แชร์

บทที่ 5 เด็กคนนั้นแปลก

ผู้เขียน: แกะส้ม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-24 20:32:23

             เสียงร้องไห้ของเด็กอ้วนดังไปทั่วสนามเด็กเล่น อีเลนกะพริบตาสองสามที เขามองคนที่นั่งฟันหลุด

             ใจจริงไม่ได้กะต่อยแรงขนาดนั้นแค่เผลอออกแรงมากเกินไปเพราะเห็นภาพซ้อนทับกับเด็กเกเรที่ชอบแกล้งเหล่าน้อง ๆ ในอดีตของตนจนบาดเจ็บเป็นประจำ

            อีเลนเดินเข้าไปใกล้เพื่อดูอาการเด็กน้ำมูกน้ำตาไหลที่ดูแทบไม่ได้ มือหนึ่งยื่นไปให้จับหวังช่วยพยุงตัวขึ้น

            “เป็นไรไหม” เขาถามออกไปอย่างเป็นห่วงเพราะรู้สึกผิดที่ตนทำเกินกว่าเหตุ แม้ภายในลึก ๆ จะอยากให้เด็กคนนี้จำฝังใจว่าไม่ควรไปหาเรื่องใครแบบนี้อีก

            “แงงงงงง แม่จ๋า”

            เด็กน้อยไม่สนใจอีกฝ่ายเลยสักนิด เอาแต่นั่งร้องไห้ โหวกเหวกท่าเดียวและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่าย ๆ ด้วย

            “เฮ้ย!! มึงทำเพื่อนกูแล้วอย่าคิดว่าจะรอดไปได้นะเว้ย พ่อกูเป็นตำรวจ จะสั่งให้จับพวกมึงให้หมดเลย พวกมึงไม่รอดแน่ พ่อแม่มึงต้องถูกจับ บ้านมึงต้องถูกยึด โทษฐานมาหาเรื่องกับกู ไอ้เชี่ย!!"

            เด็กหัวโจกหน้าดำหน้าแดงควันออกหู โกรธจัดที่มีคนกล้าท้าทายอำนาจ ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครกล้าขัดใจเขาเลยสักครั้ง แค่มีพ่อเป็นตำรวจไม่ว่าใครก็พร้อมอยู่ใต้อาณัติแล้ว

             เด็กบ้าอำนาจได้แต่คิดว่าไอ้พวกเวรนี่เป็นใคร ถึงกล้ามาหยามลูกคนใหญ่คนโตแบบนี้!!ยิ่งคิดยิ่งยัวะจัด

            คนปากดีควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ รีบวิ่งเข้าไปหวังต่อยหน้าตัวการที่กล้ามาท้าทายเขา ใจคิดงานนี้ใครสักคนไม่ยับเขาไม่ยอมจบแน่

             ดวงตาสีแซฟไฟร์มองการกระทำของเด็กไม่มีหัวคิด ก่อนจะยื่นเท้าออกไปขัดขาอย่างจงใจ

            พลั่ก!

            เด็กตัวดีหกล้มหน้าคะมำเพราะโดนใครบางคนสกัดขาไว้ ศีรษะจุ่มไถลไปกับพื้นดินหยาบพร้อมหัวเข่าถลอกปอกเปิก

             “หัวหน้า!!!”

             คนตัวเล็กสุดในกลุ่มร้องเสียงหลง รีบวิ่งถลาเข้าไปดูอาการลูกพี่ที่นอนคลุกฝุ่นในทันที

            หัวโจกพอรู้ว่าตนหกล้มก็ยิ่งหน้าเสีย โกรธกระฟัดกระเฟียด ไฟโทสะโหมแรงมากกว่าเดิม

             'กูจะอัดพวกมันให้ยับ เอาให้แม่งพิการกันไปข้าง!! ทำให้เป็นเด็กขาเป๋เดินกะเผลกไปตลอดชีวิตเลย!!'  ยังไม่ทันจะยันตัวลุกขึ้น พลันความมืดกับความเจ็บแสบเข้าประทับที่ใบหน้า

             “โทษที พื้นมันลื่น”

            เจ้าของดวงตาสีแซฟไฟร์เอ่ยเสียงเบาพลางถอนเท้าออกจากเบ้าหน้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม แววตาเย็นเฉียบมองคนนอนแน่นิ่งไม่แยแส ก่อนจะปรับเปลี่ยนท่าทางเป็นสีหน้ากระวนกระวายร้อนรนเหมือนตนไม่ได้ตั้งใจ

