LOGIN
เช้าวันใหม่... บรรยากาศที่คณะนิเทศศาสตร์ดูแปลกไปกว่าเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด
ทันทีที่เมฆินทร์ก้าวเท้าเข้ามา เขาก็สัมผัสได้ถึง 'คลื่นความสนใจ' ที่พุ่งตรงมาที่เขา สายตาหลายคู่จับจ้องอย่างเปิดเผยมากกว่าเดิม พร้อมกับเสียงซุบซิบที่ดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ราวกับเสียงผึ้งแตกรัง
“นั่นไง... ลมหนาว”
“จริงเหรอวะ...ที่ว่าเขา...”
“ไม่น่าเชื่อเลยนะ...”
เสียงกระซิบกระซาบที่จับใจความได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่ใช่สายตาชื่นชม... ไม่ใช่ความสงสารเหมือนวันแรก... แ
"โอ๊ยยยย!!" เสียงร้องแหลมเล็กของมิลกี้ดังขึ้นทำลายทุกความวุ่นวายของกองถ่ายให้หันมาโฟกัสที่เธอเป็นจุดเดียว ส่วนน่านฟ้าก็หันไปมองตามสัญชาตญาณเช่นกัน ภาพที่เห็นคือมิลกี้กำลังกุมนิ้วชี้ของตัวเองไว้แน่น ใบหน้าสวยหวานเหยเกด้วยความเจ็บปวด และมีหยดเลือดสีแดงสดเริ่มซึมออกมาจากปลายนิ้วของเธอ ไหลออกมาเยอะจนคนอื่น ๆ รีบวิ่งกรูเข้าไปหาเธออย่างรวดเร็ว "คัตเตอร์บาดน่ะค่ะ... สงสัยจะเผลอไปหน่อย" เธอบอกทีมงานที่รีบวิ่งเข้ามาดูด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดูน่าสงสารจับใจ น่านฟ้าที่อยู่ใกล้ที่สุดวางกรรไกรในมือลงทันที แม้ในใจจะยังกังวลเรื่องลมหนาว แต่สัญชาตญาณของคนปกติก็ทำให้เขาต
หลังจากพายุลูกย่อม ๆ ได้พัดผ่านไป ทิ้งไว้เพียงความเข้าใจและความเหนื่อยล้า ห้องพักของน่านฟ้าก็กลับคืนสู่ความสงบอีกครั้งในช่วงวันที่สองแห่งการเข้าค่าย สายหมอกและณคุณแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง ส่วนน่านฟ้าก็จำเป็นต้องออกไปเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญของกองประกวด ทิ้งให้เมฆินทร์ได้พักผ่อนอยู่ภายในห้องตามลำพังด้วยความจำเป็น… แม้ว่าน่านฟ้าไม่อยากให้ลมหนาวอยู่คนเดียว แต่ในเมื่อมันไม่มีทางเลือกก็ต้องยอม แสงแดดที่ลอดผ่านม่านโปร่งเข้ามาอาบไล้ห้องจนสว่างนวลตา เมฆินทร์ค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ร่างกายยังคงอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด ความเจ็บปวดรุนแรงจากพิษเมื่อคืนได้ทุเลาลงแล้ว แต่มันไม่ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง ความรู้สึกระบมยังคงตกค้างอยู่ทั่วแผ่นหลังราวกับเพิ่งผ่านการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงมา และมีความรู้สึกเหมือนเข็มเล็ก ๆ นับพันเล่มคอยทิ่มแทงผิวอยู่ตลอดเวลา มั
เมฆินทร์เงยหน้าขึ้นสบตาน่านฟ้าทันที... ใบหน้าของเขาร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อยด้วยกระแสอารมณ์ประหลาด มันไม่ใช่ความอับอายเพียงอย่างเดียว แต่เป็นความรู้สึกอบอุ่นระคนสับสนที่น่านฟ้าแสดงออกถึงความห่วงใยเขาอย่างเปิดเผยต่อหน้าคนอื่น เขามองเห็นแววตาแน่วแน่ของน่านฟ้าที่จับจ้องมาที่เขา ราวกับต้องการยืนยันว่าสิ่งที่พูดไปนั้นคือความจริงทุกประการ น่านฟ้าสังเกตเห็นปฏิกิริยาของลมหนาว ริมฝีปากของเขาคลี่ยิ้มบาง ๆ อย่างแทบมองไม่เห็น ทว่าในรอยยิ้มที่แสนหายากนั้นกลับแฝงด้วยความโล่งใจที่ถาโถมเข้ามาท่วมท้น เป็นสภาวะจิตใจที่ปลดล็อก เหมือนภาระหนักอึ้งถูกยกออกไป เมื่อลมหนาวดูเหมือนจะไม่ได้ปฏิเสธความห่วงใยนั้น "ก็จริงอย่างที่พี่สายหมอกว่าครับ" น่านฟ้าหันมาตอบสายหมอกเสียงเรียบ "แต่ผมก็จะดูแลพี่ลมหนาวอย่างเต็มที่ตามที่พูดไว้" น้ำเสียงของเขาหนักแน่นราวกับคำสาบาน "งั้นตอนมึงไปทำกิจกรรมก็บอกกู เดี๋ยวกูมาดูอาการลมหนาวให้แทนถ้ากูว่าง" สายหมอกบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง แต่ก็ยังคงความหนักแน่นในความเป็นห่วงเพื่อน เขารู้ดีว่าวันนี้มีกิจกรรมถ่ายทำวิดีโอแนะนำตัวดาว-เดือนคณะ ซึ่งเป็น
