Início / รักโบราณ / เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน / จุดเริ่มต้นของหญิงสาวผู้อาภัพ

Compartilhar

จุดเริ่มต้นของหญิงสาวผู้อาภัพ

Autor: zuey
last update Última atualização: 2025-08-05 12:08:09

“ฟู่!ฟู่!ฟู่! อื๊อออออ!!!”

“เบ่งอีก! ออกแรงเบ่งอีกหน่อย เด็กใกล้จะออกมาแล้ว”

เสียงฟ้าคำรามและสายฝนที่ตกกระทบหลังคาแข่งกับเสียงของหมอตำแย หญิงชราอายุราวห้าหกสิบปีที่ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งกาลเวลา ส่งเสียงเร่งหญิงสาวที่กำลังจะกลายเป็นมารดาด้วยสีหน้าลุ้นระทึก

แม้ใบหน้าชื้นเหงื่อของนางบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แต่ถึงกระนั้นก็ยินยอมทำตามที่หญิงชราเอ่ยอย่างไม่อิดออด เพราะนางรู้ดีว่าอีกเพียงไม่นานจะมีหนึ่งชีวิตที่ถือกำเนิดขึ้น

“นางหนู เจ้าต้องออกแรงมากกว่านี้ นี่ก็ผ่านไปหลายชั่วยามแล้ว ขืนเด็กยังไม่ออกมาทั้งเจ้าและเขาจะต้องเกิดอันตรายขึ้นแน่ สู้เข้าเพื่อลูกที่กำลังจะลืมตาดูโลกของเจ้า”

พานเยว่หลาน หญิงสาวร่างบางที่พึ่งกราบไหว้ฟ้าดินกับหลี่เจี๋ยได้เพียงไม่นาน เวลานี้นางกำลังพยายามทำหน้าที่ของมารดาอย่างสุดความสามารถ

ส่วนแม่เฒ่าจวงหมอตำแยประจำหมู่บ้านมู่โถวเองก็พยายามรีดเคล้นหน้าท้องนูนป่องของนาง เพื่อช่วยให้เด็กได้คลอดออกมาอย่างปลอดภัย

“ฟู่!ฟู่!..แม่เฒ่า!!ท่าน!!ต้อง!!ช่วยลูกของข้า!!..อื๊อออออ”

พานเยว่หลานเค้นแรงเฮือกสุดท้ายของตนเพื่อชีวิตน้อยๆ ที่นางเพียรทะนุถนอมมาเก้าเดือน และแล้วเสียงร้องไห้จ้าก็ดังขึ้นราวกับเสียงสวรรค์ที่ปลดปล่อยนางออกจากความทุกข์ทั้งมวล

“คลอดแล้ว!!คลอดแล้ว!! เป็นผู้หญิง!! เจ้าได้ลูกผู้หญิง ตัวขาวอวบอ้วนเชียวล่ะดีใจด้วยนะนางหนู เจ้าเก่งมากๆ เลย”

แม่เฒ่าจวงแสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมา แววตาอ่อนโยนของหญิงชรามองไปยังเด็กทารกตัวน้อยที่กำลังดิ้นอยู่ในอ้อมแขน ทว่ายังไม่ลืมเอ่ยชมหญิงสาวหลังจากได้เห็นความพยายามเพื่อให้บุตรสาวของนางได้เกิดออกมา

ถึงแม้อากาศภายนอกจะเย็นชื้นแต่หญิงสาวก็ร่างชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อกาฬ นางผงกหัวขึ้นมองหญิงชราที่กำลังทำความสะอาดเด็กทารกก่อนนางจะอุ้มห่อผ้ามาวางในอ้อมแขนของตน

“ขอบคุณแม่เฒ่าที่ช่วยพวกเราแม่ลูกเจ้าค่ะ”

พานเยว่หลานพยักหน้าให้แม่เฒ่าจวง พร้อมทั้งแสดงรอยยิ้มขอบคุณอย่างจริงใจ

“ขอบใจอันใดกัน มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว อีกอย่างสามีของเจ้าเองก็จ่ายตำลึงมามากโขเชียวล่ะ เพื่อให้ข้าช่วยพวกเจ้าแม่ลูกปลอดภัย เขารักเจ้ามากรู้หรือไม่”

