Home / รักโบราณ / เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน / เหตุใดข้าได้ยินเสียงของนาง

Share

เหตุใดข้าได้ยินเสียงของนาง

Author: zuey
last update Last Updated: 2025-08-05 13:05:53

“อวัยวะภายในของนางและกระดูกหลายส่วนถูกทำลายจนสิ้น ต่อให้ช่วยได้ในตอนนี้นางก็คงอยู่ไม่พ้นเดือน ทำได้เพียงใช้สมุนไพรยื้อชีวิตไปเรื่อยๆ เท่านั้น อีกอย่างเราอยู่ในภารกิจที่เร่งด่วน จำเป็นต้องปล่อยนางไป เฮ่อ!! ช่างน่าเวทนานัก นางยังเด็กอยู่เลยกลับต้องมาพบกับชะตากรรมอันเลวร้ายเช่นนี้”

ชายหนุ่มรูปงามที่แต่งกายด้วยชุดสีดำทั้งตัว เส้นผมสีดำสนิทถูกรวบสูงและสวมกวานหยก เขาประคองร่างบางขึ้นอย่างทะนุถนอม แม้ร่างกายของนางจะเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน แต่ถึงกระนั้นเขากลับกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างไม่นึกรังเกียจ

ชายหนุ่มยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเลือดที่ใบหน้าของหลี่อันหนิงอย่างแผ่วเบา นางไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนตั้งแต่ที่มารดาจากไป หญิงสาวส่งยิ้มให้กับบุรุษตรงหน้าเพื่อเป็นการขอบคุณ จากนั้นเขาจึงก้มลงกระซิบที่ข้างหูของนาง

“ข้าคือขุนนางที่ฮ่องเต้ส่งมา เด็กน้อยเจ้ามีคำขออื่นใดหรือไม่”

หลี่อันหนิงได้ยินคำถามนั้นก็รู้แล้วว่าอีกไม่ช้าชีวิตของตนก็คงจะถูกพรากไป แต่ก็ยังดี อย่างน้อยนางสามารถเลือกที่จะตายด้วยน้ำมือของใครได้

เด็กสาวใช้แรงเฮือกสุดท้ายกระซิบเอ่ยตอบกลับไป

“รบกวนช่วย!!...ฆ่า!!ข้า อย่าให้ข้าต้องเจ็บปวด”

ชายหนุ่มลูบเส้นผมแห้งสากของหญิงสาวก่อนพยักหน้ารับ เพียงพริบตากริชคมกริบก็ถูกจ้วงแทงเข้าที่หัวใจของนางอย่างแม่นยำ ความเหน็บหนาวได้เข้ามาเยือนร่างของนาง ทว่าหัวใจของหลี่อันหนิงกลับรู้สึกอบอุ่นราวกับฤดูใบไม้ผลิกำลังมาเยือน

“ขะ...ขอบคุณ”

น้ำตาเม็ดโตรินไหลออกมาจากดวงตาของนาง ชายหนุ่มมองนัยน์ตาที่ไร้แววของเด็กสาวอย่างเหม่อลอย ทว่าในใจยังอดนึกไม่ได้ว่าดวงตาคู่นี้ช่างงดงามยิ่งนัก

ร่างของเด็กสาวซบอยู่กับอ้อมอกแสนอบอุ่นของชายหนุ่ม เวลานี้นางไม่มีความรู้สึกติดค้างใดใดกับโลกใบนี้อีกแล้ว และพร้อมจากไปอย่างสงบ

.

.

