เมื่อเห็นเจ้าของห้องคนสวยยังเงียบผิดปกติวิสัย..ดวงตาคมกริบกลับไล่สายตาสำรวจหน้านวลใส...ลงไปยังชุดเดรสสีขาวสุดแสนเซ็กซี่ตัวเก่าที่ตอนนี้มีรอยยับย่น..สายตาของเขา..พานให้หญิงสาวผู้แทบไม่ค่อยออกจากบ้าน..หน้าร้อนเห่อ เต็มไปด้วยความกระดากอาย
“แล้วนี่อีก..ตงให้อ้ายไปอาบน้ำ ทำไมยังไม่ไปอีก”
คำพร่ำบ่นด้วยความเป็นห่วงเป็นใยของคนตรงหน้า หรือว่าชายหนุ่มจะเป็นแฟนของร่างเดิม? ปากไวเท่าความคิด..น้ำเสียงหวานใสที่ชายหนุ่มไม่ได้ยินก็ดังออกมา และแทนที่จะตอบคำถาม กับกลายเป็นคนตั้งคำถามเสียอย่างงั้น
“เอ่อ...ว่าแต่เราสองคนเป็นแฟนกันเหรอ?”
“มะเหงกนี่ เพ้อเจ้ออะไรของเธอ” ไอ้แขกไม่ได้รับเชิญไม่พูดเปล่ายังเขกกะโหลกน้อยๆ ไปหนึ่งที เล่นเอาคุณหนูตัวปลอมกุมศีรษะด้วยความเจ็บ..ปากเล็กได้รูปถึงกับบึนขึ้น...ยังคงเถียงด้วยความไม่เข้าใจ ถ้าไม่ใช่แฟนกันทำไมเขาถึงต้องมาวุ่นวายกับเธอด้วยล่ะ!
“แล้ว..ทำไมคุณต้องมาอยู่ห้องฉัน”
“ถ้าเราไม่มาอยู่เป็นเพื่อน เดี๋ยวเธอก็ทำอะไรบ้าๆ อีกอ่ะดิ นี่ดีนะรอบนี้เราแวะมาหาเธอที่ห้อง ไม่งั้นจะมีคนรู้มั้ยว่าเธอป่วย!”
“คุณพาฉันไปส่งโรงพยาบาล?”
"ถ้าไม่ใช่ตง แล้วใครจะพาอ้ายไป..ถามแปลกๆ อีกล่ะ"
"..."
“เอาเถอะ เลิกพูดมาก แล้วนี่ก็รีบกินซะ เดี๋ยวคืนนี้จะนอนเป็นเพื่อนจะได้หายงอนเราสักที” คำพูดของไอ้ผู้ชายหน้าหล่อ ส่งผลให้คนตัวเล็กกว่าถึงกับเบิกตากว้าง
"นอนที่นี่?"
"อือ คราวก่อนขอโทษทีที่มาอยู่เป็นเพื่อนไม่ได้"
"คุณ.."
"วันนี้เธอเป็นอะไรของเธอ หึ ทำไมพูดเพราะ?"น้ำเสียงบูรพาเต็มไปด้วยความสงสัย อีกทั้งมือหนาใหญ่ยังหันมาประคองแก้มนวลใส ให้หันมาประจันหน้า..ดวงตาคมกริบสีอ่อนของคนตัวโตหรี่มอง
ในขณะที่ดวงตาหวานซึ้งสีน้ำตาลอ่อนใสกระจ่างเต็มไปด้วยความตกใจ ช่างผิดแผกจากดวงตาร้าวราน ปนกร้านโลกอย่างที่แล้วมา
"เอ่อ...คุณ..ไม่ใช่ซิ นายช่วยปล่อยแก้มฉันก่อนได้มั้ย"เสียงหวานกระซิบขอร้อง ซึ่งถ้าเป็นในยามปกติ ยัยเพื่อนรักต้องมีด่าขึ้นสรรพนามพ่อขุนรามไปแล้ว!
"เฮ้ย อ้ายเธอผีเข้าหรือเปล่าวะเนี่ย!"
คนถูกหาว่าเป็นผี และเป็นผีตัวจริงถึงกับสะดุ้งโหยง รีบส่ายศีรษะเป็นพัลวัน
"บะ..บ้าเหรอ ใครผีเข้า คุณนั่นแหละผีเข้า!!"