            คนถูกกระทำสตั๊นไปพักหนึ่งในหัวคิดแต่เรื่องที่เขาโดนเหยียบหน้า เขาโดนเหยียบหน้า!! ขนาดพ่อแม่ยังไม่เคยตีเลย นี่เขาโดนหยามเกียรติลูกตำรวจเพราะไอ้เวรนี่เนี่ยนะ!! ยิ่งคิดได้ยิ่งกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ คนหาเรื่องแหกปากร้องลั่นตามเพื่อนฝูงไปตาม ๆ กัน

            “หัวหน้า!!”

            เด็กตัวเล็กร้องเรียกชื่อผู้นำเสียงหลง เหงื่อแตกพลั่กจนซึมไปยังหลัง เด็กน้อยตัวคนเดียวไม่รู้จะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้ายังไงดีเพราะไม่เคยเจอมาก่อน

             ตั้งแต่สมัครใจเข้ามาเป็นลูกน้องยังไม่เคยมีเด็กคนไหนกล้ามาหือกับพวกเขาเลย แล้วไอ้เจ้าพวกนี้เป็นใคร ทำไมถึงกล้าทำแบบนี้!!

            อีเลนเห็นสถานการณ์ตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ก็ถอนหายใจ ‘ยังไงเด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ การสอนบทเรียนให้รู้ว่าอะไรควรไม่ควรแค่นี้คงพอแล้ว’

            คนร่างเล็กเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กตัวน้อยพลางพูดด้วยน้ำเสียงสีหน้าเชิงข่มขู่ ก่อนจะทำท่ายกนิ้วโป้งปาดคอให้อีกฝ่ายดูประกอบความน่ากลัว

            “จำไว้เลย สนามเด็กเล่นนี้ไม่ใช่ของพวกนาย ถ้ามายึดอีกพ่อจะตบให้คว่ำเรียงคิวเลย!!”

            เด็กเล็กสุดในแก๊งหน้าเสียตัวสั่น ขวัญหนีดีฝ่อ รีบพยักหน้าตอบรับแทนเพื่อนอีกสองคนที่มัวแต่นอนร้องไห้เร็วไว

            อีเลนเห็นดังนั้นก็พอใจเดินไปจับมือลากเจ้าของดวงตาสีแซฟไฟร์ออกจากสนามที่มีแต่เสียงร้องคร่ำครวญของเด็กเกเรอย่างถือวิสาสะ คนถูกสัมผัสชะงักกึกเพียงไม่กี่วิ ก่อนจะค่อยจับตอบกลับเบา ๆ

            ดวงตาสีส้มเหลือบมองใบหน้าเด็กที่กำลังเดินตามหลัง เขามีเส้นผมตรงเรียบสีดำขลับ สันจมูกโด่งรับกับโครงหน้าอย่างโดดเด่นแม้อายุจะยังน้อย ผิวสีแทนทรงเสน่ห์ตัดรับกับดวงตาสีแซฟไฟร์ หากใครเผลอจ้องมองคงยากจะละสายตา

            ‘เด็กนี่หล่อชะมัด ว่าตัวเอกหล่อแล้วนะยังมีคนที่หล่อกว่าตัวเอกอีกเหรอเนี่ย’ เขานึกในใจพลางมองสำรวจรูปร่างคนสูงกว่าเล็กน้อยอย่างเผลอไผล

            เจ้าของดวงตาสีแซฟไฟร์เมื่อเห็นอีกฝ่ายมองมา ริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้นน้อย ๆ แต่ทำดาเมจรุงแรงจนอีเลนถึงกับเผลอกลั้นหายใจ ใบหน้าเขาพลันเห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ คิดในใจว่าหมอนี่มันเกินต้านจริง ๆ ตอนเด็กยังคาริสม่าขนาดนี้ถ้าโตขึ้นจะยิ่งขนาดไหน

            ร่างเล็กสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างต้องการตั้งสติ เขาจะมาหวั่นไหวกับเด็กน้อยแบบนี้ไม่ได้!! ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามจะมีออร่าน่าดึงดูดมากแค่ไหนก็ตาม!!  “อะแฮ่ม นายไม่เป็นไรนะ”

