บทที่ 4 สงสัย ในวันนั้นก็จบกันไปด้วยการตกลงที่จะให้เอลเลอร์ไปเรียนรู้การทำงานของเกรย์ฟา แม้จะมีเสียงคัดค้านจากแม่และพี่น้องปลอม ๆ ของ เอลเลอร์ แต่ก็มิได้นำพา เพราะดูเหมือนว่าเกรย์ฟาจะเต็มใจเสนอตัวสอนซะเหลือเกิน หลังจากนั้นไม่กี่วันเอลเลอร์ก็ไปเรียนรู้งานกับเกรย์ฟาจึงได้รู้ว่าบ้านของเอลเลอร์นั้นทำธุรกิจค้าขาย ขายของแทบทุกอย่างเป็นทั้งขายส่งและขายปลีก ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะรวย ที่สำคัญพ่อของเขายังเปิดโอกาสให้ชาวบ้านในเมืองทำของมาส่งขาย เพื่อที่จะนำไปขายต่อให้กับคนอื่นที่ต่างเมือง ทำให้เป็นที่รักของชาวบ้าน เพราะของที่รับมาจากชาวบ้านพ่อของเขาแทบไม่ได้เอากำไรจากตรงนั้น พอมาตอนนี้ที่อัลเบิร์ดพ่อของเอลได้เสียไปแล้วธุรกิจตกอยู่ในมือของแม่เลี้ยง ทำให้ธุรกิจตกต่ำลงจริง ๆ เพราะสามแม่ลูกมุ่งเอาแต่กำไรเข้าตัวเอง กดราคาของที่ชาวบ้านเอามาขาย เอาของไปขายในราคาที่สูงเกินความเป็นจริง ตอนนี้เขาอยากจะใช้คำว่าธุรกิจใกล้จะล้มของจริงที่สำคัญสามแม่ลูกยังเอาเงินในส่วนที่ต้องเป็นของธุรกิจมาใช้ส่วนตัวอีกต่างหาก เจริญกันจริง ๆ จากนี้เขาคงต้องหาโอกาสให้ตัวเองเข้าไปในธุรกิจให้ได้มากที่สุด เพื่อดึงธุรกิจทุกอย่างให้กลับมาเป็นของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกแท้ ๆ แต่ดูเหมือนเอลคนเก่าจะไม่ได้เข้าไปยุ่งในงานครอบครัวเลยที่สำคัญก็ยังแทบไม่ได้ออกจากบ้าน คนแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าอัลเบิร์ดมีลูกแท้ ๆ คือเอลเลอร์ ต่อไปเขาต้องออกไปข้างนอกให้คนเห็นบ้าง เพื่อประโยชน์ในอนาคต “เอลครับ... เอล เอลเลอร์!” “ห้ะ ครับ ว่าไงครับพี่เกรย์ เรียกเสียงดังเลย แหะ ๆ” เอลเลอร์หันไปยิ้มแห้ง ๆ ให้กับเกรย์ เขาลืมไปเลยว่าตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านท่านเจ้าเมืองมัวแต่คิดเรื่องธุรกิจจนไม่ได้ฟังอีกฝ่ายพูด “เอลก็มาเรียนกับพี่หลายวันแล้ว พี่มีเรื่องจะถามเราอยู่นะ” “อะไรเหรอครับ” “ตอนเด็ก ๆ เราเคยเล่นด้วยกันเราจำได้ไหม” “เอ่อ... จำไม่ค่อยได้เท่าไหร่นะครับ” เขาจะไปจำได้ยังไง ก็เขาไม่ใช่เอลคนเดิมนี่นา “นั่นสินะครับ พี่มีเรื่องสงสัยนิดหน่อย พอเราบอกว่าจำไม่ค่อยได้พี่ก็พอจะเดาได้แล้วว่าเรานิสัยไม่ค่อยเหมือนเดิมเลยนะครับ ตอนนั้นน่ะ เราดู อืมมม เรียบร้อยกว่านี้จะว่ายังไงดี นิ่ง ๆ เงียบ ๆ ไม่ต่อปากต่อคำ” เกรย์ฟาทักขึ้นมายิ้มๆ แต่เกรย์ฟาชอบตอนนี้มากกว่า ตอนนั้นเอลเลอร์ดูไม่สู้คน แต่ก็ไม่ใช่ว่าตอนนั้นไม่ดี