"คุณหนู!"สืออีในที่สุดก็ตามมาทัน อันที่จิรงก็ไม่ได้นานนักคำนวณดูแล้วเขาก็มาช้าแค่นิดเดียว เพราะก่อนหน้านี้ถูกเล่นงานจนบาดเจ็บภายใน ตอนที่ใช้งานกำลังภายในจึงมีอุปสรรคอยู่บ้างตอนที่เข้ามาเขาก็เห็นฟู่จาวหนิงกำลังใช้ปลายเท้าเตะไปที่คนชุดเขียว นี่มันน่าตกตะลึงเสียเหลือเกิน"ไม่เป็นไร เขาแค่สลบไปน่ะ น่าจะหลับไปสักสองวันถึงตื่นขึ้นมา"ฟู่จาวหนิงดูมั่นอกมั่นใจกับยาที่ตนเองสกัดขึ้นมาก"อาวุธลับที่ท่านใช้หรือ?" สืออี ตกตะลึงอย่างมากเขากับสือซษนล้วนรับมือคนชุดเขียวนี้ไม่ไหว ฟู่จาวหนิงคนเดียวกลับรับมือเขาไว้แล้ว อาวุธลับของนางร้ายกาจขนาดนี้เลยหรือ?"ใช่แล้ว"ฟู่จาวหนิงโค้งตัวลงดึงเข็มยาชาบนแผ่นหลังคนชุดเขียวโยนเข้าไปในห้องมิติเรียบร้อยต้องกลบร่องรอยให้มิด"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นมา ค้นยาออกมาเม็ดหนึ่งยื่นออกไป "กินลงไป"สืออีไม่ลังเลแม้แต่น้อย รับแล้วกลืนลงไปทันทีพอยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งลงไป เพียงไม่นานในตันเถียนก็มีความอุ่นวาบ ทำให้เขาอบอุ่นขึ้นมาซู๊ดยานี้ของคุณหนูดีต่ออาการบาดเจ็บภายใน ฤทธิ์ของยานี้ดีมากจริงๆ!แม้เวลาสถานที่จะไม่ถูกต้อง แต่สืออีก็อดถามขึ้นมาไ
ชายหนุ่มคนนี้มีวรยุทธ์ทั้งตัว แต่กลับยอมเป็นทหารอยู่ข้างกายซ่งอวิ๋นเหยา สวมเครื่องแต่งกายก็ไม่ใช่องครักษ์ของจวนตระกูลซ่งนางเดาว่าคนผู้นี้ยอมติดตามมาคุ้มครองข้างกายซ่งอวิ๋นเหยาเอง สิ่งที่เขาพูดเมื่อครู่ ก็ยกซ่งอวิ๋นเหยาเหมือนเป็นนางฟ้าในสายตาไปแล้ว ต่อให้จะชอบนางหลงนาง แต่ก็แค่คิดจะทำให้ความปรารถนาของนางเป็นจริงเท่านั้น ช่วยนางทำสิ่งที่อยากทำทั้งหมดคนเช่นนี้ อาจจะรู้ความลับขอซ่งอวิ๋นเหยาอยู่ไม่น้อย ซ่งอวิ๋นเหยาเองจะต้องเชื่อใจตัวเขาอย่างแน่นอนดังนั้น คนผู้นี้ส่งมาหน้าประตูแล้ว ก็อย่าเห็นว่าข้าไม่เกรงใจนางก็แล้วกัน จะต้องง้างของจากปากเขาออกมาให้ได้!จวนซ่งหลังจากซ่งอวิ๋นเหยาบอกเรื่องราวที่ตนเองรู้ออกมาจนหมดแล้ว เซียวหลันยวนก็เตรียมจะออกไป"หลันยวน"ซ่งอวิ๋นเหยาเรียกเขาอย่างร้อนรนในใจนางร้อนราวกับไฟสุม เห็นๆ อยู่ว่าพูดอะไรไปตั้งมากมาย เขาเองก็ยืนอยู่ตรงหน้าต่างนั่นพักหนึ่งแล้ว ทำไมเขาจึงไม่รู้สึกมึนหัวหรืออะไรเลย?"ข้าเคยบอกกับเจ้าแล้ว พวกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ดังนั้นเจ้าอย่าเรียกชื่อข้าตรงๆ อีก ข้ากลัวว่าพระชายาจะหึงหวงเอา"คำพูดของเซียวหลันยวนทำให้ซ่งอวิ๋นเหยาเหมือนถูก
