งเจ้าสาวเป็นขันทีผู้ที่ฮ่องเต้ส่งตัวมา เจ้าบ่าวเจ้าสาวมอบน้ำชาให้แก่ญาติผู้ใหญ่ทั้งสอง จากนั้นแม่สื่อก็กล่าวคำเพื่อให้ทั้งคู่โค้งคำนับตามลำดับพิธีการ
“หนึ่ง...คำนับฟ้าดิน
สอง...คำนับพ่อแม่
สาม...คำนับกันและกัน
ส่งตัวเข้าห้องหอ!!”
เมื่อพิธีการเสร็จสมบูรณ์ แม่สื่อก็มาพาตัวเจ้าสาวไปรอยังห้องหอที่ทางจวนโหวจัดเตรียมไว้ให้ ส่วนเจ้าบ่าวก็ร่ำสุรากับแขกเหรื่อที่ห้องโถงจัดงานเลี้ยง
ห่าวเย่วเล่อผู้เป็นเจ้าสาวถูกทิ้งไว้ในห้องหอเพียงลำพัง ฝ่ามือเล็กกำเข้าหากันแน่นด้วยความประหม่า ถึงภายนอกนางจะทำตัวเข้มแข็งและไม่รู้สึกรู้สา แต่ภายในใจก็อดจะหวั่นเกรงไม่ได้
เจ้าบ่าวของนางคือเทพสงครามแห่งแดนเหนือเลยนะ!
เมืองเจียวกับเผ่าห่าวอู๋อยู่ติดกัน มีเพียงภูเขาสูงที่ขวางกั้นเอาไว้เท่านั้น คนในเผ่าต่างร่ำลือถึงความโหดเหี้ยมของท่านโหวผู้เป็นแม่ทัพว่าเขาคือเทพสงครามกลับชาติมาเกิด ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนที่เกิดเหตุการณ์นองเลือดในครั้งนั้น
ฉายาเทพสงครามของเย่เจียวหั่วขจรขจายไปไกล เขาออกรบกรีธาทัพกวาดล้อมชนเผ่าโดยรอบทั้งหมด ทำให้แดนเหนือเหลือแค่สองชนเผ่าใหญ่ที่เขายังไม่สามารถตีแตกได้ และเพราะทั้งสองฝ่ายต่างเข้ามาสวามิภักดิ์ก่อน
เวลาล่วงเลยผ่านไปราวค่อนคืน เย่วเล่อจึงแน่ใจว่าเจ้าบ่าวคงจะชิงชังนางมากจึงไม่คิดอยากจะเข้าห้องหอ เช่นนี้ก็ดีนางจะได้ไม่ต้องทนฝืนใจตนเอง มือเล็กเปิดผ้าคลุมหน้าออกอย่างไม่ไยดี
ช่างน่าเสียดายที่เจ้าบ่าวไม่ได้มายลโฉมหญิงงาม ห่าวเย่วเล่อขึ้นชื่อว่าเป็นโฉมงามอันดับหนึ่งของเผ่า ด้วยใบหน้าเรียวยาวรูปไข่ ดวงตาหงส์ที่มองดูมีอำนาจแผ่ออกมา รับกับจมูกโด่งสวย และริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อ
ฝ่ามือขาวผ่องราวกับน้ำนมถอดเครื่องประดับที่แสนหนักอึ้งบนศีรษะออก มวยผมที่ถูกรวบเป็นอย่างดีถูกปล่อยสยายเต็มแผ่นหลังเล็ก กลุ่มผมสีดำเงางามทิ้งตัวลงคล้ายกับผ้าแพรไหม
ตอนพิเศษ 3ดวงจันทร์แห่งความสุขท่านหมอหญิงถูกพาตัวมายังจวนโหวโดยถูกองครักษ์เงาของเย่เจียวหั่วพาตัวมา ทันทีที่มาถึงนางก็รีบตรงเข้าไปยังห้องคลอด และตรวจเด็กในครรภ์ของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงด้วยท่าทางที่เจ็บปวด“หายใจเข้าลึก ๆ นะเจ้าคะ หากเจ็บมากไม่ต้องกลั้นนะเจ้าคะ เปล่งเสียงร้องออกมาได้เลยเจ้าค่ะ”“กรี๊ดดด!!”