บทที่ 5 หาหลักฐาน หลังจากผ่านมาเป็นเดือนในการฝึกทำงานของเขาก็ทำให้เขาเข้าใจในการบริหารมากขึ้น เพราะในชาติก่อนเขาเป็นดีไซเนอร์ ส่วนใหญ่ที่เขาทำบ่อย ๆ คือการศึกษาแฟชั่น และเทรนด์การแต่งหน้า เพื่อนำมาประยุกต์ให้ชุดทันเทรนด์ตอนนั้นที่สุด ตอนนี้เลยเหมือนต้องมาเรียนบริหารธุรกิจเพิ่ม วันนี้เขากำลังจะให้เกรย์ฟาพาเขาไปที่ร้านที่เป็นธุรกิจของที่บ้าน เพราะถ้าจะให้เขาเข้าไปเองคงจะเป็นไปได้ยาก จึงใช้เกรย์ฟาเป็นข้ออ้างในการเข้ามาทำงาน เขาต้องรวบรวมหลักฐานการโกงกิน และการยึดอำนาจของเขาที่สามแม่ลูกนั่นทำให้ได้มากที่สุด เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะเปิดโปงหลังจากที่เนื้อเรื่องหลักจบ ตอนนี้เขาค่อนข้างที่จะแน่ใจแล้วว่า เกรย์ฟาน่าจะเป็นพระเอก เพราะเจ้าชายของอาณาจักรนี้ค่อนข้างจะเจ้าชู้ และเกเร ไม่มีพระเอกนิทานเรื่องไหนที่พระเอกเป็นคนไม่ดี เพราะฉะนั้นเกรย์ฟาตรงที่สุด รวมถึงตรงสเป็กเขาด้วย ฮิฮิ เวลาทำงานด้วยกัน เกรย์ฟาค่อนข้างที่จะจริงจังและสอนเขาให้เข้าใจได้ง่าย ถามอะไรก็จะอธิบายอย่างใจเย็น แต่เวลาพักเจ้าตัวจะมีความขี้เล่น และแอบเจ้าเล่ห์หน่อย ที่เขาชอบที่สุดคือเวลาที่ถูกมองแล้วยิ้มมุมปากเหมือนจะรู้ทันเราไปทุกอย่าง คนอื่นอาจจะไม่ชอบแต่สำหรับเขาแบบนี้แหละดีแล้วเขาชอบคนฉลาด ดูท่าทางแล้วคงไปสืบมาหมดแล้วล่ะว่าความเป็นมาของเอลคนเก่าเป็นยังไง และตัวเขานั้นเปลี่ยนไปขนาดไหน “สวัสดีครับคุณนายทอมสัน วันนี้เห็นว่าน้องเอลมาทำงานวันแรกผมเลยจะเข้ามาช่วยดูน้องให้น่ะครับ” “เรียกซะห่างเหินเลยเกรย์ฟา เรียกน้าแอนก็ได้คนกันเองทั้งนั้น แล้วแกจะเข้ามาทำงานไม่เห็นบอกฉันซักคำเลยนะเอลเลอร์” พูดจบก็หันมายิ้มให้เขา ยิ้มที่ยิ้มแต่ปากไม่ถึงตา เหอะ ใครจะบอกก่อนล่ะ เหอะ บอกก่อนก็ไม่ได้เข้ามาดิ นี่อุตส่าห์ขอให้พี่เกรย์มาเป็นไม้กันหมาให้ “นี่เอลไม่ได้บอกคุณแม่เหรอครับเนี่ย แย่จังนึกว่าบอกไปแล้วซะอีก แต่ไม่เป็นไรครับ พี่เกรย์อุตส่าห์มา คุณแม่ให้ผมช่วยตรงไหนบอกได้เลยไม่ต้องกลัวงานเสีย เดี๋ยวพี่เกรย์จะช่วยตรวจให้อีกแรง จริงไหมครับพี่เกรย์” เอลเลอร์กล่าวจบก็หันไปยิ้มให้เกรย์ฟา เกรย์ฟารู้อยู่แล้วว่าอีกคนตั้งใจไม่บอก เขานั้นได้แต่แอบขำตัวแสบอยู่ในใจ พยักหน้ารับคำ เขาก็อยากรู้ว่าวันนี้ตัวแสบจะทำอะไร “วันนี้วันแรก