วี๊ด...
กู้เฉียวจิงได้ยินเสียงวี๊ดดังก้องในหัว นางรู้สึกวูบไหวไปมา ภาพในหัวล้วนมัวไม่ชัดเจนแถบได้ยินเสียงครางต่ำ นางรู้สึกล่องลอยมีบางอย่างที่แทรกเข้ามาในร่างกาย มือใหญ่นวดคลึงไปทั่วร่าง คลับคล้ายกำลังมีบุรุษเสพสุขอยู่บนร่างกายนาง
สติเริ่มแจ่มชัดขึ้นพร้อมกับความรู้สึกวาบหวามที่เกิดขึ้นทั่วร่างกาย แม้จะยังรู้สึกมึนงงก็รับรู้ถึงความร้อนผ่าวและกระแทกแทรกเข้ามาในส่วนล่างที่กระชั้นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ หัวใจหญิงสาวเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ
นางรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น แต่ว่า!!
จะเป็นไปได้อย่างไร
กระสุนเมื่อสักครู่ ไม่มีทางที่จะยังมีชีวิตอยู่
หรือว่าจะเป็นจิตสุดท้าย
หญิงสาวนึกขำ จะตายอยู่แล้วทำไมถึงไปคิดเรื่องนี้ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยตัวปล่อยกายเสพสุขดีกว่า อีกอย่างบุรุษในอุดมคติของนางแรงเยอะไม่น้อย และส่วนนั้นก็พอเหมาะ แถมยังขยันจูบนวดคลึงไปทั่วร่างความเสียวซ่านไต่ระดับเกินจะทนไหว ร่างอรชนเกร็งตัวชายหนุ่มคนนั้นก็หยุดขยับก้มลงจูบอย่างดูดดื่ม ลิ้นที่สอดแทรกเข้ามากู้เฉียวจิงก็ตอบรับตวัดพัวพัน
เหมือนจะเป็นการกระตุ้นบุรุษผู้นั้น
แรงกระแทกกระชั้นเร่งจังหวะถี่ขึ้น
“อ่า...ฮูหยิน..”
นั่นเป็นเสียงที่แจ่มชัดสุดท้ายที่กู้เฉียวจิงได้ยินก่อนจะคล้อยหลับไป
แสงตะวันยามอรุณเช้าสาดส่องเข้ามา
กู้เฉียวจิงที่คิดว่าตัวเองตายแล้วจึงนอนหลับอย่างปล่อยวางไม่ระวังสิ่งใด ยากนักที่ชีวิตจะมีช่วงไร้กังวลเช่นนี้ ทว่ากลับมีเสียงเรียกเธอมาจากแหล่งโลกาที่แสนไกล
“กู้เฉียวจิง”
“ใคร ! !”
“ไม่ต้องมองหาฉัน ฉันเป็นแค่มวลจิตที่ถูกส่งนำมาพูดคุยกับคุณ ฉันมีข้อเสนอ”
“ข้อเสนอ..ข้อเสนออะไร?”
“คุณคงรู้ตัว ว่าตอนนี้ได้ตายไปแล้ว...คุณได้เกิดใหม่เข้ามาสู่นิยายที่คุณพึ่งอ่านจบไปเมื่อสักครู่...อยู่ในร่างของกู้เฉียวจิง”
ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย? กู้เฉียวจิงที่ชื่อเหมือนเธอแต่เป็นตัวประกอบที่เธอด่าทอว่าโง่เขลาสูญเสียทั้งลูกทั้งสามีและก็เสียชีวิตตั้งแต่กลางเรื่องนั่นเหรอ ตอนนี้คงไม่ใช่ฝันธรรมดาแล้ว
“ไม่ใช่ฝัน นี่คือภพชาติใหม่ของคุณ...”
กู้เฉียวจิงไม่แจ่มชัดในเจตนาของอีกฝ่าย จึงเอ่ยถาม
“แล้วที่บอกว่ามีข้อเสนอคือสิ่งใด?”
