“พี่หมอ ฟังก่อน” ต้นน้ำถอยหลังจน ร่างของเธอชนกับหัวเตียง ใบหน้าหญิงสาวหวาดกลัว
“ไม่ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ฟังอะไรทั้งนั้น” อนวินท์กระแทกริมฝีปากลงบนริมฝีปากหญิงสาวแรง บดเบียดหนัก เม้มหนักหน่วง ต้นน้ำพยายามเบนหน้าหนี ยิ่งทำให้ชายหนุ่มซุกไซ้ที่ซอกคอขาว ตะบมจูบรุนแรง ก่อนจะเม้มหนักๆ ต้นน้ำน้ำตาไหลด้วยความโกรธ มือของหญิงสาวทั้งข่วนทั้งหยิก ชายหนุ่มหาได้สะทกสะท้านไม่ กลับยิ่งโหมกระหน่ำทั้งจูบ ทั้งเม้มกัดจนต้นน้ำรู้สึกเจ็บ แล้วเสียวซ่านไปทั่ว “ฉันเกลียดคุณ” ต้นน้ำพึมพำ กระแทกเสียงมือก็ยังทั้งผลัก ทั้งหยิก แต่ยิ่งหยิกยิ่งข่วน ชายหนุ่มยิ่งรุกเร้าหนักหน่วงจนต้นน้ำเจ็บระบมไปทั้งริมฝีปากและซอกคอ “พี่ชอบความเกลียดของน้ำ มันดีกว่าน้ำจะเย็นชากับพี่” อนวินท์กระซิบพูด พลางจูบระที่หน้าอกสวยบราเซียตัวสวยหลุดออกจากร่างกาย ไปตอนไหนไม่รู้ ต้นน้ำรู้สึกหนาวยะเยือก ก่อนจะร้อนผ่าวเมื่ออนวินท์ขยับมือประกบสองเต้าอวบ และเริ่มขยำหนักหน่วง ต้นน้ำเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง หญิงสาวขยับตัวจะหนีแต่ยิ่งเหมือนทำให้ชายหนุ่มบีบขยำหน้าอกสวยได้อย่างเต็มที่ “ไม่นะ..ปล่อยนะ” น้ำตาเหือดแห้งไปเพราะรู้สึกความร้อนผ่าวจากภายในกำลังถูกปลุกจะลุกโพลง “น้ำต้องชดใช้พี่ สี่ปีกว่าที่ทิ้งพี่ไป พี่จะเรียกร้องเอาเวลาของพี่คืนให้สาสม” อนวินท์กระซิบข้างๆหู พร้อมระดมจูบที่ติ่งหูขาว ทำเอาหญิงสาวสยิวไปทั่วเรือนร่าง “บ้า.. คนบ้า ฉันเกลียดคุณ” ต้นน้ำเน้นคำว่า เกลียดหนักแน่น “ไม่ต้องมาย้ำบ่อยๆ ว่าเกลียดพี่...” “เกลียดคุณ เกลียด เกลียด” ต้นน้ำตะโกนใส่หน้าชายหนุ่ม เมื่อชายหนุ่มหยุดจ้องมองหญิงสาวให้เต็มตา ยิ่งเห็นแววตาโกรธเกลียด ทำให้อนวินท์ปวดแปลบที่หัวใจ “ดี พี่จะได้ไม่รู้สึกผิดถ้าจะรุนแรงกับน้ำแบบนี้ บอกแล้วไงว่าพี่จะให้น้ำชดใช้เวลาที่ทิ้งพี่ไป” อนวินท์ก้มลงปิดที่ริมฝีปากแน่น ตะบมจูบหนักหน่วงทั้งเบียดบด กัดเม้มจนลิ้นของชายหนุ่มสามารถทะลุทะลวง มือของหญิงสาวทั้งทุบทั้งหยิกที่หัวไหล่ และกลางหลัง มือของชายหนุ่มตะบม ลากไปทั่วร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาว อย่างต้องการปลุกเร้า “อื้อ....” เสียงต้นน้ำร้องคราง เมื่อรู้สึกถึงความพ่ายแพ้ตรงหน้า ใช่ว่าเธอไม่โหยหาย สี่ปีกว่าที่ห่างหายเพศรสเหมือนร่างกายกำลังหิวกระหาย มาเจอแหล่งน้ำ อนวินท์ใช้มือลูบไล้ไปทั่วร่างกาย ทั้งหน้าอกสาว บีบเคล้นบางเบา ก่อนจะใช้ริมฝีปากไล้เลียจูบเม้มดูดกลืน หนักหน่วง เสียงของภรรยาร้องครางสะอื้น มือที่ทุบข่วนกลับเป็นจิกเบาๆ ที่หัวไหล่ “ไม่นะ...