“ข้ารู้”

หญิงสาวมองลูกน้อยในอ้อมแขนทั้งรอยยิ้ม

ที่ด้านนอกห้อง ครอบครัวตระกูลหลี่ต่างมารวมตัวกันเพื่อเฝ้ารอสมาชิกใหม่ ผู้เป็นบิดาอย่างหลี่เจี๋ยเดินวนไปวนเดินมาด้วยท่าทีร้อนรน ทว่าหลังจากที่ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องไห้จ้าจากภายใน เขาเองก็อุทานออกมาด้วยความปีติเช่นเดียวกัน

“ท่านแม่!! ฟังสิ!! ลูกของข้าคลอดแล้ว ขอบคุณสวรรค์ที่อวยพรให้พวกนางแม่ลูกปลอดภัย”

หลี่เจี๋ยจับร่างมารดาของตนเขย่าด้วยความดีใจ ทว่าแม่เฒ่าหม่าผู้มีศักดิ์เป็นย่ากลับถลึงตาใส่อีกฝ่ายด้วยสีหน้าไม่โมโห เสียงพูดของนางเต็มไปด้วยความรังเกียจพลางบิดปากอย่างไม่พอใจ

“เฮอะ!! ขอบคุณสวรรค์อันใด ต้องโทษสวรรค์มากกว่าที่ส่งนางมาให้เจ้า เพราะไม่อย่างนั้น....”

“เอาเถอะน่า ถึงอย่างไรเด็กคนนั้นก็เป็นหลานคนแรกของตระกูลหลี่ เจ้าก็พูดให้มันน้อยๆ หน่อย”

พ่อเฒ่าหลี่ผู้เป็นประมุขของเรือนจ้องตาเขม็งไปยังภรรยาคู่ยาก ก่อนจะเคาะปล้องยาสูบเสียงดัง

แม่เฒ่าหม่าเห็นว่าคนบ้านหลี่ไม่มีผู้ใดเข้าข้างตน นางจึงกระทืบเท้าเดินจากไปอย่างฉุนเฉียว ก่อนไปนางยังไม่ลืมหันมาสบถใส่สามีเฒ่าด้วยความหงุดหงิด

“ต่อให้นางคลอดทายาทตระกูลหลี่ออกมาแล้วอย่างไร อย่าหวังว่าข้าจะยอมรับนาง”

บุตรชายอย่างหลี่เจี๋ยเมื่อได้ยินมารดาเอ่ยเช่นนั้น เขาก็ได้แต่มองตามด้านหลังของนางไปอย่างท้อแท้

“ท่านพ่อ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเองไม่ใช้ความผิดของอาหลาน หากข้าไม่ดึงดันที่จะพานางกลับมาที่นี่ท่านและท่านแม่ก็คงจะไม่ผิดใจกัน เป็นข้าที่ทำให้พวกท่านผิดหวัง”

หลี่เจี๋ยแสดงท่าทางสำนึกผิดต่อผู้เป็นบิดา

เขาที่เป็นบุตรชายคนโตของบ้าน แบกความหวังของบิดาเอาไว้บนบ่า แต่เพราะตกหลุมรักพานเยว่หลานจนโงหัวไม่ขึ้นจึงทำให้บิดามารดาต้องผิดหวังอย่างช่วยไม่ได้

“เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วพูดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา อีกอย่างเจ้าพาสตรีท้องแก่ใกล้คลอดกลับมาที่นี่ชาวบ้านต่างก็เห็นตำตา คงไม่สามารถปล่อยให้พวกนางแม่ลูกไปอยู่ที่อื่นได้ ไม่อย่างนั้นตระกูลหลี่ของเราคงได้ถูกผู้อื่นครหาไม่รู้จักจบจักสิ้นแน่”

ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน

ตระกูลพานถูกกล่าวหาว่าทรยศต่อแผ่นดินไปเข้าร่วมกับฝ่ายของศัตรู ทำให้ถูกลงโทษประหารทั้งตระกูล ส่วนพานเยว่หลานเพราะแต่งเข้าตระกูลโจวทำให้นางรอดพ้นจากความตายไปได้

ภายหลังการประหารเสร็จสิ้นโจวหานอี้ได้เขียนหนังสือหย่ามอบให้นาง ทั้งยังเอ่ยวาจาเหยียดหยามเรื่องที่นางคือบุตรสาวของกบฏ และมิอาจใช้ชีวิตด้วยตนเองได้ถ้าไร้การปกป้องจากตน

หญิงสาวผู้ดื้อรั้น นางคิดออกจากตระกูลโจวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นหลังถูกสามีหย่าพานเยว่หลานจึงเดินทางรอนแรมมายังอำเภอตงผิงบ้านเกิดของบิดา

หญิงสาวใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ เพียงลำพัง อาศัยฝีมือการทำอาหารของตนเลี้ยงชีพโดยการขายซาลาเปาและขนมทานเล่น ร้านของนางตั้งอยู่ใกล้กับสำนักศึกษาหมิงหลัน และนั่นเป็นครั้งแรกที่หลี่เจี๋ยได้พบกับนาง

บัณฑิตหนุ่มแวะเวียนมายังร้านเล็กๆ ของหญิงสาวเป็นประจำโดยมิได้รู้ถึงภูมิหลังของนางแม้เพียงนิด เขารู้เพียงหญิงสาวไร้ญาติขาดบิดามารดา และเพราะความรักที่บังตาทำให้เขามองข้ามสิ่งที่นางเป็น

ชายหนุ่มถูกใจที่หญิงสาวกำพร้าอย่างพานเยว่หลาน แม้จะเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา แต่กลับมีกิริยาอ่อนหวานไม่ต่างจากบุตรสาวจากตระกูลขุนนาง

หลี่เจี๋ยตามเกี้ยวพาพานเยว่หลานอยู่นานหลายเดือน จนกระทั่งนางใจอ่อนยินยอมตามเขากลับไปยังตระกูลหลี่เพื่อกราบไหว้ฟ้าดินอยู่ด้วยกันอย่างถูกต้องตามประเพณี

หกปีต่อมา

หลังจากที่พานเยว่หลานได้ให้กำเนิดบุตรสาวคนโตนามว่าหลี่อันหนิง นางก็ได้ตั้งครรภ์อีกครั้งและครั้งนี้ในครรภ์ของนางมีเด็กทารกอยู่ถึงสองคน

“ฟู่!ฟู่! อื๊ออออ!! แม่เฒ่าจวงข้าเจ็บเหลือเกิน แรงทั้งหมดของข้าใช้ไปจนหมดแล้ว ข้าขอร้อง!ท่านเคย...ช่วยพวกเราแม่ลูกเอาไว้ ครั้งนี้ท่านช่วยพวกเราอีกครั้งได้หรือไม่”

พานเยว่หลานที่ถูกใช้งานอย่างหนักจากแม่เฒ่าหม่าผู้เป็นแม่สามี บัดนี้จึงทำให้ต้องคลอดก่อนกำหนด

ยิ่งช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาที่หลี่เจี๋ยไม่ค่อยกลับมาที่ตระกูลหลี่ โดยมักจะอ้างเหตุผลว่าตนเองกำลังคร่ำเคร่งอยู่กับการอ่านตำราสอบ นั่นยิ่งทำให้แม่เฒ่าหม่าได้ใจลงมือกับนางหนักขึ้นทุกวัน

ยิ่งได้รู้ว่าพานเยว่หลานตั้งครรภ์แฝด หญิงชราก็ยิ่งภาวนาต่อสวรรค์ขอให้สตรีผู้นั้นและลูกในท้องของนางตายไปในการคลอดครั้งนี้ เสี้ยนหนามที่ตำใจตนมาถึงห้าปีจะได้หายไปเสียที

“อาหลานเอ้ย มันเกินกำลังของหญิงชราเช่นข้าแล้ว ข้าขอโทษเจ้าจริงๆ”

แม่เฒ่าจวงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาของหญิงชราเอ่อคลอและเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด พานเยว่หลานมองใบหน้าสิ้นหวังของแม่เฒ่าจวงจากนั้นจึงกัดฟันทน

นางออกแรงเบ่งอีกครั้ง

“อื๊อออออ!!”

