공유

ตอนที่ 8 ยอมใจอ่อน

last update 최신 업데이트: 2025-04-26 10:00:52

            นับตั้งแต่วันที่หวังซีซวนได้เจอกับเซี่ยฟาน เขาก็ทดสอบจิตใจและความอดทนของเซี่ยฟานตลอดเวลา เซี่ยฟานนั้นเดิมทีไม่ค่อยมีปากมีเสียงอะไร เวลาโดนหวังซีซวนแกล้ง เขาก็นิ่งเงียบไม่ตอบโต้ ครั้นเจอหวังซีซวนดื้อ เอาแต่ใจ เขาก็ใจเย็นรอคอยและทำหน้าที่ของตนให้สำเร็จ เซี่ยฟานปลอบใจตนเองว่าอย่างน้อยที่นี่ก็ดีกว่ามาก

            แต่สิ่งที่เขาคิดกลับเป็นแค่เพียงฉากหนึ่งที่ได้เห็นในเวลานั้น สถานที่เงียบสงบเริ่มกลับมาครึกครื้น เซี่ยฟานได้เห็นคนรุ่นเดียวกันมากมายในสำนัก คุณชายทั้งเจ็ด ลูกศิษย์ คนรับใช้ คนงาน ความวุ่นวายก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ

            แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้รู้ว่า ที่นี่ก็ไม่ต่างจากนรกขุมเดิม แต่ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ เขาก็มีความหวังอยู่เสมอ เซี่ยฟานเรียนรู้จากสองพี่น้องคู่นั้นว่าต้องทำงานแล้วเก็บหอมรอมริบ จากนั้นไถ่ถอนตัวเอง เขาก็จะได้เป็นอิสระ

            เขาอดทนกับความเอาแต่ใจของหวังซีซวนมาได้สองเดือน แล้วก็ได้รู้ว่าหวังซีซวนเป็นคนที่อ่อนแอสุดในบรรดาคุณชายทั้งเจ็ด รวมถึงลูกศิษย์หลายสิบคนของหวังเฉิงเย่

            สำนักตระกูลหวังเป็นสถานที่ฝึกวิชาสร้างขึ้นใหม่ เติบโตอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงแค่สิบปีด้วยฝีมือของหวังเฉิงเย่ แต่ละวันคุณชายและลูกศิษย์ต่างฝึกหนัก เนื้อตัวได้แผลไม่เว้นวัน แต่ก็ยังไม่วายชอบมารังแกหวังซีซวนอยู่เรื่อย

            “หวังซีซวน เจ้าน่ะ มีสิทธิ์อะไรถึงไม่ต้องฝึกอย่างพวกข้า” คุณชายหกถามเขาพร้อมง้างมือหมายจะตีหัวของหวังซีซวน

            เซี่ยฟานเห็นดังนั้นจึงเอาตัวเข้ามาขวาง

            “เจ้านี่ หาเรื่องใส่ตัว?” คุณชายหกตวาดใส่เขาแล้วผลักเซี่ยฟานออกไป กำลังง้างมือทุบหวังซีซวนอีกรอบ เซี่ยฟานลุกขึ้นพยายามวิ่งเข้ามาแต่ถูกมือข้างหนึ่งของคนที่ตัวใหญ่กว่าดึงเอาไว้

            “พี่สี่!” เสียงของคุณชายหกดังขึ้น หลบสายตาเขา

            “เฮอะ เรื่องแค่นี้ยังจัดการไม่ได้ แล้วจะเอาชนะเจ้าสามได้เช่นไร” คุณชายสี่เยาะเย้ยเขา วันนี้อารมณ์ดีจึงมาดูน้องต่างมารดาทั้งสองคนทะเลาะกัน

            “ก็เจ้าทาสนี่มาขวางข้า” เขาพยายามโบ้ยความผิดให้เซี่ยฟาน

            “ขวางแล้วอย่างไร แค่ทาสคนเดียว จัดการไม่ได้รึ” คุณชายสี่มองเซี่ยฟานด้วยหางตา

            คุณชายหกไม่รอช้า เห็นว่าพี่สี่ของเขาจับตัวเซี่ยฟานเอาไว้ จึงเริ่มลงมือกับหวังซีซวน ไม่อย่างนั้นแล้ว คนที่จะโดนทุบตีคงจะเป็นเขาอย่างแน่นอน

