Share

บทที่ 9

คุณย่าไม่เชื่อใจหลานของตัวเองเอามากขนาดไหนกัน!

เมื่อเห็นเช่นนี้ กู้หนานเยียนก็ช่วยคีบกับข้าวให้ลู่เป่ยเฉิงด้วยว่า "ขอบคุณสำหรับเรื่องที่เป็นตัวแทนนะคะ คุณกินให้เยอะนะ ๆ "

ลู่เป่ยเฉิงค้อนมาด้วยสายตาที่ไม่พอใจ กู้หนานเยียนรีบยิ้มตาหยีใส่

เมื่อเรื่องการเป็นตัวแทนทางกฎหมายผ่านไปได้ด้วยดี อารมณ์ของเธอจึงดีเป็นพิเศษ

ในเวลานี้ ฉินไห่อวิ๋นคิดจะตีเหล็กตอนยังร้อน จึงผสมโรงว่า "เป่ยเฉิง หนานเยียน กว่าพวกเธอทั้งสองจะกลับมาทีก็แสนยาก คืนนี้ก็นอนค้างที่นี่เลยละกันนะ"

คุณย่ากล่าว "ฮวงจุ้ยของบ้านเราดีมาก คืนนี้พวกเธอก็นอนค้างที่นี่เสียเลย ไม่แน่ว่าหนานเยียนอาจตั้งท้องมีลูกได้สำเร็จ"

คุณย่าพูดต่ออีก "เป่ยเฉิง ประเดี๋ยวหลานก็ขยันขันแข็งหน่อย ให้ท้องเดียวได้แฝดสองไปเลย"

......ลู่เป่ยเฉิง

พูดไปพูดมา สุดท้ายคนทั้งบ้านก็พยายามจะยุให้พวกเขามีลูกเร็ว ๆ

ดังนั้น เมื่อกลับเข้าห้องนอนที่อยู่ชั้นบน กู้หนานเยียนก็ถามทันที "มาปั้มลูกกันไหม?"

ลู่เป่ยเฉิงเหลือบมองเธออย่างเฉยเมย "กู้หนานเยียน เธอคิดเรื่องอื่นเป็นบ้างไหม?"

กู้หนานเยียนรู้สึกตลก "ถ้าฉันเห็นคุณแล้วไม่คิดเรื่องอย่างว่า ยังจะคิดเรื่องอะไรได้ล่ะ? อีกอย่าง ถ้าฉันคิดเรื่องอย่างว่ากับคนอื่น คุณจะรับได้ไหม?"

ลู่เป่ยเฉิงเดินเข้าใกล้พร้อมกับหยิกแก้มเธอ "เธอช่างหน้าไม่อายเอาเสียจริง"

กู้หนานเยียนเอามือเขาออกแล้วกอดคอเขาไว้ "คุณเป็นสามีของฉัน ฉันยังจะมาเสแสร้งไปเพื่ออะไร"

สำหรับเธอแล้ว การมีลูกมันสำคัญยิ่งกว่าการเสียหน้าไปไหน ๆ

อีกอย่าง ภาพลักษณ์ของเธอในสายตาของลู่เป่ยเฉิงนั้น มันเสียไปตั้งนานแล้ว

ลู่เป่ยเฉิงกำลังเหลือบตาลงมองที่คนบางคน แล้วพูด "กู้หนานเยียน ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ทำตัวแบบเธอหรอก"

“ใครบอก” กู้หนานเยียนกล่าว “ฉันนี่ไงที่เป็นผู้หญิงแบบนี้”

พูดจบ เธอก็ยืนเขย่งเท้า ริมฝีปากของเธอเกือบจะแตะริมฝีปากของเขา แล้วเรียก "ลู่เป่ยเฉิง"