"คุณอีกล่ะ เราว่านะอ้าย เมื่อวันก่อนที่ไข้ขึ้นสูง..มันทำให้สมองเธอเพี้ยน ใกล้ปัญญาอ่อนละป่ะ เราว่านะ...เธอควรแอดมิทอีกรอบให้หมอสแกนสมองดีมั้ย เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยทัน"ไม่พูดเปล่า คนตัวโตยังมีหน้ามาจับศีรษะเจ้าของห้องพลิกไปพลิกมาราวกับสมองมีปัญหาตามปากว่าซะอย่างงั้น
เล่นเอาคุณหนูตัวปลอมชักโกรธ...ปากเล็กได้รูปเริ่มสั่น..หลอกด่าขนาดนี้ไม่ตบเธอไปเลยล่ะ!!
แต่ก่อนที่ปาริชาตจะทันได้พูดอะไร ไอ้ผู้ชายตัวโตรีบปล่อยมือเหมือนคนรู้แกว
“ไม่ต้องมองเราขนาดนั้น เรารู้ตัวว่าเราหล่อ” ไอ้ผู้ชายหน้าหล่อเลิกคิ้วข้างเดียวให้ ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวจิกไปที่ช้อนข้าวต้มราวกับบังคับทางอ้อมให้หล่อนต้องจ้วงข้าวเข้าปาก..เจ้าของห้องได้แต่ทำเสียงฮึดฮัด ไม่กล้าอาละวาดมากนัก เพราะกลัวโบ๊ะแตก
บรรยากาศภายในห้องจึงดูประหลาดไม่น้อย..ทว่ากลับน่าแปลก..กายหยาบของหญิงสาวราวกับคุ้นชินผู้ชายข้างตัวไม่น้อย..ความรู้สึกอบอุ่นบางอย่างวาบขึ้นกลางใจ
"ดื้อ"เสียงทุ้มต่ำลอยขึ้นมา ส่งผลให้คนตัวเล็กที่กินข้าวได้เกือบครึ่งชามเงยหน้าขึ้น
"คุณว่าใคร?"
"ก็อยู่กันแค่สองคน..เราว่าตัวเองมั้ง?"น้ำเสียงยียวนของไอ้แขกไม่ได้รับเชิญน่าโดนฟาดสักทีสองที ริมฝีปากบางสวยเม้มแน่น
ท่าทีอันสงบไม่ด่าพ่อล่อแม่เขาเหมือนทุกที..มันก็ชวนให้บูรพาประหลาดใจไม่น้อย หรือตีความได้อีกอย่าง..เจ้าหล่อนคงยังงอนเขาอยู่เป็นแน่..เดือนวิศวะจอมห่ามยังยั่วแหย่ต่อไม่หยุด..เรื่องของเรื่องอยากให้สาวเจ้าด่าสักคำสองคำ..ให้เขารู้ว่าเจ้าหล่อนอยู่ในภาวะ 'ปกติ'
"นี้"
"..."
