บทที่ 6 งานเทศกาลดอกไม้ที่แพร่สะพัด เมื่อวันงานเทศกาลมาถึงเอลเลอร์เตรียมตัวรอเกรย์ฟามารับเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่สองพี่น้องอลิส อลัน ที่พิถีพิถันแต่งตัวจนตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จสักที เขาคอยเลือกชุดคอยช่วยแต่งตัวมาตั้งแต่ทานข้าวเที่ยงเสร็จตอนนี้ใกล้เวลานัดแล้วก็ยังไม่เสร็จเลย “ไอ้ซินไปเอาชุดใหม่มา! ชุดนี้ฉันเคยใส่แล้วแกจำไม่ได้รึไงจะต้องให้ฉันบอกกี่รอบว่าฉันไม่ใส่ชุดซ้ำไปข้างนอก ลูกสาวตระกูลทอมสันจะมาใส่ชุดง่อย ๆ ออกไปเจอผู้คนได้ยังไง” อลิสเริ่มอารมณ์เสียที่ซินเดอเรลล่ามันไม่ได้ดั่งใจเธอ วันนี้เธอจะต้องสวยที่สุด เพื่อที่จะให้พี่เกรย์ฟาสนใจเพียงเธอ “พี่อลิสใจเย็นๆ นะครับ ตัวพี่สวยมากอยู่แล้วชุดไหนพี่ใส่ก็ดูสวยไปหมดเลย เดี๋ยวผมช่วยเลือกให้อีกแรงนะครับ” วันนี้ใครดีใครได้ เขากับพี่สาวนั้นรักกันดี แต่วันนี้เขาคงต้องขอวันหนึ่ง เพราะพี่เกรย์ฟาต้องเป็นของเขาเท่านั้น “อลันแต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ งั้นมาช่วยพี่หน่อย เราคงเลือกชุดได้ดีกว่าไอ้ซินนี่” ที่อลิสมั่นใจว่าอลันเลือกได้ดีกว่า เพราะไม่ว่าครั้งไหนอลันเลือกชุดให้เธอ เธอมักจะได้คำชมอยู่เสมอ แต่คงไม่ใช่กับวันนี้เพราะอลันก็ไม่คิดจะเลือกชุดที่ดีที่สุดให้กับอลิสเพื่อที่จะเด่นกว่าตัวเอง วันนี้อลันเลือกชุดที่มีความหรูหราและใหญ่โตเกินกว่าจะไปเดินเล่นงานเทศกาลให้กับอลิส พออลิสเห็นชุดก็กลับคิดไปว่าที่น้องเลือกชุดนี้ให้คงอยากให้เธอโดดเด่นเกินกว่าใคร ทั้งที่จริงแล้วอลันต้องการให้พี่สาวดูไม่มีกาลเทศะมากกว่า เอลเลอร์ที่มองสองพี่น้องอยู่ก็นึกขัน ถึงเขาจะไม่ชอบสองพี่น้องนี่มาก แต่ความเป็นดีไซเนอร์มันค้ำคอเขาอยู่ เขาเลือกชุดที่เข้ากับงานและเข้ากับสองพี่น้องที่สุด แต่ที่อลิสไม่พอใจคงจะเป็นเพราะชอบความยิ่งใหญ่อลังการ อีกทั้งชุดที่เขาเลือกเธอเคยใส่มาแล้วหนึ่งครั้ง แต่ที่เขานำมามิกซ์แอนด์แมทช์กันนั้นทำให้ดูเก๋แล้วก็ดูไม่ออกเหรอกว่าเคยใส่ อลิสคงเห็นว่า อลันไม่พอใจกับชุดที่เขาจัดให้เหมือนกันเลยโวยวายเปลี่ยนชุดใหม่ไม่เลิก แต่เธอคงไม่ได้สังเกตว่าชุดแรกที่เขาจัดให้อลันยังวางอยู่บนเตียงตั้งแต่แรกไม่ได้ถูกสั่งให้เอาไปเก็บ “เดี๋ยวอลันใส่ชุดที่ซินหามาให้ดีกว่าวันนี้พี่อลิสจะได้สวยเด่นคนเดียว” พูดแล้วก็หันไปหยิบชุดที่เอลเลอร์หามาให้ อลันรู้อยู่แล้วว่าพี่สาวเขาไม่ชอบใส่ชุดซ้ำอีกทั้งยังชอบความใหญ่โตไม่ดูกาลเทศะ ถ้าเป็นวันอื่นเขาอาจจะเตือนด้วยความหวังดีแต่วันนี้คงไม่ได้จริง ๆ ขอโทษนะครับพี่อลิส เมื่อทุกคนแต่งตัวเสร็จก็รีบมารอเกรย์ฟาที่ห้องรับแขก ชุดแต่ละคนที่แต่งออกมานั้นแตกต่างกันไปคนละทาง อลิสใส่ชุดราตรียาวที่มีความพองตรงช่วงสะโพก ชุดมีการปักตกแต่งหรูหรา พอไปรวมกับเครื่องประดับที่เจ้าตัวประโคมใส่ยิ่งทำให้ดูเยอะ เหมือนชุดที่พร้อมจะไปงานเต้นรำกลางคืน ส่วนอลันเขาจัดให้อลันใส่เสื้อเชิ้ตข้างใน ตัวนอกเป็นเสื้อคลุมที่มีการปักดิ้นทองขนานกับกระดุม ใส่กับกางเกงเอวสูงที่มีการเน้นให้เห็นเอว ส่วนรองเท้าเป็นรองเท้าหนังสีดำ ใส่เครื่องประดับเล็กน้อยให้ดูไฮแฟชั่น ส่วนตัวเขาเองใส่เสื้อเชิ้ตเก่าๆ กับกางเกงเอวสูงสีซีด รอเพียงไม่นานเกรย์ฟาก็มารับถึงบ้าน ทุกคนเคลื่อนตัวกันไปนั่งในรถม้าที่มีการตกแต่งหรูหรามีตราสัญลักษณ์เจ้าเมืองติดอยู่ ใช้เวลาเพียงครู่เดียว รถม้าก็เคลื่อนตัวมาสู่งานเทศกาลดอกไม้และผลไม้ งานเทสกาลดอกไม้เป็นงานที่จัดขึ้นให้ชาวบ้านในเมืองและต่างเมืองนำผลไม้ ดอกไม้มาวางขายหรือจัดแสดง รวมไปถึงสามารถนำของผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากผลไม้และดอกไม้มาวางขายได้ อีกทั้งยังมีการจัดตกแต่งพื้นที่ให้เต็มไปด้วยดอกไม้โดยท่านเจ้าเมืองอีก ตอนนี้ในงานเทศกาลเสมือนสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน สวยมาก งานนี้สวยมากทั้งสวยทั้งหอมดอกไม้ มีร้านค้ามากมาย เอลเลอร์ตื่นตาตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็นเป็นอย่างมาก สองข้างเต็มไปด้วยร้านค้า แบ่งเป็นโซนอาหาร เครื่องประดับ น้ำปรุง หรือจะเป็นดอกไม้และผลไม้สดไม่แปรรูป นี่มันเกินคาดของเขามาก ระหว่างที่เขากำลังตื่นตาตื่นใจกับการมางานเทศกาลครั้งแรก สองพี่น้องอลิสกับอลันก็ขนาบข้างเกรย์ฟาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งระหว่างทางที่มา อลิสก็ชวนเกรย์ฟาคุยมาตลอดทาง ต่างกับอลันที่รับบทนางเขินอาย สบตาบ้างหลบตาบ้าง ซึ่งจะให้พูดตรง ๆ เกรย์ฟาก็ไม่ได้สนใจสองพี่น้องสักเท่าไหร่ ตอบรับบ้างเป็น ครับ อืม อ่า ครับ พูดวน ๆ ไป แต่อลิสก็ไม่หมดความพยายามสักที พอลงจากรถม้ามาสักพัก อลิสก็จูงเกรย์ฟาเดินไปทางนู้นทีทางนี้ที มันดูตลกตรงที่หน้าอีกฝ่ายดูไม่ได้เต็มใจ “เอลเลอร์ มาทางนี้มา เรายังไม่เคยมางานเทศกาลเลยใช่ไหมตั้งแต่ที่คุณอาจากไป” เกรย์ฟาพูดพลางดึงเอลเลอร์มาใกล้ ๆ “ใช่ครับ เอลยังไม่เคยมาเลย สวยมากเลยครับ” หลังจากที่เขาแอบขำการโดนลากไปมาของเกรย์ฟามาซักพัก เขาคงต้องช่วยแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ “งั้นมานี่สิ พี่พาเดินเอง ส่วนอลิสกับอลัน ไปเดินเล่นกันได้เลยนะ พี่ไปก่อน เผื่อเอลเลอร์อยากดูตรงไหนนาน ๆ จะได้ไม่เสียเวลาพวกคุณ” พูดเสร็จก็ตั้งท่าจะเดินหนี แต่ไม่ทันเพราะอลันจับแขนของเอลเลอร์เอาไว้ก่อน “ไม่เป็นไรครับพี่เกรย์ฟา น้องเอลอยากเดินนานแค่ไหนก็เดินดูได้เลย พี่ออกมาบ่อย ๆ พี่แนะนำได้เดี๋ยวเราเดินด้วยกันนี่แหละ เนอะ” พอพูดจบก็กอดแขนเอลเลอร์ประหนึ่งพี่น้องที่รักกันมาก ๆ เล่นอย่างนี้เลยนะอลัน “นั่นสิคะ เดินด้วยกันก็ได้ หรือไม่ก็ปล่อยมันเดินคนเดียวไป อยากอยู่นานแค่ไหนจะได้ไม่เสียเวลาคนอื่น” อลิสไม่ได้อยากเดินกับมันสักหน่อย ปล่อยมันเดินคนเดียวไปสิ พี่เกรย์ฟานี่ยังไง ทำไมต้องสนใจมันด้วย “พี่อลิสอย่าพูดอย่างนั้นสิครับ ไปกันเถอะเอลเลอร์น้องอยากดูร้านไหนบอกพี่ได้เลย” อลันพอเห็นแล้วว่าเกรย์ฟาอยากจะเดินกับเอลเลอร์ การเอาเอลเลอร์ไปด้วยคือสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ อีกทั้งเขายังสามารถแสดงความอ่อนโยนของเขาให้เกรย์ฟาดูได้อีกด้วย “มาดูร้านนี้สิ ชอบไหมเอลเลอร์ ของกินเยอะแยะเลย มีผลไม้เคลือบน้ำตาลที่น้องชอบด้วยนะ” เอลเลอร์ไม่อยากจะบอกเลยว่าการแสดงของอลันนั้นดูโอเวอร์แอคติ้งไปหน่อย การแสดงถึงความตื่นเต้นกับการอ่อนโยนกับเขามันดูปลอมมาก แต่จะปล่อยไปก่อนละกันเพราะอยากกินถังหูลู่หรอก “สวัสดีครับคุณเกรย์ฟา คุณอลิส คุณอลัน และอีกท่าน” เถ้าแก่ร้านขายผลไม้เคลือบน้ำตาลเอ่ยทัก เขาเหมือนคุ้นหน้าคุณชายท่านนี้มากแต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน “ผมเอลเลอร์ครับ ลูกชายแท้ ๆ ของคุณพ่ออัลเบิร์ด” เอลเลอร์พูดยิ้ม ๆ แต่ดวงตาแสดงออกถึงความเศร้าเล็กที่ไม่ค่อยมีคนจำเขาได้ “ขออภัยด้วยครับคุณหนูเอลเลอร์ ผมแก่แล้วหลง ๆ ลืม ๆ ไม่ได้เจอคุณหนูนานเลยตั้งแต่ท่านอัลเบิร์ดเสียไป” เถ้าแก่รีบกล่าวขอโทษขอโพย “ไม่ใช่ความผิดของคุณลุงหรอกครับ อาจเป็นเพราะผมเองที่ไม่...