แต่เขาไม่ชอบใจที่เอลเลอร์ดูจะเสียสละให้พี่น้องต่างสายเลือดมากเกินไป ตอนนี้เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่ก็นั่นแหละเขาไม่ได้เจอน้องนาน คนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้ ถึงจะเปลี่ยนไปมากเลยก็เถอะนะ “อะไรครับ เอลว่าเอลก็เหมือนเดิมเลยไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยนะครับ นี่พี่เกรย์ดูหน้าเอลสิ เหมือนเดิมเลย โห้ยยย พี่นี่สงสัยอะไรก็ไม่รู้” เอกในร่างเอลเลอร์พูดรัว ๆ “ฮ่าๆ ฮ่าฮ่าๆๆ ลนอะไรเนี่ยเรา พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรเราเลย แต่แบบนี้ก็น่ารักดี ดูเป็นตัวแสบดีครับ” “แหะแหะครับ ผมก็ว่าดีครับ” “พี่เห็นนะวันที่พี่ไปกินข้าวที่บ้านเรา เราแอบยิ้มชอบใจตอนพ่อพี่ว่าแม่เลี้ยงเราน่ะ เขาไม่ได้ดีกับเราแบบที่แสดงออกใช่ไหมล่ะ บอกพี่กับพ่อพี่ได้ตลอดนะ พวกเราช่วยได้ ที่ผ่านมาเราไม่เห็นต้องทนเลย” ตัวเอลเลอร์คนเก่าคงไม่อยากเอาปัญหาของตัวเองไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนเลยเลือกที่จะเก็บเงียบยอมถูกโขกสับสินะ “พี่จะช่วยจริงนะ” แต่ไม่ใช่กับเขาไง มีคนยื่นมือมาช่วยเราก็ต้องรับสิ จะเหนื่อยหาทางคนเดียวทำไมกัน “จริงสิ มีอะไรให้ช่วยก็บอก หรือจะให้เอาธุรกิจกลับมาให้เราตอนนี้ยังได้เลย” เขาก็ไม่ใช่ว่าเห็นวันเดียวแล้วจะตัดสินเลย เขาให้คนไปสืบมาแล้วว่าแม่และพี่ของเอลเลอร์ดูแลเอลเลอร์มายังไง และก่อนหน้านี้เอลเลอร์เป็นคนยังไง
บทที่ 5หาหลักฐานหลังจากผ่านมาเป็นเดือนในการฝึกทำงานของเขาก็ทำให้เขาเข้าใจในการบริหารมากขึ้น เพราะในชาติก่อนเขาเป็นดีไซเนอร์ ส่วนใหญ่ที่เขาทำบ่อย ๆ คือการศึกษาแฟชั่น และเทรนด์การแต่งหน้า เพื่อนำมาประยุกต์ให้ชุดทันเทรนด์ตอนนั้นที่สุด ตอนนี้เลยเหมือนต้องมาเรียนบริหารธุรกิจเพิ่มวันนี้เขากำลังจะให้เกรย์ฟาพาเขาไปที่ร้านที่เป็นธุรกิจของที่บ้าน เพราะถ้าจะให้เขาเข้าไปเองคงจะเป็นไปได้ยาก จึงใช้เกรย์ฟาเป็นข้ออ้างในการเข้ามาทำงาน เขาต้องรวบรวมหลักฐานการโกงกิน และการยึดอำนาจของเขาที่สามแม่ลูกนั่นทำให้ได้มากที่สุด เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะเปิดโปงหลังจากที่เนื้อเรื่องหลักจบตอนนี้เขาค่อนข้างที่จะแน่ใจแล้วว่า เกรย์ฟาน่าจะเป็นพระเอก เพราะเจ้าชายของอาณาจักรนี้ค่อนข้างจะเจ้าชู้ และเกเร ไม่มีพระเอกนิทานเรื่องไหนที่พระเอกเป็นคนไม่ดี เพราะฉะนั้นเกรย์ฟาตรงที่สุด รวมถึงตรงสเป็กเขาด้วย ฮิฮิเวลาทำงานด้วยกัน เกรย์ฟาค่อนข้างที่จะจริงจังและสอนเขาให้เข้าใจได้ง่าย ถามอะไรก็จะอธิบายอย่างใจเย็น แต่เวลาพักเจ้าตัวจะมีความขี้เล่น และแอบเจ้าเล่ห์หน่อย ที่เขาชอบที่สุดคือเวลาที่ถูกมองแล้วยิ้มมุมปากเหมือนจะรู้ทันเราไปทุกอย่
