Share

ตอนที่ 13 วุ่นวาย

last update Last Updated: 2025-05-01 10:00:15

หวังซีซวนพยายามซักถามเซี่ยฟานว่าใครทำให้เขาเป็นเช่นนี้ แต่เซี่ยฟานไม่อยากให้คุณชายห้าต้องเป็นห่วง จึงไม่พูดอะไรเพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็คงต้องยอมรับชะตากรรมไปจนกว่าจะถึงวันนั้น

“เซี่ยฟาน เจ้าบอกว่ามีคนทำร้ายเจ้า ตอนที่ถือสำรับมาให้ข้าใช่หรือไม่” หวังซีซวนถามซ้ำ

“ขอรับ” เซี่ยฟานพยักหน้า หลบสายตา เกรงว่าจะหลุดปากพูดอะไรมากกว่านี้แล้วเขาจับพิรุธได้

“ไม่อยากบอกข้าก็ตามใจเจ้า ตั้งแต่วันนี้ไป ไม่ต้องเอาสำรับเย็นมาให้ข้า” เขาก้มลงแตะยาในตลับทาตรงบริเวณฟกช้ำให้เซี่ยฟาน ผิวขาวของเขาทำให้เห็นรอยแดงอมเขียวชัดเจนมากขึ้น

“ไม่เป็นอันใดหรอกขอรับ ข้าจะระวังตัว เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน” เซี่ยฟานนึกทางลับภายในสำนักออกอยู่สองสามแผน ซึ่งเป็นทางที่เขาเคยสำรวจกับหวังซีซวนเมื่อนานมาแล้ว

“เจ้าอย่าดื้อสิ ข้าบอกว่าไม่ต้อง เข้าใจหรือไม่” หวังซีซวนดุเซี่ยฟาน เพราะไม่อยากให้ต้องมาเสี่ยงเจ็บตัว

“ขอรับ คุณชาย” เซี่ยฟานพยักหน้าตกลง แต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ จึงถามเขา “ไม่ได้ทานอาหารเย็น จะไหวหรือขอรับ”

“ข้าจะรีบผ่านด่านแล้วกลับมาชดเชยมื้อใหญ่ เจ้ารอข้าได้เลย” หวังซีซวนยิ้มแป้นให้เขา การฝึกด่านนี้แม้จะดูยากแต่เขาพอจะจับทางได้บ้างแล้ว อีกไม่นานคงจะผ่านไปได้

หลังจากนั้น เซี่ยฟานก็ไม่ไปเจอเขาตามคำสั่ง วัน ๆ เอาแต่ทำความสะอาดเรือน ถูพื้น กวาดลานนอกชาน รดน้ำต้นสมุนไพรในกระถางน้อย ๆ ตามชั้นวาง

ทว่า ไม่ออกไปที่ใด ก็ใช่ว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนั้นได้ ในเมื่อตัวปัญหาเดินมาหาเขาถึงที่เรือน หวังเยี่ยนหลงรอดักทางผ่านไปเล้าหมูอยู่สองสามวัน แต่ไม่พบเซี่ยฟานเลยสักครั้ง วันนี้จึงลองมาดูที่เรือนต้นสนของหวังซีซวน

เซี่ยฟานเห็นเงาของคนที่คุ้นเคย เขาจึงรีบหันหลังเตรียมวิ่งไปหลบในเรือน แต่หวังเยี่ยนหลงที่มีวิชาตัวเบา เพียงแค่นึกในใจ ร่างของเขาก็พลันมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเซี่ยฟานแล้ว

“ที่แท้ เจ้าก็หลบหน้าข้า?” เขาเลิกคิ้ว เอียงคอถามเซี่ยฟานด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น รู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจ

“เปล่าขอรับ ข้าแค่นึกได้ว่าต้องรีบไปเก็บชั้นหนังสือ” เซี่ยฟานพูดจบก็เดินอ้อมตัวเขาไป กำลังจะเปิดประตูเรือนแต่ก็ถูกมือของหวังเยี่ยนหลงจับเอาไว้

“ข้ายังพูดไม่จบ” เขากำข้อมือของเซี่ยฟานไว้แน่น พลางกระชากตัวของเซี่ยฟานไปอีกทาง จนร่างของเขาทรุดลงกับพื้น