ต่อให้เซียวหลันยวนไปแล้ว นางก็ยังทำเป็นเหมือนเขายังอยู่ในนี้ รอเซี่ยวจวินกลับมาก่อน นางจะให้เขาแต่งตัวเป็นเซียวหลันยวน แล้วค่อยล่อฟู่จาวหนิงให้มาเห็นฉากนี้ นางวางแผนไว้หมดแล้ว จะมาพ่ายแพ้ก่อนได้รับชัยไม่ได้!เพียงแต่เดิมทีนางอยากจะถวายตัวออกไปจริงๆ ตอนนี้เซียวหลันยวนไม่ติดกับ นางจึงทำได้แค่ให้เซี่ยวจวินมาร่วมมือเสแสร้งด้วยกันดังนั้นตอนที่สือซานเข้ามาหาเซียวหลันยวนก็คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะพาองครักษ์ลับออกไปพอดี ซ่งอวิ๋นเหยาเองก็เรียกองครักษ์เข้ามาแล้ว ปิดประตูจุดเทียนในห้องสร้างภาพว่านางกับเซียวหลันยวนยังอยู่ด้วยกันขึ้นมาสือซานมองเห็นเซียวหลันยวน กลัวว่าสืออีกับฟู่จาวหนิงจะเกิดปัญหา จากนั้นก็หมุนตัวไล่ตามพวกเขาออกไปเซียวหลันยวนหลังจากออกจากจวนซ่งก็กลับจวนอ๋องทันที รีบเดินตรงไปยังเรือนเจียนเจียเพื่อหาฟู่จาวหนิงในเรือนมืดมิดเงียบสนิท เขาตบประตู"ฟู่จาวหนิง เปิดประตู"ประตูเรือนข้างเปิดออก หงจั๋วรีบเดินออกมา "ท่านอ๋อง?"กลางค่ำกลางคืนเช่นนี้ ท่านอ๋องทำไมจึงมาเคาะประตูพระชายา? หรือว่าดวงตาของหงจั๋วเปล่งประกายขึ้นทันที แต่เพียงพริบตาก็สลายไป พระชายาไม่อยู่นี่นา เคาะไปแล้วมีป
กลิ่นอายที่เขาหายใจออกมาก็มีอุณหภูมิร้อนหน่อยๆ ด้วยไม่รู้ว่าตอนไหน เขาก้าวเดินเบาๆ ตรงไปยังถังอาบน้ำอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวตอนที่เขายืนอยู่ข้างถังอาบน้ำ ฟู่จาวหนิงที่แอบงีบไปจึงรู้ตัวขึ้นมา นางเบิกตาโพลง ขณะเดียวกันเข็มเงินเล่มหนึ่งก็พุ่งไปทางเซียวหลันยวนและเพราะพริบตานั้นที่นางยังไม่ทันลืมตาก็เคลื่อนไหวไปแล้ว ดังนั้นเซียวหลันยวนจึงตั้งตัวไม่ทัน ถูกเข็มนั้นแทงเข้าไปก่อนที่ร่างกายจะชาดิก เขาก็ปฏิกิริยาที่ทำออกมาจากใจของตนเองด้วยสัญชาตญาณ ร่างกายล้มพับไปในถังอาบน้ำซูม!ฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดจะลุกขึ้น แต่ถูกเขาล้มลงมาเช่นนี้ ก็ถูกกดกลับลงไปในถังอาบน้ำอีกน้ำซ่านกระเซ็นทั้งสองคนล้วนแช่ลงไปในถังอาบน้ำเซียวหลันยวนกดทับบนตัวนาง"ข้าเอง"ประโยคนี้ เขาเองก็เพิ่งจะมีโอกาสพูดออกมาแต่ก็สายไปแล้วเข็มเองก็แทงไปแล้ว น้ำเองก็เป็นฟองไปแล้วเพียงแต่ตอนนี้ จังหวะนี้ เซียวหลันยวนกลับไม่รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องไม่ดีด้วย ต่อให้เขาตอนนี้จะชาไปทั้งตัว ทำให้ใช้แรงไม่ได้ และใช้กำลังภายในไม่ได้ด้วยและไม่รู้ว่าเข็มของนางฉาบพิษอะไรไว้แต่ว่านางตอนนี้ก็ยังถูกกดไว้ด้วยกันคิดแล้วนางก็ยังเสียเ
