Share

บทที่ 2

Auteur: จุ้ยหลิงซู
สมองจาวหนิงผุดภาพร่างกายที่อ่อนแอของผู้เฒ่าฟู่ขึ้นมา

ฟู่จาวหนิงกับรัชทายาทเซียวเดิมทีมีการหมั้นหมายอยู่ สุขภาพผู้เฒ่าฟู่เองก็ย่ำแย่ลงทุกวัน ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือสามารถเห็นหลานสาวแต่งเข้าจวนตระกูลเซียวได้อย่างราบรื่น ได้มีที่พึ่งพิงในภายภาคหน้า แต่ตระกูลเซียวก็ไม่ยอมเอ่ยเรื่องงานมงคลเสียที

ช่วงนี้อาการป่วยของผุ้เฒ่าฟู่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เขาเป็นลมหมดสติอยู่บ่อยครั้ง พอตื่นขึ้นมาก็จะคว้ามือของนางและกังวลเรื่องงานแต่ง ฟู่จาวหนิงก็ร้อนรน ดังนั้นแต่ละวันจึงเอาแต่เซ้าซี้รัชทายาทเซียว หลังถูกปฏิเสธมาหลายครั้ง นางจึงหยิบยกเอาคุณงามความดีที่บิดามารดาของนางเคยช่วยชีวิตองค์รัชทายาทไว้ออกมาให้องค์จักรพรรดิประทานจัดงานแต่งงานให้

รัชทายาทเซียวก็ถูกบีบจนต้องจำใจยอมรับการแต่งงานกับฟู่จาวหนิง

เซียวเหยียนจิ่งเองก็เป็นบุรุษรูปงามอันดับต้นๆ ในเมืองหลวงจริงๆ คิ้วกระบี่ดวงตาดอกท้อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเชิด รูปหน้ายอดเยี่ยม ร่างสูงโปร่ง เสื้อคลุมสักหลาดพอดีตัวดูสูงส่ง ขับเน้นร่างของเขาออกมาจนตัวดูเป็นคนแต่นิสัยเป็นสุนัขเสียอย่างนั้น

ไม่แปลกที่หลี่จื่อเหยาหลงใหลเขามาตลอด

พอคิดถึงสถานการณ์ของตระกูลฟู่ เสียงของจาวหนิงก็เย็นชา นางจ้องเขม็งไปทางรัชทายาทเซียว

"ราชโองการขององค์จักรพรรดิ ท่านกล้าขัดหรือ?"

รัชทายาทเซียวพอได้ยินคำของนางก็หน้าเคร่งขรึม ก่นด่าออกมาด้วยความโกรธ "ฟู่จาวหนิง เจ้าเอาแต่ยกองค์จักรพรรดิมาบีบข้า!" ช่างน่าโมโหนัก

หลี่จื่อเหยารีบเอ่ยขึ้นทันที "ท่านพี่เซียวไม่ต้องกลัว! บิดาข้าต่อหน้าองค์จักรพรรดิก็พอมีปากเสียงอยู่บ้าง ข้าจะให้บิดาข้าเข้าวังแล้วทูลต่อองค์จักรพรรดิ ฝ่าบาทจะไม่ตำหนิท่านแน่นอน!"

"หมอเทวดาหลี่สินะ..." ฟู่จาวหนิงนึกถึงคำว่า "หมอเทวดา"ก็รู้สึกเยาะหยันขึ้นมา "หลายปีนี้หมอเทวดาดูจะน่าเกรงขามเสียจริง"

"หมอเทวดาหลี่น่าเกรงขาม แต่เจ้าน่ะมันน่าอดสู!" เซียวเหยียนจิ่งสีหน้าเย็นชา "ฟู่จาวหนิง เจ้าลงจากเกี้ยวเจ้าสาวปลดผ้าคลุมหน้าลง ให้คนตั้งมากมายเห็นสภาพไม่เรียบร้อยของเจ้า หน้าตากับความบริสุทธิ์ผุดผ่องก็ป่นปี้หมดแล้ว ต่อให้องค์จักรพรรดิจะโกรธเคือง ข้าก็ไม่แต่งกับเจ้าหรอก!"

