หลังจากที่ทำงานเสร็จแล้วยิ้ม ญานิตาก็พาดาราสาวในสังกัดกลับมาส่งที่บ้าน เพราะได้เวลาที่เขมิกาต้องใช้พักผ่อน การทำงานของเขมิกานั้นไม่เคยมีข้อบกพร่อง เธอตั้งใจทำงานทุกชิ้นให้ออกมาอย่างดีและสมราคาที่คนจ้างใช้เงินจ้างเธอไปทำงานให้ จนได้รับคำชมจากผู้ใหญ่ออกมาให้ได้ยินอยู่ตลอด เธอจึงขอให้ตนเองมีเวลาพักผ่อนส่วนตัวหลังจากเลิกงานในทุกๆ วัน และเธอจะไม่รับงานซ้อนกัน
ติ๊ง....ติ๊ง.....ติ๊ง...........
เสียงข้อความแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของเข็ม เขมิกาดังขึ้นไม่ขาดสายจนหญิงสาวต้องหยิบมันขึ้นมาเปิดดู ‘ธาวิน’ เธอกำลังงงกับชื่อของคนที่ส่งข้อความมาหาเธอ ‘ใครเมมชื่อนี้กัน ทำไม เอ๊ะ คุ้นๆ ’ ขณะที่กำลังคิดในใจภาพอดีตก็ย้อนกลับมาเป็นฉากๆ
5 ปีก่อน
วันที่บิดาบอกว่าจะมีแขกมาแนะนำให้บุตรชายและบุตรสาวได้รู้จัก ทั้งเรวัตและเขมิกานั้นต่างไม่ได้คาดคิดว่าจะเป็นคนที่พวกเขารู้จัก
“ไงไอ้กร สวัสดีจิน สบายดีนะ” เผ่าภูมิเอ่ยทักทายเพื่อนรักและภรรยา
“สบายดี สวัสดีครับน้องกาญ” ฐนกรตอบเพื่อนรักก่อนที่จะหันไปทักทายภรรยาของเพื่อนสนิท
“สวัสดีค่ะพี่กร สวัสดีค่ะพี่จิน” กาญจนายกมือไหว้ก่อนที่จะกล่าวทักทายสองสามีภรรยาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับสามีของเธอ ทั้งสองรับไหว้หญิงสาวรุ่นน้องที่เป็นภรรยาของเพื่อนสนิทของทั้งคู่
“เข้าบ้านกันก่อนเถอะ เออแล้วนี่ลูกชายคนเดียวของแกหรอไอ้กร” เผ่าภูมิเอ่ยชวนสองสามีภรรยาก่อนที่จะหันไปมองเด็กชายที่มีใบหน้าดูหล่อเหลาตั้งแต่เด็ก
“สวัสดีครับคุณลุงภูมิ คุณป้ากาญ” เด็กน้อยวัย8ขวบยกมือไหว้ก่อนที่จะเอ่ยทักทายผู้ใหญ่ทั้งสอง ทั้งเผ่าภูมิและกาญจนาต่างส่งยิ้มให้ก่อนที่จะยกมือรับไหว้
สองสามีภรรยาพาครอบครัวของฐนกรเข้าไปคุยกันต่อภายในบ้าน ทั้งสองครอบครัวเป็นเพื่อนกันมานานโดยเฉพาะ เผ่าภูมิ ฐนกรและรุจิรา ทั้งสามเรียนเกี่ยวกับเภสัชมาด้วยกัน ขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งสามกำลังนั่งคุยกันอยู่กับอีกหนึ่งเด็กชาย ที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ เสียงของเด็กชายหญิงคุยกันดังมาจากบันไดชั้นสองของบ้าน ผู้ใหญ่ทั้งสามเลยหยุดคุยกัน
“นั่นเสียงลูกชายกับลูกสาวแกใช่ไหมวะ” เสียงของฐนกรเอ่ยถามขึ้น
“เออ คุยอะไรกันเสียงดังเชียวฮ่าๆ” เผ่าภูมิตอบก่อนที่จะขำออกมา เด็กชายหนึ่งเดียวมองไปยังประตูทางเข้าห้องรับแขกที่ตนนั่งอยู่กับผู้ใหญ่ทั้งสาม ร่างเล็กของเด็กชายและเด็กหญิงเดินเข้ามาด้านใน ก่อนที่เด็กชายทั้งสองจะตะโกนเรียกกัน
“ไอ้วิน!!!”
