Share

ตอนที่ 10

last update Last Updated: 2025-07-18 21:02:40

ความโอหังของจูอ้ายเหม่ยหายไปเกินครึ่งเมื่อถูกเอ่ยถึงบิดา ใบหน้าที่เชิดขึ้นอย่างท้าทายไม่เกรงกลัวใคร เริ่มมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“ข้านึกออกแล้ว” เฟิงเมี่ยนชี้หน้าอ้ายเหม่ยพร้อมทำตาโต “เจ้าคือลูกสาวคนรองของร้านซาลาเปาสกุลจู” เขาปรบมือรัว ๆ ทำท่าภูมิใจกับความฉลาดของตัวเอง “ในเมื่อถูกตราหน้าว่าเป็นขอทานแล้ว ข้าไปเล่าให้เขาฟังว่าโดนอะไรบ้าง แล้วขอค่ายาจากเขาสักหน่อยดีกว่า”

จูอ้ายเหม่ยหน้าซีดด้วยความกลัว รู้สึกเหมือนจะเป็นลมเมื่อนึกถึงบิดา.. แม้ท่านจะดูใจดี แต่เมื่อใดที่ท่านโกรธขึ้นมา มารดาก็ยังไม่กล้าต่อกร แล้วนางเป็นแค่ลูกจะรอดได้อย่างไร

“จะไปไหน” เฟิงเมี่ยนสะใจเมื่อเห็นนางสะดุ้งสุดตัว “จะจากไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ เจ้ายังไม่ได้ขอโทษพวกเราเลย”

“ทำไมข้าต้องขอโทษ” แม้จะขัดขืนแต่เสียงก็อ่อนลงเกินครึ่ง ความมั่นอกมั่นใจลดเหลือแค่หนึ่งส่วนจากสามส่วน

“เช่นนั้นก็รีบกลับไปเถิด ข้าไปคุยกับเถ้าแก่จู พ่อของเจ้าง่ายกว่า”

“ข้าขอโทษ! ขอโทษ ๆ ๆ ข้าขอโทษ!” ตะคอกใส่หน้าบุรุษทั้งสอง ถลึงตาใส่เฟิงเมี่ยนอย่างอาฆาตแค้น “พอใจหรือยัง”

“ถ้าขอโทษไม่เต็มใจแบบนี้ก็จ่ายเจ็บหน้าข้ามาด้วยก็แล้วกัน”

“ข้าไม่มี”

“ไม่เป็นไร ข้าตามไปเก็บกับพ่อเจ้าเองก็ได้”

ฟึ่บ

เงินหลายอีแปะที่ขอมาจากมารดาถูกปาลงพื้นอย่างไม่พอใจ

“เอาไป!”

เฟิงเมี่ยนยักไหล่อย่างไม่แยแสเงินราว ๆ ยี่สิบอีแปะบนพื้นดิน สำหรับเขามันอาจจะไม่ได้มากมาย แต่สำหรับชาวบ้านหลาย ๆ คนมันมีค่ามากมายนัก เขาจะเอาเงินพวกนี้ไปซื้อแป้งปิ้งแจกขอทานให้หมด

“เชิญเก็บมาให้ข้าดี ๆ ด้วยแม่นาง..หือ!”

อ้ายเหม่ยกระทืบเท้าด้วยความโมโห แต่ก็ยอมเก็บเงินใส่ฝ่ามือเขา.. ละสายตาจากเฟิงเมี่ยนแล้วหันไปมองซินซิน คาดโทษด้วยสายตาก่อนจะสะบัดหน้าเดินจากไป

ไป๋ซินซินได้แต่ทอดถอนใจกับนิสัยของอ้ายเหม่ย แล้วหันมามองบุรุษทั้งสอง...รู้สึกคุ้น ๆ กับรูปร่างของหนึ่งในนั้น ไม่ใช่เขาหรอก นางคงคิดไปเอง

“ข้าต้องขอโทษท่านทั้งสองแทนนางด้วย พวกท่านอย่าถือสาหาความนางเลยนะ ให้จบลงแค่ตรงนี้เถิดนะ” พูดจบก็มองตะกร้าซาลาเปาที่ถือไว้ อยากจะแบ่งให้พวกเขาสักคนละสองลูกเพื่อไถ่โทษแทนจูอ้ายเหม่ย แต่ถ้าทำแบบนั้นพี่ว่านก็จะได้ซาลาเปาไม่ครบ เด็ก ๆ ก็จะไม่พอกิน “เชิญพวกท่านไปนั่งรอข้าที่ร้านนั้นก่อนนะ” ชี้ไปที่ร้านบะหมี่รสชาติดีที่พอจะซื้อให้พวกเขากินไหว นับว่ายังโชคดีที่วันนี้บิดาให้เงินมา “เดินไหวหรือไม่”