คนรอบๆ แอบสูดปาก เกี้ยวเจ้าสาวแทบจะแบกไปถึงหน้าประตูแล้ว นี่จะถอนหมั้นหรือ?

แล้วคุณหนูฟู่จะทำเช่นไร ได้ยินว่าสุขภาพผู้เฒ่าฟู่เองก็ไม่ค่อยไหวแล้ว ถ้ามาเจอเรื่องนี้กระตุ้นเข้าไปอีก คงจะไม่ถึงกับตายอย่างที่หลี่จื่อเหยาพูดมาหรอกกระมัง?

"เซียวเหยียนจิ่ง ท่านคิดว่าข้าอยากแต่งกับท่านนักหรือ ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลเซียวกับฟู่มีการหมั้นหมายไว้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นความปรารถนาของปู่ข้า ข้าเลือกคนบนถนนนี้ส่งๆ มาคนหนึ่งก็ยังดีกว่าท่านเป็นกอง"

ฟู่จาวหนิงพูดประโยคนี้ออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ

ผู้คนล้วนมองนางอย่างไม่อยากจะเชื่อ

"จริงหรือ? แล้วที่คุณหนูฟู่ก่อนหน้านี้ทุกวันเอาแต่วิ่งเร่าๆ บอกจะแต่งงานกับรัชทายาทเซียว ไม่ใช่เพราะว่าชอบรัชทายาทเซียวหรอกหรือ?"

"คุณหนูใหญ่หลี่ก่อนหน้านี้ยังพูดว่าคุณหนูฟู่หลงใหลรัชทายาทเซียวจะเป็นจะตาย จะออกเรือนกับเขาเสียให้ได้ ทำไมตอนนี้ดูแล้วมันไม่เป็นแบบนั้นเลยล่ะ?"

"คุณหนูเซียวไม่ชอบรัชทายาทเซียวหรือ?"

เซียวเหยียนจิ่งพอได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์รอบๆ ตัว ก็โมโหจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

ฟู่จาวหนิงกำลังโกหก! ก่อนหน้านี้นางหลงเขาเสียขนาดนั้น เมื่อเห็นสายตาที่หลงใหลของนาง เขาจะยังไม่เข้าใจได้อีกหรือ

มีแต่เขาต่างหากที่จะถอนหมั้นนาง เมื่อไรกันที่นางมารังเกียจเขา!

"ฟู่จาวหนิง เจ้าอย่าคิดว่าทำตัวเสแสร้งหน่อยแล้วรัชทายาทอย่างข้าจะหันมามองเจ้าใหม่! วันนี้งานมงคลล้มเลิกแล้ว ต่อให้เจ้ามาคุกเข่าร้องไห้อ้อนวอนข้า ข้าก็จะไม่เปลี่ยนใจ!"

"อย่างกับข้าอยากทำนัก ขอบคุณด้วยที่ปฏิเสธงานแต่ง!"

จาวหนิงร้องเชอะขึ้นมา จู่ๆ ก็รู้สึกว่าโชคดีมากที่ตัวเองยังกลับตัวทัน ไม่เช่นนั้นถ้ารอจนทั้งสองคนกราบไหว้ฟ้าดินเสร็จสิ้นหรือเข้าไปอยู่ในห้องหอแล้วถึงคิดขึ้นได้ล่ะก็ นางคงได้อาเจียนรากแตกตายแน่ๆ

สายตานางชำเลืองไปยังหลี่จื่อเหยา ไม่แต่งงานได้แต่หนี้แค้นก็ต้องสะสางมันกลางถนนนี่ล่ะ!

ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็ยื่นมือไปคว้าชายเสื้อของหลี่จื่อเหยา กระชากนางออกมาจากอกของเซียวเหยียนจิ่ง จากนั้นหมุนตัวเหวี่ยงแล้วกดตัวนางลงบนเกี้ยวเจ้าสาว

"กรี๊ด! ท่านพี่เซียว~"

หลี่จื่อเหยาร้องเสียงแหลม นางตั้งตัวไม่ทัน ฟู่จาวหนิงที่อ่อนแอมาโดยตลอดทำไมจู่ๆ จึงลงไม้ลงมือเร็วขนาดนี้?