พอแล้ว” “ยังไม่พอหรอกน้ำ พี่จะเรียกร้องสิทธิ์ของพี่ ช่วยไม่ได้น้ำทำให้พี่โกรธเอง” ชายหนุ่มพึมพำกับร่องอกสาว ขาวนวล จากเต้าซ้ายมาเต้าขวาหนักหน่วง จนต้นน้ำรู้สึกระบมไปทั่วหน้าอกสาว ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อชายหนุ่มใช้มือลูบไล้ไปที่จุดที่อ่อนไหวที่สุดของร่างกาย “ไม่นะ ...อื้อ....ไม่” “สายไปแล้ว..พี่มาไกลเกินกว่าจะหยุดแล้วคนสวย” อนวินท์กระซิบที่หน้าท้องสาว ก่อนจะจูบเลยไปที่กลีบกุหลาบสวย ทั้งจูบทั้งกัด “พี่หมอ..ไม่นะ..อื้อ..” อนวินท์ตะบมทั้งจูบและสัมผัสกลีบเกสรสวย หนักหน่วง มือที่จิกกลับดึงให้ชายหนุ่มสัมผัสใกล้ชิดมากขึ้น อนวินท์แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เหมือนตนเองกำลังเจอแหล่งน้ำทิพย์ สี่ปีกว่าที่โหยหา ตั้งแต่หญิงสาวหนีหายจากชีวิต ชายหนุ่มก็ไม่ได้มีสัมพันธ์กับหญิงใด แม้จะเคยลองใช้บริการสาวแลกบริการ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเห็นแต่ใบหน้าภรรยาสาว วนเวียนไปมา จนเลิกคิดถึงเพศรส โหมงานหนัก ออกกำลังกาย และเรียนหนังสือเพิ่ม ทำให้อนวินท์คิดว่าตนเองคงด้านชาไปแล้ว น่าแปลกว่าพอได้ลิ้มรสกับภรรยาสาว ทำให้ความต้องการกลับลุกโชนจนชายหนุ่มเกือบควบคุมตัวเองไม่ได้ อนวินท์ยังโหมกระหน่ำสำรวจความหอมหวาน “พี่หมอ...โอ๊ย” ต้นน้ำจิกมือที่ผ้าปูเตียงสีขาว เมื่อรู้สึกกำลังจะแตะปลายฉิมพลี แต่แล้วเหมือนชายหนุ่มลากหญิงสาวลงมา เมื่อหยุดการรุกราน ต้นน้ำเหงื่อออก แล้วสะดุ้งอีกครั้งเมื่อชายหนุ่ม สอดใส่ความเป็นชายไปในส่วนเร้นลับหนักหน่วง “ไม่...นะ ปล่อยน้ำนะพี่หมอ” “น้ำไม่ได้อยากให้พี่ปล่อยเหมือนที่พูดหรอก น้ำก็หิวกระหายเหมือนพี่พอๆกันแหละ” อนวินท์กระซิบแซว ต้นน้ำหวีดเสียงครางกระเส่า ทั้งเสียวซ่าน เจ็บปวด เมื่อชายหนุ่มกระแทกแรงหนักหน่วง ร่างสองร่างประสานแน่นเป็นคนคนเดียวกัน อนวินท์ครางกระเส่า หนักแน่น เมื่อยิ่งกระแทกกระทั้นก็ยิ่งเสียวซ่าน ทั้งสองผลัดกันครางครั้งแล้วครั้งเล่าร่วมครึ่งชั่วโมง ชายหนุ่มพาหญิงสาวถึงจุดสุดยอดครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ชายหนุ่มจะซบใบหน้าที่ร่องอกสาว เมื่อรู้สึกอ่อนเพลียอย่างหนัก เมื่อโหมกระหน่ำเพลิงรัก ครั้งแล้วครั้งเล่า ต้นน้ำเหนื่อยอ่อนจนเผลอหลับไปทันทีในขณะที่จอยผลักให้ต้นน้ำเดิน