Share

ตอนที่ 2

last update Last Updated: 2025-07-17 07:44:49

ระหว่างเส้นทางเมืองไฮ่มุ่งสู่เมืองหลวง

“ช่วยด้วย ช่วยคุณชายของข้าด้วย” ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายอย่างหนัก บุรุษวัยสามสิบกว่า ๆ ผู้หนึ่ง รีบขวางทางทหารกลุ่มหนึ่งไว้ด้วยความลนลานและหวาดหวั่น

“เกิดอะไรขึ้น” คนที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มทหารถามขึ้น

“รถม้าของคุณชายข้าลื่นเสียหลักตกลงไปที่หน้าผา คุณชายของข้ากระโดดออกมาจากรถได้ แต่ก็ติดอยู่ที่ชะง่อนผาด้านล่าง ไม่สามารถหาทางขึ้นมาได้เพราะได้รับบาดเจ็บที่เท้า”

“คนอยู่ไหน”

“ทางนี้”

ทหารหลายสิบนายเตรียมจะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บท่ามกลางสายฝน

“พี่ตู้ รอให้ฝนซาอีกสักหน่อยดีกว่า ฝนตกแบบนี้มันเสี่ยงเกินไปนะ” ไป๋ซินหูเสนอแนะเพื่อนร่วมงาน

“แต่คนกำลังบาดเจ็บนะอาหู และฝนก็ตกหนักมากด้วย น้ำจากข้างบนไหล่ลงไปแบบนี้ เกรงว่าชะง่อนผาอาจจะพังลงได้”

“ชะง่อนผาไม่น่าพังง่าย ๆ ยังมีลักษณะคล้ายปากถ้ำไว้หลบลมฝนได้อีก เขาน่าจะปลอดภัยไปจนถึงฝนหยุดตก แต่ถ้าเราช่วยเขาตอนนี้เรานี่แหละที่เสี่ยงกว่าเขา”

อาตู้คิดตามคำพูดของเพื่อนรุ่นน้องที่เป็นคนรอบคอบที่สุดในกลุ่ม

“ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล แต่เราจะเสียเวลาอยู่ที่นี่นานไม่ได้ เจ้าก็รู้ว่าเราเป็นกลุ่มสุดท้าย ต้องรีบกลับไปรวมตัวกับกลุ่มอื่นในเมืองหลวง ตอนนี้เรามีแค่สองทางเลือกเท่านั้น คือช่วยเขาหรือไม่ก็ทิ้งเขาไปตอนนี้เลย ให้เขารอให้คนอื่นที่ผ่านทางมาช่วย”

“แต่เราเป็นทหารนะพี่ตู้ เราจะทิ้งชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนไม่ได้”

“เช่นนั้นก็ต้องทำตอนนี้เลย เราจะเสียเวลาอีกไม่ได้แล้ว ถ้าเรากลับไปถึงช้ากว่ากำหนดมากเกินไป เราก็จะโดนลงโทษตามวินัยทหารเหมือนกัน”

“เช่นนั้นก็แล้วแต่พี่ตู้เถิด” ไป๋ซินหูรับปากอย่างเต็มใจ

ความจริงเขาควรจะกลับถึงเมืองหลวงตั้งแต่สามวันที่แล้ว แต่เพราะฝนที่ตกมาผิดฤดูนี้เอง ทำให้ท่านแม่ทัพไม่ไว้วางใจ สั่งให้ทหารกองของเขาอยู่เฝ้าระวังต่ออีกสามวัน เพราะกลัวจะเกิดเหตุน้ำท่วมหมู่บ้านซ้ำอีก

“เจ้าไปหยิบเชือกกับผ้ามาให้ข้าที”

“อือ” ซินหูทำตามคำสั่งโดยเร็ว

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ซินหูก็เตรียมตัวจะลงไปช่วยคน

“ข้าเอง” อาตู้ดึงไป๋ซินหูเอาไว้

“เจ้าออกคำสั่งอยู่ข้างบนนี่แหละ” ซินหูรู้ว่าพี่ตู้มีอาการปวดแขนข้างซ้ายมาสักพักแล้ว และตัวก็ใหญ่กว่าเขามากจึงไม่อยากให้ลงไป

