"วันนี้มีอะไรให้กินบ้างคะ แล้วคนอื่นๆ ตื่นกันหรือยัง"น้ำเสียงนิ่งๆ กับสีหน้าเรียบเฉย แตกต่างจากกริยาหงุดหงิดเหมือนเช่นทุกวัน ชวนให้สาวใช้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง..ถึงแม้จะแปลกใจที่ทุกทีเจ้านายสาวคนสวยจะไม่กินข้าวเช้าก็เถอะ
"คุณหนูอ้ายอยากทานอะไรคะ เดี๋ยวเจียมไปแจ้งแม่ครัวให้"
"ข้าวต้มกุ้งก็ได้จ้ะ"
คุณหนูตัวปลอมหันไปสั่ง พร้อมหยิบมือถือขึ้นมาดูด้วย เพราะเมื่อวานเธอเอาแต่ดูไลน์กลุ่มบ้าน กับส่องรูปถ่าย..จึงยังไม่ได้เข้าไปดูกลุ่มไลน์อื่น
นอกจากกลุ่มfamilyแล้ว..ยังมีอีกราวๆ สี่ห้ากรุปที่ปาริชาตสิงอยู่ แต่ที่ปักหมุดไว้นอกจากกรุปครอบครัว ยังมีกรุป 'friend ตลอดไป' ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมดสี่คน และใช่ในนั้นมีนังตัวดีย์ ที่เป็นลูกชู้อยู่ด้วย
'กิ่งแก้ว'
ภาพโปรไฟล์ผู้หญิงหน้าหวาน ผมยาวดำสลวยดัดเป็นลอนใหญ่ ติดกิ๊บตามสมัยนิยมทั้งสองด้าน บุคลิกท่าทางเรียบร้อยในชุดเดรสสีขาวสะอาดตา จะว่าไปในอดีตหล่อนก็เคยมีไลน์ของพี่กิ่ง..ก่อนที่ฝั่งนั้นจะอ้างว่าเปลี่ยนมือถือใหม่ แล้วไลน์ของพี่เขาก็หายไป
ส่วนไลน์คนอื่นก็มีเพียงบิดากับพี่เลี้ยง...เพราะหลังจากที่เธอป่วยหนักตอนอายุสิบขวบ และป่วยเรื้อรังมาหลายปี ชีวิตจึงวนเวียนอยู่กับโรงพยาบาล และบ้านเป็นส่วนใหญ่ การเล่าเรียนจึงอยู่ในรูปแบบ home school ซึ่งในอดีตเธอเองก็เลือกลงเรียนตามหลักสูตรจากต่างประเทศ
ทว่าผลของการป่วยไข้เอื้อมนางคนเดิมจึงไร้สังคมโดยสิ้นเชิง วันๆ ไม่มีอะไรทำนอกจากดูซีรีส์ เสพข่าวตามโซเชียล นอกนั้นก็ก้มหน้าก้มตาเรียนสอบเลื่อนระดับแก้เบื่อ ถึงแม้ก่อนตายหล่อนอายุ18 ปีก็จริง ทว่ากับเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศได้สองใบแล้ว!
ในระหว่างที่ปาริชาตตัวปลอมตักข้าวเข้าปาก และกำลังไล่ดูโปรไฟล์เพื่อนในกลุ่มอีกสองคนเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อหญิงสาวในชุดเดรสทำงานเรียบหรูเดินจ้ำอ้าวมายืนขนาบข้างเก้าอี้ เอื้อมนางได้แต่เหลือบตาขึ้นมองด้วยความแปลกใจ แต่ก่อนที่จะทันได้ตั้งคำถามแก้วน้ำส้มก็ถูกไอ้ผู้หญิงที่หล่อนจำได้ว่ามีสถานะพี่สาวคว้ามาสาดใส่หน้าเสียอย่างงั้น!!
"อีอ้าย อีน้องสารเลว แกไปอ่อยเฮียพิศอีกแล้วใช่มั้ย!!!"
