บทที่ 6 แผนของซินหยาง
หนิงฮวาเดินตามหาท่านพ่อของนางก็เห็นว่ากำลังพูดคุยอยู่กับท่านแม่นางจึงยืนคอยไม่เข้าไปรบกวนทั้งสองท่าน เมื่อนางเห็นว่าซินหยางเดินจากไปก็เดินเข้าไปหาท่านพ่อ
“ท่านพ่อมีเรื่องอันใดถึงตามหาข้าหรือเจ้าคะ” ใต้เท้าโจคิ้วขมวดเมื่อได้ยินบุตรสาวถามเช่นนั้นเพราะเขาไม่ได้เอ่ยหานางแม้แต่น้อย
“ข้าไม่ได้เรียกหาเจ้าเลย หรือว่าเจ้าเข้าใจผิดกันเจ้าได้พบเจอกับคุณชายห่าวหรานหรือยัง ”เสียงนิ่งเฉยที่ตอบหนิงฮวากลับมา
“ข้าได้พบพี่ห่าวหรานแล้วเจ้าค่ะ” หนิงฮวาก้มหน้าตอบท่านพ่อของนางอย่างเหนี่ยมอาย
“คุณชายห่าวหรานเองก็มีใจจริงต่อเจ้า อีกไม่นานเจ้าทั้งสองก็คงได้เข้าร่วมพิธีกัน วันนั้นข้าเองก็ไม่ได้ห่วงอันใดอีกต่อไป” ใต้เท้าโจมองดูบุตรสาวของตนอย่างเป็นห่วง
หนิงฮวาไม่ได้พูดอันใดต่อก็มีใต้เท้าอีกท่านได้เรียกท่านพ่อออกไปพบหนิงฮวาจึงได้ปลีกตัวออกมาจากงานเพราะนางรู้สึกอยากพักผ่อน
ฝั่งด้านซินหยางเมื่อรู้ว่าบุรุษที่เหมยอิงนั้นหมายตาเป็นชายที่จะเข้าพิธีแต่งงานกับหนิงฮวานางก็เริ่มคิดแผนเพื่อแย่งห่าวหรานมาเป็นคู่ครองของบุตรสาวนางให้ได้
“ท่านแม่ รู้หรือไม่เจ้าคะว่าบุรุษผู้นันเป็นบุตรชายของตระกูลใด” เหมยอิงเดินมาหาท่านแม่ของนาง
“ข้าได้ถามท่านพ่อของเจ้าแล้ว คุณชายผู้นั้นคือคุณชายห่าวหราน เป็นบุตรชายของใต้เท้าหวังอี้เป่าอีกไม่นานจะได้รับตำแหน่งผู้ตรวจการ ช่างเหมาะสมกับเจ้าเสียจริงแต่ทว่าเขาเองมีคู่หมั้นหมายอยู่แล้ว” ซินหยางได้บอกแก่บุตรของนาง
“คู่หมั้นหมายที่ท่านแม่หมายถึงคงจะเป็นท่านพี่หนิงฮวาใช่หรือไม่เจ้าคะ ข้าเห็นสายตาที่คุณชายห่าวหรานจ้องมองท่านพี่มันเต็มไปด้วยความรักความห่วงใย ข้าละอิจฉาเสียจริง”
“เจ้าไม่ต้องไปอิจฉาชีวิตของนางหรอกนะ เจ้าเองก็มีดีเช่นกันหากเจ้าต้องการครองรักกับคุณชายห่าวหรานแม่ผู้นี้จะจัดการให้เจ้าเอง หากไม่มีนางงานมงคลก็คงไม่เกิดขึ้น เจ้าอย่าหน้าบึ้งเลยยิ้มเสียหน่อยวันนี้เป็นวันที่ดีของเจ้ามาเถอะตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าไปหาใต้เท้าหวังอี้เป่าและคุณชายห่าวหรานเองซินหยางได้พาเหมยอิงไปหาใต้เท้าหวังอี้เป่าที่ยืนคุยกับแขกผู้อื่นอยู่ เมื่อเห็นซินหยางเดินเข้าไปพร้อมนำของกำนัลมอบให้แก่เหมยอิง
"วันนี้เป็นวันเกิดของบุตรสาวของเล็กของตระกูลใต้เท้าโจ ข้าเองก็ได้เตรียมของมาให้ "