ไม่ค่อยได้ออกมาจากบ้านสักเท่าไหร่” เขามองหน้าชายแก่ตรงหน้าในประโยคแรก และหลบตาในประโยคต่อมา ปากคนน่ะ ไวกว่าไฟลามทุ่ง ยิ่งตรงนี้มีเกรย์ฟาที่เป็นลูกเจ้าเมืองอยู่ ทั้งยังมีอลิสอลันที่เป็นลูกเศรษฐี และเขาที่ยืนอยู่ด้วย ทุกคนก็หน้าตาโดดเด่น การที่จะเป็นจุดสนใจก็ไม่แปลกที่ทุกคนจะใส่ใจในคำพูด เพื่อที่จะเก็บรายละเอียดไปเล่าต่อ ยิ่งเรื่องที่อาจจะเป็นเรื่องฉาวในครอบครัวคนอื่นได้ยิ่งน่าสนใจไปกันใหญ่ “แล้วแกจะออกมาทำไมนักหนาล่ะ อยู่แต่บ้านก็ดีอยู่แล้ว งานการก็มีให้ทำจะออกมาเที่ยวเล่นทำไม” อลิสหันมาแหวใส่เอลเลออารมณ์ด้วยความไม่พอใจ เพราะตอนนี้ทุกคนดูจะสนใจมันไปหมดทั้งที่เธอแต่งชุดสวยมาขนาดนี้ “พี่อลิสพูดอะไรอย่างนั้นครับ เอลเลอร์คราวหน้าถ้าน้องอยากออกมาเที่ยวบอกพี่ได้เลยนะที่บ้านไม่เคยห้ามให้ออกมาอยู่แล้ว” อลันทำเสียงดุใส่อลิส แล้วหันมาจับมือของเอลเลอร์ทั้งสองข้าง ถึงคำพูดจะดูดีแต่เหมือนคุณชายอลันก็จะเก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่เหมือนกันตาเลยแข็งไปหน่อย ฮุฮุ อย่างนั้นแหละอย่างนั้น “ครับ” เขาตอบเสียงเบา ทำตัวสั่นน้อยๆ เหมือนหวาดกลัวแล้วค่อย ๆ ดึงมือออกมาจากมือของอลัน “ไม่เป็นไรนะครับคราวหน้าถ้าเราอยากออกมาก็บอกพี่ เดี๋ยวพี่พาออกมาเที่ยวดีไหม” เกรย์ฟากล่าวด้วยเสียงอ่อน ก็อย่างที่บอกเกรย์ฟามองออกหมดนั่นแหละว่าคนน้องต้องการจะทำอะไร เขาก็แค่สนับสนุนเท่านั้น “ถ้างั้นผมขอออกมาด้วยได้ไหมครับ” อลันรีบเสนอตัวเองทันที “เรากับพี่สาวเราออกมาเที่ยวทั่วเมืองกันบ่อย ๆ คงเบื่อแล้วมั้ง เอลเลอร์ยังไม่เคยออกมาเที่ยวสักทีพี่กลัวหลงน่ะ อีกอย่างพี่รู้สึกผิดกับเราด้วยที่ปล่อยให้เราอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปไหนตั้งนาน คงเหงามากเลยใช่ไหม” เกรย์ฟากล่าวพร้อมทั้งลูบผมของเอลเลอร์เบา ๆ “พี่...พี่เกรย์ฟา” เขาพูดเสียงเบา พร้อมทำหน้าซาบซึ้ง ขอโทษนะอลัน บทคุณชายอ่อนแอโดนรังแกต้องเป็นของไอ้เอกคนนี้ วะฮะฮะฮ่า “ไหนอยากกินอะไรไหม พี่ซื้อให้” ตอนนี้เหมือนโลกนี้มีเพียงสองเรา ไม่สนใจสองคนที่อารมณ์เสียไปหมดแล้ว แต่สิ่งที่แสดงออกมาต่างกัน อลิสแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ แต่อลันแม้จะไม่พอใจแค่ไหนก็เก็บเอาไว้แล้วแสดงออกว่าเสียใจออกมา “พี่เกรย์ฟาจะต้องไปจ่ายให้มันทำไมค่ะ ถ้าไม่มีปัญญาจ่ายก็ไม่ต้องกิน” “ก็ ก็...คุณนายไม่เคยให้เงินเอลเลย เอลไม่มีเงินครับ เอลไม่กินก็ได้ครับ ขอโทษครับคุณอลิส” ยิ่งพูดคนตัวเล็กยิ่งเศร้าซึมลงเรื่อย ๆ แถมยังเรียกแม่เลี้ยงว่าคุณนายอีกต่างหาก “งานการไม่เคยทำ กะอีแค่ทำความสะอาดบ้านเตรียมข้าวให้คนในบ้านกินแค่นี้ แกจะเอาเงินด้วยรึไง ทำไมคุณแม่ต้องให้เงินแก” “แต่คุณนายไม่ให้เอลไปทำงานที่ร้านนี่ครับ” “นี่แกเถียงฉันเหรออีซิน!” “พอแล้วครับพี่อลิสไม่ต้องพูดแล้ว กลับกันเถอะ” อลันรีบดึงพี่สาวตัวเองออกไป นี่คือข้อเสียของคนที่โดนตามใจมาตลอด พอโมโหขึ้นมาก็ไม่สามารถเก็บอารมณ์ตัวเองได้ และมันก็เข้าทางเขาพอดี เติมเชื้อไฟนิดหน่อย