ถึงจะยอมหมั้นตามสัญญา ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะต้องอยู่กับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก งานแต่งจะไม่เกิดขึ้นเพราะเขาจะทำทุกทางให้เธอ.. เป็นคนขอถอนหมั้นเอง
View More“ฮือๆ..อือ..ฮื่อๆๆ..”
ณ บ้านแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครแม้นที่นี่จะมีชื่อว่าเมืองที่ไม่เคยหลับไหลแต่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้เมื่อเลยกลางดึกบ้านแทบทุกหลังก็เงียบสงัดต่างจากบ้านของพราวมุกที่มีเพื่อนสาวที่กำลังอกหักอย่างณจันทร์ร้องห่มร้องให้เจียนขาดใจ
“จันทร์เอ้ย..จะเป็นปกติได้เมื่อไรล่ะเนี่ย”
พราวมุกสาวสวยร่างสูงเอ่ยกับณิชาเพื่อนรักอีกคนที่ยืนกอดอกมองณจันทร์กันอยู่ห่างๆ ทั้งสองรู้ว่าณจันทร์เป็นคนที่อ่อนแอและอ่อนไหวง่ายแต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเห็นเพื่อนรักเสียใจปานขาดใจเช่นนี้
“เราเข้าไปหาจันทร์ดีไหม”
“หนม..”
ยังไม่ทันที่สาวแว่นตัวเล็กอย่างณิชาจะเลื่อนประตูกระจกไปที่ห้องนั่งเล่นเธอก็ถูกพราวมุกดึงแขนเอาไว้ก่อน
“ตัวก็รู้ว่าจันทร์ไม่ชอบให้เราเห็นอาการเสียใจขืนเราเข้าไปจันทร์ก็ทำตัวเข้มแข็งไม่ยอมปล่อยความเสียใจออกมาอีกให้จันทร์ได้ร้องระบายความทุกข์ออกมาให้มากที่สุดดีกว่าพรุ่งนี้เราค่อยชวนจันทร์ทำกิจกรรมอย่างอื่นให้สบายใจขึ้น”
“ก็จริงอย่างที่ตัวว่านะพราว...ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับจันทร์ขนาดนี้นะ”
ณิชาหน้าเสียเธอสองจิตสองใจแต่ก็ยอมปล่อยให้ณจันทร์ร้องให้ไปคนเดียวไปก่อนแอบสงสารเพื่อนรักจับหัวใจเพราะเด็กกำพร้าอย่างพวกเธอถือว่าอาภัพพ่อแม่อยู่แล้วตอนนี้ยังต้องมาดูเพื่อนอาภัพเรื่องความรักอีก
สามสาวณจันทร์พราวมุกและณิชาเป็นเด็กในบ้านเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐมดูแลโดยแม่ครูดวงเดือนทั้งสามมาอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่ยังแบเบาะมาในวันและเวลาที่ไล่เลี่ยกันมากแม้นจะมีบุคลิกลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันพอสมควรแต่ทั้งสามก็เข้ากันได้ดีและเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่เล็กจนโต
