บทที่ 7 ข้าจะไปอยู่กับท่านอา
จวนจวิ้นอ๋อง
ตั้งแต่ที่ท่านอ๋องพบเจอลู่เพ่ยวันนั้นเขาก็เอาแต่คิดถึงใบหน้าที่หยิ่งพยองของนาง แตกต่างจากตอนที่นางอวบอ้วนยิ่งนักตอนนี้ความเจ็บปวดที่นางฝากไว้ให้เขาในวันนั้นก็ได้หายดีแล้ว ถึงคราวแล้วที่เขาจะไปเยือนและจะไม่ยอมถอนหมั้น
"ผู้ใดอยู่ด้านนอกเข้ามาหาข้าที" เจียวหั่วตะโกนเรียกบ่าวรับใช้ที่อยู่ด้านนอกเพื่อทำในสิ่งที่เขาครุ่นคิดมาหลายวัน
"ท่านอ๋องมีอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ"
"เจ้าไปจัดเตรียมทองคำ หยกและเบี้ยอัฐขึ้นเกี้ยวให้ข้าที ให้มากกว่าที่คุณหนูลู่เพ่ยเอามาคืน ข้าจะเดินทางไปที่เรือนของใต้เท้าลู่ไป๋เหวิน"
"พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะรีบไปจัดเตรียมให้ท่านอ๋องโปรดรอสักครู่" พูดจบบ่าวรับใช้เดินออกจากห้องของเจียวหั่วไปทำตามคำสั่ง เจียวหั่วยืนขึ้นกอดอก ยิ้มมุมปากแววตาเจ้าเล่ห์
"เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอกนะ คิดหรือว่าข้าจะยอมถอดหมั้นง่าย ๆ อำนาจที่อยู่ตรงหน้าไม่ว่าผู้ใดก็คงไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ " เจียวหั่วหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจพร้อมเดินออกจากห้องของตนเพื่อเดินทางไปที่เรือนตระกูลลู่ทำอย่างใจหวัง
เรือนตระกูลลู่
"ขนมมาแล้วเจ้าค่ะคุณหนู" ลี่อินเดินถือถาดที่ใส่ขนมพร้อมน้ำชามาให้แก่เสี่ยวลี่เหมย ตอนนี้นางกำลังนั่งชมเหล่าผีเสื้ออยู่ที่ศาลารับลมด้านหลังเรือนโดยมีไป๋เซ่อใช้พัด พัดให้คลายร้อน
"มาแล้วหรือ ลี่อินเจ้าได้ออกไปดูที่หน้าเรือนบ้างหรือไม่บัดนี้เหล่าบุรุษกลับเรือนของตนกันหรือยัง ข้าเองก็อยากออกไปเดินเล่นที่ตลาดบ้าง ให้ข้าอยู่ในเรือนเช่นนี้ข้าเริ่มเบื่อ เฮ้อ!!" เสี่ยวลี่เหมยถอนหายใจเฮือกใหญ่
"เมื่อครู่ได้ยินสาวใช้ในครัวเอ่ยกันยังคงมีบุรุษที่ต้องการพบเจอคุณหนูอยู่หน้าเรือนเต็มไปหมดเลยเจ้าค่ะ แต่ก็ดีอีกอย่างนะเจ้าคะ ตั้งแต่ทุกคนต่างรู้ว่าคุณหนูเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นของกินของใช้ของกำนัลมากมายเต็มห้องคุณหนูเลยเจ้าค่ะ ข้าเห็นผ้าไหมมากมายที่ถูกส่งมามอบให้คุณหนูมีแต่ผืนสวย ๆ หากนำไปตัดเย็บเป็นชุดคงเหมาะกับคุณหนูน่าดู "ลี่อินยิ้มเล็กยิ้มน้อยดีใจที่ทุกคนต่างเอ็นดูคุณหนูของนาง