"เด็กดื้อ"
"เราไม่ใช่เด็ก..แล้วเราก็ไม่ได้ดื้อด้วย"เสียงของคุณหนูสามตัวปลอมชักจะหงุดหงิด..ผู้ชายที่หล่อนสนิทที่สุดก็ไม่เห็นจะเกรียนกวนแบบนี้เลย
"เออๆ ไม่เด็กก็ไม่เด็ก..กินเสร็จละใช่ปะ"เขาพูดพร้อมกับเก็บกวาดชามไว้บนถาดเป็นที่เรียบร้อย
กว่าที่เอื้อมนางจะรู้ตัว..ร่างสูงใหญ่ก็จ้ำอ้าวไปที่ประตู พร้อมส่งรอยยิ้มทะเล้นยักคิ้วหลิ่วตา และส่งคำพูดสำทับมาอีกรอบ
"รีบอาบน้ำได้แล้ว บอกไว้ก่อนนะ ถ้าตัวเหม็นเราจะไม่นอนด้วยน้า"
ใครกันจะอยากให้นอนด้วย พิลึกคนชะมัด
แต่ถึงแม้ในใจจะบ่นอุบ ทว่าความเป็นจริงแล้วกับต้องจำยอมให้นายตงอะไรเนี่ยมานอนร่วมเตียงด้วย เพราะเรื่องของเรื่องหล่อนยังไม่อยากโบ๊ะแตกว่าไม่ใช่วิญญาณตัวจริง อีกทั้งยังต้องควานหาความปรารถนาที่แท้จริงของปาริชาตคนเดิม และทำมันให้สำเร็จด้วย..ซึ่งไม่แน่ว่าไอ้ผู้ชายหน้าหล่อที่ทำตัวห่ามๆ อาจมีเบาะแสสำคัญบางอย่าง
ขณะเดียวกันหล่อนยังมีภารกิจแก้แค้นตระกูลเดิม ซึ่งตอนนี้หนทางยังคงมืดแปดด้าน พานให้หัวสมองน้อยๆ แทบระเบิดด้วยความเครียด
ดังนั้นหลังจากอาบน้ำ และพยายามคุ้ยหาชุดนอนที่ดูเรียบร้อยที่สุดๆ ออกจากตู้ ซึ่งก็เจอแต่ชุดนอนสายเดี่ยววอมๆ แวมๆ สุดแสนจะเซ็กซี่ และจะให้เธอมาสวมชุดแบบนี้นอนร่วมเตียงกับผู้ชาย เธอก็ทำไม่ได้!
ผลลัพธ์ที่ดูดีสุดจึงเป็นเสื้อยืดสีขาว กับกางเกงวอมยาวสีเขียวที่ยังคงมีสัญลักษณ์ของทางมหาวิทยาลัยแปะหราอยู่ คุณหนูตัวปลอมถึงกับยิ้มพอใจ สิริรวมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จภายในสิบนาที แถมทำอะไรเสร็จปุ๊บ..ก็กระโจนขึ้นเตียงนอนหลับปั๊บตามประสาเด็กอนามัยที่นอนแต่หัวค่ำ เล่นเอาชายหนุ่มผู้เอาถ้วยชามไปเก็บ เปิดประตูห้องมาถึงกับประหลาดใจ
บูรพาวางแก้วนมสดไว้บนโต๊ะหน้าทีวี ก่อนจะเดินไปข้างเตียง..ดวงตาสีอ่อนโน้มหน้ามองดูใบหน้าเล็กๆ ที่ปราศจากเครื่องสำอาง..ก้านนิ้วชี้เกลี่ยข้างแก้มใสของเพื่อนรักด้วยความเอ็นดูปนสงสาร
ยัยตัวร้ายของเขาน่าจะเหนื่อยจริงๆ ไม่งั้นคนที่นอนยากอย่างเธอคงได้มีบ่นให้เขาฟังทั้งคืน
เช้ามาปาริชาตคนใหม่สะลึมสะลือขยี้หูขยี้ตาตื่น..ผมสีน้ำตาลคาราเมลยาวสลวยยุ่งเหยิง..ขณะที่เตียงด้านข้างมีเพียงรอยยวบยับยุ่งอันเป็นหลักฐานว่ามีใครบางคนมานอนเป็นเพื่อนหล่อนจริงๆ ส่วนกายหยาบนั้นหายตัวไปตอนไหนก็ไม่อาจจะรู้ได้
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งวัน ก็มีแต่เรื่องที่ชวนให้ประหลาดใจ ตั้งแต่สถานะภายในครอบครัว ไปจนถึงผู้ชายหน้าหล่อที่คอยดูแลเธอทั้งคืน...แถมยังสามารถเข้าๆ ออกๆ ห้องนอนเธอได้หน้าตาเฉย..ไม่พอพ่อกับแม่เจ้าของร่างเดิมดันปล่อยผ่านซะอย่างงั้น
คนไม่ใช่แฟน..แต่ดันดูแลฟิลแฟน หล่อนชักอยากจะรู้นัก ความสัมพันธ์ของคนคู่นี้คืออะไรกันแน่ ถึงแม้ไอ้หน้าหล่อจะพร่ำบอกว่าเป็นแค่เพื่อนก็เถอะ!!