“อือ พอไหว” ดีที่นางเกริ่นขึ้นมา อี้เทียนจึงแสร้งทำเป็นเดินกะเผลกอย่างลำบาก ทั้งที่ความจริงแทบไม่รู้สึก และลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังเสแสร้งแสดงละคร

ตัวละครอย่างเฟิงเมี่ยนรีบเข้าไปช่วยประคองเจ้านายเอาไว้

“เจ้ารีบไปทำธุระของเจ้าเถิด ข้าช่วยเขาเอง”

“ขอบคุณ.. เถ้าแก่ ทำบะหมี่ให้พวกเขาสองชาม ข้าเข้าไปส่งซาลาเปาให้พี่ว่านแล้วจะรีบกลับมาจ่ายเงินให้”

“ได้เลย พวกเจ้าเข้ามานั่งก่อน วันนี้นับว่าพวกเจ้าโชคดีที่สุด ที่ได้มากินบะหมี่ที่อร่อยที่สุดในเมืองเทียนสิน” เถ้าแก่ร้านบะหมี่คุยโอ้อวยอย่างอารมณ์ดี

เติ้งอี้เทียนและเฟิงเมี่ยนยืนส่งหญิงสาวด้วยสายตา จนเห็นนางหายเข้าไปในสำนักการศึกษาของแม่นางว่าน จึงพากันเดินไปที่ร้านบะหมี่

“เจ้าว่านางเป็นคนเช่นไร” แม้จะรู้ทั้งรู้เพราะเฝ้าติดตามนางมาหลายปีแต่ก็ยังถาม

“บ่าวไม่กล้าวิจารณ์ แต่ต้องดีกว่าน้องสาวของนางแน่นอน หรือนายท่านเห็นต่าง”

คำถามแฝงความนัยของบ่าวคนสนิททำให้เขาถึงกับกำหมัด

“เจ้ายังไม่เคยถูกไม้เท้าฟาดใส่ศีรษะสินะ”

“ท่านอยากกินบะหมี่หรือไม่” เฟิงเมี่ยนเปลี่ยนเรื่องทันที

พวกเขานั่งกินบะหมี่รสชาติสุดแสนจะธรรมดาไปทางแย่ มีดีก็แค่ปริมาณเส้นที่เยอะมากจนทำให้อิ่มท้องได้ทั้งวัน

รอหญิงสาวไม่ถึงครึ่งเค่อนางก็กลับมา

“ขอโทษที่ให้รอนาน ข้าจ่ายค่าบะหมี่แสนอร่อยให้พวกท่านแล้ว กินอิ่มแล้วค่อยไปนะ”

“แล้วเจ้าไม่กินด้วยหรือ” เฟิงเมี่ยนเอ่ยถามตามคำสั่งของเท้าที่สะกิดอยู่ใต้โต๊ะ

“ข้าต้องรีบกลับไปทำงานต่อ ข้าไปก่อนนะพี่ชายทั้งสอง”

“ข้าชื่ออี้เทียน จำชื่อของข้าไว้ให้ขึ้นใจ เพราะเราต้องได้เจอกันอีกแน่” เขาอยากจะถอดหมวกแล้วเงยหน้าสบตากับนางให้ชัด ๆ แต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้

หญิงสาวโค้งศีรษะรับคำ “ข้าชื่อซินซิน เจอกันครั้งหน้าก็ทักทายกันได้เลย ข้าไปจริง ๆ แล้วนะ” นางพูดเพราะมั่นใจว่าคงจำพวกเขาไม่ได้แน่ คนหนึ่งใส่หมวกบดบังใบหน้าจนมองแทบไม่เห็น อีกคนก็หน้าดำพอกับถ่าน

อี้เทียนมองหญิงสาวรูปร่างผอมบางที่เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ สะสมความประทับใจที่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งส่วนไว้ในหัวใจ

“นางจิตใจดีเหมือนบิดาของนางยิ่งนัก”

“นายท่านพูดอะไร ข้าไม่ได้ยิน”

“ข้าพูดกับตัวเอง” แล้ววางตะเกียบลุกขึ้น “ข้าฝืนกินต่อไม่ไหวแล้ว”

“ข้าก็เหมือนกัน กลับไปต้องให้ห้องครัวทำบะหมี่เนื้อให้กินสักหน่อยแล้ว” แล้วโน้มหน้าไปใกล้พร้อมกับป้องปาก “ไม่อร่อยเอาเสียเลย น้ำซุปอย่างกับน้ำเปล่าใส่แค่เกลือ”

