ไม่ค่อยเหมือนกับที่เคยได้ยินข่าวลือมาแต่ก่อนเลย"ข้าพูดถึงไหนแล้วนะ?"ฟู่จาวหนิงขบคิดอย่างละบากขึ้นมาลู่ทงยกมือขึ้น "ข้ารู้ข้ารู้ พูดถึงคนใช้ของเจ้าสุนัขคนนั้น!""อ่าใช่ๆๆ"ฟู่จาวหนิงยกนิ้วโป้งให้เขา ลู่ทงเองก็ดูสนุกขึ้นมาเสียแล้วลูกพี่หนิงนี่สนุกดีจริงๆ!"คนใช้ของเจ้าสุนัขคนนั้นจะเอาภาระรับผิดชอบมาแบกไว้เอง เพียงแต่ทุกคนที่มีสมองเสียหน่อยก็จะรู้ว่า เรื่องนี้คนที่ได้ประโยชน์ตอนหลังสุด ถึงเป็นไปได้ว่าจะเป็นคนที่อยู่หลังม่าน หลังจากเรื่องของแม่นางอันถูกลือไปในเมืองหลวง ทั่วทั้งเมืองมีใครสักคนพูดบ้างไหมว่านางสุดท้ายต้องออกเรือนกับต้วนจ้ง?ทุกคนฟังแล้วใจสั่นกึกขนาดอี้ไห่เองก็ยังได้สติขึ้นมาจริงด้วย ไม่มีเลย!ทิศทางการปล่อยข่าวลือ ล้วนตรงไปที่ตนเองกับอ๋องเจวี้ยนทั้งนั้นพวกเขาไม่ได้คิดถึงต้วนจ้งเลย!เพราะอี้ไห่ตนเองไม่เคยคิดจะให้อันชิงกับต้วนจ้งไปอยู่ด้วยกันนั่นไง เขามองอันชิงเป็นเหมือนสิ่งของที่ตนเองครอบครองไปแล้ว แล้วจะให้นางไปข้องเกี่ยวกับคนใช้ของตนเองทำไม?ตอนนี้จึงมีช่องโหว่ขึ้นมาแล้ว!เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิงด้วยสายตาลึกหยั่งขนาดเขาก็ยังไม่ได้คิดถึงมุมมองนี้มาก่อ
ฮองเฮารู้สึกอึดอัดแน่นหน้าอกขึ้นมา แน่นเสียจนเกือบจะตาเหลือกหงายหลังสลบไปน่าโมโหมันน่าโมโหเสียจริง!ฟู่จาวหนิงนางกล้าดีอย่างไรกัน!นางเป็นฮองเฮานะ!เดิมทีก็เป็นพระมารดาแห่งใต้หล้า อยู่ใต้เพียงคนเดียวแต่อยู่เหนือคนนับหมื่น คนอื่นเวลาพูดกับนางก็ยังต้องเคารพยำเกรง แล้วฟู่จาวหนิงมาบอกว่ายาที่นางรู้จักมันเป็นยาชั่วร้าย เป็นยาสกปรกที่เอาไว้ทำเรื่องเลวๆ!ถึงแม้นี่จะเป็นเรื่องจริง แต่ใครบ้างที่กล้าถามมาตรงๆ เช่นนี้?องค์จักรพรรดิเห็นฮองเฮาโมโหจนหน้าแดงก่ำ จึงรีบตะคอกใส่ฟู่จาวหนิงคำหนึ่ง "พระชายาอ๋องเจวี้ยน เจ้านี่พูดจาอย่างไรกัน?"องค์จักรพรรดิมาปกป้องภรรยาแล้ว เซียวหลันยวนก็หัวเราะเรียบๆ เอ่ยขึ้นบ้างแล้วเช่นกัน"หนิงหนิงพูดผิดหรือไรกัน? ยาที่ลือกันไปทั้งเมือง พรรณนากันว่าเป็นยาสกปรก""นี่ มันก็ใช่นั่นล่ะ"องค์จักรพรรดิตะลึงงันรู้สึกตัวขึ้นมา พวกเขาเพราะอะไรถึงเดินตามจังหวะของฟู่จาวหนิงอยู่ตลอด?เขาหน้าขรึมลงอีกครั้ง "ตอนนี้พูดกันถึงแต่ยานี้ แล้วยังบอกว่าไม่สามารถถอนพิษได้ พระชายาอ๋องเจวี้ยนนางบอกว่าทำไม แต่ก็ยังพูดว่าพูดจนเหลวไหลหรือ?""ข้ากล้าพูดออกมา แน่นอนว่าเพราะข้ายืนยันได้น