“เราจะมอบกล่องยาวิเศษให้คุณ ในนั้นจะมียาหลายอย่าง แต่หากคุณต้องการใช้จะต้องทำภารกิจเพื่อปลดล๊อคมัน”
“เท่าที่ฟัง มีแต่ฉันได้ประโยชน์พวกคุณจะได้สิ่งใด”
“เรื่องนั้นคุณไม่จำเป็นต้องทราบ...ตอนนี้ฉันจะให้คุณดูตัวอย่างกล่องยาเพื่อตัดสินใจ”
ทันใดในจิตก็เกิดจอภาพมีขวดคล้ายวางบนชั้นเรียงราย คล้ายรายการขายสินค้าในหน้าจอมือถือ เมื่อเพ่งมองเข้าไปก็จะมีสรรพคุณของตัวยา บางขวดมีภารกิจที่ต้องทำ บางขวดไม่มีหยิบใช้รักษาตามอาการได้ทันที
กู้เฉียวจิงขมวดคิ้ว อย่างงวยงง เมื่อเห็นภารกิจบางขวด
เข้าร่วมงานชมบุปผา
ทำไมภารกิจบางอย่างดูไร้สาระสิ้นดี
“ได้เวลาคุณตัดสินใจแล้ว หากรับเสนอทำภารกิจแรกกล่องยานี้จะเป็นของคุณทันที แต่ถ้าไม่...เราจะได้ไปหาคนอื่น”
ในเมื่อตายไปแล้ว หากมีอันตรายถึงชีวิตก็ถือว่าตายอีกรอบ ชาติที่แล้วเป็นนักฆ่ามาตลอดทั้งชีวิตทำหน้าที่รับภารกิจโดยไม่ถามไถ่ต้นสายปลายเหตุมาตลอด และยานับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตไม่จำเป็นต้องทำภารกิจก็สามารถหยิบใช้ได้ กู้เฉียวจิงจึงตัดสินใจรับโดยไม่ไตร่ตรองมากนัก
“ยินดีต้องรับสู่ระบบยาวิเศษ ขอให้คุณประสบความสำเร็จในครั้งนี้”
เหมือนเสียงนั้นจะหายไปแล้ว ส่งให้กู้เฉียงจิงได้สติ ลืมตาขึ้นมา เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องนอน ความรู้สึกคุ้นเคยพร้อมกับความทรงจำหลากหลายอย่างกรูเข้ามาในหัว จนทำให้เธอต้องรู้สึกตื่นตระหนก
ข้ามีความทรงจำของกู้เฉียวจิง เธอนั่งตัวตรงขึ้น อยู่ ๆ จอภาพยาต่าง ๆ ก็ผุดขึ้น เธอมองไปยังขวดยาลำดับแรก
ภารกิจแรก แลกกับตู้ยา
“ยาฟื้นฟูความทรงจำให้เสิ่นเยี่ยหง”
ความทรงจำ กู้เฉียวจิงทวนคำนี้อยู่หนึ่ง แล้วพยายามทบทวนเกี่ยวกับเนื้อหานิยาย เสิ่นเยี่ยหงสามีของเธอเป็นหงอี้โหว แม่ทัพบูรพาที่บาดเจ็บจากการตามหาสมุนไพรตกลงแม่น้ำ ถูกพัดพาเข้ามาในหมู่บ้านอี้หลาง ครอบครัวนางได้ช่วยดูแลจนกระทั่งเขาหายบาดเจ็บ ทว่าเขาไร้ความทรงจำไม่รู้ว่าตนเองชื่ออะไรเป็นใคร เวลาผ่านไปเนินนาน จึงปักหลักอยู่ที่นี้และสร้างครอบครัวกับนาง
...หากจำไม่ผิด
เสิ่นเยี่ยหงฟื้นคืนความทรงจำหลังเธอคลอดลูกสาว ตอนนี้เธอพึ่งมีลูกชายเพียงคนเดียว
เดี๋ยวก่อน
หากฟื้นความทรงจำเร็วกว่าเดิมเนื้อหานิยายก็จะเปลี่ยน นั่นหมายถึง จะต้องกลับเมืองหลวงไปช่วยองค์รัชทายาทต่อสู้กับศัตรูกลการเมืองเร็วขึ้น สิ่งนี้คือสิ่งที่มวลจิตก้อนนั้นต้องการหรือ?
