Share

ตอนที่ 12 ระบายอารมณ์

last update Последнее обновление: 2025-04-30 10:00:53

ด่านที่สองของการฝึกวิชาคือพลังตัวเบาดุจขนนก หวังซีซวนงัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะเซี่ยฟานเข้ามาปลุก พร้อมอาหารเช้าของโปรดของเขา

“คุณชาย รีบกินเถิด เดี๋ยวไม่ทันนะขอรับ” เซี่ยฟานจัดแจงนำอาหารมาวางไว้ถึงบนเตียงของเขา แล้วยื่นตะเกียบให้

“อื้อ ๆ” หวังซีซวนพูดไม่เป็นคำเพราะอาหารที่อัดแน่นเต็มปากของเขา แก้มทั้งสองข้างนูนออกมาจนหน้าดูประหลาดไป

“คุณชาย รีบเกินไปแล้วกระมัง” เซี่ยฟานมองหน้าเขากลั้นหัวเราะเอาไว้

หลังจากทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว หวังซีซวนก็เดินเข้าสู่ป่าไผ่เขียว เพื่อรับการฝึกวิชาด่านที่สอง

“คุณชาย วันนี้พวกเราหนีไม่พ้นไปนอนที่เล้าหมูแน่ ๆ เลยขอรับ” ศิษย์น้องบอกเขาพลางชี้ไปที่กลางลานฝึก

ลำต้นใหญ่ของไผ่เขียวนับสิบตั้งอยู่ หากมองดูดี ๆ แล้ว ลำต้นกลับเคลือบไปด้วยน้ำมัน ความสูงของแต่ละต้นไม่อาจนับได้ เพราะเมฆหนาลอยปกคลุมอยู่ด้านบน

“สูงเท่าใดหรือ” คุณชายหกถามศิษย์ที่เขาสนิทด้วย

“ไม่รู้ขอรับ” เขาตอบตามความจริง “จะรอดไหมขอรับ” แล้วก็ถามความเห็นของคุณชายหกต่อ

“แล้วเจ้าจะแพ้ให้หวังซีซวนที่แสนอ่อนแอนั่นหรือ” เขาพูดกระแทกกระทั้น หวังจะให้หวังซีซวนได้ยิน แต่เวลานั้นหวังซีซวนมัวแต่มองไปที่ยอดต้นไผ่

พอได้เวลา ต่างคนต่างหาทางปีนขึ้นไปบนยอดเพื่อฝึกวิชาตัวเบาให้ได้

หวังซีซวนเห็นหลายคนที่ปีนต้นไผ่ลื่น ๆ แล้วตกลงมาก็พยายามนึกว่าจะจัดการกับต้นไผ่ของตัวเองอย่างไรดี แล้วก็คิดได้ว่าหากเขาฝึกวิชานี้ได้สำเร็จก็จะกระโดดลอยข้ามกำแพงสำนักหนีไปข้างนอกได้ ไม่ต้องมุดรูอีกต่อไป

เขานั่งลงที่หน้าลำต้นไผ่เขียว หลับตาลง สูดหายใจเข้า ลึก ๆ นึกถึงคำที่อาจารย์ประจำด่านสอนเมื่อตอนเช้า จุดที่สำคัญคือการฝึกวิชาตัวเบา หาใช่การพยายามปีนลำต้นไผ่ ใยต้องเสียเวลากับเรื่องอื่นด้วยเล่า

ครั้นได้ใช้สมาธิรวมรวมพลังที่ไหลเวียนอยู่ในตัว ร่างของหวังซีซวนก็เริ่มลอยขึ้นจากพื้นดินเล็กน้อย เขาใช้เวลาครึ่งค่อนวันลอยตัวได้หนึ่งชุ่น ก่อนจะหมดแรงร่วงลงพื้นเพราะหิวข้าว สุดท้ายแล้วก็ได้กลับไปนอนที่เล้าหมูเหมือนเก่า