แค่นี้เรื่องคงเป็นขี้ปากชาวบ้านให้สงสัยกันเล่น ๆ ว่าทำไมลูกแท้ ๆ ของตระกูลทอมสันถึงถูกกระทำแบบนี้ด้วย แถมยังเรียกแม่เลี้ยงของตัวเองว่าคุณนายอีก “ไม่เป็นไรนะเอล เอาไงต่ออยากเดินต่อไหมครับ” “ผม แล้วแต่พี่เกรย์เลยครับ” “งั้นพี่ขอพาเราเดินต่อนะครับ เรายังไม่เคยมาใช่ไหม” “ครับ” หลังจากนั้นคนสองคนก็พากันเดินเที่ยวงานกะหนุงกะหนิง ทำเหมือนไม่ได้รับรู้ถึงข่าวลือเกี่ยวกับบ้านทอมสันที่ปฏิบัติต่อลูกที่แท้จริงของตระกูลที่กำลังแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว “ไงตัวแสบวันนี้สนุกเลยนะ” “คิกคิก ก็นิดหน่อยครับ พี่ก็ไม่เบาเหมือนกันแหละพี่เกรย์”
บทที่ 7เจ็บตัวเล่น ๆ หลังจากที่มีการเดินเที่ยวอย่างสนุกสนานกับเกรย์ฟา พอได้เวลากลับบ้านเขาก็ตระหนักได้ว่า คงมีศึกหนักรออยู่บ้านแน่นอน พวกสองพี่น้องประสาทแดกรอเล่นเขาแน่ แม้ว่าอลันจะดูเก็บอารมณ์ได้มากกว่าแต่ความจริงแล้วความอารมณ์ร้ายของสองพี่น้องมีพอกัน รวมไปถึงตัวแม่ด้วยเมื่อเดินทางมาถึงบ้าน ก็เห็นอลันยืนยิ้มต้อนรับอยู่ที่หน้าประตู อลันได้คุยกับอลิสแล้วว่าจะเป็นคนออกมารับเอง กลัวอลิสออกมาแล้วจะคุมตัวเองไม่ได้ เขาจะเป็นคนลากตัวมันเข้าไปให้เอง“กลับกันมาแล้วเหรอครับ ผมกลัวไม่มีคนเปิดประตูให้น้องเอลเลยมารอเปิดประตูให้น่ะครับ” อลันพูดด้วยรอยยิ้มเกรย์ฟามองมาที่เขาเหมือนจะถามว่าจะเอายังไงดี คนข้างกายเขาคงเดาออกว่าสิ่งที่เขาจะเจอหลังจากเข้าบ้านไปคืออะไร เพียงแต่ตอนนี้ในสมองเขาก็ไม่มีคำตอบให้ตัวเองเหมือนกันเอาไงดีวะเขาจะยอมโดนทำร้ายเพื่อทำให้เนื้อเรื่องยังดำเนินไปตามเดิม หรือจะไปกับเกรย์ฟาดี เขาไม่อยากแหกเนื้อเรื่องไปมาก แต่ก็ไม่ได้อยากเจ็บตัวนี่หว่าด้านเกรย์ฟาเองก็รอการตัดสินใจของเอลเลอร์เอง
บทนำ ในอดีตย้อนกลับไปเมื่อนานมากแล้ว เขาเคยนั่งดูการ์ตูนเรื่องหนึ่งกับน้องสาว ซึ่งเขาจำชื่อเรื่องไม่ได้ด้วยซ้ำ ในตอนนั้นน้องสาวของเขาอยากเป็นเจ้าหญิงตัวนั้นมากจนแม่ต้องซื้อชุดมาให้ใส่ “พี่เอด พี่อยาดเป็นตัวไหน นี่ๆๆๆ น้องเป็นตัวนี่นะ สวยไหม” น้องสาววัยสามขวบของเขาเอ่ยถาม “เรียกพี่เอกชัด ๆ ก่อนจะบอก” “พี่เอดดดด พี่ เอด” “โอเค ๆ พอ ๆ หนูเป็นเจ้าหญิงแล้วให้พี่เป็นแม่มดดีไหมคะ เราจะได้เล่นด้วยกันไง” “เอาๆ หนูเป็นเจ้าหญิง พี่เอดเป็นเซนต์นะ” เอาวะพี่เอดก็พี่เอด เอาจริงๆ ถ้าให้เลือกเขาก็คงไม่เลือกเจ้าหญิงสักองค์ เป็นตัวร้ายเป็นแม่มดน่าจะสนุกดี แต่!! นั่นมันเขาในวัยเด็กไง วัยเด็กอ่ะ เข้าใจป่ะ ตอนนี้เขาก็อยากจะถามไอ้เทวดาหรือไอ้อะไรก็ไม่รู้ที่โคตรจะเฮงซวยนั่น เอามาจากไหนว่าเขาอยากเป็นนางซิน แม่งเอ๊ย! แล้วเขาจะใช้ชีวิตยังไงต่อ แล้วน้องสาวเค้าล่ะจะเป็นยังไง เหลือตัวคนเดียวแล้วด้วย เฮ้อ... ตอนนี้คงได้แต่ทำใจแล้วล่ะ ขอให้หนูใช้ชีวิตต่ออย่างมีความสุขนะคะ อย่ามาเศร้ากับพี่นานเลย น้องรัก TBC.บทที่ 1ทำไมมีจู๋เอกภพ ชายหนุ่มที่ตายโง่ ๆ ด้วยการที่กินมะยมเชื่อมที่น้องสาวเอามาฝาก แล้วเม็ดมะยมต
