Beranda / วาย / เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว / ตอนที่ 9 ชีวิตอิสระเพียงชั่วครู่

Share

ตอนที่ 9 ชีวิตอิสระเพียงชั่วครู่

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-27 10:00:28

คนที่อยู่ในสำนักตระกูลหวังล้วนมีพันธะอย่างหนึ่งที่ใครก็ไม่อาจปฏิเสธ ไม่ว่าจะฐานะคุณชาย ลูกศิษย์หรือแม้แต่คนใช้ ทุกคนเข้ามาที่จวนแห่งนี้ได้ แต่หากจะออกไปย่อมต้องไปอย่างคนไร้วิญญาณเพื่อรักษาความลับของวิชาที่สืบทอดกันมา

และหากมีผู้ใดคิดจะหนี ก็คงหนีไปได้ไม่ไกลเพราะพันธะนั้นเป็นเหมือนเชือกที่คอยผูกมัดคอเอาไว้ ยิ่งหนีเชือกเส้นนั้นยิ่งตึงขึ้น จำต้องยอมถอยกลับมาที่เดิม ในอดีตมีคนมากมายพยายามหนีออกไป โดยไม่รู้ตัวว่ามีพันธะอยู่ พวกเขาหนีไปได้ไม่ถึงสิบก้าวก็สิ้นใจลงในทันที

เมื่อไม่มีทางหนีแล้ว ทางเดียวที่จะอยู่รอดคือแข็งแกร่ง การฝึกหฤโหดดำเนินไปในแต่ละวันไม่มีหยุด ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ความคิดของคนเหล่านี้ผิดแผกจากคนทั่วไป

แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะอยู่รอดได้ พี่น้องนั้นนับเป็นศัตรูได้ทุกเมื่อ หวังซีซวนจึงไม่เคยไว้ใจใคร แรกเริ่มที่แกล้งเซี่ยฟานก็เพื่อทดสอบ เมื่อผ่านอะไรมาด้วยกัน จึงได้รู้ว่าเซี่ยฟานไม่เหมือนใคร เขาคนนี้ต่างหากคือพี่ชายที่แท้จริง พี่ชายอย่างที่ควรจะเป็น

อย่าว่าแต่ความผูกผันกันในสายเลือดของพี่น้องเลย แม้แต่บิดาของเขา หวังซีซวนก็ได้รับแต่ความเย็นชา หากไม่ใช่ว่ามีแต้มเป็นต่อ คงไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้

“เซี่ยฟาน ไปเก็บสมุนไพรข้างนอกกันเถอะ” หวังซีซวนชวนเขาไปด้วยเป็นครั้งแรก

“ไปได้หรือขอรับ” เซี่ยฟานตาโต มองหน้าเจ้าตัวเล็กที่สะพายย่ามเอาไว้

“ลอดใต้กำแพง เจ้าไปช่วยข้าขุดพอดีเลย” หวังซีซวนยิ้มแป้นให้เขา

“ถ้าโดนจับได้เล่าขอรับ” เซี่ยฟานถามเพื่อหาทางหนีเอาไว้

“ไม่มีทาง เจ้าเดินตามข้าไปเงียบ ๆ ก็พอ” หวังซีซวนมั่นใจในฝีมือของตนเอง เพราะเขาทำแบบนี้มากว่าหนึ่งปีแล้ว

ปีก่อนเขาคิดค้นยารักษาตัวใหม่ได้ แต่ไม่อยากให้ใครรู้ จึงวางแผนจะหนีออกไปหว่านเมล็ดที่ข้างนอกสำนักแต่พอเดินมาถึงกำแพงที่สูงตระหง่าน เขาก็เปลี่ยนใจจากจะปีนกำแพงเป็นขุดดินเป็นโพลงแล้วลอดออกไปง่ายกว่า