มือเล็กขาวผ่องอมชมพูของคนที่ถูกกล่าวถึงลูบหน้าที่เลอะด้วยน้ำหวานความตกใจ ปากอิ่มได้รูปเม้มแน่น..ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธ บ้านนี้มันยังไงกันนะ!!!
"นี่พี่บ้าไปแล้วหรือไงห๊ะ ทำไมต้องสาดน้ำใส่ฉันด้วย ดูซิเปียกหมดแล้ว"
"อีนังน้องเวร แค่นี้มันยังน้อยไปกับสิ่งที่แกทำ"คนเป็นพี่สาวยังชี้หน้าด่าไม่ยั้ง..อีกมือก็ควานหามือถือในกระเป๋าแบรนด์เนมใบเล็กราคาแพง ก่อนจะยื่นรูปถ่ายที่อยู่ในมือถืออันเป็นหลักฐานใส่หน้าอีกฝ่าย
ด้วยรู้นังน้องตัวร้ายหาใช่คนยอมรับอะไรง่ายๆ
ใบหน้านวลของคู่กรณีเต็มไปด้วยความสับสน..มือเรียวรีบแย่งอุปกรณ์สื่อสารของพี่มาดูใกล้ๆ
และภาพที่เห็นก็ถึงกับทำให้ดวงตาคู่สวยถึงกับเบิกกว้าง..เพราะมันคือรูปปาริชาตคนเก่าที่สวมใส่เสื้อผูกคอสีขาวเว้าลึก..โชว์หน้าท้องเรียบเนียน..ส่วนด้านล่างสวมเพียงกางเกงสีขาวที่รูปทรงคล้ายกางเกงในเอวสูงเสียมากกว่า อีกทั้งด้านหลังยังมีชายหนุ่มหน้าตี๋นัวเนียอยู่ตรงซอกคอ
มือหนึ่งของหญิงสาวถือแก้วเหล้า..อีกมือคล้องคอชายหนุ่มท่าทางเหมือนกำลัง 'สี' กันอยู่..ไม่พอใบหน้าสวยเฉี่ยวยังมองกล้องแบบจิกๆ ริมฝีปากได้รูปสีแดงจัดเผยอสุดแสนจะเซ็กซี่..สามารถให้นิยามได้ว่า
'ร่าน..ร้อน..แรด'
น้องสาวตัวปลอมถึงกับกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่..ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยคำถาม และสับสนว่าไอ้ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังเป็นใคร
ซึ่งไม่ต้องรอคำตอบนาน..อิงธิราผู้พี่เลือกจะด่าทอต่อทันที
"อีร่าน อีแรด..ขนาดคู่หมั้นพี่สาวก็ไม่เว้น ผู้หญิงแบบแกไม่สมควรเกิดเป็นพี่น้องใครเลยจริงๆ"
คู่หมั้นพี่สาว?
กรรมเวรอะไรของเธอกันคะเนี่ย...อีตาพี่ยมเอ้ยยยยย ช่วยเอาวิญญาณเธอกลับไปคืนให้พี่ซาตานสุดหล่อที!!!
เพียงแต่สิ่งที่หญิงสาวทำได้ตอนนี้มีทางเลือกเดียว...ก็คือการขอโทษ...ไม่ผิดก็เหมือนผิด..เพราะเธอเองก็กำลังใช้กายหยาบนี้อยู่ นั่นก็หมายถึงต้องรับผิดชอบสิ่งที่ร่างเดิมกระทำโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
"อะ..อ้ายขอโทษค่ะ"
"...."
"คือ..อ้าย..ขอโทษนะคะพี่อิง อ้ายรู้ถึงพูดอะไรไปก็คงไม่ดี พี่อิงยกโทษให้อ้ายสักครั้งได้มั้ยคะ"ไม่พูดเปล่า สองมือน้อยยังพนมยกขึ้นท่วมหัว..ดวงตายาวรีคู่สวยหลับตาปี๋..แล้วเธอเลือกอะไรได้มั้ย?
