LOGINหลังจากฮูหยินรองจางกับรั่วเหรินได้อ่านหนังสือสัญญาที่จางหลงนำมากางให้ดูแล้วก็อยากจะคว้ามันไปฉีกทึ้งเลยทีเดียว เพราะใจความในหนังสือสัญญาหมั้นหมายระบุชัดเจนว่าสัญญาฉบับนี้เป็นสัญญาหมั้นหมายระหว่างหลานชายของนายผู้เฒ่าหาน นามหานลี่หยางกับบุตรีของซุนเจียอี นามจางจื่อเหยา
“ไม่จริง เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน สัญญานี่ต้องเป็นของปลอมแน่ๆ สัญญาที่ถูกต้องย่อมเป็นสัญญาหมั้นหมายระหว่างสกุลหานกับข้าสิ ท่านแม่ ข้าไม่ยอมนะเจ้าคะ” รั่วเหรินเสียอาการร้องโวยวายขึ้นมาทันที
“หานฮูหยิน เป็นเพราะท่านรู้ว่าเจียอีกำลังจะหย่าร้างกับนายท่านจางใช่หรือไม่ ท่านจึงปลอมแปลงหนังสือสัญญาฉบับนี้ขึ้นมาเพราะอยากให้บุตรชายของตนเองได้แต่งกับบุตรสาวของสหายรัก ทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมเลยนะเจ้าคะ ข้าจะไปฟ้องท่านเจ้าเมือง” ฮูหยินรองจางยังหน้าด้านหน้าทนไม่ยอมรับ ทั้งยังกล่าวหาหานฮูหยินกลับมาด้วย
&nb
จื่อเหยารู้สึกกดดันแปลกๆ เมื่อสายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมองมาที่นางเพื่อรอฟังคำตอบว่าจะเพิกถอนสัญญาหมั้นหมายกับลี่หยางหรือไม่ “เหยาเอ๋อ น้ารู้ว่าเสี่ยวหยางบุตรชายน้าเป็นคนไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร มองคนไม่ออก คิดตำหนิกล่าวโทษเจ้าผิดๆก่อนหน้านี้ ทั้งยังเห็นงูพิษเป็นกระต่ายน้อยไร้เดียงสาไปเสียได้ เป็นเพราะน้าเองที่สั่งสอนลูกไม่ดี”หานฮูหยินทำท่าเศร้าเสียใจ กล่าวโทษตัวเอง “เย่าหลิน อย่าโทษตัวเองเช่นนี้สิ ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหรือเสี่ยวหยางเสียหน่อย เป็นเพราะสองแม่ลูกร้ายกาจเสแสร้งแกล้งทำเก่งพวกนั้นต่างหากล่ะเหยาเอ๋อ..เจ้าอย่าโกรธเคือง คิดถือโทษเสี่ยวหยางในเรื่องที่ผ่านมาเลยนะ” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ยขึ้นมาอีกคน ‘เดี๋ยวนะ เมื่อครู่ทั้งสองแม่ดูเหมือนจะเข้าข้างนาง สนับสนุนนางให้ยกเลิกสัญญาหมั้นหมายอยู่ไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมตอนนี้กลับไปเข้าข้างคุณชา
หลังจากฮูหยินรองจางกับรั่วเหรินได้อ่านหนังสือสัญญาที่จางหลงนำมากางให้ดูแล้วก็อยากจะคว้ามันไปฉีกทึ้งเลยทีเดียว เพราะใจความในหนังสือสัญญาหมั้นหมายระบุชัดเจนว่าสัญญาฉบับนี้เป็นสัญญาหมั้นหมายระหว่างหลานชายของนายผู้เฒ่าหาน นามหานลี่หยางกับบุตรีของซุนเจียอี นามจางจื่อเหยา “ไม่จริงเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน สัญญานี่ต้องเป็นของปลอมแน่ๆ สัญญาที่ถูกต้องย่อมเป็นสัญญาหมั้นหมายระหว่างสกุลหานกับข้าสิ ท่านแม่ ข้าไม่ยอมนะเจ้าคะ” รั่วเหรินเสียอาการร้องโวยวายขึ้นมาทันที “หานฮูหยิน เป็นเพราะท่านรู้ว่าเจียอีกำลังจะหย่าร้างกับนายท่านจางใช่หรือไม่ ท่านจึงปลอมแปลงหนังสือสัญญาฉบับนี้ขึ้นมาเพราะอยากให้บุตรชายของตนเองได้แต่งกับบุตรสาวของสหายรัก ทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมเลยนะเจ้าคะ ข้าจะไปฟ้องท่านเจ้าเมือง” ฮูหยินรองจางยังหน้าด้านหน้าทนไม่ยอมรับ ทั้งยังกล่าวหาหานฮูหยินกลับมาด้วย&nb
สองแม่ลูกตัวร้ายฟังคำกล่าวของจื่อเหยาแล้วก็โกรธจนหน้าดำหน้าแดง ไม่พอใจที่จื่อเหยาว่ากล่าวประจานพวกนางต่อหน้าบุคคลสำคัญอย่างหานฮูหยินกับลี่หยางครอบครัวท่านเจ้าเมือง ขาทองคำที่รั่วเหรินกับมารดานางคิดเกาะติดเพื่อความสุขสบายมั่งคั่งร่ำรวยและอำนาจวาสนา มีคนหนุนหลังในวันหน้า “ว่าไงเล่า มีอะไรก็พูดมาสิ อย่าทำให้พวกข้าต้องเสียเวลา” จื่อเหยาถามกลับไปอีกครั้งเมื่อเห็นว่ารั่วเหรินกับฮูหยินรองมัวแต่จ้องมองมาที่นางราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ฮึ เอาล่ะ ถ้าเช่นนั้นข้าเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน” ฮูหยินรองเกริ่น ทุกคนก็รอฟัง “จื่อเหยาเจ้าพูดถูกแล้วว่าพวกเราไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน อีกไม่นานเจ้ากับแม่ของเจ้าก็ไม่นับว่าเป็นคนสกุลจาง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้าและเหรินเอ๋อ อ้อ..ตอนนี้พวกเจ้าก็ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแล้วด้วยนี่นะ ดังนั้นข้าคงไม่ต้องทำตัวสุภาพไว้หน้าพวกเจ
วันนี้จื่อเหยากับฮูหยินใหญ่จางมารดานางได้เตรียมอาหารมื้อใหญ่เพื่อเลี้ยงต้อนรับบุคคลสำคัญอย่างหานฮูหยินมารดาของลี่หยาง สหายรักของฮูหยินใหญ่ซึ่งเดินทางมายังเมืองเสียนโจวพร้อมกับสามีนาง นายท่านหานซึ่งมารับตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองเสียนโจวได้ราวสองสัปดาห์แล้ว “เหยาเอ๋อ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเจ้าเติบโตขึ้นมาเป็นสตรีที่งดงามมากเลยนะ”หานฮูหยินเอ่ยชมจื่อเหยาที่ตอนนี้รูปร่างบอบบางสมส่วน ดูงดงามราวกับเทพธิดาเซียนก็ว่าได้ เป็นที่ต้องตาต้องใจของบุรุษมากมายในเมืองเสียนโจวนี้ ทั้งยังดึงดูดความสนใจจากเหล่าบรรดาสตรีทั้งหลายในเมืองด้วยเนื่องจากจื่อเหยาที่ยามนี้กลายเป็นสตรีงดงามไม่แพ้ผู้ใดในเมืองเสียนโจวมักจะใช้เครื่องประดับชิ้นใหม่จากร้านอ้ายหรูอี้ของนางมาตกแต่งประดับกายและศีรษะ รวมทั้งการแต่งกายโดยใช้ผ้าและชุดที่นางออกแบบเองจากร้านเฉินเจียงซินของสกุลซุนซึ่งมีสีสันสดใสนำสมัยอยู่ตลอด เรียกได้ว่าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าล้วนดูดีมีเสน่ห์งดงามน่าหลงใหล ทำให้เหล่าสตรีมากมายในเมืองเสียนโจวนิยมแต่งกายตามนา
หลังจากฮูหยินใหญ่จางประกาศเรื่องขอหย่าให้นายท่านจางได้รับทราบแล้วนางก็รู้สึกเบาใจขึ้นมาก นางกลับเข้ามาที่ห้องของจื่อเหยาเพื่อพูดคุยปรึกษาหารือกันเพิ่มเติมในเรื่องต่อจากนี้ “ท่านแม่เจ้าคะ ตอนนี้กิจการร้านค้าสกุลซุนกำลังไปได้ด้วยดี ร้านใหม่ที่ตั้งใจเปิดขึ้นมาเพื่อรับมือและเอาคืนสกุลจางก็ราบรื่น ส่วนเรื่องแบ่งทรัพย์สินกิจการกับสกุลจางทุกอย่างก็ถูกจัดวางเอาไว้นานแล้ว ท่านสบายใจได้เลยนะเจ้าคะว่าหลังหย่าร้าง พวกเราจะได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขและสะดวกสบายมั่งคั่งแน่นอน”จื่อเหยาเอ่ยพร้อมเกาะกุมมือมารดาเอาไว้ ให้ฮูหยินใหญ่รู้สึกอบอุ่นใจว่ามีนางเป็นบุตรสาวคอยอยู่เคียงข้างดูแลเอาใจใส่เสมอ “แม่รู้ว่าหลังหย่าแล้วชีวิตเราสองแม่ลูกต้องดียิ่งขึ้นกว่าเดิมแน่นอน” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ยกับบุตรสาวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน พร้อมกับยื่นมือขึ้นไปลูบศีรษะจื่อเหยาแผ่วเบาด้วยความรัก นึกสงสารเห็นใจบุตรสาวที่ไม่เคยได้รับความยุติธรรมจากบิดาตัวเองซึ
จื่อเหยายังคงยืนประจันหน้ากับสามคนพ่อแม่ลูกที่ตั้งใจจะทำร้ายเอาผิดนางให้ได้ ในขณะเดียวกันฮูหยินใหญ่จางมารดานางที่ซูเจียวเร่งออกไปตามก็รีบรุดกลับมาที่เรือนทันทีที่ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ “ท่านพ่อ ข้าไม่เคยคิดถ่วงเวลาอะไร แค่อยากให้ท่านยอมรับฟังความจริงจากข้าบ้าง แต่ไม่นึกเลยว่าไม่ว่าข้าจะพูดเอ่ยอันใดออกไป ท่านก็ทำเพียงเพิกเฉยและเชื่อคำพูดของสองแม่ลูกคู่นี้เท่านั้น” “จะมากไปแล้วนะจื่อเหยา เจ้าไม่ยอมรับผิดแล้วยังจะกล่าวหาเหรินเอ๋อกับข้าด้วย ท่านพี่แบบนี้ต้องลงโทษนางหนักๆนะเจ้าคะ ต่อไปจะได้หลาบจำไม่ทำเรื่องเลวร้ายกลั่นแกล้งรังแกเหรินเอ๋อทั้งยังกล่าวหาพวกข้าอีก” ฮูหยินรองใส่ความจื่อเหยาไม่ลดละ “เหยาเอ๋อ อย่าโทษข้าเลยนะที่ต้องลงโทษเจ้า เพราะบุตรีเช่นเจ้ามันใช้ไม้อ่อนไม่ได้จริงๆ ต้องเฆี่ยนตีให้หลาบจำเสียบ้าง” นายท่านจางกล่าวจบก็หยิบแส้ใ







