Share

อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส
อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส
Author: จุ้ยหลิงซู

บทที่ 1

Author: จุ้ยหลิงซู
ณ เมืองหลวง แคว้นเจา

บนถนนที่คึกคักหญิงสาวที่สวมชุดงดงามนางหนึ่งกำลังนำทหารหลายคนของนางไปดักขบวนแห่เจ้าสาวขบวนหนึ่งอย่างดุดัน

“หลีกไป นี่คือคุณหนูใหญ่จากตระกูลของหมอเทวดาหลี่ หากว่าพวกเจ้าทำให้คุณหนูไม่พอใจระวังจะเดือดร้อน!” ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนต่างพากันรีบหลีกทางให้ในทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลง เหล่าชาวเมืองมองไปที่ขบวนแห่เจ้าสาวที่ถูกตกแต่งด้วยความรู้สึกเห็นใจ “นี่เจ้าสาวจากตระกูลไหนกันเนี่ย? ไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ขัดใจกัน?”

“เจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทเซียวกับคุณหนูตระกูลฟู่ คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวนั่นก็ต้องเป็นคุณหนูฟู่นั่นแหละ”

โครม เกี้ยวเจ้าสาวถูกทหารของตระกูลหลี่ใช้กำลังบังคับให้หยุดลง หลังจากที่เกี้ยวเจ้าสาวเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียงตุ๊บดังออกมา คล้ายจะเป็นเสียงของศีรษะที่กระแทกอะไรสักอย่าง

“ไปเอาตัวฟู่จาวหนิงมา! แล้วก็ไปถอดชุดเจ้าสาวของนางทิ้งซะ!”

คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ชี้นิ้วไปยังเกี้ยวเจ้าสาวก่อนจะสั่งออกมาอย่างวางอำนาจ ทันใดนั้นทหารรับใช้ก็วิ่งไปแล้วยื่นมือไปเปิดม่านบังเกี้ยวเจ้าสาวทันที

ยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีที่ยืนอยู่ด้านข้างรีบเข้ามาห้าม “ไม่ได้นะ! เจ้าสาวจะลงจากเกี้ยวกลางทางได้อย่างไร? มันเป็นอัปมงคล จะเป็นที่รังเกียจของตระกูลเจ้าบ่าวด้วย”

ชาวเมืองที่ดูสถานการณ์อยู่รอบข้างเองก็พากันตกใจ คิดไม่ถึงว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่จะมีคำสั่งให้เอาตัวเจ้าสาวลงจากเกี้ยวกลางถนนเช่นนี้ แถมยังจะสั่งให้ถอดชุดเจ้าสาวทิ้งอีกด้วย?

“ใครกล้ามาขวาง ก็เท่ากับเป็นอริกับพ่อข้า! หากว่าต่อไปพวกเจ้าเจ็บป่วยไม่สบาย ก็ไม่ต้องมารักษากับพ่อข้า! แค่พ่อข้าสั่งคำเดียว ร้านยาทั่วเมืองหลวงก็จะไม่มีใครกล้าขายยาให้พวกเจ้าแล้ว! ท่านพี่เซียวไม่ได้อยากแต่งกับฟู่จาวหนิงอยู่แล้ว แต่นังแพศยาคนนี้หน้าด้าน ใช้เล่ห์เหลี่ยมมาบีบบังคับให้ท่านพี่ต้องแต่งด้วย! พวกเจ้ายังจะยืนนิ่งอยู่ทำไม? รีบไปถอดชุดเจ้าสาวของนางซะ!”

ยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีถูกถีบออกไปให้พ้นทาง พวกทหารพากันเปิดม่านดึงเอาตัวเจ้าสาวชุดสีแดง ที่ยังคงคลุมหน้าด้วยผ้าคลุมสีแดงผืนเล็กออกมา แล้วก็ทำการถอดชุดเจ้าสาวของนางออกตามคำสั่ง

“นะ นี่มันเกินไปแล้ว ถูกถอดชุดขนาดนี้แล้วคุณหนูฟู่จะอยู่ต่อไปได้อย่างไร...” พวกชาวเมืองต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่ได้เห็นตรงหน้า

แต่ก็มีบางคนที่เบิกตาโตแล้วชะเง้อคอมองไปทางเจ้าสาว

“รีบดูเร็วๆ ดูสิว่าเรือนร่างคุณหนูตระกูลฟู่จะขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะสักเพียงไร!”

“แน่นอนว่าต้องขาวผุดผ่องราวหิหะแรกตกน่ะสิ!”

พวกนักเลงที่มาดูเหตุการณ์ต่างพากันพูดจาแทะโลมอย่างสนุกปาก

เหล่าชาวเมืองที่มามุงดูเหตุการณ์ก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาถนนเส้นนี้ติดหนึบจนไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้

“พวกเจ้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้นะ คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ ได้โปรดละเว้นคุณหนูฟู่ด้วยเถิดเจ้าค่ะ หากว่าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป องค์รัชทายาทเองก็จะต้องอับอายไปด้วยนะเจ้าคะ...” ยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการนั่งตบเข่าบนพื้นอย่างคับข้องใจก่อนจะร้องไห้โวยวายออกมาไม่เป็นภาษา

“หากท่านถอดกระชากชุดแต่งงานไป คุณหนูฟู่ยังจะชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไรเจ้าคะ!!”