อ้ายเอ้ยอ้าย...ก่อเรื่องเก่งอะไรเบอร์นั้น
ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะโดนยัยพี่สาวหน้าดุตบเอามั้ย..เพียงแต่สิ่งที่เธอคาดไม่ถึงคือการที่พี่สาวเพียงคนเดียวขมวดคิ้วทำหน้ายุ่ง...ปาริชาตตัวปลอมถึงกับแอบหรี่ตามองรอรับการลงโทษที่จะตามมา
"เมื่อกี้แกพูดว่าขอโทษ?"
"คะ? ค่ะ อ้ายขอโทษนะคะ อ้ายสัญญานะคะพี่อิง ต่อไปจะไม่มีเรื่องแบบนี้อีกแล้ว"
"..."
"นะคะ ยกโทษให้อ้ายสักครั้งนะคะ please"น้ำเสียงอ่อยๆ กับแววตาอ้อนๆ ที่อิงธิราไม่เห็นมาหลายปี พาใจคนเป็นพี่อ่อนยวบ..แต่พอคิดถึงวีรกรรมสุดแสบหลายๆ อย่างที่คนเป็นน้องทำ..ใบหน้าสวยดุที่ถูกตกแต่งอย่างประณีตก็สะบัดหน้าหันหนีทันที
ยัยเด็กร่านนี่นะ รู้จักขอโทษ..สงสัยพระอาทิตย์คงขึ้นทางทิศตะวันตกแล้ว!
เมื่อเจอไม้นี้เข้าไป...ร่างเพรียวระหงในชุดทำงานจึงสะบัดก้นสับเท้าทิ้งคนเป็นน้องให้ยืนทำหน้าจ๋อยๆ อยู่ที่เดิม
ขณะเดียวกันคนใช้คนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ถึงกับยืนตัวแข็งทื่อ..ด้วยคิดว่าจะเกิดสงครามกลางบ้าน..เพราะภาพที่เห็นจนชินตาคือการขว้างปาข้าวของใส่กันเหมือนที่แล้วมา!!
ณ สวนหลังบ้าน
ท่ามกลางแดดอุ่นๆ ต้นไม้ใหญ่บดบังเป็นเงา..ด้านหน้ามีบ่อปลาคาร์ป และน้ำตกปลอมขนาดใหญ่..ในเวลานี้ที่ทุกคนในบ้านต่างก็แยกย้ายไปทำภารกิจชีวิต..ร่างเพรียวระหงที่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่..กำลังนั่งหน้ามุ่ยขัดสมาธิจับต้นชนปลายไม่ถูก
อีกทั้งความเครียดกดดันที่ได้รับมาในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่ไม่สามารถระบายความในใจให้ใครฟังได้..สิ่งที่ทำได้ก็มีเพียงแต่บ่นให้น้องปลาฟังไม่หยุด
"อ้ายเอ้ยยย..หล่อนบ้าไปแล้วหรือไง ไปยุ่งอะไรกับผัวพี่ จริยธรรมในชีวิตที่เรียนมาส่งคืนคุณครูไปหมดแล้วหรือยังไงกันนะ"เจ้าของร่างตัวปลอมถึงกับบ่นอุบอิบ มือน้อยก็จ้วงอาหารปลาโปรยให้บรรดาเจ้าปลาคาร์ปกิน..ท่าทางของน้องปลาที่แย่งกันกินก็แสนจะน่ารัก
"เป็นปลาแบบพวกแกก็ดีนะ ไม่ทุกข์ไม่ร้อนดี"เสียงหวานพึมพำคุยกับน้องปลา..ส่งผลให้ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใหม่ชะงักเล็กน้อย..ดวงหน้าคมครามติดจะเย็นชาฉายแววประหลาดใจ เพราะพฤติกรรมที่ร้อยวันพันปีเจ้าตัวไม่เคยทำ...คู่หมั้นตัวร้ายเคยให้อาหารปลาที่ไหนกันล่ะ!
