Home / โรแมนติก / เกมหัวใจมาเฟีย / บทที่ 2...แม่บ้านจำเป็น

Share

บทที่ 2...แม่บ้านจำเป็น

หกเดือนก่อนหน้านี้...

สองสาวกำลังคุยกันอย่างสนุกตามประสาพี่น้อง โดยหารู้ไม่ว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้า พวกเธอจะห้ำหั่นและเป็นศัตรูกันจนวันตาย...เพียงเพราะผู้ชายคนเดียว!

ณ อพาร์ตเม้นต์สไตล์อิตาลีที่สร้างใหม่ไม่เกินสามปี แต่หรูหรา คลาสสิก เหมาะจะเป็นรังรักของหนุ่มสาวที่อยากเห็นแสงแห่งรุ่งอรุณจากเส้นขอบฟ้าและไฟหลากสีสันระยิบระยับของโรมแบบทั้งเมือง เพียงแค่ออกมายืนนอกระเบียงห้อง

เจ้าของเรือนผมดำขลับยาวสลวยกำลังยืนรับลมเย็นอยู่บนนั้น ดวงตาสีน้ำตาลจดจ้องกุหลาบขาวดอกโตในกระถางใบเล็กที่กำลังจะเหี่ยวแห้งและร่วงโรยในไม่ช้า ซึ่งวางอยู่มุมหนึ่งของระเบียงห้องถัดกัน ดูเหมือนเจ้าของห้องข้างๆ จะไม่ได้ใส่ใจกับมันสักเท่าไหร่นัก

“เมย์...” เสียงเรียกดังมาจากในห้อง ผ่านริมฝีปากอิ่มสวยของหญิงสาวที่กำลังทาลิปสติกสีโทนนู๊ดหน้ากระจกในห้องนอน “ฉันต้องการความคิดเห็นจากเธอนะ”

“จ้ะไอริส” เมริสาตะโกนตอบ ละสายตาจากกุหลาบเหี่ยว กลับเข้าด้านใน ตามคำร้องขอของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาว แต่ไม่ได้เกี่ยวพันกันในทางสายเลือดแม้แต่หยดเดียว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แปลกแปร่งสำหรับคนนอกที่ไม่รู้ที่มาที่ไป “ถ้าเธออยากได้คำวิจารณ์จากแม่ครัวล่ะก็ ฉันจัดให้ได้”

เมริสาเป็นสาวไทยแท้ที่ถือกำเนิดในชนบทเล็กๆ ของเมืองฟลอเรนซ์ มารดาชาวไทยของเธอเสียชีวิตในวันให้กำเนิดเธอ หนูน้อยจึงต้องย้ายตามยุทธนาเชฟชาวไทยผู้เป็นบิดามาอยู่ที่บ้านมหาเศรษฐีคนหนึ่งซึ่งคลั่งไคล้อาหารไทยเป็นพิเศษ

เธอจึงเติบโตในคฤหาสน์หลังนั้นกระทั่งอายุสิบสอง บิดาจึงลาออกมาเปิดร้านอาหารไทยในย่านดาวน์ทาวน์ โดยใช้ชื่อลูกสาวคนเดียวของเขามาตั้งชื่อร้าน...ร้านเมริสา

บิดาของเธอทำร้านอาหารได้ครบปีแล้ว ตอนที่อัญชลีหอบลูกสาวซึ่งมีอายุอ่อนกว่าเธอแค่ปีเดียวมาสมัครงานที่ร้านในตำแหน่งผู้ช่วยเชฟ เด็กสาวคนนั้นเป็นลูกครึ่งไทยอิตาลีที่มีหน้าตาสะสวย ผิวพรรณละเอียดลออหมดจดทุกรูขุมขน ดวงตาสีน้ำตาล จมูกโด่ง ริมฝีปากบางสวยได้รูป

