Share

ตอนที่ 9

last update Huling Na-update: 2025-07-18 20:58:31

ร้านซาลาเปาสกุลจู

“ท่านพ่อ”

“อือ” จูเกอขานรับโดยไม่ได้หันไปมอง

“ข้าต้องเอาซาลาเปาไปส่งให้แม่นางว่านก่อนหมดยามเซิน ข้าไปตอนนี้เลยได้ไหม”

“รีบไป”

“เจ้าค่ะ”

“อาซิน” จูเกอกวาดสายตามองไปทั่ว “แม่เจ้ากลับมาหรือยัง”

“ยังเจ้าค่ะ”

“แบมือ”

หญิงสาวทำตามอย่างว่าง่าย แต่พอเห็นเงินที่วางอยู่บนฝ่ามือก็ตกใจจนแทบจะโยนทิ้ง ทำเหมือนมันเป็นถ่านร้อนที่จะลวกมือ

“ท่านพ่อให้ข้าทำไม”

“เอาไปซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ดี ๆ สักชุด ถุงหอมสักชิ้น รองเท้าสักคู่ ซื้อแป้งซื้อชาดมาใช้ด้วย”

“สิ้นเปลืองเปล่า ๆ ท่านเก็บเงินนี้ไว้เถิด” ยื่นมือค้างอยู่อย่างนั้น และนึกแปลกใจว่าทำไมบิดาถึงใจดีกับนาง

“ข้าบอกให้ซื้อก็ซื้อไป อย่าเรื่องมาก” พูดเสียงห้วนและชักสีหน้าใส่นาง “รีบเก็บเงินไปก่อนที่แม่เจ้าจะเห็น”

หญิงสาวรีบเอาเงินใส่เข้าไปในผ้าคาดเอว “ขอบคุณท่านพ่อที่เมตตา”

“ไปทำงานของเจ้าไป”

“เจ้าค่ะ” เตรียมของเสร็จแล้วจึงเดินไปที่หน้าร้าน เจออากังกำลังทำความสะอาดอยู่จึงทักทาย “ข้าไปส่งของให้พี่ว่านก่อนนะพี่กัง”

“เดี๋ยวก่อน” หม่ากังรีบเดินเข้าไปหานาง ยื่นเงินให้หญิงสาวที่ให้ความเอ็นดูเหมือนน้องสาว “เอาไปซื้อซานจาเชื่อมที่เจ้าอยากกิน”

หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้าง “ท่านเก็บเงินไว้เถิด เมื่อวานข้าแอบไปซื้อกินมาแล้ว” แล้วรีบหิ้วตะกร้าเดินจากไป เพราะกลัวเขาจะเห็นน้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจของนาง

“โกหก!” หม่ากังได้แต่พูดตามหลังเบา ๆ เมื่อวานนางไม่ได้ออกไปไหน ทำงานอยู่กับเขาตั้งแต่ร้านเปิดยันร้านปิด เสร็จแล้วยังต้องไปนวดแป้งหมักแป้งต่อจนค่ำมืด ซานจาร้านไหนจะยังขายอยู่อีก

“นางมาแล้วนายท่าน” เฟิงเมี่ยนรีบส่งสัญญาณให้เจ้านายที่เอนหลังอยู่กับต้นไม้ใหญ่ มองดูม้าตัวโปรดเล็มกินหญ้า

เติ้งอี้เทียนลุกขึ้นอย่างใจเย็น ใช้ผ้าปิดหน้าและสวมหมวกอำพรางอีกที แล้วเดินออกจากที่ซ่อนไปที่ถนน

เฟิงเมี่ยนเอาถ่านป้ายตามเนื้อตัวให้ดูมอมแมม

“เดินระวังหน่อยสิ!!”