เจ้าหล่อนเกลียดสัตว์ทุกชนิด!!
"เธอพูดเพ้อเจ้ออะไรของเธอ"น้ำเสียงทุ้มอันคุ้นเคย ส่งผลให้คนตัวเล็กสะดุ้ง..ก่อนดวงตาคู่สวยจะหันไปมอง เมื่อเห็นว่าชายร่างสูงที่ยืนอยู่ เขาคือ 'พี่หมอ'
พี่ชายข้างบ้านของเอื้อมนาง...ซึ่งปัจจุบันพี่เขากำลังศึกษาคณะแพทย์อยู่ปี3 เธอจึงแซวพี่เขาว่า ‘พี่หมอ’ ตลอดมา...และพึ่งมารู้ทีหลังจากการส่องไลน์กลุ่ม 'friend ตลอดไป' ว่าพี่เขาเป็นเพื่อนสนิทอีกคนของปาริชาตจะว่าโลกกลมก็ไม่ผิดนัก
“สวัสดีค่ะ พี่หมอ”เสียงหวานใสเผลอหลุดสรรพนามเก่าพร้อมรอยยิ้มกว้าง..ดวงตาสีอ่อนทรงอัลมอนด์พราวระยับ..แต่ดูเหมือนคนที่ถูกเรียกว่า ‘พี่หมอ’ จะไม่พอใจกับสรรพนามเรียกขานคำใหม่ ริมฝีปากสีแดงตามธรรมชาติตัดกับผิวสีขาวจัดเม้มแน่น..ดวงตาชี้ขึ้นเต็มไปด้วยริ้วรอยความโกรธ
“เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว ฉันไม่ชอบ”
หลังแต่งงานคุณหญิงปิ่นผู้เป็นมารดา รวมปัจจุบันควบสถานะคุณย่าคุณยายยังคงคอยตามดูแลบรรดาลูกๆ หลานๆ เฉกเช่นผู้หญิงยุคเก่า วันนี้ก็เช่นกันหญิงวัยเกษียณอายุหอบขนมนมเนยรวมถึงของเล่นมาเปย์หลานสาวสุดที่รักถึงคฤหาสน์หลังใหม่ ไม่ไกลจากคฤหาสน์เก่านักทว่าสิ่งที่แตกต่างจากในอดีตคงเป็นเรื่องที่หล่อนแยกบ้านกับนายแพทย์ธนงเกียรติ์ผู้เป็นสามีเป็นที่เรียบร้อยแล้วย้อนไปเมื่อสี่ปีก่อนเอื้อมนางตัดสินใจนัดมารดาของร่างเดิมออกมาคุยนอกบ้าน ซึ่งคุณหญิงปิ่นเองก็แปลกใจไม่น้อย..เพราะช่วงหลังๆ ลูกสาวคนที่สามมีพฤติกรรมเหินห่างอย่างเห็นได้ชัด..จริงอยู่ลูกรู้ประสาเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นรวมถึงไอ้ที่เคยเรียกร้องความรัก..ความสนใจก็หายไปด้วยแต่ก็น่าแปลกมันก็เหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่าลูก 'ไม่ต้องการ' เธอแล้ว..ที่หลงเหลือจึงมีแค่ 'ความเคารพ' ให้แก่ผู้สูงวัยกว่าก็เท่านั้นเองใช่...ราวกับว่าเธอได้สูญเสียลูกสาวไปตลอดกาล..ทั้งที่ลูกก็ยังมีชีวิตอยู่ดังนั้นตอนที่อ้ายโทรหา...คนเป็นแม่จึงตกปากรับคำทันที แต