"ท่านเพิ่งไปจวนตระกูลซ่งมาไม่ใช่หรือ?"เซียวหลันยวนฟังถึงจุดนี้ก็เข้าใจแล้ว"ทำไม ประหม่าหรือไร?" ฟู่จาวหนิงออกแรงผลักเขาสายตาเซียวหลันยวนจ้องมองนาง พอเห็นไฟโกรธในดวงตานาง ก็เหมือนจะมองเห็นถึงความน้อยเนื้อต่ำใจฟู่จาวหนิงเดิมทีก็ไม่คิดจะอ่อนแอ ความอ่อนแอเองก็ไม่ใช่ความเคยชินกับนิสัยของนาง แต่ไม่รู้ว่าเพราะสถานที่ไม่ถูกต้องเวลาไม่ถูกต้องหรือไม่ หรือว่าตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนสถานการณ์ไม่ถูกต้อง ความรุ้สึกน้อยใจก็หลั่งทะลักออกมา สะกดอย่างไรก็ไม่อยู่เซียวหลันยวนเห็นดวงตานางรื้นแดง ในดวงตาที่สวยงามนั่นเหมือนมีหมอกน้ำคลุมขึ้นมาชั้นหนึ่ง หัวใจเจ็บปวดขึ้นมาทันทีเสียงเขาแหบพร่า "หลังจากนี้จะไม่เจอนางอีกแล้ว""ท่านเจอไม่เจอก็เรื่องของท่าน ท่านมีคนในใจ อยากจะปกป้องนางอีกสักกี่ปีมันก็เรื่องของท่าน แต่ว่าท่านไม่ควรโกหกข้า ตอนนั้นข้าถามไปชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ? ถ้าท่านมีคนในใจเช่นนี้อยู่แล้ว ข้ารับรองว่าจะไม่ไล่ตามไม่คิดจะมาร้องขออภิเษกกับท่านด้วย ข้าไปหาคนอื่นก็พอแล้ว...อุ๊บ!"ริมฝีปากฟู่จาวหนิงถูกเขาอุดไว้แล้วอุณหภูมิน้ำเดิมทีก็ค่อยๆ เย็นลง แต่ไม่รู้เพราะอุณหภูมิบนตัวเซียวหลันยวนสูงไปหรือ
"เด็กผู้หญิง?""ข้ารับปากว่าจะปกป้องนาง หลายปีมานี้ข้าทำให้แล้ว แต่ก็ยิ่งรู้สึกว่าซ่งอวิ๋นเหยานั้นไม่ใช่นาง นิสัยของพวกนางไม่เหมือนกันเลย"เขาคิดจะไปดูห้องนอนซ่งอวิ๋นเหยาตอนกลางคืน"ครั้งนั้นนางบอกว่า ในถ้ำภูเขาที่ขมุกขมัวนางเองก็ไม่กลัว เพราะนางอยู่คนเดียวมาตลอด มีอยู่ห้องเดียว โล่งๆและเรียบง่าย"ฟู่จาวนหิงพบว่าสมองฟู่จาวหนิงตอนนี้ไม่ค่อยชัดเจนแล้ว จึงพลิกฝ่ามือดึงเข็มเล่มหนึ่งออกมาจากในห้องมิติทันทีกัดฟันให้หัวของเขากดอยู่บนหลังคอนางเพื่อพิง"หลายวันนี้ รู้สึกว่าซ่งอวิ๋นเหยาดูไม่คล้ายนางเลย ดังนั้นจึงอยากจะไปดูห้องนางเสียหน่อย"เซียวหลันยวนเองก้ไม่รู้ว่าตนเองทำไมจึงพูดเรื่องนี้กับฟู่จาวหนิง ก็แค่อยากจะพูดให้ชัดเจนเท่านั้น"ไม่เหมือน ห้องของซ่งอวิ๋นเหยา มีแต่ความหรูหรา ตรงไหนที่วางของก็ได้ก็วางไว้หมด ไม่เห็นพื้นที่ว่างเลย"นั่นเป็นห้องนอนของหญิงสาวสูงศักดิ์คนหนึ่ง"ท่านตอนนั้น ไม่ได้ถามชื่อนางเอาไว้หรือ?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นด้วยสัญชาตญาณ"ถามแล้ว นางไม่บอก นางบอกว่า คนมากมายถ้ารรู้ว่านางเป็นใครก็จะมารังแกนาง"เซียวหลันยวนพิงอยู่ที่หลังคอนาง ริมฝีปากประทับอยู่ข้างคอนาง ฟู่จา