ยังไม่ทันจะเดินออกจากที่ซ่อนก็ได้ยินเสียงตวาดของสตรีนางหนึ่งดังขึ้น..ใจของเขาแทบบินออกจากอก เมื่อเห็นเจ้านายลงไปนั่งกองอยู่บนพื้น

แต่เท้าที่เริ่มก้าวออกไปก็ชะงักในทันที เมื่อเห็นเจ้านายส่งสัญญาณห้าม จึงรีบหมุนตัวกลับไปยังที่ซ่อนแล้วแอบสังเกตการณ์อยู่เงียบ ๆ

เติ้งอี้เทียนมองหญิงสาวที่ยืนเท้าเอว ใบหน้าบอกบุญไม่รับ เขาขยับหมวกบนศีรษะให้เข้าที่แล้วหยิบไม้เท้า ทำท่าพยายามจะลุกด้วยความยากลำบาก

“แม่นาง ช่วยพยุงข้าหน่อยได้ไหม”

“ทำไมข้าต้องช่วยเจ้าด้วย”

“แม่นางเป็นคนชนข้าล้ม” เขาเตือนสตินางเบา ๆ

“ใครชนเจ้า เจ้าเป็นคนเดินมาชนข้าแล้วก็ล้มลงไปเอง อย่ามาโยนความผิดให้ข้า หน้าด้าน ไร้ยางอาย”

“แต่ขาข้าไม่ดี ยามปกติจะลุกจะนั่งก็ยังลำบาก ได้โปรดช่วยข้าหน่อยเถิดแม่นาง”

“ล้มเองได้ก็ลุกเองเถิด!”

“แต่ข้าลุกไม่ไหว”

“ลุกไม่ได้ก็นั่งขอทานไปเถิด ข้าไม่ช่วยให้มือข้าเปื้อนความสกปรกหรอก”

เสียงต่อว่ารุนแรงที่แสนคุ้นหู เรียกความสนใจจากไป๋ซินซินจนต้องหยุดดู

“อย่า!!” ภาพที่เห็นทำให้นางตกใจจนเผลอตะโกนออกไป รีบวิ่งไปที่จุดเกิดเหตุและช่วยพยุงบุรุษที่ถูกผลักจนล้มให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เพราะเขาตัวใหญ่กว่านางมาก ซ้ำยังขาเจ็บอีก

จูอ้ายเหม่ยแสยะยิ้ม เห็นพี่สาวต่างบิดาช่วยเขาจนลุกขึ้นยืนได้ก็ยิ่งรู้สึกสมเพช

“ดู ๆ แล้วก็เหมาะสมกันดีนะ ชายพิการกับหญิงไร้ค่า”

ซินซินไม่ได้โกรธที่ถูกต่อว่า แต่โกรธที่จูอ้ายเหม่ยจิตใจหยาบกระด้าง ไร้ความเมตตาต่อผู้อื่น

“รู้ว่าเขาพิการก็ยังผลักเขาจนล้ม ไม่ละอายแก่ใจบ้างหรืออ้ายเหม่ย”

“ช่วยไม่ได้ ก็เขาอยากมาดึงแขนเสื้อข้าก่อนทำไม”

“แต่แม่นางชนข้า ข้าแค่กลัวตัวเองล้มจึงเผลอดึงแขนเจ้าไว้”

“ใครชนเจ้า ไหนใครเห็นบ้าง มีพยานไหม” อ้ายเหม่ยหันไปถามคนอื่นเสียงดังอย่างไม่ละอายแก่ใจ เมื่อไม่มีใครกล้าเป็นพยายจึงหันไปยิ้มเยาะใส่เขา

“ขะ ข้า ข้า ข้าเห็น”

เสียงตะกุกตะกักเสียงหนึ่งเรียกสายตาของชาวบ้านหลายคนให้หันไปมอง

เฟิงเมี่ยนในคราบมอมแมมโกโรโกโส ใบหน้าถูกทาไว้จนดำเพื่ออำพราง ยกมือค้างอยู่กลางอากาศ แผนการที่วางไว้กับเจ้านายพังไม่เป็นท่าเพราะสตรีชั่วร้ายผู้นี้

อ้ายเหม่ยเดินตีหน้ายักษ์เข้าไปหาเฟิงเมี่ยน ผลักอกเขาอย่างหาเรื่อง

“เห็นอะไร เจ้าเห็นอะไร”

“ข้าเห็นแม่นางเดินชนเขาจนล้ม พอเขาขอความช่วยเหลือแม่นางก็ไม่ช่วย เขาแค่จับชายเสื้อเพื่อขอเป็นหลักยืนแม่นางก็ผลักเขาล้มซ้ำอีก”

ฉาด!