ไอริสถูกออกแบบมาอย่างวิจิตร บรรจง ราวกับประติมากรรม ในขณะที่เมริสา เป็นเด็กสาวผิวสีน้ำผึ้ง ตัวสูง หุ่นล่ำเหมือนนักกีฬา ผมหยิกสีดำ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสวยซึ่งไม่ต่างจากไอริสสักเท่าไหร่ คงเป็นเพราะภูมิอากาศแถบเมดิเตอร์เรเนียนที่ตกแต่งความเป็นไทยของเธอจนดูไม่ต่างจากสาวอิตาลี

แต่นั่นมันเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เดี๋ยวนี้เหรอ เมริสาในวัยยี่สิบห้าเหมือนกลายร่างได้ สวยสะพรั่ง สดใส ไร้มารยา แต่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความสวยของเธอแทบไม่ต่างกับลิฟ ไทเลอร์ หรือนาตาลี พอร์ตแมนเลยสักนิด

“โอ้โฮ...นั่นเพชรจริงๆ หรือ” เมริสาตื่นตะลึงกับสร้อยเพชรบนลำคอระหงของหญิงสาว ผู้ซึ่งงดงามและล้ำค่าไม่เคยเปลี่ยน ดวงตาที่เปล่งประกายวามวาวของเจ้าหล่อนแข่งกับจี้เพชรสีนิลเม็ดใหญ่ที่ประเมินค่าไม่ได้ “สวยจังไอริส”

“คู่ควรกับฉันที่สุด” เจ้าหล่อนไม่เคยคิดว่าตัวเองด้อยค่ากว่าผู้หญิงคนไหนในโลกใบนี้ โดยเฉพาะพี่สาวร่วมครอบครัวที่ไม่มีวันเทียบเธอได้ เมริสายังเป็นแค่พี่สาวจอมอึดที่หาเสน่ห์ไม่เจอ ผู้หญิงที่ใช้แต่ของถูกและแต่งหน้าได้ห่วยแตกเสมอ “จริงไหมเมย์”

เมริสาพนักหน้า ก่อนจะเบิกตาโตเมื่อคิดบางอย่างออก “แล้วร็อกเก็ตที่เธอสวมอยู่ล่ะ”

“ฉันทิ้งไปแล้ว”

“ห๊า...ทิ้งไปแล้ว ฉันฟังผิดไปแน่ๆ ล็อกเก็ตนั่นสำคัญแค่ไหน เธอลืมไปแล้วหรือ ว่าพ่อของเธอเป็นคนให้ไว้” ไอริสทำหน้าขยะแขยง สร้อยเงินไร้ราคากับล็อกเก็ตรูปหัวใจเก่ากึกต่างจากสร้อยที่เธอสวมอยู่ราวฟ้ากับเหว ของแบบนั้นมีไว้ก็ลดคุณค่าตัวเอง “ฉันว่า ถึงมันจะดูไร้ราคา แต่ฉันรู้สึกได้ว่ามันมีมนต์ขลัง มันซ่อนเรื่องราวเอาไว้ ถึงเธอไม่ใส่ เธอก็ควรจะเก็บเอาไว้อย่างดี อย่างน้อยก็เป็นที่ระลึกจากพ่อของเธอ”

“ไร้สาระ ตั้งแต่เกิดมา ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย แล้วทำไมฉันจะต้องไปสนใจเศษเหล็กที่เขาทิ้งไว้ให้ด้วย”

“อย่าพูดอย่างนี้ให้แม่อัญได้ยินเชียวนะ ท่านจะเสียใจเอา”

“ฉันไม่สนหรอกว่าแม่จะคิดยังไง” เธอยักไหล่ขณะพูด “ฉันทนกับสภาพการเป็นลูกสาวของแม่ครัวไม่ได้อีกต่อไปแล้ว อาชีพของแม่และฐานะของแม่ ทำให้คุณค่าของฉันลดลง”

ยิ่งพูด ไอริสก็ยิ่งเลวและแย่ เมริสารู้ดีว่าเจ้าหล่อนเก็บกดมานานแล้ว และเพิ่งจะมาระเบิดเมื่อสี่ปีที่แล้วนี่เอง เพราะอัญชลีเลี้ยงดูบุตรสาวอย่างดี ประคบประหงมสุดฤทธิ์ ชนิดยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม แถมยังไม่ค่อยยอมให้ไปไหน เรียกว่าอยู่ในกรอบตลอดเวลาก็ว่าได้