บทที่ 2ตัวร้ายเกรดซีหลังจากที่โผล่มาในโลกนิทานเมื่อวานแล้ว เอกภพก็เผลอหลับอยู่ที่หน้าเตาผิงด้วยความเหนื่อยล้าจากร่างกายนี้ที่ทำงานบ้านมาทั้งวันก่อนที่เจ้าของร่างนี้จะจากไป“ไอ้ซิน! ไอ้ซิน! ทำไมไม่ขึ้นมาเตรียมน้ำอุ่นให้ฉัน ซิน ซิน อยู่ไหน มานี่เดี๋ยวนี้นะ ไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเองเลยรึไง ทำไมต้องให้ฉันเรียก” เสียงแหลมของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นร่างบางงัวเงียตื่นจากนิทราเพราะไม่อาจทนฟังเสียงบาดหูนั้นได้ ด้วยความที่พึ่งตื่นทำให้สมองของเอกยังไม่แล่นเท่าไหร่ ใช้เวลาครู่หนึ่งก็ประมวลเหตุการณ์ได้ทันที ตอนนี้เขาคงต้องรองมือรองเท้าพี่น้องกับแม่เลี้ยงสินะ น่าจะใช่แหละ น่าจะเรื่องนี้แหละเขาหันไปตามเสียงก็เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งชุดนอนที่ดูก็รู้ว่าผ้าราคาแพง พอก้มมองตัวเองก็ได้แต่ส่ายหัว แหม เงินก็เงินพ่อเขาเอาไปใช้ซะสบายเชียวนะ ใส่ผ้าดีขนาดไหนก็ยังสวยสู้น้องสาวในโลกเก่าของเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ หึ เดี๋ยวเจอเลยย เดี๋ยวเจอไอ้ซินเวอร์ชันเอกภพซะหน่อย“อิซิน กูบอกให้มึงมาเตรียมน้ำให้กูอาบ” ผู้หญิงคนนั้นเดินลงมาจากบันไดแล้วตรงมายังเขา ตอนนี้ในหัวเขาอยู่อย่างเดียว เขาต้องเล่นบทนางเอกก่อนไหม หรือสู้ได้เลย
บทที่ 3พระเอกหรือเปล่าเมื่อถึงเวลาอาหารเที่ยง คนจากบ้านเจ้าเมืองก็ทยอยกันมา เนื่องจากเจ้าเมืองได้เดินพบปะพูดคุยกับลูกบ้านเสร็จก็แวะเขามาที่บ้านของเขาตามที่ได้มาแจ้งเอาไว้ ซึ่งเขาก็ได้เตรียมพร้อมทั้งอาหารและจัดโต๊ะไว้เรียบร้อยแล้วรอแค่ถือออกไปตั้งโต๊ะเท่านั้น ใกล้จะถึงเวลาละครฉากใหญ่ของนายซินคนใหม่แล้วคนแรกที่ดินเข้ามาเป็นเจ้าเมืองบลูเอโต้ ก็คือเมืองที่เขาอยู่ปัจจุบัน ชายคนนั้นดูยังไม่แก่เลย ดูเป็นทรงแด๊ดดี้มาก หน้าออกไปทางฝรั่งหน้าคมผมดำ คุณพระคุณเจ้าคนพ่อหล่อขนาดนี้คนลูกจะขนาดไหนโอ๊ะ มาแล้วคนนี้น่าจะเป็นลูกเจ้าเมืองซึ่งอาจจะเป็นพระเอก ถ้าไม่มีเจ้าชายที่ไหนโผล่มาอีกน่ะนะ คนลูกก็หน้าคม ดวงตาสีเทาอ่อน ผมสีดำ ฝรั่งผมดำนี่คือที่สุดเลยจริง ๆ เขาชอบมาก ป๊าด สองพ่อลูกสูงน่าจะ 190 หุ่นดีมากเลยในชาติก่อนเขาไม่ได้มานั่งสนใจด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย ชีวิตมีแต่ทำงานหาเงินมาเลี้ยงน้อง จนน้องสาวทำงานหาเงินเองได้ผมก็ลืมไปแล้วว่าความรักหนุ่มสาวหน้าตาเป็นยังไง แต่ก็พอจะเดาได้เพราะนายแบบนางแบบที่ผมเลือกส่วนใหญ่จะเป็นลูกครึ่งหรือฝั่งยุโรป ผมชอบมองทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่น่าจะเอนเอียงมาทา
บทที่ 4สงสัยในวันนั้นก็จบกันไปด้วยการตกลงที่จะให้เอลเลอร์ไปเรียนรู้การทำงานของเกรย์ฟา แม้จะมีเสียงคัดค้านจากแม่และพี่น้องปลอม ๆ ของเอลเลอร์ แต่ก็มิได้นำพา เพราะดูเหมือนว่าเกรย์ฟาจะเต็มใจเสนอตัวสอนซะเหลือเกินหลังจากนั้นไม่กี่วันเอลเลอร์ก็ไปเรียนรู้งานกับเกรย์ฟาจึงได้รู้ว่าบ้านของเอลเลอร์นั้นทำธุรกิจค้าขาย ขายของแทบทุกอย่างเป็นทั้งขายส่งและขายปลีก ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะรวย ที่สำคัญพ่อของเขายังเปิดโอกาสให้ชาวบ้านในเมืองทำของมาส่งขาย เพื่อที่จะนำไปขายต่อให้กับคนอื่นที่ต่างเมือง ทำให้เป็นที่รักของชาวบ้าน เพราะของที่รับมาจากชาวบ้านพ่อของเขาแทบไม่ได้เอากำไรจากตรงนั้นพอมาตอนนี้ที่อัลเบิร์ดพ่อของเอลได้เสียไปแล้วธุรกิจตกอยู่ในมือของแม่เลี้ยง ทำให้ธุรกิจตกต่ำลงจริง ๆ เพราะสามแม่ลูกมุ่งเอาแต่กำไรเข้าตัวเอง กดราคาของที่ชาวบ้านเอามาขาย เอาของไปขายในราคาที่สูงเกินความเป็นจริง ตอนนี้เขาอยากจะใช้คำว่าธุรกิจใกล้จะล้มของจริงที่สำคัญสามแม่ลูกยังเอาเงินในส่วนที่ต้องเป็นของธุรกิจมาใช้ส่วนตัวอีกต่างหาก เจริญกันจริง ๆจากนี้เขาคงต้องหาโอกาสให้ตัวเองเข้าไปในธุรกิจให้ได้มากที่สุด เพื่อดึงธุรกิจทุกอย่างให้กลับ
