บทที่ 5 ข้าจะแย่งคนรักของท่านพี่มาเป็นของข้า
“หนิงฮวาเจ้าสบายดีหรือไม่ ไม่พบกันเนินนานแต่เจ้าก็ยังงดงามเช่นเคย” เมื่อเดินมาถึงตัวของหนิงฮวาห่าวหรานก็เอ่ยคำหวานออกมา
“ข้าสบายดี พี่ห่าวหรานล่ะเจ้าคะสบายดีหรือไม่ข้าได้ยินมาจากท่านพ่อว่าท่านจะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการ ข้ายินดีด้วยนะเจ้าคะ” หนิงฮวาส่งยิ้มหวานให้แก่ห่าวหรานทำให้เขาอดที่จะลูบหัวนางเบาๆ มิได้
“อีกไม่นานแล้วที่ข้ากับเจ้าจะร่วมใช้ชีวิตด้วยกัน หากข้าได้รับตำแหน่งผู้ตรวจการเจ้าเองก็จะได้เป็นภรรยาของผู้ตรวจการ ข้าละอยากให้วันเวลามาถึงเร็วๆ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้านับวันรอที่จะถึงวันนั้น” หนิงฮวาเมื่อได้ยินนางก็เริ่มใจสั่นและมีใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเขินอาย
“พี่ห่าวหรานพูดเกินไปแล้ว ไม่ช้าหรือเร็วอย่างไรข้าต้องแต่งกับท่านอยู่ดี แล้วนี่ท่านเจอเหมยอิงน้องสาวต่างมารดาของข้าหรือยังเจ้าคะ” หนิงฮวาได้เอ่ยถาม
“ข้าไม่อยากเห็นผู้อื่นเลยนอกจากเจ้า แม้วันนี้จะมีผู้คนมากมายอยู่รอบกายแต่สายตาของข้ามันอยากจับจ้องแค่เพียงเจ้าเท่านั้น นี่ข้ามีสิ่งนี่มาฝากเจ้าด้วยข้าเห็นมันเหมาะสมกับเจ้าเลยซื้อมาฝาก” ห่าวหรานล้วงไปหยิบปิ่นปักผมในแขนแสื้อของตนออกมามอบให้แก่หนิงฮวา
“มันสวยงามเหลือเกินเจ้าค่ะ”
“เจ้าช่วยเก็บรักษามันไว้ให้ข้าที ข้าจะใช้ปิ่นอันนี้ไว้ปักมวยผมของเจ้าในวันที่เราเข้าพิธีแต่งงานกันกัน” ห่าวหรานส่งยิ้มให้แก่หนิงฮวา นางเองก็ยิ้มตอบกลับมาอย่างมีความสุข
ทั้งสองไม่รู้เลยว่าได้ถูกสายตาของเหมยอิงจับจ้องอยู่ นางเห็นหนิงฮวามีความสุขนางยิ่งร้อนรุ่มในอก แถมข้างกายของนางยังมีบุรุษรูปงามที่คอยเอาใจใส่ดูแล นางไม่ยอมโดยเด็ดขาดนางจะแย่งทุกสิ่งทุกอย่างมาเป็นของตนเองให้ได้แม้กระทั่งบุรุษผู้นั้น
นางได้เดินไปหาท่านแม่ของนางเพื่อถามว่าชายผู้นั้นเป็นใคร
“ท่านแม่เจ้าคะ ลูกอยากรู้ว่าบุรุษรูปงามที่ยืนอยู่ข้างๆ ท่านพี่เป็นผู้ใดกัน “ซินหยางที่กำลังคุยอยู่กับฮูหยินท่านอื่นก็ได้ขอตัวออกมาคุยกับบุตรสาวของตน นางมองไปที่หนิงฮวาก่อนจะมองไปหาชายที่เหมยอิงถามถึง
“ชายผู้นั้นนะหรือ ข้าเองก็ไม่เคยพบเจอเดี๋ยวข้าจะไปถามท่านพ่อของเจ้าให้ ทำไมรึหรือว่าเจ้าสนใจชายผู้นี้ แต่ข้าว่าเขาเองก็ช่างเหมาะสมกับเจ้าเช่นกัน ใบหน้าท่าทางก็ดีใช่มิใช่น้อย”
ซินหยางเหมือนรู้ใจบุตรสาวตนเองเพราะนางมิเคยถามถึงชายใดเลย