“อุแว๊!!!!”

เมื่อเห็นเด็กทารกคนแรกคลอดออกมาได้ แม่เฒ่าจวงก็แสดงสีหน้าตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด ก่อนจะเร่งเร้าให้หญิงสาวพยายามมากขึ้นกว่าเดิม

“จะ...เจ้าทำได้! เร็วเข้ายังมีอีกหนึ่งคน พยายามหน่อยอาหลาน นี่อาหลาน!!เจ้าอย่าพึ่งหมดสติ รีบฟื้นขึ้นมาก่อน อาหลาน!!”

ดูเหมือนสวรรค์จะไม่รับฟังคำภาวนาของนาง พานเยว่หลานที่ออกแรงเบ่งจนสุดกำลังในคราแรกได้หมดแรงและหมดสติไป

แม่เฒ่าจวงผู้เป็นหมอตำแยตบหน้านางหลายครั้งเพื่อให้นางฟื้นคืนสติ ทว่าร่างของหญิงสาวกลับนอนหลับตานิ่งไม่ไหวติง

“ฮื่อออ!! ท่านแม่!! ท่านแม่!! ตื่นสิเจ้าคะท่านแม่ ท่านเป็นอะไรไป”

เด็กหญิงตัวน้อยในวัยห้าขวบที่แอบเข้ามาภายในห้อง เขย่าร่างของมารดาพร้อมทั้งหยาดน้ำตาที่พรั่งพรูไม่ขาดสาย ตลอดห้าปีที่ผ่านมาในตระกูลหลี่นางมีมารดาคอยเป็นดังที่คุ้มภัย แม้จะถูกท่านย่าและอาสะใภ้รังแกเพียงใดนางก็ไม่เคยรู้สึกกังวล

ทว่าร่างเย็นชืดของมารดาที่อยู่ตรงหน้าทำหัวใจของหลี่อันหนิงรู้สึกหนาวเหน็บ ทั้งที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าแต่ด้วยสัญชาตญาณของเด็กน้อย นางรู้สึกเหมือนว่ามารดาจะไม่ลืมตาขึ้นมาอีกแล้ว

“เสี่ยวหนิง!! เจ้า!! เจ้าเข้ามาในนี้ได้อย่างไร ใครปล่อยให้เจ้าเข้ามาในนี้”

Continue a ler este livro gratuitamente
Escaneie o código para baixar o App

Último capítulo

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   บทส่งท้าย

    พานเยียนหลิงและเย่เสวียนจื่อมีบุตรชายหญิงด้วยกันถึงสี่คน พานจื่อหยวนแต่งงานกับหลานสาวแม่ทัพเจิ้งมีบุตรชายหญิงฝาแฝดด้วยกันสองคน ส่วนพานซืออวิ๋นได้แต่งงานกับเย่อิ่งเจินมีบุตรีสองคนและชายหนึ่งคน ชีวิตที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดของสามพี่น้องบัดนี้ดีพร้อมเกินกว่าจิตนาการในทุกฤดูใบไม้ผลิหญิงสาวจะพาครอบครัวและเจ้าเสือดำพี่น้องนั่งเรือกลับไปยังหมู่บ้านมู่โถวเพื่อเยี่ยมเยียนท่านย่าจวงปีต่อมาหลวงจีนอันคงในวัยสี่สิบห้าได้เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคประหลาด กล่าวคือเขานอนหลับแล้วสิ้นลมไปอย่างเงียบๆ ภายในห้องพัก ไม่สามารถตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตได้สิบห้าปีต่อมาท่านย่าจวงในวัยชราได้จากไปเช่นกัน ถึงกระนั้นพานเยียนหลิงก็ยังกลับไปที่หมู่บ้านมู่โถวเพื่อรำลึกถึงสิ่งที่ย่าจวงเคยมอบให้แก่ตนและน้องทั้งสองนางไม่มีสิ่งใดตอบแทนหญิงชรามีเพียงการดูแลหลานชายของนางให้มีชีวิตที่ดี เพื่อเป็นการกตัญญูต่อนางพานเยียนหลิงได้มอบจวนที่อยู่ในอำเภอตงผิงให้แก่จวงอี้ซิงและครอบครัว ทุกปีนางจะแบ่งเสบียงที่ได้รับจากที่ดินพระราชทานบางส่วนให้แก่พวกเขาณ ถนนเส้นหลักใจกลางเมืองหลวง“ตีมันให้ตาย!!เจ้าขอทานสกปรกตัวเหม็น”เสียงร้องโอดโอยด้