เซี่ยฟานพยายามไม่คิดอะไรมากนัก เขาเอามือยันพื้นเพื่อจะพยุงตัวเองลุกขึ้น แต่หวังเยี่ยนหลงไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆ พอเห็นท่าทางของเซี่ยฟานที่พยายามจะหนีเข้าไปในเรือนแล้วยิ่งฉุนเฉียวมากกว่าเดิม จึงจับข้อมือของเซี่ยฟานแล้วเหวี่ยงตัวเข้าไปในเรือนจนหัวของเซี่ยฟานชนกับขอบเก้าอี้เป็นรอยแดง พอเขาก้าวเข้ามาด้านในเรียบร้อย หวังเยี่ยนหลงก็ปิดประตูและหน้าต่างทุกบานในเรือนอย่างมิดชิดราวกับไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่

“อยากเข้ามาข้างในนัก พอใจหรือไม่” หวังเยี่ยนหลงมองสีหน้าของเซี่ยฟาน แล้วกวาดตามองไปรอบห้อง “เจ้าพูดถึงชั้นหนังสือนั่นรึ” เขาชี้ไปที่มุมด้านขวาของห้อง ตำราวิชาต่าง ๆ ของหวังซีซวนถูกเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบ

เซี่ยฟานไม่ตอบเขา เดาใจไม่ถูกว่าควรจะทำเช่นไร เขามองตามปลายนิ้วชี้ของหวังเยี่ยนหลง ฉับพลัน หนังสือตามชั้นก็ค่อย ๆ หล่นลงมาด้านล่างจนหมด

“งานของเจ้ายังไม่เสร็จจริง ๆ ด้วย” เขายิ้มมุมปาก จากนั้นก็วาดฝ่ามือไปที่ข้าวของในตู้ ชั้นวางสมุนไพรด้านนอกเรือน เวลาผ่านไปไม่ถึงก้านธูป สภาพทุกสิ่งที่อยู่ในเรือนต้นสนพังกระจายราวกับโดนพายุพัดผ่าน

เซี่ยฟานได้ยินเสียงกระถางต้นสมุนไพรหล่นลงมาก็ใจหาย ต้นไม้เหล่านั้นหวังซีซวนคอยดูแลประคบประหงมเป็นอย่างดีเพราะกลัวมันจะเหี่ยวเฉา เวลานี้ถูกหวังเยี่ยนหลงปัดตกลงมาจากชั้นหัวทิ่มดิน มิใช่ว่าลำต้นหัก รากเสียหายไปแล้วหรือ เซี่ยฟานนึกได้เช่นนั้นก็รีบวิ่งไปที่ประตู

“อะไรกันเล่า พอได้อยู่ในเรือนกลับจะออกไปข้างนอก เจ้ากำลังยั่วข้า?” เขาเข้ามาขวางทางออก

“เปล่าขอรับ ข้าเพียงแค่...” เซี่ยฟานพยายามอธิบายให้เขาฟัง

เสียงฝ่ามือฟาดลงที่ใบหน้าของเซี่ยฟานในทันใด เดิมทีหวังเยี่ยนหลงก็ไม่ชอบพูดกับใครนาน ๆ นัก คิดจะทำสิ่งใดก็ลงมือในทันที

“เจ้านี่มันโง่หรือโง่กันแน่ ดูไม่ออกหรือว่าต้องทำตัวเช่นไร ถ้าข้าไม่สั่ง เจ้าไม่มีสิทธิ์ทำอะไรทั้งนั้น” หวังเยี่ยนหลงตวาดเซี่ยฟานอย่างหมดความอดทน ทาสรับใช้คนอื่นที่อยู่ในเรือน พอเห็นหน้าเขาต่างก็รีบนั่งลงคุกเข่า กลัวหัวหดจนแทบลืมหายใจ แต่เซี่ยฟานกลับเดินวุ่นไปมาราวกับไม่มีความเกรงกลัวเขาสักนิด

เซี่ยฟานนิ่งเงียบ แต่นั่นกลับทำให้หวังเยี่ยนหลงไม่สบอารมณ์มากกว่าเดิม เห็นอะไรขวางหูขวางตาก็เดินเข้าไปดึงทึ้ง ขว้างปาลงพื้น เศษข้าวของกระจัดกระจาย

“คุณชายสาม คุณชาย หยุดเถิดขอรับ คุณชายต้องการอะไร ข้าน้อยจะไปหามาให้” เซี่ยฟานเอ่ยปากถามเขา เกรงว่าถ้าหวังเยี่ยนหลงไม่หยุด เรือนต้นสนของหวังซีซวนคงจะไม่เหลืออะไรแล้ว

“อ้อ! นึกออกแล้วหรือ ว่าต้องทำตัวเช่นไร” หวังเยี่ยนหลงหยุดอาละวาดแล้วหันมาหาเซี่ยฟาน “ลุกขึ้น!”

