แชร์

ตอนที่  7   หมดเวลาของการอ่อนแอ

ผู้เขียน: ชาไทยเย็น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-27 05:18:39

 

เมื่องานเลี้ยงเลิก เหล่าบรรดาขุนนางและฮูหยินที่เข้ามารับตำแหน่งพร้อมกันในวันนี้ก็เริ่มทยอยกลับ เว่ยหยางรู้สึกว่าหลินอิงเงียบลงผิดปกติ นางไม่ถามเขาเลยสักคำ ตลอดเวลาที่เดินออกมาจากห้องโถงงานเลี้ยงและส่งนางขึ้นรถม้า

“เจ้ากลับไปที่จวนก่อน ข้าจะแวะไปที่ค่ายนอกเมือง”

นางเพียงแค่พยักหน้ารับรู้ และเดินเข้าไปในรถม้าอย่างว่าง่าย หลิวเว่ยหยางเองก็มิได้สงสัยอะไร เพราะเดิมทีเขาก็ไม่ได้สนใจว่านางจะรู้สึกเช่นไรอยู่แล้ว จึงไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตแต่อย่างใด เพียงแค่ก่อนหน้านี้เขาเห็นนางพูดมากกว่านี้เท่านั้นเอง

จวนแม่ทัพ

“คุณหนู เหตุใดท่านกลับมาจากวังหลวงก็ไม่พูดอะไรเลยเล่าเจ้าคะ”

“ผิงเพ่ยเจ้าเอาเงินนี่ไป แล้วไปสืบให้ข้าทีว่าตอนนี้ท่านแม่อยู่ในจวนสกุลเมิ่ง มีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง”

“เหตุใดจู่ ๆ ท่านก็นึกสงสัยขึ้นมา หรือว่าในวังวันนี้มีอะไรเกิดขึ้นหรือเจ้าคะ”

“ไม่มีอะไรหรอก ข้าก็แค่คิดถึงท่านแม่เท่านั้น อยากรู้ว่าฮูหยินใหญ่กับท่านพ่อ จะทำตามที่รับปากข้าอยู่หรือไม่”

“เช่นนั้นข้าจะรีบไปสืบจากคนที่ทำงานในจวนดูเจ้าค่ะ ข้ารู้จักพวกนางหลายคนในครัวที่พอจะใช้เงินได้”

“รีบไปรีบกลับ”

“เจ้าค่ะ”

วันนี้หลินอิงรู้สึกว่านางโตขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้ว หลังจากที่ได้รู้ว่าเบื้องหน้าของแต่ละคนที่ฉาบสิ่งสวยงามเอาไว้ แต่เบื้องหลังกลับเน่าเฟะจนมิอาจคาดเดา นางไม่อยากทนอยู่ในที่ที่ไม่มีใครเห็นคุณค่า และไม่ต้องการเป็นกาฝากในชีวิตผู้อื่น แม้ว่าตอนนี้จะขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงที่แต่งงานแล้ว แต่กฎหมายของต้าเฟิงไม่มีข้อใดห้ามสตรีหย่าสามีได้

“หมดเวลาของเด็กน้อยไร้เดียงสาแล้ว นับจากนี้ไปข้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดมาบงการชีวิตนี้อีก”

สองวันถัดมา

วันนี้นางกับผิงเพ่ยรดน้ำแปลงผักเสร็จแล้ว ก็ออกมาเก็บของข้างในห้องและจัดให้เข้าที่ แม้ว่าจะมิได้อยู่เรือนใหญ่ แต่ท่านแม่ทัพก็มิได้ให้พวกนางขาดแคลนเงินและอาหาร

“ฮูหยิน นี่เป็นเงินเดือนที่ท่านแม่ทัพให้นำมามอบให้ท่านเจ้าค่ะ”

“เงินเดือนของท่านแม่ทัพ แล้วมาให้ข้าทำไมกัน”

สาวใช้หันมามองหน้านางด้วยความแปลกใจ หลินอิงนึกขึ้นมาได้ว่าบัดนี้นางคือฮูหยินในจวนแม่ทัพ จึงได้รีบหันไปยิ้มให้กับสาวใช้ท่าทางเป็นมิตรผู้นั้นอีกครั้ง

