แชร์

อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส
อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส
ผู้แต่ง: จุ้ยหลิงซู

บทที่ 1

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
ณ เมืองหลวง แคว้นเจา

บนถนนที่คึกคักหญิงสาวที่สวมชุดงดงามนางหนึ่งกำลังนำทหารหลายคนของนางไปดักขบวนแห่เจ้าสาวขบวนหนึ่งอย่างดุดัน

“หลีกไป นี่คือคุณหนูใหญ่จากตระกูลของหมอเทวดาหลี่ หากว่าพวกเจ้าทำให้คุณหนูไม่พอใจระวังจะเดือดร้อน!” ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนต่างพากันรีบหลีกทางให้ในทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลง เหล่าชาวเมืองมองไปที่ขบวนแห่เจ้าสาวที่ถูกตกแต่งด้วยความรู้สึกเห็นใจ “นี่เจ้าสาวจากตระกูลไหนกันเนี่ย? ไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ขัดใจกัน?”

“เจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทเซียวกับคุณหนูตระกูลฟู่ คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวนั่นก็ต้องเป็นคุณหนูฟู่นั่นแหละ”

โครม เกี้ยวเจ้าสาวถูกทหารของตระกูลหลี่ใช้กำลังบังคับให้หยุดลง หลังจากที่เกี้ยวเจ้าสาวเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียงตุ๊บดังออกมา คล้ายจะเป็นเสียงของศีรษะที่กระแทกอะไรสักอย่าง

“ไปเอาตัวฟู่จาวหนิงมา! แล้วก็ไปถอดชุดเจ้าสาวของนางทิ้งซะ!”

คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ชี้นิ้วไปยังเกี้ยวเจ้าสาวก่อนจะสั่งออกมาอย่างวางอำนาจ ทันใดนั้นทหารรับใช้ก็วิ่งไปแล้วยื่นมือไปเปิดม่านบังเกี้ยวเจ้าสาวทันที

ยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีที่ยืนอยู่ด้านข้างรีบเข้ามาห้าม “ไม่ได้นะ! เจ้าสาวจะลงจากเกี้ยวกลางทางได้อย่างไร? มันเป็นอัปมงคล จะเป็นที่รังเกียจของตระกูลเจ้าบ่าวด้วย”

ชาวเมืองที่ดูสถานการณ์อยู่รอบข้างเองก็พากันตกใจ คิดไม่ถึงว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่จะมีคำสั่งให้เอาตัวเจ้าสาวลงจากเกี้ยวกลางถนนเช่นนี้ แถมยังจะสั่งให้ถอดชุดเจ้าสาวทิ้งอีกด้วย?

“ใครกล้ามาขวาง ก็เท่ากับเป็นอริกับพ่อข้า! หากว่าต่อไปพวกเจ้าเจ็บป่วยไม่สบาย ก็ไม่ต้องมารักษากับพ่อข้า! แค่พ่อข้าสั่งคำเดียว ร้านยาทั่วเมืองหลวงก็จะไม่มีใครกล้าขายยาให้พวกเจ้าแล้ว! ท่านพี่เซียวไม่ได้อยากแต่งกับฟู่จาวหนิงอยู่แล้ว แต่นังแพศยาคนนี้หน้าด้าน ใช้เล่ห์เหลี่ยมมาบีบบังคับให้ท่านพี่ต้องแต่งด้วย! พวกเจ้ายังจะยืนนิ่งอยู่ทำไม? รีบไปถอดชุดเจ้าสาวของนางซะ!”

ยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีถูกถีบออกไปให้พ้นทาง พวกทหารพากันเปิดม่านดึงเอาตัวเจ้าสาวชุดสีแดง ที่ยังคงคลุมหน้าด้วยผ้าคลุมสีแดงผืนเล็กออกมา แล้วก็ทำการถอดชุดเจ้าสาวของนางออกตามคำสั่ง

“นะ นี่มันเกินไปแล้ว ถูกถอดชุดขนาดนี้แล้วคุณหนูฟู่จะอยู่ต่อไปได้อย่างไร...” พวกชาวเมืองต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่ได้เห็นตรงหน้า

แต่ก็มีบางคนที่เบิกตาโตแล้วชะเง้อคอมองไปทางเจ้าสาว

“รีบดูเร็วๆ ดูสิว่าเรือนร่างคุณหนูตระกูลฟู่จะขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะสักเพียงไร!”

