ตอนที่ 44 ใช่ท่านหรือไม่ท่ามกลางหิมะที่กำลังโปรยปราย ผู้คนเดินขวักไขว่หนึ่งในนั้น มีเจินไป๋เจียเดินกางร่มเดินเลียบข้างทางเฉกคนอื่นมากมาย สีหน้าของแต่ละคมล้วนมีอารมณ์หลากหลาย ทั้งยินดีเศร้าสร้อย ส่วนสีหน้าของเจินไป๋เจียเต็มไปด้วยความผิดหวัง ตอนนี้ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วก็ยังไม่เจอหวงซีซวน ความคิดน้อยเนื้อใจก็เอ่อล้นขึ้นมา ไหนบอกว่าจะเป็นคนตามหานาง ทำไมจนปานนี้ยังไม่เจอ นางสืบค้นทั้งในเว่ยป๋อและออกตามหาก็ไม่พบชื่อหวงซีซวน หรือเขาไม่ได้มาเกิดในมิตินี้นางอาจจะต้องรอชาติต่อไปอีกหรือภายในใจของนางกลับเงียบเหงายิ่งนัก หวงซีซวนท่านอยู่แห่งหนใดกัน เจินไป๋เจียกลับมาถึงบ้านก็เจอมารดาที่กำลังรอคอยบอกข่าวดี “เจียเอ๋อร์ มีหนังสือจากมหาวิทยาลัย A ลูกได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาในคณะเภสัชศาสตร์” เจินไป๋เจียฝืนยิ้มอ่อนโยนให้มารดา“ดีจังเลยค่ะแม่” จะว่ายินดีก็ไม่เชิง นางมีความทรงจำสามภพชาติเรื่องสอบมหาวิทยาลัยกลายเป็นเรื่องที่ไม่ตื่นเต้นเท่าไรนัก“เจียเอ๋อร์เด็กดี แม่ภูมิใจในตัวลูกที่สุด แม่โทรไปบอกพ่อแล้ว เราคุยกันอย่างไรวันนี้ก็ต้องฉลอง วันนี้เราจะไปทานข้าวนอกบ้านกั
ตอนที่ 43 ตามหาข่าวการเชื่อมสัมพันธ์การแต่งงานระหว่างองค์หญิงไป๋เจียเจียและอ๋องอู๋โหย่วอี้หรือแม่ทัพแดนบูรพาจากดินแดนเมฆาดังไปทั่วแคว้น แม้จะมีข่าวเศร้าจากการสูญเสียแม่ทัพหวงซีซวนก็ไม่ทำให้เกิดกลิ่นอายอัปมงคล ทุกคนต่างยินดีกับข่าวมงคลครั้งนี้ มีเพียงไป๋เจียเจียกลับที่รู้สึกเฉยชากับเรื่องดังกล่าว“ท่านควรจะยินดีกับสิ่งที่กำลังเกิด” จิ้งจอกน้อยเอ่ยบอก “ใช่ข้าควรยินดี ใกล้ถึงเวลาแล้ว ต่อไปนี้หลังแต่งงานจะตั้งใจฝึกและบำเพ็ญเพียร” ไป๋เจียเจียไปจัดการเรื่องของซีหรงกับหม่าจื่อเหลียนด้วยตนเองที่จวนแม่ทัพหวง นางปรายตามองต่ำมองทุกคนที่มารับเสด็จด้วยความรู้สึกเย็นชา ภายใต้ร่างอรชนงดงามแผ่รังสีกดดันให้ผู้คนหายใจไม่ออก “กระหม่อมรับบัญชา จะรีบจัดการส่งแม่สื่อไปสู่ขอหม่าจื่อเหลียนมาเป็นฮูหยินเอกให้เร็วที่สุดพ่ะย่ะค่ะ” นายท่านหวงบิดาของหวงซีซวนกล่าวด้วยน้ำเสียงนอบน้อม องค์หญิงไป๋เจียเจียนอกจากจะเป็นปรมาจารย์แล้ววาสนาสูงส่งมีสัญญามั่นหมายกับอ๋องต่างดินแดนพระบารมีแผ่กว้างใหญ่ยิ่งกว่าฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเสียอีก ไป๋เจียเจียชำเลืองมองไปยังร่างอรชนของฮูหยินรองหม่าที่กำลังหมอบ