ณจันทร์เป็นหญิงสาวน่าตาน่ารักน่าชังตัวเล็กไม่สูงมากผิวขาวผมีดำตรงสลวยจนถึงกลางหลังใบหน้าของเธอเป็นรูปไข่คิ้วบางได้รูปดวงตากลมโตขนตางอนยาวปากนิดจมูกหน่อย เป็นคนที่ดูท่าจะอ่อนแอที่สุดในสามคนแต่ลึกๆแล้วเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวที่สุดก็ว่าได้
ณิชามีผมสีน้ำตาลหยักศกยาวประบ่าขนาดตัวพอๆกับณจันทร์เธอพอจะมีทรวดทรงองเอวและดูมีเนื้อมีหนังกว่าณจันทร์เล็กน้อยสาวเจ้าเป็นคนหน้ากลมสวมแว่นหนาเพราะเป็นคนสายตาสั้นมาตั้งแต่เด็กๆ คิ้วเรียวสวยและดวงตากลมโตดั่งลูกแมวน้อยของเธอจึงถูกแว่นหนาๆบดบังอยู่แทบจะตลอดเวลา จมูกมีความโด่งเล็กน้อยโค้งมนตรงปลายดั่งลูกชมพู่ริมฝีปากบางได้รูปมีแก้มเป็นพวง ณิชาเป็นคนที่ค่อนข้างเรียบร้อย แอบโก๊ะเล็กน้อยเพราะความที่ชอบทำอะไรซุ่มซ่ามแทบจะตลอดเวลา
ในส่วนของพราวมุกเธอดูโดดเด่นที่สุดในทั้งสามคนเพราะเป็นคนที่สวยเทียบกับนางแบบเลยก็ว่าได้เพราะเป็นคนที่ค่อนข้างสูงผมยาวดกดำสลวยหน้าเรียวสวยคิ้วเข้มตาคมจมูกโด่งปากหนาเป็นกระจับเรียกได้ว่าเครื่องหน้าเครื่องตัวครบ และเป็นคนที่ดูมั่นใจมากที่สุดในทั้งสาม เพราะเป็นคนที่ค่อนข้างท้าชนได้กับทุกเรื่อง แต่ลึกๆแล้วเธอก็ชอบเอาความเข้มแข็งปกปิดความอ่อนแอในใจเท่านั้น และไม่นานมานี้เธอก็พึ่งได้รู้ว่าตัวเองเป็นถึงทายาทเศรษฐีที่ถูกตามหาตัวตั้งแต่เด็ก แม้จะรู้ตัวว่าโชคดีที่รู้ว่าพ่อแม่ตัวเองเป็นใครและได้มีมรดกเป็นพันล้านไว้ให้ได้ใช้แต่เธอก็ยังมีความโชคร้ายที่มารู้ว่ามีพ่อแม่ก็เมื่อตอนที่พวกท่านทั้งสองเสียไปแล้วเท่านั้นหนำซ้ำญาติมิตรก็ไม่มีใครเหลือไว้ให้ได้เคารพกันสักคน
+++
เพล้ง..เพล้ง
ในห้องวีไอพีของผับหรูย่านใจกลางเมืองตอนนี้มีนนทวัตรประธานหนุ่มมาดเนี้ยบที่กำลังเมาได้ที่นอนกลิ้งไปมาบนโซฟามือไม้ปีดป่ายกวาดขวดน้ำเมาหล่นล่วงกระจายสภาพของประธานหนุ่มตอนนี้สลัดคราบความเนี้ยบออกไปสิ้นเชิง
“เฮ้อ..”