บทที่ 6งานเทศกาลดอกไม้ที่แพร่สะพัดเมื่อวันงานเทศกาลมาถึงเอลเลอร์เตรียมตัวรอเกรย์ฟามารับเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่สองพี่น้องอลิส อลัน ที่พิถีพิถันแต่งตัวจนตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จสักที เขาคอยเลือกชุดคอยช่วยแต่งตัวมาตั้งแต่ทานข้าวเที่ยงเสร็จตอนนี้ใกล้เวลานัดแล้วก็ยังไม่เสร็จเลย“ไอ้ซินไปเอาชุดใหม่มา! ชุดนี้ฉันเคยใส่แล้วแกจำไม่ได้รึไงจะต้องให้ฉันบอกกี่รอบว่าฉันไม่ใส่ชุดซ้ำไปข้างนอก ลูกสาวตระกูลทอมสันจะมาใส่ชุดง่อย ๆ ออกไปเจอผู้คนได้ยังไง” อลิสเริ่มอารมณ์เสียที่ซินเดอเรลล่ามันไม่ได้ดั่งใจเธอ วันนี้เธอจะต้องสวยที่สุด เพื่อที่จะให้พี่เกรย์ฟาสนใจเพียงเธอ“พี่อลิสใจเย็นๆ นะครับ ตัวพี่สวยมากอยู่แล้วชุดไหนพี่ใส่ก็ดูสวยไปหมดเลย เดี๋ยวผมช่วยเลือกให้อีกแรงนะครับ” วันนี้ใครดีใครได้ เขากับพี่สาวนั้นรักกันดี แต่วันนี้เขาคงต้องขอวันหนึ่ง เพราะพี่เกรย์ฟาต้องเป็นของเขาเท่านั้น“อลันแต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ งั้นมาช่วยพี่หน่อย เราคงเลือกชุดได้ดีกว่าไอ้ซินนี่” ที่อลิสมั่นใจว่าอลันเลือกได้ดีกว่า เพราะไม่ว่าครั้งไหนอลันเลือกชุดให้เธอ เธอมักจะได้คำชมอยู่เสมอแต่คงไม่ใช่กับวันนี้เพราะอลันก็ไม่คิดจะเลือกชุดที่ดีที่
บทที่ 7เจ็บตัวเล่น ๆ หลังจากที่มีการเดินเที่ยวอย่างสนุกสนานกับเกรย์ฟา พอได้เวลากลับบ้านเขาก็ตระหนักได้ว่า คงมีศึกหนักรออยู่บ้านแน่นอน พวกสองพี่น้องประสาทแดกรอเล่นเขาแน่ แม้ว่าอลันจะดูเก็บอารมณ์ได้มากกว่าแต่ความจริงแล้วความอารมณ์ร้ายของสองพี่น้องมีพอกัน รวมไปถึงตัวแม่ด้วยเมื่อเดินทางมาถึงบ้าน ก็เห็นอลันยืนยิ้มต้อนรับอยู่ที่หน้าประตู อลันได้คุยกับอลิสแล้วว่าจะเป็นคนออกมารับเอง กลัวอลิสออกมาแล้วจะคุมตัวเองไม่ได้ เขาจะเป็นคนลากตัวมันเข้าไปให้เอง“กลับกันมาแล้วเหรอครับ ผมกลัวไม่มีคนเปิดประตูให้น้องเอลเลยมารอเปิดประตูให้น่ะครับ” อลันพูดด้วยรอยยิ้มเกรย์ฟามองมาที่เขาเหมือนจะถามว่าจะเอายังไงดี คนข้างกายเขาคงเดาออกว่าสิ่งที่เขาจะเจอหลังจากเข้าบ้านไปคืออะไร เพียงแต่ตอนนี้ในสมองเขาก็ไม่มีคำตอบให้ตัวเองเหมือนกันเอาไงดีวะเขาจะยอมโดนทำร้ายเพื่อทำให้เนื้อเรื่องยังดำเนินไปตามเดิม หรือจะไปกับเกรย์ฟาดี เขาไม่อยากแหกเนื้อเรื่องไปมาก แต่ก็ไม่ได้อยากเจ็บตัวนี่หว่าด้านเกรย์ฟาเองก็รอการตัดสินใจของเอลเลอร์เอง