เซี่ยฟานทำอาหารชุดเล็กกับขนมหวานสองสามชิ้นเอาไว้ คิดว่าจะแอบเอาไปให้หวังซีซวนอย่างเคย ทว่าครั้งนี้ ทางไม่สะดวกเหมือนก่อน

หวังเยี่ยนหลงกำลังเดินมาทางเขาด้วยความหงุดหงิดเพราะแพ้การประลองวิชากับคุณชายสี่ เดิมทีเขามีวิชาสำนักตระกูลหวังเทียบเท่ากับคุณชายคนอื่น ๆ แต่ในเวลานี้ลำดับกลับถดถอยลงไปแทบจะเสมอกับบรรดาศิษย์ในสำนัก

สำหรับคนที่ผ่านทั้งสามด่านในรุ่นที่แล้ว เวลานี้ได้ทีฝึกวิชาจากฝั่งมารดา ถือเป็นวิชาลับที่แต่ละคนจะไม่แพร่งพรายบอกใคร ขณะที่หวังเยี่ยนหลงผู้กำพร้า ไม่รู้เรื่องของมารดาเลยสักนิด ไฉนจะฝึกวิชาสืบทอดของตระกูลได้ เขาจึงแพ้ผู้อื่นติด ๆ กันหลายครั้ง

หวังเยี่ยนหลงถึงขั้นเดินไปหาหวังเฉิงเย่เพื่อขอตำราวิชาจากเขา แต่สิ่งที่ได้มีเพียงเสียงที่เย็นชาตอบกลับมา

“ข้าขอตำราของท่านแม่ได้หรือไม่ขอรับ” เขาเอ่ยปากพูดกับบิดา

“แม่ของเจ้า ไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้” เขาตอบเพียงเท่านี้แล้วก็หันหลังให้หวังเยี่ยนหลง

“แต่ว่า ข้าจะสู้พวกพี่น้องได้อย่างไรเล่า” หวังเยี่ยนหลงนึกไม่ออก

“แล้วจะยอมแพ้เพราะเรื่องแค่นี้?” เขาถามกลับ “วันที่ทุกคนแข็งแกร่งขึ้น เจ้าจะอยู่ที่จุดเดิม? เช่นนั้นชีวิตเจ้าคงไม่มีค่าอะไรนัก”

“ขอรับ” เขาผิดหวังอย่างมากที่คนเป็นบิดาปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยเมื่อเขาถามเรื่องของมารดา จึงเดินออกมาจากเรือนของเขาด้วยความโมโห

เขาเดินมาตามทางป่าไผ่ ออกแรงเล็กน้อยฟันลำต้นทั้งสองข้างขาดเป็นท่อน ๆ เพื่อระบายอารมณ์ พอได้เห็นเซี่ยฟานถือถาดอาหารมาก็นึกอยากจะคว่ำสำรับอาหารนั่นทิ้งไปเสีย เพราะรู้สึกพาลในใจจนอยากทำลายหลายสิ่งหลายอย่างรอบตัว

เซี่ยฟานเดินถือสำรับด้วยความเบิกบานใจ เส้นทางที่เดินเป็นประจำนี้เป็นทางลัดที่ไม่ค่อยมีคนใช้มากนัก หวังซีซวนเคยบอกเขาเอาไว้ว่าปลอดภัยที่จะนัดพบกัน เพียงแต่วันนี้เซี่ยฟานคงจะดวงซวยมาพบหวังเยี่ยนหลง

ทันทีที่เห็นเซี่ยฟาน เขาก็รีบเดินมาใกล้ ๆ แล้วปัดสำรับนั้นหลุดจากมือของเซี่ยฟาน เสียงถ้วยชามหล่นกระทบพื้น อาหารกระเด็นไปคนละทาง คนที่ไม่ทันตั้งตัวก็นิ่งงัน ทำตัวไม่ถูก