“แน่นอนว่าต้องขาวผุดผ่องราวหิหะแรกตกน่ะสิ!”

พวกนักเลงที่มาดูเหตุการณ์ต่างพากันพูดจาแทะโลมอย่างสนุกปาก

เหล่าชาวเมืองที่มามุงดูเหตุการณ์ก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาถนนเส้นนี้ติดหนึบจนไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้

“พวกเจ้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้นะ คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ ได้โปรดละเว้นคุณหนูฟู่ด้วยเถิดเจ้าค่ะ หากว่าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป องค์รัชทายาทเองก็จะต้องอับอายไปด้วยนะเจ้าคะ...” ยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการนั่งตบเข่าบนพื้นอย่างคับข้องใจก่อนจะร้องไห้โวยวายออกมาไม่เป็นภาษา

“หากท่านถอดกระชากชุดแต่งงานไป คุณหนูฟู่ยังจะชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไรเจ้าคะ!!”

“แล้วพวกบ่าวรับใช้ที่มาส่งเจ้าสาวเล่า เหตุใดจึงหลบอยู่ไม่ยอมออกมาช่วยขัดขวาง?” ชาวเมืองบางคนพูดขึ้นอย่างสงสัย “ตระกูลฟู่ไม่มีคนมาส่งตัวเจ้าสาวเลยหรือ? คุณหนูตระกูลฟูไม่มีพี่เลี้ยงหรือสาวใช้เลยหรืออย่างไร?”

“แล้วเหตุใดตัวเจ้าสาวจึงไม่ขัดขืนต่อต้านบ้างเลยเล่า?”

บางคนที่ทนดูต่อไปไม่ได้ ก็รีบวิ่งไปที่จวนตระกูลเซียวเพื่อขอความช่วยเหลือ จากที่นี่ไปถึงจวนตระกูลเซียวก็อีกไม่ไกลแล้ว

“แคว๊ก” ชุดแต่งงานของเจ้าสาวถูกฉีกออกเป็นทางยาวอย่างหยาบคาย

จาวหนิงที่เพิ่งจะตื่นขึ้นมาก็รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังฉีกชุดของเธออยู่ ดวงตาคู่งามของเธอยังไม่ทันจะเปิดดี อารมณ์โมโหสุดขีดก็พุ่งปรี๊ดขึ้นมาซะก่อน เธอปล่อยหมัดออกไปยังอีกฝ่ายอย่างแรง จากนั้นก็ยกขา งอเข่าเตะไปที่อีกฝ่ายเต็มแรง

“พลั่ก!”

“โอ๊ย!!”

ทหารสองนายที่กำลังฉีกกระชากชุดแต่งงานของเธอ คนหนึ่งถูกเธอต่อยเข้าไปที่ดวงตา ส่วนอีกคนน่าสงสารกว่า ถูกเตะเข้าที่เป้ากางเกงอย่างจัง จนทำให้เขาหน้าเขียวจนคล้ำไปเลย

เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นราวกับเสียงฟ้าร้องก็ไม่ปาน

จาวหนิงดึงผ้าคลุมหน้าสีแดงลงไป นางใช้มือจับไปที่เกี้ยวเจ้าสาวเพื่อช่วยพยุงตัวให้ยืนขึ้น จากนั้นก็กวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างงงๆ

เธอจำได้ว่าตัวเธอเพิ่งจะทำการผ่าตัดให้กับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเสร็จ ใช้เวลาผ่าตัดไปทั้งหมดสิบสี่ชั่วโมง เมื่อเธอออกมาจากห้องผ่าตัดแล้วก็หลับไปทันที ไม่รู้ทำไมพอตื่นมาอีกทีเธอกลับกลายเป็นคุณหนูสามตระกลูฟู่ไปได้?

