Compartilhar

น้องสาวของข้ายังอยู่

Autor: zuey
last update Última atualização: 2025-08-05 12:08:38

เด็กหญิงไม่ได้ยินเสียงของหมอตำแยเฒ่าที่กำลังตำหนิตนอยู่ข้างๆ ในหัวของนางตอนนี้คิดเพียงเหตุใดมารดาถึงได้ไม่ยอมลืมตามาพูดกับตน มิใช่ว่าท่านแม่บอกว่านางกำลังจะมีน้องชายสองคนอย่างนั้นหรือ แล้วอีกคนเล่าหายไปที่ใด

แม่เฒ่าจวงเห็นท่าไม่ดี เพราะพานเยว่หลานหมดสติไปนานจึงได้ลองใช้นิ้วอังไปที่รูจมูกของนาง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าไร้ลมหายใจหญิงชราจึงรีบอุ้มทารกที่พึ่งคลอดออกมา ก่อนออกจากห้องพร้อมทั้งดึงแขนผอมแห้งของหลี่อันหนิงตามออกมาด้วย

“แย่แล้ว!! แย่แล้ว!! พานเยว่หลานตายแล้ว นางคลอดเด็กสองคนไม่ไหวสิ้นใจแล้ว”

คนบ้านหลี่ที่เฝ้าอยู่ด้านนอกเมื่อได้ยินดังนั้นก็รีบกรู่เข้ารุมล้อมแม่เฒ่าจวงทันที

“แม่เฒ่าท่านหมายความว่าอย่างไร ที่บอกว่านางตายแล้ว”

ผู้เฒ่าหลี่ผู้เป็นพ่อสามีของพานเยว่หลานทิ้งปล้องยาสูบในมือพุ่งเข้ามาจับตัวแม่เฒ่าจวงเขย่าถาม แม่เฒ่าจวงผู้เป็นหมอตำแยละล่ำละลักตอบออกมาทั้งน้ำตา ในอ้อมแขนยังมีเด็กทารกเพศชายนอนไร้เรี่ยวแรง เสียงร้องแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อย

“ก็อย่างที่ข้าพูด นางเสียชีวิตแล้ว สะใภ้ใหญ่ของท่านตายแล้ว นี่หลานชายของท่าน เด็กคนนี้พานเยว่หลานใช่กำลังทั้งหมดที่มีเบ่งเขาออกมา”

หลี่อันหนิงไม่เข้าใจว่าตายที่แม่เฒ่าจวงเอ่ยถึงหมายความว่าอย่างไร ตอนนี้นางเพียงต้องการมารดาเท่านั้น เด็กน้อยใช้แรงทั้งหมดสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของหญิงชรา ก่อนจะวิ่งกลับเข้าห้องไป

“ตายไปแล้วก็ตายไปสิ ยังจะคลอดเจ้ามารหัวขนนี่ออกมาอีกทำไม”

แม่เฒ่าหม่าเดินออกมาดูเพราะได้ยินเสียงโวยวายของแม่เฒ่าจวง เมื่อรู้ว่าสะใภ้ใหญ่ของตนเสียชีวิตแล้วนางก็แสดงท่าทางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างไม่รู้สึกผิดแม้เพียงนิด ส่วนปากก็ยังมิวายเอ่ยเหน็บแนมทั้งที่เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะนางที่ใช้งานพานเยว่หลานหนักเกินไป

“พ่อของเด็กไปไหนหรือ”

แม่เฒ่าจวงมองหาบุตรชายคนโตตระกูลหลี่ที่ช่วงนี้ไม่ค่อยจะได้เห็นหน้าเห็นตา แม้แต่ภรรยาคลอดลูกเขาก็ไม่ได้อยู่ที่นี่

“ท่านจะอยากรู้ไปทำไม บุตรชายของข้าเป็นถึงบัณฑิตถงเซิงไหนเลยจะมามีเวลาว่างมายุ่งกับเรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ เจ้าทำหน้าที่ตนเองเสร็จแล้วก็รีบไปเถอะ นี่ตำลึงของเจ้า”

แม่เฒ่าหม่ายอมควักเนื้อตนเองจ่ายเงินให้หมอตำแยจวง ก่อนจะไล่ให้นางออกจากเรือนของตนไป