เอื้อมนางได้แต่บ่นอุบกับสถานการณ์พิลึกพิลั่นในใจ มือเรียวก็ค้นหาเสื้อผ้าในตู้ที่ดูเรียบร้อยหน่อยมาใส่..แต่ให้ตายเถอะ เทสการแต่งตัวของปาริชาตคนเดิม คำว่า 'เร่าร้อน' ยังน้อยไป เพราะในตู้เสื้อผ้าละลานตาเรียงตามสีนั้น..เต็มไปด้วยชุดเดรสปิดบนเปิดล่าง..ปิดล่างเปิดบน ส่วนเสื้อยืดที่ดูธรรมดา ก็มีแต่ตัวสั้นกุด..ฟิลเปิดพุง..เธอไม่รู้ด้วยซ้ำแฟชั่นที่ว่ามันเรียกว่าอะไร
คุณหนูปาริชาตตัวปลอมจำใจเลือกเสื้อยืดเปิดพุงสีขาวแขนสั้นขึ้นมาตัวหนึ่ง พร้อมกับหยิบกางเกงยีนขายาวสีซีดขึ้นมาอีกตัว..ซึ่งพอมาอยู่ในร่างเพรียวระหงก็ดูดีไม่น้อย..ผมยาวสลวยสีน้ำตาลคาราเมลถูกมือน้อยมัดรวบเป็นหางม้าอย่างง่ายๆ
โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือบ่งบอกเวลาเกือบเก้าโมง..เจ้าตัวตัดสินใจโยนมันใส่กระเป๋าแบรนด์เนมใบที่ดูใหญ่ที่สุด..วันนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่หล่อนต้องทำ
ช่วงเช้า
บริเวณห้องอาหารสุดหรูเวลานี้กับไร้ผู้คน..ถ้าบรรดาสมาชิกในครอบครัวไม่ตื่นเช้ามาก..ก็คือสายมาก ร่างเพรียวระหงจึงเลือกเดินไปหย่อนตัวลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง ดวงตาคู่สวยกวาดมองหาคนงานภายในบ้าน
จนปะทะกับหญิงสาวอายุราวๆ สิบหกสิบเจ็ด ในชุดยูนิฟอร์มเหมือนคุณป้าที่หล่อนเจอหน้าบ้านเมื่อวาน เสียงหวานใสราบเรียบเอ่ยขึ้น
"เธอ"
"..."
"นี้เธอที่ขัดตู้ ได้ยินฉันพูดมั้ย?"น้ำเสียงคนตัวเล็กเริ่มเย็นชา..คนถูกเรียกที่แกล้งเป็นไม่ได้ยินถึงกับตัวสั่น ก่อนจะเดินตัวลีบเข้ามาหา
'ดวงซวยอะไรของเธอกันนะ ที่ต้องมาเจอคุณหนูสามจอมวีน..ปกติเจ้าหล่อนกว่าจะตื่นก็เกือบเที่ยง..วันนี้นึกคึกอะไรถึงตื่นเวลานี้'
หลังแต่งงานคุณหญิงปิ่นผู้เป็นมารดา รวมปัจจุบันควบสถานะคุณย่าคุณยายยังคงคอยตามดูแลบรรดาลูกๆ หลานๆ เฉกเช่นผู้หญิงยุคเก่า วันนี้ก็เช่นกันหญิงวัยเกษียณอายุหอบขนมนมเนยรวมถึงของเล่นมาเปย์หลานสาวสุดที่รักถึงคฤหาสน์หลังใหม่ ไม่ไกลจากคฤหาสน์เก่านักทว่าสิ่งที่แตกต่างจากในอดีตคงเป็นเรื่องที่หล่อนแยกบ้านกับนายแพทย์ธนงเกียรติ์ผู้เป็นสามีเป็นที่เรียบร้อยแล้วย้อนไปเมื่อสี่ปีก่อนเอื้อมนางตัดสินใจนัดมารดาของร่างเดิมออกมาคุยนอกบ้าน ซึ่งคุณหญิงปิ่นเองก็แปลกใจไม่น้อย..เพราะช่วงหลังๆ ลูกสาวคนที่สามมีพฤติกรรมเหินห่างอย่างเห็นได้ชัด..จริงอยู่ลูกรู้ประสาเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นรวมถึงไอ้ที่เคยเรียกร้องความรัก..