“แล้วพวกบ่าวรับใช้ที่มาส่งเจ้าสาวเล่า เหตุใดจึงหลบอยู่ไม่ยอมออกมาช่วยขัดขวาง?” ชาวเมืองบางคนพูดขึ้นอย่างสงสัย “ตระกูลฟู่ไม่มีคนมาส่งตัวเจ้าสาวเลยหรือ? คุณหนูตระกูลฟูไม่มีพี่เลี้ยงหรือสาวใช้เลยหรืออย่างไร?”

“แล้วเหตุใดตัวเจ้าสาวจึงไม่ขัดขืนต่อต้านบ้างเลยเล่า?”

บางคนที่ทนดูต่อไปไม่ได้ ก็รีบวิ่งไปที่จวนตระกูลเซียวเพื่อขอความช่วยเหลือ จากที่นี่ไปถึงจวนตระกูลเซียวก็อีกไม่ไกลแล้ว

“แคว๊ก” ชุดแต่งงานของเจ้าสาวถูกฉีกออกเป็นทางยาวอย่างหยาบคาย

จาวหนิงที่เพิ่งจะตื่นขึ้นมาก็รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังฉีกชุดของเธออยู่ ดวงตาคู่งามของเธอยังไม่ทันจะเปิดดี อารมณ์โมโหสุดขีดก็พุ่งปรี๊ดขึ้นมาซะก่อน เธอปล่อยหมัดออกไปยังอีกฝ่ายอย่างแรง จากนั้นก็ยกขา งอเข่าเตะไปที่อีกฝ่ายเต็มแรง

“พลั่ก!”

“โอ๊ย!!”

ทหารสองนายที่กำลังฉีกกระชากชุดแต่งงานของเธอ คนหนึ่งถูกเธอต่อยเข้าไปที่ดวงตา ส่วนอีกคนน่าสงสารกว่า ถูกเตะเข้าที่เป้ากางเกงอย่างจัง จนทำให้เขาหน้าเขียวจนคล้ำไปเลย

เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นราวกับเสียงฟ้าร้องก็ไม่ปาน

จาวหนิงดึงผ้าคลุมหน้าสีแดงลงไป นางใช้มือจับไปที่เกี้ยวเจ้าสาวเพื่อช่วยพยุงตัวให้ยืนขึ้น จากนั้นก็กวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างงงๆ

เธอจำได้ว่าตัวเธอเพิ่งจะทำการผ่าตัดให้กับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเสร็จ ใช้เวลาผ่าตัดไปทั้งหมดสิบสี่ชั่วโมง เมื่อเธอออกมาจากห้องผ่าตัดแล้วก็หลับไปทันที ไม่รู้ทำไมพอตื่นมาอีกทีเธอกลับกลายเป็นคุณหนูสามตระกลูฟู่ไปได้?

ภาพความทรงจำของฟู่จาวหนิงหลั่งไหลเข้ามาในสมองของเธออย่างรวดเร็ว ทำให้เธอรู้สึกเวียนหัวคล้ายจะหน้ามืด

“ฟู่จาวหนิง! นังแพศยาหน้าไม่อาย นี่แกกล้าขัดขืนอย่างนั้นเหรอ?”

คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่มุ่งหน้าเข้ามาหาเธออย่างมาดร้าย ในมือก็เหน็บเอาเข็มเล่มยาวๆ เอาไว้ หล่อนง้างมือขึ้นอยากจะปักเข็มเล่มยาวลงไปบนหัวของจาวหนิง

พ่อของนางเป็นหมอเทวดา แน่นอนว่าเรื่องการใช้เข็มนางก็พอจะเรียนรู้มาบ้าง หากนางปักเข็มเล่มนี้ได้สำเร็จ ก็จะทำให้ฟู่จาวหนิงหมดสติทันที แล้วเมื่อนางหมดสติไปก็ค่อยถอดชุดของเธอออก เอาให้เหลือแค่เสื้อซับในไปเลย!

“กรี๊ด!” ชาวบ้านที่มองดูอยู่บริเวณรอบๆ กรีดร้องเสียงดังออกมาเมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า

เข็มเล่มยาว สะท้อนแสงวับวาวจนจาวหนิงต้องหรี่ตา นางใช้กำปั้นต่อยไปยังกลางอกของคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่

จากนั้นจาวหนิงก็ควงหมันให้ดูไปอีกรอบ

“เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” จาวหนิงหัวคดเคี้ยวถามก่อนจะจ้องไปที่หน้าอกของคุณหนูหลี่ทีหนึ่ง

“อ๊ะ! เจ็บนะ! ฟู่ จาว หนิง นังแพศยา...” คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่รู้สึกเจ็บปวดมากจนหน้าตาบิดเบี้ยว มือที่ง้างอยู่นั้นก็ร่วงลงอย่างไม่มีแรง ถุงเก็บเข็มก็ตกลงไปบนพื้น นางเอาสองมือกอดไปที่อก จากนั้นก็ล้มลงตัวงอ

ฟู่จาวหนิงนางกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร! เหตุใดนางจึงไร้ยางอายได้ถึงเพียงนี้!