“แน่ใจนะ” อาตู้ถามด้วยความเป็นห่วง เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ถนัดงานแบบนี้

“แน่ใจสิ รีบ ๆ เข้าเถอะ ฝนซาลงบ้างแล้ว เราจะได้ทำงานง่ายขึ้น”

อาตู้พยักหน้ารับ

ไป๋ซินหูถูกหย่อนลงไปจนถึงชะง่อนผาอย่างปลอดภัย มองดูร่างโปร่งบางที่หลบฝนอยู่กับโขดหิน เขาดูอิดโรยและซีดเซียว และเขายังอายุน้อยอยู่เลย ดูจากการแต่งตัวก็รู้ว่ามาจากชาติตระกูลที่ดี

“เป็นอย่างไร เจ็บตรงไหนบ้าง”

“ข้าเจ็บขามาก ท่านมาช่วยข้าหรือ”

“อือ ข้ามาช่วยแล้ว” ไป๋ซินหูมองข้อเท้าที่บิดจนผิดรูป บวมช้ำเป็นสีคล้ำ สูงขึ้นมาอีกนิดก็เห็นกระดูกแทงทะลุเนื้อที่ฉีกขาดออกมา แต่แทบไม่มีเลือดให้เห็นแล้ว คงเพราะถูกน้ำฝนชะล้างไป เขารีบหยิบผ้าและไม้ที่เตรียมไว้ออกมา

“เจ้าอายุเท่าไหร่แล้วคุณชายน้อย” ถามขณะเริ่มโรยยาลงไปบนบาดแผล

“อีกสองเดือนข้าก็จะอายุสิบสองแล้ว โอ๊ย!!!” ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดที่จู่โจมเข้ามากะทันหัน

ซินหูรีบจับขาที่ทำท่าจะชักหนี “อดทนหน่อยนะคุณชาย บาดแผลของเจ้าสาหัสมาก ข้าต้องรักษาอาการเบื้องต้นให้ก่อน เสร็จแล้วจะรีบพาเจ้าขึ้นไป กัดผ้านี้ไว้นะ”

“ข้าเจ็บ ซู้ด..แต่ข้าจะอดทน” เขารีบกัดผ้าข่มความเจ็บปวดที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต แม้น้ำตาจะไหลแข่งกับน้ำฝนแต่ก็ไม่ปริปากร้องออกมา

“ข้าเป็นทหาร ชื่อไป๋ซินหู เดินทางไปช่วยผู้ประสบภัยที่เมืองไฮ่หลายเดือนแล้ว เมียของข้ากำลังท้องแก่ใกล้คลอด ข้าหวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นลูกสาว เพราะข้ามีแต่พี่ชาย ข้าจึงอยากได้ลูกสาวเอาไว้ให้อ้อนข้าบ้าง” ซินหูหาเรื่องมาชวนคุยกับเด็กหนุ่ม เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความเจ็บปวด “เสร็จแล้ว”

“ท่านคงมีความสุขมากสินะ ที่จะได้กลับไปเจอหน้าภรรยา แล้วยังจะได้เป็นพ่อคนอีก” แม้จะยังเจ็บอยู่ แต่เขาก็คุยโต้ตอบกับนายทหารผู้มีพระคุณที่กำลังผูกปมผ้า

“ดีใจมาก อยากจะกลับถึงบ้านวันนี้พรุ่งนี้เลย ค่อย ๆ ลุกขึ้นนะ” เขาประคองเด็กหนุ่มให้ลุกขึ้นช้า ๆ “นอกจากที่ขาแล้วยังเจ็บที่ไหนอีกไหม”

“เจ็บตามตัวบ้างแต่ไม่มากเท่าไหร่ ข้าทนได้”

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะส่งเจ้าขึ้นไป ตอนที่ถูกดึงขึ้นไปก็ระวังให้ดี”

“แล้วท่านไม่ขึ้นไปกับข้าด้วยหรือ”