ความสนใจก็หายไปด้วยแต่ก็น่าแปลกมันก็เหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่าลูก 'ไม่ต้องการ' เธอแล้ว..ที่หลงเหลือจึงมีแค่ 'ความเคารพ' ให้แก่ผู้สูงวัยกว่าก็เท่านั้นเองใช่...ราวกับว่าเธอได้สูญเสียลูกสาวไปตลอดกาล..ทั้งที่ลูกก็ยังมีชีวิตอยู่ดังนั้นตอนที่อ้ายโทรหา...คนเป็นแม่จึงตกปากรับคำทันที แต
ท้าวความไปช่วงก่อนนายบูรพา และนางสาวปาริชาติ (ตัวปลอม) แต่งงานวิญญาณอ้ายตัวจริง...ผู้ยังมีบุญกุศลในอดีตชาติ...ก็กำลังรอเกิดอยู่เช่นกันหญิงสาวมีโอกาสเกิดในครอบครัวดีๆ รวยๆ หลายครั้ง แต่ไอ้ต้าวดื้อยังคงปฏิเสธ เล่นเอาพี่พญายมประจำตัว แทบอยากลากเจ้าหล่อนลงนรกให้จบๆ ไป เพียงแต่กรรมดีในหลายภพหลายชาติ ทำให้เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้“เฮ้อ...นังหนูเลือกสักครอบครัวเถอะ ข้าจะได้ไปทำงานทำการอื่น”น้ำเสียงแกมระอา แทบไม่กระทบความรู้สึกยัยวิญญาณตัวแสบแม้แต่น้อย เจ้าหล่อนยังเถียงคอเป็นเอ็น“ไม่! อ้ายจะไปอยู่กับเพื่อน”“แต่เจ้าก็เห็นกว่าคู่นั้นจะแต่งคงอีกหลายปี” ชายในชุดโจงกระเบนสีแดงยังยกเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาเสริม..แต่มีหรือวิญญาณจอมดื้อจะฟัง“เป็นแฟนกันก็เอากันได้ป่ะพี่..นี้อะไรคบกันจนเรียนใกล้จะจบยังไม่ยอมมีอะไรกัน...หรือว่าอีตาตงนางเสื่อมสภาพทางเพศ”“แค่กๆ ข้าว่า เจ้ามนุษย์ผู้ชายก็ปกตินะ”“ปกติกับผีดิพี่ แล้วเอื้อมนางทำอะไรของนาง...
บูรพาสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ..เนื้อตัวเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเหนียวเหนอะหนะ..อวัยวะฝั่งซ้ายเต้นระรัวราวกับหลุดออกจากขั้ว..ภาพฝันราวกับเรื่องจริง..ทว่าก็แทบจะไม่ต่างจากเรื่อง 'โกหก'มือหนาหยาบชื้นเหงื่อเปลี่ยนมาลูบหน้าเพื่อเรียกสติ..ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวเหลือบตามองไปยังหน้าต่างที่ยังคงเปิดเอาไว้..ลมพัดผ่านม่านไหวๆ...แดดเช้าสาดส่องเข้ามาส่งผลให้ภายในห้องติดจะอบอ้าวไม่น้อยภาพเมื่อคืนกลับลอยวาบขึ้นมา..ระหว่างที่กำลังนอนกลิ้งไปมากลิ้งมารอดูบอลรอบดึก..ชายหนุ่มผมสีเงินยวงในชุดสูทสีขาวอยู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาจากไหนก็ไม่อาจรู้ได้คำว่า 'ขโมย' ผุดขึ้นมาในหัวเป็นสิ่งแรก ทว่า..รูปร่างที่งดงามเกินกว่ามนุษย์บนโลกนี้จะมี..โดยเฉพาะรอยยิ้มละมุน..