ชาวบ้านที่มุงดูเหตุการณ์ “...”

พวกเขาทุกคนล้วนตกตะลึงงัน

“ฟู่จาวหนิง!”

น้ำเสียงโมโหสุดขีดของผู้ชายดังขึ้น ชายหนุ่มผู้ซึ่งสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อดีรีบเดินตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นภาพตรงหน้าเขาก็ยิ่งโมโหจนแทบจะพ่นไฟออกมาได้ เขาจ้องไปที่จาวหนิงอย่างเอาเรื่อง

“เจ้าไม่มียางอายเลยหรืออย่างไร? ใครอนุญาตให้เจ้าปลดผ้าคลุมหน้าออกกัน? ยังไม่ทันได้เข้าพิธีแต่งงานเจ้าก็เปิดใบหน้าให้คนเห็นมากมายเช่นนี้ ลางไม่ดีชัดๆ เจ้ายังเห็นข้าอยู่ในสายตาอีกหรือไม่?”

เขามองไปยังชุดที่ถูกฉีกขาดของจาวหนิง ใบหน้าที่แดงก่ำอยู่แล้วก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท “ชุดแต่งงานขาดวิ่นขนาดนี้เจ้ายังจะมีหน้ามายืนอยู่ตรงนี้ได้อีก? จวนตระกูลเซียวของข้าต้องขายหน้าเพียงนี้ก็เพราะเจ้า! คนที่ไร้ยางอายเช่นเจ้ายังคิดที่จะแต่งเข้าตระกูลเซียวอีกงั้นหรือ?”

จาวหนิงหรี่ตาลงอย่างประเมินสถานการณ์

“โธ่ รัชทายาทเซียวเสด็จมาแล้ว หรือว่าเขาจะมาเพื่อยกเลิกงานแต่ง?”

“แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ต่อไปคุณหนูฟู่จะไปแต่งกันใครได้อีก?” ทั้งถูกหยามเกียรติ ถูดฉีกชุดแต่งงาน แถมยังถูกยกเลิกงานแต่งกลางตลาดเช่นนี้ ชื่อเสียงของคุณหนูฟู่คงจะป่นปี้ไปหมดแล้ว ต่อไปจะหาสามีดีๆ ได้อย่างไร?

“ท่านพี่เซียว” คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตามองไปที่รัชทายาทเซียว ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ฟู่จาวหนิงทำร้ายน้อง เจ็บไปหมดแล้วเพคะ...”

รัชทายาทเซียวรีบกอดเพื่อปลอบประโลมนางทันที “จื่อเหยา เจ้าเป็นอะไรไหม? ฟู่จาวหนิงทำร้ายเจ้าที่ตรงไหน?”

คำถามนี้แทบจะทำให้หลี่จื่อเหยาเกือบจะสิ้นใจ มันใช่ตำแหน่งที่จะพูดได้หรือไงเล่า?

“ฟู่จาวหนิง! จื่อเหยานางก็แค่ไม่พอใจที่เจ้าใช้วิธีสกปรกมาบีบให้ข้าแต่งกับเจ้า ก็เลยอยากจะระบายโทสะแทนข้าก็เท่านั้น ทำไมต้องทำร้ายนางด้วย? ข้าคิดไม่ถึงเลย ว่าเจ้านอกจากจะไม่มีสมอง ไม่มีเหตุผล เห็นแก่เงิน รักความสบายแล้ว เจ้ายังมีนิสัยชอบทำร้ายคนอื่นอีกด้วย!”

รัชทายาทเซียวพูดออกมาอย่างโมโห “ข้าไม่มีทางแต่งงานกับเจ้าเด็ดขาด เจ้ากลับไปได้แล้ว!”

“ฮ้า? ท่านพี่เซียวคะ แต่ว่าฟู่จาวหนิงถูกหามออกมาจากตระกูลฟู่แล้ว ตอนนี้ปู่ของนางก็ไม่สบายอยู่ หากว่าให้นางกลับไป แล้วผู้เฒ่าฟู่เกิดเสียใจรับไม่ได้จนสิ้นใจไปจะทำเช่นไรเพคะ?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
Chaleekorn
เพจมีปัญหามาก ล้อคอินทีไรแต้มหายตลอด เก็บเงินซ้ำซาก บทก้อซ้ำไปซ้ำมา ล่าสุด แสดงความคิดเห็นให้กดล๊อคอิน อ่านไปถึง บทที่700 กว่า กลับมาอีกทีโดนล๊อคหมดเลย
goodnovel comment avatar
Khattiya Ch
สนุกค่ะ ลุ้นเมื่อไหร่กน้าพระเอกจะหาย
goodnovel comment avatar
Wilaiwan Na
สนุกมากค่ะ น่าติดตาม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2