"ฟู่จาวหนิงเจ้าทำอะไรน่ะ รีบปล่อยจื่อเหยาเดี๋ยวนี้!" เซียวเหยียนจิ่งพุ่งเข้าไปคิดจะแย่งตัวหลี่จื่อเหยามา

แต่การเคลื่อนไหวของฟู่จาวหนิงก็เร็วกว่าเขามาก ทั้งสองมือของนางคว้าชายเสื้อหลี่จื่อเหยา แล้วกระชากฉีกอย่างแรง

แควก!

เสื้อของหลี่จื่อเหยาถูกฉีกขาดทันที เผยให้เห็นผิวขาวนวล ส่วนเศษผ้าก็ถูกฟู่จาวหนิงกำไว้ในมือ โบกเป็นผ้าเช็ดหน้าอยู่ไหวๆ

"กรี๊ดๆๆ!" หลี่จื่อเหยาร้องเสียงแหลม หันตัวกลับมากอดตัวเองทันควัน "ฟู่จาวหนิง!!"

"อื้อ ข้าอยู่นี่ไง ข้าเดิมทีก็ไม่อยากจะลงไม้ลงมือกับหญิงสาวหรอกนะ แล้วการฉีกเสื้อผ้าเนี่ยมันก็ดูจะไร้คุณธรรมไปหน่อย" ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้วเดินถอยไปก้าวหนึ่ง "แต่ในเมื่อส่งของขวัญมาให้แล้ว จะไม่ส่งตอบแทนกลับไปบ้าง ใจข้ามันคงไม่สงบ!"

นางเป็นคนใจคับแคบมาแต่ไหนแต่ไร ถ้ามีหนี้แค้นก็ต้องชดใช้เสียตรงนั้น

"ฟู่จาวหนิง!"

เซียวเหยียนจิ่งถูกนางทำให้ตะลึงงันไปแล้ว พอได้สติกลับมาก็ตะโกนเรียกนางอย่างฉุนเฉียวทันที

"เซียวเหยียนจิ่ง ข้อที่หนึ่งวันนี้เป็นวันมงคล เดิมทีตอนบ่ายท่านควรจะมารับเจ้าสาวถึงบ้าน แต่ท่านไม่มา" ฟู่จาวหนิ่งมองเขาอย่างเย็นชา "ข้อสอง ในฐานะที่เป็นเจ้าบ่าว ตอนนี้ท่านควรอยู่ในชุดมงคลแล้ว แล้วดูตอนนี้สิท่านสวมอะไรอยู่? ชุดคลุมขาว อย่างกับชุดไว้ทุกข์อย่างไรอย่างนั้น ถ้าคนที่รู้ก็คงเข้าใจว่าเจ้าคิดจะมาหยามหน้าข้าฟู่จาวหนิง แต่คนที่ไม่รู้ คงคิดว่าบ้านเจ้ามีใครตายไปแล้ว"

"พรวด!"

ไม่รู้ว่าใครกลั้นเสียงหัวเราะไม่อยู่ก่อนกัน แต่ครู่เดียวก็ทำให้กลุ่มคนอดกลั้นไม่อยู่จนหัวเราะร่าขึ้นมา

ก็จริงที่ว่าวันนี้รัชทายาทเซียวต้องแต่งงาน แต่ทำไมยังใส่ชุดสีอย่างกับพระจันทร์ขาว?

"ข้อสาม พอท่านมาถึงก็ตำหนิข้าที่ปลดผ้าคลุมหน้าชุดเจ้าสาวขาด แต่กลับไม่ถามเลยว่าใครเป็นคนทำ ทำไมกันคนลงมือได้เกียรติ แล้วคนถูกกระทำต้องไร้เกียรติหรือ? จุ๊ๆๆ การสั่งสอนในตระกูลเซียวของพวกท่านมันเยี่ยมเสียเหลือเกิน!"

