เขาบอกผมว่าเขาเป็นมาเฟีย

เขาบอกผมว่าเขาเป็นมาเฟีย

last updateTerakhir Diperbarui : 2025-08-19
Oleh:  ชยุดาBaru saja diperbarui
Bahasa: Thai
goodnovel18goodnovel
Belum ada penilaian
2Bab
2Dibaca
Baca
Tambahkan

Share:  

Lapor
Ringkasan
Katalog
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi

.....เอาละซิอีน้องไม่เคยรู้ ว่าพี่มันเป็นมาเฟียคิดมาตลอดคือคุณชายผู้เคร่งขรึมดีกรีคุุณชายในฝัน.... ......ความมาแตกเอาตอนอีน้องถููกจับเป็นตัวประกันเพื่อเจรจาต่อรองจากพวกแก๊งค์ยากูซ่าข้ามชาติ....

Lihat lebih banyak

Bab 1

บทที่ 1 ล้วงคองูเห่า

                                                              บทที่ 1

                                                        แนะนำตัวละคร

                                                    โอบเอื้อ (พระเอก)

        นักศึกษามหาวิทยาลัย ปี 4 เรียนเก่ง กิจกรรมเป็นเลิศใครหยามไม่ได้ อารมณ์ร้อนตาต่อตาฟันต่อฟัน จริงจังกับการทำงานทุกอย่างไม่เคยยอมให้ผู้ใดในมหาวิทยาลัย มักมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคู่ปรับประจำมหาวิทยาลัยอยู่เสมอ  พ่อเป็นมาเฟีย ซึ่งมีเพื่อน ๆ ในมหาวิทยาลัยแค่คนสนิทไม่กี่คนที่รู้เรื่องราวตื้นลึกหน้าบางของตน  ธุรกิจในเครือของ “เมธาอัครโยธิน” มีธุรกิจโรงแรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยภายใต้การดูแลของผู้เป็นบิดา ส่วนเบื้องหลังธุรกิจสีดำมีทั้งบ่อนคาสิโน เงินกู้นอกระบบค้าอาวุธเถื่อน ซึ่งต่อไปจะเป็นธุรกิจของรุ่นโอบเอื้อต่อไป 

                                                                             

                                                        เต็งหนึ่ง (นายเอก)

               รูปหล่อ พ่อรวย เรียนเก่ง มีหุ้นในบริษัทในเครือของ “วราเจริญภิวัฒน์” ของคุณแม่(คุณพธูทิพย์จากเรื่องคู่กันฉันกับเธอ) เพราะพ่อให้ศึกษาเรื่องธุรกิจในเครือตั้งแต่มัธยมปลาย ฉลาดแกมโกงมีเล่ห์เหลี่ยม แพรวพราวยากที่หาใครจับได้เป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ  และสาว ๆ    ทั่วมหาวิทยาลัย และบรรดานักธุรกิจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในแวดวงธุรกิจ 

                                                           

                                                               บทที่ 1

                                                            ล้วงคองูเห่า

         บริเวณหน้า"บาร์ My Boss" หนาแน่นไปด้วยผู้คนเดินขวักไขว่ เพราะวันนี้มีวงดนตรีชั้นแนวหน้าของวงการบันเทิงมาแสดงสด และส่วนใหญ่มีทั้งนักธุรกิจ นักศึกษามาเที่ยวกันในค่ำคืนนี้ หนึ่งในนั้นก็มีพวก ของเต็งหนึ่งและเพื่อน ๆ มาด้วย มีเต็งหนึ่ง โจ๊กเกอร์ บอย จิงโจ้ ซึ่งมาเป็นเพื่อนบอย เพราะมันต้องพาดาวแฟนสาวอันเป็นที่เคารพรักของมัน มาดูคอนเสิร์ต นักร้องที่ดาวชื่นชอบ พวกเพื่อน ๆ  ในกลุ่มพากันเดือนร้อนไปทั่ว

         “เฮ้ย มึงไปรับดาวแล้วไหนดาวละ” จิงโจ้ถามขึ้น 

         “โน้น รอเพื่อนอยู่ทางเข้ากูบอกแล้วว่าพวกเราได้โต๊ะหน้าเวที เดียวตามมาเองแหละ”

         “เออผับนี้ก็คึกคักดีนะมีแต่นักธุรกิจกระเป๋าหนัก ๆ ทั้งนั้น มึงไปไงมาไงถึงได้บัตรมาทั้ง 10 ใบ” เต็งหนึ่งถามบอย

         “กูได้จากพี่ตะวันพี่มึงนั้นแหละเห็นบอกว่าไอ้ทะเลจะมาด้วย เฮียแกเลยเหมาไป 20 ใบ เปย์ไอ้ทะเลไปอีกกูเลยได้ส่วนบุญมา ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

         “อ้าวถ้ายังงั้นวันนี้พี่ตะวันกับไอ้ทะเลก็มาด้วยดิว่ะ”

          “แหง่แหละเห็นว่ามาทั้งกลุ่มเลยว่ะ”