“เอ่อ ขอบใจเจ้ามากที่เอามาให้ข้า เจ้า…”

“ข้าชื่อเย่าชิงเจ้าค่ะ ที่จริงข้าเป็นคนเสนอตัว เพื่อนำเงินนี้มาให้ฮูหยินด้วยตัวเอง ใต้เท้าผู้ดูแลบัญชีก็เลยอนุญาต”

“ทำไมเจ้าถึงอยากมาที่นี่กันเล่า”

“ข้าเคยได้ยินเสียงพวกท่านคุยกัน แล้วก็เห็นพวกท่านทำสวนและทำขนมดูน่าสนุก ก็เลย…”

หลินอิงหันมายิ้มกับเย่าชิงที่พูดอย่างอาย ๆ จึงหันไปหาผิงเพ่ยเพื่อให้นางช่วย ผิงเพ่ยจึงดึงนางมานั่งข้าง ๆ ทันที

“นี่เย่าชิง หากว่าเจ้าอยากจะมาที่นี่ก็มาได้ทุกเมื่อ คุณหนูไม่สิฮูหยินไม่ว่าอะไรเจ้าหรอก นี่ลองชิมขนมดูสิ วันนี้ข้าทำขนมถั่วเขียวต้มน้ำตาลเจ้าลองดูว่าอร่อยหรือไม่”

"ข้ากินได้หรือเจ้าคะ"

“ได้สิ ข้าทำเอาไว้เยอะเลย”

“ถ้าอย่างนั้น…”

“กินเถอะ หากไม่พอเจ้ากับผิงเพ่ยก็ไปตักมาเพิ่ม ข้าจะรีบเอาเงินนี้ไปเก็บก่อน”

“ขอบคุณฮูหยินเจ้าค่ะ”

หลินอิงนำเงินที่ได้มาจากเย่าชิงเข้ามาเก็บในเรือน เมื่อนางเปิดดูก็พบว่าเงินนั้นไม่น้อยเลย

“ห้าร้อยตำลึง เงินเยอะขนาดนี้ให้ข้าหมด แล้วเขาจะใช้อะไรเล่า หรือว่ายังมีเงินอย่างอื่น”

หลังจากนั้นหลินอิงจึงสอบถาม เรื่องเกี่ยวกับแม่ทัพหลิวผ่านเย่าชิงที่มาอยู่กับพวกนางตลอดทั้งช่วงเช้า จึงรู้ว่าก่อนหน้านี้ แม่ทัพหลิวผู้เฒ่าบิดาของหลิวเว่ยหยาง เป็นพระอนุชาของฮ่องเต้ แต่เพราะไม่อยากทำให้ฝ่าบาทและเหล่าองค์ชายบางคนทรงระแวง และต้องรักษาบุตรคนสุดท้ายของสกุลหลิวเอาไว้ เขาจึงไม่รับตำแหน่งอ๋องต่อจากบิดา 

“เจ้าเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ… สตรีอื่นหรือไม่เย่าชิง”

“สตรีอื่นหรือเจ้าคะ เรื่องนี้… ข้าน่าจะมาไม่ทันเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นหรือ ไม่เป็นไรหรอก”

ไม่นานพวกนางก็ช่วยกันเก็บของที่เรือน เย่าชิงเล่าว่านางมาอยู่ที่จวนแม่ทัพได้เพียงสองปีเท่านั้น เรื่องก่อนหน้านี้ไม่ทราบอะไรมาก ส่วนเรื่องเกี่ยวกับในจวนล้วนแต่มีคนเล่าให้ฟัง

“อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่า ที่จวนนี้ไม่มีใครรังเกียจเรานะเจ้าคะคุณหนู”

“จะมีได้เช่นไร ฮูหยินนอกจากไม่วางอำนาจ ไม่สร้างความวุ่นวายแล้ว ยังมีน้ำใจและยังอยู่เงียบ ๆ พวกข้าหลายคนนึกอยากจะมา แต่ก็กลัวว่าท่านจะต่อว่า อีกอย่างก่อนหน้านี้…”

“ท่านแม่ทัพสั่งมิให้ผู้ใดมายุ่งกับข้าสินะ”