“สองคนมันจะหนักเกินไป ถึงฝนจะซาลงมากแล้วแต่ก็ยังอันตราย เจ้าขึ้นไปก่อนเถิดคุณชายน้อย”

“ข้าชื่ออี้เทียน ขอบคุณท่านอาไป๋” ประสานมือคำนับอีกฝ่ายอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ

“ยินดี เจ้าพร้อมแล้วใช่ไหม”

“อือ”

ซินหูส่งยิ้มให้คุณชายน้อยก่อนจะกระตุกเชือกส่งสัญญาณให้คนด้านบน มองตามเด็กหนุ่มที่ถูกดึงขึ้นไปได้ครึ่งทางแล้วอย่างไม่คลาดสายตา

ครืนนนน..

“ระวัง!” เสียงของอาตู้ตะโกนดังด้วยความตกใจแข่งกับสายฝน

“เหวอ!” เสียงของอี้เทียนร้องด้วยความตกใจจนฟังไม่รู้เรื่อง

ไป๋ซินหูก็ตกใจกับภาพของอี้เทียนที่กำลังร่วงลงมาอย่างเร็ว รีบขยับตัวหมายจะรับคนที่กำลังตกลงมา ลืมไปว่าตัวเองนั้นกำลังยืนอยู่ชิดขอบผา ทำให้ขาข้างหนึ่งเหยียบลงไปบนอากาศ..

แต่โชคยังดีที่ร่างของอี้เทียนสะบัดลงมาใส่เขาพอดี ตัวเขาจึงเหมือนถูกเหวี่ยงกลับไปบนผาได้อย่างฉิวเฉียด

แต่ขาข้างที่ก้าวออกไปในอากาศเมื่อสักครู่ รู้สึกถึงความเจ็บปวดขึ้นมา..

เขาคงโดนหินบาดเข้าให้แล้ว

แต่ยังไม่ทันได้ขยับดูให้แน่ใจ สายตาก็เหลือบไปเห็นหินขนาดสองแขนโอบกำลังเกยอยู่บนหน้าผาด้านบน

มันมาจากไหน!

ใจของเขาแทบจะหยุดเต้น หวังอย่างยิ่งว่ามันจะหยุดอยู่แค่ตรงนั้น

แต่มันก็ไม่เป็นไปตามที่เขาหวัง!!

เขาไม่คิดอะไรแล้วในตอนนี้ หวังเพียงว่าเด็กหนุ่มบนตัวเขาคนนี้จะปลอดภัย

“จับเชือกไว้ให้มั่น!” แล้วผลักเด็กหนุ่มออกไปสุดแรง แล้วรีบหมุนตัวหนีก้อนหินก้อนใหญ่ที่กำลังตกลงมาสุดชีวิต

แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว หินทั้งก้อนกระแทกใส่หลังเขาก่อนจะกลิ้งตกผาไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนจบ

    ทุกคนในสกุลไป๋มองบุรุษรูปร่างสูงสง่า ใบหน้าเปี่ยมด้วยอำนาจน่าเกรงขามที่ก้าวลงจากรถม้า แล้วหันไปอุ้มสตรีรูปร่างบอบบางอรชร ไม่ยอมให้นางเดินลงมาเองด้วยความรู้สึกยากจะบรรยายผู้เฒ่าไป๋ แม่เฒ่าไป๋ ไป๋ซุนหยา ต่างน้ำตาซึมกับภาพตรงหน้า รู้สึกได้ถึงความรัก ความเอาใจใส่ที่หลานเขยมีต่อหลานสาวของพวกเขา“ท่านผู้เฒ่า แม่เฒ่า” ลุงโปคารวะผู้เฒ่าทั้งสอง แล้วรับการคารวะกลับจากคนอื่น ๆ ของสกุลไป๋ “ไม่ได้เจอกันนานแต่พวกท่านก็ยังดูแข็งแรงกันมาก”“ท่านก็เช่นกัน” ผู้เฒ่าไป๋ทักทายกลับ แล้วมองไปที่สตรีที่ถูกสามีเดินโอบเข้ามาหาพ่อบ้านโปถอยออกไปอย่างรู้หน้าที่ เพื่อเปิดทางให้เจ้านาย“คารวะผู้อาวุโสทุกท่าน ข้าเติ้งอี้เทียน วันนี้พาไป๋ซินซิน หลานสาวของพวกท่านกลับมาหาพวกท่านแล้ว” เขาพูดแทนภรรยาที่ตอนนี้น้ำตาคลอเต็มเบ้าตาไปแล้วไป๋ซินซินปาดน้ำตาทั้งรอยยิ้ม มองปู่ ย่า และลุงของตัวเอง น้ำตาแห่งความดีใจไหลอาบแก้มนางคุกเข่าลงตรงหน้าพวกเขา แล้วหมอบคำนับลงกับพื้น“ไป๋ซินซิน..คารวะท่านปู่..ท่านย่า..ท่านลุง..ป้าสะใภ้..ฮือ ๆ ๆ ฮึก ๆ ๆ” พูดไปร้องไห้ไปด้วยความรู้สึกที่เต็มตื้นไปด้วยความยินดี“อาซิน” แม่เฒ่าไป๋คือคนแรกที่เดิ