กวินเจ้าของผับหรูยืนกอดอกมองสภาพเพื่อนที่กำลังมีแผลใจด้วยสายตาเวทนาตอนนี้สิ่งที่เขาทำให้นนทวัตรได้ก็คงจะเป็นการดูแลอยู่ห่างๆให้เพื่อนนั้นระบายความเสียใจออกมาให้พอเท่านั้น
นนทวัตร เสธวัฒน์สกุล เขาเป็นลูกชายคนสุดท้องของภัทรพลและอนงค์นาถ เสธวัฒน์สกุล เจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตอนนี้ชายหนุ่มขึ้นแท่นเป็นท่านประธานช่วยกันกับพี่ชายคนกลางในการบริหารรีสอร์ทในต่างจังหวัดในเครือบริษัทแม่ในวัยเพียง31ย่าง32เท่านั้น เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างหล่อเหลามาดเนี้ยบ สูง185รูปร่างกำยำ หน้าตาคมไร้หนวดเคราเกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้าน ทรงผมรองทรงสูง บุคลิกสุขุมนุ่มลึกเฉกเช่นคนเป็นพ่อ เขายังมีความเอาแต่ใจเล็กน้อยตามประสาน้องเล็กของบ้านแต่รักครอบครัวและศักดิ์ศรีเป็นที่สุด
ในส่วนของกวิน คาลเซอร์ ชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษเจ้าของผับหรูโรงพยาบาลเอกชนและบริษัทจิวเวอรี่วัย32เป็นเพื่อนกับกับนนทวัตรมาตั้งแต่เรียนที่เมืองนอกด้วยกัน ชายหนุ่มเป็นคนสูงใหญ่เกือบจะสองเมตรได้ เขาเป็นผู้ชายหน้าหวานตาสีฟ้าผมสีน้ำตาลทองหม่นจมูกโด่งเป็นสัน นิสัยค่อนข้างขี้เล่นอัธยาศัยดี แต่เมื่ออยู่ในโหมดของการทำงานเขาก็จะจริงจังทุกอย่างเพราะต้องการทำงานออกมาให้เพอเฟ็คที่สุดนนทวัตรเองก็มีนิสัยจริงจังเรื่องงานเช่นนี้เหมือนกันพวกเขาทั้งสองจึงสนิทกันมาก
เช้าวันต่อมา
“เมื่อคืนจันทร์ร้องจนหลับไปตรงนี้เลยเหรอ”
พราวมุกเดินลงมาจากชั้นบนเห็นณิชายืนกอดอกจ้องอะไรบางอย่างที่ห้องนั่งเล่นพอเธอเดินเข้ามาถึงตัวณิชาก็ต้องยกมือเรียวทั้งสองกดอกตามณิชาไปด้วยอีกคนเพราะรู้ได้ทันทีเลยว่าเมื่อคืนณจันทร์คงร้องให้จนผลอยหลับไปไม่ได้ขึ้นไปนอนบนห้อง
“อืม..”
ณิชาพยักหน้าเล็กน้อยทั้งยังมองไปยังเพื่อนรักด้วยสายตาของความสงสารสุดหัวใจ
“จันทร์เป็นอะไรล่ะลูก”
สองสาวถลึงตามองหน้ากันด้วยอาการตกใจก่อนจะหันมายังต้นเสียง
“แม่ครู”
ณิชาและพราวมุกรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้เธอต้องนั่งอธิบายเรื่องราวกับแม่ครูยาวแน่นอน
