Home / รักโบราณ / ฮูหยินใหญ่ / ตอนที่สิบแปด

Share

ตอนที่สิบแปด

หลังกลับจากงานเลี้ยง อวิ๋นซือที่รู้สึกล้าจนไม่อยากทำอะไรก็ปล่อยให้สาวใช้ทั้งสองปรนนิบัติตัวเองเพื่อเปลี่ยนชุดเข้านอน

นางมองด้านนอกที่ยังมืดสนิทพลางกล่าวไล่คนสนิทไปพักผ่อน เสี่ยวอิงกับเสี่ยวหยวนยามแรกยังดื้อดึงที่จะเฝ้าหน้าห้อง แต่พอคิดถึงว่าอีกเดี๋ยวนายท่านคงจะกลับมา จึงยอมพากันจากไปพักผ่อน

อวิ๋นซืออมยิ้มบางๆ นางฟังเสี่ยวอิงเอ่ยกำชับด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงแล้วให้ขบขัน เด็กสาวเมื่อวันวานกลายเป็นยายแก่ขี้บ่นในวันนี้เสียแล้ว กาลเวลาช่างเปลี่ยนผู้คนเสียจริง ร่างบางคว้าเสื้อคลุมมาสวมตามคำเตือน รอจนอีกฝ่ายปิดประตูเรียบร้อยจึงได้ก้าวมาหยุดยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง แววตาสีนิลเข้มขึ้นจนลึกล้ำ

เสียงไก่ขันแว่วมาตามสายลม บอกเวลาแทนคนเคาะโมงยามได้ดี อวิ๋นซือเลิกรอคอยใครบางคนแล้วหันกลับไปขึ้นเตียง

บอกแล้วอย่างไรเล่าว่ากำแพงที่ฐานไม่ดี ไม่ช้าก็เร็วย่อมต้องพังทลาย...

แสงไฟจากในห้องดับลงไปแล้วพร้อมกับอวิ๋นซือที่เริ่มง่วงงุน นางปรือตามองข้างกายที่ว่างเปล่า มือเล็กขยับลูบบนผืนผ้าที่เย็นเฉียบ ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยให้ความง่วงงุนเข้าครอบงำ

ผ่านไปเนิ่นนานขอบฟ้าเริ่มสว่างไม่ดำสนิท ร่างสูงของบุรุษผู้หนึ่งพลันปรากฏกายขึ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่ยี่สิบห้า

    ระยะนี้ความสัมพันธ์ของนายท่านหลันกับมารดาค่อนข้างย่ำแย่ ทำให้หลายคนในคฤหาสน์ล้วนอกสั่นขวัญหาย ด้วยเกรงว่าจะถูกหางเลขดังเช่นบ่าวเฝ้าคฤหาสน์ที่เพิ่งถูกขายออกไปในบรรดาบ่าวชายทั้งสามที่ถูกสั่งขายทิ้ง มีเพียงอาจิ้น เด็กหนุ่มวัยสิบหกปีเท่านั้นที่ฮูหยินใหญ่ช่วยไว้ ทว่าทุกคนต่างก็รู้สึกว่านายหญิงของเรือนทำถูกต้องแล้ว เนื่องจากอาจิ้นเป็นเด็กที่ขายตัวให้สกุลหลันมาตั้งแต่สิบขวบ หลายคนจึงให้ความเอ็นดูเขามิน้อย เพราะเด็กหนุ่มนั้นมีความขยันขันแข็งและยังมีน้ำใจอาสาช่วยเหลืองานผู้อื่นตลอดอีกทั้งพวกเขาทุกคนต่างก็รู้กันดีว่า เด็กหนุ่มยังต้องคอยเลี้ยงดูแม่ที่ป่วยหนัก หากฮูหยินใหญ่ไม่ยื่นมือช่วยเหลือไถ่ตัวออกไปให้ ระหว่างรอพ่อค้านายหน้าหาเจ้านายคนใหม่ มารดาของเขาจะต้องอดตายอย่างแน่นอนในเมื่อมีคนได้รับคำชมก็ต้องมีคนถูกด่า พอเรื่องพวกนี้ถูกนำไปเล่าปากต่อปาก ไม่ช้าเรื่องนายท่านหลันลุ่มหลงญาติผู้น้องตนเอง จนถึงขนาดลงโทษบ่าวในเรือนเพื่อหักหน้าภรรยาก็ถูกนำไปลือกระฉ่อน หลายคนล้วนพูดถึงฮูหยินใหญ่สกุลหลันในทางที่ดี และหันไปตำหนิหลันชิงผู้เป็นสามี แน่นอนว่าชื่อของซูลี่หลินย่อมไม่ตกหล่น สตรีทั่วไปและเหล่าฮูหยินต