"แค่ใต้เท้ามาร่วมงานวันเกิดของเหมยอิงข้าเองก็ดีใจเป็นอย่างมากแล้วเจ้าค่ะ แล้วที่บุตรชายของท่านหรือเจ้าคะ " ซินหยางรับของจากใต้เท้าส่งให้แก่เหมยอิง
"นี่คือบุตรชายคนเดียวของข้าห่าวหราน " ซินหยางยิ้มและผลักเหมยอิงเข้าใกล้ห่าวหรานทำให้นางเซไปโดนตัวของห่าวหราน เขาได้รับตัวนางไว้ทันทำให้นางไม่ล้มลงอับอายผู้คน ซินหยางยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก ก่อนที่จะทำท่าทีตื่นตระหนกใช้มือทาบอกแสร้งต่อว่าเหมยอิง
"ต้องขอโทษด้วยนะเจ้าคะ เหมยอิงนางไม่ค่อยแข็งแรงวันนี้นางก็ออกมาต้อนรับแขกมากมายทำให้นางเหนื่อยล้าไม่มีเรี่ยวแรง ต้องขอโทษคุณชายห่าวหรานด้วยนะเจ้าคะ" เหมยอิงเมื่อเห็นท่านแม่ขยิบตาให้นางจึงแกล้งเป็นลมซบอกของห่าวหราน ห่าวหรานทำหน้าลำบากใจและหันไปมองหน้าบิดาของตน ใต้เท้าหวังอี้เป่าก็ได้พยักหน้าให้กับห่าวหรานให้ช่วยเหมยอิงไม่เช่นนั้นจะโดยกล่าวหาว่าไร้น้ำใจ
"บุตรสาวของท่านน่าจะไม่ไหวจริงๆ " ใต้เท้าหวังอี้เป่ารีบเอ่ยขึ้น
"นั้นสิเจ้าคะ คุณชายห่าวหรานช่วยพานางไปส่งที่ห้องของนางได้หรือไม่"
"ข้าเกรงว่าจะไม่เหมาะสมขอรับ แม่นางเหมยอิงเองก็เป็นสตรีจะให้ข้าไปส่งนางที่ห้องนอนของนางได้อย่างไร" ห่าวหรานรีบบอกปัดไป
"ไม่เห็นจะเป็นอันใดเลยเจ้าค่ะ ข้าเองและข้ารับใช้ก็ตามไปด้วยไม่ได้ทำให้นางเสื่อมเสียของเจ้าค่ะ" ในเมื่อท่านแม่ของนางเอ่ยมาเช่นนั้นเขาก็รีบอุ้มนางขึ้นมาอยู่บนแขนแกร่งและเดินตามฮูหยินของใต้เท้าโจไปที่ห้องพักของเหมยอิง ผู้คนต่างก็พากันมุงดูแถมยังซุบซินนินทาเหมยอิงที่ทำตัวไม่เหมาะสม ทุกคนต่างรู้เกี่ยวกับหนิงฮวากับห่าวหรานนั้นรักกันมาตั้งแต่ยังเด็ก
ห่าวหรานได้พาเหมยอิงเดินตามฮูหยินมาไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้หนิงฮวาที่กำลังนั่งจิบน้ำชาอยู่ได้เห็นเต็มๆ สองตา แต่นางก็ไม่ได้เอะใจ แต่ก้แปลกใจที่เห็นห่าวหรานอุ้มเหมยอิงใกล้ชิดแนบกาย
"คุณหนูเห็นหรือไม่เจ้าค่ะ ว่าเมื่อครู่นี้คุณชายห่าวหรานอุ้มคุณหนูเหมยอิงไปที่ห้องพักของนาง ข้าละไม่ชอบใจสักนิดดูใบหน้าของฮูหยินสิเจ้าคะ นางไม่ได้วิตกวังกลแม้แต่น้อยแต่กลับยิ้มออกมาได้ ฮึฮึ หรือว่าทั้งสองคนจะแผนอันใดอีก" ฉู่ฉู่ที่กำลังรินน้ำชายให้หนิงฮวาได้เอ่ยขึ้น