“ถือเสียว่าเป็นค่าทำศพของนางก็แล้วกัน อาเฟิงลูกไปเอาเสื่อมาสตรีอย่างพานเยว่หลานไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อโลงดีๆ ให้นางหรอก”

หญิงชราใจอำมหิตเรียกให้บุตรชายคนรองนำเสื่อมาห่อร่างของสะใภ้ใหญ่ ก่อนจะสั่งให้เขาแบกนางไปยังภูเขาด้านหลังหมู่บ้าน ส่วนผู้เฒ่าหลี่ทันทีที่ได้อุ้มหลานชายคนโตผู้ที่ต่อไปจะกลายเป็นผู้สืบสายเลือดของตน ชายชราก็ไม่สนใจว่าแม่ของเด็กจะอยู่หรือตาย มีเพียงหลี่อันหนิงเท่านั้นที่เดินตามอารองไปยังภูเขาด้านหลังหมู่บ้านเพียงลำพัง

“เจ้าตามมาทำไม! ถ้าท่านย่ารู้เข้าเดี๋ยวก็ถูกตีอีกหรอก”

หลี่เฟิงหัวดุผู้เป็นหลานสาวด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก แม้เขาจะเป็นคนไม่เอาไหนแต่ก็ไม่เคยเข้าร่วมการกลั่นแกล้งสองแม่ลูกเลยสักครั้ง ทำเพียงมองดูภรรยามารดาและน้องสาวคนเล็กร่วมมือกันเอาเปรียบนาง

“อารอง จะพาท่านแม่ไปที่ใดเจ้าคะ”

หลี่เฟิงหัวได้ยินคำถามใสซื่อของหลานสาว จึงหยุดเดินก่อนจะหันกลับมามองร่างเล็กแกร็นที่สูงเพียงเข่า

“ท่านแม่ของเจ้านางตายแล้ว ข้ากำลังจะนำร่างของนางไปฝังบนภูเขาน่ะสิ เมื่อรู้อย่างนั้นแล้วก็เลิกตามมาเสียที”

เด็กน้อยมองไปยังผู้เป็นอาด้วยสีหน้างงงัน ก่อนจะถามออกไปอีกครั้ง

“ตายคืออะไรหรือเจ้าคะ ท่านอารอง”

หลี่เฟิงหัวถอนหายใจออกมาอย่างรำคาญ ก่อนจะโยนร่างของพานเยว่หลานลงบนพื้นอย่างไม่ไยดี

“เฮ่อ!! หลี่อันหนิงฟังข้านะ ตายก็คือตายนางไม่หายใจแล้ว แล้วก็อยู่ดูแลเจ้าไม่ได้อีกต่อไป เอาล่ะในเมื่อรู้เช่นนี้ก็กลับลงเขาไป อย่ามาขวางทางข้า”

หลี่เฟิงหัวก้มลงหวังแบกร่างของพานเยว่หลานที่ถูกห่อด้วยเสื่ออีกครั้ง ทว่าแรงขยับที่เขาสัมผัสได้ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งโหยงก่อนจะถีบม้วนเสื่อออกไปให้ห่างจากตน

“เฮ้ย!! อะไรกันวะ!! หมอตำแยบอกว่านางตายไปแล้วนี่ แล้วยังดิ้นอยู่ได้อย่างไร”

ชายหนุ่มผู้เริ่มรู้สึกตาขาวเหลือบสายตามองไปรอบๆ ด้วยท่าทางขี้ขลาด

ท้องนภายามอัสดงอาบย้อมไปด้วยสีโลหิต แม้จะยังมิได้มืดมิดทว่าภายในภูเขาที่มีต้นไม้ขึ้นหนาทึบได้บดบังทัศนวิสัยทำให้มองเห็นเส้นทางได้ไม่ชัดเจน

เสียงกระพือปีกของเหล่านกป่าดังพรึบพรับ ยิ่งทำให้หลี่เฟิงหัวขลาดกลัวจนกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอได้อย่างยากเย็น

สายตาหลุกหลิกมองไปยังม้วนเสื่อที่กองอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทีหวาดๆ ชายหนุ่มหยิบท่อนไม้แห้งที่วางอยู่ไม่ไกลเขี่ยม้วนเสื่อเบาๆ เพียงหวังว่าตนเองจะตาฝาดหรือคิดไปเองเท่านั้น

