Share

ตอนที่หก

 เพราะราตรีที่ผ่านมานางทุ่มเทลงแรงไปไม่น้อย ผลที่ได้กลับมาจึงคุ้มค่ายิ่ง อวิ๋นซือคลี่ยิ้มหวานดีใจจนดวงตาเป็นประกายสุกใส เมื่อหลันชิงผู้เป็นสามีเอ่ยปากจะตามไปเยี่ยมพ่อตาแม่ยายกับนางที่จวน

แน่นอนสิว่าต้องไปด้วย เพราะนี่คือวิธีตอบแทนในแบบของหลันชิง ที่นางปรนนิบัติเขาได้ถูกอกถูกใจ ร่างบางทอดกายอิงแอบหน้าต่างในห้องนอน ดวงตาคู่งามมองเหม่อไร้จุดหมายไปบนฟ้ากว้าง วันเวลามิเคยรั้งรอผู้ใด ความฝันที่จะออกโบยบินของนางก็เช่นกัน

เมื่อเช้ายามไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่า อีกฝ่ายรั้งตัวนางไว้พูดคุยบางอย่าง อวิ๋นซือพลันเหยียดยิ้มประหนึ่งเย้ยหยัน เมื่อคิดถึงประโยคสนทนาของตัวเองกับแม่สามี

“ฮูหยินเจ้าคะ...”

เสี่ยวอิงและเสี่ยวหยวนยืนมองผู้เป็นนายด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย พวกนางนึกไม่ออกว่าจะเอ่ยปลอบอีกฝ่ายด้วยถ้อยคำแบบใดดี จึงได้แต่แสดงอาการลังเลออกมา

เสี่ยวอิงให้นึกโทษตัวเองไม่น้อย นางหัวไวไม่เท่าเสี่ยวเซียง มิอาจแบ่งเบาความทุกข์ของเจ้านายได้ เดิมทีคิดว่าอดีตสาวใช้เสี่ยวเซียงฉลาดเฉลียว น่าจะช่วยเหลืองานฮูหยินได้ดี ไม่คาดว่าอีกฝ่ายไม่เพียงไม่มีประโยชน์ ซ้ำยังเป็นภัยด้วย

อวิ๋นซือที่กำลังเหม่อลอยพลันรู้สึกตัว เมื่อหูแว่วเสียงเรียกขาน ใบหน้าเล็กก็หันไปมองสาวใช้อยู่ชั่วครู่ แล้วจึงยิ้มบางๆ ที่ไม่ใช่รอยยิ้มอย่างที่ฝึกมา

ทำไมจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ เสี่ยวอิงและเสี่ยวหยวนอยู่กับนางมามากกว่ามารดาเสียอีก ความภักดีที่มีให้มากขนาดที่ว่า หากบอกให้อีกฝ่ายตาย สาวใช้ทั้งคู่ย่อมไม่ปฏิเสธให้เสียเวลาอย่างแน่นอน แล้วแบบนี้จะให้นางปล่อยคนของตนไปเหนื่อยยากทำไม

จริงอยู่ที่เสี่ยวอิงมีความสามารถด้านคำนวณ ที่ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยปากให้นางใช้คนของตัวเองมารับหน้าที่ทำบัญชีเพื่อสร้างฐานอำนาจในคฤหาสน์ อีกฝ่ายถือว่าเหมาะสมที่สุด แต่แม่สามีคงไม่รู้ แม้ความสามารถด้านคำนวณของสาวใช้นางนี้จะไม่เลว ทว่าด้านอื่นก็ไม่ด้อย โดยเฉพาะด้านการปรนนิบัตินั้นถือว่ายอดเยี่ยม

“เจ้าอยากไปหรือไม่เล่า”

เสียงใสเอ่ยถาม อวิ๋นซือใจกว้างกับคนของตนเองเสมอ หากเสี่ยวอิงอยากไขว่คว้า เจ้านายเช่นนางย่อมต้องช่วยผลักดันแน่นอน สาวใช้ส่ายหน้าเป็นระวิง สำหรับเสี่ยวอิง หากเลือกได้มีหรือจะอยากจากฮูหยินของตัวเอง แต่ถ้านางรับหน้าที่นี้ เจ้านายก็จะได้ประโยชน์ แต่นางก็จะไม่ได้ติดตามอีกฝ่ายต่อไป