    สมองจาวหนิงผุดภาพร่างกายที่อ่อนแอของผู้เฒ่าฟู่ขึ้นมาฟู่จาวหนิงกับรัชทายาทเซียวเดิมทีมีการหมั้นหมายอยู่ สุขภาพผู้เฒ่าฟู่เองก็ย่ำแย่ลงทุกวัน ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือสามารถเห็นหลานสาวแต่งเข้าจวนตระกูลเซียวได้อย่างราบรื่น ได้มีที่พึ่งพิงในภายภาคหน้า แต่ตระกูลเซียวก็ไม่ยอมเอ่ยเรื่องงานมงคลเสียทีช่วงนี้อาการป่วยของผุ้เฒ่าฟู่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เขาเป็นลมหมดสติอยู่บ่อยครั้ง พอตื่นขึ้นมาก็จะคว้ามือของนางและกังวลเรื่องงานแต่ง ฟู่จาวหนิงก็ร้อนรน ดังนั้นแต่ละวันจึงเอาแต่เซ้าซี้รัชทายาทเซียว หลังถูกปฏิเสธมาหลายครั้ง นางจึงหยิบยกเอาคุณงามความดีที่บิดามารดาของนางเคยช่วยชีวิตองค์รัชทายาทไว้ออกมาให้องค์จักรพรรดิประทานจัดงานแต่งงานให้รัชทายาทเซียวก็ถูกบีบจนต้องจำใจยอมรับการแต่งงานกับฟู่จาวหนิงเซียวเหยียนจิ่งเองก็เป็นบุรุษรูปงามอันดับต้นๆ ในเมืองหลวงจริงๆ คิ้วกระบี่ดวงตาดอกท้อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเชิด รูปหน้ายอดเยี่ยม ร่างสูงโปร่ง เสื้อคลุมสักหลาดพอดีตัวดูสูงส่ง ขับเน้นร่างของเขาออกมาจนตัวดูเป็นคนแต่นิสัยเป็นสุนัขเสียอย่างนั้นไม่แปลกที่หลี่จื่อเหยาหลงใหลเขามาตลอดพอคิดถึงสถาน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 3

    เสียงโครมดังขึ้น เซียวเหยียนจิ่งรู้สึกว่าเลือดถูกต้มจนเดือดปุดขึ้นมาถึงกระหม่อม"ฟู่!จาว!หนิง!"เขากัดฟันเอ่ยชื่อฟู่จาวหนิงออกมาทีละคำๆนางกล้าดีอย่างไร จึงกล้ามาหยามหมิ่นเขาเช่นนี้?ชาวบ้านรอบๆ ก็ล้วนตาโตพูดไม่ออกกันหมด จากนั้นจึงมองพวกเขาทั้งสองและพยักหน้าเห็นด้วยแบบไม่รู้ตัว พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่คุณหนูฟู่พูดออกมานั้นถูกต้องเซียวเหยียนจิ่งจ้องนางอย่างเกลียดชัง "ฟู่จาวหนิง เจ้าอย่ามาเสียใจภายหลังแล้วกัน! ข้าตอนนี้จะคอยดู ว่าเจ้าจะไสหัวกลับไปอย่างไร! เจ้าอย่าลืมว่าปู่ของเจ้า ตอนนี้เขาก็เหมือนจะเหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วสินะ เจ้าเชื่อไหมว่าพอเจ้าเหยียบเข้าประตูจวนไปและเขารู้ว่าเจ้าถูกถอนหมั้น เขาคงขาดใจตายทันทีแน่?"ฟู่จาวหนิงจ้องเขาตาลุกโชนเซียวเหยียนจิ่งเจ้าผู้ชายขยะ ป่านนี้แล้วยังจะมาคุกคามนางอีก!แต่ฟู่จาวหนิงก็รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ผิดเลย ผู้เฒ่าฟู่เวลานี้คงทนรับเรื่องแรงๆ ไม่ไหวเซียวเหยียนจิ่งพอเห็นนางไม่โต้กลับ ก็หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมา "แล้วก็ที่เจ้าหยามหมิ่นรัชทายาทอย่างข้าวันนี้ ข้าจดจำไว้หมดแล้ว เจ้าอย่าได้หวังว่าจะหาสามีได้อีก"เขาจะคอยดูว่าตระกูลไหนจะก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 4