เหตุการณ์หลายอย่างสอดคล้องกันแบบมีแบบแผน เช่นทันทีที่เธอเข้ามาในนิยายก็เข้าสู่ฉากที่หลังจากนี้เธอจะยอมรับการเป็นภรรยาของเสิ่นเยี่ยหงโดยไม่ตะขิดตะขวางใจและการตัดสินใจก็ง่ายขึ้นเป็นสามีภรรยาก็ต้องช่วยกัน
ฮึ ! มิใช่เพียงแค่นั้น
เหตุการณ์เธอถูกชัดนำตั้งแต่ที่หยิบนิยายขึ้นมาอ่านมันไม่สอดคล้องกับนิสัยของเธอสักนิด หลังเธอเสียชีวิตก็ส่งเธอมาเกิดใหม่ที่นี่เพื่อช่วยชะตาชีวิตผู้หนึ่งทางอ้อม คงเป็นใครสักคนที่สวรรค์โปรดปรานแต่ไม่สะดวกใจทำอย่างโจ่งแจ้ง
นี่สินะที่เขากล่าวถึง ชีวิตดั่งฟ้าประทาน
กำลังจะคาดเดาต่อพลันก็รู้สึกตาพร่ามัวขึ้น เธอเอามือนวดคลึงระหว่างคิ้วไปมา คงเป็นเพราะใช้สมองตึงเครียดมากจนเกินไป ร่างกายของกู้เฉียงจิงหาได้แข็งแรงเท่าไรนัก ยิ่งเมื่อคืนถูกสามีต้อนรับด้วยการเคี้ยวกร่ำทั้งคืนตอนนี้แทบจะสิ้นเรี่ยวแรง
ช่างเถอะ คนที่สวรรค์ต้องการดูแลพิเศษจะเป็นผู้ใด
ตรึกตรองไม่นานคงได้รู้
ตอนนี้เธออ่อนล้าเหลือเกินขอพักเสียก่อน
ในช่วงเวลานั้น ที่สถานการณ์ลึกลับงดงามตระการตา ปรากฏหญิงสาวสูงศักดิ์งามล้มเมืองผู้หนึ่ง
ดวงตาหงส์หรี่มุมปากยิ้มพราย
“มิเสียแรงที่เลือกเจ้า กู้เฉียวจิงอย่าทำให้ข้าผิดหวังเชียว”
ตอนที่ 60 บทบาทต่อไป...พี่สาวจงหงวน “คุณหนูหวัง...ถึงโรงเตี้ยมแล้วขอรับ” เสียงพ่อบ้านเฉิงเอ่ยเรียกอยู่นอกรถม้าด้วยเสียงนอบน้อม พอหวังเว่ยซินเลิกผ้าม่านออกมา ก็เจอป้ายขนาดใหญ่หอสุราชิงเห่อ โรงเตี้ยมใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง หวังเว่ยซินถอนหายใจ มิต้องสงสัย คงไม่ได้เริ่มต้นแบบชีวิตสตรีชาวบ้านทั่วไปเสียแล้ว นางก้าวลงรถม้า พ่อบ้านเฉิงก็เอ่ยบอก “นี่คือเอกสารของท่านขอรับ เมื่อสักครู่คนเอามาส่งแล้ว” “รบกวนแล้ว ขอบคุณพ่อบ้านเฉิงมาก” “มิกล้า มิกล้า โรงเตี้ยมนี้ท่านจะอยู่กี่คืนก็ได้ขอรับ ข้าได้สั่งเถ้าแก่เอาไว้ ให้ไปเก็บที่จวน” หวังเว่ยซินยิ้มแห้ง ๆ จากนั้นก็เอ่ย “ท่านพ่อบ้านมีภารกิจมากมาย ขอมิอาจรบกวนนาน ส่งข้าเท่านี้พอ” พ่อบ้านเฉิงถูกกำชับว่าอย่าขัดใจคนเบื้องหน้าเด็ดขาด ก็รีบขานรับทันที “มิกล้า มิกล้า เช่นนั้นบ่าวขอตัว” “เดินทางดี ๆ เจ้าค่ะ” จากนั้นเสี่ยวเอ้อก็มารับหน้าต่อ “คุณหนูเชิญด้านในเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านจะไปยังห้องพักหรือว่านั่งผ่อนคลายที่ระเบียงชั้นสองก่อนดีเจ้าคะ”
