 LOGIN
LOGINบทนำ
คุณธรรมต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก!
หญิงสาวที่กำลังกวาดตาอ่านนิยายออนไลน์ที่เพิ่งจบไปได้ไม่นานอย่างตั้งใจ
‘มี่มี่’ ชอบอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจ จินตนาการเธอเลยมากกว่าเด็กสาวรุ่นเดียวกันอยู่มากโข
เธออ่านรวดเดียวจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาติดกันหนึ่งคืนแล้ว ในเรื่องนี้มี่มี่คิดว่าพรรคคุณธรรมก็ทำไม่ถูกเสียทีเดียว ทั้งไม่มีสัจจะในวาจาว่าจะไม่ฆ่านางมารหลานเฟยหากนางไม่ได้ทำผิดจริง ในจุดจบของเรื่องนางยังไม่ได้ฆ่าคนของพรรคฝ่ายดีสักคนเดียว ที่นางทำมาตลอดคือการป้องกันตัว แต่สุดท้ายกลับตายในน้ำมือของคนที่นางรักแทนเหตุเพราะนางก็แค่จับตัวคู่หมั้นของเขาไว้เพื่อแลกกับการที่เขาต้องไปอยู่กับนางในโลกปีศาจเท่านั้น...
มี่มี่กลับคิดว่ามันไม่ถูกเลยจริงๆ เหตุใดพรรคคุณธรรมกลับไร้คุณธรรมเช่นนี้ บางทีคนที่ถูกหาว่าร้ายกาจอาจจะไม่ได้ร้ายกาจเพียงนั้น และบางคนที่ถูกขนานนามว่าดีก็อาจจะไม่ได้ดีเพียงนั้น...
เมื่ออ่านจบมี่มี่ก็รีบปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ทันที “จบได้แบบเสียอารมณ์ชะมัดเลย”
จากนั้นร่างเล็กก็สะพายเป้แล้วออกจากห้องไปทันที เธอคว้าจักรยานสีขาวคันโปรดแล้วปั่นแล่นออกไปตามเส้นทางที่ทอดยาวของหมู่บ้านอย่างเคยชิน บรรยากาศที่หอมหวนของดอกหญ้ากับกลิ่นแสงแดดที่สาดลงมากระทบผืนทะเลสาบ จึงทำให้จิตใจเธอสงบมากขึ้นแล้ว
ยามที่มี่มี่จอดจักรยานสีขาวใกล้กับท่าน้ำจนนิ่งสนิทแล้วนั้น เธอก็รีบตรงไปยังท่าน้ำที่มีราวไม้กั้นอยู่บนทันที สาวน้อยบิดขี้เกียจขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหยิบสมุดวาดภาพพร้อมกระดานแข็งเพื่อใช้รองกระดาษในกระเป๋าเป้ออกมาแล้วเริ่มใช้พู่กันจุ่มสีแล้ววาดมันลงไปในกระดาษทันที
ยังดีที่ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมของเธอจึงทำให้มี่มี่มีอิสระตามที่ใจอยากจะทำ เธอตวัดปลายพู่กันวาดเป็นทิวทัศน์ มีทั้งภูเขา มีทะเลสาบ และมีท่าน้ำที่เธอยืนอยู่
มี่มี่จดจ้องอยู่นานด้วยความภูมิใจ แต่แล้วเสียงเรียกจากหญิงชราอีกฝั่งกลับดึงสติเธอกลับมา
“ใครก็ได้ ช่วยหลานยายด้วย! เสี่ยวฉือมันตกน้ำไปแล้ว!”
มี่มี่ไม่ทันได้คิดแผนการใดๆ จึงไม่รอช้ากระโดดลงไปในทะเลสาบทันที เพราะด้วยคำสอนที่เคยได้ร่ำเรียนมา คุณธรรมย่อมมาก่อนเสมอ และเพราะคุณธรรมที่เธอยึดมั่นมาตลอดนี่เองเธอจึงได้มีจุดจบเช่นนี้...
มี่มี่มองเห็นร่างของเด็กชายที่ถูกอุ้มขึ้นไปเหนือน้ำ ในขณะที่ร่างของเธอดิ่งลงไปใต้ทะเลสาบเรื่อยๆ เธอผิดเองที่ไม่ได้โทรแจ้งหน่วยทางน้ำตั้งแต่แรก เธอมีสติไม่มากพอที่ไม่ยอมมองหาห่วงยางจากข้างท่าน้ำให้ดีเสียก่อน และก็เป็นเธอที่ผิดเองที่จำคำว่าคุณธรรมไว้ในสมองเป็นอันดับแรกโดยไม่คิดเสียก่อนค่อยปฏิบัติ
ใช่...เธอผิดเอง...