เกรย์ฟายังไม่ต้องมาดูก็ได้จ่ะ เดี๋ยวน้าให้น้องเอล ลองดู ๆ ศึกษาเอกสารไปก่อน จะได้จัดเอกสารไว้รอทำงานจริง ๆ เสียเวลาทำงานเราเปล่าๆ อุตส่าห์สอนน้องมาตั้งนาน” “เอางั้นก็ได้ครับ พี่เกรย์ฟากลับไปก่อนก็ได้วันหลังค่อยมาทดสอบว่าที่สอนเอลไปมีประโยชน์ไหม” ลักษณะแล้วคงไม่ได้ดูเอกสารแต่เป็นการจัดมากกว่า นั่นแหละสิ่งที่เขาต้องการ “เอางั้นนะ งั้นพี่ไปก่อน อย่ามัวแต่ทำงานล่ะ ไปเที่ยวหาพี่บ้าง งานเทศกาลดอกไม้ผลไม้เราก็เตรียมตัวไว้ พี่จะพาไปเที่ยว” โห อยู่ที่นี่มีงานเทศกาลให้ไปเที่ยวด้วยแฮะ น่าสนใจและก็น่าไปทำภารกิจ “ได้ครับ แล้วงานเทศกาลมีวันไหนครับ” “อีกสามวันน่ะ” “ชวนน้องอลิส น้องอลันไปด้วยสิเกรย์ฟา สองคนนั้นน่ะชอบไปงานเทศกาลมาก ถ้ารู้ว่าเราชวนคงดีใจ” แอนนารีบเสริมขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกของเธอได้ใกล้ชิดกับเกรย์ฟาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวหรือลูกชายของเธอใครที่ได้ใจเกรย์ฟามาครองก็ได้ทั้งนั้น ใครก็ได้ที่ไม่ใช่เด็กกาฝากนี่ “ได้ครับ งั้นฝากคุณน้าชวนเลยแล้วกันครับ ผมอาจไม่ได้ไปชวนด้วยตัวเอง” เขาไม่ได้อยากชวน แต่หากปฏิเสธก็จะเป็นการเสียมารยาทจนเกินไป ที่สำคัญเขาคิดว่าการที่เขาเชิญสองคนนั้นไปด้วยคงจะเข้าแผนของคนตัวเล็กพอดี “ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวน้าจะบอกให้นะว่าเกรย์ฟาชวนทั้งสองคนไปเที่ยวงานเทศกาล” แอนนายิ้มชอบใจที่อีกฝ่ายไม่ปฏิเสธ แล้วหันไปยิ้มเยาะให้กับเอลเลอร์ “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับ พี่ไปก่อนนะแล้วเจอกัน” เกรย์ฟากล่าวลาแอนนา แล้วหันมาขยี้ผมของเอลเลอร์ด้วยความเอ็นดู หลังจากที่เกรย์ฟาเดินออกไปแอนนาก็ตั้งท่าหาเรื่องเอลเลอร์ทันที “ซินเดอเรลล่า แกคิดจะทำอะไร เสนอหน้ามาที่นี่ทำไม” แอนนาพูดด้วยความไม่พอใจ “ผมก็อยากมาช่วยงานคุณแม่ไงครับ ผมเห็นคุณแม่กับพี่ ๆ เหนื่อยเลยอยากเข้ามาช่วยเท่านั้นเอง” เอลเลอร์ช้อนตามองแม่เลี้ยงให้ดูใสซื่อที่สุด แม้ในใจจะรังเกียจตัวละครเหล่านี้แค่ไหน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมันยังไม่ถึงเวลาเอาคืน “อย่ามาเรียกฉันว่าแม่นะ ฉันไม่ใช่แม่แก ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกฉันว่าคุณนาย” “ครับคุณนาย แต่ไหน