บทที่ 5หาหลักฐานหลังจากผ่านมาเป็นเดือนในการฝึกทำงานของเขาก็ทำให้เขาเข้าใจในการบริหารมากขึ้น เพราะในชาติก่อนเขาเป็นดีไซเนอร์ ส่วนใหญ่ที่เขาทำบ่อย ๆ คือการศึกษาแฟชั่น และเทรนด์การแต่งหน้า เพื่อนำมาประยุกต์ให้ชุดทันเทรนด์ตอนนั้นที่สุด ตอนนี้เลยเหมือนต้องมาเรียนบริหารธุรกิจเพิ่มวันนี้เขากำลังจะให้เกรย์ฟาพาเขาไปที่ร้านที่เป็นธุรกิจของที่บ้าน เพราะถ้าจะให้เขาเข้าไปเองคงจะเป็นไปได้ยาก จึงใช้เกรย์ฟาเป็นข้ออ้างในการเข้ามาทำงาน เขาต้องรวบรวมหลักฐานการโกงกิน และการยึดอำนาจของเขาที่สามแม่ลูกนั่นทำให้ได้มากที่สุด เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะเปิดโปงหลังจากที่เนื้อเรื่องหลักจบตอนนี้เขาค่อนข้างที่จะแน่ใจแล้วว่า เกรย์ฟาน่าจะเป็นพระเอก เพราะเจ้าชายของอาณาจักรนี้ค่อนข้างจะเจ้าชู้ และเกเร ไม่มีพระเอกนิทานเรื่องไหนที่พระเอกเป็นคนไม่ดี เพราะฉะนั้นเกรย์ฟาตรงที่สุด รวมถึงตรงสเป็กเขาด้วย ฮิฮิเวลาทำงานด้วยกัน เกรย์ฟาค่อนข้างที่จะจริงจังและสอนเขาให้เข้าใจได้ง่าย ถามอะไรก็จะอธิบายอย่างใจเย็น แต่เวลาพักเจ้าตัวจะมีความขี้เล่น และแอบเจ้าเล่ห์หน่อย ที่เขาชอบที่สุดคือเวลาที่ถูกมองแล้วยิ้มมุมปากเหมือนจะรู้ทันเราไปทุกอย่
บทที่ 7เจ็บตัวเล่น ๆ หลังจากที่มีการเดินเที่ยวอย่างสนุกสนานกับเกรย์ฟา พอได้เวลากลับบ้านเขาก็ตระหนักได้ว่า คงมีศึกหนักรออยู่บ้านแน่นอน พวกสองพี่น้องประสาทแดกรอเล่นเขาแน่ แม้ว่าอลันจะดูเก็บอารมณ์ได้มากกว่าแต่ความจริงแล้วความอารมณ์ร้ายของสองพี่น้องมีพอกัน รวมไปถึงตัวแม่ด้วยเมื่อเดินทางมาถึงบ้าน ก็เห็นอลันยืนยิ้มต้อนรับอยู่ที่หน้าประตู อลันได้คุยกับอลิสแล้วว่าจะเป็นคนออกมารับเอง กลัวอลิสออกมาแล้วจะคุมตัวเองไม่ได้ เขาจะเป็นคนลากตัวมันเข้าไปให้เอง“กลับกันมาแล้วเหรอครับ ผมกลัวไม่มีคนเปิดประตูให้น้องเอลเลยมารอเปิดประตูให้น่ะครับ” อลันพูดด้วยรอยยิ้มเกรย์ฟามองมาที่เขาเหมือนจะถามว่าจะเอายังไงดี คนข้างกายเขาคงเดาออกว่าสิ่งที่เขาจะเจอหลังจากเข้าบ้านไปคืออะไร เพียงแต่ตอนนี้ในสมองเขาก็ไม่มีคำตอบให้ตัวเองเหมือนกันเอาไงดีวะเขาจะยอมโดนทำร้ายเพื่อทำให้เนื้อเรื่องยังดำเนินไปตามเดิม หรือจะไปกับเกรย์ฟาดี เขาไม่อยากแหกเนื้อเรื่องไปมาก แต่ก็ไม่ได้อยากเจ็บตัวนี่หว่าด้านเกรย์ฟาเองก็รอการตัดสินใจของเอลเลอร์เอง
บทที่ 6งานเทศกาลดอกไม้ที่แพร่สะพัดเมื่อวันงานเทศกาลมาถึงเอลเลอร์เตรียมตัวรอเกรย์ฟามารับเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่สองพี่น้องอลิส อลัน ที่พิถีพิถันแต่งตัวจนตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จสักที เขาคอยเลือกชุดคอยช่วยแต่งตัวมาตั้งแต่ทานข้าวเที่ยงเสร็จตอนนี้ใกล้เวลานัดแล้วก็ยังไม่เสร็จเลย“ไอ้ซินไปเอาชุดใหม่มา! ชุดนี้ฉันเคยใส่แล้วแกจำไม่ได้รึไงจะต้องให้ฉันบอกกี่รอบว่าฉันไม่ใส่ชุดซ้ำไปข้างนอก ลูกสาวตระกูลทอมสันจะมาใส่ชุดง่อย ๆ ออกไปเจอผู้คนได้ยังไง” อลิสเริ่มอารมณ์เสียที่ซินเดอเรลล่ามันไม่ได้ดั่งใจเธอ วันนี้เธอจะต้องสวยที่สุด เพื่อที่จะให้พี่เกรย์ฟาสนใจเพียงเธอ“พี่อลิสใจเย็นๆ นะครับ ตัวพี่สวยมากอยู่แล้วชุดไหนพี่ใส่ก็ดูสวยไปหมดเลย เดี๋ยวผมช่วยเลือกให้อีกแรงนะครับ” วันนี้ใครดีใครได้ เขากับพี่สาวนั้นรักกันดี แต่วันนี้เขาคงต้องขอวันหนึ่ง เพราะพี่เกรย์ฟาต้องเป็นของเขาเท่านั้น“อลันแต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ งั้นมาช่วยพี่หน่อย เราคงเลือกชุดได้ดีกว่าไอ้ซินนี่” ที่อลิสมั่นใจว่าอลันเลือกได้ดีกว่า เพราะไม่ว่าครั้งไหนอลันเลือกชุดให้เธอ เธอมักจะได้คำชมอยู่เสมอแต่คงไม่ใช่กับวันนี้เพราะอลันก็ไม่คิดจะเลือกชุดที่ดีที่