บทส่งท้ายเสียงหัวเราะสดใสของเด็กทารกดังก้องในอุทยานหลวง ดอกเหมยผลิบานกลางฤดูหนาวอีกครา ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายเบา ๆ สะท้อนแสงสีทองอ่อนในยามสายท่ามกลางสายลมเย็นนั้น นางมารหลานเฟยผู้ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดในใต้หล้าที่ชอบสวมใส่ชุดอาภรณ์สีแดงดำ บัดนี้เปลี่ยนเป็นชุดแพรไหมสีชมพูอ่อน สะท้อนแสงอ่อนละมุน ทอดสายตามองบุตรชายตัวน้อยที่คลานเล่นอยู่บนเสื่อผ้าไหมข้างหมาป่าหิมะสีขาวลี่ต้า นามรอง เหยาเกอ คือผลพวงแห่งความรัก ระหว่างปีศาจกับมนุษย์เฉิงต้วนบัดนี้มิใช่เพียงรัชทายาทผู้มากบารมี แต่เป็นฮ่องเต้ปกครองแผ่นดินที่ผู้คนเกรงขาม เขาค่อย ๆ เดินเข้ามาโอบเอวภรรยาแน่นขึ้น แล้วโน้มหน้าไปจูบหน้าผากของนางเบา ๆ“มี่มี่เหนื่อยหรือไม่?” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยอย่างอ่อนโยนมี่มี่มองหน้าสามี ยิ้มบาง ๆ “ไม่เหนื่อย ข้าแค่เห็นเกอเกอกับท่านก็มีความสุขแล้ว”“หากวันนั้น ข้าไม่บุกเข้าดินแดนเว่ยต้า มี่มี่ก็คงไม่กลับมาใช่หรือไม่?” เขาถามพลางลูบข้างแก้มของนางอย่างรักใคร่นางยิ้ม แต่ยังไม่ตอบสิ่งใด ดวงตาของนางหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนจะกระซิบกลับเบาๆ“หากท่านไม่บุกมา ข้าคงได้แต่คิดถึงท่านไปจนตาย...”ที่นางบอกเขาล้วนคือความจริง...ย
ตอนที่ 33หุบเขาผากระดูกประตูเชื่อมแดนปีศาจและโลกมนุษย์ ความจริงแล้วยามนี้อยู่ด้านหลังสำนักสิงซู่หญิงสาวในชุดสีดำแดงเดินช้า ๆ บนสะพานไม้ ดาบแดงดำคู่กายแนบแน่นอยู่บนแผ่นหลัง ผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นหลวมๆ ใบหน้างามเยือกเย็นแลดูสงบนิ่ง ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความเงียบเหงาหลานกัว โผล่พ้นแขนนางขึ้นมากระซิบ ‘มี่มี่ คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง’“ข้ารู้” นางตอบเสียงแผ่วเบา ดวงตายังจับจ้องแสงจันทร์ที่สะท้อนผิวน้ำ‘เขาคงกำลังมองหาเรา’นางพยักหน้าเบาๆ “แต่ยิ่งเขาหาไม่เจอ ยิ่งดี”“ท่านจอมมาร ท่านหมอมารอแล้วเจ้าค่ะ” ปีศาจแมวซึ่งกลายร่างเป็นหญิงสาวสะคราญก้าวเข้ามาเบา ๆ“เดี๋ยวข้าไป” นางยิ้มจาง ๆ ใบหน้าเศร้าสร้อยในห้องบรรทมของรัชทายาทที่วังหลวง เฉิงต้วนโยนม้วนผนึกทิ้งลงบนโต๊ะ เสียงน้ำชาสาดลงในถ้วยดังกังวาน เขานั่งพิงพนักพิง มองออกไปยังสวนหินที่เคยมีนางเดินผ่าน“เจ้าจะไม่กลับมาเลยหรือ มี่มี่” เขาพึมพำทันใดนั้นเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้น องครักษ์หลี่เฟิงประจำพระองค์ยื่นของบางอย่างมาให้ เป็นดอกไม้หน้าตาประหลาด แต่เฉิงต้วนกลับคุ้นเคยเป็นอย่างดี ดอกไม้ในดินแดนเว่ยต้า!“ใต้ต้นหลิวหลังสำนักสิงซู่ คาดว่ามีประ