เซี่ยฟานค่อย ๆ ยืนขึ้น พยายามหลบสายตา ในใจคิดว่าวันนี้คงจะโดนคนผู้นี้ทำร้ายอีกอย่างแน่นอน เซี่ยฟานจึงตั้งรับเพื่อไม่ให้ตัวเองบาดเจ็บมาก และเรื่องก็เป็นดังที่คาดไว้ หวังเยี่ยนหลงลงมือกับเซี่ยฟานเช่นเดิมเพื่อระบายความโกรธที่อัดอั้นในใจ ความเครียด ความคาดหวัง เรื่องราวต่าง ๆ นานาที่หาที่ลงไม่ได้

พออารมณ์ดีขึ้นบ้างแล้ว เขาก็เดินผิวปากกลับเรือนใบไผ่ของตนเองราวกับเมื่อครู่ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

เซี่ยฟานเช็ดเลือดที่มุมปาก พยุงตัวลุกขึ้นเดินไปหยิบยาในตลับมาทา ครั้นนั่งพักหายใจได้ครู่หนึ่ง เขาก็เริ่มเก็บกวาดเรือนทั้งด้านนอกด้านในให้กลับมาเป็นปกติ กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็เกือบกลางดึก

ในเมื่อรู้แล้วว่าเซี่ยฟานอยู่ที่ใด หวังเยี่ยนหลงจึงคิดจะแวะเวียนมาหาเขาทุกวันไม่ขาด เซี่ยฟานเองก็พยายามหนีไปหลบอยู่ที่อื่นเพราะไม่อยากรับมือกับอารมณ์ร้ายของเขา ทั้งไม่อยากให้เรือนต้นสนพัง แต่ไม่ว่าจะไปที่ใด หวังเยี่ยนหลงก็ตามเขาจนเจอทุกครั้ง ยิ่งพอรู้ว่าเซี่ยฟานต้องการหลบหน้า เขาก็ยิ่งโกรธเซี่ยฟานโดยไม่รู้ตัว

“วันนี้ไม่หนีไปที่ไหน?” หวังเยี่ยนหลงยืนกอดอกถามเขา ไม่ได้ต้องการรู้เหตุผล เพียงแค่ถามไปอย่างนั้น

“ไม่ขอรับ” ใจจริงอยากจะตอบไปเหลือเกินว่าหนีไปก็ไม่รอดอยู่ดี

“ดี ดี เข้าไปข้างใน” เขาสั่งเซี่ยฟาน วาดฝ่ามือเปิดประตูเรือนให้เซี่ยฟานเดินเข้าไปอย่างว่าง่าย

ความสัมพันธ์แบบแปลก ๆ ระหว่างทั้งสองคนจึงเริ่มขึ้นด้วยเหตุนี้ จนเวลาผ่านมาหนึ่งเดือน

หวังซีซวนที่สอบผ่านด่านที่สอง ยิ้มหน้าบานรีบวิ่งกลับมาที่เรือนต้นสน หวังจะมากอดเซี่ยฟานให้หายคิดถึง

“เซี่ยฟาน! พี่สาม!” เขาอุทานตกใจ ยิ่งได้เห็นว่าเซี่ยฟานเลือดกบปาก คิ้วแตก ยิ่งตกใจมากกว่าเดิม จึงวิ่งไปดูอาการอย่างผิดวิสัยที่ทำทีแกล้งเซี่ยฟานต่อหน้าคนอื่น ๆ

เซี่ยฟานที่เห็นดังนั้นจึงรีบปัดมือของหวังซีซวนออก เตือนสติเขาไม่ให้ลืมว่าต้องทำตัวเช่นไร