“ไอ้เรียว!!!”
“อ้าว รู้จักกันแล้วหรอลูก” รุจิราเป็นฝ่ายเอ่ยถามบุตรชายขึ้น ธาวินหันมาพยักหน้าให้มารดา
“นั่นลูกสาวคนเล็กแกหรอวะ โอ้โห สวยตั้งแต่เด็กเลยนะเนี่ยไอ้ภูมิ” ฐนกรมองเลยไปยังร่างเล็กของเด็กหญิงวัย5ขวบก่อนที่จะถามเพื่อนและเอ่ยชมออกมาจากใจ
“นั่นสิ อยากมีลูกสาวขึ้นมาเลยอะ” รุจิราเอ่ยขึ้นบ้างจนสามีมองหน้าแล้วเอ่ยแซว
“ถ้างั้นมีอีกคนดีไหม เผื่อจะสวยแบบลูกสาวไอ้ภูมิบ้าง” รุจิราส่งค้อนให้กับสามี ส่วนเผ่าภูมิกับกาญจนาก็หัวเราะออกมาด้วยความขำ
“น้องเรียว น้องเข็ม มาสวัสดีลุงกรกับป้าจินก่อนลูก” กาญจนาเป็นฝ่ายเรียกบุตรทั้งสอง
ทั้งเรวัตและเขมิกาเดินมาตรงหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองก่อนที่จะยกมือพนมไหว้อย่างอ่อนน้อม จนคนมองยังอดที่จะทึ่งกับบุตรทั้งสองของเพื่อนรักไม่ได้ ช่างเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายเสียจริง น้องเข็มช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก ถ้าได้เป็นสะใภ้ในอนาคตคงจะดีไม่น้อย
“ลูกสาวสวยขนาดนี้ จินขอจองไว้ให้ตาวินได้ไหมคะ” เสียงหวานของรุจิราทำเอาสองสามีภรรยาชะงัก โดยเฉพาะคนเป็นสามี เขมิการู้ดีว่าผู้ใหญ่กำลังพูดถึงเรื่องอะไร เธอหันไปมองหน้าพี่วินคนดี ที่ช่วยไม่ให้เธอโดนลูกฟุตบอลฟาดหน้าในวันนั้น เขาหันมามองหน้าเธอเช่นกัน ก่อนที่เด็กทั้งสองจะส่งยิ้มให้กันน้อยๆ
“เอาไว้โตค่อยคุยกันเถอะยัยจิน ลูกสาวฉันเพิ่งจะ5ขวบ มาจงมาจองไว้อะไรกันหึๆ” เผ่าภูมิเอ่ยออกมาเสียงเย็นจนใครๆ ก็มองออกมาเขาเป็นคุณพ่อที่แอบหวงบุตรสาวอยู่พอตัว
“ฮ่าๆๆ ฉันก็แค่พูดเล่น แต่ถ้าในอนาคตเด็กสองคนจะรักจะชอบกัน หวังว่านายคงจะไม่ขัดข้องนะ” รุจิราเอ่ยขึ้นทีเล่นทีจริง
“ก็รอโตก่อนค่อยว่ากัน อีกอย่างตอนนี้ลูกสาวของฉันกำลังจะไปเป็นนักแสดง ในอนาคตก็ไม่รู้ว่าจะมีแฟนได้หรือเปล่า แต่ยังไงก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะ” เผ่าภูมิเอ่ยออกมาก่อนที่จะมองไปที่เด็กทั้งสอง
ปัจจุบัน.....สวัสดีครับ นี่น้องเข็มใช่ไหม....พี่ชื่อวิน ธาวิน วัฒนมงคลพัฒน์ น้องเข็มจำพี่วินได้ไหมคะ....พี่เป็นเพื่อนของไอ้เรียว พี่ชายเข็มไง....