“งั้นก็ไม่จำเป็นต้องสนใจ” เสียงหวานเอ่ยอย่างเรียบเฉย นางหาได้แยแสอำนาจอะไรนั่นอยู่แล้ว กับอีแค่คนทำบัญชี ใครอยากเป็นก็ให้เป็นไปสิ ส่วนเสี่ยวอิงให้คอยรับใช้ข้างกายก็ดีอยู่แล้ว

เรื่องคนของใครจำเป็นต้องสนด้วยหรือ ในเมื่อนางคือฮูหยินใหญ่

เสี่ยวอิงพยักหน้ารับแต่ในใจนึกขัดแย้ง ไม่สนใจได้หรือ ในเมื่อฮูหยินของนางเคร่งเครียดเช่นนี้ ใบหน้าเล็กเผยยิ้มบาง สีหน้าห่วงใยของสาวใช้ทั้งคู่มีหรือคนเป็นนายจะไม่เข้าใจ ทว่าหาใช่เรื่องเสี่ยวอิงไม่ที่นางคิดหนัก

“ฮูหยินผู้เฒ่า เรียกให้ข้าเข้าไปคุยเรื่องบุตร นางเป็นห่วงเรื่องที่ข้ายังไม่ตั้งครรภ์เสียที” ใช้คำว่าเป็นห่วงสถานะฮูหยินใหญ่ของนาง ทว่าอวิ๋นซือมีหรือจะไม่รู้ว่าที่อีกฝ่ายห่วงใยจริงๆ ก็คือเรื่องผู้สืบทอดสกุลต่างหาก

“ฮูหยินผู้เฒ่าบอกข้าว่า หากจำเป็นจริงๆ อนุคนใดตั้งท้องก็ให้ข้ารับเด็กคนนั้นมาเป็นบุตรตัวเอง” ล้อเล่นอย่างนั้นหรือ เอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงดู สายเลือดก็ไม่ใช่ หากเติบใหญ่อีกฝ่ายรู้เรื่องผู้ให้กำเนิด จะยังเคารพนางหรือไม่ก็ยากจะคาดเดา ที่สำคัญนางไม่ใช่ว่ามีไม่ได้ แต่ไม่ยอมมีต่างหาก

เสี่ยวอิงพยักหน้าด้วยท่าทางคลายกังวล เป็นนางเองสินะที่ตื่นตูมไป แต่สาวใช้ก็ยังให้นึกสงสัยจนอดถามขึ้นมาไม่ได้ “แปลกนะเจ้าคะ ฮูหยินใหญ่ไม่ตั้งครรภ์ ฮูหยินรองกับพวกอนุก็ไม่มีวี่แวว หรือว่าอาจเป็นที่ตัวนายท่านเองที่มีปัญหา”

อวิ๋นซือหัวเราะเสียงแผ่ว ก่อนจะส่ายหน้าแทนคำพูด ทว่าในใจคิดขบขัน หาใช่ว่าสามีของนางไร้น้ำยาไม่ ทว่าเป็นมารดาของเขาที่เฉียบขาด

ฮูหยินผู้เฒ่าครองตำแหน่งเมียเอกมาอย่างมั่นคงจวบจนบุตรชายเติบใหญ่และสืบทอดสกุล ย่อมมิใช่พวกที่กระดูกอ่อนเป็นแน่ อีกทั้งนางยังให้ความสำคัญแก่สายหลักอคติต่อสายรอง เช่นนี้แล้วมีหรืออีกฝ่ายจะยอมปล่อยให้เมียรองของบุตรชายตั้งครรภ์ก่อนเมียเอก เกรงว่ายามนี้เพราะตัวนางไม่มีวี่แววเสียที แม่สามีจึงต้องคิดแผนขึ้นมารองรับ