            อีเลนถามออกไปด้วยความเป็นห่วง พลางสำรวจร่างกายเด็กหน้าหล่อที่กำลังส่งมอบรอยยิ้มมาให้

            "ฉันไม่เป็นไร แค่รู้สึกกลัวนิดหน่อย"

            มือที่จับกุมกันไว้แสดงอาการสั่นเล็กน้อย เมื่ออีเลนรู้สึกถึงแรงสั่น เขากระชับฝ่ามือที่จับให้แน่นขึ้น เพื่อเป็นการบอกว่าไม่เป็นไรแล้ว

            “บ้านนายอยู่ไหน เดี๋ยวฉันไปส่ง” เขารู้สึกไม่ค่อยดี หากปล่อยเด็กที่พึ่งโดนหาเรื่องให้กลับบ้านเองคนเดียว

            “ฉันไปบ้านนายได้ไหม ตอนนี้พ่อแม่ฉันไม่อยู่บ้าน ฉันกลัว ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว” ดวงตาสีแซฟไฟร์แสดงอาการหวาดหวั่น มือที่กุมกันไว้เปลี่ยนมาเป็นกอดแขนคนข้างกายจนแนบแน่น

            อีเลนรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ใครพาลูกคุณหนูมาทิ้งไว้เนี่ยแล้วคนดูแลหายไปไหนหมด ดูจากการแต่งตัวลุคผู้ดีพร้อมทั้งนั่งรถยนต์ราคาแพงพึ่งผ่านหน้าผ่านตาเขาไปแล้ว ใครจะไปคิดว่าเป็นเด็กธรรมดาดูยังไงก็เป็นพวกเด็กบ้านรวย ออกมาเปิดหูเปิดตากับโลกภายนอกชัด ๆ

            “ทำไมนายไปนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียวล่ะ หรือว่าบ้านนายอยู่แถวนี้” ถ้าบ้านอยู่แถวนี้จริง ๆ เขาคิดว่าจะช่วยดูแลไว้ก่อน หรือไม่ก็รอพ่อแม่เจ้าตัวมารับ จะให้เดินไปส่งเองก็ยังได้

            “ฉันพึ่งย้ายบ้านมาอยู่เมืองนี้ เห็นชิงช้าน่าเล่นเลยขอพ่อแม่ออกมาแป๊บเดียว ไม่คิดว่าจะโดนหาเรื่อง ฉันขอไปอยู่ที่บ้านนายก่อนได้ไหม ฉันยังไม่หายกลัวเลย ฉันไม่อยากอยู่คนเดียวจริง ๆ นะ”

            อีเลนมองมือที่กอดแขนตนอย่างสั่นเทา เขาคิดว่าเด็กชายตัวสูงกว่าเสียเปล่าแต่ช่างใจเสาะจริง ๆ

             เด็กน้อยคนนี้ทำให้เขานึกถึงเด็กตัวเล็กผอมแห้งคนหนึ่งในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กคนนั้นดูอ่อนปวกเปียกจึงมักโดนเพื่อนในสถานรับเลี้ยงซึ่งเป็นแก๊งเด็กดื้อแกล้งตลอดเวลา

            เมื่อเข้าไปช่วยออกมา เด็กคนนั้นก็เอาแต่ติดเขางอมแงมก่อนจะแยกจากกันเพราะอีกฝ่ายถูกบ้านหนึ่งรับไปเลี้ยง

            พอเห็นท่าทางเด็กตรงหน้าคล้ายกับเด็กคนหนึ่งในใจพลันเกิดความรู้สึกเอ็นดู อย่างน้อยหาเพื่อนในโลกใหม่ไว้สักหน่อยก็คงไม่เสียหาย ดูยังไงก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าของร่าง

            อีกอย่างนี่ไม่ใช่ความฝันเขาหรอกหรือที่อยากหาเพื่อนสนิทไปไหนมาไหนด้วยกันได้ทุกที่!!