เย่าชิงรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ก็ต้องพยักหน้ารับ

“เจ้าค่ะ แต่ที่จริงข้าอยากจะมานานแล้ว”

“เหตุใดตอนนี้เขาถึงไม่ว่าแล้วเล่า”

“เมื่อวานนี้ท่านแม่ทัพ เรียกสาวใช้มาและถามว่ามีใครอยากจะมาดูแลฮูหยินที่นี่บ้าง มีหลายคนที่อยากจะมาเจ้าค่ะ แต่ข้าโชคดีเพราะคนอื่น ๆ มีหน้าที่ของตัวเองดูแล พ่อบ้านจิ่วเลยให้ข้ามา ข้าดีใจมากเลยเจ้าค่ะ”

“เป็นแบบนี้เองหรอกหรือ เช่นนั้นขอต้อนรับอย่างเป็นทางการนะเย่าชิง จากนี้เรื่องในเรือนนี้ก็ฝากเจ้ากับผิงเพ่ยดูแลด้วย”

“ได้เจ้าค่ะ ข้าจะทำให้เต็มที่”

“ขอบใจมาก”

พวกนางทั้งสามคนนั่งคุยกันในสวน ไม่นานพ่อบ้านของแม่ทัพ ซึ่งนามว่า “จิ่วหลง” ก็เดินเข้ามาหา

“ฮูหยินขอรับ”

“พ่อบ้านจิ่ว มีอะไรงั้นหรือเหตุใดจู่ ๆ มาหาข้าที่นี่”

“เอ่อ… ท่านพ่อของท่านมาเยี่ยมขอรับ”

หลินอิงหันมามองหน้าผิงเพ่ย สายตาของนางแข็งกร้าวขึ้นทันทีเมื่อรู้ว่าผู้ใดมาหาที่จวน แม้แต่พ่อบ้านจิ่วเองก็กระอักกระอ่วนที่จะบอกนางเช่นกัน

“เช่นนั้นข้าจะไปพบเขาได้ที่ใด”

“ตอนนี้ข้าน้อยให้รออยู่ที่ห้องโถงเล็กขอรับ ฮูหยินจะไปพบพวกเขาเลยหรือไม่”

“พวกเขางั้นหรือ”

“ขอรับ นายท่านเมิ่งมากับฮูหยินขอรับ”

“ขอบคุณมากพ่อบ้านจิ่ว อีกเดี๋ยวข้าออกไปหาพวกเขาเอง”

“ขอรับ”

“คุณหนูเจ้าคะ”

“ไปเถอะ ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้วนี่ เย่าชิงเจ้าอยู่ที่นี่ก่อน ไม่ต้องไปหรอก”

“เจ้าค่ะฮูหยิน”

นางกับผิงเพ่ย เดินไปที่ห้องโถงเล็กตามที่พ่อบ้านจิ่วบอก เมื่อเดินเข้ามาก็พบกับบิดาและฮูหยินใหญ่นั่งรออยู่ด้านใน ท่าทางของผู้เป็นบิดาดูร้อนรน ส่วนฮูหยินใหญ่ยังมีสีหน้าวางท่าและนั่งรอนิ่ง ๆ 

“คารวะท่านพ่อ ท่านแม่”

“กว่าจะออกมาได้ ข้านึกว่าต้องให้คนเชิญเกี้ยวไปรับมาเสียอีก”

“ฮูหยินอย่าพูดมาก อิงเอ๋อร์เจ้ามาก็ดีแล้วนั่งก่อนสิ นั่งก่อน ๆ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ได้ข่าวว่าเข้าวังไปรับตราตั้งมาแล้วมิใช่หรือ”

นี่คือคำถามแรกของผู้เป็นบิดาถาม เมื่อเขาพบหน้าครั้งแรกหลังจากที่ส่งนางมาที่จวนแม่ทัพ พ่อบ้านจิ่วเห็นว่าไม่มีอะไรจึงได้เดินกลับออกไป ฮูหยินใหญ่เมื่อเห็นเช่นนั้น ก็รีบเดินมาและดึงแขนนางขึ้นมาทันที

“นางตัวดี! ที่ข้ากับพ่อของเจ้ารีบมาที่นี่ ก็เพื่ออยากจะรู้ว่าเจ้าไปก่อเรื่องอะไรในวังมาจนเกือบจะถูกยึดตราตั้งนั้นคืน!”