ก็สมกับเป็นขิงแก่จริงๆ นั่นละ อายุขนาดนี้ยังทั้งเผ็ดทั้งร้อน

เดิมทีอวิ๋นซือคิดแผนไม่มีทายาทไว้สำรองในการหย่าร้าง ทว่าวันนี้ฟังคำพูดของอีกฝ่าย ดูท่าว่านางอาจต้องเปลืองความคิดเพิ่มไม่น้อยเลยทีเดียว

เอาเถอะ นั่นเป็นเรื่องของอนาคต สิ่งสำคัญคือวันกลับบ้านพรุ่งนี้ต่างหาก คงจะมีการแสดงสนุกๆ ให้ดูอีกมากมาย ท่านพ่อที่ถูกบีบของนางกับฮูหยินสามที่ฝันค้างกลางอากาศ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำสีหน้าอย่างไรกันนะยามพบนาง...

วันรุ่งขึ้น รถม้าคันใหญ่หรูหราที่ติดตราสกุลหลันจอดเรียงรายอยู่บริเวณหน้าจวนพร้อมของขวัญ โดยมีบ่าวไพร่รออยู่พร้อมหน้า อวิ๋นซือในอาภรณ์สีหวานเดินเคียงข้างร่างสูงในชุดตัวยาวสีขาวของสามีออกมาอย่างเชื่องช้า ครั้นขึ้นรถเรียบร้อย ขบวนก็เคลื่อนที่ทันที เพราะเดินทางด้วยรถม้าทำให้ใช้เวลาไม่มากนัก สองสามีภรรยานั่งอิงแอบเอ่ยถ้อยคำหวานรื่นหูได้ไม่นาน ในที่สุดขบวนก็มาหยุดหน้าจวนเสนาบดีจนได้

อวิ๋นซือขยับรอยยิ้มอีกครั้ง มือเรียวยื่นส่งให้สามีที่รอรับ พลางอิงแอบก้าวเคียงกันเข้าสู่ประตูจวน ท่ามกลางสายตาริษยาของใครบางคน ที่เห็นว่าสองสามีภรรยารักใคร่กันเหลือเกิน หญิงสาวปล่อยให้ผู้เป็นสามีโอบประคองอย่างไม่อิดออด นางจำเป็นต้องแสดงให้บิดาและคนอื่นเห็นถึงความโปรดปรานที่ได้รับ ก่อนจะเหยียดยิ้มหวานเช่นที่ฝึกฝนมาให้เจ้าของสายตาไม่ประสงค์ดีอย่างท้าทาย

จิตใจคนบางคนก็ไม่ปกติ เห็นผู้อื่นมีความสุขไม่ได้... พิลึกจริงๆ

ใต้เท้าอวิ๋นยืนต้อนรับบุตรเขยด้วยสีหน้าเปี่ยมรอยยิ้ม ถัดมาเป็นร่างบางผ่ายผอมของนางจางซื่อ ตามด้วยบรรดาฮูหยินรองและเหล่าอนุ

อวิ๋นซือคำนับผู้ให้กำเนิดพลางกวาดตามอง นางพลันนึกดีใจที่อีกฝ่ายให้แค่อนุมาร่วมต่อแถวต้อนรับ เพราะหากให้สาวใช้อุ่นเตียงทุกคนมาร่วมต่อแถวด้วย เกรงว่าหน้าจวนเสนาบดีที่กว้างขวางคงจะไม่พอให้บรรดาเมียน้อยของบิดายืนเป็นแน่

ดวงตาสีนิลพราวระยับยามสบประสานกับเจ้าของสายตาไม่หวังดี อีกฝ่ายยังคงไม่เปลี่ยนแปลง อะไรที่เป็นของนางก็ยังปรารถนาจะยื้อแย่งอยู่ดี ช่างไร้ความคิดไตร่ตรองเสียจริง ผู้ชายที่เจ้ามองตาเป็นมันและคิดยื้อแย่งอยู่ทุกลมหายใจนั้นมีศักดิ์เป็นพี่เขยของเจ้านะ รู้ตัวบ้างไหมน้องรอง