น้องเข็มสบายดีไหมคะ ไปมหาวิทยาลัยวันนี้วันแรกมีปัญหาอะไรไหมเอ่ยสายตากลมไล่อ่านข้อความตั้งแต่แรกจนไปถึงข้อความล่าสุด ภาพในอดีตย้อนกลับมาในวันที่เธอและเขาได้พบกันอย่างเป็นทางการ เจอกันในฐานะลูกสาวและลูกชายที่พ่อแม่เป็นเพื่อนสนิทกัน หลังจากวันนั้นเขาก็คอยดูแลเธอตลอดตอนที่อยู่ในโรงเรียน จนใครๆ ก็เข้าใจว่าเขาเป็นแฟนกับเธอ หากแต่ความจริงเขาดูแลเธอในฐานะพี่ชายเท่านั้น เธอจำได้ว่าพี่วินเพื่อนพี่เรียวนั้นพอเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เขาก็ไปเรียนต่อปริญญาตรีที่เมืองนอก จากนั้นเธอก็ไม่ได้ข่าวคราวของเขาอีกเลย แม้แต่พี่ชายของเธอก็ไม่เคยพูดถึง หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตัก ‘นี่ทำไมเขามีเบอร์เธอ แล้วทำไมโทรศัพท์ของเธอถึงได้มีเบอร์เขา ต้องเป็นพี่เรียวอย่างแน่นอน’ หญิงสาวคิดในใจ ก่อนที่จะได้ยินพี่ยิ้ม ผู้จัดการส่วนตัวเอ่ยถามขึ้น“ใครส่งข้อความมาคะน้องเข็ม”“อ้อ... พี่วินน่ะค่ะ พี่วินที่เป็นลูกชายเพื่อนสนิทของคุณพ่อ และตัวพี่เขาก็เป็นเพื่อนสนิทของพี่เรียวด้วย
หลังจากที่ทำงานเสร็จแล้วยิ้ม ญานิตาก็พาดาราสาวในสังกัดกลับมาส่งที่บ้าน เพราะได้เวลาที่เขมิกาต้องใช้พักผ่อน การทำงานของเขมิกานั้นไม่เคยมีข้อบกพร่อง เธอตั้งใจทำงานทุกชิ้นให้ออกมาอย่างดีและสมราคาที่คนจ้างใช้เงินจ้างเธอไปทำงานให้ จนได้รับคำชมจากผู้ใหญ่ออกมาให้ได้ยินอยู่ตลอด เธอจึงขอให้ตนเองมีเวลาพักผ่อนส่วนตัวหลังจากเลิกงานในทุกๆ วัน และเธอจะไม่รับงานซ้อนกันติ๊ง....ติ๊ง.....ติ๊ง...........เสียงข้อความแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของเข็ม เขมิกาดังขึ้นไม่ขาดสายจนหญิงสาวต้องหยิบมันขึ้นมาเปิดดู ‘ธาวิน’ เธอกำลังงงกับชื่อของคนที่ส่งข้อความมาหาเธอ ‘ใครเมมชื่อนี้กัน ทำไม เอ๊ะ คุ้นๆ ’ ขณะที่กำลังคิดในใจภาพอดีตก็ย้อนกลับมาเป็นฉากๆ5 ปีก่อนวันที่บิดาบอกว่าจะมีแขกมาแนะนำให้บุตรชายและบุตรสาวได้รู้จัก ทั้งเรวัตและเขมิกานั้นต่างไม่ได้คาดคิดว่าจะเป็นคนที่พวกเขารู้จัก“ไงไอ้กร สวัสดีจิน สบายดีนะ” เผ่าภูมิเอ่ยทักทายเพื่อนรักและภรรยา“สบายดี สวัสดีครับน้องกาญ” ฐนกรตอบเพื่อนรักก่อนที่จะหันไปทักทายภรรยาของเพื่อนสนิท“สวัสดีค่ะพี่กร สวัสดีค่ะพี่จิน” กาญจนายกมือไหว้ก่อนที่จะกล่าวทักทายสองสามีภรรยาซึ่งเป็นเ
จิ๋ว จิราภรในการมีชีวิตใหม่มาเป็นเข็ม เขมิกา เติบโตมาอย่างดีบนเส้นทางสายการแสดงที่เธอวาดหวังก่อนที่จะมาเกิดใหม่ก็ประสบความสำเร็จ ชาติก่อนเธอไม่มีแม้แต่เพื่อนสนิทหากแต่ชาตินี้เธอได้พบกับมิ้น ลลิตาเพื่อนแท้ที่มองไปข้างๆทีไรก็มักจะเห็นเธออยู่ตลอด ทุกครั้งที่ทั้งคู่ไปทำงานด้วยกันนั้นจะมีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่สดใส จริงใจให้แก่กันเสมอ หากแต่เมื่อทั้งคู่เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่6 มิ้น