พอเรียนระดับมหาวิทยาลัย ไอริสที่เคยอยู่ในโอวาทก็ได้โอกาสวาดลวดลายกลายเป็นสาวสังคม เข้าชมรมปาร์ตี้ทุกค่ำคืน สนุกกับชีวิตแบบไม่เกรงใจแม่ เสน่ห์แพรวพราวยั่วยวนผู้ชายมากหน้าหลายตาให้แวะเวียนเข้ามาขายขนมจีบ

แต่ไอริสไม่ค่อยชอบขนมจีบของผู้ชายพวกนั้นหรอก เธอชอบที่จะเป็นฝ่ายเลือกมากกว่า...และคนที่เธอเลือกก็คือ ชายหนุ่มที่หล่อเหลาและเรียนเก่งอันดับต้นๆ ของมหาวิทยาลัย

“เธอจำได้ใช่ไหมเมย์ ว่าฉันเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่เมืองไทยที่บินมาเรียนที่โรม”

“จ้ะ ฉันไม่ลืมหรอก เพราะฉันได้รู้จักการโกหกครั้งแรกก็ตอนที่ต้องพยักหน้ากับเพื่อนๆ ทั้งคณะเพราะเรื่องนี้” เธอถูกบังคับให้เออออกับชีวประวัติที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ของไอริส เจ้าหล่อนไม่เคยพอใจอาชีพในครัวของมารดา ซึ่งเป็นแค่ลูกจ้างของร้านอาหารเมริสา ทั้งที่เคยเป็นเจ้าของมาตั้งหลายปี

เพราะหลังจากที่บิดาของเธอแต่งงานใหม่กับอัญชลี เขาก็เจ็บป่วยกระเสาะกระแสะมาตลอด การรักษาที่แพงลิ่ว ทำให้ก่อหนี้มากมาย จนร้านตกไปเป็นของคนอื่น หรือเจ้าของร้านคนปัจจุบันนั่นเอง แต่ที่อัญชลีไม่ยอมไปไหน เพราะเธอหวังในใจว่าสักวันจะไถร้านคืนจากดวงมณีได้

“เธอไม่คิดจะกลับไปเยี่ยมแม่ที่ร้านบ้างเหรอ จากที่นี่ไปที่ร้าน ก็ไม่ได้ไกลมาก”

“ไม่...ฉันยุ่ง เธออย่าวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของฉันได้ไหมเมย์ ตอนนี้ชีวิตฉันกำลังจะรุ่ง ฉันอาจจะได้เป็นนางแบบให้ห้องเสื้อเรเชลด้วย สาวก้นครัวอย่างเธอคงไม่รู้จักหรอก”

“อืม....แล้วเมื่อไหร่จะแต่งงาน” ในเมื่อเจ้าหล่อนย้ายมาอยู่ที่นี่ถาวรแล้ว หลังจากไปๆ มาๆ อยู่เกือบปี เธอก็ควรจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่ลงทุนซื้อที่พักแพงๆ แบบนี้สำหรับเป็นเรือนหอสิ “ร็อกกี้ขอเธอแต่งงานหรือยัง”

“แน่นอนอยู่แล้ว” น้ำเสียงของเจ้าหล่อนผยองกว่าครั้งไหนๆ ขณะจ้องมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ ที่ส่องเห็นตนเองในชุดราตรีสีดำเจิดจรัสตั้งแต่หัวจรดเท้า “แต่ฉันจะตกลงรึเปล่า นั่นอีกเรื่อง”

“อ้าว! ทำไมล่ะ เธอรอวันนี้มาตั้งนานแล้วนี่”

“ฉันอยากแต่งงานก็จริง ฉันรักเขามากก็จริง แต่ฉันเคยบอกรึเปล่าว่าต้องเป็นเขาเท่านั้น”

เมริสาถึงกับมึน “แต่เธอกับเขา...”