ภาพความทรงจำของฟู่จาวหนิงหลั่งไหลเข้ามาในสมองของเธออย่างรวดเร็ว ทำให้เธอรู้สึกเวียนหัวคล้ายจะหน้ามืด

“ฟู่จาวหนิง! นังแพศยาหน้าไม่อาย นี่แกกล้าขัดขืนอย่างนั้นเหรอ?”

คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่มุ่งหน้าเข้ามาหาเธออย่างมาดร้าย ในมือก็เหน็บเอาเข็มเล่มยาวๆ เอาไว้ หล่อนง้างมือขึ้นอยากจะปักเข็มเล่มยาวลงไปบนหัวของจาวหนิง

พ่อของนางเป็นหมอเทวดา แน่นอนว่าเรื่องการใช้เข็มนางก็พอจะเรียนรู้มาบ้าง หากนางปักเข็มเล่มนี้ได้สำเร็จ ก็จะทำให้ฟู่จาวหนิงหมดสติทันที แล้วเมื่อนางหมดสติไปก็ค่อยถอดชุดของเธอออก เอาให้เหลือแค่เสื้อซับในไปเลย!

“กรี๊ด!” ชาวบ้านที่มองดูอยู่บริเวณรอบๆ กรีดร้องเสียงดังออกมาเมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า

เข็มเล่มยาว สะท้อนแสงวับวาวจนจาวหนิงต้องหรี่ตา นางใช้กำปั้นต่อยไปยังกลางอกของคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่

จากนั้นจาวหนิงก็ควงหมันให้ดูไปอีกรอบ

“เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” จาวหนิงหัวคดเคี้ยวถามก่อนจะจ้องไปที่หน้าอกของคุณหนูหลี่ทีหนึ่ง

“อ๊ะ! เจ็บนะ! ฟู่ จาว หนิง นังแพศยา...” คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่รู้สึกเจ็บปวดมากจนหน้าตาบิดเบี้ยว มือที่ง้างอยู่นั้นก็ร่วงลงอย่างไม่มีแรง ถุงเก็บเข็มก็ตกลงไปบนพื้น นางเอาสองมือกอดไปที่อก จากนั้นก็ล้มลงตัวงอ

ฟู่จาวหนิงนางกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร! เหตุใดนางจึงไร้ยางอายได้ถึงเพียงนี้!

ชาวบ้านที่มุงดูเหตุการณ์ “...”

พวกเขาทุกคนล้วนตกตะลึงงัน

“ฟู่จาวหนิง!”

น้ำเสียงโมโหสุดขีดของผู้ชายดังขึ้น ชายหนุ่มผู้ซึ่งสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อดีรีบเดินตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นภาพตรงหน้าเขาก็ยิ่งโมโหจนแทบจะพ่นไฟออกมาได้ เขาจ้องไปที่จาวหนิงอย่างเอาเรื่อง

“เจ้าไม่มียางอายเลยหรืออย่างไร? ใครอนุญาตให้เจ้าปลดผ้าคลุมหน้าออกกัน? ยังไม่ทันได้เข้าพิธีแต่งงานเจ้าก็เปิดใบหน้าให้คนเห็นมากมายเช่นนี้ ลางไม่ดีชัดๆ เจ้ายังเห็นข้าอยู่ในสายตาอีกหรือไม่?”

เขามองไปยังชุดที่ถูกฉีกขาดของจาวหนิง ใบหน้าที่แดงก่ำอยู่แล้วก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท “ชุดแต่งงานขาดวิ่นขนาดนี้เจ้ายังจะมีหน้ามายืนอยู่ตรงนี้ได้อีก? จวนตระกูลเซียวของข้าต้องขายหน้าเพียงนี้ก็เพราะเจ้า! คนที่ไร้ยางอายเช่นเจ้ายังคิดที่จะแต่งเข้าตระกูลเซียวอีกงั้นหรือ?”

จาวหนิงหรี่ตาลงอย่างประเมินสถานการณ์

“โธ่ รัชทายาทเซียวเสด็จมาแล้ว หรือว่าเขาจะมาเพื่อยกเลิกงานแต่ง?”

“แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ต่อไปคุณหนูฟู่จะไปแต่งกันใครได้อีก?” ทั้งถูกหยามเกียรติ ถูดฉีกชุดแต่งงาน แถมยังถูกยกเลิกงานแต่งกลางตลาดเช่นนี้ ชื่อเสียงของคุณหนูฟู่คงจะป่นปี้ไปหมดแล้ว ต่อไปจะหาสามีดีๆ ได้อย่างไร?

“ท่านพี่เซียว” คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตามองไปที่รัชทายาทเซียว ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ฟู่จาวหนิงทำร้ายน้อง เจ็บไปหมดแล้วเพคะ...”

รัชทายาทเซียวรีบกอดเพื่อปลอบประโลมนางทันที “จื่อเหยา เจ้าเป็นอะไรไหม? ฟู่จาวหนิงทำร้ายเจ้าที่ตรงไหน?”

คำถามนี้แทบจะทำให้หลี่จื่อเหยาเกือบจะสิ้นใจ มันใช่ตำแหน่งที่จะพูดได้หรือไงเล่า?

“ฟู่จาวหนิง! จื่อเหยานางก็แค่ไม่พอใจที่เจ้าใช้วิธีสกปรกมาบีบให้ข้าแต่งกับเจ้า ก็เลยอยากจะระบายโทสะแทนข้าก็เท่านั้น ทำไมต้องทำร้ายนางด้วย? ข้าคิดไม่ถึงเลย ว่าเจ้านอกจากจะไม่มีสมอง ไม่มีเหตุผล เห็นแก่เงิน รักความสบายแล้ว เจ้ายังมีนิสัยชอบทำร้ายคนอื่นอีกด้วย!”

รัชทายาทเซียวพูดออกมาอย่างโมโห “ข้าไม่มีทางแต่งงานกับเจ้าเด็ดขาด เจ้ากลับไปได้แล้ว!”

“ฮ้า? ท่านพี่เซียวคะ แต่ว่าฟู่จาวหนิงถูกหามออกมาจากตระกูลฟู่แล้ว ตอนนี้ปู่ของนางก็ไม่สบายอยู่ หากว่าให้นางกลับไป แล้วผู้เฒ่าฟู่เกิดเสียใจรับไม่ได้จนสิ้นใจไปจะทำเช่นไรเพคะ?”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Chaleekorn
เพจมีปัญหามาก ล้อคอินทีไรแต้มหายตลอด เก็บเงินซ้ำซาก บทก้อซ้ำไปซ้ำมา ล่าสุด แสดงความคิดเห็นให้กดล๊อคอิน อ่านไปถึง บทที่700 กว่า กลับมาอีกทีโดนล๊อคหมดเลย
goodnovel comment avatar
Khattiya Ch
สนุกค่ะ ลุ้นเมื่อไหร่กน้าพระเอกจะหาย
goodnovel comment avatar
Wilaiwan Na
สนุกมากค่ะ น่าติดตาม
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2252

    "แต่ก็จะดูถูกพวกเขาไม่ได้ บางครั้งพวกงูพิษในที่มืดนั่นล่ะที่รับมือยากสุด""ข้าเข้าใจ" เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากผู้อาวุโสจี้คุยกับเขาต่ออีกสองสามคำ จากนั้นก็ทอดถอนใจออกมา "จะว่าไป ข้าเองก็เคยใฝ่ฝันถึงตงฉิงมาก ได้ยินว่าที่ตงฉิงมีภูเขาโอสถอยู่ บนภูเขามีสมุนไพรต่างๆ อยู่มากมาย และยังมีพวกผลไม้ ผิวไม้กิ่งไม้รากไม้ เถาวัลย์ที่เอามาใช้เป็นยาได้ กระทั่งยังมีพวกดินพวกหินที่ใช้ทำยาได้อีกด้วย""ภูเขาโอสถหรือ?" เซียวหลันยวนไม่รู้เลย พอได้ยินก็รู้สึกสนใจมาก "ผู้อาวุโสจี้ได้ยินมาจากไหนหรือ?""เรื่องนี้ข้าได้ยินมาจากเจ้าพันธมิตรคนก่อนน่ะ""เจ้าพันธมิตรโอสถคนก่อนหรือ?""ใช่ คิดแล้วคนนอกคงจะไม่ค่อยเข้าใจนัก อันที่จริงพันธมิตรโอสถใต้หล้าตอนแรกสุดเป็นเจ้าพันธมิตรโอสถคนก่อนสร้างขึ้นมา ต่อมาจึงส่งต่อมาให้เจ้าพันธมิตรคนปัจจุบัน""เจ้าพันธมิตรคนอื่นเคยไปภูเขาโอสถของตงฉิงมาหรือ?""ได้ยินเขาบอกว่าตอนยังเด็กมาก เคยหลงเข้าไปในภูเขาโอสถ แต่ว่าตอนนั้นตงฉิงสาบสูญไปแล้ว ภายหลังเขาออกมาจากภูเขาโอสถ พอจะหาทางกลับไปสถานที่นั้น พอเอาแผ่นที่แผ่นดินมากางดูแล้วก็พบว่า ภูเขานั้น น่าจะเป็นพื้นที่ในตงฉิง"