หวังเยี่ยนหลงจับข้อมือของเซี่ยฟานแล้วลากเขาไปที่เปลี่ยว จากนั้นเริ่มลงมือทำร้ายเซี่ยฟานเพื่อปลดปล่อยอารมณ์โกรธของตนเอง เซี่ยฟานพยายามตั้งสติป้องกันตัวและใช้วิชาซับแรงที่หวังซีซวนเคยสอนเอาไว้

ผ่านไปครู่หนึ่ง หวังเยี่ยนหลงเริ่มรู้สึกดีขึ้น เขาจึงหยุดแล้วมองสภาพของเซี่ยฟาน ที่ตอนนี้นอนขดกุมหัวของตนเองเอาไว้ สายตาเหลือบมองแค่เพียงแวบเดียวเท่านั้นแล้วก็เดินจากไป

เซี่ยฟานคอยฟังเสียงฝีเท้าที่ค่อย ๆ ห่างไกลออกไปแล้วก็เริ่มยันตัวนั่ง จัดการกับร่างกายและความคิดของตนเองใหม่

“เดี่ยวค่อยกลับมาทายา” เขาพูดกับตนเองเช่นนั้น เพราะนึกถึงหวังซีซวนที่คงจะรออาหารเย็นอย่างใจจดใจจ่อแล้วก็กุลีกุจอไปที่ห้องครัว เพื่อดูว่ามีอาหารอะไรเหลืออยู่บ้าง ก่อนจะนำไปให้หวังซีซวน

ราวกับอาการบาดเจ็บเพิ่งจะออกฤทธิ์ เขาเดินกะเผลกไปที่เล้าหมูอย่างทุลักทุเล หวังซีซวนเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งมาหาเขาด้วยความเป็นห่วง

“เซี่ยฟาน เกิดอันใดขึ้น” หวังซีซวนถามเพราะตกใจ แต่ไหนแต่ไรมา วิชาซับแรงก็ช่วยไว้ได้มาก ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เซี่ยฟานจะสภาพย่ำแย่เพียงนี้

"คุณชายรีบทานก่อนเถิด เดี๋ยวรสชาติอาหารจะจืดชืดขอรับ” เซี่ยฟานยื่นให้เขา สีหน้ากัดฟันทน

“ช่างอาหารก่อนเถิด เจ้าเอายารักษามาด้วยใช่หรือไม่” หวังซีซวนถามเขา เซี่ยฟานล้วงเข้าไปในปกเสื้อแล้วค่อย ๆ หยิบมาให้เขา

“นี่ขอรับ”

“ดื่มให้หมด แล้วกลับเรือนกัน” หวังซีซวนยื่นขวดยาให้เซี่ยฟาน

“แต่ว่า...”

“ดื่มให้หมด อย่างอื่นค่อยว่ากัน” หวังซีซวนดุเซี่ยฟานที่เขาดื้อ

หลังจากนั้น หวังซีซวนก็หนีออกจากเล้าหมู เพื่อกลับไปทำแผลให้เซี่ยฟาน หากจะต้องโดนลงโทษเพราะเรื่องนี้ เขาก็ไม่สนใจนัก

หวังซีซวนคอยประคองเซี่ยฟานเอาไว้ ค่อย ๆ พยุงเดินกลับเรือน ไม่สนใจว่าใครจะมาพบเจออีกแล้ว เวลานี้ห่วงเซี่ยฟานมากที่สุด

ตอนนั้นที่หวังเยี่ยนหลงได้ปลดปล่อยความโกรธไปแล้ว เขาเดินออกมาจากตรงนั้นโดยไม่สนใจเซี่ยฟาน แต่พอนึกย้อนมาคิดดูดี ๆ แล้ว เขาก็กลับมาเพราะคิดจะทดสอบบางอย่างกับเซี่ยฟาน นึกไม่ถึงว่าจะได้เห็นเซี่ยฟานพยายามลากสังขารบาดเจ็บของตนเองไปหาหวังซีซวน และก็คาดไม่ผิดว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่เป็นดังที่ได้เห็นยามปกติ ทั้งคู่กำลังเล่นละครตบตาผู้อื่น