ทันทีที่ท่านหมอกล่าวเช่นนั้น ห่าวเยว่เล่อก็เปล่งเสียงกรีดร้องขึ้นมาทันที นางเจ็บที่ท้องมากราวกับร่างกายกำลังจะถูกดึงทึ้งอยู่ภายใน คราแรกนางก็พอยังทานทนไว้ แต่ตอนนี้มันเจ็บถี่ขึ้นมาเรื่อย ๆ และมีทีท่าว่าความเจ็บนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณเย่เจียวหั่วที่มาถึงยังหน้าห้องคลอด เมื่อได้ยินเสียงภรรยาร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส เขาก็ตรงปรี่จะเข้าไปยังภายในห้องคลอด ใบหน้าคมเข้มฉายชัดถึงความวิตกกังวล“ไม่ได้นะเจ้าคะ ท่านโหวเข้าไปไม่ได้เจ้าค่ะ”สาวใช้ที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องคลอดรีบเอ่ยห้าม“หลบไป! ข้าจะไปดูภรรยาของข้า” น้ำเสียงเฉียบขาดดังขึ้น จนสาวใช้นางนั้นรู้สึกตัวหดเล็กลงราวกับมดปลวก“อาหั่ว มาหาแม่”หลิวเถียนที่ได้ทราบข่าวว่าลูกสะใภ้จะคลอดแล้ว นางก็รีบมาที่นี่จนได้ทันเห็นท่าทางที
ตอนพิเศษ 2ความใส่ใจของสามี5 เดือนผ่านไป จวนเจียวหย่งโหวสตรีในอาภรณ์สีชมพูอ่อนกำลังนั่งเอนหลังอ่านหนังสือที่ศาลาไม้ โต๊ะไม้ตรงหน้ามีจานขนมดอกกุ้ยฮวา ขนมหนวดมังกร และน้ำส้มคั้นวางอยู่ด้านหน้าของสตรีผู้นี้ ในแต่ละวันคืนที่อยู่ในจวนโหว นางนั้นเริ่มเบื่อหน่ายนัก มีเพียงการอ่านหนังสือและนั่งกินขนมหวานกับน้ำส้มคั้น ที่สามารถเยียวยาหัวใจของสตรีที่ตั้งครรภ์เช่นนางได้ตั้งแต่ที่ทุกคนห้ามปรามไม่ให้ทำงาน ห่าวเยว่เล่อจึงทำได้เพียงออกคำสั่งเท่านั้น วันแรกที่ได้เห็นผลส้มลูกใหญ่รสหวานอมเปรี้ยว นางก็ให้นึกถึงน้ำส้มคั้น คิดได้ดังนั้นห่าวเยว่เล่อจึงขอให้แม่ครัวของจวนโหวทำน้ำส้มคั้นให้นางดื่ม วิธีการนั้นแสนง่าย เพียงแค่นำส้มไปล้างน้ำด้วยน้ำที่ผสมเกลือ พักให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นผ่าส้มออกเป็นสองซีก แล้วค่อย ๆ บีบส้มให้น้ำส้มไหลลงในแก้วกระเบื้องเคลือบที่สั่งทำพิเศษ ชิมรสให้ได้ที่หรือไม่ก็เติมเกลืออีกสักเล็กน้อย เพียงแค่นี้นางก็มีน้ำส้มคั้นดื่มทุกวันแล้วคราแรกผู้คนในจวนโหวล้วนแปลกใจกับการทำเช่นนี้ เพราะเดิมทีพวกเขาจะเพียงแค่แกะเปลือกและกินผลส้มที่อยู่ข้างใน ยังไม่เคยมีผู้ใดนำส้มมาคั้นออกมาเป็นน้ำเลย แม่ครัว