          “งานนี้สนุกกันใหญ่แล้วโว้ยรวมพี่น้องตระกูลมึงเลยไอ้เต็งหนึ่ง” 

         ภายในซอยคับแคบเปลี่ยวมืดครึมเต็มไปด้วยป่ารอบทาง ปากซอยทางเข้าไร้ผู้คนมีชายฉกรรจ์แต่งกายด้วยชุดสูทสีดำจำนวนหนึ่งกำลังวิ่งตามตัวชายนิรนามสองคนซึ่งกำลังวิ่งหนีหายมาในซอยเปลี่ยวแห่งนี้

          “เฮ้ย!....มันวิ่งไปทางไหนแล้วมึงดูให้ดีดิ” ราเชนผู้เป็นหัวหน้าได้ตะโกนถามลูกน้องของตน

          “มันวิ่งมาทางนี้แหละพี่เชนเห็นหลังอยู่ไวไว”

          “อ้าว....ถ้าเป็นแบบนี้พวกเราก็ต้องแยกย้ายช่วยกันหาให้เจอ    ไม่อย่างนั้นเจ้านายเอาพวกมึงตายแน่อย่าปล่อยมันลอยนวลเหมือนครั้งที่แล้ว”

            ทั้งหมดแยกย้ายกันตามหาในที่สุดวิ่งกันเข้ามาสุดซอยเป็นทางตันไม่มีทางที่จะหนีไปไหนได้หันกลับมาเห็นกองขยะสูงและมีกลิ่นเหม็นมากอยู่ท้ายซอยไม่มีวี่แววพวกที่หนีมา ทุกคนวิ่งมาถึงจุดสุดซอยนี้พร้อมกันพลันสายตาแหลมคมของเชนมองฝ่าความมืดเข้าไปเห็นแววตาคนแอบอยู่ในกองขยะจากนั้นจึงคิดวางแผน ไม่ต้องรื้อกองขยะ จึงได้ตะโกนบอกลูกน้อง

            “เฮ้ย!.... พวกมึงแยกย้ายกลับเหอะกูคิดว่าพวกมันนคงจะหนีไปอีกทางแล้วไปบอกเจ้านายว่ามันหนีไปได้”

นายเชนได้ทำสัญญาณมือบอกลูกน้องว่าเจอแล้ว อยู่ในกองขยะ หลังจากที่ตะโกนบอกลูกน้องทุกคนพยักหน้า แล้วทำเสียง จิ จ๊ะ ขัดใจ แสดงความหัวเสียทำเหมือนว่าเหนื่อยล้าในการตามหาชายนิรนาม

            “เอ๊า...ถ้างั้นไปกันเถอะ” ไอ้ดำลูกน้องอีกคนส่งเสียงดังตะโกนให้คนอื่น ๆ ได้ยินแล้วทุกคนเดินออกมาจาบริเวณกองขยะ เดินหายเข้าไปในความมืด ทุกคนหยุดเดินพร้อมทั้งได้แอบซุ่มอยู่ที่กอไม้ใกล้ ๆ กับกองขยะ

             ภายในเวลา 2 วินาทีก็ได้ยินเสียงคนถอนหายใจ และออกมาจากกองขยะทั้งสองคน จากนั้นพวกเชนเฝ้าดูใช้จังหวะที่พวกมันเผลอเข้าไปจับตัวแล้ว มัดมือ มัดเท้า ทั้งสองข้างโป๊ะยาสลบรีบอุ้มขึ้นรถหายไปในความมืดในทันที                     ภายใน"บาร์ My Boss" วงดนตรีกำลังจะเริ่มเล่น นักเที่ยวกลางคืน หนาแน่นมากในคืนนี้ โต๊ะภายในร้านแน่นขนัดทุกโต๊ะ ชั้นลอยด้านบนมีสายตาเหยี่ยวมองบรรดานักเที่ยวกลางคืน ดูความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในร้าน เพราะห้องใต้ดินภายในร้านแห่งนี้คือบ่อนคาสิโนอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยที่ติดสินบนทางท้องที่เพื่อขอเปิดบ่อยผิดกฎหมายในแต่ละเดือนทางบ่อยต้องจ่ายส่วยเป็นจำนวนมาก หากแต่ผลตอบแทนมันคุ้มค่าจึงเป็นแหล่งอบายมุขที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงแห่งนี้ พลันสายตาของเหยี่ยวได้หันไปเห็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา

            “ฮัลโหล...ว่าไงเพื่อนรัก” ตะวัน(จากเรื่อง เมื่อไรจะรู้ว่า Love)รับสาย โอบเอื้อ

             “มึงบอกกูว่าเต็งหนึ่งจะไม่มาแล้วหมาตัวไหนนั่งอยู่ที่โต๊ะกับพวกมึง”

             “เออ....มึงจะอะไรกันหนักหนาให้น้องมันมาดูคอนเสิร์ตบ้างเหอะ วงนี้มันชอบกูเลยไปชวนมันเล่น ๆ กูก็คิดว่ามันน่าจะไม่มาแต่ผิดคาดมันมาเฉยเลยมึง”