แต่แล้วม้วนเสื่อที่มีร่างไร้ลมหายใจของพานเยว่หลานก็ขยับขึ้นมาจริงๆ

ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งทิ้งท่อนไม้ในมือ ก่อนจะเผ่นแนบโกยอ้าวไปอย่างไม่เหลียวหลัง ทิ้งหลานสาวตัวน้อยที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ด้านข้างโดยไม่สนใจว่านางจะตามมาหรือไม่

หลังจากที่หลี่เฟิงหัววิ่งกลับลงเขาไปชายหนุ่มก็แหกปากร้องตะโกนว่าตนถูกผีหลอก จนชาวบ้านที่กำลังกลับมาจากทำนาต้องจับตัวเขาเอาไว้

สิ้นเสียงของเขาพลันสายลมหอบใหญ่ก็พัดกรรโชกขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย สร้างความหนาวสะท้านให้แก่ชายหนุ่มไปจนถึงขั้วหัวใจ

เมฆดำทะมึนก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้าอย่างกะทันหัน ฟ้าแลบแปลบปลาบสร้างแสงวูบวาบน่าขนลุก สายลมกรรโชกพัดพาเอาเศษดินและใบไม้ปลิวว่อนไปทั่วทั้งหมู่บ้าน

ทันใดนั้นสายฝนห่าใหญ่ก็เทลงมาไม่ขาดสายทำเอาท้องฟ้ายามเย็นพลันมืดทะมึนในบัดดล

“ท่านแม่!! ท่านแม่!! ตื่นสิเจ้าคะ นอนที่นี่ไม่ได้นะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

ร่างเล็กแกร็นแกะเอาเสื่อที่ห่อม้วนร่างของมารดาออก ก่อนจะเขย่ากายที่เย็นชืดไปนานแล้วของนาง

ทว่าในระหว่างที่สายฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสียงร้องแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อยก็ดังขึ้น

หลี่อันหนิงมองไปยังช่วงขาของมารดาเห็นบางสิ่งกำลังขยับไหว นางจึงเลิกชุดสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตของมารดาขึ้น

บัดดลร่างเล็กของเด็กทารกที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ปรากฏแก่สายตา

ด้วยสัญชาตญาณ เด็กน้อยในวัยห้าขวบรีบถอดเสื้อคลุมด้านนอกอันเปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำฝนออกมาห่อร่างเล็กของน้องสาวเอาไว้ ส่วนตนเองก็เอาแต่เอ่ยพึมพำว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่สาวจะดูแลน้องเอง

หลี่อันหนิงกอดเด็กทารกเอาไว้ในอ้อมแขน ใช้ร่างกายเล็กจ้อยของตนกำบังลมฝนให้น้องน้อยอย่างกล้าหาญ

ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก็ค่อยๆ ซาลง แสงแลบแปลบปลาบบนท้องฟ้าทำให้มองเห็นรอบๆ ป่าได้อย่างชัดเจน

ร่างเล็กนั่งตากฝนอยู่บนเขาเป็นเวลาเนิ่นนาน เพราะหาหนทางกลับเรือนเฉกเช่นผู้ใหญ่ไม่ได้ กายของเด็กน้อยเริ่มสั่นสะท้านเสียงฟันของนางกระทบกันดังกึกกัก

ก่อนสติสุดท้ายของเด็กหญิงจะดับวูบไป หลี่อันหนิงคล้ายมองเห็นมารดาของตนที่นอนอยู่เบื้องหน้าลุกขึ้นมาตระกองกอดนางเอาไว้แนบอก ก่อนกระซิบน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม่อยู่นี่แล้ว

เสียงเพลงกล่อมเด็กที่มารดาเคยร้องกล่อมตนยามค่ำคืนยังคงดังก้องประทับในโสต หลี่อันหนิงหลับไปทั้งรอยยิ้มโดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนั้น

ทางด้านหลี่เจี๋ยที่พักอยู่ในหอพักของเหล่าบัณฑิตในสถานศึกษา เมื่อได้รับจดหมายแจ้งที่ทางตระกูลหลี่ส่งมา เขาทำเพียงเงียบไปไม่แสดงความรู้สึกใดใดออกมา ทำราวกับว่าเรื่องที่เขียนมาในจดหมายไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับตน

 