“อย่าไร้เดียงสานักเลยพี่สาว เธอแก่กว่าฉันตั้งปีเชียวนะ” แล้วเจ้าหล่อนก็หัวเราะร่วน หน้าระรื่น “ถึงฉันกับเขาจะมีอะไรกันแล้ว แต่มันไม่ใช่สิ่งที่จะผูกมัด ไม่ใช่สิ่งที่ต้องไปรับผิดชอบ มันไม่ใช่สัญญา เธอควรจะมีแฟนสักคนและหัดเรียนรู้ไว้บ้างนะ ไม่ใช่เอาแต่ทำอาหารไปวันๆ”

“ความรักมันยังไม่พอสำหรับร่วมชีวิตกันเหรอ?”

“พอรึเปล่า เธอดูอย่างแม่ฉันสิ มีผัวคนแรก ผัวก็หาย พอมาแต่งกับลุงยุทธ ไม่นานผัวก็ตาย แถมทิ้งหนี้ไว้ให้เพียบ”

ไอริสไม่ได้เป็นคนพูดตรงหรอก แต่พูดไม่เกรงใจใคร ไม่รู้จักกาลเทศะ เธอคงลืมไปแล้วว่าลูกสาวของยุทธนานั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ ผู้หญิงแบบนี้ใช่ไหมที่ผู้ชายคลั่งไคล้ อยากได้ไปครอบครองกันทั้งเมือง

“แล้วเธอจะแต่งกับใคร”

“ยังหรอกน่า มันแค่เริ่มต้น แต่ฉันเชื่อว่ามันจะไปได้ดี”

กับใคร?

“ดูเธอมีความสุขจัง”

ความสุขที่ทะลักล้นออกมาจากแววตาที่เปล่งประกายคู่นั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกำลังหลงใหลได้ปลื้มผู้ชายคนใหม่ที่เธอเลือกไปดินเนอร์กับเขาในค่ำคืนแสนหวานนี้ หรือเพราะเพชรบนคอกันแน่

“แน่ล่ะ เพราะฉันกำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นซินเดอเรล่าที่น่าอิจฉาที่สุด”

“เธอจะเลิกกับเขาจริงเหรอ”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เกมหัวใจมาเฟีย   ตอนจบ-ตอนนี้คุณเป็นคนโง่ของฉันแล้วใช่มั้ย

    ชายหนุ่มไม่พูดอะไรอีก เขาเดินจากมา และตั้งใจจะไม่พบหน้าตาแก่อีก ปล่อยอดีตให้เป็นเรื่องของอดีต เพราะยังไงซะ ก็ไม่อาจกลับไปแก้ไขอะไรเขาต้องอยู่กับปัจจุบัน...และปัจจุบันของเขา มีผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจเดินเคียงข้าง เพราะอย่างนี้ เขาถึงรู้สึกอบอุ่นหัวใจ และไม่เกรงกลัวว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร“คุณหนูกลับมาแล้ว” มาการ์เร็ตเดินนำรอล่าและเหล่าสาวใช้ออกมาต้อนรับเจ้านายที่หน้าโถงประตูคฤหาสน์ หลังจากเครื่องบินส่วนตัวของชายหนุ่มถลาร่อนลงจอดยังรันเวย์ของไร่ไวน์โรส“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณหนู”เหล่าสาวใช้ยิ้มแย้มยินดี จนกระทั่งเห็นหญิงสาวที่เพิ่งลงจากรถแล้วเดินมาควงแขนชายหนุ่มอย่างสนิทสนมแนบชิดรอล่ายิ้มค้างปากกระตุก “ยัยเมย์!”“เมริสา!” มาการ์เร็ตจ้องมองหญิงสาวด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะขยับดวงตาเลื่อนมองชายหนุ่มที่มีสีหน้าอิ่มสุขกว่าทุกครั้งที่กลับมาบ้านหลังนี้ “คุณหนูคะ”“สวัสดีค่ะคุณมาการ์เร็ต คุณรอล่า เพนนีด้วย ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ สบายดีกันทุกคนใช่มั้ยคะ”“ฉันเดินได้แล้ว เพราะเธอ”“ดีมากเพนนี”“แล้วนี่หล่อนกับ...” มาการ์เร็ตจ้องเมริสาที จ้องคุณหนูของพวกเธอที จนชักจะเวียนหัว “เกิดอะไรขึ้น ทำไ