“น้องห้า เจ้าเป็นห่วงเขา?” หวังเยี่ยนหลงแกล้งถาม

หวังซีซวนที่ลืมตัวเมื่อครู่รีบตอบกลับ “ไม่เลย ๆ ข้าแค่มาดูว่าถึงตายหรือไม่ กลัวว่าจะเกิดเรื่องใหญ่”

“ตายแล้วจะอย่างไร หาคนใหม่มาก็สิ้นเรื่อง” หวังเยี่ยนหลงพูดออกไปเพราะคิดเช่นนั้นจริง ๆ “ทาสคนเดียว หาง่ายยิ่งกว่าอะไร”

“พี่สาม ข้าไม่ได้จะพูดขัดใจ แต่เซี่ยฟานก็พอจะทำอะไรบางอย่างได้เรื่องอยู่ ข้าไม่อยากเสียเวลาหาคนใหม่น่ะขอรับ” ไม่รู้ว่าหวังซีซวนพูดเช่นนี้ไปกระตุกต่อมอะไรของเขาเข้า หวังเยี่ยนหลงจึงพูดออกมาว่า “ข้าว่าเจ้าไปบอกแม่บ้านให้หาคนใหม่ไว้ก็ดี เผื่อวันหน้าจะได้ไม่เสียเวลา”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 5 เขาคือคนผู้นั้น

    หวังซีซวน คุณชายห้าของสกุลหวังเดินทางมาที่หมู่บ้านแห่งนี้พร้อมกับซวงและหลุนเพื่อมาเยี่ยมเยียนเหลียนเฟิน พวกเขาเห็นว่าช่วงนี้พรรคมารเริ่มรุกล้ำเข้ามาใกล้พื้นที่แถบนี้จึงนึกเป็นห่วงแต่ไม่เคยรู้เลยว่าจะมีชายหนุ่มคนหนึ่งอาศัยอยู่กับเขาด้วยเหลียนเฟินจึงเชิญพวกเขาเข้ามานั่งที่ตั่งไม้ข้างหน้า ขณะที่เสี่ยวหยุนเตรียมชุดน้ำชามารินต้อนรับแขกผู้มาเยือน“ไม่ได้เจอท่านเซียนนานมากแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง แล้วชายหนุ่มผู้นี้เป็นใครกันหรือ” หวังซีซวนเอ่ยถามไถ่ตามประสาเวลานั้น เสี่ยวหยุนเดินถือถาดชุดน้ำชามาพอดีจึงคาดหวังคำตอบจากเหลียนเฟินเป็นอย่างมาก สายตามองอีกฝ่ายออเซาะไม่ปล่อยให้เขาได้หลุดพ้นจากภวังค์ความหลงใหล“เขาคือคนรักของข้า” เหลียนเฟินบอกหวังซีซวนไปตามตรงทำให้คนที่อยากได้ยินคำนี้ยิ้มจนแก้มแทบปริเพราะในที่สุดเหลียนเฟินก็ยินยอมที่จะบอกใคร ๆ แล้วว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นดั่งสามีภรรยาซวงและหลุนได้ยินดังนั้นจึงมองหน้ากันพึมพำกันสองคนว่า “เขาคงลืมนายท่านแล้วสินะ” แม้กระซิบแผ่วเบาแต่เสียงนั้นก็ดังพอจะทำให้เสี่ยวหยุนได้ยิน ทั้งสองคนจึงถูก