ท้าวความไปช่วงก่อนนายบูรพา และนางสาวปาริชาติ (ตัวปลอม) แต่งงานวิญญาณอ้ายตัวจริง...ผู้ยังมีบุญกุศลในอดีตชาติ...ก็กำลังรอเกิดอยู่เช่นกันหญิงสาวมีโอกาสเกิดในครอบครัวดีๆ รวยๆ หลายครั้ง แต่ไอ้ต้าวดื้อยังคงปฏิเสธ เล่นเอาพี่พญายมประจำตัว แทบอยากลากเจ้าหล่อนลงนรกให้จบๆ ไป เพียงแต่กรรมดีในหลายภพหลายชาติ ทำให้เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้“เฮ้อ...นังหนูเลือกสักครอบครัวเถอะ ข้าจะได้ไปทำงานทำการอื่น”น้ำเสียงแกมระอา แทบไม่กระทบความรู้สึกยัยวิญญาณตัวแสบแม้แต่น้อย เจ้าหล่อนยังเถียงคอเป็นเอ็น“ไม่! อ้ายจะไปอยู่กับเพื่อน”“แต่เจ้าก็เห็นกว่าคู่นั้นจะแต่งคงอีกหลายปี” ชายในชุดโจงกระเบนสีแดงยังยกเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาเสริม..แต่มีหรือวิญญาณจอมดื้อจะฟัง“เป็นแฟนกันก็เอากันได้ป่ะพี่..นี้อะไรคบกันจนเรียนใกล้จะจบยังไม่ยอมมีอะไรกัน...หรือว่าอีตาตงนางเสื่อมสภาพทางเพศ”“แค่กๆ ข้าว่า เจ้ามนุษย์ผู้ชายก็ปกตินะ”“ปกติกับผีดิพี่ แล้วเอื้อมนางทำอะไรของนาง...
บูรพาสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ..เนื้อตัวเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเหนียวเหนอะหนะ..อวัยวะฝั่งซ้ายเต้นระรัวราวกับหลุดออกจากขั้ว..ภาพฝันราวกับเรื่องจริง..ทว่าก็แทบจะไม่ต่างจากเรื่อง 'โกหก'มือหนาหยาบชื้นเหงื่อเปลี่ยนมาลูบหน้าเพื่อเรียกสติ..ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวเหลือบตามองไปยังหน้าต่างที่ยังคงเปิดเอาไว้..ลมพัดผ่านม่านไหวๆ...แดดเช้าสาดส่องเข้ามาส่งผลให้ภายในห้องติดจะอบอ้าวไม่น้อยภาพเมื่อคืนกลับลอยวาบขึ้นมา..ระหว่างที่กำลังนอนกลิ้งไปมากลิ้งมารอดูบอลรอบดึก..ชายหนุ่มผมสีเงินยวงในชุดสูทสีขาวอยู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาจากไหนก็ไม่อาจรู้ได้คำว่า 'ขโมย' ผุดขึ้นมาในหัวเป็นสิ่งแรก ทว่า..รูปร่างที่งดงามเกินกว่ามนุษย์บนโลกนี้จะมี..โดยเฉพาะรอยยิ้มละมุน..บวกกับดวงตาใสกระจ่างเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์เมตตา ช่างห่างไกลกับคำว่า 'หัวขโมยเสียเหลือเกิน'"นะ..นายเป็นใคร เข้ามาในห้องฉันได้ยังไง"เสียงที่คิดว่าตะโกนถาม ทว่าพอเอ่ยออกมาเสียงกับเบาราวเสียงกระซิบ..ชวนให้แม้แต่เจ้าตัวยังแปลกใจ แขกผู้ไม่ได้รับเชิญยังคงอารมณ์ดีไม่น้อย...ทั้งยังแนะนำตัว ก่อนจะตั้งคำถามว่า"ข้าชื่อโครนอส..เจ้าอย