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่ยี่สิบสี่

    “ถ้าหากข้าช่วย เจ้าต้องมอบความภักดีทั้งหมดให้ข้าไม่ใช่สกุลหลัน ยินยอมหรือไม่” เสียงใสเอ่ยถามขึ้น ดวงตากลมจ้องมองอีกฝ่ายกดดัน อาจิ้นกลืนน้ำลายลงด้วยความอึดอัด ก่อนจะเอ่ยสบถสาบานอย่างจริงจัง “นับจากวันนี้อาจิ้นจะภักดีเพียงฮูหยิน แม้ตายก็ยินยอม หากวันไหนข้าผิดคำพูดขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ ไม่ได้ตายดี”เด็กหนุ่มกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง จริงอยู่ว่าเขาเป็นบ่าวในสกุลหลันมาก่อน แต่ปกติแล้วผู้ที่คอยช่วยเหลือเขามาตลอดก็คือฮูหยินใหญ่ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นที่จะยอมรับอวิ๋นซือฟังแล้วยิ้มบางอย่างพอใจ หญิงสาวขยับพู่กันในมือลงจดกระดาษ ดวงตาคู่งามเปล่งประกายระยิบระยับ เอาเถอะ นางเองก็กำลังต้องการใช้คนอยู่พอดี อีกทั้งอาจิ้นผู้นี้หาได้เลวร้ายอันใด ซ้ำยังมีความกตัญญูไม่น้อย เลี้ยงอีกฝ่ายเพิ่มอีกคนก็ไม่ทำให้ล่มจมหรอก“นำจดหมายนี้ไปหาเถ้าแก่หวังแห่งร้านไห่ถัง เขาจะดูแลจัดการเรื่องงานให้เจ้าเอง แล้วก็อย่าลืมทำตามที่ข้าสั่งในจดหมายด้วยล่ะ”มือกร้านรับจดหมายจากคนที่นั่งบนเก้าอี้ ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความยินดี เขาขายตัวมาเป็นบ่าวสกุลหลัน หากถูกขายทิ้งระหว่างนี้มารดาคงต้องอดตายเป็นแน่ ฮูหยินยอมช่วยเหลือคร