ตอนที่ 32พลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน แหวกมหาสมุทรในตำหนักบูรพา หลังจากเฉิงต้วนกอดเฟยมี่มี่เข้านอนตามปกติ แต่แล้วนางก็ลุกขึ้นมา ดีดนิ้วหนึ่งทีในอ้อมแขนของเขาก็กลับกลายเป็นฟูกนอนขนาดเท่าตัวคนแทนนางยืนมองบุรุษที่หลับใหลอยู่เบื้องหน้า ผู้เป็นทั้งคนรักและเป็นทั้งคนในครอบครัว ช่วงนี้ราชกิจเขาค่อนข้างเยอะจึงเหนื่อยทั้งวัน หัวถึงหมอนก็กอดนางนอนหลับเลยทันที“ยามนี้ท่านไม่ต้องหลบหนี ไม่ต้องต่อสู้ ไม่ต้องอยู่ผู้เดียวเหมือนสิบปีก่อนอีกแล้ว ข้าพอใจแล้วที่ท่านได้กลับสู่บ้านของท่าน มีบิดาที่รักท่าน มีปวงประชาที่เคารพท่านและท่านต้องดูแลพวกเขาให้ดีนะ อาต้วน”นางโน้มกายลงช้า ๆ วางริมฝีปากบนหน้าผากเขา มันเบาเสียจนไม่อาจรู้สึก แต่เต็มไปด้วยคำร่ำลาทั้งหมดของนางนางรู้ดีว่านางและเขาไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ เขามีประชาชนของเขา นางเองก็มีประชาชนของนาง มีน้องชายน้องสาวที่ต้องดูแล“แม้ไม่มีข้า ก็ต้องเดินหน้าต่อไปให้ได้”ที่เส้นแบ่งแดนระหว่างโลกมนุษย์และปีศาจ เฟยมี่มี่ยืนตรงหน้าปรมาจารย์เหอตี้ ที่เป็นหนึ่งในศัตรูเก่าแต่ยามนี้คือพันธมิตร ปรมาจารย์ในชุดขาวสะอาดยืนหลังตรง ดวงตานิ่งสนิท ด้านข้างมีหวางย่าอีน้ำตาตลอ“ท่านปรมาจ
ตอนที่ 31หวนคืนสู่บ้านท้องฟ้ายามรุ่งสางปกคลุมด้วยหมอกขาว ข่าวที่พบรัชทายาทผู้หายสาบสูญมานานนับสิบปีดังทั่วเมืองหลวง สาเหตุการหายสาบสูญนี้มาจากพระอนุชาองค์ฮ่องเต้ทำการลอบทำร้ายและมอบยาพิษให้รัชทายาทจนกลายเป็นเด็กวัยเจ็ดขวบเขาร่อนเร่อยู่ด้านนอกนานนับหลายปี แต่เนื่องจากถูกนางมารหลานเฟยจอมมารหญิงแห่งดินแดนเว่ยต้าช่วยเหลือไว้ ทำให้ฮ่องเต้พระราชทานรางวัลมากมาย ทั้งยังยอมรับการสานสัมพันธ์พรรคธรรมะกับพรรคอธรรมที่บิดามารดานางตั้งใจไว้ก่อนตายให้สำเร็จผล ไม่ให้ฝ่ายใดทำร้ายกันอีกเป็นมิตรที่ดีอยู่ร่วมกันได้ปกติบัดนี้สามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้หมดแล้ว เฉิงต้วนก้าวเข้าสู่เส้นทางอำนาจอีกครั้งด้วยสายตาแน่วแน่ ทว่าท่ามกลางเสียงสรรเสริญและความยำเกรงของผู้คน หัวใจของเขากลับโหยหาเพียงหนึ่งเดียวสตรีในดวงใจที่ยามนี้อยู่ในคฤหาสน์พระราชทานกลางเมืองหลวง เขารอรับพิธีมอบตำแหน่งเสร็จสมบูรณ์แล้วเขาก็จะรีบไปหานางทันทีนางที่เขาจับมือเคียงข้างมาตลอดเส้นทาง แม้อดีตคนทั้งแผ่นดินจะชิงชังนาง แต่นางคือแสงสว่างเดียวที่ทำให้เขาทนอยู่ได้เมื่อพิธีเสร็จสิ้นเฉิงต้วนก็รีบก้าวเข้าสู่ประตูคฤหาสน์ไปหานางมารหลานเฟยทันทีทันใดมี่