"หรือว่าเหมยอิงได้รับบาดเจ็บอันใด ข้าจะเป็นดูนางเสียหน่อย ท่านเองก็คิดมากเกินไปเหมยอิงคงไม่มีแผนการอันใดหรอกนะ ข้าว่านางคงตื่นเต้นและเหน็ดเหนื่อยที่ต้องต้อนรับแขกมากมาย " พูดจบหนิงฮวาก็รีบเดินตามเหมยอิงไป
"จิ จิ คุณหนูนะคุณหนูช่างไม่รู้อะเสียแล้ว ท่านช่างมองโลกในแง่ดีเกินไปเจ้าค่ะ หากนางไม่ร้ายคงไม่แย่งทุกอย่างไปจากท่านหรอก" ฉู่ฉู่ยังคงบ่นแต่ก็เดินตามหนิงฮวามาอย่างติดๆ แต่เมื่อมาถึงที่หน้าห้องของเหมยอิงก็ต้องพบกับฮูหยิน นางยื่นอยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นหนิงฮวาเดินไปนางก็รีบเดินออกมาขัดขวางหนิงฮวาไม่ให้นางได้เข้าไป
"นี่เจ้าหยุดอยู่ตรงนั้นห้ามเดินเข้ามา" เสียงแหล่มเล็กเปล่งออกมา ทำให้หนิงฮวาหยุดชะงักอยู่กับที่
"เหมยอิงเป็นอันใดเจ้าคะ ข้าแค่เป็นห่วงนางเห็นว่าพี่ห่าวหรานอุ้มนางมา " หนิงฮวาผู้ใสซื่อก็ได้เอ่ยถามออกมาโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะแย่งคนรักของนางไป
"ฮึ ฮึ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงนางหรอกเป็นห่วงตัวเจ้าเองจะดีกว่า ตอนนี้เหมยอิงได้อยู่กับคุณชายห่าวหรานสองต่อสอง เจ้าอย่าได้เข้าไปขัด อีกอย่างข้าจำได้ว่าข้าให้เจ้าไปช่วยเก็บของ เจ้าจงไปช่วยสาวรับใช้ที่หลังครัวเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะทำโทษไม่ให้เจ้ากินอาหารเย็นวันนี้ " หนิงฮวาก้มหน้าลงสลดทันที นางเองไม่รู้ว่าท่านแม่เหตุใดถึงพูดกับนางเช่นนี้
"แต่ว่าพี่ห่าวหรานเป็นคนรักของข้า หากมีผู้ใดมาเห็นเข้าจะไม่ดีต่อเหมยอิง ท่านแม่อย่าให้ทั้งสองคนอยู่ตามลำพังเถิดเจ้าค่ะ " หนิงฮวาเงยหน้ามองเข้าไปด้านในอย่างหวั่นใจ
"ข้าจะบอกอันใดเจ้าให้นะ ขนาดท่านพ่อของเจ้าข้ายังได้มาครอบครอง แล้วคนรักของเจ้าเหมยอิงทำไมจะเอามาครอบครองบ้างมิได้ ข้ามองดูเจ้าตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่มีตรงไหนเลยที่เจ้าจะเหมาะสมกับคุณชายห่าวหราน ไปที่ก้นครัวเดี๋ยวนี้ และอย่าคิดจะนำเรื่องนี้ไปฟ้องท่านพ่อของเจ้า เพราะไม่เช่นนั้นข้าจะจับเจ้าไปเฆี่ยนตี รวมถึงสาวใช้ของเจ้าด้วย" นางตวาดเสียงใส่หนิงฮวา ก็ไม่กล้าที่จะโต้ตอบเพราะเกรงกลัวนางจึงหันหลังกลับไปที่ครัวอย่างที่ท่านแม่บอก
ส่วนห่าวหรานนำเหมยอิงมานอนบนเตียงเขาเองก็กำลังออกจากห้องของนาง ซินหยางก็ได้เดินเข้ามาพอดี
"ข้าต้องขอบน้ำใจคุณชายมากนะเจ้าคะ เหมยอิงกับข้าติดหนี้ท่านแล้ว"