ลลิตาได้ขอพักงานในวงการบันเทิงก่อนที่จะเดินทางไปเรียนต่อที่เกาหลีเนื่องจากมารดาของเธอถูกส่งตัวไปช่วยงานที่โรงพยาบาลของที่โน่น ทำให้มิ้น ลลิตาต้องพักความฝันของตนไว้ชั่วคราว และต้องห่างเพื่อนสนิทที่คบกันมานานถึง6ปี“มิ้น เมื่อไหร่จะกลับจากเกาหลีสักที” เสียงหวานเอ่ยถามเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวด้วยความคิดถึง“ปิดเทอมจะกลับไปหานะเข็ม” ทั้งสองพยายามกลั้นสะอื้นเอาไว้ ทั้งคู่ไม่เคยต้องห่างกันไกลขนาดนี้มาก่อนและการจากกันไกลครั้งนี้ มันก็กินเวลานานจนเขมิกาเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 ร่างบางสูงโปร่งในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยดังกำลังก้าวลงจากรถตู้คันหรูที่ใช้เป็นยานพาหนะในการดูแลศิลปินนักแสดงในสังกัด ทั้งนักศึกษาและอาจา
5ปีผ่านไป เด็กหญิงเขมิกาและเด็กหญิงลลิตาในวัย10ขวบกำลังนั่งให้พี่ๆ ช่างแต่งหน้า แต่งหน้าอยู่ภายในห้องกว้างๆ ที่มีโต๊ะกระจกเป็นทางยาว นางแบบนายแบบตัวน้อยหลายคนกำลังถูกปรับเปลี่ยนโฉมของตนโดยฝีมือของพี่ๆ ช่างแต่งหน้าที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมานานเพื่อให้เข้ากับชุดที่ต้องเดินแบบ 5 ปีที่ผ่านมา เด็กน้อยทั้งสองจับมือกันเดินบนเส้นทางสายบันเทิง ดนตรี และนางแบบ มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย ทุกคนต่างรอคอยในวันที่เด็กๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ เพื่อรับบทบาทที่ท้าทายมากยิ่งขึ้นไป “น้องเข็มนี่ยิ่งโตก็ยิ่งสวยนะคะเนี่ย สวยแบบหาตัวจับยากเลยล่ะค่ะ” ช่างแต่งหน้าที่กำลังง่วนอยู่กับใบหน้าสวยหวานของนักแสดง นางแบบเด็กเอ่ยชมออกมา “จริงค่ะ เท่าที่ยิ้มดูพัฒนาการความสวยของน้องเข็มมา ตามที่พี่ว่าก็ไม่ผิดเลยค่ะ เบ้าหน้าดีมาก ราวกับฟ้าประทานมาให้อย่างไรอย่างนั้น” ยิ้ม ญานิตาเอ่ยขึ้นขณะมองไปที่ใบหน้าหวานของเด็กน้อยวัย10ขวบ เธอดูแลเด็กทั้งสองมา5ปีแล้ว เห็นพัฒนาการความสวยของเด็กๆ ทั้งสองเป็นอย่างดี “น้องมิ้นก็สวยนะคะ ไม่ต้องแต่งอะไรมากเลย ใบหน้าคม คิ้วนี่ด๊กดกค่ะ” ช่างแต่งหน้าฝั่งมิ้น ลลิตาเอ่ยชมเด็กหญิงที่ตนกำลังบรรจงแต่งหน้าใ