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 59

    เติ้งอี้เทียนมองภรรยาข้างกาย เห็นถ้วยชาว่างเปล่าก็รีบรินน้ำชาให้“ฮูหยินหมี่ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องลูกข้าไม่รีบ” แล้วหยิบขนมตั้งใจจะป้อนใส่ปากให้ภรรยาได้ชิม“อ๊วก!”“เป็นอะไร” เขาตกใจ ไม่คิดว่านางแกล้งทำ เพราะมันไม่ใช่นิสัยของนาง“อยู่ ๆ ก็รู้สึกไม่ค่อยดี หน้ามืด รู้สึกแปลก ๆ อยากอาเจียน” กระซิบบอกสามีเสียงเบาเพราะเกรงใจคนอื่น“ให้ข้าตรวจดูหน่อย บางทีอาจจะเพราะเดินทางไกลแรมเดือน เจอกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปมาก็ทำให้ชี่พร่องได้” ฮูหยินซ่งรีบเสนอตัวกับเติ้งชิงฮวา“เจ้าสอง ให้ฮูหยินซ่งตรวจดูเมียเจ้าสักหน่อยเถิด สามีของนางเป็นหมอ นางเองก็เป็นหมอทำคลอดขึ้นชื่อ มีความรู้เรื่องแพทย์ดีทีเดียว ถ้าเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาจะได้รีบรักษา”“รบกวนท่านแล้ว” เขารีบเปิดทางให้อีกฝ่ายฮูหยินซ่งจับชีพจรที่ข้อมือของไป๋ซินซิน ไม่นานก็ยิ้มกว้างออกมา“ไม่ต้องห่วง ๆ นางไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก ไม่ต้องตกใจ ก็แค่อาการของคนท้องน่ะ”“คุณพระคุณเจ้า!” เติ้งชิงฮวาอุทานออกมาเสียงดัง ก่อนจะหันไปหาคนรับใช้ที่ยืนปรนนิบัติอยู่ด้านข้าง “ข้าจะมีหลานเหมือนคนอื่นเขาแล้ว” แล้วหัวเราะด้วยความดีใจ “ดู ๆ ว่าที่พ่อแม่ตัวแข็งเป็นหินกันไปแล้ว