Continue a ler este livro gratuitamente
Escaneie o código para baixar o App

Último capítulo

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   บทส่งท้าย

    พานเยียนหลิงและเย่เสวียนจื่อมีบุตรชายหญิงด้วยกันถึงสี่คน พานจื่อหยวนแต่งงานกับหลานสาวแม่ทัพเจิ้งมีบุตรชายหญิงฝาแฝดด้วยกันสองคน ส่วนพานซืออวิ๋นได้แต่งงานกับเย่อิ่งเจินมีบุตรีสองคนและชายหนึ่งคน ชีวิตที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดของสามพี่น้องบัดนี้ดีพร้อมเกินกว่าจิตนาการในทุกฤดูใบไม้ผลิหญิงสาวจะพาครอบครัวและเจ้าเสือดำพี่น้องนั่งเรือกลับไปยังหมู่บ้านมู่โถวเพื่อเยี่ยมเยียนท่านย่าจวงปีต่อมาหลวงจีนอันคงในวัยสี่สิบห้าได้เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคประหลาด กล่าวคือเขานอนหลับแล้วสิ้นลมไปอย่างเงียบๆ ภายในห้องพัก ไม่สามารถตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตได้สิบห้าปีต่อมาท่านย่าจวงในวัยชราได้จากไปเช่นกัน ถึงกระนั้นพานเยียนหลิงก็ยังกลับไปที่หมู่บ้านมู่โถวเพื่อรำลึกถึงสิ่งที่ย่าจวงเคยมอบให้แก่ตนและน้องทั้งสองนางไม่มีสิ่งใดตอบแทนหญิงชรามีเพียงการดูแลหลานชายของนางให้มีชีวิตที่ดี เพื่อเป็นการกตัญญูต่อนางพานเยียนหลิงได้มอบจวนที่อยู่ในอำเภอตงผิงให้แก่จวงอี้ซิงและครอบครัว ทุกปีนางจะแบ่งเสบียงที่ได้รับจากที่ดินพระราชทานบางส่วนให้แก่พวกเขาณ ถนนเส้นหลักใจกลางเมืองหลวง“ตีมันให้ตาย!!เจ้าขอทานสกปรกตัวเหม็น”เสียงร้องโอดโอยด้

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน    ผลกรรมที่ควรได้รับ

    “เจ้ากลับมาแล้วหรือ ก่อนหน้านี้เกิดอันใดขึ้นกันแน่บอกเจิ้นมาให้หมด”เซี่ยฮ่องเต้มองไปยังเจ้าเสือดำสองพี่น้องที่นอนหมอบอยู่อย่างสงบด้วยท่าทีหวาดๆ ความจริงหลังจากที่ได้รับคำร้องขอเข้าเฝ้าพร้อมเสือดำสองตัวที่สร้างความปั่นป่วนไปทั่วเมืองหลวง พระองค์ก็ทรงอยากเห็นด้วยตาตนเองสักครั้ง ไม่คิดว่าจะมีขนาดใหญ่โตเช่นนี้พานเยียนหลิงเมื่อได้ยินเสียงความคิดของเซี่ยฮ่องเต้นางก็ลอบยิ้มให้กับตนเอง นี่เป็นทางเดียวที่นางจะสามารถนำเสี่ยวเจี่ยและเสี่ยวเกอมาอยู่ที่นี่ได้ คือต้องผ่านความเห็นชอบของเจ้าของแผ่นดิน“ความจริงเสือดำทั้งสองเป็นครอบครัวของหม่อมฉันเองเพคะ เมื่อครั้งยังเยาว์พวกเราเติบโตมาด้วยกัน หม่อมฉันกำพร้าแม่ส่วนแม่ของพวกมันก็ถูกพรากชีวิตไปเช่นกัน”“เจ้า...หมายความว่าอย่างไร”“แม่ของพวกมันถูกองค์ชายใหญ่ระดมคนมากมายตามสังหารเมื่อหลายปีก่อน ในช่วงเวลานั้นหม่อมฉันเองก็อยู่ที่นั่นด้วย”“นั่น!!..”พานเยียนหลิงเข้าใจว่าเซี่ยฮ่องเต้อาจรู้สึกผิดทว่าเรื่องนั้นก็ผ่านมานานแล้ว จึงไม่ควรเอ่ยถึงอีก“พวกมันไม่ถือสาเรื่องในอดีตแล้วเพคะ ทว่าหม่อมฉันยังมีเรื่องต้องกราบทูลพระองค์”หญิงสาวหยุดไปเล็กน้อยก่อนเอ่ยถึงเร

