แชร์

บทที่ 8 ไม่เกรงกลัว

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-28 20:46:27

บทที่ 8 ไม่เกรงกลัว

“เกิดอันใดขึ้นถึงได้เสียงดังโวยวายเช่นนี้”

“เกิดเรื่องแล้วขอรับ ข้าได้โบยฉู่ฉู่ทำให้นางหมดลมหายใจขอรับ ฮูหยินต้องช่วยข้านะขอรับที่ข้าทำเพราะเป็นคำสั่งของฮูหยิน” บ่าวรับใช้เอ่ยเสียงสั่นเพราะความกลัว ซินหยางถึงกับหน้าซีดที่รู้ว่าฉู่ฉู่ได้ตาย

“แล้วผู้ใดบอกให้เจ้าลงมือกับนางรุนแรงแบบนี้ แล้วข้าจะทำเช่นใดหากใต้เท้ากลับมา ” นางเริ่มวิตกกังวลที่ได้ทำเกินกว่าเหตุ นางกัดนิ้วมือเดินไปเดินมา เพื่อครุ้นคิด

“ข้าไม่รู้ขอรับ แต่อย่างไรฮูหยินต้องช่วยข้านะขอรับ หากใต้เท้าโกรธข้าคงได้ออกจากเรือนนี้เป็นแน่ หากเช่นนั้นลูกเมียของข้าจะเอาอะไรกิน”

“เออ เจ้าไปไหนก็ไปเดี๋ยวเรื่องนี้ข้าจัดการเอง” ซินหยางได้ไล่ให้คนใช้ไปเพราะนางต้องใช้ความคิดเป็นอย่างมาก สักพักเหมยอิงก็ได้เดินกางร่มไม้ไผ่ผ่าฝนมาหามารดาของตน นางมาถึงก็ต้องสงสัยในท่าทีของท่านแม่ของตน

“เกิดเรื่องใดขึ้นเจ้าคะ ท่านแม่ถึงมีสีหน้าเช่นนี้” ซินหยางเงยหน้ามามองเหมยอิงก่อนจะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้นางฟัง

“ท่านแม่จะคิดมากไปทำไมกันเจ้าค่ะ อย่างไรท่านพ่อและท่านพี่ก็สามารถเอาผิดท่านแม่ได้ ท่านแม่ก็แค่บอกท่านพ่อว่าฉู่ฉู่นางมาขโมยของ ของท่านก็ได้นี่เจ้าคะ กว่าท่านพ่อจะมาเราก็จัดการฝังร่างนางเรียบร้อย ส่วนท่านพี่หนิงฮวาท่านแม่ก็แค่นำเรื่องนี้ไปขู่นางหากนางปากมากก็จะฆ่าให้นางได้ตามพี่เลี้ยงของนางไปสิเจ้าคะ ” น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาอย่างเย็นชาราวกับว่าไม่ได้เกรงกลัวความผิดแม้แต่น้อย ซินหยางเองก็เห็นดีด้วยในความคิดเห็นของเหมยอิง

“นั้นสิทำไมข้าถึงนึกไม่ออกนะ เจ้านี่ช่างเก่งเหมาะสมกับที่เป็นบุตรของข้าเสียจริง ฮ่าฮ่า ” ซินหยางได้ยิ้มและหัวเราะออกมา เหมยอิงเองก็ยิ้มร้ายที่มุมปาก

หนิงฮวาและสาวใช้ที่สนิทกับฉู่ฉู่ได้พาร่างของฉู่ฉู่ขึ้นรถเข็น เข็นไปฝังที่หลังหมู่บ้านความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นทำหน้าหนิงฮวากลายเป็นคนเย็นชา นางไม่อาจจะมองโลกในแง่ดีได้อีกต่อไป เมื่อเสร็จจากการนำร่างฝังดินหนิงฮวาก็เป็นลมเพราะนางไม่สบายและต้องเสียใจอีก สาวใช้ได้พานางกลับมาที่ห้องพร้อมไปตามท่านหมอมาตรวจดูอาการ ไม่กี่วันหนิงฮวาก็ได้หายดี

วันนี้ห่าวหรานได้ผ่านมาที่บ้านของหนิงฮวาจึงได้ซื้อขนมที่นางชอบมาฝากแต่เมื่อมาถึงกลับโดนซินหยางไม่ให้เข้าพบเพราะว่าบอกว่านางตอนนี้ป่วยเป็นโรคติดต่อจึงให้เหมยอิงมาต้อนรับห่าวหรานแทน