อี้เทียนมองชามบะหมี่ของเฟิงเมี่ยน.. อีกแค่คำเดียวก็จะหมดชามอยู่แล้วยังกล้าพูดออกมา

เขาได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเดินนำหน้าออกไปจากร้าน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 15

    คำตอบที่ได้ยินทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ใบหน้าถมึงทึงด้วยความโมโหในการกระทำของภรรยา โมโหจนจุกอกจนต้องใช้มือช่วยขยี้“หรือเจ้าไม่รู้เรื่องนี้”“นางเคยพูดถึงผู้เฒ่าเสิ่นหลังจากที่ข้าบอกเรื่องที่ท่านจะแต่งอาซินเข้าบ้าน เราสองคนมีความเห็นที่ไม่ตรงกันเรื่องนี้ นางอยากให้อาซินแต่งเข้าสกุลเสิ่น แต่ข้าก็ปฏิเสธชัดเจน ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะให้อาซินแต่งงานกับท่าน นางก็รับปากข้าดิบดี ขอมาคุยเรื่องนี้กับพ่อบ้านโปเอง ดังนั้นที่ข้าเห็นอาซินร้องไห้วันนี้ ข้าจึงเข้าใจว่านางไม่อยากแต่งงานกับท่าน”“เหตุใดฮูหยินจูถึงอยากให้นางแต่งกับผู้เฒ่าเสิ่นมากกว่าข้า” แม้จะรู้เหตุผลแต่ก็อยากจะถามลองเชิงให้แน่ชัด เพราะอยากรู้ว่าคนผู้นี้มีความหวังดีและจริงใจ ให้หญิงสาวที่เป็นเพียงลูกเลี้ยงเพียงใด“ตามที่เราคุยกัน นางอยากให้อาซินได้แต่งกับผู้เฒ่าเสิ่น เพราะเขารับปากนางว่าจะแต่งอาซินเป็นเมียเอก ทำให้นางมั่นใจว่าอาซินจะมีอนาคตที่มั่นคงกว่าแต่งกับท่าน”“แล้วแต่งกับข้าไม่มั่นคงอย่างไร เจ้าก็เห็นว่าข้ามั่งคั่งเพียงใด”“.....”“พูดมาเถิด ผิดพลาดตรงไหนข้าจะได้แก้ต่างกับท่านวันนี้เลย ข้าสู้ผู้เฒ่าเสิ่นไม่ได้ตรงไหน”“ไม่ใช่เรื่อ

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 14

    ทันทีที่พ้นออกมาจากประตูคฤหาสน์สกุลเติ้ง ไป๋ซินซินก็รีบจับแขนของมารดา แต่ก็ถูกสะบัดออกอย่างแรง จึงได้แต่จับมือตัวเองอย่างหวาดหวั่นกระวนกระวาย“ท่านแม่ ท่านจะให้ข้าแต่งงานกับผู้เฒ่าเสิ่นจริงหรือ”จูอินคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้ลูกสาว “ดีใจจนร้องไห้เลยหรืออาซิน”“ข้าไม่ได้ดีใจนะท่านแม่”“ไม่ต้องห่วง แม่คนนี้จะรีบไปเจรจาให้เจ้าเดี๋ยวนี้แหละ เจ้ากับน้องกลับบ้านไปก่อนนะ รอฟังข่าวดีจากแม่ได้เลย”หญิงสาวรีบคุกเข่ากับพื้นถนน “ท่านแม่ได้โปรด อย่าให้ข้าแต่งงานกับท่านผู้เฒ่าเลยนะ”“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!” จูอินรีบหันซ้ายแลขวาแล้วกระชากร่างเล็กขึ้นมา “หยุดร้องเดี๋ยวนี้!”“เจ้าทำให้แม่โกรธอีกแล้วนะอาซิน!” จูอ้ายเหม่ยตะคอกเสียงเบา แล้วบิดเนื้อตรงต้นแขนของนางด้วยความเกลียดชังเป็นทุน “แต่งงานกับท่านผู้เฒ่าไม่ดีตรงไหน ฐานะท่านก็ดี เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาช่วยท่านพ่อทำงานอีก”“ใช่ พอเจ้าแต่งงานไปแล้วข้าก็ต้องมาเหนื่อยแทนเจ้าอีก ข้าเสียสละเพื่อเจ้าแค่ไหนคิดบ้างสิ”“ข้ายอมเหนื่อย ยอมตื่นเช้านอนดึกกว่าเดิมก็ได้ ท่านแม่อย่าให้ข้าแต่งงานกับผู้เฒ่าเสิ่นเลยนะ”“ไม่ได้ ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว อ้ายเหม่ยพานางกลับบ้านไปเดี๋ย