"เอ่อ ข้ามิได้คิดเช่นนั้นท่านไม่ต้องลำบาคใจ ตอนนี้ข้าเองก็พาคุณหนูเหมยอิงมาส่งเรียบร้อยแล้ว ข้าต้องขอตัวก่อน"
"ได้เจ้าค่ะ หากวันใดเหมยอิงนางสบายดีข้าจะให้นางทำขนมนำไปให้คุณชายเป็นการตอบแทนนะเจ้าคะ"
ห่าวหรานรู้ดีหากเขาไม่รับไมตรีฮูหยินท่านนี้ก็คงไม่ยอมเป็นแน่ อีกอย่างไม่นานเขาเองก็จะได้แต่งกับหนิงฮวาหากจะรับไมตรีนี้คงไม่เกิดอะไรขึ้นแถมเขาเองก็จะได้เข้ากับครอบครัวของหนิงฮวาอย่างสนิทใจอีกด้วย
"ได้ขอรับ ข้าขอตัว" เมื่อห่าวหรานเดินออกไปเหมยอิงที่แกล้งหลับก็ลืมตาขึ้นพร้อมลุกขึ้นจากเตียงเดินไปดูแผ่นหลังของห่าวหรานที่เดินจากไป นางเผยยิ้มออกมาเล็กๆ ที่มุมปากก่อนจะหันไปพูดกับท่านแม่ของนาง
"ท่านแม่ ท่านช่างเก่งมากเจ้าค่ะ ข้าเกือบทำตามแผนของท่านไม่ทัน ท่านแม่รู้มั้ยเจ้าคะ เมื่อครู่ที่คุณชายห่าวหรานอุ้มข้ามา กลิ่นตัวของเขาช่างตรึงตราใจข้าเหลือเกินไหนจะแขนที่แข็งแกร่งอกที่กว้างหัวใจของเขาเต้นระรัว ทำให้เขาเองก็แทบจะทำเสียแผน ไม่รู้ล่ะอย่างไรท่านแม่ต้องช่วยข้านะเจ้าคะ ข้าต้องการคุณชายห่าวหรานมาเป็นสามีของข้า ท่านแม่ต้องให้ท่านพี่ล้มเลิกงานแต่งให้จงได้" เหมยอิงเข้าไปซบลงที่บ่าของท่านแม่นางพร้อมพูดจาอย่างออดอ้อน ซินหยางยิ้มออกมาและลูบที่หัวเหมยอิงอย่างเอ็นดู
"ได้สิแม่ผู้นี้จะจัดการให้เจ้าเองเพียงเจ้าเอ่ยปากต้องการอันใดข้าจะหามาให้เอง ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะเป็นของใครมันก็ต้องมาเป็นของเจ้า" ทั้งสองแม่ลูกก็ได้หัวเราะออกมาอย่างมีความสุขโดยไม่ได้เกรงกลัวสิ่งใดแม้แต่น้อย
ตอนพิเศษยามค่ำคืนที่เงียบสงบเรือนหลังหนึ่งที่อยู่ล้อมรอบด้วยต้นไม้และทุ่งนา ครอบครัวของหนิงฮวาที่ย้ายมาอยู่ท่านกลางธรรมชาติกำลังชุลมุนวุ่นวาย เสียงฉู่ฉู่ที่คอยบอกสาวใช้ให้เตรียมนู้นเตรียมนี่ดังอยู่เรื่อยๆ ห่าวหรานเองก็เดินไปมาหน้าห้องอย่างเป็นกังวลไม่นานนักเสียงทารกแรกเกิดก็ได้ดังขึ้น ทำให้ห่าวหรานดีใจและเป็นห่วงหนิงฮวาจับใจ“แง้ ๆ ” เสียงแรกที่เปล่งออกมาก็มีเสียงจากหมอว่าตอนนี้เขาได้บุตร“ยินดีด้วยขอรับ ท่านได้บุตรชายที่แข็งแรงตอนนี้ฮูหยินเองก็ปลอดภัยดี ” เมื่อเสียงที่เอ่ยออกมาจากด้านในบอกว่าเขานั้นมีบุตรชาย ท่านพ่อกับท่านแม่เองก็ดีใจมิใช่น้อย พากันยิ้มอย่างระรื่น“ข้าเข้าไปด้านในได้หรือไม่” ห่าวหรานอยากจะอุ้มตัวเล็กซะเหลือเกิน