“หนิงฮวาเป็นอันใดมากหรือไม่ ข้าไม่กลัวที่จะติดโรคจากนางขอแค่ได้พบหน้านางสักนิดก็ยังดี” น้ำเสียงที่กังวลและเป็นห่วงหนิงฮวาอย่างสุดหัวใจทำให้เหมยอิงที่นั่งอยู่ที่ห้องโถงด้วยก็รีบบอกขัดออกไป

“ท่านพี่คงไม่อยากให้คุณชายเข้าไปพบหรอกเจ้าค่ะ แล้วนี่คุณชายถืออันใดติดมือมาด้วย”

“นี่นะหรือ ข้าซื้อขนมมาฝากหนิงฮวา หากข้าพบนางมิได้ข้าก็ขอฝากแม่นางเหมยอิงนำไปหานางทีข้าขอตัวกลับก่อนวันข้างหน้าข้าจะมาใหม่” แม้เหมยอิงจะเสียดายที่ห่าวหรานรีบกลับแต่นางก็ไม่ได้ยื้อเขาไว้

“ได้เจ้าค่ะ ” หลังจากที่ห่าวหรานกลับไปเหมยอิงก็มองดูขนมพร้อมยิ้มออกมาอย่างนางมารร้าย ตั้งแต่วันที่ฉู่ฉู่ตายหนิงฮวาเองก็ไม่กล้าย่างกายเข้ามาหานางหรือท่านแม่อีกเลย ทำให้เหมยอิงนึกสนุกกลั่นแกล้งทำให้หนิงฮวาช้ำน้ำใจ

ห่าวหรานหลังจากที่แยกออกมาจากเหมยอิงเขาไม่ได้กลับแต่เขาย้อนกลับเข้าที่เรือนของใต้เท้าโจเช่นเดิมครั้งนี้เขารีบเดินตรงไปหาหนิงฮวาเพราะเห็นว่ามีเรื่องอะไรที่แปลก หากนางเป็นโรคอย่างที่ฮูหยินบอกจริงๆ ชาวบ้านที่ยากจนคงจะเป็นกันเกือบทุกบ้าน หนิงฮวาเป็นบุตรสาวของใต้เท้าแท้ๆ คงไม่ยากที่จะรักษา เมื่อห่าวหรานมาที่ห้องของหนิงฮวาก็เห็นนางนั่งนิ่งอยู่ที่ริมหน้าต่างสายตาเม่อลอยอย่างไร้จุดหมาย เขามองดูนางจนทั่วก็ไม่พบว่านางจะเป็นอย่างที่ซินหยางบอก เขาเริ่มเอะใจจึงได้รีบเข้าไปหาหนิงฮวาก่อนที่จะถูกจับได้

“หนิงฮวาเกิดเรื่องใดขึ้นกับเจ้า” น้ำเสียงทุ่มต่ำได้เอ่ยถามหนิงฮวาคิดว่าตนเองหูแว่วได้ยินเสียงของชายที่นางรัก

“นี่ท่านจริงๆ หรือเป็นเพียงฝัน” หนิงฮวาหันมามองไม่อยากจะเชื่อภาพเบื้องหน้า

“เจ้าไม่ได้ฝัน นี่ข้าจริงๆ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าบอกข้าได้หรือไม่” เมื่อหนิงฮวาแน่ใจแล้วว่าเป็นบุรุษที่นางรักนางก็รีบเข้าไปสวมกอดเพียงขออความอบอุ่นหล่อเลี้ยงหัวใจที่เหี่ยวเฉา ห่าวหรานที่ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนางแต่เขาก็โอบกอดนางตอบเพื่อเพื่อปลอบประโลมนาง

“พี่ห่าวหราน ข้ากลัวกลัวเหลือเกิน ข้าไม่อยากอยู่ที่เรือนแห่งนี้อีกแล้ว อึกอึก” น้ำเสียงน้ำสั่นเครือเปล่งออกมาพร้อมน้ำตาไหลๆ ที่ไหลอาบแก้มจนเปียกอกแกร่งของเขา

“ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าต้องพบเจอเรื่องอันใดมา แต่ข้าอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ อีกไม่นานเราก็จะได้อยู่ด้วยกันถึงวันนั้นเจ้าเองก็ไม่ต้องทนอยู่ที่เรือนแห่งนี้แล้ว”

หนิงฮวาเงยหน้ามองห่าวหรานที่สูงกว่านางพร้อมบอกความในใจเพราะเกรงว่าตนเองจะทนไม่ไหว

“ข้าไม่รู้ว่าจะรอจนถึงวันนั้นได้หรือไม่ พี่ห่าวหรานโปรดช่วยข้าด้วย หากข้าอยู่ในเรือนแห่งนี้ต่อไปมีหวังข้าจะถูกรังแกจนไม่เหลือชีวิตแน่” ทันใดที่ห่าวหรานได้ยินว่าหนิงฮวาโดนรังแกเขาก็เร่งให้นางพูดความจริงให้เขาฟังทั้งหมด และก็เป็นอย่างที่เขาคิดว่าสองแม่ลูกนั้นไม่ธรรมดา ห่าวหรานปาดน้ำตาที่แก้มนวลของหนิงฮวาและกุมมือนางไว้ทั้งสองข้าง

“เจ้าคงทรมานไม่น้อย แต่ต่อจากนี้ข้าจะพาเจ้าออกจากนรกแห่งนี้เอง เจ้าช่วยรอข้าเสียก่อนข้าจะกลับไปพูดเรื่องงานแต่งของเราให้เร่งเวลามาเร็วกว่าเดิม ต่อจากนี้เจ้าไม่ต้องเกรงกลัว ข้าได้ยินมาว่าใต้เท้าโจพ่อของเจ้าได้กลับมาถึงวังหลวงระหว่างนี้พวกนางคงไม่กล้าลงมือกับเจ้า ” น้ำเสียงที่อ่อนโยนได้ปลอบประโลมใจให้หนิงฮวารู้สึกสบายใจ นางหยุดร้องไห้และยิ้มให้กับห่าวหรานอย่างหวานซึ้ง

“ข้าจะรอวันนั้นนะเจ้าคะ วันที่เราได้อยู่ด้วยกันชีวิตนี้ข้าขอมีเพียงพี่ห่าวหรานก็เพียงพอแล้ว ” เมื่อห่าวหรานได้ยินก็กอดนางอีกครั้ง

“แล้วข้าจะกลับมารับเจ้าตามที่สัญญา แต่ตอนนี้ข้าต้องไปก่อนเกรงว่าฮูหยินจะจับได้เจ้าจะถูกลงโทษอีก ช่วยรอข้าหน่อยนะเวลาเพียงไม่นานเราสองจะได้เคียงคู่”

“ได้เจ้าค่ะ ข้าจะรอท่าน” ทั้งสองกอดกันก่อนที่ห่าวหรานจะปล่อยมือออกจากกายของนางพร้อมแอบหนีออกไป หนิงฮวาเฝ้าคอยการแต่งงานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก นางไม่อยากอยู่กับแม่เลี้ยงที่ใจร้ายเช่นนี้ 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ข้าขอลิขิตชะตาชีวิตตัวเอง   ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษยามค่ำคืนที่เงียบสงบเรือนหลังหนึ่งที่อยู่ล้อมรอบด้วยต้นไม้และทุ่งนา ครอบครัวของหนิงฮวาที่ย้ายมาอยู่ท่านกลางธรรมชาติกำลังชุลมุนวุ่นวาย เสียงฉู่ฉู่ที่คอยบอกสาวใช้ให้เตรียมนู้นเตรียมนี่ดังอยู่เรื่อยๆ ห่าวหรานเองก็เดินไปมาหน้าห้องอย่างเป็นกังวลไม่นานนักเสียงทารกแรกเกิดก็ได้ดังขึ้น ทำให้ห่าวหรานดีใจและเป็นห่วงหนิงฮวาจับใจ“แง้ ๆ ” เสียงแรกที่เปล่งออกมาก็มีเสียงจากหมอว่าตอนนี้เขาได้บุตร“ยินดีด้วยขอรับ ท่านได้บุตรชายที่แข็งแรงตอนนี้ฮูหยินเองก็ปลอดภัยดี ” เมื่อเสียงที่เอ่ยออกมาจากด้านในบอกว่าเขานั้นมีบุตรชาย ท่านพ่อกับท่านแม่เองก็ดีใจมิใช่น้อย พากันยิ้มอย่างระรื่น“ข้าเข้าไปด้านในได้หรือไม่” ห่าวหรานอยากจะอุ้มตัวเล็กซะเหลือเกิน แต่ทันใดนั้นเองเสียงหนิงฮวาก็เปล่งออกมาอีกรอบ“โอ๊ย! ท่านหมอข้าเจ็บท้องอีกแล้ว ” ท่านหมอเองก็ตกใจมิใช่น้อย“โอ๊ะ! หรือว่าฮูหยินมีบุตรสองคน ทำใจดีไว้นะขอรับ สูดลมเข้าไปให้ลึกๆ และเบ่งมาอีกรอบ ” คนที่ด้านนอกเมื่อได้ยินก็ต้องตะลึงเพราะคิดว่านางตั้งครรภ์แค่คนเดียวแต่ทว่าในท้องของหนิงฮวานั้นกลับมาบุตรอยู่ตั้งสองคน“ท่านแม่ ท่านได้ยินหรือไม่ว่าท่านมีหลานสองคน ข้าด