“ตบข้าทำไม!” เฟิ่งเมี่ยนอยากจะหักนิ้วทั้งห้าของนางทิ้งเสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็ต้องข่มใจทำตัวขี้ขลาดเอาไว้

“เป็นแค่ขอทานอย่าสู่รู้ให้มาก ถ้าอยากได้เงินนักก็เอาไป แล้วไสหัวไปให้ไกล”

เฟิงเมี่ยนมองเงินหนึ่งอีแปะที่นางโยนให้ “ข้าไม่อยากได้เงิน ข้าแค่พูดตามที่เห็น แล้วข้าก็ไม่ใช่ขอทานด้วย”

“เจ้า!!!”

“อย่า!” ซินซินร้องห้ามและเอาตัวเข้าไปขวางอ้ายเหม่ย

ฉาด!

เฟิงเมี่ยนส่งสายตาไปหาเจ้านายทันทีที่เห็นไป๋ซินซินถูกทำร้ายแทนตัวเขา แม้จะขัดใจเมื่อถูกสั่งห้ามแต่ก็ต้องอดทนเอาไว้

อ้ายเหม่ยจิ้มนิ้วใส่หน้าผากของพี่สาวต่างบิดา มองด้วยสายตาเกลียดชัง

“เสนอไม่เข้าเรื่อง ถ้าไม่สั่งสอนก็คงไม่เจียมตัว” แล้วชี้นิ้วใส่ชาวบ้านที่เริ่มซุบซิบการกระทำของนาง “ไม่ใช่เรื่องของพวกเจ้า ไม่ต้องมาสอด ไปให้พ้น!”

“เจ้ารีบกลับบ้านไปก่อนจะดีกว่านะ” ไป๋ซินซินเตือนน้องสาว

“อย่ามาสั่งข้า เงาหัวจะไม่มีอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก”

“ข้าก็แค่เตือนเจ้าดี ๆ ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูพ่อเจ้าเดือดร้อนแน่” ซินซินพยายามพูดให้เบาที่สุด

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 15

    คำตอบที่ได้ยินทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ใบหน้าถมึงทึงด้วยความโมโหในการกระทำของภรรยา โมโหจนจุกอกจนต้องใช้มือช่วยขยี้“หรือเจ้าไม่รู้เรื่องนี้”“นางเคยพูดถึงผู้เฒ่าเสิ่นหลังจากที่ข้าบอกเรื่องที่ท่านจะแต่งอาซินเข้าบ้าน เราสองคนมีความเห็นที่ไม่ตรงกันเรื่องนี้ นางอยากให้อาซินแต่งเข้าสกุลเสิ่น แต่ข้าก็ปฏิเสธชัดเจน ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะให้อาซินแต่งงานกับท่าน นางก็รับปากข้าดิบดี ขอมาคุยเรื่องนี้กับพ่อบ้านโปเอง ดังนั้นที่ข้าเห็นอาซินร้องไห้วันนี้ ข้าจึงเข้าใจว่านางไม่อยากแต่งงานกับท่าน”“เหตุใดฮูหยินจูถึงอยากให้นางแต่งกับผู้เฒ่าเสิ่นมากกว่าข้า” แม้จะรู้เหตุผลแต่ก็อยากจะถามลองเชิงให้แน่ชัด เพราะอยากรู้ว่าคนผู้นี้มีความหวังดีและจริงใจ ให้หญิงสาวที่เป็นเพียงลูกเลี้ยงเพียงใด“ตามที่เราคุยกัน นางอยากให้อาซินได้แต่งกับผู้เฒ่าเสิ่น เพราะเขารับปากนางว่าจะแต่งอาซินเป็นเมียเอก ทำให้นางมั่นใจว่าอาซินจะมีอนาคตที่มั่นคงกว่าแต่งกับท่าน”“แล้วแต่งกับข้าไม่มั่นคงอย่างไร เจ้าก็เห็นว่าข้ามั่งคั่งเพียงใด”“.....”“พูดมาเถิด ผิดพลาดตรงไหนข้าจะได้แก้ต่างกับท่านวันนี้เลย ข้าสู้ผู้เฒ่าเสิ่นไม่ได้ตรงไหน”“ไม่ใช่เรื่อ