“เพล้ง!! ตุบ! นางเด็กบ้า!! แกกล้าดีอย่างไรถึงได้ทำชุดใหม่ของข้าขาดวิ่นเช่นนี้”

เฮือก!! เด็กสาวที่คิดว่าตนเองได้สิ้นใจไปแล้ว เวลานี้กลับได้ยินเสียงแหลมเสียดแก้วหูของอาเล็กที่ชอบรังแกตน

น้ำเสียงอันเกรี้ยวกราดดังออกมาจากห้องส่วนตัวของหลี่เจียนเจียน ถ้วยชาเคลือบอย่างดีราคาหลายสิบตำลึงที่หนี่ม่านม่านพี่สะใภ้คนรองมอบให้เป็นของขวัญในวันครบรอบวันเกิดอายุสิบห้าของนาง ถูกปาไปยังหัวของหลี่อันหนิงอย่างแม่นยำ

ร่างเล็กแกร็นนอนคุดคู้อยู่ที่ข้างผนังห้อง มือผมบางยกขึ้นแตะไปที่หัวของตน เมื่อรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่เปียกแฉะและความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นคือ เจ็บ

ดวงตาของเด็กสาวเบิกโพลงสีหน้าตกตะลึง นางยังไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดสิ่งใดขึ้นกับตน

ทว่าความทรงจำสุดท้ายคือร่างของนางอยู่ภายใต้อ้อมแขนของท่านขุนนาง เมื่อนึกขึ้นได้หลี่อันหนิงก็รีบลูบคลำไปที่ร่างกายของตน ไม่มี! ไม่มีเลย! ไม่มีกริชเล่มนั้น

หลี่เจียนเจียนเห็นหลานสาวที่ไม่ต่างจากทาสในเรือนแสดงท่าทางประหลาดและไม่สนใจในคำพูดของตน ความโกรธเกรี้ยวที่มีก่อนหน้านี้ยิ่งกระพือขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า

“นางเด็กสารเลว! แกกล้าไม่สนใจคำพูดของข้าหรือ เช่นนั้นก็อย่าอยู่เลย”

ร่างสูงกว่ายกเท้าถีบไปยังเด็กสาวที่นั่งทำสีหน้างงงันอยู่ที่พื้น หลี่อันหนิงราวกับได้ยินสัญญาณบางอย่าง นางรีบกระโดดหลบทำให้หลี่เจียนเจียนเสียหลังล้มหน้าทิ่มผนังเสียงดังสนั่น

“ปั้ง!! กรี๊ด!! เจ้า! เจ้า! นางเด็กบ้า กล้าดีอย่างไรถึงหลบข้า ดีวันนี้ข้าหลี่เจียนเจียนจะตีเจ้าให้ตาย”

เด็กสาวผู้ที่ยังไม่รู้ว่าควรจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร ก่อนจะถูกผู้เป็นอาตีด้วยไม้เกาหลัง ร่างเล็กราวกับลูกสัตว์ก็พุ่งมาจากหน้าประตูห้องที่เปิดอยู่ ชนเข้าด้านหลังหลี่เจียนเจียนจนหัวคะมำ

หลี่อันหนิงมองเห็นเด็กน้อยในชุดเก่าขาดที่แสนคุ้นเคย ดวงตาของนางเบิกกว้างอย่างตกตะลึง นัยน์ตากลมโตกะพริบถี่ๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อ

เด็กสาวยกมือขึ้นขยี้ดวงตาของตนหลายครั้ง ทว่าภาพตรงหน้าก็ยังคงแจ่มชัดเช่นเดิม

“จะ...เจ้า!!ซะ...ซางเป่า เจ้าคือซางเป่า น้องสาวของข้า”

แววตาของเด็กสาวสั่นไหวสะท้อนความเจ็บปวดลึกล้ำ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนไม่สามารถทำสิ่งใดได้เลยเมื่อน้องสาวถูกพรากไปโดยคนแปลกหน้า

หลี่อันหนิงยังคงจดจำสายตาหวาดกลัวของเด็กน้อยในวันนั้น ที่มองมายังตนเพื่อขอความช่วยเหลือได้อย่างชัดเจน

นางพุ่งเข้าไปกอดร่างเล็กเอาไว้ในอ้อมแขน ก่อนปล่อยโฮออกมาเสียงดัง

แม้แต่หลี่เจียนเจียนที่ล้มอยู่ยังแสดงสีหน้างงงัน หญิงสาวสัมผัสร่างเล็กของน้องสาวแผ่วเบา เมื่อพบว่ามันอบอุ่นราวกับมีชีวิตจริงๆ ทำให้นางรู้แล้วว่าตนเองมิได้กำลังฝันไป