หวังซีซวนคอยหลบออกไปข้างนอกยามที่ทุกคนไปฝึกวิชาด้านหลังติดภูเขา ทำอย่างนี้หลายคราจนชำนาญ ครั้งนี้มีความมั่นใจเต็มสิบส่วน

“เซี่ยฟาน เร็วเข้า เดี๋ยวไม่ทัน” เขาเร่งให้เซี่ยฟานตามมาติด ๆ

จนมาถึงกำแพงหนา เซี่ยฟานคาดคะเนความเป็นไปได้ที่จะปีนกำแพงหนีแล้วก็จนใจ กำแพงรอบจวนนั้นลื่นราวกับทาน้ำมันเอาไว้ คงต้องเป็นผู้มีวิชาเท่านั้นถึงจะมีพลังลอยข้ามออกไป คนธรรมดาอย่างเขาหมดสิทธิ์

ทั้งสองคนช่วยกันขุดรูให้ใหญ่ขึ้นพอที่จะลอดออกไปได้ก่อนจะมุดลงข้างล่างแล้วนำเศษหญ้ากองใหญ่มาปิดหลุมเอาไว้

พอโผล่พ้นจากหลุมมาได้ เซี่ยฟานก็ได้เห็นภาพทิวทัศน์นอกกำแพงเป็นครั้งแรก เขารับรู้ถึงสายลมที่พัดพามา จิตใจผ่อนคลายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“ข้าเข้าใจว่าเจ้ารู้สึกอย่างไร สักวันเราจะหนีไปด้วยกัน” หวังซีซวนเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน “จะดีสักแค่ไหนกันนะ ถ้าข้ามีอิสระอยู่ข้างนอกแบบนี้”

“สักนิดอย่างวันนี้ก็ดีนะขอรับ” เขายิ้มน้อย ๆ ให้หวังซีซวน

“เซี่ยฟาน เจ้ายิ้มเป็นแล้วหรือ ข้านึกว่าเจ้ามีหน้าเดียวเสียอีก” หวังซีซวนทักเขาสีหน้าระรื่น “เจ้ากำลังมีความสุขหรือ” เด็กน้อยยิ้มสดใสให้เขา

“ขอรับ” เซี่ยฟานพยักหน้า

จากนั้นทั้งคู่ก็เดินไปที่สวนสมุนไพรของหวังซีซวน แล้วใช้เวลาที่เหลืออยู่เล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน

เซี่ยฟานนอนราบกับพื้นหญ้า สายตามองฝูงนกที่บินบนท้องฟ้า ใจของเขายามนี้ผ่อนคลายจากทุกสิ่งอย่าง เสียงสายลมพัดกิ่งไผ่ส่งเสียงหวีดหวิว แสงแดดอ่อนสาดส่องลงมาจากด้านบน เขายิ้มกว้างกว่าเดิมเพราะมีความสุข

หวังซีซวนเห็นดังนั้นจึงมานอนข้าง ๆ เขา ชี้ให้เซี่ยฟานดูก้อนเมฆอ้วนกลม รูปร่างคล้ายซาลาเปาแล้วก็ทำท่าหยิบมากิน หัวเราะคิกคักดังลั่นทั่วบริเวณ

ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็เยียวยาจิตใจของทั้งสองคนเป็นอย่างดี

“เซี่ยฟาน ไปเล่นน้ำที่น้ำตกกัน เจ้าเคยเห็นหรือไม่” หวังซีซวนนึกขึ้นได้

“น้ำตกคืออะไรหรือขอรับ” เซี่ยฟานขมวดคิ้วเอียงคอถามเขา

“รีบไปกันดีกว่า จะได้มีเวลาเล่นนาน ๆ เจ้าต้องชอบแน่ ๆ” หวังซีซวนดึงแขนของเซี่ยฟานแล้วออกวิ่งไปทิศทางนั้นในทันใด