"แน่นอนว่าไม่ใช่หาคนมาส่งเดช มีตัวเลือกที่เหมาะสมอยู่แล้ว ต้วนจ้ง เจ้าไม่ใช้คิดจะทำร้ายแม่นางอันหรอกหรือ?เจ้าทางนั้นยังมียาอยู่พอดี เดิมทีเขาก็มีความผิดอยู่แล้ว ตอนนี้ให้เขาทดลองชิมยาที่ตนเองซื้อมาสิ ข้าเชื่อว่าทุกคนคงไม่มีปัญหาใช่ไหม?"คนที่ใช้วิธีสกปรกคิดจะพรากพรหมจรรย์ของเด็กสาวคนหนึ่งเช่นนี้ ใครจะกล้ามีความเห็นกัน?สีหน้าอี้ไห่เปลี่ยนไปอันที่จริงเขาก็คิดจะปกป้องต้วนจ้งเอาไว้ ไม่เช่นนั้นก็ให้ต้วนจ้งแบกความซวยแทนเขาไปเลย แต่ในเมื่อต้วนจ้งแบกความซวยไปแล้ว เช่นนั้นก็แสดงประโยชน์ออกมาเสีย ลากเซียวหลันยวนกับอชิงลงน้ำไปให้หมดถ้าทำให้ฟู่จาวหนิงพิสูจน์ได้ว่าพิษมันถอนได้ เช่นนั้นก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้อะไรกลับมาเลยหรือ?"อ๋องเจวี้ยนคิดจะให้คนตั้งมากมายเห็นสภาพน่าเกลียดของต้วนจ้งหลังจากดื่มยาลงไปหรือ? คิดถึงเหล่าฮูหยินเหล่าคุณหนูกันบ้างไหม?"อี้ไห่เอ่ยเสียงขรึมมองเซียวหลันยวนคนอื่นเองก็รู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองนัก ต้องมาดูปฏิกิริยาของคนที่กินยาสกปรกพรรณนั้นลงไป แล้วหน้าบางๆ ของเหล่าหญิงสาวเหล่าฮูหยินจะรับไหวหรือ?ร่างกายของอันชิงกำลังสั่นเทาตอนนี้นางเองก็รู้แล้ว คนทั้งเมืองเองก็
ต้วนจ้งมือเท้าแม้จะถูกตีจนหัก แต่นั่งบนถื้นบิดไปมาก็ยังทำได้อยู่เขาไม่ถูกอนุญาตให้เข้าตำหนัก แต่ถูกกรอกยาอยู่ในสวนด้านนอกคนทั้งหมดล้วนออกจากตำหนัก และเห็นว่าไม่ห่างออกไปนัก ต้วนจ้งยังไม่รู้ว่าตนเองถูกกรอกอะไรลงไป แต่เขารู้ว่านี่เข้าวังมาแล้ว อี้ไป่จะต้องอยู่แน่นอนองค์จักรพรรดิฮองเฮาเองก็อยู่ด้วยเขารู้สึกว่าถ้าตนเองแสดงท่าทีออกมาได้ดีหน่อย บางทีอี้ไห่อาจจะช่วยเหลือเขาได้เพราะในจวนอ๋องเจวี้ยน เขาประเดี๋ยวก็ถูกกรอกน้ำประหลาดๆ ไปบางส่วน หลังจากดื่มแล้วก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรพิเศษดังนั้นตอนนี้ต้วนจ้งเองก็คิดไม่ถึงว่านี่จะเป็นยาใจละเมอเขารู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนน่าจะทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว กระทั่งยังรู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมาด้วย"เมื่อครู่หมอหลวงเองก็ตรวจสอบยาแก้วนั้นแล้ว นั่นเป็นแก้วน้ำขนาดที่แม่นางอันดื่มไปในเขาเมฆอรุณ ดังนั้นปริมาณยาก็น่าจะใกล้เคียงกัน"ฟู่จาวหนิงมองมองอันชิง ส่งสายตาปลอบประโลมให้กับนางอันชิงตอนนี้กลับมั่นคงขึ้นมากแล้ว นางเชื่อว่าฟู่จาวหนิงจะต้องล้างความอัปยศบนตัวนางได้แน่นอน"พวกท่านลองดูกันเลย ลองดูว่าต้วนจ้งจะทำท่าทางน่าเกลียดอย่าที่พวกท่านคิดหรือไม่"เมื่อครู