นางย้อนเวลากลับมามีชีวิตอีกครั้ง

“ฮื่ออออ!!! ซางเป่าน้องน้อยของข้า ซางเป่า!! ซางเป่า!! พี่ขอโทษ ขอโทษที่อ่อนแอ ขอโทษที่ช่วยเหลืออะไรเจ้าไม่ได้เลย”

ดวงตาร้าวรานแฝงไว้ด้วยความเศร้าโศกอย่างลึกซึ้งมองไปยังร่างเล็กของน้องสาว เมื่อเห็นหลี่ซางเป่าแสดงสีหน้างุนงงนางจึงยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนและพยายามกลั้นน้ำตาไว้อย่างสุดความสามารถ

“ซางเป่าของพี่เจ้ากลับมาแล้ว”

“ใช่แล้วข้าคือซางเป่า ท่านคิดว่าข้าเป็นใครเล่าพี่สาวคนโง่ ข้าอยู่ที่นี่ตลอดมิได้ไปที่ใดเสียหน่อย”

หลี่อันหนิงมองไปยังน้องสาวของตนที่ตัวเล็กยิ่งกว่าเด็กสี่ขวบ ทำให้นางนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต

วันนี้เป็นวันที่นางถูกหลี่เจียนเจียนตีจนต้องนอนซมเพราะเผลอทำชุดใหม่ที่ต้องใส่ไปดูตัวของนางขาด ทว่าหลี่ซางเป่าที่เข้ามาช่วยนางผู้เป็นพี่สาวอย่างกล้าหาญ ทำให้สองพี่น้องถูกตีจนช้ำไปทั้งตัวและถูกสั่งให้อดอาหารอยู่หลายวัน

เอ๊ะ!! เมื่อสักครู่ซางเป่าพูดหรือ นางพูดได้แล้วหรือ

หลี่อันหนิงจ้องเด็กน้อยตรงหน้าเพื่อรอฟังว่านางจะพูดสิ่งใดขึ้นมาอีก ทว่ากลับเป็นเสียงของหลี่เจียนเจียนที่ดังขึ้นภายในหัวของนาง

“พวกตัวไร้ค่าเจ้ากล้าเมินข้าหรือ คอยดูซิว่าข้าจะจัดการกับพวกเจ้าอย่างไร”

หลี่เจียนเจียนคว้าไม้เกาหลังที่วางอยู่ไม่ไกล หวังตีสองพี่น้องทีเผลอ

แต่หลี่อันหนิงกลับว่องไวกว่า นางรีบคว้าร่างของหลี่ซางเป่าอุ้มวิ่งหายออกจากห้องไป เด็กสาวเร่งฝีเท้าออกจากเรือนตระกูลหลี่ตรงไปยังเรือนของแม่เฒ่าจวงทันที

ร่างผอมบางหอบหายใจถี่ก่อนจะวางหลี่ซางเป่าลง

“เราอยู่ที่นี่ก่อนสักพัก รอให้หลี่เจียนเจียนหายโกรธแล้วค่อยกลับไป”

“นางคงจะหายโกรธหรอก ข้าว่านางจะโมโหมากยิ่งกว่าเดิมที่ท่านพาข้าวิ่งหนีมาเช่นนี้”

เอ๊ะ!! อีกแล้ว ข้าได้ยินเป่าเอ๋อพูดอีกแล้ว เด็กสาวนั่งยองๆ จับหัวไหล่ที่มีแต่กระดูกของน้องสาวหันเข้าหาตน แล้วใช้สายตาสำรวจนางด้วยท่าทางรู้สึกฉงน

“ซางเป๋าน้อย น้องพูดได้ตั้งแต่เมื่อใด”

“ข้าพูดเมื่อใดกันท่านยังสติดีอยู่หรือไม่”