“มึงไม่ต้องมาพูด..กูเจอคุณรุจก่อนมึงแต่เค้าก็เลือกมึงเพราะกูมันก็แค่คนไม่มีหัวนอนปลายตีนกูคิดไว้ตั้งแต่มึงแต่งงานกูจะทำทุกอย่างให้ครอบครัวมึงฉิบหาย...ตั้งแต่ตอนนี้ฟังกูให้ดีล่ะอย่าพึ่งจุกอกตายไปซะก่อนวันที่กูรู้ว่ามึงท้องลูกแฝดกูก็จ้างพยาบาลกับหมอไม่ให้บอกมึงว่าเด็กในท้องคือเด็กแฝดแล้วก็บอกให้หมอบังคับให้มึงผ่าเก็บลูกไว้ให้มึงหนึ่งคนกูเอาไปหนึ่งคน.. ลูกมึงที่พึ่งออกคนพี่กูเอาไปให้บ้านเด็กกำพร้าให้มันอยู่อย่างลำบากไร้พ่อแม่แต่กูก็ยังเห็นใจมึงเก็บลูกไว้ให้มึงอีกคนแต่กูก็เลี้ยงมันมาแบบผิดๆให้พวกมึงที่เป็นพ่อแม่ทุกข์ใจสมน้ำหน้าพวกมึงส่วนคุณรุจที่เสือกไม่เลือกกูเป็นเมียกูก็ค่อยๆให้มันกินสารพิษวันละเล็กละน้อยจนมันป่วยตายไป.. ยิ่งกูเห็นมึงมีน้ำตานะอีโสกูนี่โตรสะใจ”โสภิตาฟังคนที่กำลังพล่ามอย่างไม่รู้สึกผิดด้วยความปวดใจอนงค์นาถในตอนนี้รู้สึกเห็นใจโสภิตาที่มีงูพิษอยู่ข้างกายมาตั้วแต่เล็กจนโตแต่ก็มารู้ตัวในวันที่สายไปแล้วไม่อยากจะคิดว่าคนหน้าซื่อๆอย่างสารภีจะกระทำการอะไรเช่นนี้ได้“ที่บริษัทคุณรุจจะล้มละลายกูก็จ้างคนเปลี่ยนบัญชีโกงเงินเข้ากระเป๋าฉลาดไหมล่ะ...แล้วกูก็บังคับให้มึงหน้าด้านไปรื้อสั
“เรื่องอะไร”“แกรู้ว่าภรรยาฉันเป็นเพื่อนคุณจันทร์แต่สิ่งที่ฉันจะพูดไม่ได้พูดเพื่อช่วยแก้ตัวให้ใครแต่แค่อยากให้แกได้ฟังแล้วไตร่ตรองดู...พราวบอกกับฉันว่าคุณจันทร์ไม่ใช่คนชอบโกหกหลอกลวงใครที่ยอมรับปากทำงานให้คุณโสเพราะเธอต้องการเงินไปรักษาแม่ครูที่ต้องรับการผ่าตัดด่วนงานของเธอเสร็จสิ้นไปตั้งแต่จบงานหมั้นแต่ที่เป็นปานตะวันต่อเพราะเห็นใจคุณโสที่ยังไม่เจอตัวลูกสาวตัวจริงอีกอย่างเรื่องที่คุณโสให้ปานตะวันมาหมั้นกับแกเพื่อที่จะหาเงินพยุงบริษัทคุณจันทร์ก็ไม่รู้เรื่องและเรื่องความรู้สึกดีๆที่เธอมีให้แกนั่นก็ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงเหมือนกัน”“แกดูจะเชื่อคำภรรยาของแกเหลือเกินนะ”“ใช่เพราะฉันดูออกว่าพราวจะไม่โกหกฉันแน่แล้วฉันก็เชื่อว่าถ้าแกคิดดีๆแล้วพิจารณาแกก็จะดูออกว่าคุณจันทร์ไม่ได้เสแสร้งเวลาอยู่กับแก...ฉันขอพูดแค่นี้จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่แก”เท่าที่กวินรู้จักสามสาวภายในกี่เดือนเขาก็ดูออกว่าพวกเธอจริงใจกับคนรอบข้างและจิตใจดีกันมากๆกว่าณจันทร์จะได้กลับมาที่บ้านก็เป็นเวลาเกือบกลางดึกเพราะกลับมาจากที้เกิดเหตุก็ต้องถูกสอบปากคำต่อตอนนี้เธอทั้งเหนื่อยและเพลียและใจเสียกับเรื่องที่รู้ว่าสารภีเป็นคนส