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน    ผลกรรมที่ควรได้รับ

    “เจ้ากลับมาแล้วหรือ ก่อนหน้านี้เกิดอันใดขึ้นกันแน่บอกเจิ้นมาให้หมด”เซี่ยฮ่องเต้มองไปยังเจ้าเสือดำสองพี่น้องที่นอนหมอบอยู่อย่างสงบด้วยท่าทีหวาดๆ ความจริงหลังจากที่ได้รับคำร้องขอเข้าเฝ้าพร้อมเสือดำสองตัวที่สร้างความปั่นป่วนไปทั่วเมืองหลวง พระองค์ก็ทรงอยากเห็นด้วยตาตนเองสักครั้ง ไม่คิดว่าจะมีขนาดใหญ่โตเช่นนี้พานเยียนหลิงเมื่อได้ยินเสียงความคิดของเซี่ยฮ่องเต้นางก็ลอบยิ้มให้กับตนเอง นี่เป็นทางเดียวที่นางจะสามารถนำเสี่ยวเจี่ยและเสี่ยวเกอมาอยู่ที่นี่ได้ คือต้องผ่านความเห็นชอบของเจ้าของแผ่นดิน“ความจริงเสือดำทั้งสองเป็นครอบครัวของหม่อมฉันเองเพคะ เมื่อครั้งยังเยาว์พวกเราเติบโตมาด้วยกัน หม่อมฉันกำพร้าแม่ส่วนแม่ของพวกมันก็ถูกพรากชีวิตไปเช่นกัน”“เจ้า...หมายความว่าอย่างไร”“แม่ของพวกมันถูกองค์ชายใหญ่ระดมคนมากมายตามสังหารเมื่อหลายปีก่อน ในช่วงเวลานั้นหม่อมฉันเองก็อยู่ที่นั่นด้วย”“นั่น!!..”พานเยียนหลิงเข้าใจว่าเซี่ยฮ่องเต้อาจรู้สึกผิดทว่าเรื่องนั้นก็ผ่านมานานแล้ว จึงไม่ควรเอ่ยถึงอีก“พวกมันไม่ถือสาเรื่องในอดีตแล้วเพคะ ทว่าหม่อมฉันยังมีเรื่องต้องกราบทูลพระองค์”หญิงสาวหยุดไปเล็กน้อยก่อนเอ่ยถึงเร

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   เสี่ยวเจี่ยเสี่ยวเกอช่วยเหลือ