ไป๋เจียเจียร้องให้แทบขาดใจ น้ำเสียงของนางคล้ายกำลังอ้อนวอนสวรรค์ขอให้นางได้กลับตัว ทุกคนที่มองต่างไม่เชื่อว่าไป๋เจียเจียจะมีใจให้หวงซีซวนเพียงนี้ “หวงซีซวนเป็นข้าที่ผิดเอง ฮื้อ ฮื้อ…” ความรู้สึกโทษตัวเองถาโถมเข้าใส่นางราวกับทะเลคลั่ง “เจียเอ๋อร์ชาตินี้เป็นข้าเองไม่เหมาะสมกับเจ้า…ข้าขอร้องเจ้า ให้ความผิดของข้าในชาตินี้กลายเป็นเถ้าถ่านไปพร้อมกับร่างของข้า ชาติหน้าข้าจะชดเชยทุกอย่างให้เจ้า ตามหาเจ้า เราจะชมทะเลดาวใต้แสงจันทราด้วยกัน"เสียงของหวงซีซวนแหบแห้งแผ่วเบา แม้จะมีคำพูดมากมายที่อยากจะเอื้อนเอ่ยทว่าตอนนี้เขาเพียงกุมมือของหญิงสาวถ่ายเทความอบอุ่นผ่านฝ่ามือที่เยือกเย็น “ไม่ ๆ ๆ ท่านจะต้องไม่เป็นอะไร” ไป๋เจียเจียเสียใจอย่างรุนแรง คล้ายมีคนคว้างหัวใจนางออกมาบดขยี้เสียงร้องไห้ของนางบอกถึงความเจ็บปวดทรมานเสียดแทงเข้าไปถึงในกระดูก นางมองดูพิษอสูรค่อย ๆ กัดกร่อนร่างกายของหวงซีซวนจนกลายเป็นเถ้าถ่าน ปลิวล่องไปตามสายลม นางลนลานพยายามคว้าไม่ให้มันหลุดลอย ทั้งที่อยู่ในอ้อมกอดของแต่นางก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้ ชาติที่แล้วโชคชะตาลิขิตให้นางลืม ไยชาตินี้ถึงให้นางจดจำได้เพีย
ตะวันฉายแสงพ้นผ่านอีกคืน ไป๋เจียเจียแทบไม่ได้นอนเพราะดูแลเด็กทารกแรกเกิดก่อนกำหนดด้วยตนเอง แม้จะอ่อนแรงทว่ารุ่งเช้านางก็อุ้มเด็กน้อยออกมารับแสงตะวัน ชำเลืองดูมองไปเห็นร่างของหวงซีซวนยังอยู่ที่เดิม สีหน้าของชายหนุ่มซีดเซียวไร้สีเลือด การปะทะเมื่อวานคาดว่าชายหนุ่มคงได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ลางสังหรณ์ผุดขึ้นมาในใจ คาดว่าหวงซีซวนอาจจะได้รับพิษอสูร ฉับพลันดั่งมีมีดปักลงมากลางใจ เสียงกรีดร้องของเจินไป๋เจียภายในจิตใจดังกึกก้องประหนึ่งโดนสายฟ้าฟาด ไป๋เจียเจียยืนตัวสั่นเทานางไม่เข้าใจกับท่าทีของตนเองหรือวิญญาณของเจินไป๋เจียยังคงเหลืออยู่ในร่าง นางส่งเด็กให้ชิงอีด้วยมือที่สั่นเทาก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปใกล้หวงซีซวน ทุกย่างก้าวเป็นไปอย่างยากลำบากทว่าอีกใจก็แทบจะถลาเข้าไปดูชายหนุ่ม เมื่อนั่งลงข้างกายนางหยิบมือของชายหนุ่มขึ้นมาจับชีพจร แทบไม่เหลือร่องรอยของการมีชีวิต อวัยวะภายในโดยทำลายด้วยพิษอสูรจนแทบไม่เหลือชิ้นดี “ซีซวน ทำไมท่านดื้นรั้น ทำไมท่านไม่บอกข้า” นางเอ่ยถามทั้งที่ตนเองก็ไม่เข้าใจว่าไยนางเอ่ยเช่นนั้น น้ำตาเริ่มเอ่อล้นขึ้นมา ภายใต้จิตใจที่ใกล้จะล่องลอย หวงซีซวนได้