             “มันรู้ไหมว่ามึงได้บัตรมาจากไหน”

            “ไม่รู้กูแค่บอกมันไปว่าไอ้ทะเลมันอยากดูคอนเสิร์ตวงที่มันปลื้ม   กูบอกมันไปว่ากูเองเป็นคนเหมาให้ไอ้ทะเลชวนเพื่อนมาดู แล้วแจกจ่ายให้เพื่อนเพื่อนมันไป”

             “เออ....ว่าแต่มึงอยู่ไหนชั้นลอยเหรอเมื่อไรมึงจะเสด็จลงมา”

              “กูขอจัดการงานด่วนก่อนอีกสักพักกูค่อยเดินเข้ามาทางหน้าประตูมึงก็ช่วยแกล้งโทรหากูด้วยอย่าให้ไอ้เต็งหนึ่งรู้เด็ดขาดว่ากูเป็นเจ้าของบาร์น้องต้องรู้จักกูในมาดพี่โอบเอื้อผู้ใสสะอาดนะโว้ย มึงอย่าเผลอเด็ดขาดไอ้ตะวัน”

             “เออ..กูรู้ไม่มีวันลืมมึงก็รีบไปจัดการธุระมึงเร็ว ๆ เลยมึงรียมาดู สายตาหนุ่ม หนุ่ม แต่ละคู่แม่งจะจับเด็กมึงไปแดกแล้วกูคนเดียวดูแลให้ไม่ไหวแค่ไอ้ทะเลคนเดียวกูก็เวียนหัวแล้วเร็วเข้าเลยมึง”

              เมื่อวางสายจากเพื่อนรักก็ได้รับโทรศัพท์จากมือปืนมือขวา

             “นายครับจับได้แล้วครับตอนนี้อยู่ที่ห้องใต้ดินจะให้ทำอะไรต่อไปครับ” เชนถามเจ้านาย

             “เดี๋ยวฉันลงไปจัดการเองให้มันไปบอกเจ้านายมันเองด้วยวิธีของฉันเองรอห้านาทีเดี๋ยวลงไป”

              ด้านหน้าประตูห้องมี บอร์ดีการ์ด สี่คนยืนรออยู่หน้าประตู

             “นันท์กับชายลงไปดูแลเพื่อน ๆ ของฉันบริเวณในบาร์อย่าให้ใครเข้ามาแหย่มเป็นอันขาด ยิ่งไอ้พวกนั้นหน้าตากวนโอ๊ยกันด้วย ช่วยหน่อยนะเลิกงานมาเอาทิปที่ฉันได้เลยไปได้แล้ว ส่วนพลกับต้อมตามฉันไปที่ห้องใต้ดินไปจัดการกับพวกข้ามชาติให้สิ้นซากซะที”

             บริเวณห้องใต้ดินมีเพียงแสงไฟหริบหรี่ตรงบริเวณทางเดินลงไปยังห้องใต้ดินมีคนของพ่อเฝ้าเป็นระยะ  ภายในห้องมองไม่เห็นแสงสว่างจากภายนอกได้เลย บรรยากาศมืดสลัววังเวงกลิ่นเหม็นอับโชยมาเป็นระยะมันเป็นกลิ่นคาวเลือดที่สะสมกันมาเป็นเวลานานแล้ว หนุ่มต่างชาติ สองคนถูกพันธนาการด้วยเชือกเส้นใหญ่ถูกโยงกับเสาเหล็ก ห้อยโต้งเต้ง มีเลือดไหลตามใบหน้าและตามร่างกายมีรอยฟกช้ำเพราะถูกซ้อมมาตั้งแต่ถูกจับเข้าในรถตู้ เสียงตะโกนพูดเป็นภาษาอังกฤษบ้านเกิดของตัวเองแต่บรรดามือปืนของโอบเอื้อไม่รู้ภาษายกเว้นนายเชนมือขวา     ของโอบเอื้อเท่านั้นที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ในขณะที่ส่งเสียพูดคุยกันอยู่นั้นประตูห้องเปิดขึ้น ชายหนุ่มสามคนเดินเข้ามาภายในห้องเชือด

            “กูจะพูดกับพวกมึงสามนาทีแล้วให้พวกมึงไปบอกเจ้านายมึงในสารที่กูฝากไป” เสียงอันเหี้ยมเกรียมของโอบเอื้อพูดกับพวกชายทั้งสอง

              นักฆ่าข้ามชาติเงยหน้าสบตาเข้ากับโอบเอื้อ พวกเขาได้ยินกิตติศัพท์มานานเกี่ยวกับลูกชายคนเดียวของมาเฟียใหญ่ในแถบนี้ ไม่คิดว่าจะได้มาเจอตัวจริงหน้าตาหล่อเหลาร่างกายสูงใหญ่เหมือนไม่ใช่คนเอเชียสายตาดุดุจพญาเหยี่ยว รอยยิ้มแสนเยือกเย็นยกยิ้มขึ้นพร้อมกับเดินก้าวเข้ามาอย่างช้า ช้า เหมือนนายพรานล่าเหยื่อพร้อมที่จะตะบบ เหยื่อให้ตายคามือทุกอย่างที่ได้ฟังมามันเทียบไม่ได้กับสิ่งเห็น...