ๆ ผมก็มาแล้ว ผมขอช่วยงานแล้วกันนะครับ งานเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้” “งั้นแกเข้าไปทำความสะอาดห้องทำงานฉันซะ แล้วก็เก็บเอกสารให้เป็นระเบียบ หวังว่าแค่นี้แกจะไม่โง่จนทำไม่เป็นหรอกนะ” หลังพูดจบแอนนาก็สะบัดหน้าเดินจากห้องไป นี่เป็นโอกาสของเขาแล้วที่จะหาเอกสารการทำงานที่ไม่โปร่งใสของสามแม่ลูกนั่น ก่อนอื่นเขาต้องทำความสะอาดให้เสร็จเพื่อที่จะใช้เวลาที่เหลือทำทีว่าจัดเรียงเอกสาร เพื่อหาเอกสารพวกนั้นให้ได้มากที่สุด หลังจากที่เขาทำความสะอาดห้องทำงานที่เคยเป็นของพ่อเขามาก่อนเสร็จแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาต้องหาเอกสารทุจริตพวกนั้นมาเก็บไว้เป็นหลักฐานไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะเขาคงไม่ได้มีโอกาสเข้ามาที่ห้องทำงานนี้บ่อยๆ และเขาก็เจอหลักฐานมากกว่าที่คิด ทั้งที่ขายเกินราคา ยอดซื้อมาไม่ตรงกับยอดขาย ทั้งที่รับซื้อของชาวบ้านราคาต่ำว่าปกติ แต่ไปขายในราคาสูงทั้งที่เอาเงินออกไปใช้ส่วนตัว ก็รู้นะว่าชั่วกันอ่ะ แต่ไม่คิดว่าจะชั่วขนาดนี้ไง ที่สำคัญก่อนหน้านี้ไม่ว่าเงินที่ปันผลจากธุรกิจมีเท่าไหร่ก็ไม่เคยตกถึงมือเอลเลอร์คนเดิม นี่ยังไม่พอเอาแต่ได้จนธุรกิจครอบครัวจะล่มจม ทำกันไปได้นะ หลังจากเก็บหลักฐานไปแล้วเขาก็เตรียมตัวกลับบ้าน ที่นี่คงไม่มีอะไรให้เขาทำในตอนนี้ เอกสารที่เหลือเขาก็จัดให้เป็นที่เป็นทางเป็นอย่างดี ซึ่งแม่เลี้ยงก็คงไม่ฉลาดจนรู้ได้ว่าอะไรหายไปบ้าง เพราะไม่งั้นคงไม่เก็บหลักฐานไว้เยอะขนาดนี้ หลังจากนี้เขาคงต้องเตรียมตัวเข้าเนื้อเรื่องหลักเพราะเหมือนได้ยินคนงานที่บ้านท่านเจ้าเมืองคุยกันว่า ใกล้ถึงวันเกิดของเกรย์ฟาจะจัดงานเต้นรำหน้ากากขึ้น ที่สำคัญงานนี้จะเป็นงานที่ใช้เลือกคู่อีกด้วย ใกล้ถึงเวลาที่ซินเดอเรลล่าแสนสวยจะออกโรงแล้ว แล้วนี่จะมีนางฟ้าแม่ทูนหัวโผล่มาด้วยหรือเปล่านะ เพราะตั้งแต่อยู่ในโลกนี้มา มันก็ไม่ได้ดูแฟนตาซีขนาดนั้น แต่ถึงไม่มีนางฟ้าแม่ทูนหัวมาแปลงโฉมให้เขาก็มีปัญญาตัดชุดใส่ไปเองได้อยู่ดี วันนั้นชุดเขาต้องสวยไม่ให้เสียชื่อดีไซเนอร์มือทองเด็ดขาด