บวกกับดวงตาใสกระจ่างเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์เมตตา ช่างห่างไกลกับคำว่า 'หัวขโมยเสียเหลือเกิน'"นะ..นายเป็นใคร เข้ามาในห้องฉันได้ยังไง"เสียงที่คิดว่าตะโกนถาม ทว่าพอเอ่ยออกมาเสียงกับเบาราวเสียงกระซิบ..ชวนให้แม้แต่เจ้าตัวยังแปลกใจ แขกผู้ไม่ได้รับเชิญยังคงอารมณ์ดีไม่น้อย...ทั้งยังแนะนำตัว ก่อนจะตั้งคำถามว่า"ข้าชื่อโครนอส..เจ้าอย
ลูซิสได้ยินจึงยกยิ้ม...ใบหน้างดงามเริ่มบิดเบี้ยว..จากเดิมที่นังผู้หญิงประหลาดยินยอมเป็นวิญญาณเร่ร่อน..อีกทั้งปฏิเสธไม่ยินยอมทำสัญญาก็ว่าหายากแล้ว..แต่ไอ้คนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับชาวบ้านเขาดันมาขอทำสัญญายิ่งพิกลมากกว่าจะมีด้วยรึ..มนุษย์ที่รักคนอื่นมากกว่าตัวเอง!“ดีๆ ข้าก็อยากรู้ว่าเจ้าจะยินยอมจริงมั้ย?”มือเรียวสวยปล่อยลำคอขาวผ่องของมนุษย์เพศหญิงลงทันที…ลมหายใจของคนตัวเล็กแทบขาดวิ่น..ยิ่งเห็นซาตานหนุ่มกำลังย่างก้าวหาชายหนุ่มอันเป็นที่รัก หล่อนก็แทบกรีดร้อง“ฮือออ อย่ายุ่งกับเขา…ถ้าท่านอยากได้วิญญาณ…ก็มาเอาวิญญาณของหนูซิ นายบูรพา..ฮึก ไปซะ…ได้โปรดอย่ามายุ่งกับเรื่องนี้…ได้โปรด”แต่ดูเหมือนวิญญาณของชายหนุ่มไม่มีแม้แต่ความลังเล เขาหันไปยิ้มกับเพื่อนรัก“อ้าย…ตงดีใจนะที่เราได้เจอกัน..ตงขอฝากอ้ายดูแลผู้หญิงคนนั้นด้วยนะ” คำสั่งจากลาแน่วแน่…ส่งผลให้หนึ่งกายหยาบ กับหนึ่งวิญญาณสาวตื่นตะลึง ทั้งสองต่างพยายามวิ่งเข้าหาชายหนุ่มอันเป็นที่รัก.. 'ในความหมายของคำว่ารักต่างกัน
"แล้ว..." เสียงที่ตั้งใจจะถาม..แต่ไม่รู้ว่าควรถามอะไรกับเงียบลง หนึ่งกายหยาบหนึ่งวิญญาณต่างสบสายตา..สิ่งหนึ่งที่สะท้อนสู่ดวงตาคนทั้งคู่ คือ 'ความสับสน' ดังนั้นบรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความเงียบทว่าลูซิสเองกับเริ่มหงุดหงิด..อย่าลืมว่ากว่าเขาจะหาวิญญาณอ้ายตัวจริงมาได้..ต้องสูญเสียพลังและเวลาไม่น้อย!นังวิญญาณตนนี้ก็เหลือเกิน..แทนที่ได้กลับมาเป็นรูปเป็นร่างจะเอ่ยปากทวงร่างเดิมคืน..กลับดันเลือกจะเงียบ"หึ นังวิญญาณเร่ร่อน" ไม่รู้ทำไมพอได้ยินคำว่า 'เร่ร่อน' ทั้งสองถึงกับสะดุ้งดวงตางดงามเกินมนุษย์ถึงกับถลึงตาจ้องมองวิญญาณสาวที่ทำตัวน่าขายหน้านะ"ข้าไม่ได้หมายถึงเจ้านังอ้ายตัวจริง ข้าหมายถึงวิญญาณที่อาศัยอยู่ในร่างของเจ้า""ท่าน..จะทำอะไร" วิญญาณสาวที่ถูกจับตัวมากระซิบถาม"เจ้าไม่อยากได้ร่างเดิมคืนหรือยังไง..ข้าก็พาเจ้ามาเอาแล้วนี่ไง"คำตอบของผู้มีอำนาจที่สุดในที่นี้มีผลให้วิญญาณสาวลังเล..ก่อนที่จะเหลือบมองไปที่กายหยาบเดิมของตนซึ่งเอื้อมนางเองก็ถึงกับเม้มปากแน่น นั่นซินะ กายหยาบนี้ไม่ใช่ของหล่อน..ไม่ใช่มาตั้งแต่ต้นแม้นอ้