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 58

    นายหญิงใหญ่สกุลเติ้งมองเพื่อนบ้านที่สนิทสนมกันมาเกือบสามสิบปี เห็นตั้งแต่นางแต่งเข้าสกุลหมี่ใหม่ ๆนางคลอดลูกชายคนแรกก็ส่งชุดฮั่นฝูที่ตัดเย็บด้วยไหมอวิ๋นเซียงรับขวัญ พอถึงวัยแต่งภรรยาเข้าบ้านก็ยังมอบหวีหยกเหอเถียนเป็นของขวัญนางคลอดหมี่มี่เป็นคนรองก็ส่งกำไลข้อเท้ารับขวัญ เมื่อถึงวันออกเรือนก็ยังมอบปิ่นมุกกับต่างหูเข้าชุดให้เป็นของขวัญทั้งที่ตอนนั้นในใจผิดหวังกับการกระทำของนางกับลูกสาวมาก ที่พอเห็นเจ้าสองบาดเจ็บสาหัส ความสัมพันธ์ก่อนหน้าก็เริ่มจืดจาง.. แรก ๆ ก็ยังมาให้เห็น แต่พอรู้ว่าเจ้าสองเอ็นขาด กระดูกหัก อาจจะกลับมาเดินไม่ได้อีก สองแม่ลูกก็เริ่มหายไปจากสกุลเติ้ง เจอกันอีกทีก็ตอนส่งเทียบเชิญร่วมงานแต่งจะว่าไปแล้ว ลูกทั้งสองคนของนางล้วนเติบโตมาพร้อม ๆ กับเจ้าสองของตน มีหรือที่นางจะไม่เอ็นดู.. แต่จะทำอย่างไรได้เล่า ในเมื่อเจ้าสองไม่มีใจให้หมี่มี่เลยเจ้าสองนั่นก็จิตใจมั่นคงเด็ดขาดมาแต่ไหนแต่ไร สองแม่ลูกนี้เคยทำอย่างไรไว้เขาย่อมจำขึ้นใจ จากเดิมที่ไม่เคยมีใจให้อยู่แล้ว แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะทำตามที่มารดาอย่างตนเห็นชอบแต่พอเกิดเรื่องขึ้น ต่อให้ตนเห็นชอบอย่างไรก็ไร้ค่า“พี่ชิงฮวา ทำไมเงีย

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 56

    หนึ่งเดือนผ่านไปสมาคมหอการค้า“ข้าต้องกลับแล้ว”“ทำไมรีบกลับนักเล่า รอให้จบกระดานก่อนค่อยกลับสิ”“ข้าต้องกลับให้ตรงเวลา เพราะไม่อยากให้เหล่าผอรอนาน นางจะออกมารอรับข้าที่หน้าประตูทุกวันน่ะ”ผู้เฒ่าหูหัวเราะ “นี่ท่านบอกเล่าหรืออยากคุยอวดกับข้ากันแน่ท่านเติ้ง”“ท่านผู้เฒ่าคิดว่าข้าคุยอวดงั้นหรือ” เขาหัวเราะชอบใจเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า “ตามนั้นก็ได้ ข้าขอตัวลา”“เชิญ”คฤหาสน์สกุลเติ้ง“เหล่ากง”เติ้งอี้เทียนกางแขนรอรับร่างบาง ที่รีบเดินจนเกือบเป็นวิ่งเข้ามาหา “อากาศเย็นแบบนี้ยังจะออกมารออีก ทำไมไม่รออยู่ในเรือนเล่า”“ใบไม้ผลิใบแล้ว อากาศไม่เย็นเท่าไหร่แล้ว”“ถึงจะเปลี่ยนฤดูก็ยังเย็นอยู่ดี ออกมาก็ต้องใส่เสื้อคลุมให้เรียบร้อย ถ้าเจ้าป่วยขึ้นมาเราจะเดินทางได้อย่างไร”“ไม่ป่วยง่าย ๆ หรอก ซินเอ๋อร์ดื่มยาบำรุงตามที่ท่านสั่งทุกวัน” สมุนไพรอะไรที่หมอถานจัดให้ดื่มนางไม่เคยขัด เพื่อเตรียมร่างกายไว้สำหรับการเดินทางไกล ไปพบครอบครัวของบิดาที่เมืองหลวงหลังจากที่ได้ฟังสามีเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับบิดาของนาง และเรื่องที่เขาเคยส่งพ่อบ้านโปไปที่บ้านบิดาขณะที่เขายังรักษาตัว เพื่อนำสินน้ำใจไปมอบ