เสียงซ่า ซ่า ของกระแสน้ำที่ตกลงมาจากด้านบนโขดหินใหญ่กระทบกับพื้นน้ำด้านล่างเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เซี่ยฟานตื่นเต้นในใจคิดภาพน้ำตกไปต่าง ๆ นานาเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน

กลิ่นไอดินอบอวลราวกับกลิ่นของดินยามต้องสายฝนพัดเอื่อย ๆ

“เซี่ยฟาน หลับตาแล้วเดินตามข้ามาดี ๆ ล่ะ” หวังซีซวนบอกเขา “ห้ามลืมตาเด็ดขาด” เขาโบกมือหน้าเซี่ยฟานเพื่อตรวจดูให้แน่ใจ จากนั้นค่อย ๆ พาเซี่ยฟานเดินไปที่ริมน้ำตกแล้วก้าวทีละก้าวไปบนก้อนหินเล็ก ๆ ไปจนถึงกลางน้ำตกใหญ่

“ลืมตาสิ” หวังซีซวนบอกเขา

เซี่ยฟานตะลึงงันเมื่อได้เห็นน้ำตกสูงใหญ่เจ็ดชั้นอยู่เบื้องหน้า แต่ละชั้นไล่เรียงเป็นขั้นบันได มีแอ่งน้ำเล็ก ๆ ก่อนจะไหลลงมายังที่ที่เขายืนอยู่ เซี่ยฟานลองจุ่มเท้าลงไปในน้ำใส สัมผัสความรู้สึกแปลกใหม่ เขามองหน้าของหวังซีซวน

“สิ่งนี้คือน้ำตกหรือ” เซี่ยฟานถามให้แน่ใจ เขานั่งลงแล้วทำมือกวักน้ำขึ้นมา

“ใช่แล้ว ลงไปเล่นกันดีกว่า” หวังซีซวนไม่รอช้าแกล้งดันหลังของเซี่ยฟานลงไปในแอ่งน้ำ ทว่าลืมนึกไปว่าคนที่ไม่เคยเล่นน้ำ ใยจะว่ายน้ำเป็น หวังซีซวนจึงรีบกระโดดลงน้ำไปดึงเขาขึ้นมา

“เซี่ยฟาน!” หวังซีซวนสีหน้าตื่นตระหนก “ข้าขอโทษ ข้าไม่นึกว่าเจ้าจะว่ายน้ำไม่เป็น”

“คุณชาย! เกือบไปแล้ว” เซี่ยฟานสูดหายใจ พยายามควบคุมสติของตนเอง

“ไปนั่งเล่นตรงโน้นดีกว่า น้ำตื้นปลอดภัย” หวังซีซวนชี้ไปที่อีกฝั่ง ลุกขึ้นยืนแล้วรอจับมือเซี่ยฟานเดินไปพร้อมกัน

จากที่เมื่อครู่สำลักน้ำไปสองสามอึก ตอนนี้เซี่ยฟานเริ่มชินกับการเล่นน้ำแล้ว หวังซีซวนสอนให้เขากลั้นหายใจในน้ำ ลืมตามองดูปลาที่ว่ายน้ำอยู่ใกล้ ๆ จนแทบจะลืมเวลากลับสำนัก

จู่ ๆ เสียงระฆังใหญ่บอกเวลาเลิกฝึกวิชาก็ดังขึ้น หวังซีซวนโผล่ออกมาจากน้ำหน้าตาตื่น

“เซี่ยฟาน แย่แล้ว เสียงระฆังดัง” เขาพูดละล่ำละลัก “เร็วเข้า ไม่อย่างนั้น ความลับแตกแน่ ๆ”

เซี่ยฟานรู้งานเป็นอย่างดี ทั้งคู่รีบขึ้นจากน้ำแล้ววิ่งกลับไปที่สำนักด้วยสภาพเสื้อผ้าเปียกชุ่ม กว่าจะถึงกำแพงสำนักเสื้อผ้าก็เกือบแห้งพอดี