ตอนพิเศษ 1ข้ารักนางเช่นนั้นหรือในยามที่ค่ำคืนอันเงียบสงัดนั้น เย่เจียวหั่วได้ขอเข้าพบหลิวเถียนในยามวิกาล สตรีในวัยกลางคนแปลกใจกับการมาของบุตรชายนัก หรือว่าเขาจะมีเรื่องสำคัญกันนะหลิวเถียนให้บุตรชายเข้ามาพบยังห้องนอนชั้นใน ตัวนางนั่งรออยู่ตรงเก้าอี้ไม้เนื้อหอมด้วยท่าทางสงบ แววตาคมกริบที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากจ้องมองบุตรชายไม่วางตา“อาหั่วมีสิ่งใดหรือถึงมาหาแม่ดึกดื่นเช่นนี้”เย่เจียวหั่วคารวะผู้เป็นมารดา ก่อนจะนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ใบหน้าของเขาดูเคร่งเครียดนัก นั่นยิ่งทำให้หลิวเถียนตื่นตัวมากยิ่งขึ้น“ลูกแค่อยากมาพูดคุยกับท่านแม่ให้ชัดเจนขอรับ ลูกอยากให้ท่านแม่เลิกจับคู่ลูกกับหนิงอันเสียที ลูกมองนางอย่างน้องสาวเพียงคนหนึ่งเท่านั้น มิเคยคิดจะรับนางเป็นภรรยาเลย”หลิวเถียนขมวดคิ้วแน่น ความไม่พอใจฉายชัดเต็มใบหน้าของหญิงสูงวัย“เจ้าหลงเสน่ห์สตรีเผ่าห่าวอู๋เช่นนั้นหรือ เจ้าจึงเมินเฉยอันเอ๋อร์ของแม่เช่นนี้” น้ำเสียงเฉียบขาดดังขึ้นด้วยความขุ่นเคืองใจ“ถึงไม่มีเยว่เล่อ ข้าก็ไม่คิดจะรับนางเป็นภรรยาอยู่แล้ว ท่านแม่ไม่คิดหรือขอรับว่าที่ท่านแม่เปิดโอกาสให้ข้ากับนางใกล้ชิดกันมานานหลายปี แต่ข้าก
ท่านหมอชราที่อยู่หน้าห้องเดินเข้ามาด้วยใบหน้าสงบ เขาทำความเคารพทั้งคู่ก่อนจะขออนุญาตห่าวเย่วเล่อ นางยื่นแขนให้แก่ท่านหมอชรา ผืนผ้าขาวบางสีขาวถูกนำมาวางที่ข้อมือหมอชราจับจุดชีพจรของหญิงสาว เวลาผ่านไปครู่สีหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้น เขาทดลองจับชีพจรของห่าวเย่วเล่ออยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยถามอาการต่าง ๆ ซึ่งนางก็เอ่ยตอบอย่างตรงไปตรงมา“ฤดูของฮูหยินมาหรือยังขอรับ”แค่ประโยคนี้ของท่านหมอหลุดออกมา ห่าวเย่วเล่อก็มั่นใจเต็มสิบส่วน นางเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นระริก “ยังไม่มาเจ้าค่ะ น่าจะสักสองเดือนได้แล้ว”ฝ่ามือเล็กยกขึ้นมาลูบที่หน้าท้องแบนราบของตนเองด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็วหมอชราคลี่ยิ้มอย่างยินดี ใบหน้าที่มีรอยเหี่ยวย่นหันมาเอ่ยกับเย่เจียวหั่ว“ยินดีด้วยขอรับ ฮูหยินน้อยตั้งครรภ์ได้ราว ๆ สองเดือนแล้วขอรับ”เย่เจียวหั่วหูอื้อตาลาย “วะ ว่าอย่างไรนะ” น้ำเสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามตะกุกตะกัก“ท่านโหวกลายเป็นพ่อคนแล้วขอรับ ยินดีด้วยขอรับ” หมอชราคลี่ยิ้มเย่เจียวหั่วตรงเข้ามาจับมือหมอชราด้วยความดีใจ “ท่านหมอแน่ใจใช่หรือไม่ ไม่ได้ตรวจผิดพลาดใช่หรือไม่”“ข้าเป็นหมอมานานกว่า 40 ปี ย่อมไม่วันตรวจผิดพลาดอย่างแน