            ระบบการปกครองภายในสำนักตระกูลหวังนั้น แตกต่างจากสำนักอื่น ๆ คือ ไม่ว่าจะเป็นบุตรของเขาหรือลูกศิษย์ย่อมมีค่าเท่ากัน แต่ละวันล้วนต้องต่อสู้กันเองเพื่อฝึกฝนอย่างเคร่งครัดและทำคะแนนให้ตนเองอยู่ระดับที่สูงกว่าเดิม คนที่แข็งแกร่งที่สุดย่อมเป็นผู้อยู่รอด

            เซี่ยฟานที่เห็นหวังซีซวนโดนทุบตีก็แปลกใจ ตอนอยู่กับเขาดูไม่เหมือนคนที่จะยอมใครง่าย ๆ แต่พอเห็นสภาพของเขาแล้วก็นึกถึงคู่พี่น้องสองคน เซี่ยฟานสะบัดข้อมือให้หลุดจากเงื้อมมือของคุณชายสี่ แล้ววิ่งไปกอดหวังซีซวนเอาไว้ ยอมโดนคนอื่นทำร้ายอีกคราเพื่อปกป้องเจ้าเด็กน้อยเอาแต่ใจ

            หลังจากที่คนเหล่านั้นพอใจแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันไป เซี่ยฟานนำยามาทาแผลให้หวังซีซวนอย่างอ่อนโยน

            “เจ้าเข้ามายุ่งทำไม” เขาทำเสียงฮึดฮัด ในใจเริ่มลังเลว่าเซี่ยฟานไม่เหมือนคนอื่น ๆ แต่ก็ยังไม่อยากยอมรับใครง่าย ๆ เพราะทุกคนที่เข้ามาที่นี่ ย่อมต้องหวังผลประโยชน์ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง

            เซี่ยฟานไม่ตอบอะไร ยังคงทายาให้หวังซีซวนเงียบ ๆ

            “เซี่ยฟาน ข้าพูดกับเจ้าอยู่” เสียงเล็ก ๆ เริ่มหงุดหงิด

            “ข้ามีหน้าที่ดูแลคุณชายขอรับ”

            “แต่ทำแบบนั้น เจ้าจะตายได้นะ” หวังซีซวนสงสัย “ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องอะไรกับเจ้ากันแน่”

            วันต่อมาเรื่องราวแบบเดิมยังคงเกิดขึ้นวนเวียน ไม่เจอฤทธิ์ของคุณชายหก ก็จะเจอคุณชายรอง หรือไม่ก็คุณชายใหญ่ ชีวิตของหวังซีซวนไม่ง่ายเลย แต่ถึงแม้ว่าเขาจะอ่อนแอที่สุด เขาก็เป็นคนที่ฉลาดที่สุดเช่นกัน

            และเมื่อได้เห็นว่าเซี่ยฟานปฏิบัติกับตนเช่นไร เขาก็ยิ่งมั่นใจว่าไม่มีพิษภัย ไม่ได้เป็นคนของใคร ไม่ได้หวังประโยชน์อะไรจากเขา

            “เซี่ยฟาน เจ้ามานี่สิ” หวังซีซวนหยิบยาตลับหนึ่งออกมาแล้วทาแผลให้เซี่ยฟาน

            “คุณชายทำอะไรหรือขอรับ ข้าทาเองได้” เซี่ยฟานตกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา เด็กน้อยเอาแต่ใจวันนี้ดูเป็นเด็กน้อยที่น่ารักอย่างไรอย่างนั้น

            “ข้าจะทายาให้เจ้า อยู่นิ่ง ๆ” เขาแตะยาจากตลับแล้วป้ายบนใบหน้าของเซี่ยฟาน แขน ขา ลำตัวทีละนิด “สภาพเจ้า ดูไม่ได้เลย” หวังซีซวนส่ายหน้าถอนหายใจ ร่างกายของเขาไม่เป็นอะไรมากก็เพราะเซี่ยฟานช่วยเอาไว้

            “ขอบคุณขอรับ”

            “เซี่ยฟาน ที่ผ่านมา ข้าขอโทษ” หวังซีซวนเอ่ยขึ้น สายตามีความจริงใจซ่อนอยู่

            “เรื่องอันใดหรือ” เซี่ยฟานกำลังงุนงงกับคำพูดของเขา แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีใครขอโทษเขาสักครั้ง