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2251

    ถังอู๋เยว่ตอนนี้ฝังเข็มไปแล้ว ถ้าสามารถได้หลับดีดีสักรอบ ฟื้นฟูจิตใจให้เต็มที่ ความอยากอาหารก็จะดีขึ้นไปด้วยการรักษาเขาต้องค่อยเป็นค่อยไป เร่งรีบไม่ได้และนางก็ต้องกลับไปจัดเรียงการวินิจฉัยวันนี้เสียหน่อย แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะกำหนดแผนการรักษาอย่างไร"ได้ ฟังเจ้าทั้งหมดเลย"ถังอู๋เจวี้ยนเดิมทีก็เชื่อมั่นฟู่จาวหนิงอยู่แล้ว วันนี้พอได้เห็นความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจของนาง เขาก็ยิ่งไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ"ข้าจะส่งเจ้ากลับเรือนแขก" ถังอู๋เจวี้ยนเห็นเสี่ยวเยว่หลับลึก ก็ไม่จำเป็นต้องมาคอยเฝ้าอยู่ที่นี่ฟู่จาวหนิงมาครั้งนี้ เสียเวลาไปนานโขอยู่เซียวหลันยวนกระทั่งหลับไปแล้วครู่หนึ่งแต่เขาก็ไม่ได้หลับลึก ให้ชิงอีเสี่ยวเยว่คอยสังเกตไว้ตลอด มีอะไรก็ให้มาเรียกเขาทันทีตอนที่ฟู่จาวหนิงถูกถังอู๋เจวี้ยนส่งกลับมา เซียวหลันยวนกำลังลงหมากกับผู้อาวุโสจี้ผู้อาวุโสจี้ก็ใช้ช่วงที่ลงหมากนี้ ถามการตัดสินใจของเขาต่อฟู่จาวหนิงหลังจากนี้ว่าเป็นอย่างไร จะพเนจรอยู่ข้างนอกนี้ตลอด มันก็ดูจะเหนื่อยเกินไปเขาไม่หวังให้ฟู่จาวหนิงต้องมีชีวิตแบบนั้นต่อให้เวลาผ่านไป บางทีจักรพรรดิเจาพอเห็นว่าพวกเขาไม่มีความคุก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2250