    หลังจากที่ได้พบเสือดำสองพี่น้อง ชายหนุ่มก็ได้ติดตามพวกมันไปจนกระทั่งพบร่างของพานเยียนหลิงและฟู่อี้ที่นอนหมดสติอยู่ในหลุมดักสัตว์ คนทั้งสองถูกช่วยเหลือขึ้นมา ส่วนฟู่อี้ที่บาดเจ็บสาหัสถูกมัดติดกับหลังของเสี่ยวเกอวิ่งไปยังโรงหมอที่ใกล้ที่สุดเพื่อช่วยชีวิตเขาผู้ติดตามสองคนใช้วิชาตัวเบาทะยานตามไปมองภาพนั้นด้วยสีหน้าอึ้งงัน ไม่คิดว่าพวกตนที่มีวิชาตัวเบาที่ดีที่สุดกลับไม่สามารถตามเสือดำตัวนั้นได้ทันย้อนกลับมายังปัจจุบันคนของเย่เสวียนจื่อจัดการนักฆ่าที่เหลือที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือต่อให้ปล่อยเอาไว้คนเหล่านั้นก็คงไม่สามารถมีทางรอดชีวิต แต่ละคนไม่แขนขาดก็ขาขาดเพราะถูกเสี่ยวเกอและเสี่ยวเจี่ยจัดการ“เสี่ยวเจี่ยเด็กดี”หญิงสาวดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่มหลังจากที่รู้ว่าตนมิได้กำลังฝันไป แม้จะแต่งงานกับเขาแล้วพานเยียนหลิงก็ยังรู้สึกเขินอายทุกครั้งเมื่อต้องอยู่ในอ้อมแขนของเขาเสี่ยวเจี่ยที่นอนอยู่ด้านข้างใช้หัวดุนดันร่างของนางจนพานเยียนหลิงล้มลง ร่างบางกอดมันเอาไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับหลับตาซึมซับความคิดถึง“มันพาข้ามาพบเจ้าที่นี่”ร่างบางผินไปมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ“จริงหรือ ได้อย่างไรก

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ตกลงไปในหลุมดักสัตว์

    ท่ามกลางหุบเขาลึกพานเยียนหลิงแบกร่างที่แทบหมดสติของชายหนุ่มเอาไว้บนหลัง เสียงหอบหายใจของคนทั้งสองถี่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกย่างก้าวของนางมีเลือดของฟู่อี้ไหลหยดเป็นทางท้องฟ้ายามนี้กำลังอัสดง เสียงนกกาที่กำลังบินกลับรังกู่ร้องก้องสะท้านไปทั่วหุบเขา หญิงสาวที่กำลังหมดแรงแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า นางอยากจะภาวนาต่อสวรรค์ของให้ปล่อยพวกตนไปแต่ดูเหมือนคำร้องขอของนางจะถูกปฏิเสธ เมื่อร่างบางก้าวไปด้านหน้า พลันนางสัมผัสได้ถึงความเวิ้งว้างที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า สองร่างร่วงหล่นลงในหลุมขนาดใหญ่ พานเยียนหลิงหวีดร้องจนสุดเสียงฟู่อี้ทับอยู่บนร่างเล็กทว่ามิอาจขยับกายได้ หญิงสาวดิ้นรนอยู่นานกว่าจะนำร่างตนเองออกมาได้เป็นอิสระร่างบางมองขึ้นไปด้านบนด้วยสีหน้าซับซ้อน บัดนี้คนทั้งสองกำลังติดอยู่ในหลุมดักสัตว์ของนายพราน นางไม่คิดว่าในหุบเขาลึกเช่นนี้จะมีคนมาขุดหลุมใหญ่เอาไว้เสียได้ ทั้งนางและฟู่อี้ตอนนี้ถูกขังโดยสมบูรณ์ หากนักฆ่าเหล่านั้นตามมาทันพวกนางไม่มีทางรอดไปได้แน่กว่าสองชั่วยามที่หญิงสาวพยายามปีนป่ายออกจากหลุมลึก ไม่มีน้ำไม่มีอาหารหากต้องติดอยู่ที่นี่ก็ไม่ต่างจากการเฝ้ารอความตาย หญิงสาวมองชายหนุ่มที่บัดนี้นอนหายใจรว