              โอบเอื้อเดินเข้ามาใกล้พวกมันทั้งสองคน พร้อมหยิบปืนเก็บเสียงจากลูกน้องคนสนิทมาลั่นไกปืนเล็งไปที่นักฆ่าทั้งสอง...

             “กูเคยบอกพวกมึงแล้วว่าอย่ามาล้ำเส้นการทำธุรกิจกัน การส่งสินค้าของกูมีปัญหาเพราะเจ้านายมึง กลับไปบอกเจ้านายมึงว่าอย่าเป็นหมาลอบกัดอย่างที่เคยเป็นมาหลังจากนี้อย่าหาว่าคนอย่างกูไม่เตือน วันนี้กูจะฝากของไปให้กับเจ้านายมึงด้วยละกัน....”

             “เฟี้ยว ............. เฟี้ยว .....เฟี้ยว.......... เฟี้ยว.........” . เสียงกระสุนเก็บเสียงผ่านทะลุยังฝ่ามือทั้งสองคนร่างทั้งสองร่างแดดิ้นอยู่ตรงหน้าเลือดไหลออกจากฝ่ามือ เสียงร้องโหยหวนดังก้องไปทั่วห้องใต้ดิน

             “พวกมึงนำร่างมันทั้งสองไปส่งให้ถึงคฤหาสน์เจ้านายมันเลยพวกมึงไม่ต้องทำแผลให้มันปล่อยแบบนี้แหละดี เช้ามืดค่อยไปปล่อยไว้หน้า คฤหาสน์เจ้านายให้มันได้รู้ว่า ถึงกูจะอายุน้อยกว่ามันกูก็ไม่เคยกลัว อำนาจของมันแม้แต่น้อยแล้วเรื่องนี้พวกมึงไม่ต้องบอกให้พ่อกูรู้เป็นอันขาด” 

              สั่งมือปืนและลูกนองของตนรีบกลับขึ้นมายังห้องชั้นลอยจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่เสื้อยืดสีขาวสีขาวลายการ์ตูนน่ารัก กางเกงยีนส์ขากระบอกดูเป็นนักศึกษาทั่วไปแล้วแอบออกทางประตูหลังเพื่อเข้าไปยังบริเวณภายในบาร์ ดูไปยังบริเวณโต๊ะหน้าเวทีที่เต็มไปด้วยเพื่อน ๆ  ของตัวเองและเพื่อน ๆ  ของตะวันยังมีเพื่อน ๆ  ของไอ้ทะเลอีกนี้มันจะรวมรุ่นกันหรือยังไง

               เมื่อเดินเข้าไปถึงยังบริเวณโต๊ะเห็นบอดีการ์ดสองคนนันท์กับ ชายยืนระวังให้กับบรรดาเพื่อน ๆ ของโอบเอื้อ ทั้งสองคนเมื่อเห็นเจ้านายเดินมาก็พยักหน้าทำความเคารพอยู่ ไกล ไกล ไม่ได้เปิดเผยตัวตน

             “อ้าว....ไอ้เอื้อมาแล้วมาเลยมึงเพลงกำลังสนุกเลย” เสียงของ ปองเพื่อนสนิทของตนทักทาย

              “ทำไมเพิ่งมาว่ะเมื่อกี้แดนซ์เซอร์อย่างเด็ดเลยนะมึง” ตะวันเอ่ยขึ้น

             “กูไปส่งพ่อที่สนามบินมาเลยช้าพ่อไปดูงานที่จะเปิดสาขาต่อที่ญี่ปุ่นนะมึงนี้กูก็รีบสุด สุดแล้ว”

              “เออ...พี่เอื้อผมอยากรู้มานานแล้ว "บาร์ My Boss" ใครเป็นเจ้าของอะพี่รายได้น่าจะดีนะ ดูดิลูกค้านักธุรกิจชั้นแนวหน้าทั้งนั้นเลย ร้านก็เวอร์วังอลังการ” เพียวเอ่ยถามขึ้น  โอบเอื้อ ตะวัน ปอง มองหน้าสบตากันอย่างมีความหมายที่จะต้องเก็บความลับบอกใครไม่ได้

               “กูเพิ่งเห็นเจ้าของบาร์เดินออกไปเมื่อกี้คนที่ใส่สูทสีดำเดินควงสาวสวยแล้วมีบอดีการ์ดขนาบไปสองคนพวกมึงไม่เห็นกันเหรอว่ะ” ปองอธิบายให้เพื่อนและน้อง ๆ  ฟัง