            “ข้าแกล้งเจ้า อารมณ์เสียใส่ ทำให้เจ้าต้องถูกเจ้าพวกนั้นรังแกไปด้วย ข้าขอโทษจริง ๆ” เขาพาเซี่ยฟานไปนั่งที่โต๊ะแล้วพูดอย่างจริงจัง “สักวันหนึ่ง ข้าจะพาเจ้าหนีไปจากที่นี่”

            “คุณชายหมายความว่าอย่างไร”

            “เจ้าไม่อยากหรือ” หวังซีซวนคิ้วขมวด คนบ้าที่ไหนจะอยากอยู่ที่แบบนี้กัน

            “ข้าเป็นทาส ทำงานเก็บอัฐไว้ได้ส่วนหนึ่งก็ไถ่ถอนตนเองได้นี่ขอรับ ไม่จำเป็นจะต้องหนีเสียหน่อย” เซี่ยฟานอธิบายสิ่งที่เขารู้มาให้หวังซีซวนฟัง

            “เฮ้อ..” หวังซีซวนถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ต่อให้เจ้าเก็บอัฐกองเท่าภูเขาได้ เจ้าก็ไถ่ถอนตนเองไม่ได้หรอก คนที่จะออกไปจากสำนักได้ มีแต่คนที่หมดลมหายใจแล้วเท่านั้น” สีหน้าของหวังซีซวนไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจ เขามีแผนในใจแล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา จึงต้องยอมทำตัวเป็นคนอ่อนแอตามน้ำไปเพื่อไม่ให้ใครมายุ่งกับเขา แม้สถานการณ์จริงจะตรงกันข้ามก็เถอะ

            “คนตายเท่านั้นหรือ” ราวกับแสงสว่างในใจของเซี่ยฟานเริ่มมอดลง สีหน้าเขาสลด ห่อเหี่ยวจนหวังซีซวนสังเกตได้

            “ข้าถึงบอกเจ้าอย่างไรเล่า ว่าข้าจะพาเจ้าหนีไปด้วย ข้ากำลังพยายามอยู่ สักวันต้องสำเร็จแน่นอน เจ้าจะหนีไปกับข้าหรือไม่” หวังซีซวนถามเขาอีกครั้งให้แน่ใจ

            “ไปขอรับ” หากจะมีวิธีใดที่หลุดพ้นไปได้ เซี่ยฟานย่อมไม่ลังเล

            “แต่ตอนนี้ ต้องตามน้ำไปก่อน จำไว้ว่า ใครมารังแกก็ยอม ๆ ไปบ้าง ไม่เช่นนั้นเจ้าจะโดนหนักกว่าเดิม ข้าจะสอนวิธีซับแรงให้เจ้า อย่าได้บอกใครเชียวล่ะ” หวังซีซวนกระชิบเบา ๆ ไม่อยากให้ใครได้ยิน นั่นเป็นหนึ่งในวิชาทางฝั่งมารดาของเขาที่ทิ้งเอาไว้ให้ ไม่รวมวิชากลั่นยารักษาที่ทำให้อาการช้ำในหายไปในชั่วข้ามคืน

            สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นไม้ตายที่หวังซีซวนเก็บไว้ต่อรองกับบิดาของเขาเพื่อไม่ต้องเข้าฝึกเหมือนคุณชายคนอื่น ๆ

            “แผลตรงนี้ ตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้ สองวันก็หายแล้ว ถึงบาดแผลข้างนอกจะดูเจ็บหนัก แต่ข้างในร่างกายเจ้าจะแข็งแรงดี เจ้าไม่ต้องห่วง” หวังซีซวนภูมิใจในฝีมือกลั่นยาของตนเอง

            “ขอบคุณขอรับ” เซี่ยฟานตอบเรียบง่าย ในหัวของเขากำลังคิดตามสิ่งที่หวังซีซวนพูด วันนี้ได้รู้เรื่องราวต่าง ๆ มากมายเหลือเกิน

            นับแต่นั้นมา หวังซีซวนก็เป็นฝ่ายติดเขางอมแงมราวกับว่าเซี่ยฟานเป็นพี่ชายคนหนึ่ง ยามอยู่ต่อหน้าคนอื่นก็แกล้งทำเป็นดุด่า พาลใส่เซี่ยฟาน แต่ลับหลังที่อยู่กันสองคนก็กลายเป็นเด็กน้อยน่ารัก