แต่ทันใดนั้นเองเสียงหนิงฮวาก็เปล่งออกมาอีกรอบ“โอ๊ย! ท่านหมอข้าเจ็บท้องอีกแล้ว ” ท่านหมอเองก็ตกใจมิใช่น้อย“โอ๊ะ! หรือว่าฮูหยินมีบุตรสองคน ทำใจดีไว้นะขอรับ สูดลมเข้าไปให้ลึกๆ และเบ่งมาอีกรอบ ” คนที่ด้านนอกเมื่อได้ยินก็ต้องตะลึงเพราะคิดว่านางตั้งครรภ์แค่คนเดียวแต่ทว่าในท้องของหนิงฮวานั้นกลับมาบุตรอยู่ตั้งสองคน“ท่านแม่ ท่านได้ยินหรือไม่ว่าท่านมีหลานสองคน ข้าด
บทที่ 23 ตอนสุดท้ายหนิงฮวามาถึงก็ต้องพบร่างของท่านพ่อที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงที่ถูกบ่าวอุ้มขึ้นไปวางไว้ นางเริ่มก้าวเท้าไม่ออกเรี่ยวแรงที่เคยมีก็หายไป ท่านพ่อที่เป็นที่รักของนางได้จากไปทั้งที่ยังไม่ทันได้ร่ำลา เมื่อท่านหมอเห็นหนิงฮวาจึงเดินมาก้มโค้งลงและบอกอาการ“คุณหนูข้าช่วยท่านใต้เท้าสุดความสามารถแล้วก็ไม่อาจจะยื้อท่านใต้เท้าได้ เพราะเสียเลือดมากเกินไปมีดได้แทงไปโดนเส้นเลือดใหญ่ ข้าน้อยขอแสดงความเสียใจด้วยขอรับ” หนิงฮวาหูอื้อไม่รับรู้สิ่งใดนางเดินเข้าไปเรื่อยๆ จนหยุดอยู่ตรงร่างที่นอนแน่นิ่งกลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้งไปทั่วห้องแต่นางก็มิได้รังเกียจนางโผล่เข้าโอบกอดร่างของใต้เท้าโจสะอึกสะอื้นอย่างปวดร้าว แม้แต่บ่าวในเรือนเองก็ต่างพากันร่ำไห้เสียใจในการสูญเสียในครั้งนี้ ห่าวหรานมาถึงก็ได้เข้าไปปลอบหนิงฮวาและคอยอยู่ข้างๆ กายนางตลอดเวลาจนกระทั่งได้ทำการฝังร่างของใต้เท้าโจเสร็จสิ้นมีใต้เท้ามากมายร่วมมาไว้อาลัย ห่าวหรานเองก็ไม่ห่างคอยช่วยเหลือหนิงฮวาอยู่ใกล้ๆ ส่วนเหมยอิงตั้งแต่นางฟื้นขึ้นมาก็กลายเป็นคนเสียสติ เพราะรับไม่ได้ที่ท่านแม่ฆ่าท่านพ่อของตนเอง นางช็อคจนสติหลุดตอนนี้หนิงฮวาได้สั่งให้บ่
บทที่ 22 เรื่องทั้งหมดมันเกิดจากท่านหลังจากวันงานเลี้ยงฉลองใต้เท้าโจก็ไม่เอ่ยอันใดกับซินหยางอีกเลยแม้กระทั่งห้องนอนเขาก็ออกไปนอนที่ห้องเดิมของตนเองอาการของเหมยอิงก็เริ่มรุนแรงขึ้นทุกวันนาง จนซินหยางเริ่มทุกข์ใจหากเป็นเช่นนี้อีกไม่นานใต้เท้าโจต้องรู้เป็นแน่ ทั้งสองแม่ลูกจึงมาปรึกษากันที่ห้องโถงเพราะคิดว่าวันนี้ใต้เท้าโจไม่อยู่“ท่านแม่ไหนท่านแม่บอกจะช่วยข้าอย่างไรเจ้าคะ ท้องของข้าก็โตขึ้นทุกวัน หรือว่าข้าจะเอาเด็กออก