    "จวนอ๋องเซียว?"ชายหนุ่มในรถม้าพอลิ้มรสสามคำนี้ น้ำเสียงก็เปลี่ยนทันควัน "ไสหัวไปไกลๆ"เซียวเหยียนจิ่งตะลึงงันด้วยโทสะ รู้ถึงตัวตนฐานะเขาแล้ว แต่กลับยังไล่ให้เขาไสหัวไป?"ไม่ได้ยินที่ท่านอ๋องพูดหรือ?" ทหารตบลงที่หัวม้า ม้างามก็ยกเท้าหน้าขึ้นทันที ถีบพัดเซียวเหยียนจิ่งออกไปอย่างแรง"อ๊า!"เซียวเหยียนจิ่งถูกม้าถีบจนปลิว ตกกระแทกลงไปที่หน้าหลี่จื่อเหยาพอดี นางรีบร้อนเข้าไปประคองตัวเขา "พี่เซียว!"นางกระโจนตัวขึ้น ถลึงตาไปทางรถม้าด้วยความโกรธ "อ๋องเจวี้ยนอะไรกัน! คุณหนูอย่างข้าไม่เห็นจะเคยได้ยิน ขนาดพี่ชายองค์รัชทายาทก็ยังรักข้ายอมให้ข้ามาตลอด แล้วเจ้าสูงส่งกว่าท่านพี่องค์รัชทายาทหรือ? ข้าจะบอกเจ้านะ บิดาข้าคือหมอเทวดาหลี่!"ทหารที่เดิมทีชักกระบี่ออกมาแล้วพอได้ยินคำว่าหมอเทวดาหลี่ ท่าทางก็หยุดลงทันที เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิง ลังเลขึ้นมา"อ๋องเจวี้ยนจะเสียเวลาอีกไม่ได้ โทษของเจ้าคนโง่ที่ไม่เคารพต่อท่านอ๋อง ข้าจะสั่งสอนนางแทนท่านอ๋องเอง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงขรึม กระชากกระบี่ของทหารออกมา สาวเท้าขึ้นหน้าไปทางหลี่จื่อเหยา ชูกระบี่ แสงเย็นวาบ เสียงแควกดังขึ้น หลี่จื่อเหยารู้สึกหน้าอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 5

    แม่เฒ่าประคองมือของนาง ตื่นเต้นจนเสียงสั่นพร่าไปหมด"พระชายา ท่านเดินดีดีหน่อยสิ ไอ๊หยาท่านดูสิ พรมแดงก็ปูมาอยู่หน้าเกี้ยวเจ้าสาวแล้ว ที่ประตูยังมีขบวนสาวรับใช้อยู่อีก แต่งกันด้วยเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม นั่นสิเรียกว่าความสุข!""แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเวลาเพียงแค่นี้ จวนอ๋องเจวี้ยนก็จัดการไว้หมดแล้ว"ฟู่จาวหนิงถูกประคองเข้าประตู และได้ยินเสียงตื่นเต้นของแม่เฒ่าพูดกับนางมาตลอดทาง ในใจก็ประหลาดใจอย่างมากเช่นกันหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนรับปากจะแต่งงานบนถนน ระหว่างทางพวกเขาคงจะสั่งคนให้รีบกลับไปถ่ายทอดคำสั่งที่จวนอ๋องอย่างแน่นอน จากนั้นจึงจัดการตระเตรียมขึ้นมาให้ตายเถอะ นางประเมินอ๋องเจวี้ยนคนนี้ต่ำไปใช่ไหมนะกอดความสงสัยนี้ ฟู่จาวหนิงถูกประคองมาถึงโถงรับแขกกลางสวนดอกไม้แห่งหนึ่ง จากนั้นมีสาวใช้สองคนเดินเข้ามารับช่วงต่อจากยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการ"ข้าน้อยเฝิ่นซิงคารวะพระชายา""ข้าน้อยหงจั๋วคารวะพระชายา"เสียงหญิงสาวทั้งสองใสกังวาน หลังจากคารวะต่อฟู่จาวหนิงแล้วจึงอธิบายสถานการณ์กับนาง"พระชายา เวลานี้โถงพิธีการกับห้องหอกำลังจัดเตรียม ท่านอ๋องต้องไปเปลี่ยนชุดมงคล ข่าวการแต่งงานต้องเข้าวังเพื

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 6

    "ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรไหม?"ชิงอีหันไปมองอ๋องเจวี้ยนอย่างตึงเครียด"ลากออกไป" อ๋องเจวี้ยนสีหน้าไร้อารมณ์"ขอรับ!"แม่นมทั้งสองคนยังคิดจะตะโกน แต่ก็ถูกกดจุดขมับแล้วลากออกไปชิงอีจึงหมุนตัว มองไปยังใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว และก็มองเห็นด้านหลังอ๋องเจวี้ยนมีฟู่จาวหนิงยื่นหัวออกมา รู้สึกสงสัยอย่างหนักหญิงสาวที่ชิงกระบี่จากมือเขาได้อย่างรวดเร็ว แต่พอเจอกับแม่นมสองคนกลับปอดแหกขึ้นมาหรือ?แต่ว่าพอเขาคิดอีกทีก็ไม่แปลก ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นคนของฮองเฮา ฟู่จาวหนิงจะกล้าลงมือกับคนของฮองเฮาได้อย่างไร"ท่านอ๋อง จะกราบไหว้ฟ้าดินไหม" เขาถามขึ้นฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาถามเช่นนี้ก็เดินออกมาจากด้านหลังอ๋องเจวี้ยน "ดังนั้น พวกเจ้าที่แท้ไม่คิดจะกราบไหว้ฟ้าดินหรอกหรือ?"ชิงอีนิ่งงัน แต่สายตาที่มองนางกลับตกตะลึงขึ้นมาเขาคิดว่าฟู่จาวหนิงที่ไม่กรีดร้องเมื่อครู่ เพราะว่านางยังไม่เห็นใบหน้าของท่านอ๋อง แต่ตอนนี้นางกลับมองท่านอ๋องด้วยสีหน้าปกติ เห็นได้ชัดว่ามองเห็นแล้วนางไม่กลัวแผลเป็นของท่านอ๋องหรือ?"กราบไหว้ฟ้าดิน พิธีแต่งงานใหญ่" อ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิงอย่างลึกซึ้ง "เจ้าแน่ใจว่าจะไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 7