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ข้าขอลิขิตชะตาชีวิตตัวเอง   บทที่ 23 ตอนสุดท้าย

    บทที่ 23 ตอนสุดท้ายหนิงฮวามาถึงก็ต้องพบร่างของท่านพ่อที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงที่ถูกบ่าวอุ้มขึ้นไปวางไว้ นางเริ่มก้าวเท้าไม่ออกเรี่ยวแรงที่เคยมีก็หายไป ท่านพ่อที่เป็นที่รักของนางได้จากไปทั้งที่ยังไม่ทันได้ร่ำลา เมื่อท่านหมอเห็นหนิงฮวาจึงเดินมาก้มโค้งลงและบอกอาการ“คุณหนูข้าช่วยท่านใต้เท้าสุดความสามารถแล้วก็ไม่อาจจะยื้อท่านใต้เท้าได้ เพราะเสียเลือดมากเกินไปมีดได้แทงไปโดนเส้นเลือดใหญ่ ข้าน้อยขอแสดงความเสียใจด้วยขอรับ” หนิงฮวาหูอื้อไม่รับรู้สิ่งใดนางเดินเข้าไปเรื่อยๆ จนหยุดอยู่ตรงร่างที่นอนแน่นิ่งกลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้งไปทั่วห้องแต่นางก็มิได้รังเกียจนางโผล่เข้าโอบกอดร่างของใต้เท้าโจสะอึกสะอื้นอย่างปวดร้าว แม้แต่บ่าวในเรือนเองก็ต่างพากันร่ำไห้เสียใจในการสูญเสียในครั้งนี้ ห่าวหรานมาถึงก็ได้เข้าไปปลอบหนิงฮวาและคอยอยู่ข้างๆ กายนางตลอดเวลาจนกระทั่งได้ทำการฝังร่างของใต้เท้าโจเสร็จสิ้นมีใต้เท้ามากมายร่วมมาไว้อาลัย ห่าวหรานเองก็ไม่ห่างคอยช่วยเหลือหนิงฮวาอยู่ใกล้ๆ ส่วนเหมยอิงตั้งแต่นางฟื้นขึ้นมาก็กลายเป็นคนเสียสติ เพราะรับไม่ได้ที่ท่านแม่ฆ่าท่านพ่อของตนเอง นางช็อคจนสติหลุดตอนนี้หนิงฮวาได้สั่งให้บ่

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ข้าขอลิขิตชะตาชีวิตตัวเอง   บทที่ 22 เรื่องทั้งหมดมันเกิดจากท่าน