            เซี่ยฟานเองก็เริ่มรู้สึกแล้วว่าความสัมพันธ์แบบพี่น้องนั้นเป็นเช่นไร เขารู้แล้วว่าทำไมคู่พี่น้องสองคนนั้นถึงรักและดูแลปกป้องกัน

            “ข้าจะดูแลคุณชายเอง” เซี่ยฟานลูบหัวเขาอย่างอ่อนโยน อย่างน้อย เขาก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 2 เขาคือฟูเหรินของข้า

    หน้าบ้านหลังน้อยของพวกเขามีบุรุษร่างสูงและสตรีบอบบางสวมชุดสีขาวน้ำเงิน ในมือถือกระบี่อันเป็นสัญลักษณ์ของสำนักเซียน“ศิษย์พี่เหลียนเฟิน” ชายผู้นั้นยิ้มกว้างเมื่อเห็นใบหน้าที่ไม่ได้เจอกันมานานกว่าสิบปี “ศิษย์พี่ ท่านบาดเจ็บที่ใดหรือ”เหลียนเฟินเพิ่งนึกได้จึงบอกคนให้ขี่หลังว่า “เสี่ยวหยุน ปล่อยข้าลงก่อนเถิด ถึงบ้านเราแล้ว”“พวกเขาเป็นผู้ใดกันจึงเรียกหาสนิทสนมปานนั้น” น้ำเสียงฮึดฮัดอย่างที่เคยทำบ่อย ๆ เวลาหลี่จิ้นหลิงมาเยี่ยมอาจารย์ของเขาทำให้เหลียนเฟินเผลอยิ้มไม่ได้“มานี่สิ ข้าจะแนะนำให้พวกเจ้ารู้จักกัน” เหลียนเฟินเอ่ยทักทายศิษย์พี่และศิษย์น้องที่เขาไม่ได้เจอมานานด้วยความยินดีเพราะหลังจากขอออกจากสำนักวังธาราเหมันต์ เหลียนเฟินไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้ใดอีกเลยสตรีรูปงามคือศิษย์พี่หญิงหลวนเล่อ ส่วนอีกคนศิษย์น้องซิ่นเฉิง เขาบอกกับทั้งสองว่า “เสี่ยวหยุนเป็นลูกศิษย์ของข้า”ชายหนุ่มหันขวับมองหน้าเหลียนเฟินราวกับจะถามว่าเหตุใดจึงแนะนำว่าเขาเป็นเพียงศิษย์ ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ตกลงกันแล้วว่าจะเรียกเขาว่าฟูจวินหากแต่เห

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 1 เรียกข้าว่าฟูจวินได้หรือไม่

    สายลมเอื่อยพัดยอดดอกหญ้าสีขาวพลิ้วไหวลู่เอนไปทางซ้าย ดวงตาของเสี่ยวหยุนจ้องมองภาพของใครบางคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขา ยามได้เห็นคนในใจมักจะยิ้มแย้มโดยไม่รู้ตัวหากแต่ครานี้กลับชะงักงันเพราะใบหน้าที่คุ้นเคยเหมือนเยาว์วัยลงไปหลายปี ทั้งสีหน้า แววตาที่เศร้าสร้อยทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจเหลือเกิน เสี่ยวหยุนอยากเอื้อมมือเช็ดน้ำตาเปื้อนแก้มอีกฝ่ายใจจะขาดแต่ทำไม่ได้ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างดึงรั้งเอาไว้ไม่ให้แตะต้องร่างเปราะบางที่พร้อมจะแตกสลายในทุกเมื่อ“อย่าร้องเลย” เขาเอ่ยแผ่วเบาพร้อมทำทุกอย่างเพียงเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายมีน้ำตา “เป็นข้าหรือที่ทำผิดต่อท่าน”คนตรงหน้าไม่เอื้อนเอ่ยคำใด สายตาที่มองมาทางเขาว่างเปล่าจนเจ็บแปลบในใจ เสี่ยวหยุนไม่รู้เลยว่าต้องทำอย่างไรจึงจะหลุดพ้นจากสถานการณ์เช่นนี้ขณะกำลังตกอยู่ในภวังค์ความฝัน เสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังขึ้นมา “เสี่ยวหยุน”“…” เขามั่นใจว่าเสียงนั้นคือเสียงของคนที่เขากำลังมองอยู่ข้างหน้า แต่น้ำเสียงที่เอ่ยเรียกเขาดูสดใส ร่าเริงและเต็มไปด้วยความสุขต่างจากภาพใบหน้าที่เขาเห็นเวลานี้“เสี่ยวหยุน”ชายหนุ่มคิดในใจรู้ตัวแล้วว่าเขาเพียงแค่หลับฝัน หากลืมตาตื่นแล้ว