จะว่าไป ต้วนจ้งกรอกยานั้นไป เขาไม่มีทางให้ต้วนจ้งมีโอกาสแตะต้องตัวของฟู่จาวหนิงเด็ดขาดมีคนนำถังออกมาเตรียมไว้ และยังหิ้วน้ำมาอีกต้วนจ้งเห็นฟู่จาวหนิงที่งดงามสวยสง่า สองตาก็แดงก่ำขึ้นทันที จ้องนางราวกับหมาป่าตัวหนึ่งที่จะฉีกท้องของนางออกกิน"ปิดตาเขาไว้" เซียวหลันยวนพอเห็นสายตาเขาเช่นนี้ สีหน้าก็ขรึมลง สั่งคนในวังให้เอาผ้าดำเข้ามาถ้าไม่ใช่ตอนนี้ไม่เหมาะสม เขายังคิดจะควักดวงตาทั้งสองของต้วนจ้งออกมาด้วย!สายตาของเขาที่มองฟู่จาวหนิง เขาล้วนรู้สึกว่าค่อยสบายทั้งนั้นฟู่จาวหนิงมองเขานี่กำลังทำอะไรกัน?ต้วนจ้งแค่มองนางก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับนางนี่ แต่ว่านางเองก็ไม่ได้เสนอความเห็นอะไร ไม่ได้ห้ามด้วยต้วนจ้งถูกผูกดวงตาไว้ ถ้ามองไม่เห็นแล้ว แต่เขาก็ยังได้กลิ่นหอมรางๆ ของหญิงสาวอยู่ จึงดิ้นไปมาอย่างเอาเป็นเอาตายเหล่าเจ้าหน้าที่เองก็มองอย่างไม่ค่อยเป็นสุขนักฟู่จาวหนิงหยิบเข็มออกมา ให้คนกดต้วนจ้งไว้ และผู้คนก็เห็นว่าวิธีของนางรวดเร็วมาก ยกมือปักเข็ม ไม่ได้แตะโดนตัวต้วนจ้งเลย ก็จัดการแทงเข็มลงไปเต็มตัวเขาแล้วและเข็มทุกเล่มนางก็ดีดๆ อยู่ครู่หนึ่ง ผ่านไปพักหนึ่งจึงดึงเก็บเข็มลงมา
ออกมาจากในวังอันเหนียนพาอันชิงมาถึงเบื้องหน้ารถม้าอ๋องเจวี้ยนพี่น้องสองคนคารวะอย่างลึกซึ้งกับฟู่จาวหนิง"อ๋องเจวี้ยน พระชายา หลังจากนี้หากมีอะไรที่จะเรียกใช้ตระกูลอัน ขอโปรดกำชับมา อันเหนียนเอ่ยขึ้นอย่างตั้งใจ"เป็นอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนที่ช่วยน้องสาวของนาง ช่วยตระกูลอันเอาไว้"ล้วนเป็นคุณความงามของนางทั้งสิ้น"เซียวหลันยวนมองไปทางฟู่จาวหนิง"ถ่อมตัวขนาดนี้เลยหรือ? ถ้าไม่ใช่เจ้าพาต้วนจ้งมา แล้วยังหาใจละเมอมาได้ แล้วยังเป็นธุระลากเขาเข้ามาในวังอีก เรื่องคงไม่ได้ราบรื่นเช่นนี้"ฟู่จาวหนิงเองก็คงไม่เอาคุณความดีทั้งหมดแบกเอาไว้บนบ่าตัวเองหรอกเรื่องนี้ ก็เป็นเพราะเขาช่วยจริงๆเซียวหลันยวนกล้าแบกแรงคุกคามที่มาจากองค์จักรพรรดิและฮองเฮา คนอื่นทำไม่ได้หรอกถ้าหากไม่มีเขา เรื่องราวคงไม่ราบรื่นเช่นนี้"ท่านอ๋องกับพระชายาเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องแยกกันขนาดนี้หรอก สรุปคือ บุญคุณของทั้งสองคน อันเหนียนจดจำไว้ในใจแล้ว"อันเหนียนมองพวกเขาสองสามีภรรยา ยิ้มแผ่วเบาขึ้นมา"ขอบคุณอ๋องเจวี้ยน ขอบคุณพระชายา" อันชิงมองฟู่จาวหนิง ดวงตาแดงก่ำ"ไม่ต้องขอบคุณแล้ว พวกเจ้าไม่ใช่มาส่งขอ