บทที่ 27 ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เวลาผ่านมาจนเกือบถึงงานวันแต่งงาน สามแม่ลูกนั่นเข้าไปใช้กรรมในคุกมาสักพักแล้ว เขาว่าจะไปเยี่ยมสักหน่อยล่ะนะ อยากรู้ว่าในคุกมันสุขสบายเกินกว่าที่พวกนั้นเคยทำร้ายเอลเลอร์คนเก่าไว้หรือเปล่า แต่ก็นั่นแหละ การที่พวกนั้นต้องติดคุกตลอดชีวิตทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนกองเงินกองทองของคนอื่นก็คงจะทุกข์ทรมานกันอยู่ไม่น้อยเห็นว่าหากทำตัวดีทำงานในคุกที่มีการสอนงานและให้ทำงานไปด้วย ถ้าขยันและประเมินแล้วสำนึกผิดจริงก็จะถูกลดโทษก็ต้องมารอดูกันว่าพวกนั้นจะทำได้รึเปล่า“พี่เกรย์ครับเตรียมตัวเสร็จรึยัง พี่ไม่ต้องเอาคนไปด้วยหรอกไปแค่เรานี่แหละครับ พวกนั้นอยู่ในคุกคงทำอะไรเราไม่ได้อีกแล้ว”เอลเลอร์มารอที่บ้านของเกรย์ฟาเพื่อรอให้อีกฝ่ายพาไปเยี่ยมสามแม่ลูกนั่น“เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวเอาตามที่หนูว่าก็ได้ค่ะ ไปกันเลยดีกว่า พี่ให้คนเตรียมรถม้าไว้แล้วค่ะ”ทั้งสองคนออกเดินทางตรงไปที่ราชทัณฑ์ในเมือง เกรย์ฟาก็ไม่ได้มีการถามว่าน้องจะไปเยี่ยมทำไม ก็อย่างที่บอกเขาน่ะแค่น้องบอกว่าต้องการเขาก
บทที่ 25ความยุติธรรมอยู่ที่นี่ วันที่ทางกรมยุติธรรมบอกว่าจะติดประกาศ ทางกรมยุติธรรมได้มีการส่งเจ้าหน้าที่นำจดหมายเชิญเอลเลอร์ เกรย์ฟา เจ้าเมืองและทนายประจำตระกูลทอมสันเข้ามาฟังคำตัดสินที่บ้านทอมสันเองใช้เวลาเพียงไม่นานทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องรับรองของบ้านทอมสัน เป็นห้องที่มีความคล้ายห้องประชุม โต๊ะกลางห้องเป็นรูปวงรี เก้าอี้วางพอสำหรับคนพอดี โดยที่ตอนนี้รองเจ้ากรมยุติธรรมนั่งอยู่หัวโต๊ะ ถัดมาทางด้านซ้ายคือท่านเจ้าเมือง ด้านขวาเป็นตำรวจที่มากับท่านรองเจ้ากรมและสามแม่ลูกตามลำดับอายุ ทางด้านเจ้าเมืองต่อด้วยเกรย์ฟา และถัดมาคือเอลเลอร์“เอาล่ะครับหลังจากที่ผมได้เข้ามาจัดการคดีนี้ด้วยตัวเอง และตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว วันนี้คือวันที่คดีสิ้นสุดและระหว่างที่ผมมาแจ้งผลอย่างเป็นทางการนั้น เจ้าหน้าที่อีกส่วนได้มีการนำผลการตัดสินไปติดประกาศหลังจากที่ผมก้าวเท้าออกจากห้องนี้ คดีนี้จะเผยแพร่การตัดสินสู่สาธารณชนทันที ทุกคนถือว่ารับทราบแล้วนะครับ” เจ้ากรมยุติธรรมพูดขึ้น“ค่ะ” “ครับ” ทุกคนตอบรับด้านสามแม่ลูกที่เห็นวันนี้ท่าน