"เออ..แล้วไงยะ หล่อนจะทำอะไรฉันได้..คนใช้บ้านนี้ก็คนของฉัน อีขี้โรคแบบแก..เหอะ..ให้ฉันพูดตรงๆ ก็คงมีชีวิตอยู่ไม่ถึงสิ้นปี" เสียงหวานทวนประโยคที่พี่เลี้ยงเคยพูดไว้ก่อนที่หล่อนจะถูกผลักตกบันได..ซึ่งประโยคที่ว่าไม่มีในคลิปที่ใช้ฟ้องในข้อหาฆาตกรรมตัวกาญจนาเองเมื่อได้ยินก็ถึงกับเหงื่อตก..ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตกใจ"อีเอื้อม!!""อุ้ย...ดีใจจัง..ที่น้ากาญยังจำเอื้อมได้""มึง..ไม่จริงมึงตายไปแล้ว!!"เสียงวี๊ดร้อง...มือขยุ้มหัวตนเองนังเอื้อมนางมันตายไปแล้ว..หล่อนยังจำภาพแขนขาผิดรูป..รอยเลือดไหลซึมจากศีรษะ ที่สำคัญดวงตาที่เคยมองมาที่เธออย่างเคารพรักเวลานั้นกับปิดไม่สนิท"จุ๊ๆ ไม่พูดคำหยาบค่ะ ไม่ดีๆ น้ากาญเคยสอนเอื้อมตอนเด็กๆ จำได้มั้ยคะ?""...""ถ้าพูดคำหยาบมากๆ คุณพ่อจะไม่รัก..จะโดนคุณยักษ์จับไปกิน"คนอายุน้อยกว่ายังลอยหน้าลอยตาย้ำคำสอนที่พี่เลี้ยงเคยพร่ำบอก...กาญจนารู้ทันทีว่าเจ้าหล่อนคือ 'เอื้อมนาง' เด็กน้อยที่เธอเลี้ยงมาจริงๆ"แต่น่าเสียดายนะคะ เอื้อมไม่รู้ว่าจะได้อยู่ทันอยู่ตอนน้ากาญออ
คนอายุน้อยกว่าก็พอจะเข้าใจความรู้สึก...ยังคงอธิบายเสียงเรียบเรื่อยเซื่องซึมแฝงความเจ็บปวดให้คนเป็นลุงฟัง“ผู้หญิงตัวผอมๆ ชื่อเอื้อมนาง เป็นลูกของคุณมัณฑนา ส่วนคนที่อายุมากกว่าชื่อกาญจนา เป็นทั้งพี่เลี้ยง และควบสถานะชู้รักของนายไตรรัตน์..หรือพ่อของเอื้อมนาง”ณ..เวลานั้นเรื่องราวทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาจากริมฝีปากสีหวานไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนอินกับเรื่องราวของหลานสาวที่ชื่อเอื้อมนางหรือยังไง..น้ำเสียงที่ใช้จึงพาให้คนฟังสะเทือนใจไปด้วยเอาเป็นว่าลุงแท้ๆ แบบพสุกานต์ถึงกับมือสั่นด้วยความโกรธ..น้ำตาลูกผู้ชายไหลอย่างห้ามไม่อยู่แม้นว่าเขากับพ่อเราจะมีความเชื่อ ความคิดไปคนละทาง ตัวเขาเองก็ไม่เคยคาดหวังในทรัพย์สมบัติของบิดา..เพราะยังมีน้องสาวคนสวยแสนดีที่มีสิทธิ์รับมรดกอยู่อีกคน และแน่นอนน้องย่อมจะเป็นคนดูแลบิดาตอนแก่..เขาเองก็ไม่มีห่วงอีกมั้งยังสามารถเลือกเส้นทางชีวิตได้อย่างสบายใจทว่าสิ่งสุดท้ายที่เขาคิด..คือการที่ครอบครัวแท้ๆ ถูกทำลาย น้องสาว..บิดา..แม้แต่หลานสาวที่ไม่เคยเห็นหน้ายังถูกฆ่าทิ้งความโกรธแค้นชิงชัง..รุนแรงจนห้ามอารมณ์ไม่อยู่..มั