ท่านแม่ช่วยไปหายาสมุนไพรที่รุนแรงมาต้มให้ข้าดื่มได้มั้ยเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นท้องของข้าจะโตขึ้นทุกวันอย่างนี้ข้าจะหน้าไปไว้ที่ใดสตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือนแต่กลับท้องโตทุกวัน” เหมยอิงวิตกเป็นอย่างมาก“เหมยอิงแม่ผู้นี้บอกแล้วอย่างไรเล่าหากจะจัดการให้เจ้าเองเจ้าช่วยรอข้าก่อนนะ”“รอหรือเจ้าคะ ต้องให้ข้ารอไปถึงเมื่อไหร่กัน หรือท่านแม่จะรอให้ข้าคลอดเด็กคนนี้ออกมาก่อนเจ้าคะ อย่างไรข้าก็จะเอาเด็กออกหากท่านแม่ไม่ทำข้าก็จะออกไปหายาสมุนไพรมาจัดการกับเด็กผู้นี้เอง” เหมยอิงเปิดประตูออกไปก็ต้องตกใจผงะถอยหลังใบหน้าซีเซียว จนซินหยางเองแปลกใจ“เจ้าท้อง ท้องกับผู้ใดเหตุใดเจ้าถึงทำตัวเช่นนี้ช่าง
บทที่ 21 อับอายฮูหยินพาหนิงฮวาเดินเข้ามาในงานเลี้ยงซินหยางพยายามขอร้องก็ไม่เกิดผล หนิงฮวาหันไปมองนางพร้อมแสยะยิ้มอย่างสะใจ“ฮูหยินท่านฟังข้าก่อนที่ข้าทำเช่นนั้นเพราะข้าแค่จะสั่งสอนนางเท่านั้น ข้าเป็นแม่ของนางสั่งสอนบุตรของตนเองมันผิดตรงไหนกัน”“แล้วเจ้าเคยสั่งสอนเหมยอิงบุตรสาวของเจ้าเช่นหนิงฮวาหรือไม่” ซินหยางนิ่งเถียงออกมาไม่ได้ในคำถามที่ฮูหยินได้เอ่ยถาม“ท่านแม่ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แค่นี้ข้าทนได้เมื่อก่อนช้าเจอมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ท่านแม่อย่านำเรื่องนี้ไปบอกท่านพ่อเลยข้าไม่อยากให้ท่านพ่อต้องดุด่าและต้องอับอาย”“โธ่ๆ หนิงฮวานี่เจ้าต้องเจอกับคนใจร้ายเช่นนี้มานานเท่าไหร่กันเหตุใดเจ้าไม่บอกกับท่านพ่อของเจ้า ว่าเจ้าถูกนางเมียเลี้ยงใจร้ายกลั่นแกล้งมาตลอด แต่ไม่เป็นไรนะต่อจากนี้ข้าจะไม่ให้ผู้ใดมาทำร้ายเจ้าได้อีก” หนิงฮวาได้เติมเชื้อไฟให้ปะทุมากกว่าเดิม จนซินหยางทนไม่ไหวตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ นางจับดึงหัวของหนิงฮวาต่อหน้าฮูหยินโดยไม่ได้เกรงกลัว“ข้าทนไม่ไหวแล้วนะ เจ้ามันร้ายเอ่ยอันใดมามิใช่ความจริงแม้แต่น้อย หนอยหาว่าข้ารังแกเจ้านั้นหรือได้ข้าจะรังแกเจ้าตามที่เจ้าได้เอ่ยมาเมื่อครู่เอง” หนิงฮวา