บทนำ ในอดีตย้อนกลับไปเมื่อนานมากแล้ว เขาเคยนั่งดูการ์ตูนเรื่องหนึ่งกับน้องสาว ซึ่งเขาจำชื่อเรื่องไม่ได้ด้วยซ้ำ ในตอนนั้นน้องสาวของเขาอยากเป็นเจ้าหญิงตัวนั้นมากจนแม่ต้องซื้อชุดมาให้ใส่ “พี่เอด พี่อยาดเป็นตัวไหน นี่ๆๆๆ น้องเป็นตัวนี่นะ สวยไหม” น้องสาววัยสามขวบของเขาเอ่ยถาม “เรียกพี่เอกชัด ๆ ก่อนจะบอก” “พี่เอดดดด พี่ เอด” “โอเค ๆ พอ ๆ หนูเป็นเจ้าหญิงแล้วให้พี่เป็นแม่มดดีไหมคะ เราจะได้เล่นด้วยกันไง” “เอาๆ หนูเป็นเจ้าหญิง พี่เอดเป็นเซนต์นะ” เอาวะพี่เอดก็พี่เอด เอาจริงๆ ถ้าให้เลือกเขาก็คงไม่เลือกเจ้าหญิงสักองค์ เป็นตัวร้ายเป็นแม่มดน่าจะสนุกดี แต่!! นั่นมันเขาในวัยเด็กไง วัยเด็กอ่ะ เข้าใจป่ะ ตอนนี้เขาก็อยากจะถามไอ้เทวดาหรือไอ้อะไรก็ไม่รู้ที่โคตรจะเฮงซวยนั่น เอามาจากไหนว่าเขาอยากเป็นนางซิน แม่งเอ๊ย! แล้วเขาจะใช้ชีวิตยังไงต่อ แล้วน้องสาวเค้าล่ะจะเป็นยังไง เหลือตัวคนเดียวแล้วด้วย เฮ้อ... ตอนนี้คงได้แต่ทำใจแล้วล่ะ ขอให้หนูใช้ชีวิตต่ออย่างมีความสุขนะคะ อย่ามาเศร้ากับพี่นานเลย น้องรัก TBC.บทที่ 1ทำไมมีจู๋เอกภพ ชายหนุ่มที่ตายโง่ ๆ ด้วยการที่กินมะยมเชื่อมที่น้องสาวเอามาฝาก แล้วเม็ดมะยมต
บทที่ 2ตัวร้ายเกรดซีหลังจากที่โผล่มาในโลกนิทานเมื่อวานแล้ว เอกภพก็เผลอหลับอยู่ที่หน้าเตาผิงด้วยความเหนื่อยล้าจากร่างกายนี้ที่ทำงานบ้านมาทั้งวันก่อนที่เจ้าของร่างนี้จะจากไป“ไอ้ซิน! ไอ้ซิน! ทำไมไม่ขึ้นมาเตรียมน้ำอุ่นให้ฉัน ซิน ซิน อยู่ไหน มานี่เดี๋ยวนี้นะ ไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเองเลยรึไง ทำไมต้องให้ฉันเรียก” เสียงแหลมของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นร่างบางงัวเงียตื่นจากนิทราเพราะไม่อาจทนฟังเสียงบาดหูนั้นได้ ด้วยความที่พึ่งตื่นทำให้สมองของเอกยังไม่แล่นเท่าไหร่ ใช้เวลาครู่หนึ่งก็ประมวลเหตุการณ์ได้ทันที ตอนนี้เขาคงต้องรองมือรองเท้าพี่น้องกับแม่เลี้ยงสินะ น่าจะใช่แหละ น่าจะเรื่องนี้แหละเขาหันไปตามเสียงก็เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งชุดนอนที่ดูก็รู้ว่าผ้าราคาแพง พอก้มมองตัวเองก็ได้แต่ส่ายหัว แหม เงินก็เงินพ่อเขาเอาไปใช้ซะสบายเชียวนะ ใส่ผ้าดีขนาดไหนก็ยังสวยสู้น้องสาวในโลกเก่าของเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ หึ เดี๋ยวเจอเลยย เดี๋ยวเจอไอ้ซินเวอร์ชันเอกภพซะหน่อย“อิซิน กูบอกให้มึงมาเตรียมน้ำให้กูอาบ” ผู้หญิงคนนั้นเดินลงมาจากบันไดแล้วตรงมายังเขา ตอนนี้ในหัวเขาอยู่อย่างเดียว เขาต้องเล่นบทนางเอกก่อนไหม หรือสู้ได้เลย