“ถ้าช่วงนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณโสคุณจะว่าอะไรไหมคะแม่บ้านเธอก็ไม่มีฉันสงสารเธอค่ะ”อนงค์นาถมองคนที่พึ่งตื่นจากการเป็นลมมานั่งร้องให้ด้วยสายตาหดหู่“ดีเหมือนกันเพราะผมว่าคุณโสอยู่คนเดียวคงไม่ดีแน่”ภัทรพลเห็นด้วยที่ภรรยาจะอยู่เป็นเพื่อนโสภิตาด้วยคิดว่าโสภิตาอาจจะเสียใจจนไม่มีสติได้ทุกเวลา“คุณแปลกใจเรื่องหนูตะวันทร์กับหนูจันทร์ไหมคะ”“ผมก็มีคิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมเด็กสองคนถึงได้เหมือนกันขนาดนั้นทั้งที่ไม่ใช่เครือญาติกันเลยแต่โลกนี้ก็มีเรื่องแปลกอยู่เสมออย่าคิดมากเลยคุณตอนนี้เราต้องดูแลคุณโสก่อนดีกว่า”“ค่ะ”ร้านอาหารXXXเย็นวันนี้ณจันทร์เลิกงานได้ก็ออกมาที่ร้านอาหารแถวชานเมืองเพราะจู่ๆณจันทร์ก็ได้รับสายจากสารภีว่าต้องการให้เธอไปพบแต่ยังไม่บอกว่าเรื่องอะไรRrrrr“คุณสาอยู่ที่ไหนคะจันทร์มาที่ร้านแล้วไม่เห็นคุณเลยค่ะ..อื้อ..”ยังไม่ทันที่ณจันทร์จะได้คำตอบจากสารภีสติของเธอก็ดับวูบลงไปวันต่อมา“ตอนนี้ทางเราจับคนร้ายที่กระทำกับคุณปานตะวันได้แล้วและผู้ชายทั้งสองคนก็สารภาพว่าสารภีเป็นคนจ้างให้พวกเขาทำครับ..ตอนนี้เรากำลังตามหาตัวของคนร้ายอย่างสุดความสามารถคุณโสไม่ต้องห่วงนะครับ”เช้าของวันนี
“เจ็บปวดมากไหมล่ะลูก”ดวงเดือนเข้ามาคุยกับณจันทร์ว่าเธอรู้ความจริงทั้งหมดหลังจากที่หญิงสาวตื่นแล้ว“จันทร์ทนได้จ่ะแม่ครูเดี๋ยวจันทร์ก็กลับมาเข้มแข็งแล้วไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”สาวเจ้ายังคงมีรอยยิ้มให้กับแม่ครูของเธอเสมอแต่รอยยิ้มนั้นดวงเดือนรู้ดีว่าลูกของเธอกำลังปกปิดความรู้สึกที่เจ็บปวดอยู่ซึ่งเธอไม่ต้องการแบบนั้น“ถ้ามันเสียใจก็ระบายมันออกมาให้หมดลูกไม่ต้องเก็บเอาไว้คนเรามันไม่ได้เก่งได้ทุกวันหรอกนะจันทร์”ณจันทร์มองจ้องแม่ครูของเธอด้วยแววตาไหววูบก่อนจะสวมกอดสะอึกสะอื้นปล่อยโฮออกมาอีกพักใหญ่ดวงเดือนยังคงนั่งเงียบกอดปลอบอยู่ข้างๆณจันทร์เธอรู้ว่าความรู้สึกทุกข์มันไม่ได้หายไปง่ายๆแต่หากได้ระบายออกมาบ้างมันก็จะทำให้คลายความทุกข์ไม่มากก็น้อยพราวมุกที่พยายามติดต่อหานนทวัตรก็ติดต่อไม่ได้เธอจึงตัดสินใจมาเล่าความจริงให้กวินฟังเพื่อที่จะให้เขาช่วยให้เพื่อนเธอปรับความเข้าใจกับนนทวัตรหากต้องจากกันก็ขอให้จากกันด้วยดีกว่านี้“ผมว่าแล้วว่าทำไมตอนนั้นเจอปานตะวันดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน”กวินฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของพราวมุกก็ถึงบางอ้อ“คุณพาฉันไปหาคุณนนได้ไหมคะฉันอยากอธิบายกับเค้าว่าที่จันทร์ทำไปตอนนั