"ข้อสี่ คู่หมั้นของท่านยืนอยู่ทางนี้ แต่ท่านกลับรีบไปโอบกอดปลอบโยนหลี่จื่อเหยาอยู่นั่นล่ะ ชายหญิงไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวกันท่านไม่เคยเรียนมาหรือ หลี่จื่อเหยามาขวางเกี้ยวเจ้าสาวข้ากลางถนนทำลายงานมงคลในวันนี้ ท่านไม่โกรธไม่เคือง แถมยังเอาแต่เรียกจื่อเหยา จื่อเหยาอยู่นั่น พวกท่านสนิทกันขนาดนี้ ให้ข้ามอบเกี้ยวเจ้าสาวให้แล้วเท่านแบกนางกลับไปเลยดีไหม?"

ทุกครั้งที่ฟู่จาวหนิงพูด หน้าของเซียวเหยียนจิ่งก็ดำทะมึนขึ้นเรื่อย

สายตาชาวบ้านรอบๆ ก็เหมือนหนามมาทิ่มแทงหลังเขาจนแทบจะยืนไม่อยู่แล้ว นังแพศยาฟู่จาวหนิงวันนี้ทำไมปากคอถึงได้เราะร้ายคล่องแคล่วเสียขนาดนี้กัน?

"สรุปอย่างที่พูดไป" ฟู่จาวหนิงมองเซียวเหยียนจิ่ง จากนั้นก็เหลือบมองหลี่จื่อเหยา "เจ้ามันก็แค่ผู้ชายขยะชีกอ ไร้สำนึก ไร้คุณธรรม ที่ไม่ได้รู้เรื่องพิธีการอะไรเลยคนหนึ่ง กับคุณหนูใหญ่หลี่ที่ใช้ชื่อหมอเทวดาของบิดามาเกะกะระรานโดยไร้ยางอายข้างกายท่านคนนี้ เป็นคู่ฟ้ามาโปรดจริงๆ พอเอาพวกท่านมาอยู่ด้วยกันถึงถือว่าสวรรค์ยังมีจิตใจคุณธรรม ที่ไม่ปล่อยให้พวกท่านออกไปทำร้ายผู้คนอีก"

"ก่อนหน้านี้ข้าตามืดบอดไปเองที่ไปพัวพันกับเจ้า ข้าขอโทษด้วย แต่ตอนนี้ข้าตาสว่างแล้ว น้ำในหัวก็เทออกไปจนหมดแล้วด้วย การหมั้นหมายของตระกูลเซียวกับฟู่ถือว่าจบแค่นี้ จากนี้ไปเจ้ากับข้าก็แยกเดินคนละทาง ถ้าวันหนึ่งบังเอิญมาเจอกัน ท่านก็อยู่ห่างข้าเสียหน่อยนะ!"
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Commentaires (2)
goodnovel comment avatar
Sayfon Khamchan
เยียมมากน่าอ่านมากคะ
goodnovel comment avatar
Guy Guy
ดูไปไปถึงตอน53แล้วทำไมให้ดูตอน50-52งงมาดเลยแย่ละ
VOIR TOUS LES COMMENTAIRES