                 “กูว่าอย่าสนใจเลยใครจะเป็นเจ้าของบาร์นี้สนใจบนเวทีดีกว่าไหมมึง ตอนนี้ไอ้เต็งหนึ่งอยู่หน้าเวทีเป็นที่เรียบร้อยแล้วชม้อยชม้าย ชายตาให้นักร้องหนุ่มหล่อหน้าใสคนนั้นอยู่ อ้าว! ฉิบหายแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้กันด้วยกูว่าเดี๋ยวก็ระเบิดลงชัวร์” ปองพลชี้ไปที่   เต็งหนึ่งยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนตัวเอง พร้อมยกมือขึ้นโบกสะบัดและยักย้ายสายสะโพกเข้ากับจังหวะดนตรีในบาร์อย่างเร่าร้อน เมื่อเห็นนักร้องมีเหงื่อไหลจัดการเอาผ้าที่ตนเองถือโบกไปมาเดินเข้าไปหน้าเวทีแล้วพยายามชูขึ้นเพื่อจะช่วยซับเหงื่อให้นักร้องคนหล่อที่ตนเองชอบทั้งเสียงเพลงและรูปร่างหน้าตา

ในมุมมืดของร้านมีสายตาคู่หนึ่งเฝ้ามองรอคอยเวลาเอาคืน จัดการคิดแผนชั่วร้ายในทันทีพร้อมกับยกยิ้มอย่างความแค้นที่ฝังอยู่ในใจ รอวันการล้างแค้นอย่างใจเย็น

                  “มึง...ไอ้ทะเล มึงไปเอาเพื่อนมึงกลับมาที่โต๊ะเดียวนี้เลยรีบไป” โอบเอื้อสั่งทะเลแบบขอความช่วยเหลือ

“ไม่อ เรื่องนี้เล (จากเรื่องเมื่อไรจะรู้ว่าLove) จะไม่ยุ่ง”

                 “แลมโบกินี่จะไปถึงคอนโดมึงภายใน 2 ชั่วโมงนี้”

                 “รีบไปเดี๋ยวนี้เลยเฮีย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

                   ทะเลรีบเดินแทรกคนเข้าไปถึงหน้าเวทีจัดการลากเต็งหนึ่งออกมา และส่งเสียงเรียกบรรดาเพื่อน ๆ ให้กลับไปที่โต๊ะ

                  “เฮ้ย!...พวกมึงเฮียเอื้อมาแล้ว”

                   ทุกคนเมื่อได้ยินเสียงทะเลตะโกนทุกคนก็หันกลับไปมองดูที่โต๊ะ จากนั้นก็ยกยิ้มเจ้ามือใหญ่มาแล้วต้องรีบกลับโต๊ะไปชื่นใจก่อน

                “แล้วเกี่ยวอะไรกับกู” เต็งหนึ่งตวาดทะเล

                “มึงนั้นแหละตัวดีอย่าช้ามานี่มา” ทะเลจัดการจับคอเสื้อแล้วลากเดินกลับมาที่โต๊ะ

เมื่อมาถึงโต๊ะเต็งหนึ่งเดินเข้าไปต่อยที่แขนพี่โอบเอื้ออย่างรุนแรง

                “โอ้ยยยย...อะไรของมึงอีกไอ้เต็งหนึ่ง” โอบเอื้อร้องเสียงดัง

                “ปัญหาความสนุกจะมาจบอยู่ที่มึงทุกทีเลยไอ้พี่เอื้อกูมาดูคอนเสิร์ตกูจะปลดปล่อยกูจะดูนักร้องกูไม่ได้มาที่นี่เพื่อมานั่งเฝ้าโต๊ะนะ ไอ้เหี้ยเอื้อ.... เอ้ย”

               “ดูภาษาพ่อมึงเหอะเข้าไปเช็ดเหงื่อให้นักร้องแล้วยังไปยักย้าย ส่ายสะโพกให้นักร้อง”

               “เอ๊า....ก็มันอยู่ในผับในบาร์ก็ต้องมีอารมณ์ร่วมกับดนตรีเปล่าว่ะ” 

                 ตะวันเห็นท่าไม่ดีเลยลุกขึ้นไปลากเต็งหนึ่งมานั่งข้างตนก่อนที่หมดสนุก

                "นั่งข้างกูนี้อย่าเสือกสร้างปัญหากูมาเที่ยว ไม่ได้มาเป็นกรรมการ มวยไทย" ตะวันดุอาของตน

                "เหอะ....โน้น มันอะตัวดีพี่ตะวันไปบอกมันเลย "

                "เต็งหนึ่ง....พี่เอื้อไม่ใช่มันเดี๋ยวจะโดน" ตะวัน ดีดหน้าผากอาของตัวเองทั้งไอ้เต็งหนึ่งไอ้ทะเล ความดื้อของมันเอามาจกไหนกันหนักหนา ที่แต่ละคนดื้อมากมายเหลือเกิน 