“เครียดจนป่วยเลยเหรอคะ”“ใช่..แต่ฉันคิดว่าไม่นานยัยโสก็จะหายเครียดแล้วเพราะนักสืบบอกฉันมาว่าเริ่มเจอเบาะแสตะวันแล้วหลังจากนี้เธอจะได้ไม่ต้องสวมรอยตะวันเป็นอีก”“ร..เหรอคะ”ณจันทร์เริ่มหลบสายตาลงเล็กน้อยรู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึงสักวันแต่หลังจากเธอมีความสุขกับนนทวัตรเธอก็เริ่มที่จะไม่ได้เผื่อใจกับความเจ็บปวดไว้“สวมรอย!”นนทวัตรแทบยืนไม่อยู่เขากำมือแน่นพยายามสงบอารมณ์และฟังเรื่องราวที่สองคนนั้นกำลังคุยกันต่อ“ฉันรู้นะว่าช่วงนี้เธอกับนนทวัตรตัวติดกันแทบจะตลอดแล้วฉันก็พอจะดูออกว่าเธอรักนนทวัตรไปแล้ว”ถึงสารภีจะไม่ได้ยุ่มย่ามอะไรกับณจันทร์เหมือนโสภิตาแต่เธอก็รู้ความเคลื่อนไหวของหญิงสาวและนนทวัตรตลอดจนเธอแน่ใจว่าณจันทร์ในเวลานี้น่าจะรักนนทวัตรจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว“คือ”“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกผิดที่ยัยโสโลภมากเองถ้าไม่อยากได้เงินไปพยุงบริษัทคงไม่ต้องจ้างเธอมาหลอกลวงบ้านของนนทวัตรหรอก...ฉันเห็นใจเธอนะแต่ก็อยากจะให้เธอทำใจเอาไว้ด้วยว่าเดี๋ยวปานตะวันก็กลับมา..ที่ฉันจะพูดก็มีเท่านี้แหละเธอเข้างานไปเถอะ”“ค่ะ”ณจันทร์พึ่งรู้สาเหตุที่แท้จริงในการหมั้นหมายก็ครั้งนี้แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องของเธอและตอนนี้เธอก
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมสามเดือนทางด้านโสภิตาก็ยังคงตามหาปานตะวันไม่เจอเช่นเดิมแม้แต่ข่าวคราวสักเล็กน้อยก็ไม่มีทำให้เธอเริ่มที่จะกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเครียดทางด้านณจันทร์เมื่อเห็นสภาพของโสภิตาเธอก็ปฏิเสธที่จะไม่ช่วยโสภิตาไม่ได้ทั้งที่เพื่อนๆทั้งสองเกริ่นมาแล้วว่าอยากให้ถอนตัวจากการสวมรอยแต่แค่ออกความเห็นเท่านั้นไม่ได้บังคับณจันทร์เพราะรู้ว่าหากณจันทร์ยังคงเจอนนทวัตรเช้าเย็นทุกวันหยุดก็ไปอยู่ด้วยกันเช่นนี้เมื่อถึงวันที่ปานตะวันตัวจริงกลับมาณจันทร์จะต้องเป็นคนที่เจ็บมากส่วนลลิตาก็ถูกหักหน้าโดยที่นนทวัตรแจ้งกับทุกคนว่าไม่ขอรับนัดหรือร่วมธุรกิจกับลลิตาจนสาวเจ้าที่รู้สึกเสียหน้าเอามากจึงเลือกที่จะไม่ยุ่งกับนนทวัตรอีกเพราะเธอเองก็ถือว่าตัวเองมีดีเหมือนกัน ในทางธนกรนั้นคงไม่กล้ามายุ่งอะไรกับผู้หญิงของนนทวัตรอีกเพราะถูกสั่งสอนไปชุดใหญ่จนนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายอาทิตย์โดยที่ก็เอาเรื่องนนทวัตรไม่ได้พราวมุกและกวินก็ดูจะสนิทสนมกันมากขึ้นเพราะชายหนุ่มต้องสอนงานบริหารให้หญิงสาวจนตัวติดกันตลอดแถมพินัยกรรมที่ต้องเปิดหลังพราวมุกและกวินแต่งงานก็คือให้ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกันเดือนละครั้งจนครบปีเวลาชีวิต
Comments