"แต่ข้าว่าเป็นเช่นนี้ก็ไม่ดีอีกอย่างนะ ดูสิคุณหนูจะไปทางใดก็ไม่ได้ไป หากเป็นเช่นนี้ไปเที่ยวหาท่านอาของคุณหนูไม่ดีหรือเจ้าคะ ข้าได้ยินมาว่าท่านอาของคุณหนูที่เป็นน้องสาวของใต้เท้าลู่ไป๋เหวินได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ บนภูเขาข้าว่าหากคุณหนูไปอยู่ที่นั้นก็คงไม่มีบุรุษมาก่อกวนให้วุ่นวายใจเจ้าค่ะ" ไป๋เซ่อครุ่นคิดพร้อมออกความคิดเห็น เมื่อเสี่ยวลี่เหมยได้ยินแววตาเป็นประกายลุกขึ้นจับไป๋เซ่อเขย่าไปมาเพื่อถามที่อยู่ท่านอาของตน
"เรือนขอท่านอาอยู่ที่ใด ข้าอยากไป "
"ข้าน้อยก็ไม่ทราบเช่นกันเจ้าค่ะ ได้ยินเพียงใต้เท้้าพูดมาเท่านั้นเจ้าค่ะ "
"เช่นนั้นไปหาท่านพ่อกันเถอะ ลี่อินส่วนขนมกับน้ำชานี่เจ้ากินไปเถอะ " เสี่ยวลี่เหมยจับมือไป๋เซ่อเดินไปข้างหน้าพร้อมบอกให้ลี่อินกินขนมที่ตนถือมา
"โธ่คุณหนูเจ้าคะ เหตุใดต้องไปอยู่ในที่ทุกข์ยากเช่นนั้นด้วยอยู่ที่นี่ก็สุขสบายดีแล้วมิใช่หรือเจ้าคะ ข้าได้ยินมาว่าที่นั้นมีเพียงชาวไร่ชาวนาเท่านั้น หากคุณหนูไปอยู่ที่นั้นน่าจะเบื่อมากกว่าอยู่ที่นี่นะเจ้าคะ"
"ข้าไม่เบื่อหรอกนะ ข้าจะไปทำการเกษตรและจะร่ำรวยโดยไม่ต้องแต่งงานกับบุรุษผู้ใด เช่นนี้ท่านพ่อต้องเห็นด้วยเป็นแน่ "เสี่ยวลี่เหมยยิ้มกว้างเมื่อคิดเรื่องที่จะเกิดขึ้นภายหน้า
ด้านใต้เท้าลู่ไป๋เหวินได้ออกมาต้อนรับเหล่าบุรุษที่เข้ามาหาอย่างมากมายในแต่ละวันอย่างเหน็ดเหนื่อย
"วันนี้ข้าเหนื่อยล้าเหลือเกิน นี่เจ้าเดินไปดูที่หน้าเรือนทีตอนนี้เหล่าผู้คนเริ่มทยอยกลับหรือยัง "
"ขอรับใต้เท้า "
"ข้าไม่คิดเลยว่าการที่บุตรสาวข้าเปลี่ยนไปและถอนหมั้นกับท่านอ๋องจะทำให้บุรุษทั่วล้าต่างเข้ามาหาเพื่อเอาใจ หากเป็นเช่นนี้ข้าอยากให้ลู่เพ่ยเป็นเหมือนเมื่อก่อนซ่ะดีกว่า "
"ทำไมกันเจ้าคะ ท่านพ่อต้องดีใจสิที่มีบุตรสาวงดงามเช่นนี้ และตอนนี้ร่างกายของข้าก็แข็งแรงมากกว่าแต่ก่อนอีกด้วย " เสี่ยวลี่เหมยเดินเข้ามาได้ยินที่ท่านพ่อกำลังบ่นพึมพำอยู่พอดี
"ข้าดีใจที่มีบุตรสาวงดงามแต่จะให้ข้าคอยต้อนรับผู้คนเช่นนี้ตลอดก็คงไม่ไหว "
"จากนี้ท่านพ่อไม่ต้องต้อนรับผู้ใดแล้วเจ้าค่ะ หากผู้ใดมาหาก็ปฎิเสธไปเลยเจ้าค่ะ "
"เพราะอะไรทำไมถึงไม่ต้อนรับผู้ใด หรือว่าเจ้าเจอผู้ที่เจ้าถูกชะตาแล้วอย่างนั้นหรือ"
"มิใช่เจ้าค่ะ ลูกจะขอท่านพ่อไปอยู่กับท่านอาที่หมู่บ้านเล็ก ๆ บนเขาเจ้าค่ะ " ใต้เท้าได้ยินถึงกับถอดสีหน้า
"ไม่ได้ ไม่ได้อย่างไรข้าก็ไม่ให้เจ้าไป "
"ทำไมกันเจ้าคะ ท่านพ่อไม่รักข้าหรือเจ้าคะ ท่านพ่อก็เห็นว่าข้าอยู่ที่นี่ก็มีบุรุษมากมายคอยรุมล้อมเช่นนี้ข้าจะออกไปที่ใดก็ไม่ได้ ทุกวันนี้ข้าเบื่อซะเหลือเกิน หากท่านพ่อให้ข้าไปอยู่กับท่านอา ข้าจะไม่ขอเบี้ยท่านพ่อใช้เลยเจ้าค่ะ อีกเรื่องข้ามีเรื่องสำคัญจะบอกท่านพ่อว่าต่อจากนี้จนชีวิตของข้าจะหมดลมหายใจ ข้าจะไม่ขอแต่งกับผู้ใด จะขอร่ำรวยเลี้ยงดูตนเองท่านพ่อโปรดวางใจและอนุญาตให้ข้าไปเถอะนะเจ้าคะ อีกอย่างข้ามิได้ไปผู้เดียวเสียหน่อยยังมีลี่อินไป๋เซ่อที่คอยดูแลอยู่ข้างๆ นะเจ้าคะท่านพ่อ" เสี่ยวลี่เหมยเข้าไปกออดออดอ้อนส่งสายตาเว้าวอนจนใต้เท้าลู่ไป๋เหวินใจอ่อน หากนี่เป็นความสุขของบุตรสาวของเขาเขาเองก็จะยอมให้นางได้ลองทำตามที่นางต้องการ อีกอย่างท่านอาที่นางกล่าวมาก็คือน้องสาวของเขา ที่ไม่ได้ออกเรือนเช่นเดียวกันแต่นางก็สามารถดูแลตนเองจนถงทุกวันนี้ได้
"เจ้านี่นะช่างเอาแต่ใจตนเองเสียจริง ก็ได้ข้าจะยอมให้เจ้าทำตามใจตนเอง หากว่าเจ้าทำไม่ได้อย่างที่เจ้าเอ่ยมาเจ้าต้องกลับมาแต่งงานเอาเช่นนี้ดีหรือไม่" เสี่ยวลี่เหมยหุบยิ้มปล่อยแขนออกจากท่านพ่อพรางครุ่นคิดก่อนจะยิ้มกว้างพร้อมตอบรับคำพูดของผู้เป็นพ่อ
"ก็ได้เจ้าค่ะ ข้าจะทำให้ท่านพ่อได้รู้ว่าข้าสามารถดูแลตนเองได้ เช่นนั้นข้าจะไปจัดเตรียมของก่อนนะเจ้าคะ ท่านพ่อให้บ่าวเตรียมรถม้าเพื่อไปส่งข้าด้วย" พูดจบเสี่ยวลี่เหมยก็เดินออกจากห้องโถงเพื่อไปเตรียมของออกเดินทาง ลี่อินไป๋เซ่อเองก็เดินตามคุณหนูของนางออกไปพร้อม ๆ กัน ใต้เท้าลู่ไป๋เหวินมองตามหลังของลู่เพ่ยพร้อมส่ายหน้าไปมาพร้อมยิ้มบาง ๆ มุมปาก
"เจ้าโตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ เอาล่ะหากเจ้าอยากบินออกจากกรงข้าเองก็จะลองปล่อยเจ้าไปดู จะได้รู้ว่าโลกภายนอกไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่เขาเคยพบเจอ" พูดจบใต้เท้าลู่ไป๋เหวินยกจอกน้ำชาจิบอย่างใจเย็น
บทที่ 40 ให้โอกาสความรักอีกครั้งหลายวันต่อมาเสี่ยวลี่เหมยยังคงไม่ฟื้นนางนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงอย่างไม่รู้สึกตัว ไป๋เซ่อลี่อินคอยพลัดเปลี่ยนกันมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ตลอด"เมื่อไหร่เจ้าจะฟื้นเสียที รีบฟื้นมาเถิดต่อให้เจ้าจำข้าไม่ได้หรือชิงชังข้าเพียงใดข้าก็ยอม "เจียวหั่วจับมือของนางแน่นมองใบหน้าที่หลับสนิทพร้อมอ้อนวอนให้นางฟื้น ตอนนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วลมพัดเข้ามาทางหน้าต่างให้ความรู้สึกหนาวเย็น เจียวหั่ววางมือของนางไว้แนบกายนางก่อนจะเดินไปปิดหน้าต่างเพื่อไม่ให้ลมเข้ามาได้ ก่อนจะเดินมาที่เตียงพร้อมดึงผ้าห่มมาห่มกายให้นาง"เจ้ารีบฟื้นมาเสียที ต่อให้เจ้าอวบอ้วนเช่นดั่งเมื่อก่อน ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่เฉยชาเมินเฉยต่อเจ้า เจ้ารอคอยให้ข้าสนใจเจ้ามาตลอดมิใช่หรือ? และข้าก็มีเรื่องอีกเรื่องที่ยังไม่ได้บอกเจ้าเลย ว่าตอนนี้ข้ารักเจ้าเพียงใด แม้ว่าข้าจะรู้ตัวช้าแต่ตอนนี้ทั้งหัวใจของข้ามีเพียงเจ้า เจ้าได้ยินหรือไม่พระชายาของข้า""จริงหรือ แล้วรักหม่อมฉันเมื่อไหร่กันเพคะ" น้ำเสียงแหบพร่าได้เอ่ยขึ้นเสี่ยวลี่เหมยนางรู้สึกตัวในตอนแรกนางคิดว่าตนเองจะตายไปแล้วเสียอีกแต่ทว่านางได้ไปพบกับลู่เพ่ยตั
บทที่ 39 เสี่ยวลี่เหมยได้รับบาดเจ็บฝั่งด้านซีเหนี่ยวกับสาวใช้ที่ร้อนรนหัวใจเป็นห่วงเสี่ยวลี่เหมยนานมากแล้วที่นางกับท่านอ๋องหายตัวไปไม่กลับมาเสียที ซีเหนี่ยวไม่อาจจะนั่งติดเก้าอี้เดินไปมาอย่างร้อนใจ ไม่นานนักเสียงฝีเท้าของม้าได้วิ่งเข้ามาในเรือนทุกคนรีบเดินออกไปดูก็พบว่าบัดนี้ท่านอ๋องได้อุ้มร่างของเสี่ยวลี่เหมยที่หมดสติเสื้อผ้าเปื้อนไปด้วยเลือด ซีเหนี่ยวทรุดตัวลงเป็นลมที่เห็นหลานสาวของตนเองได้รับบาดเจ็บ"ซีเหนี่ยว ซีเหนี่ยวเจ้าคะลี่อินรีบพาซีเหยี่ยวไปนั่งก่อนข้าจะรีบไปดูคุณหนู" แม้ว่าพวกนางแตกตื่นแต่ตอนนี้นายหญิงของตนต่างดูแลตนเองไม่ได้ไป๋เซ่อรีบตั้งสติเรียกลี่อินที่ยืนตัวสั่นเทาดวงตาเริ่มสั่นคลอนคล้ายจะร้องให้ตั้งสติ"คุณหนู คุณหนูของข้า ฮื้อ ๆ""นี่ลี่อินเจ้าจั้งสติพาซีเหนี่ยวเข้าไปด้านในก่อนเร็วเข้า ""อื้อ ๆ " ลี่อินปาดน้าตาประคองร่างซีเหนี่ยวเข้าไปด้านในส่วนไป๋เซ่อรีบวิ่งมาหาเสี่ยวลี่เหมย"ท่านอ๋องเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูเพคะ""ลู่เพ่ยได้รับบาดเจ็บ เจ้ารีบไปเตรียมน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดเลือดมาให้ข้าโดยเร็ว " เจียวหั่วอุ้มร่างของเสี่ยวลี่ไปที่ห้องพักของนาง ไป๋เซ่อรีบไปทำตามที่ท่านอ๋องบอกอ