“อืม?” ลู่เป่ยเฉิงขานรับด้วยจิตใจที่ปั่นป่วน

กู้หนานเยียนเห็นเช่นนั้น ก็จูบลงไปที่ริมฝีปากของเขาทันที

ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของกู้หนานเยียน ทำให้ลู่เป่ยเฉิงรู้สึกบีบหัวใจ สองมือโอบเอวเธอ แล้วคิดจะผลักเธอออกห่าง แต่กลับบีบเอวเธอโดยไม่รู้ตัว

มาถึงตอนนี้ เขาชักจะหักห้ามใจไม่ไหวแล้ว

จนกระทั่งรู้สึกเนื้อตัวร้อนผ่าว และมีกระแสคลื่นไหลเวียนไปทั่วร่าง ลูกไม้ตื้น ๆ ของกู้หนานเยียน และจุดประสงค์ของพ่อแม่และปู่ย่าก็ชัดเจนขึ้นมาทันที

ดังนั้น เขาจึงผลักกู้หนานเยียนออก ตรงดิ่งเข้าไปในห้องน้ำ

เนื้อเข้าปากก็บินหนีไปอีกครั้ง

ชั่วขณะนั้น กู้หนานเยียนรู้สึกกำลังจะอกแตกตาย ถอดรองเท้าแตะได้ก็ปาไปที่ห้องน้ำอย่างเต็มแรง "ลู่เป่ยเฉิง คุณยังเป็นลูกผู้ชายอยู่อีกหรือเปล่า”

ยอมที่จะไปจัดการตัวเองที่ห้องน้ำ แต่ไม่ยอมแตะต้องเธอ กู้หนานเยียนรู้สึกว่าตัวเองช่างอัปยศอดสู

ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง เมื่อลู่เป่ยเฉิงออกมาจากห้องน้ำ กู้หนานเยียนก็นอนหลับโดยหันหลังให้เขา

ลู่เป่ยเฉิงบังเอิญโดนตัวเธอในขณะที่กำลังจะนั่งลงข้างเธอ กู้หนานเยียนจึงหันมาแล้วแตะเขาหลายครั้ง ลู่เป่ยเฉิงไม่ทันระวังตัว จึงโดนกู้หนานเยียนถีบลงไปกองกับพื้น

“กู้หนานเยียน”

ลู่เป่ยเฉิงตะโกนอย่างเสียงเบาด้วยความโกรธ กู้หนานเยียนยังคงไม่พูดไม่จา นอนหันหลังให้เขา

หลังจากถูกถีบไปอยู่ตรงนั้น ลู่เป่ยเฉิงก็แตะหน้าผากเบา ๆ รู้ว่าครั้งนี้เธอโกรธจริง ๆ

เมื่อนั่งลงข้างกายเธออีกครั้ง ก็เห็นว่ากู้หนานเยียนคิดจะถีบเขา ลู่เป่ยเฉิงจึงยกขาทับเธอเอาไว้ จนกู้หนานเยียนไม่สามารถขยับได้

เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ลู่เป่ยเฉิง กู้หนานเยียนจึงเอามือยันเตียง แล้วยกตัวขึ้นมานั่ง "ได้ ฉันจะกลับบ้าน คงไม่ว่ากันนะ!"

กู้หนานเยียนไม่สามารถยอมรับการกระทำของลู่เป่ยเฉิงเมื่อกี้ได้จริง ๆ

มีใครที่เป็นภรรยาได้หดหู่เท่าเธอบ้าง

ลู่เป่ยเฉิงหน้าบึ้งทันที "กู้หนานเยียน ดึกมากแล้ว เธอพอได้หรือยัง?"

ตนเองเป็นคนเริ่มงั้นสินะ?