บทที่ 3พระเอกหรือเปล่าเมื่อถึงเวลาอาหารเที่ยง คนจากบ้านเจ้าเมืองก็ทยอยกันมา เนื่องจากเจ้าเมืองได้เดินพบปะพูดคุยกับลูกบ้านเสร็จก็แวะเขามาที่บ้านของเขาตามที่ได้มาแจ้งเอาไว้ ซึ่งเขาก็ได้เตรียมพร้อมทั้งอาหารและจัดโต๊ะไว้เรียบร้อยแล้วรอแค่ถือออกไปตั้งโต๊ะเท่านั้น ใกล้จะถึงเวลาละครฉากใหญ่ของนายซินคนใหม่แล้วคนแรกที่ดินเข้ามาเป็นเจ้าเมืองบลูเอโต้ ก็คือเมืองที่เขาอยู่ปัจจุบัน ชายคนนั้นดูยังไม่แก่เลย ดูเป็นทรงแด๊ดดี้มาก หน้าออกไปทางฝรั่งหน้าคมผมดำ คุณพระคุณเจ้าคนพ่อหล่อขนาดนี้คนลูกจะขนาดไหนโอ๊ะ มาแล้วคนนี้น่าจะเป็นลูกเจ้าเมืองซึ่งอาจจะเป็นพระเอก ถ้าไม่มีเจ้าชายที่ไหนโผล่มาอีกน่ะนะ คนลูกก็หน้าคม ดวงตาสีเทาอ่อน ผมสีดำ ฝรั่งผมดำนี่คือที่สุดเลยจริง ๆ เขาชอบมาก ป๊าด สองพ่อลูกสูงน่าจะ 190 หุ่นดีมากเลยในชาติก่อนเขาไม่ได้มานั่งสนใจด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย ชีวิตมีแต่ทำงานหาเงินมาเลี้ยงน้อง จนน้องสาวทำงานหาเงินเองได้ผมก็ลืมไปแล้วว่าความรักหนุ่มสาวหน้าตาเป็นยังไง แต่ก็พอจะเดาได้เพราะนายแบบนางแบบที่ผมเลือกส่วนใหญ่จะเป็นลูกครึ่งหรือฝั่งยุโรป ผมชอบมองทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่น่าจะเอนเอียงมาทา
บทที่ 7เจ็บตัวเล่น ๆ หลังจากที่มีการเดินเที่ยวอย่างสนุกสนานกับเกรย์ฟา พอได้เวลากลับบ้านเขาก็ตระหนักได้ว่า คงมีศึกหนักรออยู่บ้านแน่นอน พวกสองพี่น้องประสาทแดกรอเล่นเขาแน่ แม้ว่าอลันจะดูเก็บอารมณ์ได้มากกว่าแต่ความจริงแล้วความอารมณ์ร้ายของสองพี่น้องมีพอกัน รวมไปถึงตัวแม่ด้วยเมื่อเดินทางมาถึงบ้าน ก็เห็นอลันยืนยิ้มต้อนรับอยู่ที่หน้าประตู อลันได้คุยกับอลิสแล้วว่าจะเป็นคนออกมารับเอง กลัวอลิสออกมาแล้วจะคุมตัวเองไม่ได้ เขาจะเป็นคนลากตัวมันเข้าไปให้เอง“กลับกันมาแล้วเหรอครับ ผมกลัวไม่มีคนเปิดประตูให้น้องเอลเลยมารอเปิดประตูให้น่ะครับ” อลันพูดด้วยรอยยิ้มเกรย์ฟามองมาที่เขาเหมือนจะถามว่าจะเอายังไงดี คนข้างกายเขาคงเดาออกว่าสิ่งที่เขาจะเจอหลังจากเข้าบ้านไปคืออะไร เพียงแต่ตอนนี้ในสมองเขาก็ไม่มีคำตอบให้ตัวเองเหมือนกันเอาไงดีวะเขาจะยอมโดนทำร้ายเพื่อทำให้เนื้อเรื่องยังดำเนินไปตามเดิม หรือจะไปกับเกรย์ฟาดี เขาไม่อยากแหกเนื้อเรื่องไปมาก แต่ก็ไม่ได้อยากเจ็บตัวนี่หว่าด้านเกรย์ฟาเองก็รอการตัดสินใจของเอลเลอร์เอง
