เข้าสู่ระบบมหา’ ลัย วันจันทร์
‘ไม่ได้เป็นห่วงสักนิด’
คนที่เคยคิดไว้แบบนั้นกลับพุ่งตรงไปหาเพื่อนใครบางคนทันทีที่เจอหน้า วินเนอร์อดทนไม่ติดต่อเธอตลอดทั้งเสาร์อาทิตย์ แต่นี่วันจันทร์แล้วและวันนี้เขาต้องได้เห็นหน้ายัยนั่นเท่านั้น
“อาชิ เพื่อนมึงอยู่ไหน”
“นี่ไง เพื่อนกู” คนตัวขาวชี้ไปยังที่นั่งตรงข้ามที่มีแซ็คนั่งเคี้ยวขนมอยู่
“อย่ากวนตีน กูถามถึงลูกพีช”
“อ๋อ ไม่รู้”
“กูเตือนมึงแล้วนะว่าอย่ากวนตีน” วินเนอร์กัดฟันพูดด้วยความหงุดหงิด
“เห้อออ เออ กูบอกก็ได้ เดินไปซื้อของที่ร้านค้า ตึกนู้น” นิ้วเรียวชี้โด่ชี้เด่ไปอีกทาง “น่าจะใกล้กลับมาแล้ว จะนั่งรอก็เชิญ”
วินเนอร์ไม่เอ่ยอะไรเพิ่มเติม และไม่คิดจะนั่งรอด้วย เขาทำเพียงก้าวยาว ๆ ไปทางนั้นทันที แต่ในจังหวะเลี้ยวพ้นมุมตึก ภาพที่เห็นก็ทำเอาเส้นเลือดบนขมับเต้นตุบ
แว่นเชย ๆ อันเป็นเอกลักษณ์กับทรงผมมัดรวบหลวม ๆ ทำให้วินเนอร์จำเธอได้ทันที แต่อีกคนที่ยืนคุยกับยัยนั่นน่ะเขาไม่รู้จัก และไม่อยากรู้จักด้วย แล้วมันกล้าดียังไงมาแตะต้องตัวยัยนั่นวะ!!
“ขอบคุณนะคะรุ่นพี่”
“เดินระวังหน่อยสิครับ น้องเจ็บตรงไหนไหม?”
“ไม่ค่…” ทว่าไม่ทันที่ลูกพีช จะตอบกลับคนที่ช่วยประคองตัวเองไว้ก่อนหน้า กลับมีเสียงดุดันของใครบางคนเอ่ยมา ขัดจังหวะเสียก่อน
“ไม่ต้องเสือก”
วินเนอร์กล่าวเสียงโทนต่ำเพื่อกดดันคนทั้งคู่ตรงหน้า ลูกพีชไม่รู้ว่าวินเนอร์มายืนซ้อนหลังเธอตั้งแต่ตอนไหน แต่น้ำเสียงน่ากลัวนั่นทำเธอใจสั่นไปหมด หมดเวลาหนีแล้วสินะ เธอจะโดนเขาด่าที่ไม่ยอมรับสายและตอบแชตหรือเปล่า ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเรื่อง…คืนนั้น
‘ทำตัวปกติ ๆ ๆ’
ลูกพีชคิดก่อนจะสูดหายใจเข้าเต็มปอด ยังไม่ทันจะได้หันกลับไปทักทาย วินเนอร์ก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน
“มึงนี่อ่อยไปทั่วจริง ๆ เลยแว่น”
อ้าว ไอ้ปากหมานี่! ทั้งที่เธอเพิ่งจะคิดว่าอาจจะทำตัวปกติได้ แต่ตอนนี้เริ่มไม่อยากทำแล้ว เจ้าของใบหน้าสวยใต้กรอบแว่นหันกลับมามองด้วยแววตาเรียบนิ่ง
“แต่เราก็ไม่ได้อ่อยวินนี่ จะเดือดร้อนทำไม?”
“ว่าไงนะ” เขากระชากข้อมือนิ่มมากำไว้ “อย่าปากดีให้มันมากพีช มึงอยากเห็นกูกระทืบมันมากใช่ไหม?”