                  จากนั้นมีชายหนุ่มที่เฝ้าดูอยู่ในมุมมืดตั้งแต่ที่เต็งหนึ่งได้เดินเข้ามาแล้ว มันคือตัวที่จะทำให้ไอ้เอื้อทุรนทุรายแต่ไอ้เต็งหนึ่งมันแมนดี ถูกใจกู หน้าก็หวานนิสัยก็โหดน่าลองแบบนี้คงเร่าร้อนน่าดู จากนั้นได้จ้างให้บริกรนำเครื่องดื่มไปให้ที่โต๊ะของเต็งหนึ่งบอกว่าเป็นบริการของทางร้าน นำไปให้สิบแก้ว ให้กินทั้งโต๊ะและให้ทิปบริกรแล้วจัดการสั่งให้แก้วใบนี้กับใคร แก้วที่ถูกเจาะจง ได้ใส่ยาหมายว่าจะได้ หนุ่มน้อยน่ามลคนที่ชื่อเต็งหนึ่งคนนี้ไปขึ้นสวรรค์

                เมื่อบริกรนำเครื่องดื่มมาที่โต๊ะของโอบเอื้อ ทกคนกำลังสนุกไม่มีคำถามจากผู้ใดว่าใครสั่ง อะไรอย่างไร เมื่อเครื่องดื่มถูกวางลงบนโต๊ะ   ทุกคนก็เอื้อมไปหยิบคนละแก้วหากแต่เต็งหนึ่งหยิบไม่ทันเพราะมัวทะเลาะกับโอบเอื้ออยู่ บริกรได้โอกาสจึงยื่นแก้วที่ตนถืออยู่ให้กับเต็งหนึ่ง ทันที เมื่อรับมาแล้วก็จัดการกับเครื่องดื่ม พื่อดับความโกรธทันที

ความสนุกในบาร์เริ่มสนุกมากขึ้นเรื่อย ๆ นักเที่ยว นักดื่ม เริ่มมึนเมากับเครื่องดื่มมีการทะเลาะกันบ้างที่หน้าเวทีแต่ที่บาร์นี้มีบอร์ดีการ์ด ควบคุมดูแลอยู่มากจึงไม่มีปัญหารุนแรงให้นักใจกับนักท่องราตรีกระเป๋าหนักได้หมดสนุกกัน

              “เฮ้ย!....ไอ้เลกูไปห้องน้ำแป้บนะ” เต็งหนึ่งลุกขึ้นและบอกเพื่อน

             “เออ....มึงก็เดินดี ดี นั้นอะไหวมั่ยมึง”

             “ซา บายยยยย” เสียงตอบอย่างมึนเมากับเครื่องดื่มที่ถูกจัดมาแก้วแล้วแก้วเล่า

             ในระหว่างทางเดินไปห้องน้ำนั้นพลันสายตาของผู้เฝ้ามอง เหยื่อ อันโอชะกำลังมองเหยื่อเดินมาติดเบ็ดแล้ว จากนั้นก็เดินตามเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อมาถึงห้องน้ำเต็งหนึ่งมีความรู้สึกว่ายืนไม่อยู่ การทรงตัวล้มเหลวเดินเข้าห้องน้ำแบบเซ เซ และร่างกายมีความร้อนรุ่มเหลือเกิน อยากถอดเสื้อตอนนี้และเดี๋ยวนี้ ในระหว่างที่กำลังเข้าห้องน้ำนั้นมือก็แกะกระดุมเสื้อตนเองไปด้วยชายหนุ่มที่เดินตามเข้ามาจัดการล็อกประตูทางเข้าห้องน้ำแล้วรีบเดินเข้าไปประกบด้านหลังของเต็งหนึ่ง ผลักเต็งหนึ่งเข้าไปยังในห้องน้ำเต็งหนึ่งสลึมสลือแต่ยังครองสติอยู่หันมาเห็นหน้าชายหนุ่มแล้วจัดการผลักและซัดหมัดใส่หน้าทันที

            “ผัวะ ผัวะ.....” เลือดซึมออกจากปากชายนิรนาม

            “ยังจะมีแรงนะมึงไอ้เต็งหนึ่งวันนี้มึงต้องเป็นของกู”

เต็งหนึ่งได้ยินเสียงจำได้ทันทีมันเป็นคู่ปรับกับไอ้โอบเอื้อ เคยทะเลาะกันเรื่องขับรถเบียดกันในมหาวิทยาลัยต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมกัน ต่อยแลกหมัดกันอย่างรุนแรง  ถึงกับต้องแจ้งตำรวจเรื่องจึงไปจบที่โรงพัก ถูกปรับค่าเสียหายไปหลายหมื่น แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นหลักของเรื่องนี้คือพ่อมันเป็นนักการเมืองที่จะลงเลือกใหม่สมัยหน้าจึงต้องหาเสียงสร้างผลงานสิ่งดี ดี ต่อสาธารณะชนแต่มันขึ้นโรงพักทำให้สื่อต่าง ๆ ประโคมข่าวเกี่ยวกับมันทำให้พ่อมันโกธรถูกพ่อมันลิบรถที่มันขับไปอยู่หลายเดือนสิ่งสำคัญคือตัดบัตรเครดิตของมันไปหลายใบ

          “ไอ้ก้อง ........”