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 14

    ทันทีที่พ้นออกมาจากประตูคฤหาสน์สกุลเติ้ง ไป๋ซินซินก็รีบจับแขนของมารดา แต่ก็ถูกสะบัดออกอย่างแรง จึงได้แต่จับมือตัวเองอย่างหวาดหวั่นกระวนกระวาย“ท่านแม่ ท่านจะให้ข้าแต่งงานกับผู้เฒ่าเสิ่นจริงหรือ”จูอินคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้ลูกสาว “ดีใจจนร้องไห้เลยหรืออาซิน”“ข้าไม่ได้ดีใจนะท่านแม่”“ไม่ต้องห่วง แม่คนนี้จะรีบไปเจรจาให้เจ้าเดี๋ยวนี้แหละ เจ้ากับน้องกลับบ้านไปก่อนนะ รอฟังข่าวดีจากแม่ได้เลย”หญิงสาวรีบคุกเข่ากับพื้นถนน “ท่านแม่ได้โปรด อย่าให้ข้าแต่งงานกับท่านผู้เฒ่าเลยนะ”“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!” จูอินรีบหันซ้ายแลขวาแล้วกระชากร่างเล็กขึ้นมา “หยุดร้องเดี๋ยวนี้!”“เจ้าทำให้แม่โกรธอีกแล้วนะอาซิน!” จูอ้ายเหม่ยตะคอกเสียงเบา แล้วบิดเนื้อตรงต้นแขนของนางด้วยความเกลียดชังเป็นทุน “แต่งงานกับท่านผู้เฒ่าไม่ดีตรงไหน ฐานะท่านก็ดี เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาช่วยท่านพ่อทำงานอีก”“ใช่ พอเจ้าแต่งงานไปแล้วข้าก็ต้องมาเหนื่อยแทนเจ้าอีก ข้าเสียสละเพื่อเจ้าแค่ไหนคิดบ้างสิ”“ข้ายอมเหนื่อย ยอมตื่นเช้านอนดึกกว่าเดิมก็ได้ ท่านแม่อย่าให้ข้าแต่งงานกับผู้เฒ่าเสิ่นเลยนะ”“ไม่ได้ ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว อ้ายเหม่ยพานางกลับบ้านไปเดี๋ย