ครั้นได้มุดหลุมที่ขุดไว้ ดินแดงก็เปรอะเปื้อนเสื้อผ้า ทำให้เนื้อตัวที่เพิ่งเล่นน้ำสะอาดมามอมแมมขี้ฝุ่น

สุดท้ายทั้งสองคนก็มาถึงเรือนต้นสนได้อย่างปลอดภัย หวังซีซวนรีบเอาย่ามสมุนไพรไปซ่อนก่อนที่ใครจะมาเห็น ส่วนเซี่ยฟานก็ไปเตรียมน้ำมาให้หวังซีซวนอาบล้างเนื้อตัว

ขณะที่เซี่ยฟานถือถังน้ำร้อนมา มัวแต่คิดใจลอยถึงเรื่องสนุกสนานในวันนี้ เขาก็เดินชนกับคนผู้หนึ่งที่อายุรุ่นราวเดียวกับเขา ถังน้ำร้อนกระเด็นไปทางคนผู้นั้น แต่เซี่ยฟานไม่ทันได้เห็นว่าเขาหลบทันก็คิดไปว่าน้ำร้อนลวกเขาไปแล้ว จึงลนลานจะเข้ามาดูแผลจับเนื้อต้องตัวเขาโดยไม่รู้ตัว

“ถอยไป!” เขาตวาดเสียงดัง แต่เซี่ยฟานไม่ฟัง ครั้งนี้เป็นความผิดเขาจริง ๆ ที่ไม่ระมัดระวัง ทำให้คนอื่นต้องบาดเจ็บ

“แต่ว่า น้ำร้อนลวกท่านหรือไม่ เจ็บที่ใดหรือไม่” เซี่ยฟานพยายามตรวจดูที่ขาของเขา

“ถอยไป!” คนผู้นั้นไม่ยี่หระ ผลักตัวของเซี่ยฟานออกไป เขาไม่คุ้นชินกับการที่มีใครทำทีเป็นห่วงเขา คิดในใจว่าคนตรงหน้านั้นเสแสร้ง

“พี่สาม” หวังซีซวนอุทานเรียกเขาเบา ๆ เพราะได้ยินเสียงเอะอะนอกเรือนจึงมาดู

“คุณชายห้าข้าผิดเองที่ทำน้ำร้อนลวกเขา” เซี่ยฟานยังคงตกใจไม่หาย เพราะคิดว่าปลายกางเกงที่เปียกน้ำนั้นเป็นเพราะโดนน้ำร้อนของตนเอง

“เฮ้อ! เซี่ยฟาน เจ้าทำอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือเลย พี่สาม ข้าต้องขอโทษด้วย เรื่องในวันนี้ ข้าจะลงโทษเขาเอง ท่านไม่ต้องกังวล” หวังซีซวน

พยายามสรุปตัดบทเพื่อพาเซี่ยฟานหนีมาจากเขา

“คนใช้ของเจ้า? โง่เง่าเสียจริง” เขาเหยียดหยามเซี่ยฟาน แล้วนั่งลง เอามือจับคางของเซี่ยฟานมาดูหน้าชัด ๆ แล้วเอ่ยเบา ๆ “เซี่ยฟาน”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 12 เกิดใหม่อีกกี่ครา วานวาสนาผูกกันไม่เสื่อมคลาย (จบ)