ตอนที่ 59 เรื่องราวสามปีที่ผ่านมา รถม้าจวนหงอี้กงเคลื่อนผ่านพร้อมกับเสียงกระซิบแผ่วเบา “นี่...รู้ไหมฮูหยินหงอี้กง จัดหาอนุให้กับท่านหงอี้กงอีกแล้วนะ ...ได้ยินว่าเป็นเด็กสาววัยแรกแย้มงดงามที่สุดที่หอซิงเซียงอุตสาหามาได้ แต่จวนหงอี้กงก็ยังมาแย่งคนไป” “จริงหรือ” น้ำเสียงที่เอ่ยถามดูตื่นเต้นประหลาดที่สุด ทำให้คนเล่ายิ่งรู้สึกสนุกอยากเล่าต่อ “แน่นอน...ข้าได้เห็นกลับตา ว่าไปแล้วก็อิจฉาหงอี้กงยิ่งนัก ได้ฮูหยินที่ใจกว้างดั่งมหาสมุทรเช่นนี้ หากเป็นข้าก็อยากจะกลับเรือนทุกวัน” “คริ คริ” เสียงสตรีผู้หนึ่งหัวเราะขบขันพลางกล่าว “ท่านมีเงินเลี้ยงพวกนางหรือข้าได้ยินว่า ฮูหยินหงอี้กงใช้เงินเดือนละหลายหมื่นตำลึงหมดไปกับอาภรณ์เครื่องประดับของเหล่าอนุเชียวนะ” บุรุษผู้นั้นรู้สึกละอาย ตอนนี้แค่นี้ภรรยากับบุตรสองคนก็แสนอัตคัดจะมีปัญญาที่ไหนไปเลี้ยงอนุเพิ่มบุรุษผู้หนึ่ง หมุนจอกชาในมือไปมาคิดไปแล้วก็แปลกใจดูเหมือนว่า อยู่ ๆ เขาก็ตัดใจจากกู้เฉียวจิงได้ ส่วนฮูหยินอันดับหนึ่งที่ทุกคนให้ตำแหน่งมา “ฮื้อ ฮื้อ ท่านไปไหนมา
ตอนที่ 58 ฮูหยินกู้..ถามข่าวท่านทุกวัน ซูซูมอง เด็กสาวประครองหีบขึ้นมา เมื่อเปิดดูข้างในก็เจอตั๋วเงินหลายแผ่นพร้อมเครื่องประตับจำนวนหนึ่ง ดวงตาโตของเด็กสาวเจิดจ้าใต้แสงดาว ได้ยินเสียงนางพึมพำ“เงินของข้า เงินของข้า”นางประคองหีบออกมาอย่างประคบประหงม ลุกขึ้นปัดฝุ่นเล็กน้อยแล้วหันมากล่าว “ซูซู ขอบคุณท่านมากนะที่เฝ้าให้ข้า ข้าไปล่ะ”ในขณะที่กำลังจะทะยานออกไป ซูซูก็เอ่ย“คุณหนูช้าก่อน” จากนั้นก็ไปขวางหน้าเด็กสาว เห็นสีหน้าที่ดูแตกตื่นแววตาสังหารประกายวาบขึ้น นางก็รีบอธิบาย “ป่ะ...เปล่า ข้ามิได้ห้ามที่ท่านจะนำหีบไป เพียงแต่ฮูหยินสั่งเอาไว้ หากท่านมาก็ให้เชิญท่านไปพบ”เด็กสาวพยักหน้าเข้าใจยิ้มตอบ “ฝากบอกนางว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เอาไว้ทุกอย่างลงตัวแล้วข้าจะไป”หวังเว่ยซินกำลังจะก้าวเท้าออกไปก็ถูกซูซูขวางอีกรอบ “คุณหนูจะบอกข้าได้หรือไม่...ว่าท่านพักอยู่ที่ใด เผื่อหากว่าฮูหยินถามข้าจะได้มีข้อมูล...ฮูหยินถามข่าวท่านทุกวันเลยนะเจ้าคะ สีหน้านางดูเป็นกังวลและห่วงใยท่านมาก” แววตาของหวังเว่ยซินมีประกายอบอุ่นขึ้นมา นางคลี่ยิ้มตอบ “ข้าถูกนำมาขายที่หอซิงเซียง ตอนนี้ให้ข้าไปไถ
ตอนที่ 57 หวังเว่ยซิน..ได้ตามที่ขอในถนนเส้นหนึ่งในอำเภอเล็ก ๆ มีรถม้าคันนี้กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง ภายในรถม้ามีเด็กสาววัยแรกแย้มอยู่ประมาณห้าหกคน ทุกคนล้วนมีผิวพรรณละเอียดใบหน้าหมดจด เค้าโครงรูปหน้าชัดโตขึ้นย่อมเป็นหญิงงามอย่างไม่ต้องสงสัย“ฮื้อ ฮื้อ...ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าครอบครัวข้าจะขายข้า” เสียงเด็กสาวร้องไห้สะอื้นจนตัวโยก บางคนร้องจนหมดแรงหลับไป กู้เฉียวจิงตอนนี้อยู่ในร่างของ หวังเว่ยซิน หนึ่งในสาวงามที่ถูกครอบครัวขายมา เด็กสาวตรอมใจตายยกร่างให้กู้เฉียวจิง อย่างไม่อาลัยอาวรณ์พร้อมขอไปเกิดใหม่ทันทีนางนิ่งเงียบสนิทพยายามทบทวนเรื่องราวของตนเองจากความทรงจำเจ้าของร่างพร้อมกับตรวจสอบพรว่าได้ครบหรือไม่ ในข้อที่หนึ่งขอไปเกิดใหม่พร้อมความทรงจำและวรยุทธ์ ข้อนี้ผ่านไม่มีข้อผิดพลาดถูกต้องตามเจตนา ข้อสอง เกิดในครอบครัวที่นางสามารถเลือกใช้ชีวิตด้วยตนเองได้ทันที นับว่าใช่ ตอนนี้นางมีมารดาและน้องชายแต่นางถูกขายออกมาโดยผู้ที่ได้ว่าเป็นย่าแท้ ๆ อำมหิตสุด ๆ แต่ก็ยังถูกต้องตามที่ขอ หวังเว่ยซินยิ้มแห้ง ๆ ส่วนข้อสาม คงต้องรอสักระยะ ได้ยินคนขับรถม้า
ตอนที่ 56 พรหนึ่งข้อกับตัวละครลับ ในที่สุดกู้เฉียวจิงก็ทนความง่วงไม่ไหว คล้อยหลับไปในตอนดึก ค่ำคืนในฤดูหนาวสายลมพัดเย็นยะเยือก ในห้วงคลับคล้ายเหมือนฝัน นางได้พบกับคนผู้หนึ่งยืนอยู่กลางหิมะ ใบหน้าเหมือนกับนางในตอนนี้ไม่ผิดเพี้ยน “เจ้าคือ กู้เฉียวจิงคนนั้น?” หญิงสาวคนนั้นยิ้มละมุนตอบ “ใช่ข้าเอง...ข้ามาขอบคุณท่าน หากไม่มีท่านทุกอย่างคงไม่ลงเอ่ยเช่นนี้...ข้าซึ้งใจท่านนัก” กล่าวตามจริง กู้เฉียวจิงก็รู้สึกว่าตนเองไม่ได้ทำอันใดมากนัก แค่ทำตามคำสั่งและระงับอารมณ์ให้มากเท่านั้นเอง จึงกล่าว “ข้าทำตามภารกิจ...เจ้ามิต้องขอบคุณ” นางส่ายหน้า “ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณ” กู้เฉียวจิงมองคนเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิดแววตาฉายความสงสัย “ท่านไปอยู่ที่ไหนมาเหตุใดพึ่งปรากฏกาย” “ข้าก็อยู่กับท่าน...หนึ่งร่างสองวิญญาณ”กู้เฉียวจิงเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ความเข้าใจหนึ่งผุดขึ้นใช่แล้ว..กู้เฉียวจิงเจ้าของร่างไม่ได้บอกว่านางตาย มิน่า ๆ หลายครั้งนางก็มีความรู้สึกลึกซึ้งกับเสิ่นเยี่ยหง คงจะเป็นความรู้สึกของสตรีคนนี้ นางเอ่ยถ
ตอนที่ 55 หลบหน้า “ซื่อจือ” กู้เฉียวจิงเอ่ยเรียกกู้ซวินด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความยินดี รอยยิ้มของเด็กชายหันมามองมารดาอบอุ่นเป็นพิเศษ ชวนให้ใบหน้าระบายด้วยรอยยิ้มอิ่มเอมกับความสุขที่ล้นออกมาทั้งใจ ความสุขนี้มากเกินบรรยาย หลังจากออกกำลังไป ฝึกกระบี่ไปหลายกระบวนท่าแล้ว กู้ซวินก็มานั่งข้างมารดา รับน้ำมาดื่มพลางเอ่ยถามมารดา “ท่านแม่...ผู้ที่ตัดเส้นแขนขา จะสามารถฝึกฝนวรยุทธ์ได้อีกหรือไม่ขอรับ” กู้เฉียวจิงกระพริบตาเล็กน้อยสายตาอ่อนโยน มองบุตรชายเป็นกังวลนางก็รู้สึกใจอ่อน “ไม่ต้องห่วง...แม่มีหนทางช่วยพ่อเจ้า” ดวงตาบุตรชายเป็นประกายขึ้นมา “จริงหรือขอรับ” “แม่มิเคยโกหกเจ้า” “ป่ะ..เปล่าขอรับ ลูกแค่ตื่นเต้นเกินไป” “เอาล่ะ ไปอาบน้ำเสียก่อน...ทานอาหารให้เรียบร้อยอย่าได้ให้อาจารย์ต้องรอ” เด็กชายตอบรับทันที “ขอรับท่านแม่”ผลัดออกจากบุตรชาย กู้เฉียวจิงก็กลับไปที่เรือนไปหยอกล้อเสิ่ยซูเวยสักพักก่อนจะออกจากจวนไป โรงหมอฮุ๋ยหวง กัวเล่อเยี่ยนชำเลืองมองกู้เฉียวจิง ใบหน้าของนางคล