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 55

    “หยุดก่อน ๆ”เจียวหวงดึงบังเหียนบังคับม้าให้หยุด มองบุรุษรูปร่างใหญ่หนา ไว้หนวดเครายาวรกรุงรัง ดวงตาที่มองมาดูดุดันไม่เป็นมิตร แต่ก็ไม่ได้เกรี้ยวกราดจนน่ากลัว“นี่รถม้าของท่านเติ้งใช่ไหม” บุรุษผู้นั้นถามเสียงดังอย่างไม่เกรงกลัว“ใช่” เจียวหวงตอบไปแล้วก็ใจคอไม่ดีที่ฝ่ายนั้นเดินหน้าตาถมึงทึงเข้ามาหา ถ้าไม่มีเฟิงเมี่ยนอยู่ด้วยเขาคงกระโดดลงจากรถไปแล้วเฟิงเมี่ยนที่นั่งด้านข้างเจียวหวงเตรียมพร้อมจะชักดาบเติ้งอี้เทียนที่นั่งอยู่ภายในรถม้าใช้ไม้เท้าแง้มผ้าม่าน มองออกไปด้วยความอยากรู้“คารวะท่านเติ้ง”เฟิงเมี่ยนมองคนตัวใหญ่ที่ก้มหัวคารวะตน ท่าทางของเขาน่ากลัว แต่การกระทำกลับสวนทาง“ข้าไม่ใช่”“มีอะไรกับข้า” ท่านเติ้งตัวจริงถามเสียงเรียบทรงพลัง เปิดผ้าม่านกว้างขึ้นมองอีกฝ่ายเต็มตาคนตัวใหญ่รีบเปลี่ยนเป้าหมาย “คารวะท่านเติ้ง ข้าชื่อเซียงอู่ ทำงานอยู่ในเรือเดินสมุทรเกือบปีเพิ่งกลับมา จึงรู้ว่าแม่นางซินแต่งงานแก่ท่านแล้ว”เขามองอีกฝ่ายอย่างสำรวจ “ใช่”ป๊าบ!สามคนบนรถม้าสะดุ้งกับเสียงของฝ่ามือที่ประสานกัน ตามด้วยการชูแขนเขย่าและหัวเราะเสียงดังลั่น“เจ้ากำลังดีใจหรือกำลังคลั่ง” เจียวหวงถามคลายความ

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 57

    เติ้งชิงฮวาคลี่ยิ้ม เดินไปหาหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มชวนมองนี่นะหรือลูกสาวของบุรุษที่เคยช่วยชีวิตหลานชายของนางเอาไว้เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน นางน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้นี่เอง หลานชายตัวดีถึงไม่ยอมชายตามองสตรีนางใด มุ่งมั่นที่จะแต่งกับนางเพียงคนเดียวให้ได้“เรียกข้าว่าท่านแม่นะ ข้าอยากมีลูกสาวหน้าตาน่ารักแบบเจ้ามานานแล้ว ตอนนี้ข้าก็สมหวังแล้ว”“ขอบคุณท่านแม่ที่เอ็นดูซินเอ๋อร์”ชิงฮวาถอดแหวนหยกคู่สีเขียวกับสีเหลืองจากนิ้วชี้แล้วสวมให้หญิงสาว“ของขวัญต้อนรับลูกสะใภ้ แหวนหยกเขียวจักรพรรดินี้ แม่แท้ ๆ ของเจ้าสองมอบให้ข้าเพื่อส่งต่อให้ลูกสะใภ้คนรองของนาง ส่วนแหวนหยกเหลืองวงนี้เป็นของแม่บุญธรรมคนนี้มอบให้เจ้า แม่สวมให้นะ”หญิงสาวตื้นตันใจในความเมตตาของแม่สามี พยายามจะกลั้นน้ำตาขณะมองนิ้วชี้ทั้งสองข้างที่ถูกสวมด้วยแหวนหยกคนละสี แต่สุดท้ายน้ำตาก็พรั่งพรูออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม“ซินเอ๋อร์ขอบคุณท่านแม่” กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ปาดน้ำตาที่อาบแก้มเหมือนเด็กน้อยเติ้งอี้เทียนอมยิ้มกับความเจ้าน้ำตาของภรรยา จับชายเสื้อตัวในซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน“ท่านแม่ทำเหล่าผอของข้าร้องไห้แล้ว”“ซินเอ๋อร์แค่ซาบซึ้งใจมากเก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status