“แล้วจะไปทำพี่เขาทำไม”
“ปกป้องกันเข้าไป กูก็กระทืบมันที่กล้าแตะต้องมึงไง”
“พี่แค่มาช่วยน้องเขาเก็บของเองนะครับ ก็เมื่อกี้น้องเขาจะล้…”
“หุบปาก”
เสียงเย็นกระซิบของคนตรงหน้า ก่อนที่วินเนอร์จะผละมือออกจากลูกพีช แล้วเดินตรงไปหารุ่นพี่คนนั้นที่เอ่ยขัดเขา แรงกดดันแผ่ออกมาจนคนรอบข้างอึดอัด ส่วนลูกพีชก็อับอายสายตาคนรอบข้างสุด ๆ ทำไมวันนี้วินเนอร์ถึงได้ทำตัวประสาทแดกแบบนี้เนี่ย
“อย่าเสือกมาตีสนิทเมียกู”
ลูกพีชช็อค รุ่นพี่ก็ช็อค ทุกคนที่ได้ยินก็นิ่งอึ้งไปตาม ๆ กัน แม้คนจะไม่เยอะ แต่แถวนี้เงียบเพราะกำลังสนใจคนทั้งสาม ทุกคนเลยได้ยินกันหมด หญิงสาวถึงกับเอามือนวดขมับ อยากมุดลงดินให้มันจบ ๆ ไป
ลูกพีชหันหลังเดินหนีทันที เธอไม่หันกลับไปมองแม้สักนิด ตอนนี้เธอรู้สึกอายเป็นอย่างมาก อันที่จริงก็เขินด้วยที่คนตัวสูงเอ่ยคำว่าเมียออกมาได้อย่างง่ายดาย แต่พอคิดได้ว่าเมื่อคืนก่อนนั้นก่อนนอนตัวเองได้ยินอะไรมา รอยยิ้มเบาบางก็พลันจางหาย
ทั้งที่เป็นคนพูดแบบนั้นเองแท้ ๆ แล้ววันนี้มาเรียกเมียอะไรกัน แค่หวงก้างเท่านั้นแหละ
เธอได้ยินเสียงเรียกชื่อที่คุ้นเคย แต่ก็ไม่ยอมหยุดเดินจวบจนคิดว่าจะหนีไม่พ้น จึงตัดสินใจเข้าไปหลบในห้องน้ำหญิง พลันคิดว่าวินเนอร์คงไม่กล้าตามเข้ามา
“เข้ามาทำไมเนี่ย! โรคจิตรึไง ออกไปนะ”
ไอ้หมอนี่มันบ้ากว่าที่คิด ดีนะที่ไม่มีคนอยู่เลยไม่เกิดเรื่อง แต่พอคิดแบบนั้นได้เพียงไม่กี่วินาที เสียงผู้หญิงที่คิดว่าจะเดินเข้ามาในห้องน้ำแห่งนี้ ดังใกล้ขึ้นมาก็ทำเอาใจดวงน้อยหล่นวูบ เธอดึงร่างสูงเข้ามาหลบด้วยกันในห้องน้ำทันที
ห้องน้ำเล็ก ๆ คับแคบลงถนัดตา แต่เหมือนหมาบ้าบางตัวจะไม่ค่อยสนใจสิ่งที่เธอกังวลเท่าไรนัก เขาโอบเอวเธอไว้เมื่อมีโอกาส ก้มลงซุกดมหากลิ่นหอมที่ติดปลายจมูกมาหลายวัน ลูกพีชดิ้นขยุกขยิก
“อื้อ ปล่อยนะ” เธอกระซิบบอก
“หนีกูทำไม” วินเนอร์ก็กระซิบถามกลับ
“วิน ปล่อยเรา”
“บอกมาก่อนว่าทำไมวันนั้นมึงหนีกลับก่อน”
วินเนอร์จูบใบหูเล็กที่ตอนนี้กำลังแดงเรื่อ ก่อนจะขบกัดเบา ๆ ราวกับจะทำโทษ “แถมเมินแชตเมินสายกูอีก คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?”
“ไม่ใช่เมียวินก็แล้วกัน”
“นอนกับกูแล้วจะไม่ใช่เมียกูได้ยังไง?”
“……”
“กูถาม ก็ตอบ!”