“ฮูหยิน เจ้าสำรวมหน่อยที่นี่เป็นจวนแม่ทัพนะ”

"หวังอี้จิงหันมามองหน้าหลินอิง ด้วยความเกลียดอย่างที่สุดและรีบสะบัดมือที่จิกเข้าไปในแขนของนางออกอย่างแรง

“โอ๊ย!”

“คุณหนูเจ้าคะ”

หลินอิงหันไปมองบิดาและฮูหยินใหญ่ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง

“ที่แท้พวกท่านก็มาที่นี่เพื่อสิ่งนี้จริง ๆ”

“อิงเอ๋อร์ ในเมื่อเจ้าได้รับแต่งตั้งมาแล้ว ก็จงรีบเอาตราตั้งมาให้พ่อเถอะ จะได้รีบเอาไปไว้ที่ร้านเพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่า ร้านของเรามีฮูหยินตราตั้ง การค้าของพ่อในหอการค้า และท่าเรือจะได้ทำได้สะดวกขึ้น”

หลินอิงหันมามองหน้าบิดา ที่เห็นเพียงการค้าเท่านั้นที่สำคัญที่สุด เขาต้องการตราตั้ง เพื่อจะให้หอการค้ายอมเปิดเส้นทางการค้าทางเรือ จะได้ทำเงินเข้าสกุลเมิ่ง 

“อิงเอ๋อร์ ว่าอย่างไรไหนเล่าตราตั้งนั่น”

“ท่านพ่อ ก่อนที่ข้าจะแต่งเข้ามาที่จวนแม่ทัพแห่งนี้ พวกท่านรับปากข้าว่าจะย้ายท่านแม่ไปเรือนพักใหม่ และหาหมอชั้นดีมารักษาให้แม่ของข้า พวกท่าน… ทำแล้วหรือยังถึงได้กล้ามาหาข้าถึงที่นี่”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ฮูหยินที่รัก ของแม่ทัพคลั่งแค้น   ตอนที่  20 เข้าหอเป็นครั้งแรก

    รสรักที่นางมิเคยได้ลิ้มลอง เมื่อท่านแม่ทัพเริ่มลาดเลื้อยนิ้วสากไปตามเรือนร่างของนาง และหยุดที่ปทุมคู่สวยอีกครั้ง นางก็รู้แล้วว่าถึงเวลาแล้ว“อย่าเกร็งมาก ข้าจะค่อย ๆ เข้าไป”“เจ้าค่ะ ข้าจะพยายาม”เพียงแค่แท่งร้อนที่ทั้งใหญ่และดุดันนั้นสอดเข้ามา หลินอิงก็เริ่มจิกนิ้วมาที่ไหล่กว้างของเขา นางรู้สึกเจ็บและประหม่าเล็กน้อย แต่เขาก็มิได้ทำให้นางทรมานอยู่นาน เพราะหลังจากความเจ็บในสัมผัสแรก จากนั้นทั้งคู่ก็หลงลืมวันเวลาอยู่บนเตียงอุ่น ท่ามกลางเสียงร่ำร้องฉลองชัยชนะในคืนนี้“อื้อ…ทะ ท่านพี่ อื้อ”จูบหนักแน่นและพร้อมจะดูดกลืนนางได้ทั้งตัว ถูกส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่า หลินอิงแทบจะรับศึกรักนี้ไม่ไหวแล้ว หลังจากที่เขาจับนางเปลี่ยนท่า ยกขาขึ้นพาดบ่า จับให้นอนตะแคงโดยมีเขาสวมกอดอยู่ด้านหลัง แรงกระแทกมาแต่ละครั้งหนักแน่นและดุดันสมกับเป็นขุนศึกผู้กล้า เสียงลมหายใจร้อนรดมาที่ซอกคอ ตามด้วยริมฝีปากเย็นที่ฝังแน่นตามลงมา“ข้า…อ๊าาา ท่านพี่เจ้าคะ”มีเพียงเสียงลมหายใจแหบต่ำของเขาเป็นคำตอบ ว่านางยังพักไม่ได้ หากเขาไม่อนุญาต ร่างบางเกร็งตัวขึ้นอีกครั้ง เขาส่งนางไปถึงฝั่งนับครั้งไม่ถ้วน แต่ตัวเขาเองพึ่งจะคำรามออกม