หลังจากที่หล่อนจ้างนักสืบให้ตามหาคุณลุง..เวลาก็หมุนผ่านไปได้หลายเดือนแล้ว..เดิมเอื้อมนางทำใจไว้บ้างแล้วว่าจะหาไม่เจอซึ่งอาจจะต้องหาแผนสำรองอีกที..ยังดีการที่หล่อนตัดเส้นหล่อเลี้ยงทางการเงินของอดีตพี่เลี้ยง..หลักฐานการตายในภพก่อนย่อมมีโอกาสพานังสารเลวติดคุกได้ง่ายขึ้นเพียงแต่ถ้าได้ลุงแท้ๆ ช่วยเป็นเจ้าทุกข์ฟ้องคดีทุกอย่างคงใช้เวลาไม่นาน..อีกทั้งทรัพย์สมบัติของตระกูลวรรณรุนชัยจะได้ไม่ถูกพวกปลิงรีดไถ..ทว่าเหมือนโชคจะเข้าข้าง เมื่อ email ของคุณนักสืบเด้งขึ้นมา...ในนั้นมีข้อมูลทั้งหมดของพสุกานต์..บุตรชายคนเดียวของท่านเจ้าสัวบุญชัยมือคนตัวเล็กสั่น..ก่อนจะปาดน้ำตาแห่งความปลื้มใจทิ้ง..ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่า..ขอให้ผู้ชายคนนั้นเป็นคนดี คนที่สามารถดูแล รวมถึงเป็นผู้ปกครองน้องเอื้องได้ณ ร้านคาเฟ่หน้ามหาวิทยาลัยร่างเพรียวระหงในชุดเสื้อลายดอกแขนตุ๊กตา กับกางเกงยีนพอดีตัวกำลังยืนอยู่หน้าร้าน..ภาพในวันวานย้อนกลับมา..เวลาที่หิวคิดอะไรไม่ออก..ตงก็มักพาเธอมาหาอะไรกินที่นี้เสมอ และโต๊ะประจำของเรายังเป็นโต๊ะม
ณ คณะบริหาร มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังชายหนุ่มผมแสกกลางยุคy2k เดินเอามือล้วงกระเป๋าเข้าตึกคณะแฟนสาวราวกับคณะวิศวะของตนเองและดูเหมือนคนในคณะเองก็เริ่มชินตา อีกทั้งรับรู้ไปทั่วแล้วว่าแฟนสาวของเดือนวิศวะ ก็คือตัวมัม..ตัวให้นมบุตรของคณะ บูรพาเองก็ฉลาดนัก..ชายหนุ่มมักซื้อของกินมาฝากคนรอบๆ ตัวหญิงสาวโดยถือคติว่า 'ใครดีกับอ้าย...เขาก็จะดีด้วย ส่วนใครร้ายกับแฟนเขา..เตรียมโลงไว้ได้เลย!'"อ้าว..ตง"เปียเพื่อนตัวเล็กสุดจี๊ดของแก๊งนางฟ้า..ส่งยิ้มโบกมือทักทายมาที่เพื่อนแฟน...ร่างสูงใหญ่ในชุดช็อปวิศวะสาวเท้าเข้าไปหาทันที"อ้ายละ"เสียงทุ้มต่ำถามกลับ..ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวไล่สายตาหาคุณแฟนสุดที่รัก..แต่เดอะแก๊งนางฟ้ามีแค่เพื่อนแฟนที่ดูเหมือนกำลังจะกลับกันแล้ว ซึ่งสองสาวคนเดียวในกลุ่มก็ถึงกับเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้"แหมหวานจังนะ เห็นหน้าก็ถามหาแต่แฟน""ไม่ให้ถามถึงแฟน แล้วจะให้ตงถามถึงใครล่ะ"คนหน้าหล่อเถียงกลับ มือหนาใหญ่ก้มมองมือถืออย่างหงุดหงิดเล็กน้อย..เรื่องของเรื่องโทรไปเจ้าหล่อนดันไม่รับโทรศัพท์ซึ่งเหตุผลเด