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 49 บทส่งท้าย 2/2 สารภาพ (ตอนจบ)

    “ความผิดร้ายแรงมีมากนัก ส่งเขาไปรับโทษในนรกขุมที่สาม” เสียงดุดันทรงอำนาจกล่าวพิพากษา หางตาของหวังเยี่ยนหลงเหลือบเห็นร่างวิญญาณคุ้นเคยกำลังดื่มน้ำแกงยายเมิ่งจึงโพล่งขึ้นมา “เหตุใดเจ้านั่นถึงได้ไปเกิดก่อนข้าเล่า” เขาสงสัยคำตัดสิน “มิใช่ว่าข้าเพิ่งบอกเจ้าหรือว่าความผิดเจ้ามีอันใดบ้าง” เสียงลึกลับโต้ตอบกลับมา ไม่เข้าใจว่าเหตุใดวิญญาณตัวเล็กกระจิดริดถึงได้ต่อปากต่อคำกับเขาเก่งนัก หวังเยี่ย

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 48 บทส่งท้าย 1/2 หวนคืน

    สิบเอ็ดปีต่อมา สายลมเย็นในฤดูใบไม้ผลิพัดเอื่อย ๆ ท้องฟ้าอากาศแจ่มใส ไร้ก้อนเมฆ เหลียนเฟินกำลังนั่งถือเบ็ดตกปลาอยู่ริมทะเลสาบ สายตาเหม่อมองไปอีกฝั่งที่อยู่แสนไกลนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา หลังจากจัดการกับหวังเยี่ยนหลงแล้ว เขาไม่เหลือความทรงจำเกี่ยวกับคนผู้นั้นอีกเลย เหลียนเฟินเดินทางกลับไปที่วังธาราเหมันต์เพื่อรับโทษและขอออกจากสำนัก นับตั้งแต่นั้นมาจึงใช้ชีวิตร่อนเร่พเนจรอยู่เพียงลำพัง ตัดขาดจากทุกสิ่งทุกอย่างโดยสิ้นเชิง 

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 47 ปลดปล่อย

    หลังจากผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ หวังเยี่ยนหลงโผล่มาให้เหลียนเฟินเห็นหน้าแต่เช้าตรู่ สีหน้าของเขาดีขึ้นกว่าเดิมมาก อีกทั้งยังแววตาสดใสผิดกับก่อนหน้านี้นัก วันนี้เขายกถาดสำรับอาหารเช้ามาให้ด้วยตัวเองพร้อมยาอีกหลายขนาน “เช้านี้ ข้าขอกินข้าวพร้อมเจ้าได้หรือไม่” เสียงของคนตรงหน้าเอ่ยถาม “ไม่” เหลียนเฟินปฏิเสธโดยที่ไม่ต้องคิด

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 46 ความเจ็บปวด

    เช้าวันต่อมา หวังเยี่ยนหลงยังคงนั่งอยู่ข้างเตียง รอยื่นถ้วยยาให้เหลียนเฟินดื่มตามเวลา ร่างบางไม่อาจปฏิเสธได้เพราะโอสถนี้หวังซีซวนตั้งใจทำมาให้จึงดื่มแต่โดยดี จากนั้นจึงยกสำรับอาหารเช้ามาวางไว้ที่ข้างหัวเตียง ตั้งใจจะป้อนทีละคำ แต่เหลียนเฟินไม่ยอมแม้แต่จะมองหน้า สายตาเย็นชาเฉไฉมองไปทางอื่น จนเจ้าตัวรู้สึกเจ็บแปลบในใจ “กินข้าวบ้างเถิด ข้าจะออกไปรอข้างนอก” เขาตัดใจยอมหลบหน้าชั่วคราวจนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่งจึงกลับเข้ามาดู เห็นถ้วยชามอาหารยังอยู่ที่เดิมจึงสั่งให้ยกสำรับใหม่เข้ามาแทน&n

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status