บทที่ 6งานเทศกาลดอกไม้ที่แพร่สะพัดเมื่อวันงานเทศกาลมาถึงเอลเลอร์เตรียมตัวรอเกรย์ฟามารับเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่สองพี่น้องอลิส อลัน ที่พิถีพิถันแต่งตัวจนตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จสักที เขาคอยเลือกชุดคอยช่วยแต่งตัวมาตั้งแต่ทานข้าวเที่ยงเสร็จตอนนี้ใกล้เวลานัดแล้วก็ยังไม่เสร็จเลย“ไอ้ซินไปเอาชุดใหม่มา! ชุดนี้ฉันเคยใส่แล้วแกจำไม่ได้รึไงจะต้องให้ฉันบอกกี่รอบว่าฉันไม่ใส่ชุดซ้ำไปข้างนอก ลูกสาวตระกูลทอมสันจะมาใส่ชุดง่อย ๆ ออกไปเจอผู้คนได้ยังไง” อลิสเริ่มอารมณ์เสียที่ซินเดอเรลล่ามันไม่ได้ดั่งใจเธอ วันนี้เธอจะต้องสวยที่สุด เพื่อที่จะให้พี่เกรย์ฟาสนใจเพียงเธอ“พี่อลิสใจเย็นๆ นะครับ ตัวพี่สวยมากอยู่แล้วชุดไหนพี่ใส่ก็ดูสวยไปหมดเลย เดี๋ยวผมช่วยเลือกให้อีกแรงนะครับ” วันนี้ใครดีใครได้ เขากับพี่สาวนั้นรักกันดี แต่วันนี้เขาคงต้องขอวันหนึ่ง เพราะพี่เกรย์ฟาต้องเป็นของเขาเท่านั้น“อลันแต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ งั้นมาช่วยพี่หน่อย เราคงเลือกชุดได้ดีกว่าไอ้ซินนี่” ที่อลิสมั่นใจว่าอลันเลือกได้ดีกว่า เพราะไม่ว่าครั้งไหนอลันเลือกชุดให้เธอ เธอมักจะได้คำชมอยู่เสมอแต่คงไม่ใช่กับวันนี้เพราะอลันก็ไม่คิดจะเลือกชุดที่ดีที่
บทที่ 5หาหลักฐานหลังจากผ่านมาเป็นเดือนในการฝึกทำงานของเขาก็ทำให้เขาเข้าใจในการบริหารมากขึ้น เพราะในชาติก่อนเขาเป็นดีไซเนอร์ ส่วนใหญ่ที่เขาทำบ่อย ๆ คือการศึกษาแฟชั่น และเทรนด์การแต่งหน้า เพื่อนำมาประยุกต์ให้ชุดทันเทรนด์ตอนนั้นที่สุด ตอนนี้เลยเหมือนต้องมาเรียนบริหารธุรกิจเพิ่มวันนี้เขากำลังจะให้เกรย์ฟาพาเขาไปที่ร้านที่เป็นธุรกิจของที่บ้าน เพราะถ้าจะให้เขาเข้าไปเองคงจะเป็นไปได้ยาก จึงใช้เกรย์ฟาเป็นข้ออ้างในการเข้ามาทำงาน เขาต้องรวบรวมหลักฐานการโกงกิน และการยึดอำนาจของเขาที่สามแม่ลูกนั่นทำให้ได้มากที่สุด เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะเปิดโปงหลังจากที่เนื้อเรื่องหลักจบตอนนี้เขาค่อนข้างที่จะแน่ใจแล้วว่า เกรย์ฟาน่าจะเป็นพระเอก เพราะเจ้าชายของอาณาจักรนี้ค่อนข้างจะเจ้าชู้ และเกเร ไม่มีพระเอกนิทานเรื่องไหนที่พระเอกเป็นคนไม่ดี เพราะฉะนั้นเกรย์ฟาตรงที่สุด รวมถึงตรงสเป็กเขาด้วย ฮิฮิเวลาทำงานด้วยกัน เกรย์ฟาค่อนข้างที่จะจริงจังและสอนเขาให้เข้าใจได้ง่าย ถามอะไรก็จะอธิบายอย่างใจเย็น แต่เวลาพักเจ้าตัวจะมีความขี้เล่น และแอบเจ้าเล่ห์หน่อย ที่เขาชอบที่สุดคือเวลาที่ถูกมองแล้วยิ้มมุมปากเหมือนจะรู้ทันเราไปทุกอย่