บทที่ 38 ข้าไม่ได้ตั้งใจทั้งสองต่อสู้ฟาดฟันเพลงดาบกันอย่างดุเดือดฝุ่นคละคลุ้งเต็มอากาศ เจียวหั่วแม้จะมีฝีมือเก่งกาจแต่ทว่าฮุ่ยเจินมีแรงเหลือมากกว่า ทำให้เขาได้พลาดท่าโดนฟันเข้าที่แขนข้างขวาจนล้มลงกับพื้น ดาบกระเด็นออกไปไกลห่างตัว"แฮ่ก ๆ! " เสียงเหนื่อยหอบของทั้งสองดังระงม"ฮุ่ยเจินต่อให้เจ้าจะฆ่าพวกข้าได้แต่เจ้าเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไม่ได้หรอกนะ ตอนนี้ทางการได้จับกุมท่านพ่อของเจ้ายึดของที่เจ้าได้ขโมยจากชาวบ้านเพื่อเป็นหลักฐานแล้ว อีกไม่นานทหารของข้ากำลังตาม เจ้าหนีไม่พ้นหรอกนะ" เพราะเห็นว่ามีเพียงฮุ่ยเจินเพียงคนเดียวเจียวหั่วจึงสั่งให้องครักษ์พร้อมกำลังทหารไปที่เรือนของท่านพ่อฮุ่ยเจินเพราะเกรงกลัวว่าเขาจะหนีไปเสียก่อน"หยุดปากไปซ่ะ หากข้าถูกจับอย่างไรก็ต้องตายสู้ฆ่าพวกท่านทั้งสองให้ตายไปพร้อมกับข้าไม่ดีกว่าหรือ?? " เสี่ยวลี่เหมยเห็นเจียวหั่วได้รับบาดเจ็บรีบวิ่งเข้ามาห้ามฮุ่ยเจินทันที"คุณชายฮุ่ยเจิน!! หยุดเถอะนะข้าไม่เชื่อหรอกว่าท่านเป็นคนไม่ดี ข้ารู้ว่าที่ผ่านมาท่านไม่ได้แสร้งเป็นคนดีความรู้สึกที่ท่านมีต่อพวกเรานั้นเป็นความรู้สึกของท่านจริง ๆ ไหนท่านเคยบอกรักข้า ความรู้สึกที่ท่านมีต่อ
บทที่ 37 ผู้อยู่เบื้องหลังแต่ทันใดนั้นเองก่อนที่ดาบจะฟาดลงมาที่บ่าของเสี่ยวลี่เหมยมีดาบอีกด้ามมาขวางเสียก่อน เจียวหั่วดีใจที่เสี่ยวลี่เหมยปลอดภัยแม้ไม่รู้ว่าบุรุษที่โผล่เข้ามาช่วยนั้นคือผู้ใด เขาสวมชุดสีดำคล้าย ๆ คนกลุ่มนี้ปกปิดใบหน้าด้วยเช่นกันแต่ก็มองออกเพราะชุดเนื้อผ้าคนละแบบ"ทำไมต้องมาขวางด้วย ข้าจจะจัดการสตรีนางนี้" ชายที่จะฆ่าเสี่ยวลี่เหมยเอ่ยถามชายที่ปรากฏตัว แต่ทว่าเขาไม่ตอบอันใดฟาดดาบไม่ยั้งจนชายชุดดำล้มลงพลาดท่า เขารีบคว้าตัวเสี่ยวลี่เหมยขึ้นมาจะพาหนี เสี่ยวลี่เหมยลืมตาเพราะได้ยินเสียงต่อสู้กันนางมองอย่างแน่ชัดผู้ที่มาช่วยคือคุณชายฮุ่ยเจินไม่ผิดแน่ เมื่อเขาคว้าตัวของนางมาประคองจะให้นางขึ้นหลังจะได้หลบหนีทัน เสี่ยวลี่เหมยยอมขึ้นหลังเขาแต่โดยดี เจียวหั่วจึงตะโกนมาบอกเขา"ข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นใครแต่ท่านหวังดีกับนางข้าฝากให้ท่านดูแลนางอย่าให้ได้รับบาดเจ็บ" เขาจับเสี่ยวลี่เหมยขึ้นหลังพยักหน้าให้เจียวหั่วก่อนจะวิ่งหนี้ไปโดยเร็ว ส่วนเจียวหั่วก็ยังคงต่อสู้กับชายที่เหลืออีกคน จนในที่สุดเจียวหั่วก็ได้จัดการจนไม่เหลือสักคนไม่นานกลุ่มขององครักษ์พร้อมทหารที่ตามมาจากวังหลวงได้เดินทางมาอ