ตอนที่ 30ทำเพื่อตัวนางเองสำนักสิงซู่สามคมอึ้งตะลึง ปรมาจารย์เหอตี้ถอยหลังด้วยความตกใจเมื่อเห็นพลังมืดล้อมร่างฝ่ายตรงข้าม อาคมต้องห้ามที่สูญหายไปนับร้อยปีกลับปรากฏอีกครั้ง!“เมื่อเดือนก่อนข้าส่งคนไปจัดการศิษย์เอกของเจ้าแต่มันรอดมาได้อีก ตัวมันเองก็ไม่ได้บอกเจ้าเลยล่ะสิ” เต๋ออี๋แสยะยิ้มชอบใจก่อนจะหันไปทางมี่มี่ “และที่สำคัญบิดามารดาเจ้าพวกข้าเองที่ลอบทำร้ายพวกมัน!”เหอตี้ใบหน้าซีดเผือด มองไปยังพลังมืดโดยรอบผู้คนทุกคนของสำนักอสูรดำ มี่มี่เองไอแค้นก็เริ่มปะทุ“ท่าน…พวกท่านกล้าก้าวสู่เส้นทางมารทั้งสำนักงั้นหรือ!”แววตาเต๋ออี๋แข็งกร้าว“เพื่อให้โลกเห็นว่า สำนักข้ามิด้อยไปกว่าสำนักสิงซู่! วันนี้จะไม่มีใครในสิงซู่เหลือรอด! ฆ่าพวกเจ้าก่อนแล้วข้าจะไปล้างผลาญให้สิ้น!”ทันใดนั้น เขาฟาดฝ่ามือออก พลังดำกลืนกินท้องฟ้า เกิดเสียงดังสนั่นราวฟ้าผ่า เสียงโลหะปะทะดังระงม ทั้งสองสำนักเปิดศึกอย่างดุเดือดเฟยมี่มี่ใช้พลังเวทวิเศษล้อมรอบนางและนางเอกทั้งสองของนิยายไว้ทันที เพื่อป้องกันโดนลูกหลงดาบเหอตี้เปล่งประกายปะทะกับคมดาบมืด เสียงร้องคำรามดังปนเสียงเจ็บปวดรอบทิศ เลือดสาดกระเซ็น ลานคฤหาสน์ที่เคยเงียบสงบ
ตอนที่ 29สำนักอสูรดำปรมาจารย์เหอตี้ขมวดคิ้ว“ข้าไม่ได้ขอให้สำนักไหนลงมือ! นางมารหลานเฟยข้าจะจัดการเอง หัวหน้าพรรคมอบหมายให้ข้าแล้ว”“แต่ข้าไม่จำเป็นต้องรอฟังคำสั่งใคร!” ชุนตี๋หลานชายของผู้เฒ่าชุนยามนี้เขาเป็นบุตรชายของเจ้าสำนักอสูรดำวางมาดเข้มในชุดคลุมหน้ากากทองก่อนจะกระโจนลงจากกิ่งไม้ทันใดนั้น คนของสำนักอสูรดำที่เสริมทัพมาเพิ่มทั้งหมดต่างชักอาวุธขึ้นมา มีหนึ่งในนั้นร่ายเวทอาคมดำ! รูปแบบมันสลับซับซ้อน วงเวทขนาดใหญ่คลี่คลุมทั้งคฤหาสน์ปรมาจารย์เหอตี้และลูกศิษย์ถูกกักในมิติพลังส่วนกลางวงเวทมีขนาดใหญ่ ขณะที่นางมารหลานเฟยกับหลานกัว ถูกจับแยกไปอีกด้านของวงเวทแผ่นดินสั่นสะเทือน อาคมสีดำกระจายตัวทะลุใต้พื้นดินขึ้นมา มี่มี่ยังคงยืนนิ่ง มือกำดาบแน่น นางกล่าวอย่างเย็นชา“คิดว่าแยกข้าออกมาแล้วจะสู้ข้าได้เช่นนั้นหรือ”หลานกัวตัวน้อยกลายร่างในพริบตา กลายเป็นร่างเสือโลหิต นัยน์ตาแดงสว่างเรืองรอง ก่อนจะแยกร่างเป็นแส้เลือดยื่นออกไปทางมี่มี่การต่อสู้จึงเริ่มขึ้นอีกครา โลหิตพุ่งจากปลายแส้ของมี่มี่ คมดาบดำแดงของนางมารหลานเฟยสะบั้นอาคมทีละชั้นร่างหนึ่งกระโจนเข้ามาจากด้านข้าง หมายจะใช้มีดสั้นอาบพิษม