อยู่ ๆ กู้หนานเยียนก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมา ตาเธอแดงก่ำ เธอยิ้มอย่างสมเพชตัวเอง

ไม่นานเธอก็สงบลง "ลู่เป่ยเฉิง ถ้าคุณไม่อยากใช้ชีวิตด้วยกันจริง คุณก็ไปบอกกับพ่อคุณให้รู้เรื่อง"

สองปีแล้ว เธอเบื่อหน่ายกับความเฉยเมย อยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยวมากพอแล้ว

ถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็เลิกกันเสียตั้งแต่ตอนนี้ เธอจะมีลูกได้หรือไม่ เธอเป็นแม่หรือเปล่า ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร

พูดจบ เธอก็ไปหยิบเสื้อสำหรับใส่ออกนอกบ้านในตู้เสื้อผ้า

ลู่เป่ยเฉิงเห็นว่าเธอเอาจริง ก็เข้าไปคว้าแขนของเธอไว้ กู้หนานเยียนพลิกแขนแล้วสะบัด ลู่เป่ยเฉิงดึงแขนอย่างแรงแล้วโยนเธอลงบนเตียง

กู้หนานเยียนคิดจะดันตัวลุกขึ้น แต่ลู่เป่ยเฉิงกดทับตัวเธออยู่ มือทั้งสองกดมือเธอเอาไว้ "กู้หนานเยียน อย่าทำให้เรื่องใหญ่โตจนจบไม่สวยเลย"

เมื่อกี้เพิ่งเล่นละครให้เห็นว่ารักใคร่กลมกลืนกันดี ตอนนี้ทะเลาะกันจนเธอต้องหนีออกจากบ้าน ปู่กับย่าจะคิดอย่างไร?

ตาที่ยังแดงก่ำอยู่ ทำให้กู้หนานเยียนเมินหน้าหนี ไม่มองลู่เป่ยเฉิง

หัวใจของลู่เป่ยเฉิงรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา โน้มตัวลงคิดจะจูบเธอ แต่กู้หนานเยียนกลับหันหน้าหนียิ่งกว่าเดิม แม้แต่ปากก็ยังจมเข้าไปในหมอน

ตอนนี้เธอไม่เต็มใจ และก็ไม่ให้ความสำคัญลู่เป่ยเฉิงด้วยเช่นกัน

ลู่เป่ยเฉิงทำอะไรไม่ถูก พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า "ก่อนที่จะกลับมา เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ? ต่อจากนี้ไปผมจะกลับไปสัปดาห์ละครั้ง"

สองปีที่แต่งงานกันมา นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่เป่ยเฉิงยอมอ่อนข้อให้เธอ และเป็นครั้งแรกที่พูดกับเธออย่างใจเย็น

กู้หนานเยียนเอาแต่นิ่งเงียบ

หลังจากนั้น ลู่เป่ยเฉิงก็นอนกอดเธอจนหลับไป

กู้หนานเยียนนอนหันหลังให้เขาตลอด ตาก็ยังคงแดงก่ำอยู่ ไม่มีอารมณ์ที่จะทำอะไรทั้งนั้น

เธอรู้ดีว่าการที่ลู่เป่ยเฉิงทำดีกับเธอเมื่อกี้เป็นเพราะเขาต้องคำนึงถึงความรู้สึกของคนในครอบครัว ในดวงใจของเขาเห็นฉันกู้หนานเยียนเป็นใคร อย่างมากก็เป็นแค่นังตัวแสบไร้ยางอาย ที่คิดแต่จะจับเขาเท่านั้น

ถึงแม้ว่าทั้งสองจะแต่งงานแล้วก็ตาม แม้ว่าเธอจะทั้งแจกทั้งแถมถึงที่ก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่แตะต้องเธออยู่ดี

ค่ำคืนนี้ กู้หนานเยียนตาค้าง นอนไม่หลับ

ลู่เป่ยเฉิงที่นอนกอดเธอนั้น กลับหลับสนิทกว่าทุกคืนที่ผ่านมา

ทว่าพอตื่นมา ข้างกายก็ไร้ซึ่งความอบอุ่น กู้หนานเยียนไปตั้งนานแล้ว

ลู่เป่ยเฉิงหันมองด้านข้าง นึกถึงความดื้อรั้นของเธอเมื่อคืนนี้ ไม่ยอมให้แตะต้องตัวเธอแม้แต่นิดเดียว แถมยังหันหลังให้เขาตลอด