“แต่ว่าชายผู้นั้นอยู่กับท่านพี่ ข้าว่าน่าจะเป็นคนรักของท่านพี่เป็นแน่ ท่านแม่ดูสินางยิ้มออกมาจนคนเข้ารู้ไปกันหมดว่านางคิดเช่นไรกับชายผู้นั้น”
“ข้าจะคิดมากทำไม หากเจ้าต้องการไม่ว่าเป็นสิ่งใดที่เกี่ยวกับหนิงฮวาข้าจะแย่งมาให้เจ้าให้หมด เจ้าเองก็มิสิทธิ์ที่จะได้รับสิ่งนั้นเจ้าเองก็เป็นบุตรของใต้เท้าโจเช่นกัน ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจแม่ผู้นี้จะบัลดาลให้เจ้าทุกอย่าง” พูดจบนางก็ได้เดินไปหาใต้เท้าโจ ส่วนเหมยอิงยังคงยืนยิ้มอยู่ที่เดิม หากนางยืนอยู่ตรงนั้นแทนที่หนิงฮวานางคงจะมีความสุขมากเช่นกัน เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงได้เข้าไปหาทั้งสองคน
“ท่านพี่เจ้าค่ะ ท่านพ่อกำลังตามหาท่านอยู่” เหมยอิงได้โกหกเพื่อให้นางได้เข้าใกล้บุรุษผู้นี้และกีดกันไม่ให้หนิงฮวาได้อยู่ใกล้
“ท่านพ่อตามหาข้างั้นรึ พี่ห่าวหรานเดี๋ยวข้ามานะเจ้าคะ” หนิงฮวาได้หันไปบอกกับห่าวหรานก่อนจะเดินไปหาท่านพ่อตามที่เหมยอิงบอก
“เจ้าไปเถอะ ข้าจะรอเจ้าอยู่ทางนี้” เมื่อหนิงฮวาเดินออกไปเหมยอิงก็รีบเข้าไปหาและแนะนำตนเองทันที
“ข้าชื่อว่าเหมยอิงเป็นน้องของพี่หนิงฮวาไม่ทราบว่าคุณชายชื่ออะไรหรือเจ้าคะ” เหมยอิงแสดงกิริยาอ่อนหวานเพื่อมัดใจเขา แต่ทว่าห่าวหรานกลับไม่สนใจเขารีบตอบและขอตัวออกจากตรงนั้น
“ข้ามีชื่อว่าห่าวหราน ขอให้คุณหนูเหมยอิงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ท่านพ่อของข้าคงจะตามหาข้าเช่นกัน ข้าขอตัวก่อน” ห่าวหรานทำตัวแตกต่างจากอยู่กับหนิงฮวาเมื่อครู่เขายังมีใบหน้าที่สดใส แต่ตอนนี้เขามีเพียงความเย็นชาและการพูดการจาที่ฟังดูก็รู้ว่าต้องการเว้นระยะห่าง ยิ่งทำให้เหมยอิงอยากครอบครอง
“หึ ทีกับท่านพี่ล่ะช่างอ่อนหวาน ทีกับข้าช่างเฉยชา ทำไมกันทุกคนต่างรักแต่ท่านพี่ ข้าเองก็ต้องการเช่นกันนะ ไม่เป็นไรข้าจะแย่งทุกอย่างมาจากท่านพี่เอง ฟ้าช่างไร้ความยุติธรรม ยามข้าเด็กข้ายังจำได้ว่าท่านพ่อไม่ได้ยินดีที่มีข้า ที่ตลาดยังบอกว่าข้ามิใช่ลูกของท่านอยู่เลย แต่ท่านพี่กลับได้ทุกอย่าง ข้าจะให้ท่านพี่ได้รับรู้บ้างว่าการโดนแย่งความรักมันเป็นเช่นไร” เหมยอิงกำมือแน่นนางคับแค้นใจเมื่อยามเด็กนางมาตลาดกับแม่มาพบท่านพ่อแต่กลับถูกท่านพ่อต่อว่าและบอกว่านางมิใช่บุตรของเขา แต่หนิงฮวากลับแย่งความรักของท่านพ่อไป หากไม่มีนางสักคนคงจะดี