อวิ๋นหานถลึงตาตอบกลับไม่ยอมแพ้ กัดฟันแน่นเพื่อข่มอารมณ์ริษยาในใจ ทั้งที่บิดารักตนมากกว่า ทั้งที่นางเหมาะสมกับท่านพี่หลันชิงมากกว่าแท้ๆ แต่เพราะนางไม่ใช่บุตรสาวภรรยาเอกจึงต้องพ่ายแพ้แก่อวิ๋นซือ ถ้าไม่เพราะฮูหยินผู้เฒ่าอคติที่นางเป็นลูกสาวฮูหยินสาม คนที่จะได้แต่งเข้าสกุลหลันจะเป็นนังพี่สาวที่นางแสนเกลียดได้อย่างไร

ทักทายปราศัยกันอยู่เนิ่นนานหลังอาหารมื้อใหญ่ผ่านพ้น ใต้เท้าอวิ๋นก็ก้าวนำทางบุตรเขยไปดูของสะสมที่ได้มาใหม่ อวิ๋นซือมองตามหลังบิดาด้วยสีหน้าเรียบเฉย การแสดงกำลังจะเริ่มแล้วสินะ

คล้อยหลังบุรุษต่างวัยสองคน ฮูหยินสามก็เป็นฝ่ายเปิดปากขึ้นก่อน “คิดไม่ถึงว่าเด็กสาวไม่ประสาอย่างเจ้า จะสามารถนั่งตำแหน่งฮูหยินใหญ่สกุลหลันได้ยาวนานขนาดนี้ นับว่าความสามารถไม่เลวเลยจริงๆ”

อวิ๋นซือยิ้มรับก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบาสบาย “ต้องขอบคุณฮูหยินสามที่สอนสั่งยามก่อน ทำให้ข้ามีประสบการณ์พอดู” คำพูดของอวิ๋นซือไม่เกินเลยแม้แต่น้อย วันเวลาของหญิงสาวในจวนหลังนี้ไม่ได้ผ่านมาง่ายดายเลย โดยเฉพาะผู้หญิงสองคนตรงหน้า หลิงจีซึ่งเป็นฮูหยินสามกับอวิ๋นหาน น้องสาวที่อ่อนกว่าเพียงเดือนเดียว

คนแม่ก็เพราะมีมารดาของอวิ๋นซือคอยขวางหน้า จึงไม่ได้ขึ้นเป็นฮูหยินใหญ่สมใจ ส่วนคนลูกก็เพราะมีนาง อีกฝ่ายจึงไม่ได้เป็นคุณหนูใหญ่ดั่งใจ มองท่าทางกระตือรือร้นของพวกนางสองแม่ลูก หญิงสาวก็ให้นึกเหนื่อยในใจแทน

บุรุษมักมากอย่างบิดาและสามีนางมีอะไรน่ายื้อแย่งกัน หากไม่ติดว่ามารดายังงมงายกับชายผู้นั้น อวิ๋นซือคงจับทั้งคู่ถวายใส่พานให้ไปแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่ยี่สิบ

    ยามเหม่ามาเยือน รอบด้านเริ่มสว่างรำไร แว่วเสียงสกุณาขับขาน แสงสีส้มสาดส่องตรงขอบฟ้า ไล่สีสว่างขึ้นเรื่อยๆร่างสูงในอาภรณ์สีดำตัวยาวก้าวผ่านสวนดอกไม้ละลานตา ขาเรียวเหยียบย่างก้าวสู่ด้านในตัวเรือน สายตามองตรงไปยังประตูห้องนอนเขม็งที่หน้าห้องมีร่างสาวใช้คนสนิทของอวิ๋นหานอยู่สองคน พวกนางมองบุรุษผู้มาพร้อมกลิ่นอายเย็นชาด้วยสายตาตื่นตระหนก แต่ยังคงพยายามทำหน้าที่ขัดขวางอีกฝ่ายไว้“หลีกไป! ข้ามีธุระต้องคุยกับคนข้างใน ไม่มีเวลามาวุ่นวายกับพวกเจ้าหรอก” ฉิงเหวินฟู่เอ่ยขณะที่ดวงตาฉายความหงุดหงิด เขาไม่ใช่คนรักหยกถนอมบุปผาก็จริง แต่การจะให้ทำร้ายสตรีนั้นหาใช่นิสัยไม่ เพราะเหตุการณ์ที่เรือนรับรองของอวิ๋นซือเมื่อครู่พาให้อารมณ์ขุ่นมัวมิใช่น้อย การแสดงออกในยามนี้จึงดุดันและแฝงแววข่มขวัญยิ่งจงเหมยกับจงหมิงมองหน้ากัน ดวงตามีแววตกใจพาดผ่าน ไฉนคุณชายฉิงผู้นี้จึงพูดเหมือนรู้ว่านายท่านหลันอยู่ด้านในกันเล่า“คุณชายโปรดรั้งเท้า คุณหนูของพวกเรากำลังพักผ่อนอยู่ในห้อง ชายหญิงมิอาจใกล้ชิดจนเกินงาม ขอท่านโปรดให้เกียรติด้วย”เป็นจงเหมยที่เอ่ยปากขึ้น นางไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทราบอะไรมา แต่ถ้าใครรู้ว่าคุณหนูร่วมห้องกับ