บทที่ 36 ตามคนร้ายเสี่ยวลี่เหมยวิ่งสุดแรงจนตามไปพบกลุ่มชายที่ปกปิดใบหน้าพูดคุยกันเพื่อแยกย้ายเพราะตอนนี้ถูกจับได้เสียแล้ว"ตอนนี้พวกเราต้องแยกย้ายก่อน เมื่อครู่ข้าถูกคุณหนูของเรือนนั้นจับได้""ทำไมเจ้าถึงทำงานพลาดเช่นนี้งั้นเอาตามนี้แยกย้ายก่อนจะถูกจับได้อีก" เสี่ยวลี่เหมยจะออกไปยืนกรานแต่ก็ต้องถูกองครักษ์ของเจียวหั่วเข้ามาห้ามเสียก่อน"คุณหนูอย่าทำอันใดบุ่มบ่ามคนพวกนี้มีมากกว่าที่เราเห็นขอรับ จะเกิดอันตรายได้""แล้วเจ้าจะให้ข้าทำเช่นใดจะให้ปล่อยไปอย่างนั้นหรือแล้วก็ไปทำเช่นนี้กับชาวบ้านอีกอย่างนั้นหรือ""ลู่เพ่ยเจ้าใจเย็นก่อน องครักษ์ของข้าได้ตรวจตราดูคนพวกนี้มีมากกว่าเรา ข้าว่าเรากลับเรือนไปตั้งหลักเสียก่อน ตอนนี้ท่านอาของเจ้าเป็นห่วงเจ้ามากเลยรู้หรือไม่!! " เจียวหั่วที่ตามมาถึงคว้ามือของเสี่ยวลี่เหมยให้หยุดตามคนพวกนั้น"ไม่เพคะ หากท่านอ๋องเกรงกลัวคนพวกนั้นก็ทรงปล่อยหม่อมฉัน เพราะหม่อมฉันไม่กลัวเลยสักนิดการตายเจ็บเพียงตอนที่เรายังไม่หมดลม แต่เมื่อเราหมดสติเมื่อไหร่ก็ไม่เจ็บปวดอันใดแล้วเพคะ " สายตาดุดันน้ำเสียงแข็งกร้าวของเสี่ยวลี่เหมยเปล่งออกมาจนเจียวหั่วต้องตกใจ เขาไม่เคยเห็นสีหน้
บทที่ 35 แปลงผักถูกทำลายมาถึงเรือนท่านอารีบปิดประตูเรือนอย่างเร่งรีบ ก่อนจะจับเสี่ยวลี่เหมยให้นั่งที่เก้าอี้เพื่อพูดให้หลานสาวตนเองเปลี่ยนใจ"ลู่เพ่ยเจ้าเห็นหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าว่าเจ้าเปลี่ยนใจเก็บผักไปขายที่ตลาดหมู่บ้านเราเถอะนะ แม้จะได้ไม่มากแต่ยังดีกว่าไม่ได้ข้ากลัวว่าเจ้าจะเจอเช่นดั่งท่านลุง" ซีเหนี่ยวอ้อนวอนขอให้เสี่ยวลี่เหมยเปลี่ยนใจแต่มีหรือที่นางจะกลัวและยอมเปลี่ยนใจอย่างที่ท่านอาขอ"ไม่เจ้าค่ะ ข้าไม่เปลี่ยนใจข้าไม่เชื่อหรอกนะเจ้าคะว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของปีศาจบ้าบออะไรนั่น คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดในเรื่องนี้คือเฒ่าแก่เจ้าของร้านรับซื้อผักมิใช่หรือเจ้าคะ ไม่แน่นี่อาจจะเป็นฝีมือของเขาก็ได้ ข้าจะทำให้ชาวบ้านได้เห็นเองว่าหากข้าไปขายที่อื่นจะไม่มีอันใดเกิดขึ้น" เสี่ยวลีเหมยโมโหแทนชายชราที่ถูกทำลายแปลงผัก และนางก็ไม่กลัวที่ท่านผู้เฒ่าข่มขู่อีกด้วย "ไม่ได้นะ!!! หากเกิดเรื่องขึ้นกับเจ้าข้าจะเอาหน้าที่ไหนไปพบท่านพี่""ซีเหนี่ยวท่านเบาใจเถิด หากนางอยากจะนำผักไปขายที่หมู่บ้านอื่นข้าจะไปเป็นเพื่อนนางเองท่านไม่ต้องห่วง หากมีข้าอยู่เคียงข้างข้าไม่ให้นางได้รับอันตรายแน่นอน " เสี่ยว