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   เสี่ยวเจี่ยเสี่ยวเกอช่วยเหลือ

    หลังจากที่ได้พบเสือดำสองพี่น้อง ชายหนุ่มก็ได้ติดตามพวกมันไปจนกระทั่งพบร่างของพานเยียนหลิงและฟู่อี้ที่นอนหมดสติอยู่ในหลุมดักสัตว์ คนทั้งสองถูกช่วยเหลือขึ้นมา ส่วนฟู่อี้ที่บาดเจ็บสาหัสถูกมัดติดกับหลังของเสี่ยวเกอวิ่งไปยังโรงหมอที่ใกล้ที่สุดเพื่อช่วยชีวิตเขาผู้ติดตามสองคนใช้วิชาตัวเบาทะยานตามไปมองภาพนั้นด้วยสีหน้าอึ้งงัน ไม่คิดว่าพวกตนที่มีวิชาตัวเบาที่ดีที่สุดกลับไม่สามารถตามเสือดำตัวนั้นได้ทันย้อนกลับมายังปัจจุบันคนของเย่เสวียนจื่อจัดการนักฆ่าที่เหลือที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือต่อให้ปล่อยเอาไว้คนเหล่านั้นก็คงไม่สามารถมีทางรอดชีวิต แต่ละคนไม่แขนขาดก็ขาขาดเพราะถูกเสี่ยวเกอและเสี่ยวเจี่ยจัดการ“เสี่ยวเจี่ยเด็กดี”หญิงสาวดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่มหลังจากที่รู้ว่าตนมิได้กำลังฝันไป แม้จะแต่งงานกับเขาแล้วพานเยียนหลิงก็ยังรู้สึกเขินอายทุกครั้งเมื่อต้องอยู่ในอ้อมแขนของเขาเสี่ยวเจี่ยที่นอนอยู่ด้านข้างใช้หัวดุนดันร่างของนางจนพานเยียนหลิงล้มลง ร่างบางกอดมันเอาไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับหลับตาซึมซับความคิดถึง“มันพาข้ามาพบเจ้าที่นี่”ร่างบางผินไปมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ“จริงหรือ ได้อย่างไรก

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ตกลงไปในหลุมดักสัตว์

    ท่ามกลางหุบเขาลึกพานเยียนหลิงแบกร่างที่แทบหมดสติของชายหนุ่มเอาไว้บนหลัง เสียงหอบหายใจของคนทั้งสองถี่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกย่างก้าวของนางมีเลือดของฟู่อี้ไหลหยดเป็นทางท้องฟ้ายามนี้กำลังอัสดง เสียงนกกาที่กำลังบินกลับรังกู่ร้องก้องสะท้านไปทั่วหุบเขา หญิงสาวที่กำลังหมดแรงแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า นางอยากจะภาวนาต่อสวรรค์ของให้ปล่อยพวกตนไปแต่ดูเหมือนคำร้องขอของนางจะถูกปฏิเสธ เมื่อร่างบางก้าวไปด้านหน้า พลันนางสัมผัสได้ถึงความเวิ้งว้างที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า สองร่างร่วงหล่นลงในหลุมขนาดใหญ่ พานเยียนหลิงหวีดร้องจนสุดเสียงฟู่อี้ทับอยู่บนร่างเล็กทว่ามิอาจขยับกายได้ หญิงสาวดิ้นรนอยู่นานกว่าจะนำร่างตนเองออกมาได้เป็นอิสระร่างบางมองขึ้นไปด้านบนด้วยสีหน้าซับซ้อน บัดนี้คนทั้งสองกำลังติดอยู่ในหลุมดักสัตว์ของนายพราน นางไม่คิดว่าในหุบเขาลึกเช่นนี้จะมีคนมาขุดหลุมใหญ่เอาไว้เสียได้ ทั้งนางและฟู่อี้ตอนนี้ถูกขังโดยสมบูรณ์ หากนักฆ่าเหล่านั้นตามมาทันพวกนางไม่มีทางรอดไปได้แน่กว่าสองชั่วยามที่หญิงสาวพยายามปีนป่ายออกจากหลุมลึก ไม่มีน้ำไม่มีอาหารหากต้องติดอยู่ที่นี่ก็ไม่ต่างจากการเฝ้ารอความตาย หญิงสาวมองชายหนุ่มที่บัดนี้นอนหายใจรว