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่สิบเก้า

    หมับ!มือแกร่งของใครบางคนยื่นมาคว้าคอเสื้อผู้ที่อยู่ข้างบน พลางออกแรงดึงรั้งคุณชายรองสกุลซูให้ออกห่างจากร่างด้านล่าง ดวงตาผู้มาใหม่ทอประกายวาวโรจน์ สีหน้าของเขาดำคล้ำทั้งยังแผ่กลิ่นอายเกรี้ยวกราดอวิ๋นซือไม่สนใจมองผู้มาใหม่ เมื่อเห็นซูเจี่ยนถูกหิ้วห่างออกไป ปิ่นที่ถืออยู่ในมือพลันพุ่งเข้าใส่เบ้าตาซ้ายของเขาทันทีที่มีโอกาสคนผู้นี้บีบคั้นนางจนเกือบต้องปลิดชีวิตตนเอง ไม่เอาคืนอีกฝ่ายในยามนี้จะไปทำยามไหน“อ๊าก!!!”เสียงร้องของคุณชายซูดังลั่นเรือนรับรอง เลือดแดงฉานทะลักไหลราวกับเป็นน้ำตาสีโลหิต แม้อวิ๋นซือจะเป็นคนลงมือเอง แต่ก็ยังมีใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ เพราะแต่เดิมนางหาได้เคยทำอะไรแบบนี้ไม่อย่าว่าแต่อวิ๋นซือจะตกใจเลย ร่างสูงในอาภรณ์สีดำที่อยู่ตรงนั้นก็ตะลึงเช่นกัน เมื่อเห็นการลงมือที่เฉียบขาดของสตรีตรงหน้าชายหนุ่มเหวี่ยงคนในมือลงบนพื้นทันควัน จากนั้นจึงก้มลงหยิบผ้าห่มผืนใหญ่ที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมาคลุมศีรษะอีกคนจนมิด ก่อนจะลากร่างที่กรีดร้องอยู่ข้างเตียงมาจัดการใกล้ๆ หน้าประตูเสียงหมัดเสียงเท้าดังกระทบเนื้อ อวิ๋นซือยังคงนั่งนิ่งตัวสั่นอยู่ใต้ผืนผ้า นางมองความมืดที่แสงสว่างเข้าไม่ถึ