    คำพูดของไทเฮาไม่มีใครได้ยินและตอนที่ฮองเฮาเห็นอ๋องเจวี้ยนในชุดมงคลเดินเข้ามา ดวงตาก็มีเงามืดทมึนหลั่งทะลักของชั้นต่ำที่นังแพศยานั่นคลอดออกมา จะแต่งงานมีพระชายาแล้ว!ไม่ ฝันไปเถอะ!พิธีวันนี้ นางจะล่มมันเสีย!ฮองเฮาคิดในใจ ใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมา เอียงหน้าไปเอ่ยกับองค์จักรพรรดิเสียงแผ่วเบาว่า "องค์จักรพรรดิมักจะกังวลเรื่องสุขภาพของอ๋องเจวี้ยน ดูเอาเถิด อ๋องเจวี้ยนไม่ใช่ว่าเติบโตมาสูงใหญ่หล่อเหลาหรอกหรือ?"อายุสั้นอะไรกัน ทำไมไม่เห็นว่าจะดูอายุสั้นตรงไหน?องค์จักรพรรดิหัวเราะร่า "แม้จะบอกว่าอายวนจะดูคล้ายกับไท่ซ่างหวงตอนหนุ่มก็เถอะ แต่พอดูแบบนี้พวกเราพี่น้องก็ดูคล้ายกันอยู่พอควรนะ"พอได้ยินองค์จักรพรรดิพูดถึงไท่ซ่างหวง ฮองเฮาก็แค้นจนเข็ดฟันนี่เป็นเพราะเจ้าคนชั้นต่ำนี่หน้าตาคล้ายกับไท่ซ่างหวง ดังนั้นตั้งแต่เล็กจึงถูกไท่ซ่างหวงปกป้องไว้ หลายต่อหลายครั้งก็จัดการเขาไม่ได้เสียทีไท่ซ่างหวงกลัวว่าเขาที่ร่างกายอ่อนแอพอโตมาจะแย่งอะไรกับใครไม่ไหว ก่อนหน้าที่จะตายถึงกับทิ้งโองการไว้ให้แก่เขา รอจนเขาเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ พอรับพระชายา ก็จะมีคนนำของขวัญชิ้นใหญ่มามอบให้กับเขากระทั่งองค์จั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 8

    ร่างสีแดงพุ่งเข้ามาในโถงพิถีมงคลอย่างรวดเร็วพอคนมาถึง กลิ่นหอมจรุงก็โชยเข้ามาฮองเฮาพอเห็นคนที่มา ก็วางใจลงทันทีเอาล่ะ เมื่อนางมาแล้ว งานวันนี้ไม่มีทางสำเร็จเป็นแน่แท้นางร้องเรียกขึ้นอย่างปรีดา "ไอ๊หยา ท่านหญิงหยวนหลินกลับเมืองหลวงแล้วหรือ? สำนักบัณฑิตชิงหวาปิดภาคเรียนแล้วหรือ?"สำนักบัณฑิตชิงหวาคือสำนักบัณฑิตหญิงที่เลื่องชื่อของแคว้นเจา หญิงสาวที่จะเข้าไปเรียนได้ล้วนเป็นคนที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นกว่าผู้อื่น ท่านหญิงหยวนหลินคือคนที่เลื่องชื่ออย่างมากคนหนึ่งในสำนักบัณฑิตชิงหวาแต่ว่า อารมณ์ของท่านหญิงชิงหวาไม่ค่อยจะดีนัก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่มีความใคร่ปรารถนาแรงกล้าอีก"คนรักของเจ้าหรือ?"อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้ว และเห็นว่าผ้าแพรแดงในมือถูกบีบแน่นเล็กน้อย จนฟู่จาวหนิงเขยิบใกล้เขาเข้าไป จึงถามขึ้นเสียงแผ่ว"ไม่ใช่"อ๋องเจวี้ยนถึงแม้จะอยากถาม ว่าใช่แล้วจะทำไม ไม่ใช่แล้วจะทำไมก็ตาม แต่สุดท้ายก็ยังตอบกลับนางตรงๆ"โอ้ เช่นนั้นข้าก็ไม่ต้องรู้สึกผิดสินะ"ฟู่จาวหนิงเองก็เพิ่งคิดถึงปัญหาข้อนี้ อ๋องเจวี้ยนก่อนหน้าแม้จะยังไม่แต่งงาน แต่ใครจะรู้ว่าเขามีคนที่รักหรือไม่ มีหญิงสาวที่อยากแต่ง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 9