บทที่ 26จบเรื่องสักทีนะ ตอนนี้ทั้งเมืองนั้นต่างพูดคุยกันเรื่องบ้านทอมสัน ที่สามแม่ลูกนั้นไม่ได้ใช้นามสกุลทอมสันอีกต่อไป ทั้งยังมีเรื่องที่เป็นข่าวลือก่อนหน้านี้เป็นความจริงทั้งหมด ทุกคนต่างเห็นใจเจ้าเด็กซนที่แม้จะพึ่งปรากฏตัวออกจากบ้านได้ไม่นานแต่ก็มีนิสัยที่น่ารักและเป็นกันเอง ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ชาวเมืองสาปส่งสามแม่ลูกและมีการพูดกันว่าการติดคุกตลอดชีวิตนั้นดีแล้ว ไม่ควรปล่อยออกมาให้เป็นอันตรายต่อคนอื่น ที่สำคัญคือจะไม่เป็นอันตรายต่อเอลเลอร์ที่เป็นคนลากพวกนั้นเข้าคุกด้วยแล้วยังมีข่าวลืออีกเรื่องที่เป็นที่ฮือฮาและน่าแตกตื่น คือท่านรองเจ้ากรมแยกบ้านกันอยู่กับภรรยา แต่นั่นก็เป็นเพียงข่าวลือที่ไม่ได้รับการยืนยันจึงไม่ได้มีการพูดต่อกันมากมาย แต่ก็มีข่าวออกมาว่าเพราะภรรยาท่านเจ้ากรมที่เป็นเพื่อนกับแอนนานั้น พยายามที่จะช่วยแอนนาเลยทำให้ท่านรองเจ้ากรมนั้นไม่พอใจ แต่ก็นั่นแหละข่าวลือที่ออกมานั้นไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการสักอย่าง...“เป็นไงบ้างคะ หลังจากที่เรื่องจบแล้ว หนูมีความสุขขึ้นรึเปล่
บทที่ 24ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน ทางด้านคนที่เกรย์ฟาส่งให้เดินทางไปตามหาป้ามาลีนั้น เมื่อผ่านไปหนึ่งวันได้ทำการส่งจดหมายมาว่าตอนนี้เจอป้ามาลีแล้วและป้าปลอดภัยดี ตอนนี้กำลังรวบรวมคนที่เคยเป็นคนของบ้านทอมสันตั้งแต่สมัยนายท่านทอมสันกลับไปที่บ้านมาลีเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่ที่ได้ยินการพูดคุยระหว่างสามแม่ลูกกับท่านรองเจ้ากรมและภรรยา จึงได้รู้ว่าทางด้านภรรยาของท่านรองเจ้ากรมเป็นเพื่อนกับแอนนา ทางนั้นจึงติดต่อแล้วขอร้องให้รองเจ้ากรมยุติธรรมนั้นช่วยเหลือ ทางสามแม่ลูกนั้นแสดงละครใหญ่โตว่าโดนเอลเลอร์กลั่นแกล้ง หากเธอไม่ได้อยู่ด้วยทุกครั้งตอนเกิดเรื่องและไม่รู้จักนิสัยแม่ลูกพวกนี้มาก่อนอย่างที่ท่านรองเจ้ากรมนั้นได้รับรู้เธอก็คงเชื่อคำลวงเหล่านั้นคนพวกนั้นเล่าทั้งน้ำตาใส่ร้ายคุณหนูของเธอต่าง ๆ นานา ความจริงเรื่องนี้ไม่ต้องถึงมือรองเจ้ากรมเรื่องต่าง ๆ ก็สามารถจบได้อย่างยุติธรรม อีกทั้งคดีนี้ก็กำลังจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ หรือก็คือหลังจากวันที่ท่านรองเจ้ากรมมาที่บ้านทอมสันถึงแม้รองเจ้ากรมจะเชื่อมั่นในการทำงานของลูกน้องตัวเอง แต