ดวงตาเด็กสาวเบิกโพลง เมื่อไม่เห็นน้องสาวขยับปาก ทว่าตนเองกลับได้ยินเสียงของนาง

นอกจากเสียงของหลี่ซางเป่าแล้วภายในหัวของหลี่อันหนิงยังมีเสียงของคนในหมู่บ้านที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

เด็กสาวยกมือขึ้นกุมหัวตนเอาไว้ ใบหน้าผอมที่มีแต่กระดูกของนางเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

แม่เฒ่าจวงผู้ที่เดินออกมาดูสองพี่น้องหลังจากได้ยินเสียงสนทนาที่หน้าเรือน เมื่อเห็นใบหน้าของเด็กสาวอาบย้อมไปด้วยเลือดหญิงชราก็แสดงสีหน้าตกใจออกมา

“เกิดอะไรขึ้น!! อันหนิงเจ้าเป็นอะไร อาซิงรีบไปตามท่านหมอเร็วเข้า”

“มะ..ไม่!! ข้าไม่เป็นอันใดเจ้าค่ะท่านย่าจวง”

เด็กสาวยกมือขึ้นห้ามแม่เฒ่าจวงเอาไว้ เลือดที่ไหลออกจากบาดแผลบัดนี้เริ่มแห้งติดใบหน้าบ้างแล้ว นางยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดลวกๆ ก่อนส่งยิ้มให้หญิงชราเพื่อบอกว่าตนไม่เป็นอะไร

ไม่จำเป็นต้องไต่ถามแล้วว่าก่อนหน้านี้เกิดสิ่งใดขึ้นกับพวกนางพี่น้อง แค่ดูก็รู้ว่าต้องถูกคนบ้านหลี่ทำร้ายมาแน่นอน

“อันหนิงแต่หัวของเจ้า...”

“ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ เจ้าค่ะ”

หลี่อันหนิงส่ายหน้า นางค่อยๆ ควบคุมการได้ยินที่เกิดขึ้นภายในหัวของตนอย่างช้าๆ จนกระทั่งมีเพียงเสียงความคิดของแม่เฒ่าจวง จวงอี้ซิงผู้เป็นหลานชายและหลี่ซางเป่าเท่านั้นที่นางได้ยิน

เด็กสาวรู้สึกทึ่งกับความสามารถที่แปลกใหม่นี้ยิ่งนัก

“ขอบคุณที่เป็นห่วงพี่นะ”

หลี่อันหนิงส่งยิ้มอบอุ่นไปให้น้องสาว ใบหน้าซีดเซียวของนางมองไปยังแม่เฒ่าจวงก่อนที่สติทั้งหมดจะดับวูบไป

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ริ่มกักตุนเสบียง

    ณ เรือนตระกูลหลี่“กลับมาแล้วหรือเจ้าพวกตัวซวย หายหัวไปทั้งคืนยังกล้ากลับมาที่นี่อีกนะ”เสียงแหลมสากของแม่เฒ่าหม่าดังขึ้นด้านหลัง ในระหว่างที่สองพี่น้องกำลังย่องกลับไปยังห้องเก็บฟืน“ท่านย่า”หญิงชรามีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย ที่เด็กสาวหันมาพูดกับตนด้วยสีหน้าเย็นชา ทั้งที่ในยามปกติมักจะแสดงท่าทีขลาดกลัวเป็นครั้งแรกที่ได้พบหญิงชราหลังจากย้อนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง หลี่อันหนิงกำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธแค้นที่ปะทุขึ้นภายในใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเป็นเพราะหญิงชราผู้นี้ วันหน้านางจะต้องตอบแทนอย่างสาสมให้สมกับที่ครอบครัวของตนได้รับมาหลี่อันหนิงสบถสาบานในใจ“ท่าย่ามีอะไรจะใช้ข้าหรือ”เด็กสาวถามเสียงห้วน ไร้ท่าทีขลาดกลัวดั่งเช่นวันวาน“วันนี้พวกแกสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้ทานอาหาร ต้องทำงานที่เหลือจากเมื่อวานให้เสร็จทั้งหมด จากนั้นก็ขึ้นเขาไปเก็บผักป่ามาซะ”หลี่อันหนิงบิดปากเล็กน้อย ห้ามทานอาหารหรือ อาหารที่แม้แต่หมูยังไม่อยากทานใครมันจะกลืนลงท้องได้ เด็กน้อยทั้งสองไม่ตอบโต้ กลับทำตามที่หญิงชราสั่งอย่างว่าง่าย ซึ่งต่างจากท่าทีเฉยชาที่แสดงออกหลี่เจียนเจียนเดินผ่านสองพี่น้องที่กำล