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 13

    อี้เทียนมองหญิงสาวเล็กน้อย “ข้าต้องกินข้าวตรงเวลาเพราะต้องกินยา กินข้าวด้วยกันนะ”ซินซินยังไม่ทันตอบอะไร อ้ายเหม่ยก็รีบเดินไปยืนใกล้รถเข็นของเขา“ให้อ้ายเหม่ยช่วยนะเจ้าคะ”“ให้เป็นหน้าที่ของบ่าวดีกว่าคุณหนู” ซูฮวาพูดอย่างนอบน้อม แล้วเบียดอีกฝ่ายให้หลุดไปจากตำแหน่งคนเข็นรถ“เชิญ” เติ้งอี้เทียนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นความไม่พอใจของแม่ลูกกับสาวใช้ แต่แอบสนใจความสงบเสงี่ยมเจียมตัวของหญิงสาวที่ตัวเองหมายตาที่โต๊ะอาหารจูอ้ายเหม่ยตื่นเต้นกับอาหารหลากชนิดที่วางอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่ หลายอย่างล้วนเป็นอาหารที่ไม่เคยกิน ส่วนที่เคยกินก็ดูพิถีพิถันกว่ามาก“ท่านแม่ โต๊ะนี่หมุนได้ด้วย ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”“สำรวมกิริยาหน่อยอ้ายเหม่ย” จูอินรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก แต่ก็ต้องฝืนยิ้มอ่อนหวานมองไปทางเจ้าของคฤหาสน์ “ท่านเติ้งอย่าถือสานางเลยนะ ต้องโทษข้าที่เลี้ยงดูนางอย่างเคร่งครัดเกินไป แทบไม่เคยให้ออกจากบ้านไปไหน พอเจออะไรแปลกตาจึงมักจะตื่นเต้นเกินงาม”“กินข้าวกันเถิด ถ้าไม่ถูกปากหรืออยากได้อะไรเพิ่มก็บอกได้นะ ข้าจะให้ห้องครัวทำมาให้” พูดเสร็จเขาก็หมุนฐานไม้บนโต๊ะอาหาร “ตรงหน้าเจ้าคือเนื้อตุ๋นลิ้นจี่ ลองตักกินส

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 12

    นางรีบยกมือห้าม “ฟังเหตุผลของข้าก่อนแล้วค่อยแย้ง”“พูดมา”“ท่านเติ้งแต่งเมียมาสามคนแล้ว แต่ทุกคนล้วนได้รับหนังสือหย่าเพราะไม่สามารถมีลูกให้เขาได้ ข้ายังรู้อีกว่าเขามีอนุอยู่ในบ้านอีกหลายคน พวกนางล้วนชิงดีชิงเด่น ใส่ร้ายป้ายสีกันไปมาเพื่อแย่งชิงความโปรดปราน”“ข้าไม่เคยได้ยิน”“เจ้าจะไปรู้อะไร วัน ๆ เอาแต่นวดแป้ง ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามชาวบ้านดูก็ได้”“เจ้าก็เชื่อข่าวลือไม่มีมูลพวกนั้น”“ลูกของข้ากำลังจะแต่งงานกับเขานะ จะไม่ให้ข้าพูดได้อย่างไร หรือเพราะนางไม่ใช่ลูกของเจ้า แต่งไปแล้วจะเป็นอย่างไรก็ช่าง”“ข้าไม่เคยคิดแบบนั้นเลยอาอิน..เอาเป็นว่ารอให้พ่อบ้านโปกลับมาก่อนก็แล้วกัน ข้าจะคุยกับเขาอีกที”“ท่านต้องถามเขาว่าที่ชาวบ้านพูดกันเป็นความจริงไหม” เรื่องที่นางพูดไปใช่ว่าจะเป็นจริงทั้งหมด แต่ถ้านางไม่ยอมรับว่าแต่งขึ้นมาเองใครจะรู้“บุรุษมีอนุมันก็ไม่ผิด แต่งกับท่านเติ้งนางคงไม่ลำบาก”“นั่นลูกข้าทั้งคนนะ โง่ ๆ เซื่อง ๆ อย่างนางไม่กลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของพวกอนุหรือ”“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร”“ต้องให้เขาแต่งอาซินเป็นเมียเอก”“เจ้าอย่าเพ้อฝันไปหน่อยเลย แค่ได้แต่เข้าสกุลเติ้งก็โชคดีของลูกเราแล้ว”