           เต็งหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยเสียหอบและเหนื่อยมากความรู้สึกร้อนรุ่มยิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม

           “เออ กู เอง...... กูจะต้องชนะไอ้เอื้อได้ข่าวว่าไอ้เอื้อกำลังจีบมึงอยู่ กูจะดูน้ำหน้ามันว่าถ้ามึงเป็นเมียกูแล้วมันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

             ไอ้ก้องเดินเข้ามาจับมือเต็งหนึ่งจับไปมัดไพล่หลังไว้แล้วจัดการ ซุกไซซอกคอของเต็งหนึ่งพร้อมกับขบกัดให้เป็นรอยจารึกไว้ให้ไอ้เอื้อดู ซึ่งตอนนี้เต็งหนึ่งกำลังต่อสู้กับความเร่าร้อนภายในและต้องกับต่อสู้กับ      ไอ้ก้อง

            “ปล่อย.....ย กู......ปล่อย ย ......"

            “มึงฟังกู ไอ้เหี้ยก้อง  ไอ้เอื้อ ไม่ได้จีบกู........ ฮึก....... มึงเข้าใจผิด มันชอบผู้หญิงไม่ได้ชอบกูถึงมึงทำอะไรกู ..... โอ๊ยยยย ......อ่า......มันก็ไม่เดือนร้อนมึงเอามือออกจากหน้าอกกู...เดี๋ยวนี้... อ่า....ปล่อยกู....อ่า.......”

เต็งหนึ่งทั้งผลักทั้งขวนทั้งถีบแต่ร่างกายเหนื่อยอ่อนกลับชอบในสิ่งที่ไอ้ก้องทำอยู่แต่ใจหนึ่งพยายามพลักไสความต้องการที่ถูกปลุกขึ้นภายในร่างกาย

              “เฮ้ย!.... ทำไมเต็งหนึ่งไปนานจังว่ะ” โอบเอื้อพูดขึ้นด้วย        ความกังวลจากนั้นส่งสัญญาณให้บอร์ดีการ์ดเข้าไปดูในห้องน้ำ

            กริ๊ง ............... กริ๊ง ............... เสียงโทรศัพท์โอบเอื้อดังขึ้นเป็นสายของบอร์ดีการ์ดที่ส่งให้มาดูไอ้เต็งหนึ่งนั้นเอง

“เหี้ยแล้ว" โอบเอื้อลุกพรวดพราดแล้วตะโกนขึ้นรีบวิ่งไปห้องน้ำที่เกิดเหตุทันทีเพื่อน ๆ และ น้อง ๆ ตกใจทั้งหมดจึงรีบวิ่งตามโอบเอื้อไปกันในทันที

             เมื่อไปถึงห้องน้ำภาพที่เห็นคือ ไอ้ก้องถูกบอร์ดีการ์ดคนหนึ่ง จับมัดมือไขว่หลังใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด เพราะพยายามต่อสู้กัน ส่วนบอร์ดีการด์อีกคนจับตัวเต็งหนึ่งไว้ที่กำลังพยายามถอดเสื้อ ถอดกางเกงตนเอง และภาพที่โอบเอื้อเห็นชัดเจนมากที่สุดคือรอยบนตามหน้าอกและบริเวณลำคอขาวเป็นรอยแดงเป็นจ้ำ เป็นจ้ำ  ทำให้ความโกธรแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจนแต่ตอนนี้ทำได้แค่ข่มอารมณ์ตัวเองไว้  ไม่ให้เดินเข้าไปยิงกบาลไอ้เหี้ยก้อง หันกลับไปยังหน้าประตูห้องน้ำมองเห็นตะวันยืนเกาะหน้าประตูห้องน้ำ  โอบเอื้อพยักหน้าให้ตะวันตะวันเดินเข้ามาคุยกัน หลังจากนั้นตะวันเข้าไปอุ้มเต็งหนึ่งทันที ขณะเดียวกันพวกเพื่อน ๆ ที่ตามกันมา เข้าไปช่วยตะวัน  โอบเอื้อโยนกุญแจรถให้กับทะเลเพื่อให้ไปรอในรถตนเองรีบเข้าไปสั่งบอร์ดีการ์ดให้เอาตัวไอ้ก้องไปขังไว้ที่ห้องใต้ดินในห้องเชือดก่อน และจัดการสร้างข่าวว่าไอ้เหี้ยก้องหายไปอย่างไร้ร่องรอย อย่าให้พ่อมันรู้เด็ดขาด และอย่าให้ใครเห็นพรุ่งนี้จะเข้าไปจัดการไอ้เหี้ยก้องด้วยตัวเอง

               จากนั้นรีบวิ่งไปยังรถตนเองที่จอดอยู่ด้านข้างของบาร์ในมุมมืดไม่ค่อยมีคนเดินไปมา ทะเลนั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับรถพร้อมออกรถในทันที ตะวันโอบน้องชายไว้ในอกเพราะ เต็งหนึ่งพยายามถอดเสื้อผ้าตนเอง