เซียวหลันยวนเปียกโชกไปทั้งตัว เสื้อผ้าหน้าผมเต็มไปด้วยน้ำ ทำเอาฟู่จาวหนิงเห็นแล้วต้องขมวดคิ้วขึ้นมา"แล้วข้าจะหาเสื้อผ้าจากไหนมาเปลี่ยนให้ท่านกัน?""อืม เช่นนั้นให้ข้ากลับจวนอ๋องอย่างนี้หรือ?" เซียวหลันยวนที่เปียกโชกไปทั้งตัวมองนาง ใบหน้าแดงแจ๋ สายตาร้อนผะผ่าว แผลเป็นพิษนั่นก็ดูเข้มลึกขึ้นมาก ดูแล้วงดงามอย่างประหลาดฟู่จาวหนิงกัดฟันเขาจงใจสินะ จงใจแน่!สภาพแบบนี้จะออกไปยังไงกัน?นางรีบออกไปหอบผ้าคลุมเข้ามา จากนั้นก็โยนผ้าแห้งให้เขาผืนหนึ่ง "ท่านถอดเสื้อเปียกออกเลย แล้วก็เช็ดผมให้แห้งเสีย ข้าจะไปหาเสื้อผ้าให้ท่าน!"พอเห็นร่างที่หมุนตัวพุ่งออกไปของนาง เซียวหลันยวนนิ้วจรดบนพริมฝีปาก ไอขึ้นมา"แค่กๆๆ..."เขาไออย่างรุนแรงฟู่จาวหนิงไปหาเสื้อผ้ามาชุดหนึ่ง เดิมทีเตรียมไว้ให้คนคุ้มครองเรือน เศรษฐีฟางเพิ่งหามาให้นางสองคน ที่เหลือยังไม่เข้ามา แต่นางก็ให้ป้าจงเตรียมเสื้อผ้าที่เหมือนกันไว้ให้แล้วเดิมทีคนคุ้มครองเรือนที่เลือกมาล้วนมีร่างสูงใหญ่กำยำ ดังนั้นเสื้อผ้าเองก็ถือว่าเหมาะสมอยู่ตอนที่กลับมา เซียวหลันยวนเช็ดผมแห้งไปกว่าครึ่งแล้ว หอตัวอยู่ในผ้าคลุมพิงแคร่นิ่มในห้องนาง ผิวหนังยัง
"แค่กๆๆ" เซียวหลันยวนไอออกมาอีกชุดหนึ่ง เงยหน้ามองนาง สนิทกันได้ขนาดนี้แล้ว ยังจะหย่าอีกหรือ?"นอนลงไป" เซียวหลันยวนถูกดวงตาที่ไฟลุกมองจนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง จะให้เขานอนลงในทันทีเซียวหลันยวนไอนอนลงไปบนแคร่นิ่ม ผ้าคลุมถูกนางดึงลงไปที่เอวพอเห็นเอวของเขา ใบหน้าของนางก็ร้อนผ่าว หยิบเข็มออกมาปักลงไปฉึกๆๆ"ก่อนหน้านี้ตอนท่านไปหอจันทร์หยาดไม่ใช่ว่าระมัดระวังตัวอยู่หรอกหรือ? สามารถสัมผัสได้ว่ามียา แล้วครั้งนี้ไปห้องนอนซ่งอวิ๋นเหยาทำไมจึงสังเกตไม่เห็น? เชื่อใจนางขนาดนี้เชียว?"เรื่องที่ไปห้องนอนซ่งอวิ๋นเหยาทำไมจึงไม่ปล่อยผ่านไปเสียที?เซียวหลันยงยแอบถอนใจเขาเสียใจขึ้นมาผิดไปแล้วจริงๆ จะมีข้อมูลอะไร เขาจะหาโอกาสอื่นเพื่อไปฟังไม่ได้เลยหรือ? แค่คิดจะไปดูห้องนอนหญิงสาวว่าเป็นอย่างที่จินตนาการไว้ไหม รอตอนกลางวันที่ซ่งอวิ๋นเหยาไม่อยู่แล้วเข้าไปดูไม่ได้หรือไร?"ข้าไม่รอบคอบเอง ตอนนั้นข้ายืนอยู่ข้างหน้าต่างแล้ว"พูดถึงตอนนี้ เขาจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่าหน้าต่างของซ่งอวิ๋นเหยาไม่ใช่ว่าวางอะไรอยู่หรือ?"นางคิดจะเล่นงานข้า"เซียวหลันยวนกัดฟัน ซ่งอวิ๋นเหยา ดีมาก ดีจริงๆ"เมื่อเป็นเช่นนี้ นา
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม
เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก
คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ
พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