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 11

    บ้านสกุลจูไป๋ซินซินกลับเข้ามาในบ้าน เห็นทุกคนกำลังกินข้าวพร้อมหน้า ทุกสายตาหันมาจับจ้องก่อนจะเมินกลับอย่างไม่ใส่ใจ ทำให้นางรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินแต่นางจะรู้สึกให้เปลืองความรู้สึกไปทำไม เพราะถึงอย่างไรนางก็ไม่เคยได้กินข้าวร่วมโต๊ะกับพวกเขาอยู่แล้ว“มานั่งกินข้าวด้วยกันสิ”“ท่านพ่อ!”“หุบปาก” เอ่ยเสียงเย็นพอ ๆ กับสายตาอ้ายเหม่ยเม้มปากด้วยความขัดใจ ถลึงตามองพี่สาวต่างบิดาอย่างเกลียดชัง มองไปทางมารดาก็เห็นท่านปรามด้วยสายตา จึงได้แต่ข่มกลั้นความโมโหเอาไว้“ผู้ใหญ่เรียกไม่ได้ยินหรือ” จูอินมองลูกสาวคนโตด้วยสายตาที่ว่างเปล่า“เจ้าค่ะ” ซินซินจำใจเดินไปนั่งร่วมโต๊ะจูก่านต้งลุกไปตักข้าวและหยิบตะเกียบส่งให้หญิงสาว แล้วนั่งลงกินต่อโดยไม่พูดอะไร“ขอบใจ” บอกน้องชายแล้วมองกับข้าวบนโต๊ะ แต่ไม่กล้าเอื้อมตะเกียบออกไปคีบ จึงคีบข้าวเปล่าใส่ปาก“แม่ของเจ้าได้บอกอะไรกับเจ้าหรือยัง”“ข้ายังไม่ได้บอกนาง” จูอินไม่คาดคิดว่าสามีจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา “ท่านพ่อบ้านไม่อยู่ เห็นว่ารีบกลับบ้านเกิดไปดูใจน้องชาย ต้องรอให้เขากลับมาก่อน ข้าจึงยังไม่ได้พูดอะไรกับนาง”“แล้วเขาจะกลับมาเมื่อไหร่”“อีกประมาณครึ่งเดื

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 10

    ความโอหังของจูอ้ายเหม่ยหายไปเกินครึ่งเมื่อถูกเอ่ยถึงบิดา ใบหน้าที่เชิดขึ้นอย่างท้าทายไม่เกรงกลัวใคร เริ่มมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด“ข้านึกออกแล้ว” เฟิงเมี่ยนชี้หน้าอ้ายเหม่ยพร้อมทำตาโต “เจ้าคือลูกสาวคนรองของร้านซาลาเปาสกุลจู” เขาปรบมือรัว ๆ ทำท่าภูมิใจกับความฉลาดของตัวเอง “ในเมื่อถูกตราหน้าว่าเป็นขอทานแล้ว ข้าไปเล่าให้เขาฟังว่าโดนอะไรบ้าง แล้วขอค่ายาจากเขาสักหน่อยดีกว่า”จูอ้ายเหม่ยหน้าซีดด้วยความกลัว รู้สึกเหมือนจะเป็นลมเมื่อนึกถึงบิดา.. แม้ท่านจะดูใจดี แต่เมื่อใดที่ท่านโกรธขึ้นมา มารดาก็ยังไม่กล้าต่อกร แล้วนางเป็นแค่ลูกจะรอดได้อย่างไร“จะไปไหน” เฟิงเมี่ยนสะใจเมื่อเห็นนางสะดุ้งสุดตัว “จะจากไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ เจ้ายังไม่ได้ขอโทษพวกเราเลย”“ทำไมข้าต้องขอโทษ” แม้จะขัดขืนแต่เสียงก็อ่อนลงเกินครึ่ง ความมั่นอกมั่นใจลดเหลือแค่หนึ่งส่วนจากสามส่วน“เช่นนั้นก็รีบกลับไปเถิด ข้าไปคุยกับเถ้าแก่จู พ่อของเจ้าง่ายกว่า”“ข้าขอโทษ! ขอโทษ ๆ ๆ ข้าขอโทษ!” ตะคอกใส่หน้าบุรุษทั้งสอง ถลึงตาใส่เฟิงเมี่ยนอย่างอาฆาตแค้น “พอใจหรือยัง”“ถ้าขอโทษไม่เต็มใจแบบนี้ก็จ่ายเจ็บหน้าข้ามาด้วยก็แล้วกัน”“ข้าไม่มี”“ไม่เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status