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่สิบแปด

    หลังกลับจากงานเลี้ยง อวิ๋นซือที่รู้สึกล้าจนไม่อยากทำอะไรก็ปล่อยให้สาวใช้ทั้งสองปรนนิบัติตัวเองเพื่อเปลี่ยนชุดเข้านอนนางมองด้านนอกที่ยังมืดสนิทพลางกล่าวไล่คนสนิทไปพักผ่อน เสี่ยวอิงกับเสี่ยวหยวนยามแรกยังดื้อดึงที่จะเฝ้าหน้าห้อง แต่พอคิดถึงว่าอีกเดี๋ยวนายท่านคงจะกลับมา จึงยอมพากันจากไปพักผ่อนอวิ๋นซืออมยิ้มบางๆ นางฟังเสี่ยวอิงเอ่ยกำชับด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงแล้วให้ขบขัน เด็กสาวเมื่อวันวานกลายเป็นยายแก่ขี้บ่นในวันนี้เสียแล้ว กาลเวลาช่างเปลี่ยนผู้คนเสียจริง ร่างบางคว้าเสื้อคลุมมาสวมตามคำเตือน รอจนอีกฝ่ายปิดประตูเรียบร้อยจึงได้ก้าวมาหยุดยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง แววตาสีนิลเข้มขึ้นจนลึกล้ำเสียงไก่ขันแว่วมาตามสายลม บอกเวลาแทนคนเคาะโมงยามได้ดี อวิ๋นซือเลิกรอคอยใครบางคนแล้วหันกลับไปขึ้นเตียงบอกแล้วอย่างไรเล่าว่ากำแพงที่ฐานไม่ดี ไม่ช้าก็เร็วย่อมต้องพังทลาย...แสงไฟจากในห้องดับลงไปแล้วพร้อมกับอวิ๋นซือที่เริ่มง่วงงุน นางปรือตามองข้างกายที่ว่างเปล่า มือเล็กขยับลูบบนผืนผ้าที่เย็นเฉียบ ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยให้ความง่วงงุนเข้าครอบงำผ่านไปเนิ่นนานขอบฟ้าเริ่มสว่างไม่ดำสนิท ร่างสูงของบุรุษผู้หนึ่งพลันปรากฏกายขึ

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่สิบเจ็ด

    ฉิงเหวินฟู่มองใบหน้าเล็กที่ยามนี้แดงก่ำอย่างเฉยชา เห็นซูลี่หลินมีท่าทีอับอาย นางเกาะกุมแขนญาติผู้พี่ไว้แน่น ดวงตาคู่สวยคลอน้ำใสเต็มหน่วยตา ท่าทางกิริยาล้วนน่าถนอม ผู้คนในงานล้วนให้ความเห็นใจ พวกเขามาร่วมงานฉลองครั้งนี้ ก็เพราะสกุลตระกูลซูปล่อยข่าวออกไปเรื่องการหมั้นหมายของคุณหนูซูกับคุณชายตระกูลสกุลฉิงแทนที่จะได้เห็นภาพยินดีของงานมงคล กลับได้เห็นบุรุษอกสามศอกกลั่นแกล้งสาวน้อยผู้น่าสงสารแทนเสียนี่ฉิงเหวินฟู่ยังคงนั่งเฉย ไม่เอ่ยปากหรือไม่พูดคุยกับผู้ใด วางตนอยู่เหนือเรื่องราวทั้งมวล เขาเคยสัญญาหรือว่าจะตบแต่งอีกฝ่าย ที่ยินยอมมาก็เพื่อเผื่อว่าจะทำให้ตาแก่ที่คฤหาสน์พอใจได้บ้างทว่าปู่ของเขาหาใช่คนแก่แก่ธรรมดาเหมือนใครที่ไหน แค่เห็นท่าทีเสแสร้งแกล้งทำนั่นก็ ขี้คร้านจะไล่ฟาดหลังตนแทบไม่ทันน่ะสิแต่งภรรยาทั้งทีใครจะอยากได้สตรีที่ตีสองหน้าทั้งวี่ทั้งวันกัน เขาฉิงเหวินฟู่ไม่ใช่นายโรงละครงิ้ว จะได้ชื่นชอบดูการแสดงตลอดเวลา อีกทั้งต่อให้เป็นก็ไม่เอาคนที่ด้อยฝีมือด้อยจนเห็นได้ชัดอย่างนี้แน่นอนอวิ๋นซือมองซูลี่หลินที่มีท่าทีเสียใจจนหลันชิงต้องประคองออกไปพลางส่ายศีรษะหัว คุณชายฉิงผู้นี้ช่างไม่รักห