             "พี่ตะวัน ....ร้อน...เต็งหนึ่ง .... ร้อน ...ถอดเสื้อให้เต็งหนึ่ง ....หน่อย .... ฮื่อ ...  ฮื่อ..." เสียงร้องอย่าน่าสงสารของเต็งหนึ่งดังตลอดเวลาตั้งแต่ตะวันอุ้มกลับมายังรถของเพื่อน 

             "ไอ้เหี้ยเอื้อ....มึงมาจัดการที ..กูเอาไม่อยู่แล้วมึงจะยืนดูทำหน้าตานิ่งทำหอกอะไรอยู่อีก"

             ตอนนี้ภาพที่เห็นในสายตาของโอบเอื้อคือสายตาเชิญชวนของเต็งหนึ่งและเสื้อหรุดรุ่ยออกจากร่างกายหมดแล้วเห็นบัวน้อยสองจุกอยู่กลางหน้าอกขาวผ่อง  โอบเอื้อ ....กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เหลือเกินนนนนนน....

              "มึงจะยืนกลืนน้ำลายอีกนานมั้ยนั้นนะ น้ำลายมึงย้อยถึงตีนแล้ว ไอ้เหี้ยเอื้ออออออออออ........

Tampilkan Lebih Banyak
Bab Selanjutnya
Unduh

Bab terbaru

Bab Lainnya

Komen

Tidak ada komentar
2 Bab
บทที่ 1 ล้วงคองูเห่า
บทที่ 1 แนะนำตัวละคร โอบเอื้อ (พระเอก) นักศึกษามหาวิทยาลัย ปี 4 เรียนเก่ง กิจกรรมเป็นเลิศใครหยามไม่ได้ อารมณ์ร้อนตาต่อตาฟันต่อฟัน จริงจังกับการทำงานทุกอย่างไม่เคยยอมให้ผู้ใดในมหาวิทยาลัย มักมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคู่ปรับประจำมหาวิทยาลัยอยู่เสมอ พ่อเป็นมาเฟีย ซึ่งมีเพื่อน ๆ ในมหาวิทยาลัยแค่คนสนิทไม่กี่คนที่รู้เรื่องราวตื้นลึกหน้าบางของตน ธุรกิจในเครือของ “เมธาอัครโยธิน” มีธุรกิจโรงแรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยภายใต้การดูแลของผู้เป็นบิดา ส่วนเบื้องหลังธุรกิจสีดำมีทั้งบ่อนคาสิโน เงินกู้นอกระบบค้าอาวุธเถื่อน ซึ่งต่อไปจะเป็นธุรกิจของรุ่นโอบเอื้อต่อไป เต็งหนึ่ง (นายเอก) รูปหล่อ พ่อรวย เรียนเก่ง มีหุ้นในบริษัทในเครือของ “วราเจริญภิวัฒน์” ของคุณแม่(คุณพธูทิพย์จากเรื่องคู่กันฉันกับเธอ) เพราะพ่อให้ศึกษาเรื่องธุรกิจในเครือตั้งแต่มัธยมปลาย ฉลาดแ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-08-19
Baca selengkapnya
บทที่ 2 ไอ้พี่...จะรับผิดชอบไหม
บทที่ 2 ไอ้พี่...จะรับผิดชอบไหม รถคันหรูถูกเหยียบมิดจากฝีตีนอันหฤโหดแห่งตระกูลบวรกิจพัฒนา นายทะเล (จากเรื่อง เมื่อไรจะรู้ว่า Love) ผู้ซึ่งไม่เคยกลัวใครและไม่เคยมีเหตุผลใดใดทั้งสิ้น "ไอ้ทะเลมึงไม่ต้องรีบขนาดนั้นมึงช่วยดูตำรวจด้วยจะถูกจับความเร็ว" เอื้อบ่นใส่ทะเล "มึงไปดูเอกสารที่ส่งมาจากตำรวจที่บ้านมันกองเป็นภูเขาในแต่ละเดือนเรื่องความเร็วฝ่าไฟแดงงี้ น้าแป้งขี้เกียจบ่นมันแล้ว" ตะวัน (จากเรื่อง เมื่อไรจะรู้ว่า Love) บ่นถึงแฟนตัวเอง "ฮื่อ....ฮึก....พี่เอื้อ ..ฮื่อ ร้อน ....ร้อน... ถอดเสื้อหน่อย ฮึก..." เสียงร้องอย่างทรมานของเต็งหนึ่งดังขึ้นตลอดตั้งแต่ออกจากบาร์มา พยายามถอดกางเกงถอดเสื้อออกจากร่างกายและดิ้นตะเกียกตะกายเพื่อต้องการปลดปล่อยความร้อนที่อัดแน่นอยู่ภายในร่างกาย ด้วยฤทธิ์ของยารุนแรงมากทำให้เต็งหนึ่งทุรนทุราย ตั้งแต่ออกจากบาร์เหงื่อผุดทั่วหน้า ใบหน้าแดงก่ำบ่งบอกถึงความทรมานที่ร่างกา
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-08-19
Baca selengkapnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status