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   วางแผนหลบหนี

    ทหารในเมืองหลวงถูกระดมกำลังพลออกตามหาหญิงสาวอย่างลับๆ รถม้าทุกคันเรือทุกลำต่างถูกตรวจค้นอย่างเข้มงวด ทว่าเรือลำที่พวกเขาโดยสารมีตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์จึงได้ถูกปล่อยผ่านพานเยียนหลิงและฟู่อี้ถูกขังเอาไว้ภายในห้องโดยสารหลายวันแล้ว อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นมากจากการดูแลของหญิงสาว นางฟังความคิดของคนที่เป็นหัวหน้าทำให้รู้ว่าพวกตนกำลังมุ่งหน้าไปที่ใดที่แท้จริงคนมากมายเหล่านี้ที่แต่งกายเลียนแบบทหารต้าเหลียงคือคนของตระกูลโจวที่เลี้ยงดูเอาไว้ และพวกเขายังเป็นพวกเดียวกับโจรป่าที่ถูกกำจัดไปเมื่อปีก่อนพานเยียนหลิงไม่คิดว่าจะยังหลงเหลือมากมายเพียงนี้ เป็นนางที่พลาดเองที่ไม่ตรวจสอบให้แน่ชัด หรือไม่บางทีคนเหล่านี้ก็ถูกแยกออกจากคนกลุ่มนั้นเพื่อคอยทำงานสกปรกให้กับตระกูลโจว“ฟู่อี้ อีกเพียงไม่นานก็จะถึงจุดหมายแล้ว แม้เจ้าจะยังบาดเจ็บภายในแต่เราคงรอนานกว่านี้ไม่ได้ เจ้าเชื่อใจข้าหรือไม่”ชายหนุ่มมองดวงตาดำขลับเปล่งประกายราวกับดวงดาวยามค่ำคืนของหญิงสาว เขาไม่รู้ว่านางรู้เรื่องทุกอย่างนี้ได้อย่างไร แต่เขาเชื่อใจหญิงสาวตรงหน้าอย่างเต็มเปี่ยมภาพเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อนผุดขึ้นมาในหัว เด็กสาวที่ต่อสู้ดิ้นรนเ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   พานซืออวิ๋นพูดได้แล้ว

    “เร็วเข้า!!รีบไปช่วยพี่สาวของข้า!!”“นี่!...อวิ๋นเอ๋อ!!เจ้าพูดได้แล้วหรือ”ชายหนุ่มตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงของเด็กสาวเป็นครั้งแรก“พี่เสวียนจื่อรีบไปช่วยพี่ใหญ่เร็วเข้า นางกำลังถูกพาตัวมุ่งหน้าไปทางอำเภอตงผิง”“เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร”เด็กน้อยได้รับสารมาเพียงเท่านี้ ยังไม่รู้ว่าพี่สาวถูกพาตัวไปทางบกหรือทางน้ำ ตอนนี้ก็ผ่านไปหลายชั่วยามแล้วพวกเขาจะต้องนำหน้าไปห่างไกล“ไม่ต้องถามแล้ว! แม้แต่พี่ฟู่อี้ตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสท่านต้องรีบไปช่วยพวกเขาโดยด่วน ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะสายเกินไป”เย่เสวียนจื่อสงสัยว่าเด็กน้อยรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรในเมื่อนางนอนป่วยไม่ได้สติมาตั้งแต่เมื่อคืน ทว่าเรื่องช่วยพานเยียนหลิงและฟู่อี้นั้นสำคัญยิ่งกว่าจึงมิได้ซักถามให้มากความ ชายหนุ่มรีบพาคนออกจากจวนเพื่อไปช่วยพวกเขาย้อนกลับไปเมื่อหลายชั่วยามก่อนพานเยียนหลิงนั่งรถม้ามุ่งหน้าไปยังตำหนักองค์หญิงใหญ่ที่อยู่นอกเมือง เมื่อถึงช่วงเส้นทางเปลี่ยวร้างไร้ผู้คน มือสังหารมากมายได้พุ่งเข้าปิดล้อมรถม้าของนางภายในเวลาเพียงไม่นานความโกลาหลก็เกิดขึ้น องครักษ์เงาทั้งหกรวมถึงฟู่อี้ได้ช่วยสกัดมือสังหารเหล่านั้น ทว่าคนน้อ

Mais capítulos
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status