“พี่วิน..............” เสียงหวานของเด็กน้อยดังขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงของเพื่อนพี่ชายทรุดลง“เฮ้ย!!!!! ไอ้วิน เป็นไงบ้างวะ พวกมึงเตะฟุตบอลประสาอะไรวะ เกือบโดนน้องสาวกูแล้วเนี่ย” เรวัตรีบวิ่งเข้ามาดูน้องสาวและเพื่อนรัก ก่อนที่จะหันไปด่าเพื่อนๆที่มายืนรุมดูพวกเขาอยู่ “ขอโทษทีไอ้วิน กูไม่ได้ตั้งใจ น้องเข็มพี่ขอโทษนะครับ” เด็กชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “กูไม่เป็นไร แค่จุกๆ ไปเล่นกันต่อเถอะไป” ธาวินเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะหันไปมองเด็กหญิงตัวน้อยน้องสาวของเพื่อนสนิท“น้องเข็มไม่เป็นไรนะครับ” น้ำเสียงน่าฟังดังมาจากเพื่อนของพี่ชาย เขมิการู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจ หากไม่ได้เขามาบังลูกฟุตบอลให้เธอ เธอคงเจ็บตัวไปแล้ว“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” เด็กน้อยยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยคำขอบคุณ ธาวินได้แต่ส่งยิ้มบางๆให้เพียงเท่านั้น ก่อนที่เขาจะวิ่งเหยาะๆกลับเข้าสนามไป“เฮ้ย!!! มึงไหวหรอวะ” เพื่อนคนหนึ่งในทีมเอ่ยถามขึ้น“ไหวๆ ไม่ต้องห่วง แค่จุก” ธาวินตอบก่อนที่จะมองไปยังเด็กหญิงตัวน้อยที่มองมาที่เขาเช่นกัน เขาส่งยิ้มบางๆให้เธอ เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกผิด เขมิกาส่งยิ้มน้อยๆให้เพื่อนพี่ชายเช่นกัน “พี่วินเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวในละครเลย
ผลงานการแสดงเรื่องแรกของเด็กหญิงเขมิกา โชติกุลเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของผู้ชมแล้วว่าเธอนั้นมีความสามารถในการแสดงมากถึงเพียงใด สมแล้วที่เป็นหลานสาวของซุปตาร์สาวผู้ล่วงลับ โดยไม่มีใครรู้เลยว่า เด็กน้อยเขมิกาคนนี้นั้นก็คือจิราภรที่กลับชาติมาเกิดใหม่นั่นเอง “น้องเข็มแสดงละครเก่งจังเลยค่ะ ครูยังอินกับบทของหนูไม่หายเลย” คุณครูประจำชั้นเอ่ยชื่นชมเด็กหญิงวัยอนุบาลที่มากความสามารถเกินเด็กวัยเดียวกัน “ใช่ๆเข็มเก่งจัง” เพื่อนๆต่างมารุมล้อมเธอ เพราะตอนนี้ละครที่เธอแสดงกำลังออนแอร์ ทางด้านมิ้น ลลิตาเองก็เช่นกัน “แต่เทอมหน้าน้องเข็มจะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับพวกเราแล้วนะ” เสียงครูประจำชั้นสร้างความงุนงงให้กับเด็กๆในห้องได้เป็นอย่างดี“ทำไมคะคุณครู” เด็กๆต่างกรูกันเข้ามาถามคุณครูด้วยความสงสัย“เพราะน้องเข็มจะย้ายไปเป็นพี่ป.1เทอมหน้าแล้วยังไงล่ะจ๊ะ”คุณครูสาวเฉลยให้เพื่อนร่วมห้องของเด็กหญิงเขมิกาฟัง ทุกคนจึงเข้าใจเพราะว่าเพื่อนร่วมห้องคนนี้นั้นพิเศษกว่าใคร ไม่ว่าครูจะสอนอะไร เขมิกาตอบได้แทบจะทั้งหมด “ใช่ๆ เข็มเก่ง เข็มรู้หมดเวลาที่ครูสอน” เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้น “จริงด้วย เข็มไปเป็นพี่น่ะถูกแล้ว” เ