    ดังนั้น เสี่ยวเยว่จึงมีโอกาสที่จะช่วยได้แล้วจริงๆ"ก็ไม่ใช่ว่าหมอเหล่านั้นวิชาแพทย์แย่นักหรอก" ฟู่จาวหนิงยังคิดจะพูดให้หมอเหล่านั้นหน่อย "โรคนี้ของคุณชายน้อยถัง ที่จริงก็หาได้ยากมาก การไม่เคยมีประสบการณ์การรักษา ไม่มีตัวอย่างที่เทียบเคียงได้จริง จึงยากมากที่จะจ่ายยาให้"นางอยากจะบอกว่า จุดที่นางได้เปรียบคือมาจากยุคปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นบนตัวนางยังมีห้องเภสัชที่เป็นพื้นที่ล้ำสมัย มีอุปกรณ์ต่างๆ นานา ระดับมาตรฐานวิชาแพทย์ก้าวล้ำกว่าตอนนี้ไปไม่รู้กี่ร้อยปีนางนั่นล่ะที่ไม่ปกติ แต่หมอคนอื่นนั้นปกติ จะรู้สึกว่าหมอเหล่านั้นไม่ได้เรื่องเพราะนางไม่ได้หรอก"เข้าใจ เป็นเพราะศิษย์น้องหญิงมีพรสวรรค์ ฉลาดปราดเปรื่อง วิชาแพทย์ของเจ้ายอดเยี่ยมน่าทึ่ง พวกเขาเทียบเจ้าไม่ได้ก็ไม่ใช่ความผิดพวกเขา"ถังอู๋เจวี้ยนหัวเราะขึ้นมาในรอยยิ้มมีประกายอยู่จนตอนที่ถังอู๋เยว่สงบลงมาได้ ฟู่จาวหนิงจึงฝังเข็มให้เขาฝังเข็มครั้งนี้ใช้เวลาไปถึงหนึ่งชั่วยามและการฝังเข็มนี้ นางก็ยังพบปัญหาเข้าจริงๆ ชีพจรของถังอู๋เยว่มีจุดติดขัดอยู่หลายแห่งในขั้นตอนฝันเข็ม ถังอู๋เยว่ทนไม่ไหวผล็อยหลับไปแล้วบนตัวเขาอย่างน้อยมี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2249

    ฟู่จาวหนิงอันที่จริงมีแผนการรักษาเบื้องต้นต่อโรคของถังอู๋เยว่แล้ว"ตอนนี้ข้าอยากจะฝังเข็มตรวจสอบชีพจรทั้งตัวของเจ้าก่อนว่ามีตรงไหนติดขัดหรือไม่ เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวกหรือเปล่า"ส่วนจุดที่ต้องใช้อุปกรณ์ในคลังยาพวกนั้น นางก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้มากแล้วถึงยังไงอาการเซลล์เสื่อมของถังอู๋เยว่ มีบางส่วนไม่อาจเกิดใหม่ได้แล้ว นางพูดไปพวกเขาก็คงไม่เข้าใจนางต้องเข้าไปค้นคว้าในห้องเภสัชอีกสักหน่อย แล้วค่อยดูว่าจะสามารถเจาะเลือดจากคนในตระกูลถังมาสักดเซลล์ที่จำเป็นให้ถังอู๋เยว่ได้หรือไม่นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเสร็จในวันสองวัน ตอนนี้ยังต้องตรวจสอบชีพจรให้เขาเสียก่อน"ศิษย์น้องหญิง ความหมายของเจ้าคือ เจ้ามั่นใจว่าจะรักษาเสี่ยวเยว่ได้แล้วหรือ?"พอตื่นเต้น พอดีใจ ถังอู๋เจวี้ยนก็อดเรียกว่าศิษย์น้องหญิงขึ้นมาไม่ได้ยังดีที่อ๋องเจวี้ยนตาเจ้าคนขี้หึงนั่นไม่อยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้น แค่พูดว่าศิษย์น้องหญิงคำเดียว อ๋องเจวี้ยนคงได้สงสัยว่าเขาคิดอะไรกับฟู่จาวหนิงแน่อันที่จริงเขาก็อธิบายไม่ถูก เขารู้ว่าตนเองชื่นชมฟู่จาวหนิงมาก และชอบนางมาก แต่ก็รู้สึกว่าความชอบนี้ไม่ใช่อาการใจหวั่นไหวกับหญิงสาวทำนองนั้น