ลูซิสได้ยินจึงยกยิ้ม...ใบหน้างดงามเริ่มบิดเบี้ยว..จากเดิมที่นังผู้หญิงประหลาดยินยอมเป็นวิญญาณเร่ร่อน..อีกทั้งปฏิเสธไม่ยินยอมทำสัญญาก็ว่าหายากแล้ว..แต่ไอ้คนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับชาวบ้านเขาดันมาขอทำสัญญายิ่งพิกลมากกว่าจะมีด้วยรึ..มนุษย์ที่รักคนอื่นมากกว่าตัวเอง!“ดีๆ ข้าก็อยากรู้ว่าเจ้าจะยินยอมจริงมั้ย?”มือเรียวสวยปล่อยลำคอขาวผ่องของมนุษย์เพศหญิงลงทันที…ลมหายใจของคนตัวเล็กแทบขาดวิ่น..ยิ่งเห็นซาตานหนุ่มกำลังย่างก้าวหาชายหนุ่มอันเป็นที่รัก หล่อนก็แทบกรีดร้อง“ฮือออ อย่ายุ่งกับเขา…ถ้าท่านอยากได้วิญญาณ…ก็มาเอาวิญญาณของหนูซิ นายบูรพา..ฮึก ไปซะ…ได้โปรดอย่ามายุ่งกับเรื่องนี้…ได้โปรด”แต่ดูเหมือนวิญญาณของชายหนุ่มไม่มีแม้แต่ความลังเล เขาหันไปยิ้มกับเพื่อนรัก“อ้าย…ตงดีใจนะที่เราได้เจอกัน..ตงขอฝากอ้ายดูแลผู้หญิงคนนั้นด้วยนะ” คำสั่งจากลาแน่วแน่…ส่งผลให้หนึ่งกายหยาบ กับหนึ่งวิญญาณสาวตื่นตะลึง ทั้งสองต่างพยายามวิ่งเข้าหาชายหนุ่มอันเป็นที่รัก.. 'ในความหมายของคำว่ารักต่างกัน
"แล้ว..." เสียงที่ตั้งใจจะถาม..แต่ไม่รู้ว่าควรถามอะไรกับเงียบลง หนึ่งกายหยาบหนึ่งวิญญาณต่างสบสายตา..สิ่งหนึ่งที่สะท้อนสู่ดวงตาคนทั้งคู่ คือ 'ความสับสน' ดังนั้นบรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความเงียบทว่าลูซิสเองกับเริ่มหงุดหงิด..อย่าลืมว่ากว่าเขาจะหาวิญญาณอ้ายตัวจริงมาได้..ต้องสูญเสียพลังและเวลาไม่น้อย!นังวิญญาณตนนี้ก็เหลือเกิน..แทนที่ได้กลับมาเป็นรูปเป็นร่างจะเอ่ยปากทวงร่างเดิมคืน..กลับดันเลือกจะเงียบ"หึ นังวิญญาณเร่ร่อน" ไม่รู้ทำไมพอได้ยินคำว่า 'เร่ร่อน' ทั้งสองถึงกับสะดุ้งดวงตางดงามเกินมนุษย์ถึงกับถลึงตาจ้องมองวิญญาณสาวที่ทำตัวน่าขายหน้านะ"ข้าไม่ได้หมายถึงเจ้านังอ้ายตัวจริง ข้าหมายถึงวิญญาณที่อาศัยอยู่ในร่างของเจ้า""ท่าน..จะทำอะไร" วิญญาณสาวที่ถูกจับตัวมากระซิบถาม"เจ้าไม่อยากได้ร่างเดิมคืนหรือยังไง..ข้าก็พาเจ้ามาเอาแล้วนี่ไง"คำตอบของผู้มีอำนาจที่สุดในที่นี้มีผลให้วิญญาณสาวลังเล..ก่อนที่จะเหลือบมองไปที่กายหยาบเดิมของตนซึ่งเอื้อมนางเองก็ถึงกับเม้มปากแน่น นั่นซินะ กายหยาบนี้ไม่ใช่ของหล่อน..ไม่ใช่มาตั้งแต่ต้นแม้นอ้