รุ่งเช้าวันต่อมา

หวังเยี่ยนหลงเริ่มประลองกับบรรดาศิษย์ทีละคน จนกระทั่งได้จับคู่ประลองสู้กับคุณชายสี่อีกครั้ง ทว่าครั้งนี้กลับมีแรงเอาชนะคุณชายสี่ไม่ทันครบหนึ่งก้านธูป เขาแปลกใจตัวเองมากกว่าอะไร นึกย้อนว่าทำไมถึงแกร่งขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แล้วก็คิดได้ว่าอาจจะเป็นเพราะเขาคนนั้น

“เซี่ยฟาน” หวังเยี่ยนหลงพึมพำกับตัวเองพลางยิ้มมุมปากแบบมีเลศนัย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 4 บ้านคือที่ที่มีเจ้า

    หลังจากวันนั้น ทุกคนต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง บรรยากาศสงบเงียบในชีวิตจึงกลับมาหาเสี่ยวหยุนและเหลียนเฟินอีกครั้ง แม้บางเวลาหลี่จิ้นหลิงจะมาเยี่ยมเยียนพวกเขาพร้อมน้องสาวบ้างก็ตามคืนหนึ่ง เหลียนเฟินตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงเสี่ยวหยุนพึมพำแผ่วเบา ใบหน้าและร่างกายของเขามีเหงื่อผุดจนเสื้อผ้าชื้น เนื้อตัวร้อนราวถูกไฟแผดเผา ตามแขนยังมีรอยแผลเป็นทางยาวหลายแห่ง“เสี่ยวหยุน!!!” เขาตะโกนเรียกคนที่นอนหลับใหล หน้านิ่วคิ้วขมวดพลางเขย่าตัวให้ตื่นแต่ไม่เป็นผลจึงร่ายวิชาหนึ่งสงบจิตใจให้รู้สึกตัวครั้นเสี่ยวหยุนสัมผัสได้ถึงสายลมเย็นและได้ยินเสียงเรียกของคนรักจึงค่อย ๆ ลืมตามองรอบตัวแล้วโอบกอดเหลียนเฟิน“ข้าฝันร้าย” เขาบอกคนในอ้อมกอด ร่างกายสั่นระริกราวกับกลัวสุดขีด “ข้าฝันว่าถูกนำตัวกลับไปยมโลก”“แต่ตอนนี้เจ้าอยู่กับข้า ไม่เป็นไรนะเสี่ยวหยุน” เหลียนเฟินลูบหลังเขาอย่างอ่อนโยนขณะที่ร่ายพลังบรรเทาความว้าวุ่นใจให้เขาไปด้วยครู่หนึ่งต่อมา เสี่ยวหยุนจึงได้สติกลับคืน เขาค่อย ๆ เล

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 3 หัวใจของข้าอบอุ่นเพราะเขา