    สามเดือนต่อมาเช้าวันหนึ่งเสี่ยวหยุนมองเหลียนเฟินที่กำลังนอนหลับใหลในอ้อมกอดของเขา สายตาเต็มไปด้วยความรักท่วมท้นในใจก่อนจะพึมพำร่ายอาคมอย่างหนึ่งขึ้นมาพลันกรีดปลายนิ้วจนได้เลือดหยดหนึ่งหลอมรวมกับลูกกลมสีฟ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แม้เป็นวิชาที่เขาเพิ่งคิดค้นขึ้นมาได้แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกเสี่ยวหยุนตั้งชื่ออาคมนั้นว่า “พันธะวิญญาณ” อาคมที่สามารถผูกวิญญาณของพวกเขาทั้งสองไว้ด้วยกันในทุก ๆ ชาติ ไม่ว่าเหลียนเฟินจะเกิดเป็นผู้ใด อยู่ที่ไหน เขาจะรู้ได้ในทันที นับต่อจากนี้ไม่มีพรากจากลมหายใจของร่างบางในอ้อมกอดสัมผัสแผ่นอกกว้างของเขาเตือนสติให้รู้ตัว ล้มเลิกความคิดเช่นนั้น เสี่ยวหยุนยิ้มมุมปากพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วบีบอาคมนั้นให้แตกสลายไปริมฝีปากจุมพิตหน้าผากเรียกเหลียนเฟินด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฟูเหรินของข้า”“อืม…” เหลียนเฟินยังคงงัวเงียพลันได้รับจุมพิตที่แก้ม โลมเลียลงลำคอ สัมผัสเรียวลิ้นร้อนชื้นดูดเม้มก่อนจะถูกใครบางคนคร่อมร่างกายท่อนบนเอาไว้“ฟูเหริน ท่านยังไม่ตื่นอีกหรือ” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำ

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 11 ความรู้สึกที่โหยหา(NC)

    เหลียนเฟินนอนนิ่งบนแผ่นอกของเขา ส่วนล่างกระตุกบีบแก่นกายที่ค้างอยู่ราวกับเชิญชวนจึงถูกพลิกตัวเป็นฝ่ายนอนใต้ร่างพลางโดนเสี่ยวหยุนจับขาสองข้างยกขึ้นแล้วขย่มสะโพกเป็นจังหวะ“ข้าเพิ่งจะ…อ๊ะ...” เหลียนเฟินไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องเม้มปากตัวเองอีกครั้ง มือสองข้างจับหมอนที่วางอยู่ ขยำจนผ้ายับยู่ยี่ ลมหายใจร้อนหอบถี่ ฟังแล้วยิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายเกิดความต้องการอย่างยิ่งยวดแก่นกายที่ครูดเข้าออกเร่งขึ้นอย่างเร่าร้อนจนน้ำที่ปล่อยเอาไว้เมื่อครู่กระเซ็นเปรอะเปื้อน คนกระทำยิ้มมุมปากชอบใจยิ่งนักที่ได้เห็นร่องรอยของเขาบนตัวคนรักเมื่อโพรงเนื้อโอบรอบจนมิดแน่นขนัดยิ่งเสียวซ่านจนตาเหลือกลอย “อือ… เหลียนเฟิน” ในใจวนเวียนแต่คำว่า อีกนิด ข้าขออีกนิดในขณะที่คนใต้ร่างแทบคุมสติตัวเองไม่อยู่ พึมพำแผ่วเบา “ข้าไม่ไหวแล้ว… อย่าเพิ่งขยับ”“จะให้ข้าหยุดจริงหรือ” เขาเอ่ยถามแต่ส่วนลับยังคงกระทุ้งเข้า ๆ ออก ๆ บดเบียดภายใน หยอกล้อเหลียนเฟินเพราะอยากเห็นสีหน้าแดงระเรื่อ สุขสม พลันวางขาทั้งสองข้างลงแล้วพลิกตัวเหลียนเฟินให้นอนคว่ำในพริบตาก่อนจะยกส

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 10 ความรักเอ่อล้น (NC)