"เออ..แล้วไงยะ หล่อนจะทำอะไรฉันได้..คนใช้บ้านนี้ก็คนของฉัน อีขี้โรคแบบแก..เหอะ..ให้ฉันพูดตรงๆ ก็คงมีชีวิตอยู่ไม่ถึงสิ้นปี" เสียงหวานทวนประโยคที่พี่เลี้ยงเคยพูดไว้ก่อนที่หล่อนจะถูกผลักตกบันได..ซึ่งประโยคที่ว่าไม่มีในคลิปที่ใช้ฟ้องในข้อหาฆาตกรรมตัวกาญจนาเองเมื่อได้ยินก็ถึงกับเหงื่อตก..ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตกใจ"อีเอื้อม!!""อุ้ย...ดีใจจัง..ที่น้ากาญยังจำเอื้อมได้""มึง..ไม่จริงมึงตายไปแล้ว!!"เสียงวี๊ดร้อง...มือขยุ้มหัวตนเองนังเอื้อมนางมันตายไปแล้ว..หล่อนยังจำภาพแขนขาผิดรูป..รอยเลือดไหลซึมจากศีรษะ ที่สำคัญดวงตาที่เคยมองมาที่เธออย่างเคารพรักเวลานั้นกับปิดไม่สนิท"จุ๊ๆ ไม่พูดคำหยาบค่ะ ไม่ดีๆ น้ากาญเคยสอนเอื้อมตอนเด็กๆ จำได้มั้ยคะ?""...""ถ้าพูดคำหยาบมากๆ คุณพ่อจะไม่รัก..จะโดนคุณยักษ์จับไปกิน"คนอายุน้อยกว่ายังลอยหน้าลอยตาย้ำคำสอนที่พี่เลี้ยงเคยพร่ำบอก...กาญจนารู้ทันทีว่าเจ้าหล่อนคือ 'เอื้อมนาง' เด็กน้อยที่เธอเลี้ยงมาจริงๆ"แต่น่าเสียดายนะคะ เอื้อมไม่รู้ว่าจะได้อยู่ทันอยู่ตอนน้ากาญออ
คนอายุน้อยกว่าก็พอจะเข้าใจความรู้สึก...ยังคงอธิบายเสียงเรียบเรื่อยเซื่องซึมแฝงความเจ็บปวดให้คนเป็นลุงฟัง“ผู้หญิงตัวผอมๆ ชื่อเอื้อมนาง เป็นลูกของคุณมัณฑนา ส่วนคนที่อายุมากกว่าชื่อกาญจนา เป็นทั้งพี่เลี้ยง และควบสถานะชู้รักของนายไตรรัตน์..หรือพ่อของเอื้อมนาง”ณ..เวลานั้นเรื่องราวทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาจากริมฝีปากสีหวานไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนอินกับเรื่องราวของหลานสาวที่ชื่อเอื้อมนางหรือยังไง..น้ำเสียงที่ใช้จึงพาให้คนฟังสะเทือนใจไปด้วยเอาเป็นว่าลุงแท้ๆ แบบพสุกานต์ถึงกับมือสั่นด้วยความโกรธ..น้ำตาลูกผู้ชายไหลอย่างห้ามไม่อยู่แม้นว่าเขากับพ่อเราจะมีความเชื่อ ความคิดไปคนละทาง ตัวเขาเองก็ไม่เคยคาดหวังในทรัพย์สมบัติของบิดา..เพราะยังมีน้องสาวคนสวยแสนดีที่มีสิทธิ์รับมรดกอยู่อีกคน และแน่นอนน้องย่อมจะเป็นคนดูแลบิดาตอนแก่..เขาเองก็ไม่มีห่วงอีกมั้งยังสามารถเลือกเส้นทางชีวิตได้อย่างสบายใจทว่าสิ่งสุดท้ายที่เขาคิด..คือการที่ครอบครัวแท้ๆ ถูกทำลาย น้องสาว..บิดา..แม้แต่หลานสาวที่ไม่เคยเห็นหน้ายังถูกฆ่าทิ้งความโกรธแค้นชิงชัง..รุนแรงจนห้ามอารมณ์ไม่อยู่..มั