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   วางแผนหลบหนี

    ทหารในเมืองหลวงถูกระดมกำลังพลออกตามหาหญิงสาวอย่างลับๆ รถม้าทุกคันเรือทุกลำต่างถูกตรวจค้นอย่างเข้มงวด ทว่าเรือลำที่พวกเขาโดยสารมีตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์จึงได้ถูกปล่อยผ่านพานเยียนหลิงและฟู่อี้ถูกขังเอาไว้ภายในห้องโดยสารหลายวันแล้ว อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นมากจากการดูแลของหญิงสาว นางฟังความคิดของคนที่เป็นหัวหน้าทำให้รู้ว่าพวกตนกำลังมุ่งหน้าไปที่ใดที่แท้จริงคนมากมายเหล่านี้ที่แต่งกายเลียนแบบทหารต้าเหลียงคือคนของตระกูลโจวที่เลี้ยงดูเอาไว้ และพวกเขายังเป็นพวกเดียวกับโจรป่าที่ถูกกำจัดไปเมื่อปีก่อนพานเยียนหลิงไม่คิดว่าจะยังหลงเหลือมากมายเพียงนี้ เป็นนางที่พลาดเองที่ไม่ตรวจสอบให้แน่ชัด หรือไม่บางทีคนเหล่านี้ก็ถูกแยกออกจากคนกลุ่มนั้นเพื่อคอยทำงานสกปรกให้กับตระกูลโจว“ฟู่อี้ อีกเพียงไม่นานก็จะถึงจุดหมายแล้ว แม้เจ้าจะยังบาดเจ็บภายในแต่เราคงรอนานกว่านี้ไม่ได้ เจ้าเชื่อใจข้าหรือไม่”ชายหนุ่มมองดวงตาดำขลับเปล่งประกายราวกับดวงดาวยามค่ำคืนของหญิงสาว เขาไม่รู้ว่านางรู้เรื่องทุกอย่างนี้ได้อย่างไร แต่เขาเชื่อใจหญิงสาวตรงหน้าอย่างเต็มเปี่ยมภาพเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อนผุดขึ้นมาในหัว เด็กสาวที่ต่อสู้ดิ้นรนเ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   พานซืออวิ๋นพูดได้แล้ว

    “เร็วเข้า!!รีบไปช่วยพี่สาวของข้า!!”“นี่!...อวิ๋นเอ๋อ!!เจ้าพูดได้แล้วหรือ”ชายหนุ่มตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงของเด็กสาวเป็นครั้งแรก“พี่เสวียนจื่อรีบไปช่วยพี่ใหญ่เร็วเข้า นางกำลังถูกพาตัวมุ่งหน้าไปทางอำเภอตงผิง”“เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร”เด็กน้อยได้รับสารมาเพียงเท่านี้ ยังไม่รู้ว่าพี่สาวถูกพาตัวไปทางบกหรือทางน้ำ ตอนนี้ก็ผ่านไปหลายชั่วยามแล้วพวกเขาจะต้องนำหน้าไปห่างไกล“ไม่ต้องถามแล้ว! แม้แต่พี่ฟู่อี้ตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสท่านต้องรีบไปช่วยพวกเขาโดยด่วน ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะสายเกินไป”เย่เสวียนจื่อสงสัยว่าเด็กน้อยรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรในเมื่อนางนอนป่วยไม่ได้สติมาตั้งแต่เมื่อคืน ทว่าเรื่องช่วยพานเยียนหลิงและฟู่อี้นั้นสำคัญยิ่งกว่าจึงมิได้ซักถามให้มากความ ชายหนุ่มรีบพาคนออกจากจวนเพื่อไปช่วยพวกเขาย้อนกลับไปเมื่อหลายชั่วยามก่อนพานเยียนหลิงนั่งรถม้ามุ่งหน้าไปยังตำหนักองค์หญิงใหญ่ที่อยู่นอกเมือง เมื่อถึงช่วงเส้นทางเปลี่ยวร้างไร้ผู้คน มือสังหารมากมายได้พุ่งเข้าปิดล้อมรถม้าของนางภายในเวลาเพียงไม่นานความโกลาหลก็เกิดขึ้น องครักษ์เงาทั้งหกรวมถึงฟู่อี้ได้ช่วยสกัดมือสังหารเหล่านั้น ทว่าคนน้อ

Mais capítulos
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status