บทที่ 5หาหลักฐานหลังจากผ่านมาเป็นเดือนในการฝึกทำงานของเขาก็ทำให้เขาเข้าใจในการบริหารมากขึ้น เพราะในชาติก่อนเขาเป็นดีไซเนอร์ ส่วนใหญ่ที่เขาทำบ่อย ๆ คือการศึกษาแฟชั่น และเทรนด์การแต่งหน้า เพื่อนำมาประยุกต์ให้ชุดทันเทรนด์ตอนนั้นที่สุด ตอนนี้เลยเหมือนต้องมาเรียนบริหารธุรกิจเพิ่มวันนี้เขากำลังจะให้เกรย์ฟาพาเขาไปที่ร้านที่เป็นธุรกิจของที่บ้าน เพราะถ้าจะให้เขาเข้าไปเองคงจะเป็นไปได้ยาก จึงใช้เกรย์ฟาเป็นข้ออ้างในการเข้ามาทำงาน เขาต้องรวบรวมหลักฐานการโกงกิน และการยึดอำนาจของเขาที่สามแม่ลูกนั่นทำให้ได้มากที่สุด เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะเปิดโปงหลังจากที่เนื้อเรื่องหลักจบตอนนี้เขาค่อนข้างที่จะแน่ใจแล้วว่า เกรย์ฟาน่าจะเป็นพระเอก เพราะเจ้าชายของอาณาจักรนี้ค่อนข้างจะเจ้าชู้ และเกเร ไม่มีพระเอกนิทานเรื่องไหนที่พระเอกเป็นคนไม่ดี เพราะฉะนั้นเกรย์ฟาตรงที่สุด รวมถึงตรงสเป็กเขาด้วย ฮิฮิเวลาทำงานด้วยกัน เกรย์ฟาค่อนข้างที่จะจริงจังและสอนเขาให้เข้าใจได้ง่าย ถามอะไรก็จะอธิบายอย่างใจเย็น แต่เวลาพักเจ้าตัวจะมีความขี้เล่น และแอบเจ้าเล่ห์หน่อย ที่เขาชอบที่สุดคือเวลาที่ถูกมองแล้วยิ้มมุมปากเหมือนจะรู้ทันเราไปทุกอย่
บทที่ 4สงสัยในวันนั้นก็จบกันไปด้วยการตกลงที่จะให้เอลเลอร์ไปเรียนรู้การทำงานของเกรย์ฟา แม้จะมีเสียงคัดค้านจากแม่และพี่น้องปลอม ๆ ของเอลเลอร์ แต่ก็มิได้นำพา เพราะดูเหมือนว่าเกรย์ฟาจะเต็มใจเสนอตัวสอนซะเหลือเกินหลังจากนั้นไม่กี่วันเอลเลอร์ก็ไปเรียนรู้งานกับเกรย์ฟาจึงได้รู้ว่าบ้านของเอลเลอร์นั้นทำธุรกิจค้าขาย ขายของแทบทุกอย่างเป็นทั้งขายส่งและขายปลีก ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะรวย ที่สำคัญพ่อของเขายังเปิดโอกาสให้ชาวบ้านในเมืองทำของมาส่งขาย เพื่อที่จะนำไปขายต่อให้กับคนอื่นที่ต่างเมือง ทำให้เป็นที่รักของชาวบ้าน เพราะของที่รับมาจากชาวบ้านพ่อของเขาแทบไม่ได้เอากำไรจากตรงนั้นพอมาตอนนี้ที่อัลเบิร์ดพ่อของเอลได้เสียไปแล้วธุรกิจตกอยู่ในมือของแม่เลี้ยง ทำให้ธุรกิจตกต่ำลงจริง ๆ เพราะสามแม่ลูกมุ่งเอาแต่กำไรเข้าตัวเอง กดราคาของที่ชาวบ้านเอามาขาย เอาของไปขายในราคาที่สูงเกินความเป็นจริง ตอนนี้เขาอยากจะใช้คำว่าธุรกิจใกล้จะล้มของจริงที่สำคัญสามแม่ลูกยังเอาเงินในส่วนที่ต้องเป็นของธุรกิจมาใช้ส่วนตัวอีกต่างหาก เจริญกันจริง ๆจากนี้เขาคงต้องหาโอกาสให้ตัวเองเข้าไปในธุรกิจให้ได้มากที่สุด เพื่อดึงธุรกิจทุกอย่างให้กลับ