ตอนพิเศษยามค่ำคืนที่เงียบสงบเรือนหลังหนึ่งที่อยู่ล้อมรอบด้วยต้นไม้และทุ่งนา ครอบครัวของหนิงฮวาที่ย้ายมาอยู่ท่านกลางธรรมชาติกำลังชุลมุนวุ่นวาย เสียงฉู่ฉู่ที่คอยบอกสาวใช้ให้เตรียมนู้นเตรียมนี่ดังอยู่เรื่อยๆ ห่าวหรานเองก็เดินไปมาหน้าห้องอย่างเป็นกังวลไม่นานนักเสียงทารกแรกเกิดก็ได้ดังขึ้น ทำให้ห่าวหรานดีใจและเป็นห่วงหนิงฮวาจับใจ“แง้ ๆ ” เสียงแรกที่เปล่งออกมาก็มีเสียงจากหมอว่าตอนนี้เขาได้บุตร“ยินดีด้วยขอรับ ท่านได้บุตรชายที่แข็งแรงตอนนี้ฮูหยินเองก็ปลอดภัยดี ” เมื่อเสียงที่เอ่ยออกมาจากด้านในบอกว่าเขานั้นมีบุตรชาย ท่านพ่อกับท่านแม่เองก็ดีใจมิใช่น้อย พากันยิ้มอย่างระรื่น“ข้าเข้าไปด้านในได้หรือไม่” ห่าวหรานอยากจะอุ้มตัวเล็กซะเหลือเกิน แต่ทันใดนั้นเองเสียงหนิงฮวาก็เปล่งออกมาอีกรอบ“โอ๊ย! ท่านหมอข้าเจ็บท้องอีกแล้ว ” ท่านหมอเองก็ตกใจมิใช่น้อย“โอ๊ะ! หรือว่าฮูหยินมีบุตรสองคน ทำใจดีไว้นะขอรับ สูดลมเข้าไปให้ลึกๆ และเบ่งมาอีกรอบ ” คนที่ด้านนอกเมื่อได้ยินก็ต้องตะลึงเพราะคิดว่านางตั้งครรภ์แค่คนเดียวแต่ทว่าในท้องของหนิงฮวานั้นกลับมาบุตรอยู่ตั้งสองคน“ท่านแม่ ท่านได้ยินหรือไม่ว่าท่านมีหลานสองคน ข้าด
บทที่ 23 ตอนสุดท้ายหนิงฮวามาถึงก็ต้องพบร่างของท่านพ่อที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงที่ถูกบ่าวอุ้มขึ้นไปวางไว้ นางเริ่มก้าวเท้าไม่ออกเรี่ยวแรงที่เคยมีก็หายไป ท่านพ่อที่เป็นที่รักของนางได้จากไปทั้งที่ยังไม่ทันได้ร่ำลา เมื่อท่านหมอเห็นหนิงฮวาจึงเดินมาก้มโค้งลงและบอกอาการ“คุณหนูข้าช่วยท่านใต้เท้าสุดความสามารถแล้วก็ไม่อาจจะยื้อท่านใต้เท้าได้ เพราะเสียเลือดมากเกินไปมีดได้แทงไปโดนเส้นเลือดใหญ่ ข้าน้อยขอแสดงความเสียใจด้วยขอรับ” หนิงฮวาหูอื้อไม่รับรู้สิ่งใดนางเดินเข้าไปเรื่อยๆ จนหยุดอยู่ตรงร่างที่นอนแน่นิ่งกลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้งไปทั่วห้องแต่นางก็มิได้รังเกียจนางโผล่เข้าโอบกอดร่างของใต้เท้าโจสะอึกสะอื้นอย่างปวดร้าว แม้แต่บ่าวในเรือนเองก็ต่างพากันร่ำไห้เสียใจในการสูญเสียในครั้งนี้ ห่าวหรานมาถึงก็ได้เข้าไปปลอบหนิงฮวาและคอยอยู่ข้างๆ กายนางตลอดเวลาจนกระทั่งได้ทำการฝังร่างของใต้เท้าโจเสร็จสิ้นมีใต้เท้ามากมายร่วมมาไว้อาลัย ห่าวหรานเองก็ไม่ห่างคอยช่วยเหลือหนิงฮวาอยู่ใกล้ๆ ส่วนเหมยอิงตั้งแต่นางฟื้นขึ้นมาก็กลายเป็นคนเสียสติ เพราะรับไม่ได้ที่ท่านแม่ฆ่าท่านพ่อของตนเอง นางช็อคจนสติหลุดตอนนี้หนิงฮวาได้สั่งให้บ่