  • เกมหัวใจมาเฟีย   บทที่ 123...ใครจะแต่งงานกับคุณมิทราบ

    “ไคล์ ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ อายเขา!”คนมองกันทั้งร้าน หนึ่งในนั้นคือฟรานเชสโก้ เขาแทบไม่ต้องเดาเลยว่าไคล์ ลิมเบอร์สกี้คือผู้ชายที่อยู่ในใจของเมริสามาตลอด เป็นเขาน่ะเอง เจ้าของหัวใจเธอ“ผมไม่ลุก จนกว่าคุณจะตกลง”“งั้นก็ตามใจ ฉันไปล่ะ” หญิงสาวลุกขึ้นจะเดินหนี แต่ชายหนุ่มกลับรวบสองขาของเธอเอาไว้แล้วกอดแน่น“เมย์จ๋า...ผมรักคุณ ผมรักคุณได้ยินมั้ย ผมรักคุณ”“ฉันรู้แล้ว ฉันได้ยินแล้ว แต่คุณปล่อยฉันก่อนสิ”“ผมจะไม่ปล่อย ผมจะไม่ปล่อยคุณอีกแล้ว ถ้าคุณไม่รับปากว่าจะไปกับผม ผมจะกอดคุณไว้อย่างนี้แหละ”เขากอดแน่น แน่นจนเธอกระดิกตัวแทบไม่ได้ วินาทีนี้ เธออยากจะฆ่าพ่อจอมกะล่อนให้ตายด้วยมือของเธอเลยจริงๆลูกตื๊อของไคล์ได้ผล เพราะเธอไม่อยากให้ร้านกาแฟของ ฟรานเชสโก้เกิดเรื่องวุ่นวายไปมากกว่านี้ เธอเลยยอมถอดแบบฟอร์มคืนร้านและตามเขากลับมาบ้าน“ผมช่วยเก็บเสื้อผ้านะ”“อืม เก็บเลย เก็บให้หมดนะ อย่าให้เหลือ”“ได้ ผมจัดการให้เอง” เขากระดกคิ้วกวน ๆ ใส่เธอก่อนจะร้องเรียกด้วยเสียงดังลั่นไปทั้งบ้าน “เดฟ! โรเบอร์โต้!”สองหนุ่มวิ่งรี่เข้ามาอย่างเร็ว เพื่อรอรับคำสั่งเจ้านาย“พวกนายช่วยมาดามเก็บของหน่อยสิวะ”“ชุดชั้นในกับก