รถสปอร์ตคันหรูจอดลงใต้คอนโดเดิมของทั้งคู่ คนด้านในก้าวลงจากรถแล้วจูงมือไปที่ลิฟต์ด้วยกัน แต่ดูเหมือนจะมีใครบางคนที่ทนไม่ไหวเสียก่อน วินเนอร์คว้าเอวบางเข้ามาชิดแล้วก้มลงจูบเธอทันทีที่เข้าลิฟต์ รสสัมผัสของเขาร้อนแรงแต่ไม่ดุดัน ซ้ำยังเต็มไปด้วยความคิดถึงโหยหามากมายจนแทบล้นออกมา“อืม จุ๊บ วิน เดี๋ยวสิ รอให้ถึงห้องก่อนได้ไหม?”“วินรอแทบไม่ไหวแล้วพีช”“ใจเย็นสิ อ๊ะ ถึงแล้ว เอาคีย์การ์ดห้องเรามาหน่อย”“เอ่อ วินว่าไปห้องวินดีกว่า” วินเนอร์อึกอักเล็กน้อย“ทำไมอ่ะ”“ห้องวินแหละ ไปกันเถอะ”ลูกพีชหยุดนิ่งไม่ยอมเดินตามที่โดนลากดึง ดวงตากลมมองวินเนอร์อย่างกดดัน คนตัวโตขนลุกทันที เขาคิดมาตั้งนานแล้วว่าเวลาเธอจ้องนิ่งๆ แบบนี้มันน่ากลัวชะมัด“วิน มีอะไรปิดบังเรา?”“ไม่ใช่นะ คือ” วินเนอร์พูดอะไรไม่ออก ยกมือเกาหัวตัวเองเบาๆ“วิน”“ห้องเธอก็ได้”ลูกพีชรับคีย์การ์ดที่วินเนอร์ยื่นมาให้ก่อนจะก้าวไปปลดล็อกประตูด้วยตัวเอง ร่างเพรียวบางเดินนำเข้าไปก่อน ทั่วห้องปกติดีแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เธอจึงเดินไปยังทิศทางของห้องนอนแทน ทันทีที่ไฟถูกเปิดขึ้นจนสว่างไปทั่วทั้งห้อง ใบหน้าหวานก็ฉายแววสับสน“อะไรเนี่ยวิน?”“ไอ้
เสียงเชียร์ที่เคยดังลั่นบนอัฒจันทร์เงียบลง สายตาหลายร้อยคู่จับจ้องไปยังละครสดฉากหนึ่งที่เกิดขึ้นกลางสนามแข่ง ร่างเพรียวบางของลูกพีชหรือควีนดาร์กเดินไปทางทีมงานฝั่งคู่แข่งช้าๆ หมวกใบโตถูกถอดมากอดไว้ข้างเอว เผยใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักให้คนทั้งสนามเชยชมเป็นขวัญตาบางคนที่เป็นผู้ชมขาประจำของที่นี่ ยังพอจำบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตสองสามปีก่อนได้บ้าง โดยเฉพาะวันที่วินเนอร์เผารถตัวเองตอนแข่งแพ้“วินเนอร์ มึงโอเคไหม?” กัสถาม“ตัวสั่นจังวะ”“เออ เดินไปนั่งก่อนปะ กูพยุงเอง”“ไม่ ไม่ต้อง ไม่เป็นไร”วินเนอร์ปฏิเสธทุกการช่วยเหลือจากเพื่อนฝูงที่ล้อมรอบ ดวงตาที่คลอไปด้วยของเหลวสีใสจ้องมองตรงไปที่เธอเท่านั้น เขาอดทนยืนมองเธอเดินไปคุยกับคนนู้นที คนนี้ทีจนทนไม่ไหวอีกต่อไป ตัดสินใจตะโกนเรียกเธอที่ยืนไม่ไกล“ลูกพีช!”“…”“เลือกวินได้ไหมพีช”“ทำไมเราต้องเลือกวินเหรอ?”“วินรอเธออย่างตั้งใจมาตลอดเลยนะ”“แล้วเราบังคับให้วินรอหรือไง?”“พีช อย่าพูดแบบนั้นสิ”วินเนอร์พูดเสียงแผ่ว ร่างสูงทรุดตัวคุกเข่าลงกลางสนาม เรือนกายที่เคยแข็งแกร่งสง่างามตอนนี้กลับดูเล็กลงเมื่อเจ้าตัวหมดสิ้นแรงใจ ลูกพีชอยู่ห่างจากเขาไปแค่ไม่