บทที่ 22 เรื่องทั้งหมดมันเกิดจากท่านหลังจากวันงานเลี้ยงฉลองใต้เท้าโจก็ไม่เอ่ยอันใดกับซินหยางอีกเลยแม้กระทั่งห้องนอนเขาก็ออกไปนอนที่ห้องเดิมของตนเองอาการของเหมยอิงก็เริ่มรุนแรงขึ้นทุกวันนาง จนซินหยางเริ่มทุกข์ใจหากเป็นเช่นนี้อีกไม่นานใต้เท้าโจต้องรู้เป็นแน่ ทั้งสองแม่ลูกจึงมาปรึกษากันที่ห้องโถงเพราะคิดว่าวันนี้ใต้เท้าโจไม่อยู่“ท่านแม่ไหนท่านแม่บอกจะช่วยข้าอย่างไรเจ้าคะ ท้องของข้าก็โตขึ้นทุกวัน หรือว่าข้าจะเอาเด็กออก ท่านแม่ช่วยไปหายาสมุนไพรที่รุนแรงมาต้มให้ข้าดื่มได้มั้ยเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นท้องของข้าจะโตขึ้นทุกวันอย่างนี้ข้าจะหน้าไปไว้ที่ใดสตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือนแต่กลับท้องโตทุกวัน” เหมยอิงวิตกเป็นอย่างมาก“เหมยอิงแม่ผู้นี้บอกแล้วอย่างไรเล่าหากจะจัดการให้เจ้าเองเจ้าช่วยรอข้าก่อนนะ”“รอหรือเจ้าคะ ต้องให้ข้ารอไปถึงเมื่อไหร่กัน หรือท่านแม่จะรอให้ข้าคลอดเด็กคนนี้ออกมาก่อนเจ้าคะ อย่างไรข้าก็จะเอาเด็กออกหากท่านแม่ไม่ทำข้าก็จะออกไปหายาสมุนไพรมาจัดการกับเด็กผู้นี้เอง” เหมยอิงเปิดประตูออกไปก็ต้องตกใจผงะถอยหลังใบหน้าซีเซียว จนซินหยางเองแปลกใจ“เจ้าท้อง ท้องกับผู้ใดเหตุใดเจ้าถึงทำตัวเช่นนี้ช่าง
บทที่ 21 อับอายฮูหยินพาหนิงฮวาเดินเข้ามาในงานเลี้ยงซินหยางพยายามขอร้องก็ไม่เกิดผล หนิงฮวาหันไปมองนางพร้อมแสยะยิ้มอย่างสะใจ“ฮูหยินท่านฟังข้าก่อนที่ข้าทำเช่นนั้นเพราะข้าแค่จะสั่งสอนนางเท่านั้น ข้าเป็นแม่ของนางสั่งสอนบุตรของตนเองมันผิดตรงไหนกัน”“แล้วเจ้าเคยสั่งสอนเหมยอิงบุตรสาวของเจ้าเช่นหนิงฮวาหรือไม่” ซินหยางนิ่งเถียงออกมาไม่ได้ในคำถามที่ฮูหยินได้เอ่ยถาม“ท่านแม่ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แค่นี้ข้าทนได้เมื่อก่อนช้าเจอมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ท่านแม่อย่านำเรื่องนี้ไปบอกท่านพ่อเลยข้าไม่อยากให้ท่านพ่อต้องดุด่าและต้องอับอาย”“โธ่ๆ หนิงฮวานี่เจ้าต้องเจอกับคนใจร้ายเช่นนี้มานานเท่าไหร่กันเหตุใดเจ้าไม่บอกกับท่านพ่อของเจ้า ว่าเจ้าถูกนางเมียเลี้ยงใจร้ายกลั่นแกล้งมาตลอด แต่ไม่เป็นไรนะต่อจากนี้ข้าจะไม่ให้ผู้ใดมาทำร้ายเจ้าได้อีก” หนิงฮวาได้เติมเชื้อไฟให้ปะทุมากกว่าเดิม จนซินหยางทนไม่ไหวตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ นางจับดึงหัวของหนิงฮวาต่อหน้าฮูหยินโดยไม่ได้เกรงกลัว“ข้าทนไม่ไหวแล้วนะ เจ้ามันร้ายเอ่ยอันใดมามิใช่ความจริงแม้แต่น้อย หนอยหาว่าข้ารังแกเจ้านั้นหรือได้ข้าจะรังแกเจ้าตามที่เจ้าได้เอ่ยมาเมื่อครู่เอง” หนิงฮวา