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่ยี่สิบสาม

    ยามกลับจากเรือนฮูหยินผู้เฒ่า อนุคนใหม่ก็มาคารวะน้ำชาตามธรรมเนียม วันนี้อวิ๋นหานสวมชุดสีกลีบบัวเข้ารูป ใบหน้างดงามของนางเผือดขาวไม่สู้ดีนัก เกรงว่าพวกฮูหยินรองคงต้อนรับได้ดีพอสมควร เจ้าตัวถึงได้ซูบซีดลงถนัดตาเยี่ยงนี้อวิ๋นหานในวันนี้แตกต่างจากวันวานลิบลับ แม้ดวงตาจะยังฉายแววดื้อดึง ทว่าท่าทีโอหังเช่นแต่ก่อนกลับมิมีเหลือให้เห็นแม้แต่น้อย นางยกน้ำชาให้อวิ๋นซือด้วยมือสั่นเทา อวิ๋นซือปรายตามองแล้วเพียงคิดอย่างเฉยชา‘ยินดีต้อนรับสู่นรกที่เจ้าปรารถนาน้องสาวของพี่!’วันคืนพ้นผ่านไปไม่รั้งรอ เข้าเดือนสิบลมเหมันต์เริ่มมาเยือนอีกครั้ง รอบคฤหาสน์เต็มไปด้วยปุยหิมะและแผ่นน้ำแข็งสีขาวสะอาดตา อวิ๋นซือเองก็ยังคงเฝ้ารอวันเวลา ในที่สุดก็เหลือเพียงอีกครึ่งเดือนจะถึงวันเกิดอายุสิบเจ็ดปีของนางภายในคฤหาสน์เริ่มตระเตรียมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดกันอย่างแข็งขัน แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าเองก็ยังเข้ามาวุ่นวาย สั่งทำทุกอย่างให้ประณีตและบรรจง อวิ๋นซือมองภาพแม่สามีเอาใจตนเองแล้วอมยิ้มดังเช่นเคย หากนางมองความคิดของฮูหยินผู้เฒ่าไม่ออก ก็คงต้องบอกว่าที่เติบโตใช้ชีวิตมานั้นเสียเปล่าแล้วเหตุเพราะเรื่องราวของอวิ๋นหานกับหลันชิง

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่ยี่สิบสอง

    เพราะเกิดเรื่องขึ้นกับฮูหยินใหญ่ หลันชิงจึงรั้งไม่ออกขบวนเดินทางเพื่อให้ภรรยาได้พักรักษาตัวให้หายดีเสียก่อน หลังจากนั้นสามวันต่อมา อวิ๋นซือกับหลันชิงถึงได้เริ่มออกเดินทางจากลั่วหยาง พากันมุ่งหน้ากลับเข้าสู่เมืองหลวงนับจากวันที่เกิดเรื่องซูเจี่ยน หลันชิงก็อยู่ข้างกายนางตลอด คอยดูแลเป็นห่วงเป็นใย เรียกได้ว่าหากอวิ๋นซือต้องการสิ่งใด ขอแค่นางออกปาก หลันชิงมิเคยขัด จนคนที่เห็นยังมองเห็นถึงความรักใคร่โปรดปรานที่มีให้ทว่าอวิ๋นซือรู้ดีว่า... นี่เป็นแค่การชดเชยในแบบของอีกฝ่ายเท่านั้นในช่วงสามวันที่ผ่านมานี้ อวิ๋นซือไม่ได้รับรู้ข่าวเกี่ยวกับซูเจี่ยนเลยแม้แต่น้อย คุณชายรองสกุลซูหายไปโดยไม่มีใครเอ่ยถึง ราวกับว่าไม่เคยมีตัวตน นางเองก็เคยถามสามีถึงเรื่องนี้ครั้งหนึ่ง หลันชิงเพียงหลุบตาพลางบอกว่าตนลงโทษญาติผู้น้องไปแล้วแน่นอนว่าอวิ๋นซือนั้นย่อมไม่เปิดโปง เขาคิดปกปิด นางยิ่งช่วยเหลือสุดชีวิต หญิงสาวยังคงสวมบทบาทสตรีที่รักสามีและว่าง่ายเช่นเคยอวิ๋นหานนั้นถูกส่งตัวกลับเมืองหลวงแล้ว นางไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด จากที่ขอร้องฉิงเหวินฟู่คนเดียวให้ช่วยไปตามหลันชิงเพื่อบีบให้มีพยานรับรู้เรื่องของสามีและอ