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2248

    พอเห็นรอยยิ้มของนาง ถังอู๋เยว่ก็ถูกทำให้ติดไปด้วยแล้ว ความรู้สึกต่อต้านไม่พอใจในตอนแรกก็หายไปในพริบตา"หมอเทวดาฟู่หมายความว่ายอ่างไร?""ท่าทีกับอารมณ์ของเจ้า ดูดีมาก ยิ่งไปกว่านั้นการเลียงดูกับมารยาทของเจ้าเองก็ดีมากด้วย"ฟู่จาวหนิงไม่ได้พูดเพื่อปลอบเขา"โรคที่หาได้ยากเช่นนี้ ทั่วทั้งใต้หล้าอาจจะหาตัวอย่างโรคที่เหมือนกันคนที่สองไม่ได้แล้ว เจ้าเจอกับมัน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นมาแล้วหลายปี แต่เจ้าก็ไม่ได้รู้สึกสิ้นหวังพังทลาย ไม่กล่าวโทษคนอื่น ตอนที่หมอเข้ามา เจ้าก็ยังให้ความร่วมมือในการวินิจฉัย นี่เป็นท่าทีกับการอบรมสั่งสอนที่หาได้ยากยิ่ง"ถังอู๋เยว่ตกตะลึง เหลือบมองพี่ชายผาดหนึ่ง หลังจากนั้นก็ลังเลเอ่ยขึ้น "ก็ ก็ไม่ได้ดีแบบที่ท่านบอกหรอก อันที่จริงข้าก็เคยพังทลายมาก่อน เคยขว้างข้าวของ เคยด่าคนด้วย""ข้า ข้าเองก็ไล่หมอไปแล้วหลายคน ยิ่งไปกว่านั้นปกติข้าก็ไม่ค่อยพบคนด้วย เหล่าพี่น้องในตระกูลก็มาหาเพราะเป็นห่วงข้า ข้าเองก็ปฏิเสธพวกเขาไปจนหมด ข้าไม่อยากพบพวกเขาเลย พวกเขาคงคิดว่าข้ามีอารมณ์แปลกประหลาดแน่ๆ"คนในตระกูลไม่น้อยคงมีคนพูดว่าเขาแปลกประหลาด กระทั่งบอกว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดด้วยซ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2247

    เพราะกวางน้อยชอบฟู่จาวหนิง และด้วยของขวัญชิ้นนี้ที่ถูกใจถังอู๋เยว่ ทำให้การวินิจฉัยดรคต่อจากนี้ของฟู่จาวหนิงค่อนข้างราบรื่นบนพื้นฐานแล้ว นางถามอะไร ถังอู๋เยว่ก็จะตั้งใจตอบนางแต่ว่า ถังอู๋เจวี้ยนที่มองดูอยู่ข้างๆ ก็พบแล้วว่า ต่อให้จะถามวินิจฉัย วิธีการของฟู่จาวหนิงกับคำถามก็ยังทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายแต่ก่อนมีหมอ ใช้คำถามมาถามเสี่ยวเยว่ ทำให้เสี่ยวเยว่ฟังแล้วรู้สึกกีดกัน ต่อให้รู้ว่าตอบแล้วจะทำให้หมอเข้าใจอาการป่วยของตนเอง แต่เขาก็ยังตอบได้แบบฝืนๆมีบางคำถาม ทำให้ไม่อยากตอบเอาเสียเลยอย่างเช่นมีหมอที่ถามถังอู๋เยว่ว่า "ตำราแพทย์บางเล่มเขียนไว้ว่า หากผู้ชายมีการหลั่งน้ำเชื้อมากเกินไป จะทำให้ปราณชี่เสียหาย และหากกินยาที่มีฤทธิ์รุนแรง ก็จะทำให้คนเสื่อมได้เร็วขึ้น ขอถามคุณชายน้อยหน่อย ว่าท่านได้หมกมุ่นเรื่องพวกนี้อยู่หรือไม่?"เดิมทีก้เป็นคำถามที่ทำให้ถังอู๋เยว่รู้สึกอับอายอยู่แล้ว แม้เขาจะส่ายหัวไม่พูดอะไร แต่แพทย์ก็ยังถามต่อว่า "ไม่จำกัดแค่เรื่องของสตรีเท่านั้น การทำกับตนเองอย่างรุนแรงก็ด้วยเช่นกัน"คำพูดแบบนี้ ถังอู๋เยว่ตอบได้ลำบากมากยังมีคนถามอีกว่า "ได้ยินว่าคุณชายชอบอยู่คนเดีย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status