    บทที่ 22 เรื่องทั้งหมดมันเกิดจากท่านหลังจากวันงานเลี้ยงฉลองใต้เท้าโจก็ไม่เอ่ยอันใดกับซินหยางอีกเลยแม้กระทั่งห้องนอนเขาก็ออกไปนอนที่ห้องเดิมของตนเองอาการของเหมยอิงก็เริ่มรุนแรงขึ้นทุกวันนาง จนซินหยางเริ่มทุกข์ใจหากเป็นเช่นนี้อีกไม่นานใต้เท้าโจต้องรู้เป็นแน่ ทั้งสองแม่ลูกจึงมาปรึกษากันที่ห้องโถงเพราะคิดว่าวันนี้ใต้เท้าโจไม่อยู่“ท่านแม่ไหนท่านแม่บอกจะช่วยข้าอย่างไรเจ้าคะ ท้องของข้าก็โตขึ้นทุกวัน หรือว่าข้าจะเอาเด็กออก ท่านแม่ช่วยไปหายาสมุนไพรที่รุนแรงมาต้มให้ข้าดื่มได้มั้ยเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นท้องของข้าจะโตขึ้นทุกวันอย่างนี้ข้าจะหน้าไปไว้ที่ใดสตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือนแต่กลับท้องโตทุกวัน” เหมยอิงวิตกเป็นอย่างมาก“เหมยอิงแม่ผู้นี้บอกแล้วอย่างไรเล่าหากจะจัดการให้เจ้าเองเจ้าช่วยรอข้าก่อนนะ”“รอหรือเจ้าคะ ต้องให้ข้ารอไปถึงเมื่อไหร่กัน หรือท่านแม่จะรอให้ข้าคลอดเด็กคนนี้ออกมาก่อนเจ้าคะ อย่างไรข้าก็จะเอาเด็กออกหากท่านแม่ไม่ทำข้าก็จะออกไปหายาสมุนไพรมาจัดการกับเด็กผู้นี้เอง” เหมยอิงเปิดประตูออกไปก็ต้องตกใจผงะถอยหลังใบหน้าซีเซียว จนซินหยางเองแปลกใจ“เจ้าท้อง ท้องกับผู้ใดเหตุใดเจ้าถึงทำตัวเช่นนี้ช่าง

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ข้าขอลิขิตชะตาชีวิตตัวเอง   บทที่ 21 อับอาย

    บทที่ 21 อับอายฮูหยินพาหนิงฮวาเดินเข้ามาในงานเลี้ยงซินหยางพยายามขอร้องก็ไม่เกิดผล หนิงฮวาหันไปมองนางพร้อมแสยะยิ้มอย่างสะใจ“ฮูหยินท่านฟังข้าก่อนที่ข้าทำเช่นนั้นเพราะข้าแค่จะสั่งสอนนางเท่านั้น ข้าเป็นแม่ของนางสั่งสอนบุตรของตนเองมันผิดตรงไหนกัน”“แล้วเจ้าเคยสั่งสอนเหมยอิงบุตรสาวของเจ้าเช่นหนิงฮวาหรือไม่” ซินหยางนิ่งเถียงออกมาไม่ได้ในคำถามที่ฮูหยินได้เอ่ยถาม“ท่านแม่ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แค่นี้ข้าทนได้เมื่อก่อนช้าเจอมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ท่านแม่อย่านำเรื่องนี้ไปบอกท่านพ่อเลยข้าไม่อยากให้ท่านพ่อต้องดุด่าและต้องอับอาย”“โธ่ๆ หนิงฮวานี่เจ้าต้องเจอกับคนใจร้ายเช่นนี้มานานเท่าไหร่กันเหตุใดเจ้าไม่บอกกับท่านพ่อของเจ้า ว่าเจ้าถูกนางเมียเลี้ยงใจร้ายกลั่นแกล้งมาตลอด แต่ไม่เป็นไรนะต่อจากนี้ข้าจะไม่ให้ผู้ใดมาทำร้ายเจ้าได้อีก” หนิงฮวาได้เติมเชื้อไฟให้ปะทุมากกว่าเดิม จนซินหยางทนไม่ไหวตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ นางจับดึงหัวของหนิงฮวาต่อหน้าฮูหยินโดยไม่ได้เกรงกลัว“ข้าทนไม่ไหวแล้วนะ เจ้ามันร้ายเอ่ยอันใดมามิใช่ความจริงแม้แต่น้อย หนอยหาว่าข้ารังแกเจ้านั้นหรือได้ข้าจะรังแกเจ้าตามที่เจ้าได้เอ่ยมาเมื่อครู่เอง” หนิงฮวา

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ข้าขอลิขิตชะตาชีวิตตัวเอง   บทที่ 20 รู้ทัน