    ซิ่นเฉิงได้ยินดังนั้นเผลอทำกระบี่หลุดมือ ทรุดเข่าลงกับพื้นพลันความรู้สึกหลายอย่างถาโถมเข้ามา หลวนเล่ออ้าปากค้างลืมหายใจไปชั่วขณะ ส่วนหลี่จิ้นหลิงได้แต่มองเหลียนเฟินด้วยแววตาเศร้าสร้อยเพราะอกหักโดยไม่รู้ตัว“เจ้าว่าอย่างไรนะ” หลี่จิ้นหลิงเอ่ยถามเสี่ยวหยุนอีกครั้งพลางหันหน้ามองเหลียนเฟิน “ท่านเซียน ท่านรับรักเขาแล้วหรือแต่ว่าเขาคือศิษย์ของท่าน”หลวนเล่อกล่าวขึ้นมาว่า “เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้เล่า เหลียนเฟิน เจ้าไม่รู้หรือว่าความรักเชิงชู้สาวระหว่างศิษย์อาจารย์ทำให้ผู้คนนินทาเกิดคำครหาได้ หากข่าวลือเช่นนี้แพร่ออกไปจะทำเช่นไร”เสี่ยวหยุนขมวดคิ้ว “ใครหน้าไหนกล้าว่าร้ายเขา ข้าจะจับมันลงหลุมแล้วเอาดินฝังกลบให้ดู”“ทุกคนใจเย็น ๆ ก่อนเถอะ” เหลียนเฟินพยายามคลายบรรยากาศมาคุเพราะรู้ว่าพวกเขาเป็นห่วงหากมีใครล่วงรู้เรื่องนี้“ต่อให้เจ้าข่มขู่พวกเขา ใช่ว่าข่าวลือจะหยุดลงง่าย ๆ เสียเมื่อไหร่” ซิ่นเฉิงเก็บกระบี่ขึ้นมาแล้วพูดต่อ “หากยังเคารพอาจารย์เจ้าอยู่บ้าง เลิก…”ปลายกระบี่เสี่ยวหยุนจ่อที่ลำคอของซิ่นเฉิงจนเหลียนเฟินต้องร้องห้ามท

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 2 เขาคือฟูเหรินของข้า

    หน้าบ้านหลังน้อยของพวกเขามีบุรุษร่างสูงและสตรีบอบบางสวมชุดสีขาวน้ำเงิน ในมือถือกระบี่อันเป็นสัญลักษณ์ของสำนักเซียน“ศิษย์พี่เหลียนเฟิน” ชายผู้นั้นยิ้มกว้างเมื่อเห็นใบหน้าที่ไม่ได้เจอกันมานานกว่าสิบปี “ศิษย์พี่ ท่านบาดเจ็บที่ใดหรือ”เหลียนเฟินเพิ่งนึกได้จึงบอกคนให้ขี่หลังว่า “เสี่ยวหยุน ปล่อยข้าลงก่อนเถิด ถึงบ้านเราแล้ว”“พวกเขาเป็นผู้ใดกันจึงเรียกหาสนิทสนมปานนั้น” น้ำเสียงฮึดฮัดอย่างที่เคยทำบ่อย ๆ เวลาหลี่จิ้นหลิงมาเยี่ยมอาจารย์ของเขาทำให้เหลียนเฟินเผลอยิ้มไม่ได้“มานี่สิ ข้าจะแนะนำให้พวกเจ้ารู้จักกัน” เหลียนเฟินเอ่ยทักทายศิษย์พี่และศิษย์น้องที่เขาไม่ได้เจอมานานด้วยความยินดีเพราะหลังจากขอออกจากสำนักวังธาราเหมันต์ เหลียนเฟินไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้ใดอีกเลยสตรีรูปงามคือศิษย์พี่หญิงหลวนเล่อ ส่วนอีกคนศิษย์น้องซิ่นเฉิง เขาบอกกับทั้งสองว่า “เสี่ยวหยุนเป็นลูกศิษย์ของข้า”ชายหนุ่มหันขวับมองหน้าเหลียนเฟินราวกับจะถามว่าเหตุใดจึงแนะนำว่าเขาเป็นเพียงศิษย์ ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ตกลงกันแล้วว่าจะเรียกเขาว่าฟูจวินหากแต่เห

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 1 เรียกข้าว่าฟูจวินได้หรือไม่