สนามแข่งรถ Dark Zone วันนี้ที่สนามมีจัดการแข่งขันรอบปลายเดือน ชิงเงินรางวัลมูลค่ากว่าห้าแสนบาท เหล่านักเชียร์และนักพนันทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าที่ชื่นชอบความเร็วแรงของการอัดรถที่บ้าคลั่ง ล้วนหลั่งไหลกันเข้ามาไม่ขาดสาย ยิ่งได้ยินข่าวว่าคืนนี้มีแมตช์ประชันระหว่างนักแข่งที่เพิ่งกลับมาลงสนามอย่างวินเนอร์ และนักแข่งที่บินตรงมาจากต่างประเทศ แม้จะยังไม่มีการประกาศชื่อผู้เข้าชิง แต่คนมากมายก็เชื่อใจในชื่อเสียงของสนามจนมาชมกันอย่างคับคั่ง“โอโห ท่านวินเนอร์ของเรา ใส่ชุดนี้แล้วคิดถึงเมื่อก่อนขึ้นมาเลยว่ะ” กัสเอ่ยปากทัก“จริง โคตรเท่ห์เลยไอ้วิน” ตามมาด้วยคำชมจากเต้“คว้าชัยชนะมาให้ได้นะ กูลงไว้เยอะ” และเดย์สิงห์พนัน เยอะของเขาอย่างไรก็ไม่เกินสามร้อย เพราะถือเอาค่าแรงขั้นต่ำมาเป็นมาตรฐาน กว่าจะได้สามร้อยบาทต้องทำงานตั้งแปดชั่วโมงเชียว จะให้เอาเงินมาละลายกับการพนันโดยไม่มีลิมิตได้อย่างไร“ยังไม่รู้เลยว่าฝั่งตรงข้ามเป็นใคร”วินเนอร์พูดอย่างกังวลเล็กน้อย เขาเช็กรถเป็นรอบที่สามแล้วเพราะไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด เหล่าทีมงานก็เตรียมทุกอย่างครบถ้วน เพื่อนในทีมให้กำลังใจเขากันอย่างดี แต่เพราะเป็นการหวนคืนสนาม
เครื่องบินลำใหญ่จอดนิ่งลงในสนามบินเมืองน้ำหอมอย่างประเทศฝรั่งเศส ลูกพีชเดินลงมาสัมผัสอากาศของสถานที่ที่เธอตั้งใจจะอยู่ไปอีกหลายเดือน หรืออาจจะเป็นปี จะอาศัยอยู่จนกว่าทุกความรู้สึกจะเข้าที่เข้าทาง เธอเงยหน้ามองลอดกระจกของทางเดินไปยังท้องฟ้ากว้าง เกียร์สองอันบนข้อมือกวัดแกว่งไปมา เธอก้มลงมองมันด้วยความรู้สึกปนเปลูกพีชเดินตรงไปยังหน้าสนามบินเพื่อขึ้นรถที่จอดรออยู่ เหนือสมุทรและพ่อแม่บุญธรรมไม่ยอมให้เธออยู่ที่ห่างไกลคนเดียว เลยส่งการ์ดมาดูแลสองคนและแม่บ้านอีกหนึ่ง จริงๆ แม่บอกให้ส่งมาสักห้าหรือสิบคน แต่เธอขอร้องไว้ก่อน เพราะอยากจะอยู่แบบสงบๆ ไม่อยากให้คนเยอะวุ่นวายเกินไป ไม่นานนักรถคันหรูก็จอดนิ่ง คนขับรถวิ่งลงมาเปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่“เชิญครับ”“คุณหนูคะ ยินดีต้อนรับค่ะ”“ป้าแก้ว สวัสดีค่ะ”“ผมถือกระเป๋าขึ้นไปวางไว้บนห้องให้นะครับ”ลูกพีชมองหญิงไทยวัยกลางคนแล้วเดินไปกอดอย่างสนิทสนม เธอยกมือไหว้ด้วยอย่างนอบน้อมและเคารพ ป้าแก้วเป็นเหมือนแม่นมของเธอ ช่วยดูแลเธอมาตั้งแต่เธอถูกรับเลี้ยงแรกๆ ครั้งนี้พ่อไม่อยากให้ลูกพีชรู้สึกคิดถึงบ้านมากเกินไปเลยส่งคนสนิทมาช่วยดูแล ป้าแก้วบินมาเตรียมที่พ