    เหลียนเฟินโอบแขนรอบคอของเสี่ยวหยุนกดแรงโน้มตัวเขาลงมาหา จ้องมองอีกฝ่ายไม่วางตาพลันยิ้มอ่อนโยน เอ่ยกระซิบยืนยันความรู้สึกของตัวเอง “ข้ารักเจ้า”คนได้ฟังคำรักน้ำตาไหลเอ่อไม่อาจกั้นด้วยความรู้สึกผิดระคนกับความรู้สึกอื่น ๆ ในใจ แม้รู้ตัวว่าไม่สมควรมายืนอยู่ข้างเขาแต่เวลานี้ก็ไม่อาจขยับกายหรือเบือนหน้าหนีอีกฝ่ายได้เลยเขารักเหลียนเฟิน ผู้เป็นฟูเหรินของเขาและไม่อยากถูกพรากจากอีกแล้ว ทั้งยังดีใจเพราะใบหน้าที่มองเขาในเวลานี้ไม่ใช่ใบหน้าของคนที่เกลียดชังเขาจนต้องจ่อปลายกระบี่เข้าหาราวกับแค้นเคืองกันมาเนิ่นนาน“เสี่ยวหยุน” เสียงเรียกหาอ่อนหวานจับใจ “ยังคงจำได้อยู่ใช่หรือไม่ว่าเวลานี้เจ้าคือฟูจวินของข้า”“…” เขาพยักหน้าเล็กน้อย เม้มปากแน่นแล้วกอดเหลียนเฟินเอาไว้ครั้นสะสางความหลัง ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างพลันคลี่คลาย ไม่มีสิ่งใดติดค้างกันอีกต่อไปหวังซีซวนและพรรคพวกแวะมาหาพวกเขาเหมือนอย่างเคย สังเกตได้ว่าบรรยากาศระหว่างพวกเขาทั้งสองคนดูอึมครึมเล็กน้อย ดวงตาเสี่ยวหยุนบวมช้ำปรากฏเด่นชัดจนอดถามไม่ได้“

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 9 ความทรงจำหวนคืน

    ครั้นเรื่องราววุ่นวายที่ใจกลางตลาดจบลงไปได้ด้วยดี เหลียนเฟินจึงพาเสี่ยวหยุนกลับมาพักฟื้นร่างกายที่บ้านหลังน้อย พลางขอให้หวังซีซวนช่วยกลั่นยาสมุนไพรให้เขาจนกว่าจะหายดีเขาหลับลึกอยู่หลายวันเพราะใช้เรี่ยวแรงร่ายวิชาอาคมโดยไม่สนขีดจำกัดของตัวเองเพียงเพราะเป็นห่วงเหลียนเฟินและไม่อยากให้สถานการณ์ยืดเยื้อใบหน้าสงบนิ่งยามหลับใหลทำให้เหลียนเฟินโล่งใจได้บ้างว่าเขาคงไม่ได้ฝันร้ายเหมือนที่ผ่านมาจึงปล่อยให้คนตรงหน้าพักผ่อนให้เต็มที่“ท่านเซียน เขาเป็นอย่างไรบ้างขอรับ” หลี่จิ้นหลิงแวะมาเยี่ยมเพราะได้ข่าวว่าเสี่ยวหยุนยังไม่ฟื้น“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เขาเพียงแค่ต้องนอนให้เยอะ ๆ ก็เท่านั้น” เหลียนเฟินยิ้มให้อีกฝ่ายนึกขอบคุณที่เขาช่วยหาตำราต้องห้ามจนพบ“หากท่านเซียนต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องใด อย่าได้ลังเลใจที่จะบอกข้านะขอรับ” หลี่จิ้นหลิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เรื่องฟื้นฟูพลังชีวิตของท่าน ถ้าตำราต้องห้ามไม่ได้ผล ข้ายินดีหาหนทางอื่น”เหลียนเฟินส่ายหน้าเข้าใจดีว่าทุกคนเป็นห่วงแต่ว่าเขาเตรียมใจเอาไว้แล้ว ไม่ว่าผลที่ได้จะออกมาเป็น