            “ก็ได้ งั้นนายมาอยู่บ้านฉันก่อน ว่าแต่นายชื่ออะไร”

            อีเลนถามกลับด้วยน้ำเสียงร่าเริงเมื่อตัดสินใจได้ ในเมื่อให้อีกฝ่ายมาเป็นเพื่อนก็ไม่จำเป็นต้องตั้งกำแพงใส่กัน เจ้าของดวงตาสีแซฟไฟร์มองคนตรงหน้ามุมปากกดลึกยกยิ้มเล็กน้อย แทบมองไม่เห็น

            “ฉันชื่อ เคียร์น ฝากตัวด้วยนะ”

            “ส่วนฉันอีเลน ฝากตัวด้วย”

             พูดเสร็จพลันยิ้มแป้น ในอกตื่นเต้นดีใจที่ตนได้พบมิตรภาพอย่างที่ใฝ่หา ก่อนพูดชักชวน

            "นี่เคียร์นไหน ๆ แล้วเรามาเป็นเพื่อนกันดีไหม นายพึ่งย้ายมาด้วยนี่สนใจรับฉันเป็นเพื่อนสักคนเปล่า"

            “อืมได้สิ ดีเลย ฉันอยากหาเพื่อนอยู่พอดี”

            อีเลนมองรอยยิ้มของเด็กชายแม้จะรู้สึกว่ามันแปลก แต่เจ้าตัวก็เลือกจะมองข้ามเรื่องนี้ไปเพราะเขามัวแต่ยินดีที่ได้มีเพื่อนใหม่

            ในโลกเก่าเขาเอาแต่ทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนไปวัน ๆ แม้จะได้ทุนการเรียนจากภาครัฐแต่มันก็ยังไม่พอกับค่าใช้จ่ายพวกอุปกรณ์และของจิปาถะอยู่ดี ทำให้ชีวิตวัยรุ่นเขาวุ่นวายมากเลยไม่มีเวลาไปคบค้าสมาคมกับคนอื่น พออายุสิบแปดก็ต้องออกจากสถานรับเลี้ยง ตรากตรำทำงานหาเลี้ยงชีพส่งตัวเองเรียนไปวัน ๆ จนทะลุเข้ามาในนิยาย

            อีเลนมองคนที่กอดแขนตัวเองอยู่ข้าง ๆ เขาคิดว่าเพื่อนคนแรกของตนในโลกนี้ช่องหล่อเหลา สีผม สีตา ชื่อลักษณะแบบนี้เหมือนกับตัวร้ายในนิยายที่เคยอ่านก่อนจะหลุดเข้ามาเลย

            “อ๊ะ!”

            เพราะมีแต่เรื่องอื่นให้สนใจเต็มไปหมด เขาจึงไม่มีเวลามานั่งคิดว่าเด็กคนนี้เป็นใครให้ดี ๆ เมื่อสบกับนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มในหัวคิดแค่ว่าดวงตาคู่นี้สวยดีเท่านั้นทำให้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

            เมื่อมาลองนึกไล่เรียงเรื่องราวดี ๆ แล้ว นี่เป็นเนื้อเรื่องสมัยเด็กที่เขาต้องเจอกับโนวาซึ่งเป็นนางเอกของเรื่อง แต่ผ่านมาสองอาทิตย์แล้วยังไม่เจอเจ้าตัวสักที หรือเป็นเพราะเขาไม่ค่อยออกจากบ้านกันนะ

            อีเลนมองใบหน้าคนที่เกาะแขนตน เจ้าของดวงตาสีแซฟไฟล์แย้มยิ้มพลางเอียงคอเล็กน้อยเป็นเชิงสงสัยว่าเพื่อนใหม่หยุดยืนอยู่นิ่งทำไม อีเลนสบกับนัยน์ตาใสซื่อที่จ้องเขาตาแป๋ว เหงื่อตกเล็กน้อยก่อนเผยรอยยิ้มเจื่อนคิดกับตนเองในใจ

' อืม เหมือนว่าจะได้เป็นเพื่อนสมัยเด็กกับตัวร้าย แทนนางเอกซะแล้วละ '

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 20 เนื้อเรื่องไม่คงเดิม

    “จะ จ๊างงงง!! เอาป้ายมาสิเชส” โจลี่สั่งให้เพื่อนซี้แน่นปึกยืนหันหลังพร้อมยกป้ายกระดาษหนาเท่าฟิวเจอร์บอร์ดขึ้นสูงเหนือหัว “ดูและฟังให้ดีนะคะน้อง ๆ นิทานที่พวกเราห้อง F ได้ก็คืออออ คือออออ” เด็กสาวลากเสียงยาวให้น้องมอหนึ่งทั้งหลายรู้สึกลุ้นระทึกกันอย่างสนุกสนาน น้ำเสียงร่าเริงดังขึ้น “นิทานที่พวกเราได้คือ….. สโนว์ ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดค่ะ!! รีบตบมือกันเร็วเข้า!!” สิ้นสุดเสียงโจลี่ เชสทำการกลับป้ายเฉลยชื่อ ทีมซัพพอร์ตมอหกห้อง F ต่างช่วยกันส่งเสียงร้องเชียร์อย่างไม่มีใครยอมใคร บรรยากาศของรุ่นพี่ห้อง F ทำให้เหล่ารุ่นน้องที่น