บทที่ 4สงสัยในวันนั้นก็จบกันไปด้วยการตกลงที่จะให้เอลเลอร์ไปเรียนรู้การทำงานของเกรย์ฟา แม้จะมีเสียงคัดค้านจากแม่และพี่น้องปลอม ๆ ของเอลเลอร์ แต่ก็มิได้นำพา เพราะดูเหมือนว่าเกรย์ฟาจะเต็มใจเสนอตัวสอนซะเหลือเกินหลังจากนั้นไม่กี่วันเอลเลอร์ก็ไปเรียนรู้งานกับเกรย์ฟาจึงได้รู้ว่าบ้านของเอลเลอร์นั้นทำธุรกิจค้าขาย ขายของแทบทุกอย่างเป็นทั้งขายส่งและขายปลีก ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะรวย ที่สำคัญพ่อของเขายังเปิดโอกาสให้ชาวบ้านในเมืองทำของมาส่งขาย เพื่อที่จะนำไปขายต่อให้กับคนอื่นที่ต่างเมือง ทำให้เป็นที่รักของชาวบ้าน เพราะของที่รับมาจากชาวบ้านพ่อของเขาแทบไม่ได้เอากำไรจากตรงนั้นพอมาตอนนี้ที่อัลเบิร์ดพ่อของเอลได้เสียไปแล้วธุรกิจตกอยู่ในมือของแม่เลี้ยง ทำให้ธุรกิจตกต่ำลงจริง ๆ เพราะสามแม่ลูกมุ่งเอาแต่กำไรเข้าตัวเอง กดราคาของที่ชาวบ้านเอามาขาย เอาของไปขายในราคาที่สูงเกินความเป็นจริง ตอนนี้เขาอยากจะใช้คำว่าธุรกิจใกล้จะล้มของจริงที่สำคัญสามแม่ลูกยังเอาเงินในส่วนที่ต้องเป็นของธุรกิจมาใช้ส่วนตัวอีกต่างหาก เจริญกันจริง ๆจากนี้เขาคงต้องหาโอกาสให้ตัวเองเข้าไปในธุรกิจให้ได้มากที่สุด เพื่อดึงธุรกิจทุกอย่างให้กลับ
บทที่ 3พระเอกหรือเปล่าเมื่อถึงเวลาอาหารเที่ยง คนจากบ้านเจ้าเมืองก็ทยอยกันมา เนื่องจากเจ้าเมืองได้เดินพบปะพูดคุยกับลูกบ้านเสร็จก็แวะเขามาที่บ้านของเขาตามที่ได้มาแจ้งเอาไว้ ซึ่งเขาก็ได้เตรียมพร้อมทั้งอาหารและจัดโต๊ะไว้เรียบร้อยแล้วรอแค่ถือออกไปตั้งโต๊ะเท่านั้น ใกล้จะถึงเวลาละครฉากใหญ่ของนายซินคนใหม่แล้วคนแรกที่ดินเข้ามาเป็นเจ้าเมืองบลูเอโต้ ก็คือเมืองที่เขาอยู่ปัจจุบัน ชายคนนั้นดูยังไม่แก่เลย ดูเป็นทรงแด๊ดดี้มาก หน้าออกไปทางฝรั่งหน้าคมผมดำ คุณพระคุณเจ้าคนพ่อหล่อขนาดนี้คนลูกจะขนาดไหนโอ๊ะ มาแล้วคนนี้น่าจะเป็นลูกเจ้าเมืองซึ่งอาจจะเป็นพระเอก ถ้าไม่มีเจ้าชายที่ไหนโผล่มาอีกน่ะนะ คนลูกก็หน้าคม ดวงตาสีเทาอ่อน ผมสีดำ ฝรั่งผมดำนี่คือที่สุดเลยจริง ๆ เขาชอบมาก ป๊าด สองพ่อลูกสูงน่าจะ 190 หุ่นดีมากเลยในชาติก่อนเขาไม่ได้มานั่งสนใจด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย ชีวิตมีแต่ทำงานหาเงินมาเลี้ยงน้อง จนน้องสาวทำงานหาเงินเองได้ผมก็ลืมไปแล้วว่าความรักหนุ่มสาวหน้าตาเป็นยังไง แต่ก็พอจะเดาได้เพราะนายแบบนางแบบที่ผมเลือกส่วนใหญ่จะเป็นลูกครึ่งหรือฝั่งยุโรป ผมชอบมองทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่น่าจะเอนเอียงมาทา