  • เกมหัวใจมาเฟีย   บทที่ 122...ไปอยู่กับผมนะ

    เดฟกับโรเบอร์โต้ไม่ออกความคิดเห็น เพียงแต่แอบไปนินทาเจ้านายด้วยกัน ระหว่างที่เดินเวรยามรอบบ้านของหญิงสาว“ทีตัวเอง..ใจโฉดกว่านี้อีก”“เฮ๊ย! อย่าพูดอย่างนั้น ใจโฉดยังน้อยไป อย่างไคล์ เรียกว่าสารเลวเลยดีกว่า”แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน จนทำให้ไคล์ที่นอนตบยุงอยู่บนเก้าอี้หน้าบ้านต้องหันมองอย่างแปลกใจ เขาอดคิดไม่ได้ว่าลูกน้องตัวแสบทั้งสองกำลังสมน้ำหน้าเขาอยู่“ฮึ่ม! เมย์นะเมย์ ทำไมทำกับผมแบบนี้!!!”“เมย์...เมย์จ๋า...ที่รัก”ชายหนุ่มนอนละเมอเพ้อหาหญิงสาวด้วยน้ำเสียงหื่นกระหาย แน่นอนว่าในฝันของเขาคงมีแค่เรื่องลามกเท่านั้น“อ่า...ผม...ผม...ผมรักคุณ...ผมต้องการคุณ ผม..” เขาครวญครางไม่ขาดสาย เพื่อระบายความรู้สึกและอารมณ์ใต้จิตสำนึกอย่างไม่รู้อิ่ม กระทั่งได้ยินเสียงเรียกมาจากที่ไกลๆ นั่นล่ะ“เจ้านาย! เจ้านายครับ”เสียงนั้นกระทุ้งให้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข แปรเปลี่ยนเป็นหน้ายุ่งไร้อารมณ์และหงุดหงิดรำคาญ“เจ้านาย!”“โอ๊ย! เรียกทำไมวะ คนกำลัง...” เข้าได้เข้าเข็ม...แต่เขาพูดไม่ทันจบ ก็พบว่าตัวเองแค่ฝันไปเท่านั้น เมื่อดวงตาคู่สวยของเขาลืมตื่นขึ้นท่ามกลางแสงแดดรำไร“อ้าว...จริงสิ” แล้วเข

  • เกมหัวใจมาเฟีย   บทที่ 121...เรายังไม่ได้มีลูกด้วยกันซะหน่อย

    “ไปกินข้าวกันเถอะ ฉันหิวแล้ว”หญิงสาวเดินนำไปที่โต๊ะเล็ก ๆ สี่ที่นั่ง ซึ่งตั้งติดกับบานหน้าต่างขนาดใหญ่ เปิดรับลมทะเลและทัศนาทิวทัศน์ท้องทะเลสีฟ้าครามได้เต็มตา“บ้านของคุณน่ารักดี แต่ผมอยากให้คุณย้ายไปอยู่กับผม”“ฉันจะอยู่ที่นี่ไปก่อน อย่างน้อยก็จนกว่าจะ...”เขานั่งลงตรงข้ามเธอ ตั้งใจฟังเธอแบบลุ้นระทึก“จนกว่า...อะไร”“แน่ใจว่าใครบางคน กลับตัวกลับใจได้ และเป็นคนดีได้จริงๆ ไม่ใช่แค่สร้างภาพเพื่อเอาใจผู้หญิง”“อ่า...ผมรู้ว่าผมสารเลว แต่สามเดือนที่ผ่านมา ผมก็ถูกลงโทษมาพอสมควรแล้วนะ ผมอยู่เหมือนตกนรกทั้งเป็น ผม...”“ฉันตกนรกยิ่งกว่าคุณอีก”เขาอึ้งไป ก่อนพูดเสียงค่อยออกมา “ผมขอโทษ”“ฉันร้องไห้ทุกคืน”“ผมขอโทษ ผมรู้ว่ามันเจ็บปวด”“คนอย่างคุณจะรู้ได้ยังไง”“ผมก็...” เขาหยุดไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะยอมพูดออกมา แม้จะอายแค่ไหนที่ต้องพูด “ผมก็ร้องไห้เหมือนคุณน่ะแหละ ผมเกลียดตัวเองที่ร้องไห้เพราะคุณ ผมไม่เคยเสียน้ำตาให้ใคร”“ว่าไงนะ” แล้วเธอก็หัวเราะ ยิ่งทำให้เขาอายไปกันใหญ่ “คุณเนี่ยนะร้องไห้ ฉันไม่เชื่อหรอก”“ไม่เชื่อก็ตามใจ แต่มันไม่ตลกนะ ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยร้องไห้ให้ใคร เข้าใจไว้ด้วย”เขาทำท่าโมโ