เวลาเกือบหกโมงเช้าของวันต่อมา ลูกพีชลืมตาตื่นก่อนเขา ในห้องกว้างยังคงมืดมิดเช่นเดิม ยกแขนของคนที่หลับสนิทให้ออกจากเอว ก่อนจะลงไปนั่งข้างเตียง มือบางควานหาโทรศัพท์เครื่องเก่าในลิ้นชักชั้นล่าง เธอปิดมันลงเบาๆ เมื่อเจอสิ่งที่ต้องการ แอบมันไว้ข้างกายแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำโชคดีที่ยังพอจะมีแบตเตอรี่เหลืออยู่บ้าง เธอรีบล็อกอินเฟสบุ๊กแล้วส่งข้อความไปหาพี่ชาย ตอนแรกลูกพีชคิดว่าเหนือสมุทรอาจจะตอบเธออีกทีในตอนแปดเก้าโมง แต่เขากลับตอบทันทีที่ได้รับข้อความลูกพีช: พี่เหนือ ถ้าตื่นแล้วส่งคนมารับพีชที่คอนโดหน่อยนะ ขึ้นมารับถึงหน้าห้องเลย ขอสักสองคน เอาลูกน้องมือดีของพี่เลยนะเหนือ: เกิดอะไรขึ้นพีชลูกพีช: ทำไมตื่นไวจังเหนือ: พี่ยังไม่ได้นอน เพิ่งลงเครื่อง กะว่าจะมาเซอร์ไพรส์ที่เรียนจบ ตอบคำถามพี่ก่อน เกิดอะไรขึ้นลูกพีช: วินเนอร์ไม่ให้พีชออกจากห้องค่ะ รายละเอียดค่อยคุยนะเหนือ: เตรียมตัวเลย พี่จะไปเดี๋ยวนี้ลูกพีช: ไม่ต้องเสียงดังนะพี่ เขาหลับอยู่ พีชอยากไปเงียบ ๆเหนือ: ได้ ขอครึ่งชั่วโมง ไม่สิ ยี่สิบนาที เตรียมตัวเลยลูกพีชถอนหายใจ ก่อนจะเก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงขาสั้นตัวโคร่งที่ใส่อยู่ เธอล้า
บรรยากาศในห้องที่เคยอบอุ่นและอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของคนทั้งสองที่อยู่ด้วยกันเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ตอนนี้มีเพียงความเงียบสงบไร้ชีวิตชีวา มันเหงาจนใจร้าว เพราะถึงแม้จะมีทั้งสองคนเหมือนเก่า แต่ต่างคนก็ต่างอยู่นิ่งๆ แทบจะไม่พูดอะไรกันเลยสักคำวินเนอร์ชอบมาคลอเคลียกอดเธอไว้ตลอดเวลา ไม่ว่าเธอจะนั่งดูโทรทัศน์ เทอาหารที่ซื้อมาใส่จาน หรือนั่งอ่านหนังสือบนโซฟามุมห้องข้างหน้าต่าง เขาจะตามมาช้อนกอดจากด้านหลังและหอมเธอไม่หยุด แต่ก็ไม่ค่อยพูดอะไรนัก ลูกพีชขี้เกียจจะคุย เธอเองก็อยากรู้ว่าจะอดทนแบบนี้กันไปได้นานเท่าไหร่ เงียบใส่กันและพูดคุยแค่ในยามที่จำเป็น อย่างเช่นตอนนี้ที่ลูกพีชดุเขาที่เข้ามาช้อนกอด“อย่านะวิน กูเทแกงใส่ถ้วยก่อน มันร้อน”“กูทำเอง เดี๋ยวโดนลวก”“ไม่ต้อง ไปตักข้าวเถอะ”“ก็ได้”วินเนอร์ยอมผละออก แล้วไปตักข้าวสวยใส่จานไว้สองจาน ตอนนี้เกือบจะครบสองวันเต็มๆ ที่อยู่ด้วยกันแล้ว และวินเนอร์ก็ไม่ได้ทำอะไรเธอจริงๆ อย่างที่เขาพูดไว้ แม้แต่จูบสักครั้งก็ไม่มี สิ่งที่ทำมากที่สุด คือการที่เขาหอมแก้มเธอจนแทบช้ำในทุกเวลาที่มีโอกาส และกอดกันจนจมอกเท่านั้นลูกพีชอึดอัด แต่ก็เข้าใจ“มึงจะขังกูไว้อีกนานแค







![Evil Engineerร้ายรักวิศวะเลว [ไนต์]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)