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 4 บ้านคือที่ที่มีเจ้า

    หลังจากวันนั้น ทุกคนต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง บรรยากาศสงบเงียบในชีวิตจึงกลับมาหาเสี่ยวหยุนและเหลียนเฟินอีกครั้ง แม้บางเวลาหลี่จิ้นหลิงจะมาเยี่ยมเยียนพวกเขาพร้อมน้องสาวบ้างก็ตามคืนหนึ่ง เหลียนเฟินตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงเสี่ยวหยุนพึมพำแผ่วเบา ใบหน้าและร่างกายของเขามีเหงื่อผุดจนเสื้อผ้าชื้น เนื้อตัวร้อนราวถูกไฟแผดเผา ตามแขนยังมีรอยแผลเป็นทางยาวหลายแห่ง“เสี่ยวหยุน!!!” เขาตะโกนเรียกคนที่นอนหลับใหล หน้านิ่วคิ้วขมวดพลางเขย่าตัวให้ตื่นแต่ไม่เป็นผลจึงร่ายวิชาหนึ่งสงบจิตใจให้รู้สึกตัวครั้นเสี่ยวหยุนสัมผัสได้ถึงสายลมเย็นและได้ยินเสียงเรียกของคนรักจึงค่อย ๆ ลืมตามองรอบตัวแล้วโอบกอดเหลียนเฟิน“ข้าฝันร้าย” เขาบอกคนในอ้อมกอด ร่างกายสั่นระริกราวกับกลัวสุดขีด “ข้าฝันว่าถูกนำตัวกลับไปยมโลก”“แต่ตอนนี้เจ้าอยู่กับข้า ไม่เป็นไรนะเสี่ยวหยุน” เหลียนเฟินลูบหลังเขาอย่างอ่อนโยนขณะที่ร่ายพลังบรรเทาความว้าวุ่นใจให้เขาไปด้วยครู่หนึ่งต่อมา เสี่ยวหยุนจึงได้สติกลับคืน เขาค่อย ๆ เล

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 3 หัวใจของข้าอบอุ่นเพราะเขา

    ซิ่นเฉิงได้ยินดังนั้นเผลอทำกระบี่หลุดมือ ทรุดเข่าลงกับพื้นพลันความรู้สึกหลายอย่างถาโถมเข้ามา หลวนเล่ออ้าปากค้างลืมหายใจไปชั่วขณะ ส่วนหลี่จิ้นหลิงได้แต่มองเหลียนเฟินด้วยแววตาเศร้าสร้อยเพราะอกหักโดยไม่รู้ตัว“เจ้าว่าอย่างไรนะ” หลี่จิ้นหลิงเอ่ยถามเสี่ยวหยุนอีกครั้งพลางหันหน้ามองเหลียนเฟิน “ท่านเซียน ท่านรับรักเขาแล้วหรือแต่ว่าเขาคือศิษย์ของท่าน”หลวนเล่อกล่าวขึ้นมาว่า “เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้เล่า เหลียนเฟิน เจ้าไม่รู้หรือว่าความรักเชิงชู้สาวระหว่างศิษย์อาจารย์ทำให้ผู้คนนินทาเกิดคำครหาได้ หากข่าวลือเช่นนี้แพร่ออกไปจะทำเช่นไร”เสี่ยวหยุนขมวดคิ้ว “ใครหน้าไหนกล้าว่าร้ายเขา ข้าจะจับมันลงหลุมแล้วเอาดินฝังกลบให้ดู”“ทุกคนใจเย็น ๆ ก่อนเถอะ” เหลียนเฟินพยายามคลายบรรยากาศมาคุเพราะรู้ว่าพวกเขาเป็นห่วงหากมีใครล่วงรู้เรื่องนี้“ต่อให้เจ้าข่มขู่พวกเขา ใช่ว่าข่าวลือจะหยุดลงง่าย ๆ เสียเมื่อไหร่” ซิ่นเฉิงเก็บกระบี่ขึ้นมาแล้วพูดต่อ “หากยังเคารพอาจารย์เจ้าอยู่บ้าง เลิก…”ปลายกระบี่เสี่ยวหยุนจ่อที่ลำคอของซิ่นเฉิงจนเหลียนเฟินต้องร้องห้ามท