เพราะหญิงสาวกำลังตกตะลึง.. ต้นน้ำวิ่งย้อนขึ้นกลับไปบนบันไดเลื่อน ในขณะที่อนวินท์วิ่งลงมา ภาพประทับใจแบบนี้ ทำให้จอยถึงกลับต้องตบมือด้วยความซาบซึ้ง ต้นน้ำวิ่งเข้าสวมกอดอนวินท์ทันที “น้ำขอโทษ น้ำเสียใจที่เอาแต่ใจ น้ำน่าจะเชื่อใจพี่หมอมากกว่านี้ น้ำมันงี่เง่าเอง” ต้นน้ำร่ายยาว อนวินทร์สวมกอดภรรยาสาวแน่น มองหน้าภรรยาสาว ตาบวมแดง จมูกแดง ปากสั่นๆขณะพูด ชายหนุ่มอมยิ้ม ก่อนก้มลงจูบภรรยาสาวในขณะที่หญิงสาวละล่ำละลักพูด ต้นน้ำตกใจหัวใจเต้นแรง จูบตอบชายหนุ่มด้วยความโหยหา แม้ว่ารสจูบจะหนักหน่วง แต่ต้นน้ำไม่ขัดขืนเพราะเธอก็คิดถึงอ้อมกอดนี้ ริมฝีปากนี้ แล้วยิ่งรู้ว่าจะต้องจากชายหนุ่มนาน หญิงสาวใช้มือโอบรอบต้นคอ จอยอ้าปากค้างกับภาพที่เห็นเป็นสิบวินาที “โห จะเลิฟซีนก็สะกิดก่อนสิ จะได้หลบไปไกลๆ เอามาให้คนโสด อิจฉา” จอยบ่นก่อนเดินหันหลังลงบันไดเลื่อนด้วยความเซ็ง แต่ก็เพียงแป๊ปเดียวก็หันมาถ่ายรูปที่คุณหมอหนุ่มชื่อดัง และภรรยาสาว กำลังแลกจูบกันไปมาด้วยความคิดถึง “แหม ลีมินโฮ ก็ลีมินโฮ เถอะ เจอคุณหมอวินท์ชิดซ้าย เล่นมาจูบกลางสนามบินสุวรรณภูมิงี้” จอยหันไปมองผู้คนรอบข้างที่
อนวินท์เมื่อวางสายจากลูกชาย ก็มองไปที่แบตเตอรี่ที่บอกสัญญาณว่าจะใกล้หมด เหลือเพียงสี่เปอร์เซนต์ เมื่อค้นหาพาวเวอร์แบงก์ก็ต้องหงุดหงิดว่าลืมเอาใส่กระเป๋าโหลดลงเครื่องไป ชายหนุ่มตัดสินใจปิดเครื่องทันที โดยไม่ได้เปิดไปมองโปรแกรมยอดฮิต ที่มีข้อความเข้ามานับสิบข้อความ ต้นน้ำพยายามที่จะโทรศัพท์อีก แต่คราวนี้ เหมือนกับว่าเจ้าของเครื่องได้ทำการปิดเครื่องแล้ว “พี่หมอปิดเครื่องแล้ว เมื่อกี้สายไม่ว่าง แต่คราวนี้ปิดเครื่องไปเลย เอาไงดีจอย” ต้นน้ำพูดน้ำเสียงร้อนรนจอยนิ่งคิด เมื่อได้ยินเสียงผู้ประกาศสาวที่กำลังประกาศ น้ำเสียงอ่อนหวาน ก็ดีดนิ้ว เมื่อนึกอะไรออก“ไปกับฉันแก เราต้องพึ่งฝ่ายประชาสัมพันธ์ มันเป็นโอกาสสุดท้ายล่ะ ถ้าไม่ได้ทางนี้ แกคงต้องรอคุณหมอที่บ้านแหละ”“ไปเถอะ โอกาสสุดท้ายฉันก็ยอม ฉันรอพี่หมอได้ แต่ฉันอยากจะใช้โอกาสสุดท้ายของฉัน แค่ได้บอกเค้าก็ยังดี”“งั้นไปกัน”ประกาศ ผู้โดยสารที่ชื่อว่า คุณอนวินท์ เลิศวสิน กรุณาเปิดเครื่องสื่อสารของท่าน ทางบ้านมีเรื่องด่วนแต่ติดต่อไม่ได้ค่ะประกาศอีกครั้ง ประชาสัมพันธ์สาวพูดย้ำอีกรอบ อนวินท์ยืนนิ่งเมื่อได้ยินเหมือนเสียงเรียกชื่อตนเอง ชายหนุ่มขมวด