  • ฮูหยินที่รัก ของแม่ทัพคลั่งแค้น   ตอนที่  19  ท่านโกรธข้าหรือ

    ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจ เว่ยหยางหันไปมองที่ยอดเขาซึ่งเขาเคยพานางมา และเขาก็เห็นว่าผู้ที่ยิงธนูช่วยเขาเมื่อครู่นี้ มิใช่ทหารของเขาอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเล็งได้ตรงจุดแต่กำลังก็มิได้ทำให้ฆ่าคนตายได้ แค่หยุดพวกเขาเอาไว้ได้เท่านั้น“เมิ่งหลินอิง เจ้านี่อยู่เฉยไม่ได้เลยจริง ๆ”ค่ายทหารเมื่อกองทัพเริ่มทยอยเข้ามาในค่ายทหาร แม่ทัพหลิวก็ถูกนำมาที่กระโจมเพื่อทำแผลทันที หลินอิงวิ่งเข้ามาหลังจากที่ท่านหมอทำแผลให้เขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว“จากนี้คงต้องเปลี่ยนผ้าพันแผลและใส่ยาเช้าเย็น อาการอย่างอื่นไม่มีอะไรหนักหนามากขอรับ”“ขอบคุณท่านหมอ”เมื่อหมอและคนอื่น ๆ ออกไปแล้ว เพราะเย็นนี้มีงานเลี้ยงฉลองที่ชนะศึก และทุกคนจะได้กลับบ้าน จึงทำให้ไม่มีใครอยากจะอยู่แต่ในกระโจม หลินอิงเดินเข้ามา และมองไปที่เว่ยหยางซึ่งนั่งอยู่ที่เตียง“ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ท่านหมอบอกข้าว่าแผลที่ไหล่ของท่านไม่ลึกมาก แค่ใส่ยาก็หาย”“วันนี้เจ้าไปไหนมา”“ข้า…”“อย่าได้คิดจะโกหกข้าเชียว กุนซือเผิงช่วยเจ้าไม่ได้หรอกนะ”“ท่านโกรธข้าหรือ”“เจ้าไม่รู้หรือว่ามันอันตราย หากว่ามิใช่กองทัพของข้าแล้วละก็”“แต่ที่นั่นทั้งสูงและปลอดภัย กองทัพที่เหลือ

  • ฮูหยินที่รัก ของแม่ทัพคลั่งแค้น   ตอนที่  18 ข้าจะไปกับพวกท่านด้วย

    วันถัดมา“ท่านแม่ทัพ ท่านมั่นใจแล้วหรือที่จะ เอ่อ…”“กุนซือ ท่านคิดว่าแผนการนี้มีอะไรต้องแก้ไขงั้นหรือ หากว่าท่านมีแผนการอื่น ที่ดีกว่าแผนที่ฮูหยินขอข้าเสนอมา ก็พูดออกมาได้เลย”“แม้ว่าจะดูรอบคอบ แต่จะทำอย่างไรถึงจะให้ศัตรูเชื่อว่าเรื่องนี้มิใช่กลลวง”“เรื่องนั้นง่ายมาก เราต้องปล่อยข่าวออกไป และให้พวกเขาปล้นเสบียงไปก่อนครั้งหนึ่ง จากนั้นเขาจะเชื่อข่าวเรื่องนี้ทันที”“อะไรนะ เราต้องเสียเสบียงให้ข้าศึกก่อนงั้นหรือ ท่านแม่ทัพนี่มันจะไม่เสี่ยงไปสักหน่อยหรือ”นางกองหวังพูดขึ้นมา เมื่อรู้ว่าต้องใช้เสบียงจริงในการหลอกล่อ เขาก็เกิดกลัวขึ้นมา แต่กุนซือเผิงอิ้งกลับตบพัด และหันมายิ้มให้กับแม่ทัพหลิวและฮูหยิน“จะตกปลา หากไม่ใช้เหยื่อก็คงไม่ได้ปลาใหญ่ ข้าเข้าใจแผนการของฮูหยินแล้ว นี่ช่างเป็นการพลิกกลยุทธ์ทางการค้ามาใช้กับกองทัพได้อย่างยอดเยี่ยมจริง ๆ”“ขอบคุณท่านกุนซือ เช่นนั้นแผนการที่เหลือเราก็เร่งวางแผนกันได้แล้วสินะ”“แน่นอนขอรับ”“เช่นนั้นข้าออกไปก่อน”“ไม่ต้องหรอก เจ้าเป็นคนคิดแผนนี้ได้ แน่นอนว่าย่อมมีสิทธิ์ที่จะรู้แผนการทั้งหมด มาเถอะ”แม่ทัพหลิวโอบเอวนางมาที่โต๊ะซึ่งมีแผนที่อยู่ พวกเขาใช้เว