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 2 เขาคือฟูเหรินของข้า

    หน้าบ้านหลังน้อยของพวกเขามีบุรุษร่างสูงและสตรีบอบบางสวมชุดสีขาวน้ำเงิน ในมือถือกระบี่อันเป็นสัญลักษณ์ของสำนักเซียน“ศิษย์พี่เหลียนเฟิน” ชายผู้นั้นยิ้มกว้างเมื่อเห็นใบหน้าที่ไม่ได้เจอกันมานานกว่าสิบปี “ศิษย์พี่ ท่านบาดเจ็บที่ใดหรือ”เหลียนเฟินเพิ่งนึกได้จึงบอกคนให้ขี่หลังว่า “เสี่ยวหยุน ปล่อยข้าลงก่อนเถิด ถึงบ้านเราแล้ว”“พวกเขาเป็นผู้ใดกันจึงเรียกหาสนิทสนมปานนั้น” น้ำเสียงฮึดฮัดอย่างที่เคยทำบ่อย ๆ เวลาหลี่จิ้นหลิงมาเยี่ยมอาจารย์ของเขาทำให้เหลียนเฟินเผลอยิ้มไม่ได้“มานี่สิ ข้าจะแนะนำให้พวกเจ้ารู้จักกัน” เหลียนเฟินเอ่ยทักทายศิษย์พี่และศิษย์น้องที่เขาไม่ได้เจอมานานด้วยความยินดีเพราะหลังจากขอออกจากสำนักวังธาราเหมันต์ เหลียนเฟินไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้ใดอีกเลยสตรีรูปงามคือศิษย์พี่หญิงหลวนเล่อ ส่วนอีกคนศิษย์น้องซิ่นเฉิง เขาบอกกับทั้งสองว่า “เสี่ยวหยุนเป็นลูกศิษย์ของข้า”ชายหนุ่มหันขวับมองหน้าเหลียนเฟินราวกับจะถามว่าเหตุใดจึงแนะนำว่าเขาเป็นเพียงศิษย์ ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ตกลงกันแล้วว่าจะเรียกเขาว่าฟูจวินหากแต่เห

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 1 เรียกข้าว่าฟูจวินได้หรือไม่

    สายลมเอื่อยพัดยอดดอกหญ้าสีขาวพลิ้วไหวลู่เอนไปทางซ้าย ดวงตาของเสี่ยวหยุนจ้องมองภาพของใครบางคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขา ยามได้เห็นคนในใจมักจะยิ้มแย้มโดยไม่รู้ตัวหากแต่ครานี้กลับชะงักงันเพราะใบหน้าที่คุ้นเคยเหมือนเยาว์วัยลงไปหลายปี ทั้งสีหน้า แววตาที่เศร้าสร้อยทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจเหลือเกิน เสี่ยวหยุนอยากเอื้อมมือเช็ดน้ำตาเปื้อนแก้มอีกฝ่ายใจจะขาดแต่ทำไม่ได้ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างดึงรั้งเอาไว้ไม่ให้แตะต้องร่างเปราะบางที่พร้อมจะแตกสลายในทุกเมื่อ“อย่าร้องเลย” เขาเอ่ยแผ่วเบาพร้อมทำทุกอย่างเพียงเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายมีน้ำตา “เป็นข้าหรือที่ทำผิดต่อท่าน”คนตรงหน้าไม่เอื้อนเอ่ยคำใด สายตาที่มองมาทางเขาว่างเปล่าจนเจ็บแปลบในใจ เสี่ยวหยุนไม่รู้เลยว่าต้องทำอย่างไรจึงจะหลุดพ้นจากสถานการณ์เช่นนี้ขณะกำลังตกอยู่ในภวังค์ความฝัน เสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังขึ้นมา “เสี่ยวหยุน”“…” เขามั่นใจว่าเสียงนั้นคือเสียงของคนที่เขากำลังมองอยู่ข้างหน้า แต่น้ำเสียงที่เอ่ยเรียกเขาดูสดใส ร่าเริงและเต็มไปด้วยความสุขต่างจากภาพใบหน้าที่เขาเห็นเวลานี้“เสี่ยวหยุน”ชายหนุ่มคิดในใจรู้ตัวแล้วว่าเขาเพียงแค่หลับฝัน หากลืมตาตื่นแล้วค

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 49 บทส่งท้าย 2/2 สารภาพ (ตอนจบ)

    “ความผิดร้ายแรงมีมากนัก ส่งเขาไปรับโทษในนรกขุมที่สาม” เสียงดุดันทรงอำนาจกล่าวพิพากษา หางตาของหวังเยี่ยนหลงเหลือบเห็นร่างวิญญาณคุ้นเคยกำลังดื่มน้ำแกงยายเมิ่งจึงโพล่งขึ้นมา “เหตุใดเจ้านั่นถึงได้ไปเกิดก่อนข้าเล่า” เขาสงสัยคำตัดสิน “มิใช่ว่าข้าเพิ่งบอกเจ้าหรือว่าความผิดเจ้ามีอันใดบ้าง” เสียงลึกลับโต้ตอบกลับมา ไม่เข้าใจว่าเหตุใดวิญญาณตัวเล็กกระจิดริดถึงได้ต่อปากต่อคำกับเขาเก่งนัก หวังเยี่ย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status