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ความลับที่ได้รู้โดยบังเอิญ

    กลางดึก ในระหว่างที่พี่น้องกำลังหลับสนิท เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังก้องสะท้านขึ้นที่ด้านนอกถ้ำ หลี่อันหนิงและหลี่ซางเป่าสะดุ้งรู้สึกตัวขึ้นพร้อมกันเด็กสาวมิได้เล่าเรื่องที่ตนได้ยินเจ้าก้อนขนสีดำพูดคุยกันให้น้องสาวฟัง ไม่คิดว่าแม่ของมันจะกลับมาในคืนนี้ ในระหว่างที่หลี่อันหนิงกำลังคิดหาทางหนี เสียงร้องครางด้วยความเจ็บปวดของเจ้าสัตว์ร้ายด้านนอกดังขึ้นแผ่วเบาในหัวของนางได้ยินเสียงของมันรำพึงถึงลูกน้อยทั้งสอง เด็กสาวมองไปยังฝั่งตรงข้ามของบ่อน้ำร้อน ก่อนตัดสินใจเดินออกไปดูในความมืดสลัวราง หลี่ซางเป่าจับแขนเสื้อของพี่สาวเอาไว้มั่น“พี่ใหญ่ไปไหนหรือ”“ซางเป่ารอพี่อยู่ที่นี่ได้หรือไม่ ไม่นานพี่จะกลับมา”เด็กน้อยส่ายหน้าปฏิเสธแสดงท่าทีหวาดกลัว นางเห็นน้องน้อยแสดงท่าทางเช่นนั้นออกมา ก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ“ได้ๆ เช่นนั้นก็ไปด้วยกันเถิด”หญิงสาวจับมือของน้องสาวเดินออกมาทางปากถ้ำ ที่ยังคงได้ยินเสียงร้องครางของสัตว์บาดเจ็บชัดเจน เมื่อไปถึงบริเวณปากถ้ำที่นั่นมีคบเพลิงมากมายถูกจุดโดยมนุษย์ดวงตาดำสนิทของเจ้าสัตว์ร้ายจ้องมองมายังนางและน้องสาวที่ซ่อนตัวอยู่ เจ้าก้อนขนทั้งสองที่ไม่รู้ว่าตามมาตั้งแ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ความสามารถของหลี่ซางเป่า