พอถึงห้องพัก ลมหนาวก็นั่งพิงหัวเตียงเล่นมือถืออยู่เงียบ ๆ ใบหน้าสวยหวานยังคงซีดเซียวและดูอิดโรย เพราะร่างกายยังคงอ่อนเพลียจากการถูกกระตุ้นพิษอย่างหนักเมื่อคืน แม้อุณหภูมิในร่างกายที่เคยพุ่งสูงจนน่ากลัวจะลดลงจนเกือบเป็นปกติแล้ว แต่ความเจ็บปวดหนึบ ๆ และความทรมานลึก ๆ ยังคงหลงเหลือให้รับรู้เป็นระยะ... เขาทนได้ แต่มันก็บั่นทอนพลังงานไปไม่น้อย "มึงยังมีอารมณ์มาฉีดน้ำหอมฉุนไปทั่วห้องอีกเหรอเนี่ย" คำทักทายแรกของสายหมอกดังขึ้นทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง เขาทำจมูกฟุดฟิดเล็กน้อยด้วยความฉุน ก่อนจะเดินตรงไปนั่งลงบนเตียงข้าง ๆ ลมหนาว สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความเป็นห่วงระคนสงสัย เมฆินทร์ถอนหายใจเบา ๆ วางโทรศัพท์ในมือลง "มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมหรอก... แต่มันคือกลิ่นของดอกอะโคไนต์ต่างหาก" เมฆ
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่อาจทราบได้... แต่เสียงน้ำในห้องน้ำที่เงียบลงไปสักพักแล้ว ทำให้บรรยากาศภายในห้องนอนตกอยู่ในความเงียบสงัดที่ชวนให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ที่แน่ ๆ เมฆินทร์กำลังมุดอยู่ใต้ผ้าห่มโดยสมบูรณ์ ความรู้สึกอับอายที่ทำให้น่านฟ้าต้องเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำตีตื้นขึ้นมาจนหน้าไหม้ ไหนจะตัวเขาที่ตอนนี้ก็… ไม่ค่อยสงบเช่นกัน จะหนีกลับไปหาสายหมอกที่ห้องก็คิดว่าเดินเองไม่ไหวแน่นอน ทางเดียวที่ทำได้คงมีแต่ยอมรับชะตากรรมที่ตัวเองเป็นคนก่อ หรือไม่ก็แกล้งหลับให้ลงเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ แกร๊ก... เสียงปลดล็อกประตูห้องน้ำดังขึ้นทำลายความเงียบ น่านฟ้าเดินออกมาสวมใส่ชุดนอนด้วยสีหน้าที่ดูผ่อนคลายขึ้น เขามองไปยังเตียงนอนที่ตอนนี้มีเพียงก้อนผ้าห่มผืนหนาคลุมร่างกายของลมหนาวจนมิดชิด ก่อนจะเดินไปนั่ง
น่านฟ้าอุ้มลมหนาวเข้ามาในห้องพักอย่างเร่งรีบ เขาตรงไปยังเตียงกว้างอย่างไม่ลังเล วางร่างบางลงบนที่นอนนุ่มอย่างระมัดระวังที่สุด แต่ทันทีที่ร่างกายห่างจากสัมผัส... อาการของลมหนาวก็พลันทรุดหนักลงกว่าเดิมหลายเท่า ความร้อนระอุที่เคยแผ่ซ่านพลันพุ่งสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ราวกับไฟที่ลุกโชนเผาผลาญจากภายใน ลมหายใจเริ่มติดขัดอย่างรุนแรง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส หยาดน้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย ใบหน้าเห่อแดงฉ่ำไปด้วยเหงื่อและน้ำตา ร่างกายบิดเร่าด้วยความทรมาน พยายามตะเกียกตะกายอย่างหมดหนทาง ราวกับดอกไม้ที่ถูกกระตุ้นให้ต้องการน้ำอย่างบ้าคลั่ง แต่จู่ ๆ น้ำก็เหือดหายไปเสียดื้อ ๆ... ความโหยหาที่ถูกปลุกเร้าแต่ไม่ได้รับการเติมเต็ม แปรเปลี่ยนเป็นความปวดร้าวที่คมกริบยิ่งกว่าเข็มนับพันเล่มทิ่มแทงไปทั่วแผ่นหลัง น่านฟ
![ผมไม่ได้ยั่ว เสี่ยต่างหากที่ห้ามใจไม่ได้[Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