    ไม่มีใครรู้ว่าไท่ซ่างหวงทำไมจึงกำหนดเงื่อนไขนี้ขึ้นมาแต่ว่าตอนนี้ฮองเฮากลับรู้สึกว่าเงื่อนไขนี้กำหนดมาได้ดี ตระกูลฟู่ไม่มีใครสักคนที่เรียนหมอ ฟู่จาวหนิงเองก็ช่วยปู่ของนางออกหาสมุนไพรตั้งแต่เล็ก แต่คนไม่น้อยในเมืองหลวงก็รู้ว่า นางนั้นโง่จะตาย จำตัวยาอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ต้องคอยให้หมอบอกให้ วาดรูปร่างให้ จากนั้นจึงให้นางขึ้นเขาไปค้นหาแต่อย่างนี้หายากลับมาถูกหรือ?ไม่เลยสักนิดฟู่จาวหนิงมักจะขุดกลับมากองหนึ่ง ส่งให้ท่านหมอช่วยดูให้ ว่าในกองนั้นหาอะไรมาถูกต้องบ้างนางยังเคยต้มยาผิดให้ผู้เฒ่าฟู่ด้วยเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องตลกขบขันที่เล่ากันไปทั่วเมืองหลวง เซียวเหยียนจิ่งเองก็รังเกียจฟู่จาวหนิงด้วยเหตุนี้ รู้สึกว่านางเป็นคนไม่ได้เรื่อง มีแต่จะทำให้คนขบขันการรับคนไม่ได้เรื่องอย่างฟู่จาวหนิงมาเป็นภรรยา จะยิ่งทำให้เขาถูกคนหัวเราะเยาะเอาได้ฮองเฮาตอนนี้อยากจะหัวเราะร่าขึ้นมาเงื่อนไขนี้ของไท่ซ่างหวงกำหนดออกมาได้ยอดเยี่ยมเสียจริง!"ฮองเฮา ข้าเองก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว" ไทเฮาน้ำเสียงเย็นชา ดูเคืองหน่อยๆ "เจ้าในเมื่อจดจำได้ ก่อนหน้าที่กราบไหว้ฟ้าดินทำไมจึงไม่พูดออกมา? ตอนนี้แม่นางตระกูล

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2068

    ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2067

    เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2066

    คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2065

    พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2064

    ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2063

    เจ้าอารามสูดลมหายใจลึก"ผลลัพธ์นี้ไม่ค่อยดีนัก สิ่งที่มันชี้นำไป ทำให้อายวนเดินไปยังทางเลือกที่จะพาสู่ความพินาศ"พอได้ยินคำพูดเขา ฟู่จาวหนิงก็หน้าเปลี่ยนสีแต่นางกลับโมโหขึ้นมา"เฮอะ"ก่อนหน้านี้นางยังรู้สึกว่าจะอย่างไรก็ได้แต่ว่าตัวนางจะเป็นอย่างไร นางก็ยังไม่สนใจได้ เพราะนางไม่ใส่ใจ และไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับตัวนางแต่เรื่องดันไปอยู่บนตัวเซียวหลันยวน นางก็ไม่ชอบใจขึ้นมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น นางไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนจะได้รัรบผลกระทบไหม ตัวนางเป็นคนที่ผ่านการข้ามภพมา แต่เขาไม่ใช่"อายวน" นางยื่นมือไปประคองเซียวหลันยวนเขาจับมือนางลุกขึ้นยืน มองดุนาง ยื่นมือลูบใบหน้านาง สีหน้าดูซับซ้อน"เจ้าลองดู"ฟู่จาวหนิงใจดำดิ่งหน่อยๆเพราะเขารู้สึกแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด ปฏิกิริยานี้คือถูกส่งผลกระทบเข้าแล้วเมื่อครู่เขายังบอกนางอยู่เลยว่าถ้าไม่อยากคะเนทำนายก็ไม่ต้องทำ ตอนนี้เขากลับบอกว่าให้ลองดูเสียแล้วจิตใจต่อต้านกับความอยากเอาชนะของฟุ่จาวหนิงถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว"ได้"นางขานรับ และไม่ลังเลอีก นั่งลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามผืนนั้น"ไข่มุกหมึก"เซียวหลันยวนส่งไข่มุกหมึก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2062