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 19 บทละครจากนิทาน

    เมื่อทำการจับฉลากเป็นคู่ในกล่องสุ่มเรียบร้อยแล้ว ครูอันให้นักเรียนที่อาสาตัวช่วยละครจบของรุ่นพี่เข้าไปรวมตัวกันที่หอประชุม แถวในหอประชุมจะถูกแบ่งแยกไปตามห้องที่แต่ละคู่จับสุ่มได้ โดยมีตัวแทนของพวกรุ่นพี่ห้อง S-F ยืนเรียงแถวหน้ากระดานเว้นระยะห่างหนึ่งช่วงแขน ให้พวกน้อง ๆ ที่จับฉลากได้ห้องไหนเข้ามายืนต่อแถวตอนห้องนั้น ใช้เวลาไม่นานนักเรียนอาสาของทุกห้องก็เดินเข้ามาเรียงแถวในหอประชุมกันจนครบ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยประธานนักเรียนชั้นมอห้าเดินขึ้นไปบนเวทียืนตรงแท่นโพเดียมก่อนจะทำการเทสเสียงไมค์แล้วเริ่มพูดเปิด “ฮัลโหล ๆ สวัสดีครับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทั้งหลาย ผมมีชื่อว่า อเล็กซ์ เป็นประธานนักเรียนที่จะเข้ามาช่วยประสานงานให้พวกรุ่นพี่มอหกและน้องมอหนึ่งร่วมใจทำงานกันเป็นหนึ่งเดียวนะครับ อย่างที่ทุกคนรู้กันดีโรงเรียน………” ครั้งอเล็กซ์เริ่มอธิบายเกี่ยวกับงานส่งจบ นักเรียนบางส่วนล้วนฟังบ้างไม่ฟังบ้าง อีเลนซึ่งยืนต่อแถวอยู่ห้อง F รู้สึกลำบากใจกับสายตาของเฮนรี่ ซึ่งมองมาจากแถวข้างหน้าตน “ไง ไม่เจอกันนานเลยนะครับ เคียร์น”

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 18 ละครจบของโรงเรียน

    “ไปไหนมา เย็นปานนี้ทำไมไม่รีบกลับบ้าน!!” ผู้เป็นพ่อยืนเท้าเอวใบหน้าเคร่งขรึมน้ำเสียงจริงจังเปี่ยมอำนาจ เอ่ยถามลูกชายของตนที่นาน ๆ ทีจะเจอครั้งหนึ่ง พ่อของอีเลนเป็นทนายความชื่อดังวัน ๆ มีแต่งานสารพัดปัญหาเข้ามารุมล้อมไม่หยุด ทั้งต้องออกไปทำเรื่องว่าการให้พรรคการเมืองชื่อดัง ทั้งต้องขึ้นศาลให้ครอบครัวมหาเศรษฐี วันหนึ่งแทบไม่ได้หยุดพักอยู่บ้านดี ๆ เลยสักหน “พ่อกลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” เด็กชายเอ่ยถามคนได้ชื่อว่าเป็นพ่อตนตอนนี้ เขารู้สึกเกร็งนิดหน่อยเพราะไม่คุ้นเคยกับคนตรงหน้ามาก่อน แถมอีกฝ่ายยังมีท่าทางน่ากลัวทำให้รู้สึกชวนคุยด้วยลำบาก เขาเผลอบีบมือที่กุมเคียร์นไว้แน่นอย