    สายลมเอื่อยพัดยอดดอกหญ้าสีขาวพลิ้วไหวลู่เอนไปทางซ้าย ดวงตาของเสี่ยวหยุนจ้องมองภาพของใครบางคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขา ยามได้เห็นคนในใจมักจะยิ้มแย้มโดยไม่รู้ตัวหากแต่ครานี้กลับชะงักงันเพราะใบหน้าที่คุ้นเคยเหมือนเยาว์วัยลงไปหลายปี ทั้งสีหน้า แววตาที่เศร้าสร้อยทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจเหลือเกิน เสี่ยวหยุนอยากเอื้อมมือเช็ดน้ำตาเปื้อนแก้มอีกฝ่ายใจจะขาดแต่ทำไม่ได้ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างดึงรั้งเอาไว้ไม่ให้แตะต้องร่างเปราะบางที่พร้อมจะแตกสลายในทุกเมื่อ“อย่าร้องเลย” เขาเอ่ยแผ่วเบาพร้อมทำทุกอย่างเพียงเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายมีน้ำตา “เป็นข้าหรือที่ทำผิดต่อท่าน”คนตรงหน้าไม่เอื้อนเอ่ยคำใด สายตาที่มองมาทางเขาว่างเปล่าจนเจ็บแปลบในใจ เสี่ยวหยุนไม่รู้เลยว่าต้องทำอย่างไรจึงจะหลุดพ้นจากสถานการณ์เช่นนี้ขณะกำลังตกอยู่ในภวังค์ความฝัน เสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังขึ้นมา “เสี่ยวหยุน”“…” เขามั่นใจว่าเสียงนั้นคือเสียงของคนที่เขากำลังมองอยู่ข้างหน้า แต่น้ำเสียงที่เอ่ยเรียกเขาดูสดใส ร่าเริงและเต็มไปด้วยความสุขต่างจากภาพใบหน้าที่เขาเห็นเวลานี้“เสี่ยวหยุน”ชายหนุ่มคิดในใจรู้ตัวแล้วว่าเขาเพียงแค่หลับฝัน หากลืมตาตื่นแล้วค

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 49 บทส่งท้าย 2/2 สารภาพ (ตอนจบ)

    “ความผิดร้ายแรงมีมากนัก ส่งเขาไปรับโทษในนรกขุมที่สาม” เสียงดุดันทรงอำนาจกล่าวพิพากษา หางตาของหวังเยี่ยนหลงเหลือบเห็นร่างวิญญาณคุ้นเคยกำลังดื่มน้ำแกงยายเมิ่งจึงโพล่งขึ้นมา “เหตุใดเจ้านั่นถึงได้ไปเกิดก่อนข้าเล่า” เขาสงสัยคำตัดสิน “มิใช่ว่าข้าเพิ่งบอกเจ้าหรือว่าความผิดเจ้ามีอันใดบ้าง” เสียงลึกลับโต้ตอบกลับมา ไม่เข้าใจว่าเหตุใดวิญญาณตัวเล็กกระจิดริดถึงได้ต่อปากต่อคำกับเขาเก่งนัก หวังเยี่ย

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 48 บทส่งท้าย 1/2 หวนคืน

    สิบเอ็ดปีต่อมา สายลมเย็นในฤดูใบไม้ผลิพัดเอื่อย ๆ ท้องฟ้าอากาศแจ่มใส ไร้ก้อนเมฆ เหลียนเฟินกำลังนั่งถือเบ็ดตกปลาอยู่ริมทะเลสาบ สายตาเหม่อมองไปอีกฝั่งที่อยู่แสนไกลนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา หลังจากจัดการกับหวังเยี่ยนหลงแล้ว เขาไม่เหลือความทรงจำเกี่ยวกับคนผู้นั้นอีกเลย เหลียนเฟินเดินทางกลับไปที่วังธาราเหมันต์เพื่อรับโทษและขอออกจากสำนัก นับตั้งแต่นั้นมาจึงใช้ชีวิตร่อนเร่พเนจรอยู่เพียงลำพัง ตัดขาดจากทุกสิ่งทุกอย่างโดยสิ้นเชิง 

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status