    เขาไม่อยากให้นางต้องฝืนตัวทำอะไรเพื่อตัวเขา"ข้ายินยอมทดสอบดู ไม่เป็นไร" ฟู่จาวหนิงบอกเขาเซียวหลันยวนชะงักไป "เช่นนั้นข้าก่อนแล้วกัน เจ้าลองดูผลลัพธ์ของข้าก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจ"ตอนนี้เขาเองก็ยอมที่จะคะเนทำนายด้วย เพราะคำพูดประโยคนั้นที่เจ้าอารามพูดเมื่อครู่สามปีก่อนตอนที่เขาจะกลับเมืองหลวง ก็มีการวัดคะเนดาราไว้จริงๆ ทำให้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าเขาควรจะออกจากยอดเขาโยวชิงเวลานั้น และไปถึงเมืองหลวงในวันนั้นเขาเจอกับจาวหนิงถอนหมั้นกลางถนนในวันนั้น แต่งงานกับนางในวันนั้น ตอนนี้พอมาคิดก็ดูจะเป็นคู่รักวาสนาที่ฟ้าประทานมาจริงๆเพื่อความแม่นยำครั้งนี้ เขาเองก็ไม่กังขากับการวัดคะเนดาราเซียวหลันยวนนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามชิ้น ยื่นมือไปทางเจ้าอาราม "ไข่มุกหมึก""เจ้าจำไว้ด้วยว่าต้องขจัดสิ่งรบกวนออก อย่าต่อต้านการชี้นำ" เจ้าอารามส่งไข่มุกหมึกให้เขา จากนั้นจึงจุดธูปขึ้นเซียวหลันยวนหลับตา สองมือกุมไข่มุกหมึกตอนที่เขาเข้าสู่สภาวะลืมตนอย่างสมบูรณ์ ฟู่จาวหนิงก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยสัญชาตญาณ เหมือนจะพบว่าแสงดาวเต็มท้องฟ้าจะสว่างเจิดจ้ากว่าเดิมเซียวหลันยวน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2061

    เจ้าอารามถอนใจอย่างจนใจอีกครั้ง ร้องเรียกพวกเขาไว้"กลับมาก่อน ทำไมพูดไม่ถูกหูหน่อยเดียวก็จะไปแล้วล่ะ? เดี๋ยวนี้อารมณ์ขึ้นง่ายขนาดนี้เชียว? ข้าก็แค่พูดเฉยๆ ไม่ใช่ว่ามองเสี่ยวฟู่แบบนี้เสียหน่อย"ฟู่จาวหนิงเองก็ยืนนิ่ง นางดึงเซียวหลันยวนไว้ตอนนี้นางเองก็น่าจะมองการวัดคะเนดาราของเจ้าอารามเป็นเหมือนเกมลึกลับเกมนึง เมื่อครู่ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเจ้าอารามทำให้นางจับทางไม่ถูกเหมือนกัน คนผู้นี้ต้องมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาสำหรับเซียวหลันยวนแน่นอนสำหรับฮูหยินเฉิง เซียวหลันยวนบทจะไม่ยอมรับก็ไม่ยอมรับได้ จะหมดความผูกพันนั่นก็หมดไป แต่สำหรับเจ้าอารามนั้นไม่ได้เด็ดขาดไม่เช่นนั้นคงไม่พานางเดินทางนับพันลี้มายอดเขาโยวชิงแค่เพราะคำๆ เดียวของเจ้าอารามหรอกนางเองก็อยากรู้มาก สาเหตุอะไรที่ต้องให้พวกเขามาทำนายชะตาอะไรนี่ เจ้าอารามคิดจะทำอะไรกันแน่นอกเหนือจากนี้ ตัวนางเองก็ยังอยากรู้ ว่าการที่นางมายังแคว้นเจานี่ เป็นเพราะมีพลังลึกลับอะไรหรือเปล่าถ้าไม่ทำให้ชัดเจน หลังจากนี้นางคงจะตั้งรับไม่ไหวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถึ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2060

    เขามองไปทางเจ้าอารามอีกครั้ง น้ำเสียงเข้มงวดขึ้นมา"ท่านน้าเฉิงถ้าพูดแบบนี้จริง เช่นนั้นสายตานางก็ตื้นเขินไม่รู้จักกาลเทศะ นางเองก็ไม่เข้าใจจาวหนิง และยิ่งไม่เข้าใจว่าจาวหนิงผ่านอะไรมาบ้าง แล้วมีสิทธิ์อะไรถึงใช้ความคิดของตัวเองมาสรุป ดูท่าหลายปีนี้คงถูกเอาอกเอาใจในเมืองจื่อซวีจนเสียคนแล้วจริงๆ"เดิมทีเขาได้ยินว่าฮูหยินเฉิงตาแดงก่ำลงจากเขาไป ยังเคยคิดว่าว่าเพราะช่วยนี้เย็นชากับนางมากเกินไปหรือเปล่า เอาไว้ตอนที่จะกลับ พอผ่านอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น ยังคิดจะเข้าไปบอกลานางเสียหน่อยแต่ตอนนี้เขารู้สึกแล้วจริงๆ ว่าใจคนมันพังไปแล้ว เช่นนั้นก็ยากที่จะได้รับการเคารพจากคนอื่นจริงๆ"ข้าจดจำได้ว่าตอนที่ข้ายังเล็กท่านน้าเฉิงเคยมาดูแลอยู่หลายครั้ง แต่อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น หลังจากข้าโตมา พวกเราก็เจอกันน้อยครั้งมาก เจอกันก็เพียงแค่ทักทาย ข้าเรียกนางว่าท่านน้า ก็เพราะเคยชินมาจากตอนเด็กเท่านั้น"เซียวหลันยวนตอนพูดถึงจุดนี้น้ำเสียงก็เย็นลงมา"ตอนยังเล็กนางดูแลข้ามาหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาเจ้าอุทยานกำชับไว้ ข้าจึงเคารพนาง แต่นางก็ควรวางตัวให้ถูก ไม่ใช่จะขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสของข้าจริ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status