หลังจากที่หล่อนจ้างนักสืบให้ตามหาคุณลุง..เวลาก็หมุนผ่านไปได้หลายเดือนแล้ว..เดิมเอื้อมนางทำใจไว้บ้างแล้วว่าจะหาไม่เจอซึ่งอาจจะต้องหาแผนสำรองอีกที..ยังดีการที่หล่อนตัดเส้นหล่อเลี้ยงทางการเงินของอดีตพี่เลี้ยง..หลักฐานการตายในภพก่อนย่อมมีโอกาสพานังสารเลวติดคุกได้ง่ายขึ้นเพียงแต่ถ้าได้ลุงแท้ๆ ช่วยเป็นเจ้าทุกข์ฟ้องคดีทุกอย่างคงใช้เวลาไม่นาน..อีกทั้งทรัพย์สมบัติของตระกูลวรรณรุนชัยจะได้ไม่ถูกพวกปลิงรีดไถ..ทว่าเหมือนโชคจะเข้าข้าง เมื่อ email ของคุณนักสืบเด้งขึ้นมา...ในนั้นมีข้อมูลทั้งหมดของพสุกานต์..บุตรชายคนเดียวของท่านเจ้าสัวบุญชัยมือคนตัวเล็กสั่น..ก่อนจะปาดน้ำตาแห่งความปลื้มใจทิ้ง..ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่า..ขอให้ผู้ชายคนนั้นเป็นคนดี คนที่สามารถดูแล รวมถึงเป็นผู้ปกครองน้องเอื้องได้ณ ร้านคาเฟ่หน้ามหาวิทยาลัยร่างเพรียวระหงในชุดเสื้อลายดอกแขนตุ๊กตา กับกางเกงยีนพอดีตัวกำลังยืนอยู่หน้าร้าน..ภาพในวันวานย้อนกลับมา..เวลาที่หิวคิดอะไรไม่ออก..ตงก็มักพาเธอมาหาอะไรกินที่นี้เสมอ และโต๊ะประจำของเรายังเป็นโต๊ะม
ณ คณะบริหาร มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังชายหนุ่มผมแสกกลางยุคy2k เดินเอามือล้วงกระเป๋าเข้าตึกคณะแฟนสาวราวกับคณะวิศวะของตนเองและดูเหมือนคนในคณะเองก็เริ่มชินตา อีกทั้งรับรู้ไปทั่วแล้วว่าแฟนสาวของเดือนวิศวะ ก็คือตัวมัม..ตัวให้นมบุตรของคณะ บูรพาเองก็ฉลาดนัก..ชายหนุ่มมักซื้อของกินมาฝากคนรอบๆ ตัวหญิงสาวโดยถือคติว่า 'ใครดีกับอ้าย...เขาก็จะดีด้วย ส่วนใครร้ายกับแฟนเขา..เตรียมโลงไว้ได้เลย!'"อ้าว..ตง"เปียเพื่อนตัวเล็กสุดจี๊ดของแก๊งนางฟ้า..ส่งยิ้มโบกมือทักทายมาที่เพื่อนแฟน...ร่างสูงใหญ่ในชุดช็อปวิศวะสาวเท้าเข้าไปหาทันที"อ้ายละ"เสียงทุ้มต่ำถามกลับ..ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวไล่สายตาหาคุณแฟนสุดที่รัก..แต่เดอะแก๊งนางฟ้ามีแค่เพื่อนแฟนที่ดูเหมือนกำลังจะกลับกันแล้ว ซึ่งสองสาวคนเดียวในกลุ่มก็ถึงกับเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้"แหมหวานจังนะ เห็นหน้าก็ถามหาแต่แฟน""ไม่ให้ถามถึงแฟน แล้วจะให้ตงถามถึงใครล่ะ"คนหน้าหล่อเถียงกลับ มือหนาใหญ่ก้มมองมือถืออย่างหงุดหงิดเล็กน้อย..เรื่องของเรื่องโทรไปเจ้าหล่อนดันไม่รับโทรศัพท์ซึ่งเหตุผลเด