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2436

    ฟู่จาวหนิงคิดไว้ดีแล้ว ถ้าหากคนของลัทธิเทพทำลายล้างจะบุกเข้ามาในเมืองหลวงจริง เช่นนั้นนางก็จะใช้พิษใช้วิธีของอีกฝ่ายโต้คืนอีกฝ่ายกลับไปถึงอย่างไรพวกเขากับลัทธิเทพทำลายล้างเดิมทีก็เป็นศัตรูคู่แค้นอยู่แล้ว ไม่มีทางจะยิ้มแล้วลืมความบาดหมางกันได้ ดังนั้นควรแก้แค้นก็ต้องแก้แค้น ควรจะขัดขวางไม่ให้พวกเขาเข้าเมืองก็ต้องขวางไว้"ยังต้องรวบรวมมาอีกหรือ?" ถังอู๋เยว่ถาม"อู๋เยว่ เอาที่เจ้ารวบรวมมาแล้วส่งมาให้ข้าก่อน"ผู้อาวุโสจี้ไม่เห็นด้วยหน่อยๆ "ตอนนี้เจ้าตั้งท้องอยู่นะ จะมาจัดการเรื่องยาพิษได้ยังไงกัน? ถ้าเผื่อเกิดอะไรขึ้นล่ะ ใครจะรับผิดชอบไหว?"พอได้ยินผู้อาวุโสจี้พูดแบบนี้ ถังอู๋เยว่ก็พยักหน้า รู้สึกว่าไม่ควรเอาผงพิษเหล่านี้ส่งให้กับฟู่จาวหนิง"พี่หญิงจาวหนิง ไม่งั้นก็สอนพวกนี้ให้ข้าแล้วกัน ข้าจัดการให้"ถังอู๋เยว่ก็รู้สึกว่าร่างกายของฟู่จาวหนิงตอนนี้ไม่ควรมาจัดการเรื่องผงพิษจริงๆผงนี่นะ ถ้าหากไม่ระวัง แค่จามนิดเดียวก็ฟุ้งขึ้นแล้ว แล้วถ้าสูดเข้าไปตอนฟุ้งกระจายล่ะ?"ไม่หรอก เจ้าสิ่งนี้ต้องให้ข้าจัดการเอง"ฟู่จาวหนิงจะเอาของพวกนี้เข้าไปในห้องเภสัช ตอนนี้สอนถังอู๋เยว่ไม่ได้ยิ่งไป

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2435

    ความคิดนี้ของฟู่จาวหนิงไม่ใช่การคิดไปเองอย่างไร้สาระต้องรู้ว่าคนของลัทธิเทพทำลายล้างวางแผนกันมาก่อนหลายปีแล้ว ในเมื่อตรวจสอบพบว่าเซียวหลันยวนเป็นไปได้มากที่จะเป็นสายเลือดราชวงศ์ตงฉิงนานแล้ว ต้องการเอาชีวิตเขาแต่เนิ่นๆ จึงวางแผนเอาไว้มากมายแล้วในช่วงหลายปีนี้ จะไม่มายังตงฉิงได้อย่างไร?พวกเขาอาจจะคนน้อย ไม่เหมือนเซียวหลันยวนที่สามารถสั่งกององครักษ์เข้ามาได้ แต่การจะเดินไปตามเส้นทางที่เดินได้ หาที่มั่นเหมาะปักหลักตั้งค่าย ก็ยังมีความเป็นไปได้สูงอยู่"ตั้งหลายปีแล้ว การที่พวกเขาจะหาวังจักรพรรดิกับวังใต้ดินเจอก็เป็นเรื่องปกติ"ฟู่จาวหนิงเอ่ยต่ออีก "ลัทธิเทพทำลายล้างหลังถูกกวาดล้างยังฟื้นคืนชีพกลับมาไดั แล้วยังคอยสร้างความปั่นป่วนอยู่เป็นระยะอีก อธิบายได้ว่าในลัทธิยังมีคนที่เก่งกาจอยู่ ดังนั้น แม้ว่าวังจักรพรรดิและวังใต้ดินจะมีค่ายกลและกลไกอยู่มากมาย จะซ่อนเร้นไว้มากเพียงใด ก็ย่อมมีคนหาเจอและเข้าไปได้แน่"เซียวหลันยวนพยักหน้า "เจ้าพูดถูกต้อง""ท่านยังจำคนพวกนั้นของตระกูลถังได้ไหม? สายเลือดราชวงศ์ตงฉิง ช่วงนี้คือตัวท่าน แต่ก็ไม่ใช่ว่ายังมีคนอื่นอยู่อีกหรือ?"ดังนั้น กลไกของวังจักรพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2434