บทที่ 3พระเอกหรือเปล่าเมื่อถึงเวลาอาหารเที่ยง คนจากบ้านเจ้าเมืองก็ทยอยกันมา เนื่องจากเจ้าเมืองได้เดินพบปะพูดคุยกับลูกบ้านเสร็จก็แวะเขามาที่บ้านของเขาตามที่ได้มาแจ้งเอาไว้ ซึ่งเขาก็ได้เตรียมพร้อมทั้งอาหารและจัดโต๊ะไว้เรียบร้อยแล้วรอแค่ถือออกไปตั้งโต๊ะเท่านั้น ใกล้จะถึงเวลาละครฉากใหญ่ของนายซินคนใหม่แล้วคนแรกที่ดินเข้ามาเป็นเจ้าเมืองบลูเอโต้ ก็คือเมืองที่เขาอยู่ปัจจุบัน ชายคนนั้นดูยังไม่แก่เลย ดูเป็นทรงแด๊ดดี้มาก หน้าออกไปทางฝรั่งหน้าคมผมดำ คุณพระคุณเจ้าคนพ่อหล่อขนาดนี้คนลูกจะขนาดไหนโอ๊ะ มาแล้วคนนี้น่าจะเป็นลูกเจ้าเมืองซึ่งอาจจะเป็นพระเอก ถ้าไม่มีเจ้าชายที่ไหนโผล่มาอีกน่ะนะ คนลูกก็หน้าคม ดวงตาสีเทาอ่อน ผมสีดำ ฝรั่งผมดำนี่คือที่สุดเลยจริง ๆ เขาชอบมาก ป๊าด สองพ่อลูกสูงน่าจะ 190 หุ่นดีมากเลยในชาติก่อนเขาไม่ได้มานั่งสนใจด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย ชีวิตมีแต่ทำงานหาเงินมาเลี้ยงน้อง จนน้องสาวทำงานหาเงินเองได้ผมก็ลืมไปแล้วว่าความรักหนุ่มสาวหน้าตาเป็นยังไง แต่ก็พอจะเดาได้เพราะนายแบบนางแบบที่ผมเลือกส่วนใหญ่จะเป็นลูกครึ่งหรือฝั่งยุโรป ผมชอบมองทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่น่าจะเอนเอียงมาทา
บทที่ 2ตัวร้ายเกรดซีหลังจากที่โผล่มาในโลกนิทานเมื่อวานแล้ว เอกภพก็เผลอหลับอยู่ที่หน้าเตาผิงด้วยความเหนื่อยล้าจากร่างกายนี้ที่ทำงานบ้านมาทั้งวันก่อนที่เจ้าของร่างนี้จะจากไป“ไอ้ซิน! ไอ้ซิน! ทำไมไม่ขึ้นมาเตรียมน้ำอุ่นให้ฉัน ซิน ซิน อยู่ไหน มานี่เดี๋ยวนี้นะ ไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเองเลยรึไง ทำไมต้องให้ฉันเรียก” เสียงแหลมของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นร่างบางงัวเงียตื่นจากนิทราเพราะไม่อาจทนฟังเสียงบาดหูนั้นได้ ด้วยความที่พึ่งตื่นทำให้สมองของเอกยังไม่แล่นเท่าไหร่ ใช้เวลาครู่หนึ่งก็ประมวลเหตุการณ์ได้ทันที ตอนนี้เขาคงต้องรองมือรองเท้าพี่น้องกับแม่เลี้ยงสินะ น่าจะใช่แหละ น่าจะเรื่องนี้แหละเขาหันไปตามเสียงก็เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งชุดนอนที่ดูก็รู้ว่าผ้าราคาแพง พอก้มมองตัวเองก็ได้แต่ส่ายหัว แหม เงินก็เงินพ่อเขาเอาไปใช้ซะสบายเชียวนะ ใส่ผ้าดีขนาดไหนก็ยังสวยสู้น้องสาวในโลกเก่าของเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ หึ เดี๋ยวเจอเลยย เดี๋ยวเจอไอ้ซินเวอร์ชันเอกภพซะหน่อย“อิซิน กูบอกให้มึงมาเตรียมน้ำให้กูอาบ” ผู้หญิงคนนั้นเดินลงมาจากบันไดแล้วตรงมายังเขา ตอนนี้ในหัวเขาอยู่อย่างเดียว เขาต้องเล่นบทนางเอกก่อนไหม หรือสู้ได้เลย
บทนำ ในอดีตย้อนกลับไปเมื่อนานมากแล้ว เขาเคยนั่งดูการ์ตูนเรื่องหนึ่งกับน้องสาว ซึ่งเขาจำชื่อเรื่องไม่ได้ด้วยซ้ำ ในตอนนั้นน้องสาวของเขาอยากเป็นเจ้าหญิงตัวนั้นมากจนแม่ต้องซื้อชุดมาให้ใส่ “พี่เอด พี่อยาดเป็นตัวไหน นี่ๆๆๆ น้องเป็นตัวนี่นะ สวยไหม” น้องสาววัยสามขวบของเขาเอ่ยถาม “เรียกพี่เอกชัด ๆ ก่อนจะบอก” “พี่เอดดดด พี่ เอด” “โอเค ๆ พอ ๆ หนูเป็นเจ้าหญิงแล้วให้พี่เป็นแม่มดดีไหมคะ เราจะได้เล่นด้วยกันไง” “เอาๆ หนูเป็นเจ้าหญิง พี่เอดเป็นเซนต์นะ” เอาวะพี่เอดก็พี่เอด เอาจริงๆ ถ้าให้เลือกเขาก็คงไม่เลือกเจ้าหญิงสักองค์ เป็นตัวร้ายเป็นแม่มดน่าจะสนุกดี แต่!! นั่นมันเขาในวัยเด็กไง วัยเด็กอ่ะ เข้าใจป่ะ ตอนนี้เขาก็อยากจะถามไอ้เทวดาหรือไอ้อะไรก็ไม่รู้ที่โคตรจะเฮงซวยนั่น เอามาจากไหนว่าเขาอยากเป็นนางซิน แม่งเอ๊ย! แล้วเขาจะใช้ชีวิตยังไงต่อ แล้วน้องสาวเค้าล่ะจะเป็นยังไง เหลือตัวคนเดียวแล้วด้วย เฮ้อ... ตอนนี้คงได้แต่ทำใจแล้วล่ะ ขอให้หนูใช้ชีวิตต่ออย่างมีความสุขนะคะ อย่ามาเศร้ากับพี่นานเลย น้องรัก TBC.บทที่ 1ทำไมมีจู๋เอกภพ ชายหนุ่มที่ตายโง่ ๆ ด้วยการที่กินมะยมเชื่อมที่น้องสาวเอามาฝาก แล้วเม็ดมะยมต