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 13

    อี้เทียนมองหญิงสาวเล็กน้อย “ข้าต้องกินข้าวตรงเวลาเพราะต้องกินยา กินข้าวด้วยกันนะ”ซินซินยังไม่ทันตอบอะไร อ้ายเหม่ยก็รีบเดินไปยืนใกล้รถเข็นของเขา“ให้อ้ายเหม่ยช่วยนะเจ้าคะ”“ให้เป็นหน้าที่ของบ่าวดีกว่าคุณหนู” ซูฮวาพูดอย่างนอบน้อม แล้วเบียดอีกฝ่ายให้หลุดไปจากตำแหน่งคนเข็นรถ“เชิญ” เติ้งอี้เทียนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นความไม่พอใจของแม่ลูกกับสาวใช้ แต่แอบสนใจความสงบเสงี่ยมเจียมตัวของหญิงสาวที่ตัวเองหมายตาที่โต๊ะอาหารจูอ้ายเหม่ยตื่นเต้นกับอาหารหลากชนิดที่วางอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่ หลายอย่างล้วนเป็นอาหารที่ไม่เคยกิน ส่วนที่เคยกินก็ดูพิถีพิถันกว่ามาก“ท่านแม่ โต๊ะนี่หมุนได้ด้วย ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”“สำรวมกิริยาหน่อยอ้ายเหม่ย” จูอินรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก แต่ก็ต้องฝืนยิ้มอ่อนหวานมองไปทางเจ้าของคฤหาสน์ “ท่านเติ้งอย่าถือสานางเลยนะ ต้องโทษข้าที่เลี้ยงดูนางอย่างเคร่งครัดเกินไป แทบไม่เคยให้ออกจากบ้านไปไหน พอเจออะไรแปลกตาจึงมักจะตื่นเต้นเกินงาม”“กินข้าวกันเถิด ถ้าไม่ถูกปากหรืออยากได้อะไรเพิ่มก็บอกได้นะ ข้าจะให้ห้องครัวทำมาให้” พูดเสร็จเขาก็หมุนฐานไม้บนโต๊ะอาหาร “ตรงหน้าเจ้าคือเนื้อตุ๋นลิ้นจี่ ลองตักกินส

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 12

    นางรีบยกมือห้าม “ฟังเหตุผลของข้าก่อนแล้วค่อยแย้ง”“พูดมา”“ท่านเติ้งแต่งเมียมาสามคนแล้ว แต่ทุกคนล้วนได้รับหนังสือหย่าเพราะไม่สามารถมีลูกให้เขาได้ ข้ายังรู้อีกว่าเขามีอนุอยู่ในบ้านอีกหลายคน พวกนางล้วนชิงดีชิงเด่น ใส่ร้ายป้ายสีกันไปมาเพื่อแย่งชิงความโปรดปราน”“ข้าไม่เคยได้ยิน”“เจ้าจะไปรู้อะไร วัน ๆ เอาแต่นวดแป้ง ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามชาวบ้านดูก็ได้”“เจ้าก็เชื่อข่าวลือไม่มีมูลพวกนั้น”“ลูกของข้ากำลังจะแต่งงานกับเขานะ จะไม่ให้ข้าพูดได้อย่างไร หรือเพราะนางไม่ใช่ลูกของเจ้า แต่งไปแล้วจะเป็นอย่างไรก็ช่าง”“ข้าไม่เคยคิดแบบนั้นเลยอาอิน..เอาเป็นว่ารอให้พ่อบ้านโปกลับมาก่อนก็แล้วกัน ข้าจะคุยกับเขาอีกที”“ท่านต้องถามเขาว่าที่ชาวบ้านพูดกันเป็นความจริงไหม” เรื่องที่นางพูดไปใช่ว่าจะเป็นจริงทั้งหมด แต่ถ้านางไม่ยอมรับว่าแต่งขึ้นมาเองใครจะรู้“บุรุษมีอนุมันก็ไม่ผิด แต่งกับท่านเติ้งนางคงไม่ลำบาก”“นั่นลูกข้าทั้งคนนะ โง่ ๆ เซื่อง ๆ อย่างนางไม่กลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของพวกอนุหรือ”“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร”“ต้องให้เขาแต่งอาซินเป็นเมียเอก”“เจ้าอย่าเพ้อฝันไปหน่อยเลย แค่ได้แต่เข้าสกุลเติ้งก็โชคดีของลูกเราแล้ว”