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 8 ปกป้องคนรัก

    “ปล่อยคุณหนูหลี่” เหลียนเฟินพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเห็นอีกฝ่ายเคลื่อนไหวรวดเร็ว เขากำกระบี่ในมือไว้แน่นพลันยกขึ้นมากันท่าไม่ให้เสิ่นหยางพุ่งตัวเข้าใกล้ระยะประชิดก่อนจะม้วนตัวแล้วถีบคนตรงหน้ากระเด็นไปอีกทางด้วยแรงที่ออมไว้สามส่วน“ฝีเท้าหนักใช่เล่น” เขาเอ่ยชม รอยยิ้มกวนประสาทราวกับถูกใจอย่างยิ่งยวด “อย่าขัดขืนนักเลย เมื่อครู่ข้าเพียงยั้งมือเอาไว้เท่านั้นเพราะไม่อยากทำให้ร่างกายของท่านเซียนมีบาดแผล”เสิ่นเหยา แฝดผู้พี่ที่จับตัวหลี่ฮวาเอาไว้ลูบปลายจมูกตัวเอง “หากท่านเซียนยินยอมมากับพวกข้า ข้าจะคืนสตรีนางนี้เป็นการแลกเปลี่ยน”“เช่นนั้นปล่อยนางก่อน” เหลียนเฟินไม่ตกลงง่าย ๆ และเป็นห่วงความปลอดภัยหลี่ฮวาที่เวลานี้กำลังกลั้นน้ำตาไม่ร้องไห้เสียงดังด้วยความหวาดกลัว“ท่านเซียนคงไม่รู้ว่าข้าเป็นผู้ใดจึงพยายามเล่นแง่ยืดเวลาออกไปใช่หรือไม่ แต่ข้ายืนยันได้เลยว่าสองชั่วยามต่อจากนี้ไม่มีผู้ใดเข้ามาก้าวก่ายที่แห่งนี้ได้อย่างแน่นอนและหากทุกสิ่งไม่เป็นอย่างที่ข้าต้องการ ข้าจะทำลายหมู่บ้านให้ราบคาบ” เสิ่นหยางประกาศก้อง คำพูดของเขาทำให้ชาวบ้านขวัญ

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 7 พรรคมารก่อความวุ่นวาย

    ครั้นพูดคุยเรื่องตำราต้องห้ามเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็กลับมายังบ้านหลังน้อยจึงได้เห็นว่าหลี่จิ้นหลิงกำลังนั่งเล่นอยู่ตั่งไม้กับเหลียนเฟินแววตาเสี่ยวหยุนเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่”“ข้าเห็นว่าท่านเซียนเมาหลับไป วันนี้จึงอยากมาดูให้แน่ใจว่ามีอาการใดหรือไม่” เขายักไหล่พูดด้วยสีหน้าสบายอารมณ์หากแต่เสี่ยวหยุนอารมณ์ดีจึงไม่ใส่ใจแล้วเดินไปนั่งข้างเหลียนเฟิน เอ่ยกับเขาว่า “ข้าต้องไปหอสมุดวังหลวง คุณชายหวังซีซวนบอกว่าที่นั่นมีตำราเก็บไว้อยู่ อาจช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตของท่านได้”“เขาไม่ได้บอกหรือว่าที่แห่งนั้นห้ามให้คนนอกเข้าไป” เหลียนเฟินหรี่ตามองคนตรงหน้าที่ทำท่าเหมือนรู้ทุกอย่าง “หากคิดไปขโมยตำรามาก็หยุดแต่เพียงเท่านั้นเถิด พลังชีวิตของข้ามีแค่ครึ่งเดียวแล้วอย่างไร ไม่เห็นหรือว่าข้ายังแข็งแรงดี”“ไม่อยากอยู่กับข้านานกว่านี้หรือ” สีหน้าของเขาเศร้าสร้อยหากต้องล้มเลิกความตั้งใจ รู้ว่าบำเพ็ญคู่จะสามารถยืดอายุขัยออกไปได้ แต่หากพลังชีวิตของเขากลับมาเหมือนเดิม ย่อมมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันนานมากขึ้นไปอีกเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status