    บทที่ 20 รู้ทันเมื่อหนิงฮวากระซิบบอกเหมยอิงเสร็จนางก็เอาจอกสุรายื่นให้เหมยอิงเช่นเดิม นางยังคงตกใจยืนอยู่กับที่ จนหนิงฮวาเดินห่างออกจากนางไปนางก็โยกจอกสุรานั้นทิ้งพร้อมกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บแค้น“กรี๊ด!!!” หนิงฮวาที่เดินออกมาได้ไม่ไกลเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดของเหมยอิงนางก็ยิ้มออกมาอย่างสะใจ วันนี้นางออกไปที่ตลาดและไปบังเอิญไปพบเจอทั้งสองแม่ลูกที่ตลาดนางจึงแอบเดินตามไปที่โรงหมอ ก็ได้รู้ความลับของเหมยอิงที่นางได้ตั้งครรภ์ และนางเองก็รู้จักสองแม่รู้นี้ดีว่าไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยได้ไม่ว่าวันเวลาจะผลันเปลี่ยนคำพูดที่ทำให้เหมยอิงกรีดร้องออกมานั้นเป็นคำที่แทงใจของนาง“อย่าคิดว่าข้าจะรู้ไม่ทันเจ้า และเจ้าเองก็อย่าคิดว่าข้าจะยอมให้เจ้ากับท่านแม่ของเจ้ารังแกได้อีก ต่อไปนี้เจ้าต้องระวังข้าเสียมากกว่าที่จะเอาความลับของเจ้าไปแพร่งพราย ตอนนี้ตัวของเจ้าก็ไม่ได้มีเจ้าเพียงผู้เดียว จงอย่าทำอันใดที่มันเกินขอบเขตไม่เช่นนั้นเรื่องนี้จะถึงหูท่านพ่อเป็นแน่ และอีกอย่างอย่าคิดมาจับสามีของข้าให้รับเป็นพ่อของเด็กในท้องของเจ้า เพราะข้าจะไม่อยู่นิ่งเป็นแน่”หนิงฮวาเดินกลับเข้ามานั่งที่เก้าอี้ห่าวหรานเองก็หันมามองแ

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ข้าขอลิขิตชะตาชีวิตตัวเอง   บทที่ 19 เหมยอิงท้อง

    บทที่ 19 เหมยอิงท้องฝั่งด้านเหมยอิงช่วงนี้นางรู้สึกแปลกๆ ในร่างกาย นางเริ่มไม่อยากอาหารและไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเมื่อได้กลิ่นอาหารที่มีกลิ่นฉุนก็มักจะคลื้นไส้อ้วกตลอดเวลา นางเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่บอกผู้ใดจนวันนี้ที่ต้องมานั่งกินอาหารร่วมกับท่านพ่อและท่านแม่“วันนี้ท่านพี่มีเวลา ช่างดีเสียจริงเราไม่ได้นั่งกินอาหารด้วยกันมานานมากแล้ว” ซินหยางเอ่ยพร้อมพยักหน้าให้บ่าวตักข้าวใส่ถ้วยให้ทุกคน“ที่ข้ามีเวลามานั่งกินข้าวกับพวกเจ้าเพราะมีเรื่องน่ายินดีจะมาบอก วันนี้ในช่วงค่ำบ้านใต้เท้าหวังอี้เป่าจะจัดงานฉลองที่ลูกเขยห่าวหรานได้รับตำแหน่งผู้ตรวจการพวกเจ้าเองก็เตรียมตัวรอเมื่อถึงเวลาข้าจะให้เกี้ยวมารับพวกเจ้าเพราะข้าเองต้องเข้าไปที่วังหลวงในช่วงสายๆ” ใต้เท้าโจนั่งคีบอาหารใส่ถ้วยข้าวของตนและคีบเข้าที่ปากของเขาต่อ เหมยอิงที่มาทีหลังก็รีบนั่งลงด้านหน้าของท่านพ่อ“มาแล้วงั้นรึนั่งลงสิ” ใต้เท้าโจบอกเหมยอิง“เจ้าคะท่านพ่อ” เหมยอิงนั่งลงบ่าวก็ได้ตักข้าวใส่ถ้วยของนางกลิ่นอาหารที่คละคลุ้งอยู่บนอากาศได้เตะจมูกของนางทำให้นางรู้สึกพะอืดพะอมจนเก็บอาการไว้ไม่ไหวอีกต่อไป“อั๊วะ” เหมยอิงลุกขึ้นออกไปอ้วกใต้เท้าโจก็มองต

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status