    หลี่อันหนิงพยักหน้าพลางลูบผมของเด็กน้อยซางเป่าอย่างภูมิใจ ตอนนี้ตนเองเป็นเพียงเด็กเท่านั้นไม่อาจทำตามใจตนดั่งเช่นผู้ใหญ่ได้ หากต้องการปกป้องน้องทั้งสองนางจำต้องมีอำนาจในมือและแล้วหลี่อันหนิงก็หวนกลับไปนึกถึงใบหน้าอันหล่อเหลาที่แสนเย็นชาของท่านขุนนางหนุ่ม เพียงเท่านั้นในหัวใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นอย่างแปลกประหลาด“พี่ใหญ่ข้ารู้ว่าที่ใดที่เราสามารถใช้นอนได้”เด็กสาวมองหน้าน้องน้อยของตนด้วยสีหน้าสนใจ หลี่ซางเป่าเดินลิ่วนำหน้าไปเหมือนกับคุ้นเคยเส้นทางบนภูเขา หลี่อันหนิงผู้เป็นพี่สาวรีบวิ่งตามจนกระทั่งทั้งสองไปถึงผาหินที่มีต้นไม้และเถาวัลย์ขึ้นรกชัฏแห่งหนึ่ง“เป่าเอ๋อเราใช้ที่นี่นอนไม่ได้หรอกนะ มันรกเกินไปอีกอย่างอาจมีงูพิษออกมาก็ได้ รู้หรือไม่ว่ามันอันตราย”หลี่ซางเป่าเกาหัวตนเองเบาๆ นางแสดงสีหน้ามั่นใจก่อนจะหันไปดึงแขนเสื้อของพี่สาว“ได้เรานอนที่นี่ได้ นางบอกว่าคืนนี้ให้เรานอนที่นี่”นางหรือ...ใครกัน หลี่อันหนิงมองใบหน้าที่เล็กกว่าฝ่ามือของน้องสาวอย่างงุนงง สายตาสำรวจมองไปรอบๆ ไม่เห็นมีที่ใดเลยที่จะสามารถใช้นอนได้ แล้วเหตุใดซางเป่าถึงพูดเช่นนั้นออกมา“ใครเป็นคนบอกน้องหรือ เป่าเอ๋อ”“ท่านแ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ค้นพบถ้ำลับ

    แม่เฒ่าจวงจีบปากจีบคือเอ่ย พลางหันไปถามความเห็นของเหล่าจีนมุงที่ตอนนี้เริ่มมากขึ้นทุกทีหลี่เจียนเจียนผู้ที่ถูกตามใจมาตั้งแต่ยังเล็ก คิดไม่ถึงว่าจะถูกหญิงชราตรงหน้าตอกกลับเช่นนี้ นางกำหมัดกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ ก่อนตวาดแหวออกไปอีกครั้ง“เจ้า!! ยายเฒ่า เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใด ข้าบอกให้ส่งนางเด็กสารเลวสองคนนั้นออกมา”ใบหน้าของหลี่เจียนเจียนเริ่มแดงก่ำด้วยความโกรธ นางไม่รู้วิธีจัดการกับคนอย่างหญิงชราผู้นี้ เพราะที่ผ่านมาเป็นนางที่เป็นผู้กระทำมาตลอด“เจ้าหมายความว่าอย่างไร เรือนหลังนี้มีเพียงข้าและหลานชายอาศัยอยู่ หากจะพูดว่ามีเด็กสารเลวที่นี่ก็มีแต่เจ้าคนเดียว”แม่เฒ่าจวงลอยหน้าลอยตาเอ่ย โดยไม่สนใจในใบหน้าที่เริ่มเขียวคล้ำดำมืดของหลี่เจียนเจียน“กรี๊ด!!! ยายเฒ่าจวง กล้าว่าข้าสารเลวหรือ”หญิงสาวพุ่งเข้าใส่แม่เฒ่าจวงแต่ถูกจวงอี้ซิงเอาตัวขวางเอาไว้ เขาและนางอายุสิบเจ็ดเท่ากันทว่าเด็กหนุ่มกลับสูงใหญ่และแข็งแรงมากกว่า อาจเพราะเขาทำงานหนักมาตั้งแต่ยังเล็กหลี่เจียนเจียนไม่สนใจว่าคนที่ขวางทางตนจะเป็นใคร นางใช้เล็บข่วนเด็กหนุ่มตรงหน้าเพื่อระบายโทสะของตน แต่สิ่งที่หลี่เจียนเจียนทำไม่สามารถสร้างความ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   หลี่เจียนเจียนอาละวาด