บทส่งท้ายหงเซ่อพยายามจะหนีไปทางช่องทางลับ แต่ถูกหลี่เฉินเจาตามมาจับกุมตัวไว้ได้ทัน เขาไม่ใช่เพียงแค่กุนซือหนุ่มที่เฉลียวฉลาด แต่ฝีมือดาบและวรยุทธ์ของเขาเองก็เป็นเลิศไม่แพ้สหายเช่นเดียวกันการรบกับเผ่าทุ่งหญ้ากินเวลาไปราวหนึ่งชั่วยาม สุดท้ายก็สามารถจับกุมตัวหงเซ่อ หัวหน้าของชนเผ่าทุ่งหญ้าได้สำเร็จ ทหารของเผ่าทุ่งหญ้ายอมทิ้งอาวุธ ก้มหัวจำนนให้กับเย่เจียวหั่วแต่โดยดีทางฝ่ายทหารของเมืองเจียวนั้นได้รับบาดเจ็บกันเล็กน้อย ไม่มีผู้ใดต้องพลีชีพในสงครามครั้งนี้ ความวุ่นวายของสงครามกับเผ่าทุ่งหญ้าจึงได้จบลงหงเซ่อถูกตัดสินให้ประหารชีวิต แต่เพราะความเลวทรามที่เขาได้ทำไว้ เย่เจียวหั่วจึงได้มอบความตายอันน่าสะพรึงกลัวให้แก่เขาตัวอ่อนหนอนไหมพิษถูกป้อนใส่ปากให้กับหงเซ่อที่ถูกคุมขังในคุก เย่เจียวหั่วหยดเลือดไก่ให้นางพญาหนอนไหมพิษ มันดูดกลืนหยดเลือดด้วยความหิวกระหายเวลาผ่านไปราวสามชั่วลมหายใจ หงเซ่อก็พลันร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บปวด“อ๊ากกกก! ช่วยด้วย เอามันออกไป ฆ่าข้า ฆ่าข้าเดี๋ยวนี้เลย”หงเซ่อดิ้นพล่านราวกับถูกน้ำร้อนลวก เขาจับกุมท้องของตนด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวด ใบหน้าที่เคยทระนงพลันซีดเผ
นี่คือแผนที่ลับของชนเผ่าทุ่งหญ้า เหตุใดจึงไปอยู่ในมือของเย่เจียวหั่วได้“แผนที่นี้คือค่ายกลลับของเผ่าเจ้ามิใช่หรือ แต่ข้ากลับพบในห้องนอนของอนุท่านพ่อ นี่คงจะเป็นหลักฐานแล้วว่านางคือคนของเผ่าทุ่งหญ้า หาใช่เผ่าห่าวอู๋ที่นางเคยแอบอ้างไม่” เขาเอ่ยเสียงกร้าว “ข้าเองก็หลงผิดไปนาน คิดว่านี่คือแผนที่ของเผ่าห่าวอู๋ แต่ที่แท้คือเผ่าทุ่งหญ้าต่างหาก นับว่านางยังฉลาดจึงแอบซ่อนตัวตนของนางเอาไว้จนข้าไปพบเข้า”“บัดซบ นังโง่”หงเซ่อกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ“ข้าไม่อยากจะเสวนากับคนขลาดเช่นเจ้า จงมอบตัวซะ แล้วข้าจะปล่อยคนของเจ้าไปแต่โดยดี”“ไม่มีวัน! ข้าไม่ผิด เป็นพวกเจ้าที่รังแกข้า”หงเซ่อยังไม่ยอมจำนน ซึ่งนี่ก็เป็นความต้องการของเย่เจียวหั่วพอดี“ทหารกล้าแห่งเมืองเจียวจงฟัง! เผ่าทุ่งหญ้าสมคบคิดกับหลิวห่าวรัน สังหารอดีตท่านโหว ลอบสังหารฮูหยินท่านโหว นี่คือการก่อกบฏ ผู้ใดที่สามารถตัดศีรษะของหงเซ่อได้ มารับรางวัลจากข้า!!”“ฆ่าหงเซ่อ ฆ่าหงเซ่อ ฆ่าหงเซ่อ”ตึง ตึง ตึง!!ทหารด้านหลังส่งเสียงโห่ร้องด้วยความฮึกเหิม กลองศึกของฝั่งเมืองเจียวตีสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณสัญญาณแห่งสงครามได้เริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้!เย่เ
Comments