บทที่ 20 รู้ทันเมื่อหนิงฮวากระซิบบอกเหมยอิงเสร็จนางก็เอาจอกสุรายื่นให้เหมยอิงเช่นเดิม นางยังคงตกใจยืนอยู่กับที่ จนหนิงฮวาเดินห่างออกจากนางไปนางก็โยกจอกสุรานั้นทิ้งพร้อมกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บแค้น“กรี๊ด!!!” หนิงฮวาที่เดินออกมาได้ไม่ไกลเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดของเหมยอิงนางก็ยิ้มออกมาอย่างสะใจ วันนี้นางออกไปที่ตลาดและไปบังเอิญไปพบเจอทั้งสองแม่ลูกที่ตลาดนางจึงแอบเดินตามไปที่โรงหมอ ก็ได้รู้ความลับของเหมยอิงที่นางได้ตั้งครรภ์ และนางเองก็รู้จักสองแม่รู้นี้ดีว่าไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยได้ไม่ว่าวันเวลาจะผลันเปลี่ยนคำพูดที่ทำให้เหมยอิงกรีดร้องออกมานั้นเป็นคำที่แทงใจของนาง“อย่าคิดว่าข้าจะรู้ไม่ทันเจ้า และเจ้าเองก็อย่าคิดว่าข้าจะยอมให้เจ้ากับท่านแม่ของเจ้ารังแกได้อีก ต่อไปนี้เจ้าต้องระวังข้าเสียมากกว่าที่จะเอาความลับของเจ้าไปแพร่งพราย ตอนนี้ตัวของเจ้าก็ไม่ได้มีเจ้าเพียงผู้เดียว จงอย่าทำอันใดที่มันเกินขอบเขตไม่เช่นนั้นเรื่องนี้จะถึงหูท่านพ่อเป็นแน่ และอีกอย่างอย่าคิดมาจับสามีของข้าให้รับเป็นพ่อของเด็กในท้องของเจ้า เพราะข้าจะไม่อยู่นิ่งเป็นแน่”หนิงฮวาเดินกลับเข้ามานั่งที่เก้าอี้ห่าวหรานเองก็หันมามองแ
บทที่ 19 เหมยอิงท้องฝั่งด้านเหมยอิงช่วงนี้นางรู้สึกแปลกๆ ในร่างกาย นางเริ่มไม่อยากอาหารและไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเมื่อได้กลิ่นอาหารที่มีกลิ่นฉุนก็มักจะคลื้นไส้อ้วกตลอดเวลา นางเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่บอกผู้ใดจนวันนี้ที่ต้องมานั่งกินอาหารร่วมกับท่านพ่อและท่านแม่“วันนี้ท่านพี่มีเวลา ช่างดีเสียจริงเราไม่ได้นั่งกินอาหารด้วยกันมานานมากแล้ว” ซินหยางเอ่ยพร้อมพยักหน้าให้บ่าวตักข้าวใส่ถ้วยให้ทุกคน“ที่ข้ามีเวลามานั่งกินข้าวกับพวกเจ้าเพราะมีเรื่องน่ายินดีจะมาบอก วันนี้ในช่วงค่ำบ้านใต้เท้าหวังอี้เป่าจะจัดงานฉลองที่ลูกเขยห่าวหรานได้รับตำแหน่งผู้ตรวจการพวกเจ้าเองก็เตรียมตัวรอเมื่อถึงเวลาข้าจะให้เกี้ยวมารับพวกเจ้าเพราะข้าเองต้องเข้าไปที่วังหลวงในช่วงสายๆ” ใต้เท้าโจนั่งคีบอาหารใส่ถ้วยข้าวของตนและคีบเข้าที่ปากของเขาต่อ เหมยอิงที่มาทีหลังก็รีบนั่งลงด้านหน้าของท่านพ่อ“มาแล้วงั้นรึนั่งลงสิ” ใต้เท้าโจบอกเหมยอิง“เจ้าคะท่านพ่อ” เหมยอิงนั่งลงบ่าวก็ได้ตักข้าวใส่ถ้วยของนางกลิ่นอาหารที่คละคลุ้งอยู่บนอากาศได้เตะจมูกของนางทำให้นางรู้สึกพะอืดพะอมจนเก็บอาการไว้ไม่ไหวอีกต่อไป“อั๊วะ” เหมยอิงลุกขึ้นออกไปอ้วกใต้เท้าโจก็มองต