  • ฮูหยินที่รัก ของแม่ทัพคลั่งแค้น   ตอนที่ 17 กลยุทธ์ศึกจากฮูหยิน

    เสียงทุ้มต่ำของหลิวเว่ยหยาง ทำให้นางจำได้ในทันที นางทิ้งกระบอกและมองเขาชัด ๆ อีกครั้ง จื่อรั่วถูกสั่งให้ออกไปรอข้างนอก หลังจากยืนตกตะลึงไปกับน้ำที่สาดออกมาโดนทั้งคู่ “ทะ ท่านแม่ทัพ!”"ข้าเอง"นางโผเข้ากอดเขาในทันที เว่ยหยางได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของนางก็รู้ว่าที่จริงแล้ว ฮูหยินของเขากลัวมากเพียงใด อีกอย่างตัวนางที่สั่นก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด“ข้าเองหลินอิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”“ตะ ตัวท่านเปียกไปหมด ข้าขอโทษ ข้าคิดว่าท่านเป็น…เป็น…”“เจ้าใจเย็นก่อน ข้าไม่เป็นอะไรทั้งนั้นเจ้าอย่าตกใจ เดิมทีแค่คิดจะแวะมาหาเจ้าเท่านั้น แต่ดูท่าตอนนี้คงต้องเปลี่ยนชุดเสียแล้ว”หลินอิงรีบหันไปเตรียมชุดใหม่ให้เขา ระหว่างที่แม่ทัพหลิวเดินไปอาบน้ำที่ห้องด้านหลัง เมื่อเดินออกมาก็เห็นหลินอิงวางชุดใหม่ให้เขา นางกำลังสาละวนทำบางอย่างอยู่ข้างนอก เมื่อเขาเปลี่ยนชุดเสร็จจึงได้เห็นหมั่นโถวที่พึ่งนึ่งออกมาใหม่ ๆ กับหมูแดดเดียวที่แค่เห็นก็รู้สึกน้ำลายสอ“นี่เจ้าเตรียมให้ข้าหรือ”“เจ้าค่ะ ในครัวมีแป้งเหลืออยู่นิดหน่อย ข้าก็เลยรีบไปนึ่งมาให้ ท่านรีบกินก่อนเถอะ”เขานั่งลงและเริ่มกินอีกครั้ง ศึกที่ยืดเยื้อมาหลายวันทำให้เ