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่ยี่สิบเอ็ด

    ร่างบางนั่งนิ่งบนโต๊ะหินในศาลารับลม ข้างกายนางมีทั้งเสี่ยวอิงและเสี่ยวหยวนคอยปรนนิบัติ สาวใช้ทั้งสองพัดวีพลางป้อนขนมมิได้ขาด“ฮูหยินเจ้าคะ ทำไมท่านไม่ไปดูเรื่องนายท่านตัดสินโทษคนแซ่ซูนั่นเล่า” เสี่ยวอิงถามผู้เป็นนายอย่างอดไม่ได้ นางยังนึกตำหนิตัวเองว่า ทำไมวันนั้นไม่ชัดคนชั่วนั่นอีกสักหลายๆ ที“ไม่จำเป็น จะลงโทษหนักหรือเบาก็อยู่ที่นายท่านแล้ว” แม้จะตอบเช่นนั้น ทว่าแววตากลับแฝงความเย็นเยือกเสี่ยวอิงพลันหนาววูบในใจ ปกติฮูหยินของนางก็มีความเฉียบขาดในท่าทีอยู่แล้ว แต่วันนี้กลับเปล่งประกายคมกริบราวกับดาบเล่มหนึ่งเลยทีเดียวอวิ๋นซือยิ้มพรายบนใบหน้างาม รู้ดีแก่ใจว่าต่อให้หลันชิงโกรธสักเพียงไหน ซูเจี่ยนก็จะยังคงมีชีวิตอยู่ดี ต่อให้เขาพูดเอาใจนางเท่าใด อีกฝ่ายก็ไม่ตัดใจสังหารคนแซ่ซูนั่นเป็นแน่เช่นนั้นนางก็จะรอ...รอวันที่จะได้ใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ดวงหน้าเล็กเงยขึ้นมองสบตากับผู้มาใหม่ วันนี้อีกฝ่ายมิได้อยู่ในอาภรณ์สีดำเช่นทุกครั้ง ทว่าสีม่วงเคร่งขรึมกลับส่งเสริมให้รูปลักษณ์สง่างามยิ่งขึ้น ร่างสูงก้าวเข้ามานั่งตรงข้ามโดยไม่รอคำอนุญาต แต่ท่าทีผ่าเผยนั้นกลับไม่ได้ชวนให้นึกรังเกียจ นางส่งยิ้มบา

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่ยี่สิบ

    ยามเหม่ามาเยือน รอบด้านเริ่มสว่างรำไร แว่วเสียงสกุณาขับขาน แสงสีส้มสาดส่องตรงขอบฟ้า ไล่สีสว่างขึ้นเรื่อยๆร่างสูงในอาภรณ์สีดำตัวยาวก้าวผ่านสวนดอกไม้ละลานตา ขาเรียวเหยียบย่างก้าวสู่ด้านในตัวเรือน สายตามองตรงไปยังประตูห้องนอนเขม็งที่หน้าห้องมีร่างสาวใช้คนสนิทของอวิ๋นหานอยู่สองคน พวกนางมองบุรุษผู้มาพร้อมกลิ่นอายเย็นชาด้วยสายตาตื่นตระหนก แต่ยังคงพยายามทำหน้าที่ขัดขวางอีกฝ่ายไว้“หลีกไป! ข้ามีธุระต้องคุยกับคนข้างใน ไม่มีเวลามาวุ่นวายกับพวกเจ้าหรอก” ฉิงเหวินฟู่เอ่ยขณะที่ดวงตาฉายความหงุดหงิด เขาไม่ใช่คนรักหยกถนอมบุปผาก็จริง แต่การจะให้ทำร้ายสตรีนั้นหาใช่นิสัยไม่ เพราะเหตุการณ์ที่เรือนรับรองของอวิ๋นซือเมื่อครู่พาให้อารมณ์ขุ่นมัวมิใช่น้อย การแสดงออกในยามนี้จึงดุดันและแฝงแววข่มขวัญยิ่งจงเหมยกับจงหมิงมองหน้ากัน ดวงตามีแววตกใจพาดผ่าน ไฉนคุณชายฉิงผู้นี้จึงพูดเหมือนรู้ว่านายท่านหลันอยู่ด้านในกันเล่า“คุณชายโปรดรั้งเท้า คุณหนูของพวกเรากำลังพักผ่อนอยู่ในห้อง ชายหญิงมิอาจใกล้ชิดจนเกินงาม ขอท่านโปรดให้เกียรติด้วย”เป็นจงเหมยที่เอ่ยปากขึ้น นางไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทราบอะไรมา แต่ถ้าใครรู้ว่าคุณหนูร่วมห้องกับ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status