    พวกเซียวหลันยวนอันที่จริงก็รอลัทธิเทพทำลายล้างมาตลอดลัทธิเทพทำลายล้างก่อนหน้านี้ทำเรื่องไว้มากมาย เห็นได้ชัดว่าพุ่งเป้ามาที่ตงฉิงแห่งนี้ดังนั้นพอมาถึงตงฉิงตั้งนานสองนาน แต่กลับไม่เจอคนของลัทธิเทพทำลายล้างเลย พวกเซียวหลันยวนรู้สึกแปลกใจมากนี่มันไม่ปกติตอนนี้ ในที่สุดก็มีคนมาแล้วแทบจะไม่ต้องคิดเลย เซียวหลันยวนรู้สึกว่า คนที่เข้ามาก็คือลัทธิเทพทำลายล้างแน่นอน"ถ่ายทอดคำสั่งออกไป คนทั้งหมดเตรียมตัวให้พร้อม ป้องกันประตูเมืองให้แน่นหนา"เซียวหลันยวนออกคำสั่งทันที ส่วนตนเองก็ไปรื้อแผนผังวางกำลังป้องกันของเมืองหลวงออกมาครั้งนี้ ฝ่ายเรามาถึงไวกว่า เจอเมืองหลวงก่อนคนของลัทธิเทพทำลายล้าง มาถึงวังจักรพรรดิก่อน และยังสำรวจทำความเข้าใจเมืองหลวงจนปรุโปร่งแล้วกระทั่งว่า พวกเขายังสำรวจไปตามกำแพงเมืองสองรอบ และซ่อมแซมจุดที่ควรแก้ไขเรียบร้อยไปแล้วด้วยบนหอเมืองเองก็ถูกองครักษ์มังกรครามดูแลอยู่ในวังใต้ดินทั้งสองจุดก็หาอาวุธพบแล้ว หรือก็คืออย่างน้อยพวกเขายังมีอาวุธที่สำหรับชดเชยเข้ามาได้นอกเหนือจากนี้ พวกเขาเองก็ปรับตัวกับสภาพอากาศของตงฉิงได้แล้ว ซ้ำยังได้คนมีความสามารถแปลกหน้ามาอีกร้อ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2433

    ราชองครักษ์ในตอนนั้น กลุ่มหนึ่งคุ้มครองจักรพรรดินีเดินทางไปเป็นทูตที่ต้าชื่อ ราชองครักษ์ที่เหลือ แบ่งกลุ่มนำประชาชนหนีตายนอกเหนือจากนั้น ยังมีเข้าทำศึกสงครามอีกด้วยตอนนั้นมีทัพกบฏกองหนึ่ง ไม่เห็นภัยธรรมชาติอยู่ในสายตา แต่คิดจะก่อกบฏขึ้นในช่วงวุ่นวายนี้ราชองครักษ์เพื่อให้ประชาชนมีเวลาในการหลบหนีเอาชีวิตรอด ก่อนหน้าที่ภัยพิบัติจะมาถึง ก็ไม่สนใจชีวิตตนเอง เข้าต่อต้านกับทัพกบฏ ส่วนใหญ่สู้จนตัวตายต่อมา ราชองครักษ์ที่คุ้มกันวังเหล่านี้ก็ออกไป เก็บเสื้อเกราะของสหายร่วมรบกลับมาซึ่งก็คือที่อยู่ตรงหน้านี้เซียวหลันยวนยื่นมือไปกำกระบี่ยาวเล่มหนึ่งในนั้น หยิบขึ้นมา และราวกับได้ยินเสียงโห่ร้องคำรามในสนามรบครั้งนั้นและยังสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังของตงฉิงในตอนนั้นด้วย ภัยพิบัติและหายนะจากมนุษย์ ถอยจนไม่มีทางถอย ไม่ว่าจะสู้หรือป้องกัน ก็มีแค่หนทางตายเท่านั้น"ท่านอ๋อง ที่นี่ยังมีแผนผังป้องกันสงครามของตงฉิงด้วยขอรับ" ชิงอีพบกล่องใบหนึ่งพอเปิดกล่องออก ด้านในมีแผนผังวางกำลังป้องกันหนาเป็นกล่อง ในวังจักรพรรดิ ในเมืองหลวง รวมถึงเมืองอื่น กระทั่งเมืองอั้นก็ยังอยู่ในนี้ถึงแม้ตงฉิงจะไม่มีแล้ว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2432