ในใจของเขาก็รู้สึกแย่สุด ๆ

หากเป็นเมื่อก่อน ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ทำอะไร หรือชักสีหน้าใส่เธออย่างไร เธอก็มักจะเล่นกับเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มอยู่เสมอ

แต่ครั้งนี้ เธอไม่เล่นด้วยแล้ว

--

ในเวลาเดียวกัน แม้จะยังไม่ถึงเวลาเข้างาน แต่กู้หนานเยียนก็มาถึงสำนักงานกฎหมายก่อนเวลา และเตรียมสัญญาของลู่กรุ๊ปไว้เสร็จสรรพ

เนื่องจากลู่เป่ยเฉิงได้แจ้งไว้ก่อนล่วงหน้า เมื่อกู้หนานเยียนไปถึงลู่กรุ๊ป จึงไม่ได้เข้าไปหาลู่เป่ยเฉิง แต่ไปเซ็นสัญญากับฝ่ายกฎหมายโดยตรง

เมื่อเซี่ยเฉิงรายงานเรื่องนี้กับลู่เป่ยเฉิง สีหน้าของลู่เป่ยเฉิงก็ดูไม่จืดเลยทันที

ยามไม่มีธุระ เธอก็จะไม่แม้แต่จะมาหาเขา

การได้เซ็นสัญญาเป็นตัวแทนทางกฎหมายของลู่กรุ๊ปในฐานะหน้าใหม่ในวงการ กู้หนานเยียนก็ได้สร้างความฮือฮาในแวดวงขึ้นในชั่วพริบตาเดียว

ไม่มีใครในสำนักงานกฎหมายคาดหวังว่ากู้หนานเยียนจะสามารถเซ็นสัญญากับลู่กรุ๊ปได้สำเร็จ เพียงแต่ให้เธอไปลองทำดูเท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่ากู้หนานเยียนจะสามารถเซ็นสัญญาได้รวดเร็วเช่นนี้

ผู้อำนวยการของกู้หนานเยียนดีใจจนออกนอกหน้า และจัดเลี้ยงฉลองกับพนักงานทุกคนในสำนักงานในค่ำคืนนั้น

ระหว่างมื้ออาหาร ผู้กำกับดื่มอวยพรให้กับกู้หนานเยียนด้วยสีหน้าที่เปี่ยมสุข "เสี่ยวกู้ คุณช่างทำให้คนรู้สึกเหนือความคาดหมาย น่าประหลาดใจจริง ๆ ! ไม่นึกเลยว่าความร่วมมือที่เราพยายามเจรจาไม่สำเร็จมาหลายปี พอได้คุณมาทำกลับสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี”

“เมื่อครั้งแรกที่ได้พบเด็กคนนี้ ผมก็รู้ว่าคุณต้องมีอนาคตที่สดใสแน่ มา แก้วแรกนี้ขอดื่มให้คุณ เสี่ยวกู้”

กู้หนานเยียนยืนขึ้นพร้อมถือแก้วเหล้าในมือ "ผู้อำนวยการ ท่านชมเกินไปแล้ว"

เมื่อผู้อำนวยการยกดื่มทีเดียวหมดแก้ว กู้หนานเยียนก็ให้เกียรติโดยดื่มที่เดียวหมดแก้วเช่นกัน

“หนานเยียน ขอดื่มให้คุณอีกแก้ว”

“หนานเยียน......”

——

บ้านเลขที่ 1 อวี้หลินวาน

ในห้องหนังสือ

ลู่เป่ยเฉิงจะกลับมาครั้งหนึ่งก็แสนยาก แต่เวลานี้ กู้หนานเยียนกลับยังไม่ถึงบ้าน

เขาลุกขึ้นเดินไปยังหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน ทว่ายังคงไม่เห็นมีแววที่กู้หนานเยียนจะกลับมา สีหน้าของลู่เป่ยเฉิงจึงยิ่งจะบึ้งตึงมากกว่าเดิม

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status