"แน่นอนว่าต้องมาจากที่ไปฝากตัวเป็นศิษย์กับอาจารย์มาน่ะสิ แต่ว่าอาจารย์ข้าเป็นพวกชีพจรลงเท้า แล้วยังเคยบอกกับข้าว่า ถ้ายังไม่ได้เป็นศิษย์อาจารย์กันจริงๆ ก็ห้ามให้ข้าเปิดเผยเรื่องที่รู้เรื่องแพทย์นี้"ฟู่จาวหนิงกลอกตา ปั้นเรื่องขึ้นมานางรู้ว่าฟู่จาวหนิงจะไปตรวจสอบนาง แต่คงตรวจสอบมาไม่ได้หรอกว่านางเรียนแพทย์มาจากใคร ดังนั้นนางจึงพูดให้ลึกลับหน่อย เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้หรอก"ดังนั้นก่อนหน้านี้เจ้าคือเอาแต่เสแสร้งหรือ?""เสแสร้ง? บางส่วนใช่แต่บางส่วนก็ไม่ใช่""ก่อนหน้านี้ที่พูดไว้ในตำหนัก เป็นเรื่องจริงหรือ?""ท่านถามเรื่องไหนล่ะ?""ที่บอกว่าเจ้ารู้สึกดูถูกเรื่องของเซียวเหยียนจิ่ง" เซียวหลันยวนยังรู้สึกสนใจกับเรื่องที่นางก่อนหน้านี้ไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งเพื่อจะแต่งงานกับเขาเขารู้สึกว่า น่าจะเพราะเขาไม่สามารถยอมรับได้ว่าฟู่จาวหนิงสมัยก่อนสายตาย่ำแย่ขนาดนั้นตอนนี้ดูแล้ว ฟู่จาวหนิงไม่ใช่คนที่จะลุ่มหลงในตัวเซียวเหยียนจิ่งเลยนี่ต่อให้นางชอบ ถึงอย่างไรก็ยังต้องชอบผู้ชายอย่างเขาสิถึงจะถูก"เรื่องนี้ต้องให้พูดอยู่ตลอดด้วยหรือ?"ฟู่จาวหนิงปิดปากหาว ขี้เกียจจนไม่อยากจะพูดคุยแล้ว นางง่วงส
"พวกเจ้ารู้ไหม? ว่าผ้าที่นำมาทอกระโปรงตัวนั้นมันยิ่งใหญ่แค่ไหน คิดว่าเซียวหลันยวนจะต้องมอบให้คนในดวงใจเขาแน่ๆ หรือก็คือเตรียมไว้สำหรับพระชายาที่แท้จริงของพวกเจ้าหลังจากนี้"ฟู่จาวหนิงคิดถึงสายตาริษยาตอนที่พวกของฮองเฮาเห็นจันทราโน้มเมืองอยู่บนตัวนางขึ้นมาเนื้อผ้าที่นำมาทอชุดกระโปรงนั้นได้มาอย่างยากลำบากมาก เป็นสิ่งที่ไท่ซ่างหวงส่งต่อมาให้เซียวหลันยวน เซียวหลันยวนตัดทอชุดนี้ตามรูปร่างของแม่นางบางคน คิดแล้วน่าจะเป็นคนในใจเขากระมังเพียงแต่เขาซ่อนนางผู้นั้นเอาไว้มิดชิดมาก ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้บางที อาจจะเป็นซ่งอวิ๋นเหยา?ครั้งนี้นางอยู่ในงานเลี้ยงไม่เห็นซ่งหยวนหลินเลย แต่ซ่งหยวนหลินก็น่าจะเจ้าคิดเจ้าแค้นนางอยู่ตลอด รอจนซ่งอวิ๋นเหยากลับมาถึงเมืองหลวง ก็ยังไม่รู้ว่าจะเข้ามาหาเรื่องนางไหมฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าการเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนที่ไม่จริงไม่ปลอมแบบนี้ดูยุ่งยากเสียเหลือเกินนางเองก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะไปเด็ดดอกท้อของเซียวหลันยวนหรอก แต่ว่าถ้าไปแตะเข้ากับดอกท้อของเขาเข้า นางก็รู้สึกว่ามันน่ารำคาญมาก"พระชายา ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงถามฟู่จาวหนิงขึ้นอย่างระม
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม
เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก
คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ
พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