    “อันหนิง!! อันหนิงลูกแม่ ลูกต้องช่วยน้องชายของเจ้านะ อย่าปล่อยให้เขาต้องเดินทางผิดเช่นในอดีต บัดนี้มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่สามารถนำทางให้เขากลับมาเดินในเส้นทางที่ถูกต้องได้”ในความมืดมิดอันเวิ้งว้าง เด็กสาวได้ยินเสียงคุ้นเคยของผู้เป็นมารดาดังแว่วอยู่ไกลๆ นางมองสถานที่ที่ไม่คุ้นตานี้ด้วยสีหน้าสงสัย แม้รอบกายจะมืดทะมึนแต่กลับมิได้ให้บรรยากาศที่น่าหวาดกลัวหลังจากเงี่ยหูฟังว่าเสียงของมารดามาจากที่ใด นางจึงตัดสินใจเดินตามเสียงนั้น กระทั่งได้เห็นภาพเหตุการณ์ของชายหนุ่มรูปงามในชุดขาว ราวกับเทพสงครามกำลังเข่นฆ่าสังหารผู้อื่นด้วยใบหน้าเฉยชาเด็กสาวตกใจกับภาพตรงหน้าจนถอยกรูดไปด้านหลัง ทว่าภายในใจกลับคิดว่าดวงตาของคนผู้นี้ช่างดูคุ้นเคยยิ่งนักเมื่อหลี่อันหนิงมองเพ่งมองให้ชัดๆ นางเห็นไฝเม็ดเล็กที่อยู่ใต้ดวงตาขวาของเขาแล้วภาพของเด็กชายตัวน้อยที่ถือตำราในมือก็ผุดขึ้นมาในหัวของนาง บ้านหลี่มีเพียงเด็กสองคนที่เกิดมาพร้อมกัน และพวกเขามีไฝน้ำตาอยู่คนละฝั่งหลี่ซางเป่ามีไฝเม็ดเล็กใต้ดวงตาข้างซ้าย เช่นนั้นเขาก็คือหลี่อี้เจ๋อ น้องชายคนรองของนาง ทว่าภาพตรงหน้ามันคืออันใด เหตุใดเขาถึงได้กลายเป็นคนโหดเหี้ยมอำ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   เหตุใดข้าได้ยินเสียงของนาง

    “อวัยวะภายในของนางและกระดูกหลายส่วนถูกทำลายจนสิ้น ต่อให้ช่วยได้ในตอนนี้นางก็คงอยู่ไม่พ้นเดือน ทำได้เพียงใช้สมุนไพรยื้อชีวิตไปเรื่อยๆ เท่านั้น อีกอย่างเราอยู่ในภารกิจที่เร่งด่วน จำเป็นต้องปล่อยนางไป เฮ่อ!! ช่างน่าเวทนานัก นางยังเด็กอยู่เลยกลับต้องมาพบกับชะตากรรมอันเลวร้ายเช่นนี้”ชายหนุ่มรูปงามที่แต่งกายด้วยชุดสีดำทั้งตัว เส้นผมสีดำสนิทถูกรวบสูงและสวมกวานหยก เขาประคองร่างบางขึ้นอย่างทะนุถนอม แม้ร่างกายของนางจะเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน แต่ถึงกระนั้นเขากลับกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างไม่นึกรังเกียจชายหนุ่มยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเลือดที่ใบหน้าของหลี่อันหนิงอย่างแผ่วเบา นางไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนตั้งแต่ที่มารดาจากไป หญิงสาวส่งยิ้มให้กับบุรุษตรงหน้าเพื่อเป็นการขอบคุณ จากนั้นเขาจึงก้มลงกระซิบที่ข้างหูของนาง“ข้าคือขุนนางที่ฮ่องเต้ส่งมา เด็กน้อยเจ้ามีคำขออื่นใดหรือไม่”หลี่อันหนิงได้ยินคำถามนั้นก็รู้แล้วว่าอีกไม่ช้าชีวิตของตนก็คงจะถูกพรากไป แต่ก็ยังดี อย่างน้อยนางสามารถเลือกที่จะตายด้วยน้ำมือของใครได้เด็กสาวใช้แรงเฮือกสุดท้ายกระซิบเอ่ยตอบกลับไป“รบกวนช่วย!!...ฆ่า!!ข้า อย่าให้ข้าต้อ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status