  • ฮูหยินที่รัก ของแม่ทัพคลั่งแค้น   ตอนที่  16  เจ้าคงโกรธสินะ

    “รอบ ๆ ค่ายหรือ แล้วจะไม่เป็นอันตรายหรือเจ้าคะ”“ไม่หรอก รอบ ๆ บริเวณนี้มีทหารอารักขา อีกอย่างที่นี่เป็นเขตของเยี่ยนตู ไปกันเถอะ”“เจ้าค่ะ”นางเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย เมื่อเดินออกมาจื่อรั่วก็ถูกสั่งให้เตรียมม้า เขาก็เตรียมมาสองตัว แม่ทัพหลิวจึงหันมาบอกเขาอีกครั้ง“แค่ตัวเดียวก็พอ ไม่ต้องตามข้าไปหรอก สั่งให้คนเฝ้าที่นี่ดี ๆ ก็พอ”“ขอรับ”จื่อรั่วแอบยิ้ม เมื่อเห็นท่านแม่ทัพและฮูหยิน ที่เอาแต่เดินก้มหน้าเพราะเขาบอกว่าจะใช้ม้าแค่ตัวเดียว นางถูกเขาจูงมือไปที่ม้าตัวโปรดของเขาเอง ก่อนจะอุ้มนางขึ้นไปนั่งและตามขึ้นไปอย่างชำนาญ“จับเอาไว้ให้แน่น แต่อย่าไปดึงแผงคอมันแรงเล่า หากมันเจ็บเดี๋ยวจะวุ่นวาย”“เจ้าค่ะ”เสียงที่กระซิบอยู่ข้างกกหู ยิ่งทำให้หลินอิงรู้สึกวูบวาบจนหมดแรง เขาพานางขี่ม้าออกจากค่าย ตรงไปยังเชิงเขาข้าง ๆ ค่าย ซึ่งแต่เดิมค่ายทหารก็อยู่บนเนินเขาอยู่แล้ว เพื่อมองเห็นศัตรูได้ในระยะไกล เมื่อขึ้นเขาไปอีกไม่นานก็ถึงยอดเขาที่มีต้นไม้ใหญ่และต้นน้ำที่ไหลผ่านด้านหลังค่ายทหาร “สวยมากเลย”“คิดอยู่แล้วว่าเจ้าต้องชอบที่นี่ ข้าเองก็ชอบมาที่นี่เวลาที่ต้องการคิดอะไรบางอย่าง”“ท่านมีอะไรที่คิดไม่ต

  • ฮูหยินที่รัก ของแม่ทัพคลั่งแค้น   ตอนที่ 15  เจ้าโกรธข้าหรือ

    “ท่านอย่าโทษคนอื่น เรื่องนี้ข้าคิดเอาไว้ตั้งแต่ที่มาแล้ว เหตุใดท่านจึงต้องห้ามด้วย”“แม้ว่าก่อนหน้านี้ที่เจ้าเดินทางมา จะไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าเจ้าขนส่งเสบียง แต่ขากลับไปเจ้าคิดหรือว่าข่าวจะไม่เล็ดลอดออกไป”“ข้า… ไม่ทันคิดเรื่องนี้ แต่ข้ามีอาวุธ มีคนคุ้มกันข้าขี่ม้าเป็นแล้วก็…”“เหลวไหล! คิดว่าเพียงเท่านี้จะรักษาชีวิตเจ้าได้อย่างนั้นหรือ ช่างโง่เขลายิ่งนัก”หลินอิงนิ่งไปเมื่อเขาพูดเช่นนี้ แม้จะรู้ว่าเขาพูดออกมาก็มีความจริงที่นางคิดไม่ถึง แต่ที่สุดแล้วเขามีทางเลือกจะใช้วิธีพูดที่ดีกว่านี้ได้ แต่กลับไม่ทำ“หลินอิง ข้า…ไม่ได้ตั้งใจ”“ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจที่ท่านพูดแล้ว หากเป็นเช่นนั้นก็แล้วแต่ท่านจะสั่งการเถิดเจ้าค่ะ ข้าหิวแล้ว”“เอ่อ ถ้าอย่างนั้นก็ไปกินข้าวก่อน เสร็จแล้วจะได้มานอนพักผ่อน เจ้าเหนื่อยมาหลายวันแล้ว”นางลุกขึ้นทันที เขาจะเดินมาจับตัวนาง แต่หลินอิงเดินเลี่ยงออกมาทันที เป็นครั้งแรกที่เว่ยหยางรู้สึกเจ็บปวดเมื่อถูกนางเมินเฉย แต่พอนึกย้อนกลับไปก็พอจะเข้าใจที่นางโกรธ“วันนี้มีเนื้อกินแล้ว เจ้ากินมาก ๆ หน่อยร่างกายจะได้อบอุ่น”“ไม่ต้องเจ้าค่ะ ระหว่างทางข้าเองก็ไม่ได้อดถึงขนาดขาดแคลนอา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status