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 17 จงเป็นคนแปลกที่เก่งกาจ

    “เข้ามาสิ ฉันให้ขยะที่ยังไม่ถูกรีไซเคิลอย่างพวกนายเปิดก่อนเลย” เด็กแว่นพูดกวนโมโห ท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว ทำให้ชายหน้าโหดฉุนจัดหอบหายใจกระฟัดกระเฟียด โกรธจนหน้าแดงกำหมัดแน่น “เอาเลยลูกพี่ มันท้าทายอำนาจลูกพี่ครับ” “อัดไอ้เด็กไม่เจียมกะลาหัวมันเลยครับลูกพี่!!” “เป็นแค่ไอ้จ้อยอย่าปากดีนักนะไอ้ลูกหมานี่ เดี๋ยวโดนลูกพี่กูอัดยับอย่ากลับบ้านไปร้องไห้ฟ้องแม่นะมึง” เสียงกองเชียร์ดังกระหึ่มไปทั่ว เชาว์ยืนถือแว่นตาเพิร์ซ มองสถานการณ์ตอนนี้ด้วยสีหน้าซีดเผือด ใจเต้นระทึกไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ระแวงว่าเด็กตี๋ของตนจะถูกซ้อมยับ&n

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   (ตอนพิเศษ) พี่ชายที่แสนดี

    คำเตือน เนื้อเรื่องตอนนี้เป็นเพียงส่วนเสริมอดีตของเพิร์ซ ให้รู้ที่มาที่ไปของตัวละครเท่านั้น มีฉากล่วงละเมิดทางเพศ พรากผู้เยาว์ ความรุงแรง ดราม่า ใครรับไม่ได้โปรดข้ามไปอ่านตอนต่อไป เด็กน้อยวัยใสอายุเพียงหกขวบ เขาถูกเลี้ยงมาด้วยความรักความอบอุ่นจากครอบครัว ถูกประคบประหงมดั่งไข่ในหิน ชีวิตของเด็กชายไม่เคยขาดอะไรเลย ได้ทานอาหารที่ชอบทุกมื้อ มีพ่อแม่ที่รักมากสุดหัวใจและมีพี่ชายแสนดียืนหนึ่งคอยอยู่เคียงข้างดูแลแทบตลอดเวลา ด้วยความขาวตี๋ตัวเล็ก ผมสีดำขลับเรียบตรง ดวงตากลมวาวสดใส แก้มขาวอมชมพูป่องนิด ๆ ทำให้เจ้าตัวดูน่ารักน่าชังรวมกับนิสัยเป็นมิตรของเพิร์ซวัยเด็กแล้ว ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็มักจะมีคนคอยเอ็นดูอยู่เสมอ “เพิร์ซ วันนี้ตอนเย็นอยากแวะที่ไหนไหมครับ” พี่ชายอายุวัยเพียงสิบห้าปีฉีกยิ้มหวาน เดินถือรองเท้านักเรียนสีดำเตรียมใส่ออกไปข้างนอกอยู่หน้าประตูบ้าน ผู้เป็นน้องชายสะพายกระเป๋ารูปกันดั้มสีน้ำเงินซึ่งพี่ชายเป็นคนเลือกให้วิ่งตามหลังมา เด็กชายอมยิ้มตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ครับ! ผมอยากไปเล่นที่สนามกับเพื่อ

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 16 ยืนอยู่เฉย ๆ ปัญหาก็เข้ามา

    นักเรียนห้อง S ของโรงเรียนชื่อดังประจำจังหวัด ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้อยู่ห้องนี้ล้วนไม่ใช่เด็กธรรมดา บางคนสอบเข้ามาได้ด้วยคะแนนสูงสุดเกือบเต็มร้อยนับว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ บางคนพ่อแม่มีอำนาจทางการเมือง ใช้เงินยัดใต้โต๊ะหวังให้ลูกหลานมีภาพลักษณ์เด็กเก่งเรียนดีมีหน้าตาทางสังคม เด็กนักเรียนส่วนใหญ่เกินครึ่งในห้อง S จึงล้วนเป็นเด็กที่สอบเข้ามาได้ด้วยเงิน มีเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่สอบเข้ามาได้ด้วยความสามารถของตัวเองจริง ๆ เด็กจิ้มลิ้มเขามีชื่อว่า เฮนรี่ เป็นเน็ตไอดอลชื่อดังที่กำลังได้รับความนิยมจากบรรดาวัยรุ่นหนุ่มสาวด้วยหน้าตาสุดน่ารักน่าชัง ภาพลักษณ์ดูเป็นเด็กน้อยใสซื่อบริสุทธิ์อ่อนต่อโลก ทำให้บรรดาชาวเน็ตต่างพากันชื่นชมหลงใหลไปกับความน่ารักไร้เดียงสา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status