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่สิบหก

    ฮูหยินใหญ่ของพวกนางเปลี่ยนไป!เสี่ยวอิงกับเสี่ยวหยวนบอกตัวเองซ้ำๆ พวกนางพากันมองภาพคนงามออดอ้อนพลางเย้าหยอกบุรุษข้างกายด้วยกิริยาอ่อนหวาน ถึงขนาดดวงตาแข็งค้าง นั่นคือเจ้านายของพวกนางจริงหรือ ไม่ใช่ผู้อื่นปลอมตัวมาแน่นะอวิ๋นซือไม่รับรู้ถึงความในใจของคนสนิท นางทำเพียงยิ้มหวานจนถึงดวงตา ปล่อยให้สามีโอบประคองร่างตนเองไว้ในวงแขน พลางหลับตาพริ้มเมื่อริมฝีปากอุ่นร้อนประทับลงตรงหว่างคิ้ว“อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดของเจ้าแล้วนี่”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นข้างหูชวนให้วาบหวาม นางทำเพียงพยักหน้ารับพร้อมด้วยท่าทีเอียงอาย ผู้เป็นสามีมองกิริยาเก้อเขินด้วยความเอ็นดู พลางตัดใจไม่แกล้งภรรยาของตนต่อ“ใช่เจ้าค่ะ ต้นเดือนสิบก็จะถึงวันครบรอบสิบเจ็ดปีของน้อง” ร่างบางตอบเสียงหวาน ทุกการกระทำล้วนสื่อถึงความรักใคร่ผู้ชายของตนอาอิ้นที่ยืนรอรับใช้อยู่ด้านนอกเห็นแล้วยังอดยิ้มตามไม่ได้ มาลั่วหยางคราวนี้ถือว่าไม่เสียเที่ยวจริงๆ ในที่สุดนายท่านกับฮูหยินใหญ่ก็เข้าใจกันได้เสียที“อือ... ปีก่อนไม่ได้เตรียมตัว มอบให้เจ้าเพียงของขวัญทั่วไป ปีนี้ฮูหยินอยากได้สิ่งใด สามีจะไปหามามอบให้เจ้า แม้ดวงเดือนหรือดวงดาวพี่ก็คว้ามาให้เจ้า

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่สิบห้า

    ดรุณีน้อยนางนั้นสวมอาภรณ์สีชมพู กิริยาน่ารักสดใส ใบหน้างดงาม มีเค้าคล้ายอวิ๋นซือไม่น้อย เจ้าตัวพูดคุยกับหลันชิงด้วยท่าทางสนิทสนมพอเสี่ยวอิงเห็นก็พลันตกใจจนต้องเอ่ยขึ้น “เอ๊ะ! นั่นคุณหนูรองนี่เจ้าคะ นางมาลั่วหยางได้อย่างไร”อวิ๋นซือมองอยู่ไม่นานก็รั้งสายตากลับ ผละมานั่งให้เสี่ยวหยวนจัดการผมที่เปียกชื้นของตัวเอง มุมปากยังคงอมยิ้มตามความเคยชินทำไมจะมาไม่ได้เล่า ฮูหยินสามหลิงจีแห่งจวนเสนาบดีกรมคลังกับซูฮูหยินเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน พวกนางสนิทสนมกันมาแต่ไหนแต่ไร ไม่แปลกหากอวิ๋นหานจะใช้โอกาสนี้มาร่วมงานเพื่อจะได้พบหน้าบุรุษที่นางใฝ่หาครั้นเห็นสามียังคงมีสีหน้าอ่อนโยนนุ่มนวลกับรอยยิ้มหวานของผู้เป็นน้องสาวร่วมบิดา อวิ๋นซือก็อดยิ้มบ้างไม่ได้ จริงอยู่ที่หลันชิงไม่ใช่ขุนนางมีอำนาจ แต่เขาคือพ่อค้าที่มีเงิน และบิดาของนางก็คือคนที่ต้องการมันมากที่สุดเกือบสองปีที่ผ่านมา หลันชิงเสียเงินส่วนนี้ให้ท่านพ่อของนางไปไม่น้อย จวนเสนาบดีกรมคลังไม่ต่างจากเปลือกหอยที่ข้างนอกคงอยู่ดี แต่ข้างในนั้นกลวงโบ๋ เพราะความมือใหญ่ใจเติบของบิดา เกรงว่าอีกฝ่ายคงเริ่มไม่ไว้ใจนาง และคงกังวลว่าขุมทรัพย์เยี่ยงหลันชิงจะหลุดมือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status