  • เกมหัวใจมาเฟีย   บทที่ 120...ผมแค่อยากรู้ว่าผมจะอยู่โดยขาดคุณได้มั้ย

    “แต่ขอเรื่องเดียว คุณห้ามให้คนอื่นจีบ นอกจากผม”“ไม่ให้ ถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องจีบสิคะ ฉันมีตัวเลือกเยอะแยะ ดีกว่าคุณก็มี” หญิงสาวยิ้มร่า เย้ยหยัน การคุมเกมนี่มันดีอย่างนี้เอง เธอหันหลังให้เขา เดินนำหน้าเขาไปหลายก้าว“เมย์....เมริสา! ผมบอกให้...”“หยุด!” เธอหันกลับมาชี้หน้าเขาตรง ๆ สายตาของหญิงสาวกดข่มให้เขารู้สึกตัวเล็กลงอย่างไม่รู้ตัว “ห้ามออกคำสั่งกับฉัน ฉันไม่ใช่ทาสคุณ”“ครับ...ครับ ผมขอโทษ”“ฉันจะพักผ่อนละ คุณกลับไปได้แล้ว”“ได้ไง ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณอีกเยอะแยะเลย”“ไม่ใช่ตอนนี้ นี่เป็นเวลาส่วนตัวของฉัน ฉันเหนื่อยเข้าใจมั้ยไคล์ คุณไม่คิดบ้างเหรอว่าฉันเพิ่งผ่านเหตุการณ์อะไรมา คิดสิคิด”“เอ่อ...ครับ ผมจะคิดให้เยอะกว่านี้”“ไม่ใช่คิดให้เยอะ แต่คิดให้ถูก คิดให้เป็น หัดเอาใจคนอื่นมาใส่ใจเราบ้าง อย่าคิดแต่เรื่องของตัวเอง”โอ้ว...เขากลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ...นี่คือจุดเริ่มต้นของช่วงชีวิตที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตของเขาใช่มั้ย???“ครับเมย์...ผมเข้าใจแล้ว งั้นระหว่างที่คุณพักผ่อน ผมจะให้ลูกน้องเดินสำรวจตรวจดูรอบ ๆ บริเวณบ้านคุณนะ แล้วก็คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ย ผมจะได้ให้เดฟไปซื้อ...”“ทำไมต้องใช้

  • เกมหัวใจมาเฟีย   บทที่ 119...คุณคิดว่าตัวเองร้องไห้อยู่คนเดียวรึไง

    “ผมเข้าใจแล้ว...” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แล้วหลับตานิ่ง ไว้อาลัยให้กับคำตอบที่เขากระสันอยากรู้เสียเหลือเกิน “ผมเข้าใจแล้วครับคุณแม่...”เมริสาเดินกลับมาหาเขา เธอจับมือที่เย็นเยือบของเขาไว้ สายตาห่วงใยอย่างที่สุด เขาถอนหายใจซ้ำๆ ก่อนจะยิ้มให้เธอ ดวงตาสีมรกตแดงก่ำ วินาทีนั้น เหมือนเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาเลือกไม่พูด“อ่า...” เขาดึงร่างเธอไปกอดแน่น เธอกอดตอบร่างใหญ่หนาที่สะอื้นนั้นไว้ ฝ่ามือนุ่มลูบแผ่นหลังเขาช้าๆ เพื่อปลอบโยน“มันจบแล้วไคล์”“คุณไม่อยากรู้เหรอ ว่าในล็อกเก็ตมีอะไร”เขาผละใบหน้าที่เปื้อนความเศร้านั้นออกมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวผู้เป็นที่รัก เธอส่ายหน้า“ฉันไม่สนใจอดีต เราเปลี่ยนอดีตไม่ได้นะไคล์ วันนี้กับวันพรุ่งนี้ต่างหากที่สำคัญ”“แต่เรามีวันนี้ได้เพราะอดีต” เขาพูดเสียงจริงจัง“คุณไม่คิดจะลืมมันจริงๆ เหรอ” เธอผิดหวังเล็กๆ“ผมจะลืมความจริงได้ยังไง เรื่องที่ผมเป็นลูกชายแท้ ๆ ของ...เซบาสเตียน!”เมริสาช็อคไปสามวินาที เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าจะต้องปลอบใจเขาด้วยคำพูดใดถึงจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาได้“ผมเป็นลูกชายของมัสซิโม!” ชายหนุ่มยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้เธออ่าน...หญิงสาวอ่า

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status