จอย หันไปมองเพื่อนสาว ที่บางทีก็หัวเราะ บางทีก็ร้องไห้ ระหว่างที่ตนขับรถ คิ้วขมวด ก่อนเอ่ยถามด้วยความอยากรู้“แกเป็นอะไรน้ำ เสียใจจนเป็นบ้าไปเลยเหรอ คุณหมอยังไม่ได้ทิ้งแกหรอกนะ”“ไม่...ฉันอ่านข้อความที่พี่หมอเขียน ดูสิ สติ๊กเกอร์ พี่หมอเอาเวลาไหนไปโหลดมา ปกติใช้แต่ของฟรี” ต้นน้ำหัวเราะเบาๆ พร้อมปาดน้ำตา “สรุปแล้วฉันเข้าใจผิดพี่หมอหมดเลย..ทำยังไงดีล่ะแก ฉันจะเอาหน้าไหนไปสู้กับพี่หมอได้ล่ะ ต่อว่าเค้ามากมาย ทั้งเรื่องแม่ของหมอนิ ทั้งเรื่องที่โรงแรมที่เชียงใหม่ ว่าแต่แกรู้เรื่องพี่หมอสุชาติด้วยเหรอ ทำไมแกไม่เล่าให้ฉันฟัง” ต้นน้ำเขย่าแขนเพื่อนสาว หลังจากอ่านข้อความไปเกินสิบหน้า “ก็ตอนนั้นแกไม่มาทำงาน แล้วงานโรงพยาบาลเวลาไม่มีแก ก็ยุ่งๆ” จอยหันมาตอบเสียงอ่อย“มันคงเป็นเวรกรรมของฉันมั้ง ไปว่าพี่หมอให้มากมาย ถ้าฉันไปไม่ทันจริงๆ แล้วพี่หมอไปนาน ๆฉันต้องคลอดลูกคนเดียวอีกเหรอเนี่ย” ต้นน้ำทำเสียงเศร้า หญิงสาวเลื่อนหน้าจอมาเจอคลิปวีดีโอ แล้วเปิดฟังทรมานไปทั้งหัวใจทุกครั้งที่เราได้ชิดใกล้ แต่พูดความจริงไม่ได้...ได้แต่เก็บอยู่ข้างใน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เธอจะรู้หัวใจได้โปรดมองในตาฉัน มองที่ตรงนั
โรงพยาบาลเลิศวสินต้นน้ำลงจากรถวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาล ราวร่างไร้หัวใจ กว่าชั่วโมงที่ตามหาชายหนุ่มแต่ไม่พบทำให้ต้นน้ำรู้สึกถึงความผิดปรกติ หญิงสาวแทบวิ่งถลาไปที่ห้องทำงาน เห็นเพื่อนสาวคนสนิทกำลังทำงานอย่างวุ่นวาย “จอย” ต้นน้ำตะโกนเรียกไปก่อนพยาบาลจอย สะดุ้งก่อนมองไปที่ต้นเสียง แว๊บแรก แสดงความตื่นเต้น แต่เมื่อนึกถึงว่า ตลอดหลายวันมานี่ ไม่ว่าเธอพยายามติดต่อหญิงสาวอย่างไรก็ติดต่อไม่ได้ ทำให้จอยรู้สึกน้อยใจเพื่อนสาว ทั้งน้อยใจของตัวเองและยังโกรธเพื่อน เพราะสงสารเจ้านายหนุ่ม ที่ตลอดหลายวันตั้งแต่หญิงสาวหายไป นายแพทย์หนุ่มทั้งเครียด และไม่ได้ดูแลตัวเองเลย จอยแกล้งทำงานต่อไปราวกับไม่ได้ยินเสียงเพื่อนรัก“จอย พี่หมออยู่ไหน” ต้นน้ำถาม เมื่อเดินมายืนตรงหน้า “แกสนใจด้วยเหรอ หายไปไหนมา ทั้งฉันทั้งพี่หมอติดต่อแกไม่ได้ ตอนนี้จะมาถามหา ช้าไปหน่อยไหม” จอยพูดประชดแล้วทำงานต่อ“แกอย่าเพิ่งโกรธฉันนะ ฉันไม่สบายนอนโรงพยาบาล แล้วลืมเอาที่ชาร์ตโทรศัพท์ไปด้วย แบตหมดตั้งแต่วันแรกแล้วมั้ง ฉันรู้ข่าวหมอนิ ตกลงเป็นยังไง”จอยได้ฟัง แล้วเงยหน้ามองเพื่อนที่ท่าทางดูอิดโรยก็รู้สึกตัว รีบลุกขึ้นมาโอบกอดเพื่อนสาวแน่