    กระดูกขาวกองใหญ่พอเหลือบมองไปก็ทำเอาคนรู้สึกขยาดกลัวแล้วถ้าจะบอกว่าตกตะลึงก็คงดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่พวกเขาตอนนี้ก็มีความรู้สึกนี้ในใจจริงๆกระดูกขาวหลายกองเหมือนจะรักษาอยู่ในท่าเดิมด้วยนี่มีแค่ความเป็นไปได้เดียว ก็คือตอนที่พวกเขาตายล้วนนั่งกันอยู่ที่นั่น ไม่ขยับ ไม่ดิ้นรน ไม่หนีเอาตัวรอด แค่นั่งอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งตายไปเหล่านี้จะใช่คนในวังจักรพรรดิแต่เดิมไหมนะ?เสื้อผ้าบนตัวพวกเขายังสวมกันอยู่เพียงแต่กระดูกมือและกะโหลกศีรษะที่โผล่ออกมาชุดเหล่านั้น ดูแล้วล้วนประณีตงดงามมีหลายคนที่เสื้อผ้าเป็นแบบเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมองออกว่าเป็นชายหรือหญิงได้จากบนเสื้อผ้าเซียวหลันยวนนึกถึงหนังสือที่เกี่ยวข้องกับตงฉิงที่ตนเองเคยอ่านมา รูปภาพด้านบน วาดคนรับใช้ในวังจักรพรรดิตงฉิงไว้ ตอนนี้พอเห็นเครื่องแบบเหล่านี้ ก็เหมือนมีบางส่วนที่เทียบกันได้อยู่"อย่าแตะต้องพวกเขา" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นทุกคนขานรับพร้อมกันทันที"นับจำนวนคนคร่าวๆ มาหน่อย" เซียวหลันยวนสั่งออกมาอีกทุกคนก็เดินออกไปทันที เริ่มนับขึ้นมาจำนวนคนที่นี่มีเยอะมากยิ่งไปกว่านั้นล้วนอยู่ในท่านั่งกันหมดจริงๆ แน่นอนว่ามี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2431

    ความสูงของเจดีย์หยกขาว สำหรับเซียวหลันยวนแล้วไม่ใช่เรื่องยากเท่าไรเพราะบนกำแพงนั้นมีรูกำแพงอยู่มากมาย ไม่ใช่พื้นเรียบที่ไม่มีจุดส่งแรงด้วยวิชาตัวเบาของเขา แค่ลอยตัวเบาๆ ก็ขึ้นไปได้แล้ว"ข้าจะขึ้นไปดู พวกเจ้าก็ระวังตัวกันหน่อย"เซียวหลันยวนพูดพลางจรดปลายเท้ากับพื้น ตัวคนก็ทะยานลิ่ว พุ่งลอยออกไปยังกำแพงหินฝั่งตรงข้ามตอนที่คนไปถึงเบื้องหน้ากำแพงหิน จึงเปรียบเทียบกันได้ และมองออกว่า กำแพงหินนั้นสูงมาก แต่เซียวหลันยวนใช้การแตะเบาๆ ที่รูหินเพื่อส่งตัวออกไป เขาพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานก็มาถึงข้างเจดีย์หยกขาวแล้วเขาหันกลับมาชำเลืองมองและก็โชคดีที่หันมามองเพราะตอนที่หันกลับมามองจึงพบว่าบนประตูทองแดงนั้นมีการชี้ไปสองจุด ทางหนึ่งคือซ้าย เขียนว่าเป็น อีกด้านคือขวา เขียนว่าตายก่อนหน้านี้ตอนที่เขายืนอยู่หน้าประตูมองไม่เห็นตำแหน่งนี้เลย และตอนนี้พวกของเจ้าอารามยืนอยู่ที่นั่นก็ไม่มีใครมองเห็นเลยสักคนอธิบายได้แค่ว่าการชี้ทางนี้คือมีไว้ให้คนที่อยู่ตรงนี้ดูเท่านั้น และมีไว้สำหรับจุดเปิดกลไกนี้โดยเฉพาะถ้าหากมองไม่เห็น แล้วหมุนเจดีย์ขาวนั่นส่งเดช เป็นไปได้มากว่าจะไปเปิดกลไกเ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status