บทที่ 20 รู้ทันเมื่อหนิงฮวากระซิบบอกเหมยอิงเสร็จนางก็เอาจอกสุรายื่นให้เหมยอิงเช่นเดิม นางยังคงตกใจยืนอยู่กับที่ จนหนิงฮวาเดินห่างออกจากนางไปนางก็โยกจอกสุรานั้นทิ้งพร้อมกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บแค้น“กรี๊ด!!!” หนิงฮวาที่เดินออกมาได้ไม่ไกลเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดของเหมยอิงนางก็ยิ้มออกมาอย่างสะใจ วันนี้นางออกไปที่ตลาดและไปบังเอิญไปพบเจอทั้งสองแม่ลูกที่ตลาดนางจึงแอบเดินตามไปที่โรงหมอ ก็ได้รู้ความลับของเหมยอิงที่นางได้ตั้งครรภ์ และนางเองก็รู้จักสองแม่รู้นี้ดีว่าไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยได้ไม่ว่าวันเวลาจะผลันเปลี่ยนคำพูดที่ทำให้เหมยอิงกรีดร้องออกมานั้นเป็นคำที่แทงใจของนาง“อย่าคิดว่าข้าจะรู้ไม่ทันเจ้า และเจ้าเองก็อย่าคิดว่าข้าจะยอมให้เจ้ากับท่านแม่ของเจ้ารังแกได้อีก ต่อไปนี้เจ้าต้องระวังข้าเสียมากกว่าที่จะเอาความลับของเจ้าไปแพร่งพราย ตอนนี้ตัวของเจ้าก็ไม่ได้มีเจ้าเพียงผู้เดียว จงอย่าทำอันใดที่มันเกินขอบเขตไม่เช่นนั้นเรื่องนี้จะถึงหูท่านพ่อเป็นแน่ และอีกอย่างอย่าคิดมาจับสามีของข้าให้รับเป็นพ่อของเด็กในท้องของเจ้า เพราะข้าจะไม่อยู่นิ่งเป็นแน่”หนิงฮวาเดินกลับเข้ามานั่งที่เก้าอี้ห่าวหรานเองก็หันมามองแ
บทที่ 19 เหมยอิงท้องฝั่งด้านเหมยอิงช่วงนี้นางรู้สึกแปลกๆ ในร่างกาย นางเริ่มไม่อยากอาหารและไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเมื่อได้กลิ่นอาหารที่มีกลิ่นฉุนก็มักจะคลื้นไส้อ้วกตลอดเวลา นางเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่บอกผู้ใดจนวันนี้ที่ต้องมานั่งกินอาหารร่วมกับท่านพ่อและท่านแม่“วันนี้ท่านพี่มีเวลา ช่างดีเสียจริงเราไม่ได้นั่งกินอาหารด้วยกันมานานมากแล้ว” ซินหยางเอ่ยพร้อมพยักหน้าให้บ่าวตักข้าวใส่ถ้วยให้ทุกคน“ที่ข้ามีเวลามานั่งกินข้าวกับพวกเจ้าเพราะมีเรื่องน่ายินดีจะมาบอก วันนี้ในช่วงค่ำบ้านใต้เท้าหวังอี้เป่าจะจัดงานฉลองที่ลูกเขยห่าวหรานได้รับตำแหน่งผู้ตรวจการพวกเจ้าเองก็เตรียมตัวรอเมื่อถึงเวลาข้าจะให้เกี้ยวมารับพวกเจ้าเพราะข้าเองต้องเข้าไปที่วังหลวงในช่วงสายๆ” ใต้เท้าโจนั่งคีบอาหารใส่ถ้วยข้าวของตนและคีบเข้าที่ปากของเขาต่อ เหมยอิงที่มาทีหลังก็รีบนั่งลงด้านหน้าของท่านพ่อ“มาแล้วงั้นรึนั่งลงสิ” ใต้เท้าโจบอกเหมยอิง“เจ้าคะท่านพ่อ” เหมยอิงนั่งลงบ่าวก็ได้ตักข้าวใส่ถ้วยของนางกลิ่นอาหารที่คละคลุ้งอยู่บนอากาศได้เตะจมูกของนางทำให้นางรู้สึกพะอืดพะอมจนเก็บอาการไว้ไม่ไหวอีกต่อไป“อั๊วะ” เหมยอิงลุกขึ้นออกไปอ้วกใต้เท้าโจก็มองต