พิพัฒนพงษ์ตรีรินทร์ได้ยินเสียงโทรศัพท์ ก็เหลียวไปมอง ก่อนจะเดินไปรับสายโทรศัพท์ “พิพัฒนพงษ์ค่ะ”“คุณแม่ครับ คุณแม่ติดต่อน้ำได้หรือเปล่า”“ยังเลยตาหมอ”อนวินท์มีใบหน้าสลดลง ถอนหายใจ “คุณแม่ครับ ผมต้องเดินทางไปประชุมงานที่ญี่ปุ่นสักพักฝากคุณแม่ดูแลน้องนนท์ ผมโทรหาเมื่อกี้เห็นบอกว่าไปแคมป์กับน้องกายที่เขาใหญ่”“ใช่จ๊ะ ตาหมอไม่ต้องเป็นห่วง แม่จะดูแลตานนท์ให้จ๊ะ”อนวินท์วางโทรศัพท์ กลับไปที่บ้านชายหนุ่มเดินไปทั่วบ้านด้วยความรู้สึกเหงา บ้านที่ปราศจากหญิงสาวและลูกชายตัวน้อย ดูเงียบสนิท ภาพความทรงจำเก่าๆ จะเห็นหญิงสาวในห้องครัวทำอาหารมีลูกชายตัวน้อยนั่งอยู่ใกล้ๆ บนเก้าอี้ในห้องครัว อนวินท์กอดอกนึกย้อนภาพเก่าๆ อย่างมีความสุข เสียงรถมาจอดหน้าบ้าน อนวินท์ออกไปต้อนรับ“ขอบคุณมากจอย” “ไม่เป็นไรค่ะหมอ” จอยตอบ ขณะที่มีพนักงานบริษัทอีเว้นต์แพลนเนอร์ชื่อดัง อีกสามคนเดินตามมาอนวินท์เดินนำเข้าไปในบ้าน อีกหลายชั่วโมงต่อมาทั้งบ้านเต็มไปด้วยดอกไม้ ลูกโป่ง จัดแต่งอย่างสวยงาม โรแมนติค จอยมองรอบๆ บ้านหลังน้อยที่ถูกตกแต่งในแต่ละห้องอย่างสวยงาม ทั้งดอกไม้ ลูกโป่ง ข้อความ หญิงสาวมองด้วยความซาบซึ้ง“โห โรแ
โรงพยาบาลเลิศวสินจอยเอาอาหารและน้ำมาเสิร์ฟ ให้นายแพทย์อนวินท์ ที่นั่งสะสางงานจนดึกด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่กลับจากสถานีตำรวจ นายแพทย์หนุ่มขังตัวเองอยู่ในห้อง เกือบครึ่งวัน“หมอคะ ทานอะไรสักหน่อย ตั้งแต่เช้าจอยยังไม่เห็นหมอทานอะไรเลย” พยาบาลสาวมองนายแพทย์ที่เป็นทั้งสามีเพื่อนและเจ้านายด้วยความเป็นห่วง “วางไว้ตรงนั้นแหละจอยขอบใจมาก อืมคุณติดต่อน้ำได้ไหม ผมติดต่อไม่ได้เลย” อนวินท์มีสีหน้าเป็นกังวล“ไม่ได้เหมือนกันค่ะ กลับมาจอยจัดการให้พี่หมอเลย งอนเป็นนางเอกละครไทยไปได้” จอยพูดน้ำเสียงหงุดหงิด“น้ำคงมีเหตุผล นั่งสิจอยผมมีเรื่องอยากถาม”“น้ำเขาเคยพูดเรื่อง วันครบรอบแต่งงานสี่ปีก่อน ก่อนที่เขาจะหนีผมไป คุณอยู่ในเหตุการณ์ ไหนเล่าให้ฟังสิ คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมอยากรู้อะไรทำให้เขาน้อยใจ เพราะปรกติแค่เรื่องผมไม่กลับบ้านติดคนไข้ ไม่น่าจะทำให้เขาโกรธขนาดนี้”อีกสามสิบนาทีต่อมา อนวินท์ก็พอปะติปะต่อ เรื่องต่างๆ ได้ ชายหนุ่มถอนหายใจยาว“ผมเป็นต้นเหตุกับเรื่องต่างๆ นี้เอง”“ยัยน้ำเป็นคนอ่อนไหว เพราะเป็นลูกสาวคนกลาง คิดว่าพ่อแม่ไม่ค่อยรัก เกี่ยวกับคุณหมอ น้ำมันฝังใจมาตลอดว่าเพราะคุณหมออกหัก