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 11

    บ้านสกุลจูไป๋ซินซินกลับเข้ามาในบ้าน เห็นทุกคนกำลังกินข้าวพร้อมหน้า ทุกสายตาหันมาจับจ้องก่อนจะเมินกลับอย่างไม่ใส่ใจ ทำให้นางรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินแต่นางจะรู้สึกให้เปลืองความรู้สึกไปทำไม เพราะถึงอย่างไรนางก็ไม่เคยได้กินข้าวร่วมโต๊ะกับพวกเขาอยู่แล้ว“มานั่งกินข้าวด้วยกันสิ”“ท่านพ่อ!”“หุบปาก” เอ่ยเสียงเย็นพอ ๆ กับสายตาอ้ายเหม่ยเม้มปากด้วยความขัดใจ ถลึงตามองพี่สาวต่างบิดาอย่างเกลียดชัง มองไปทางมารดาก็เห็นท่านปรามด้วยสายตา จึงได้แต่ข่มกลั้นความโมโหเอาไว้“ผู้ใหญ่เรียกไม่ได้ยินหรือ” จูอินมองลูกสาวคนโตด้วยสายตาที่ว่างเปล่า“เจ้าค่ะ” ซินซินจำใจเดินไปนั่งร่วมโต๊ะจูก่านต้งลุกไปตักข้าวและหยิบตะเกียบส่งให้หญิงสาว แล้วนั่งลงกินต่อโดยไม่พูดอะไร“ขอบใจ” บอกน้องชายแล้วมองกับข้าวบนโต๊ะ แต่ไม่กล้าเอื้อมตะเกียบออกไปคีบ จึงคีบข้าวเปล่าใส่ปาก“แม่ของเจ้าได้บอกอะไรกับเจ้าหรือยัง”“ข้ายังไม่ได้บอกนาง” จูอินไม่คาดคิดว่าสามีจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา “ท่านพ่อบ้านไม่อยู่ เห็นว่ารีบกลับบ้านเกิดไปดูใจน้องชาย ต้องรอให้เขากลับมาก่อน ข้าจึงยังไม่ได้พูดอะไรกับนาง”“แล้วเขาจะกลับมาเมื่อไหร่”“อีกประมาณครึ่งเดื

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 10

    ความโอหังของจูอ้ายเหม่ยหายไปเกินครึ่งเมื่อถูกเอ่ยถึงบิดา ใบหน้าที่เชิดขึ้นอย่างท้าทายไม่เกรงกลัวใคร เริ่มมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด“ข้านึกออกแล้ว” เฟิงเมี่ยนชี้หน้าอ้ายเหม่ยพร้อมทำตาโต “เจ้าคือลูกสาวคนรองของร้านซาลาเปาสกุลจู” เขาปรบมือรัว ๆ ทำท่าภูมิใจกับความฉลาดของตัวเอง “ในเมื่อถูกตราหน้าว่าเป็นขอทานแล้ว ข้าไปเล่าให้เขาฟังว่าโดนอะไรบ้าง แล้วขอค่ายาจากเขาสักหน่อยดีกว่า”จูอ้ายเหม่ยหน้าซีดด้วยความกลัว รู้สึกเหมือนจะเป็นลมเมื่อนึกถึงบิดา.. แม้ท่านจะดูใจดี แต่เมื่อใดที่ท่านโกรธขึ้นมา มารดาก็ยังไม่กล้าต่อกร แล้วนางเป็นแค่ลูกจะรอดได้อย่างไร“จะไปไหน” เฟิงเมี่ยนสะใจเมื่อเห็นนางสะดุ้งสุดตัว “จะจากไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ เจ้ายังไม่ได้ขอโทษพวกเราเลย”“ทำไมข้าต้องขอโทษ” แม้จะขัดขืนแต่เสียงก็อ่อนลงเกินครึ่ง ความมั่นอกมั่นใจลดเหลือแค่หนึ่งส่วนจากสามส่วน“เช่นนั้นก็รีบกลับไปเถิด ข้าไปคุยกับเถ้าแก่จู พ่อของเจ้าง่ายกว่า”“ข้าขอโทษ! ขอโทษ ๆ ๆ ข้าขอโทษ!” ตะคอกใส่หน้าบุรุษทั้งสอง ถลึงตาใส่เฟิงเมี่ยนอย่างอาฆาตแค้น “พอใจหรือยัง”“ถ้าขอโทษไม่เต็มใจแบบนี้ก็จ่ายเจ็บหน้าข้ามาด้วยก็แล้วกัน”“ข้าไม่มี”“ไม่เ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status