บทที่ 2ตัวร้ายเกรดซีหลังจากที่โผล่มาในโลกนิทานเมื่อวานแล้ว เอกภพก็เผลอหลับอยู่ที่หน้าเตาผิงด้วยความเหนื่อยล้าจากร่างกายนี้ที่ทำงานบ้านมาทั้งวันก่อนที่เจ้าของร่างนี้จะจากไป“ไอ้ซิน! ไอ้ซิน! ทำไมไม่ขึ้นมาเตรียมน้ำอุ่นให้ฉัน ซิน ซิน อยู่ไหน มานี่เดี๋ยวนี้นะ ไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเองเลยรึไง ทำไมต้องให้ฉันเรียก” เสียงแหลมของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นร่างบางงัวเงียตื่นจากนิทราเพราะไม่อาจทนฟังเสียงบาดหูนั้นได้ ด้วยความที่พึ่งตื่นทำให้สมองของเอกยังไม่แล่นเท่าไหร่ ใช้เวลาครู่หนึ่งก็ประมวลเหตุการณ์ได้ทันที ตอนนี้เขาคงต้องรองมือรองเท้าพี่น้องกับแม่เลี้ยงสินะ น่าจะใช่แหละ น่าจะเรื่องนี้แหละเขาหันไปตามเสียงก็เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งชุดนอนที่ดูก็รู้ว่าผ้าราคาแพง พอก้มมองตัวเองก็ได้แต่ส่ายหัว แหม เงินก็เงินพ่อเขาเอาไปใช้ซะสบายเชียวนะ ใส่ผ้าดีขนาดไหนก็ยังสวยสู้น้องสาวในโลกเก่าของเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ หึ เดี๋ยวเจอเลยย เดี๋ยวเจอไอ้ซินเวอร์ชันเอกภพซะหน่อย“อิซิน กูบอกให้มึงมาเตรียมน้ำให้กูอาบ” ผู้หญิงคนนั้นเดินลงมาจากบันไดแล้วตรงมายังเขา ตอนนี้ในหัวเขาอยู่อย่างเดียว เขาต้องเล่นบทนางเอกก่อนไหม หรือสู้ได้เลย
บทนำ ในอดีตย้อนกลับไปเมื่อนานมากแล้ว เขาเคยนั่งดูการ์ตูนเรื่องหนึ่งกับน้องสาว ซึ่งเขาจำชื่อเรื่องไม่ได้ด้วยซ้ำ ในตอนนั้นน้องสาวของเขาอยากเป็นเจ้าหญิงตัวนั้นมากจนแม่ต้องซื้อชุดมาให้ใส่ “พี่เอด พี่อยาดเป็นตัวไหน นี่ๆๆๆ น้องเป็นตัวนี่นะ สวยไหม” น้องสาววัยสามขวบของเขาเอ่ยถาม “เรียกพี่เอกชัด ๆ ก่อนจะบอก” “พี่เอดดดด พี่ เอด” “โอเค ๆ พอ ๆ หนูเป็นเจ้าหญิงแล้วให้พี่เป็นแม่มดดีไหมคะ เราจะได้เล่นด้วยกันไง” “เอาๆ หนูเป็นเจ้าหญิง พี่เอดเป็นเซนต์นะ” เอาวะพี่เอดก็พี่เอด เอาจริงๆ ถ้าให้เลือกเขาก็คงไม่เลือกเจ้าหญิงสักองค์ เป็นตัวร้ายเป็นแม่มดน่าจะสนุกดี แต่!! นั่นมันเขาในวัยเด็กไง วัยเด็กอ่ะ เข้าใจป่ะ ตอนนี้เขาก็อยากจะถามไอ้เทวดาหรือไอ้อะไรก็ไม่รู้ที่โคตรจะเฮงซวยนั่น เอามาจากไหนว่าเขาอยากเป็นนางซิน แม่งเอ๊ย! แล้วเขาจะใช้ชีวิตยังไงต่อ แล้วน้องสาวเค้าล่ะจะเป็นยังไง เหลือตัวคนเดียวแล้วด้วย เฮ้อ... ตอนนี้คงได้แต่ทำใจแล้วล่ะ ขอให้หนูใช้ชีวิตต่ออย่างมีความสุขนะคะ อย่ามาเศร้ากับพี่นานเลย น้องรัก TBC.บทที่ 1ทำไมมีจู๋เอกภพ ชายหนุ่มที่ตายโง่ ๆ ด้วยการที่กินมะยมเชื่อมที่น้องสาวเอามาฝาก แล้วเม็ดมะยมต