ฉีเฟยหันชำเลืองมองไปยังหวงซีซวน ดวงตาอันงดงามของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความอ้อนวอน หากนางปฏิเสธคาดว่าคืนนี้คงนอนไม่หลับเพราะสบายใจ ฉีเฟยจึงตัดสินใจตวัดพลังนำร่างของหม่าจื่อเหลียนลอยขึ้นฉับพลันร่างไร้สติหม่าจือเหลียนก็วางอยู่ตรงหน้าไป๋เจียเจีย“เกิดอะไรขึ้น!!" หญิงสาวรีบเข้าไปดูอาการหม่าจื่อเหลียนทันที แม้จะตกตะลึงกับสิ่งที่ได้พบก็รีบสงบสติอารมณ์ ชีพจรของหม่าจื่อเหลียนอ่อนแรงนางไม่อาจจะใช้โอสถต่ออายุขัยเพราะยังมีเด็กอยู่ในครรภ์หม่าจื่อเหลียน โอสถตัวนี้ต่ออายุได้เพียงคนที่มีอายุแล้วเท่านั้น “ฉีเฟยช่วยประครองพลังลมปราณของนาง ข้าจะเอาเด็กออกมา” หวงซีซวนมองไปยังหม่าจื่อเหลียนสลับกับไป๋เจียเจีย หญิงสาวไม่ชำเลืองมองกลับมาแม้แต่น้อย ในชาตินี้วาสนาของเขากับนางคงเป็นฝันเท่านั้น ชาตินี้เขาไม่หวังอะไรขอเพียงหม่าจื่อเหลียนกับลูกปลอดภัยก็พอ ดูจากสีหน้าของไป๋เจียเจียแม้จะดูเคร่งเครียดทว่าก็แฝงความมั่นใจอยู่หลายส่วน ไม่นานก็มีเสียงทารกร้องดังจ้า อุแว้!! อุแว้!! เสียงยินดีของไป๋เจียเจียและคนรอบข้างดังแว่วมาแสดงว่าทั้งสองปลอดภัยแล้ว หวงซีซวนปิดตาลงอย่างเบาใจ บุรุษที่เคยองอาจแข็ง
เรือดาวล่องลอยเข้าไปในป่าลึกเรื่อย ๆ ทิวทัศน์เมฆล่องลอย พริ้วไหวไปกับสายลมยังคงงดงาม หญิงสาวลูบไล้ขนขาวอ่อนนุ่มของจิ้งจอกน้อยปล่อยความรู้สึกล่องลอยไปพร้อมกับเรือดาว “คุณหนู ฉีเฟยหยุดอยู่ตรงน้ำตกตรงโน้นเจ้าค่ะ ตรงนั้นน่ามีถ้ำด้วย” ชิงอีเรียกไป๋เจียเจียตามคำสั่งของนาง “เช่นนั้น ก็ลงจอดเถิด” เรือดาวค่อย ๆ เคลื่อนตัวต่ำลงจอดอย่างนิ่มนวล เมื่อไป๋เจียเจียลงมาเรือดาวก็พบกับแม่ทัพอู๋โหย่วอี้ ยืนรอรับ“ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงระคนตกใจเล็กน้อย ชายหนุ่มไม่ตอบพลางส่งสายตาชำเลืองมองไปยังบนฟากฟ้า ข้างบนมีหงส์สองตัวกำลังบินโฉบไปมาทักทายกันอย่างยินดี “ข้าเป็นอนุชาฮ่องเต้องค์ปัจจุบันของดินแดนเมฆา” นั่นเป็นคำตอบเพื่อบอกว่าเขาเองก็เป็นคนสายเลือดมังกร“นั่นไม่ใช่คำตอบ ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่” ไป๋เจียเจียมาฝึกตนต้องการความสงบ หากมีบุรุษอื่นอยู่ร่วมด้วยนางจะมีความสงบได้อย่างไร“ข้าก็ต้องการมาฝึกตนเช่นเดียวกัน” ตูบ! เสียงต่อสู้ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว สายตาอู๋โหย่วอี้หรี่ลงอย่างมีความหมาย“คาดว่าคงมีผู้ติดตามองค์หญิงมาเพิ่มกระมัง” ไป๋เจียเจียขมวดคิ้วไย