บทที่ 23สายสืบตัวจ้อย หลังจากที่ฟังเรื่องราวจากหนูทั้งหลายที่แย่งกันเล่า แม้จะต้องนำมาปะติดปะต่อเรื่องสักหน่อยแต่ก็พอเข้าใจได้ พวกเขาเลยรีบกลับไปที่บ้านของเกรย์ฟาเพื่อเร่งหารือกับท่านเจ้าเมืองว่าตอนนี้เรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง หากมีการยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือจริง ๆ จะทำอย่างไรกันต่อก่อนออกมาเอลเลอร์ไม่ลืมกำชับให้บรรดาหนูนั้นดูแลตัวเองดี ๆ เพราะหากพวกนั้นเห็นมีหวังคงฆ่าทิ้งแน่ ตอนแรกเอลเลอร์เสนอให้มาด้วยกัน แต่เจ้าตัวเล็กทั้งหลายบอกว่าจะอยู่คอยสืบความให้ แม้เป็นห่วงแต่เจ้าหนูก็แสดงให้เห็นว่าห้าวันที่ผ่านมานั้นดูแลตัวเองได้ฟ้าที่มืดลงสนิทพอดีกับที่ทั้งสองคนเดินทางมาถึงบ้านของเกรย์ฟา พวกเขารีบเดินเข้าไปในบ้านเพราะเวลานี้ จาฟาร์น่าจะเดินทางกลับมาจากที่ทำงานแล้ว“พ่อครับ ผมพึ่งรู้เรื่องที่กรมยุติธรรมทำงานล่าช้า พ่อช่วยตรวจสอบให้หน่อยได้ไหมครับว่ามีคนยศใหญ่ลงมาช่วยเหลือสามแม่ลูกนั่นรึเปล่า เรื่องใหม่ที่ผมรู้มาเป็นอย่างนี้ครับ...” เกรย์ฟาเล่าเรื่องที่ได้รับรู้มาจากหนูทั้งสิบแปดตัวให้กับจาฟาร์ได้รับรู้“จริงเหรอ ช่วงน
บทที่ 22การเตือนจากเพื่อนตัวน้อย เอลเลอร์เริ่มกระวนกระวาย เมื่อป้ามาลีขาดการติดต่อนานเกินไป เขารอให้เกรย์ฟากลับมาจากที่ทำงานเพื่อปรึกษาเรื่องนี้ อาจจะต้องกลับไปดูที่บ้านทอมสัน หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ดีไปหลังจากนั้นไม่นานเกรย์ฟาก็ได้กลับจากที่ทำงาน เอลเลอร์ก็พุ่งเข้าไปหาทันที“พี่เกรย์ หนูมีอะไรจะปรึกษาค่ะ”“ครับ มีอะไรครับ”“ป้ามาลี ไม่ส่งจดหมายมาหาหนูห้าวันแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นอะไรรึเปล่า พี่ช่วยพาหนูไปดูหน่อยได้ไหม” ตอนนี้เอลเลอร์ร้อนใจเป็นอย่างมาก เขามามีความสุขอยู่บ้านนี้จนลืมไปว่าป้ามาลีอาจตกอยู่ในอันตรายได้“ได้สิครับ ให้พี่ส่งคนไปก่อนดีไหมครับ เดี๋ยวเป็นยังไงให้เขารายงานมาแล้วเราค่อยมาคิดอีกที”“พี่เกรย์ หนูอยากไปเองมากกว่า พี่พาหนูไปหน่อยได้ไหม ยังไงก็มีเจ้าหน้าที่กรมยุติธรรมอยู่แล้ว ไม่น่ามีอะไรหรอก”“ได้ครับ เดี๋ยวพี่ขอเตรียมตัวสักครู่นะครับ เดี๋ยวพี่ไปด้วยเอาคนของเราไปด้วยแล้วกันนะครับ”“ครับ หนูรอนะ”เกรย์ฟาเมื่อเข้าไปเตรียมพร้อมเสร็จแล้วก็สั่งคนเตรียมตั