หน้าหลัก / โรแมนติก / เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย / ตอนที่ 2 พวกเจ้าช่างน่ารังเกียจเสียจริง

แชร์

ตอนที่ 2 พวกเจ้าช่างน่ารังเกียจเสียจริง

ผู้เขียน: Jiulin
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 22:09:14

เพล้ง !

เสียงกระเบื้องเคลือบตกลงกระทบกับพื้นแตกกระจายไปทั่วทั้งพื้นห้องน้ำหวานสีแดงสดสาดกระเซ็นถูกปลายกระโปรงของหยางซูฉิน ไม่เพียงเท่านั้นนางยังยกมือขึ้นตบไปที่ใบหน้าของตนเองแรงๆ ไปหนึ่งครั้ง ลู่เหยียนซินมองนางด้วยความตื่นตะลึง

'จะหาเรื่องใส่ร้ายข้าทั้งทีถึงกลับต้องลงทุนทำร้ายตนเองถึงเพียงนี้เลยงั้นหรือ’

"พระชายาหม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจโปรดระงับโทสะด้วยเพคะ"

หยางซูฉินทรุดตัวนั่งลงกับพื้นห้องนางมองมาที่ลู่เหยียนซินด้วยแววตาที่ชิงชัง เรียวปากของนางเหยียดยิ้มออกมาพลางบีบน้ำตาให้ไหลอาบลงมาดูแล้วน่าสงสารยิ่งนัก

เสียงร้องไห้คร่ำครวญของนางสร้างความรำคาญให้แก่ลู่เหยียนซินผู้เป็นเจ้าของห้องนี้เป็นอย่างมาก นางจ้องมองการกระทำของหยางซูฉินด้วยแววตาแข็งกร้าวจนหยางซูฉินเองยังรู้สึกขนลุกขนชันไปทั่วทั้งร่างกาย

หากเป็นแต่ก่อนลู่เหยียนซินคงจะอาระวาดหนักไปแล้วแต่วันนี้นางกลับนิ่งเงียบนั่งมองหยางซูฉินแสดงละครด้วยสีหน้านิ่งเฉย ลู่เหยียนซินกรอกตาแล้วมองไปที่หยางซูฉินผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวงามกิริยามารยาทเรียบร้อยอ่อนหวาน นางเผยตัวตนที่เลวทรามให้ลู่เหยียนซินเห็นมานับครั้งไม่ถ้วนแต่กลับไม่มีผู้ใดมองเห็นกิริยานั้นเสียที

ปัง!

ประตูห้องนอนของนางถูกถีบออกด้วยฝ่าเท้าของบุรุษชุดคลุมสีเขียวหยกใบหน้าหล่อเหลาอันไร้ที่ติแต่กลับมีแววตาแข็งกร้าวดุจเหยี่ยวที่มองมายังลู่เหยียนซินก่อนสลับมองไปที่หยางซูฉิน

เมื่อเห็นสภาพนางที่นั่งจมปุกอยู่บนพื้นห้องและเห็นเสี้ยวใบหน้าของนางนั้นมีรอยแดงจากฝ่ามือปรากฎขึ้น ความโกรธเกรี้ยวก็เริ่มฉายชัดในแววตาของอ๋องฉิน

เขาย่างกรายเข้ามาหาลู่เหยียนซินออกแรงดึงแขนนางให้ลุกขึ้นจากเตียงนอนและยกมือขึ้นตบเข้าไปที่ใบหน้าของนางฉาดหนึ่งจนนางล้มลงไปกับพื้น ตบนางแรงมากจนกระทั่งใบหน้าสะบัดไปด้านข้างเลยทีเดียว

เขาย่อตัวลงใช้สองนิ้วออกแรงบีบที่ลำคอของนางคล้ายมีเจตนาจะบีบให้กระดูกแหลกคามืออย่างไรอย่างนั้น ดวงตาเกรี้ยวกราดเหมือนพายุอันบ้าคลั่งกัดฟันกรอดแล้วพูดขึ้นว่า

"เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ"

มุมปากของลู่เหยียนซินมีเลือดไหลออกมาแล้ว นางรู้สึกเจ็บมากแต่ก็ยังฝืนยิ้มขึ้นอย่างยากลำบากพร้อมจ้องหน้าเขา

"ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าอย่าได้แตะต้องหยางซูฉินอีกไม่เช่นนั้นข้าจะหักมือเจ้าทิ้งเสีย"

"ท่านอ๋องโปรดอย่าทำร้ายพระชายาเลยเพคะเป็นหม่อมฉันที่ไม่ดีเอง พระชายาไม่ชอบที่หม่อมฉันเข้ามาที่จวนของท่าน แต่ว่าข้า…ข้าเพียงแค่ทนคิดถึงท่านอ๋องไม่ไหว ฮือๆ"

ลู่เหยียนซินรู้สึกสะอิดสะเอียนกับคำพูดของนางอยู่ไม่น้อยในช่วงเวลาที่เขาหันไปมองหยางซูฉินเพียงครู่เดียวนั้นลู่เหยียนซินก็รีบดึงเอาปิ่นปักผมออกมาแล้วปักไปที่ต้นขาของอ๋องฉินอย่างแรงจนเขาต้องยอมปล่อยมือออกจากใบหน้าของนาง ทำให้ลู่เหยียนซินหลุดพ้นจากพันธนาการนั้นชั่วคราว

"ท่านอ๋อง! เจ็บมากหรือไม่เพคะ" หยางซูฉินเองก็แลดูจะตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงรีบลุดเข้ามาดูแผลของอ๋องฉินด้วยความรวดเร็ว

ลู่เหยียนซินกระเถิบตัวถอยห่างจากคนทั้งคู่นางถุยเลือดลงบนพื้นห้องพลางจ้องมองพวกเขาด้วยแววตาที่รังเกียจอย่างไม่คิดจะปกปิดเลยแม้แต่น้อย

ลี่ถิงสาวใช้ประจำตัวของลู่เหยียนซินที่เพิ่งกลับจากโรงครัวก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรีบกุลีกุจอไปประคองลู่เหยียนซินขึ้นทันที

อ๋องฉินมองเห็นแววตาว่างเปล่าที่คละคลุ้งไปด้วยความกรุ่นโกรธไม่มีแววตาของความรักหลงเหลืออยู่เลยแม้เพียงนิด เขานึกแปลกใจมากทีเดียวเพราะเมื่อก่อนลู่เหยียนซินจะพยายามเข้าหาเขาทุกครั้งที่มีโอกาสทั้งยังแสดงแววตาอันหวานซึ้งว่ารักใคร่เขามากเพียงใดแต่ครั้งนี้กลับแตกต่างออกไป

‘เกิดอะไรขึ้นกับกับนาง’

"ข้าไม่ได้ทำ"

"หากไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใครกัน!"

"ข้าเจ็บหนักถึงเพียงนี้จะเอาแรงที่ไหนไปตบตีคนรักของท่านกัน"

นางเอ่ยปากบอกพลางเหยียดยิ้มให้เขารอยยิ้มที่เขาเห็นมีแต่ความเยือกเย็นและแววตาที่แข็งกร้าว

"เป็นนางที่เข้ามาแล้วหาเรื่องข้าเอง"

"หม่อมฉันเห็นกลับตาว่าพระชายาตบคุณหนูจนล้มลงกับพื้นเพคะท่านอ๋อง"

"หุบปาก! บ่าวรับใช้เช่นเจ้ากล้าโป้ปดต่อหน้าท่านอ๋องเช่นนั้นหรือ" ลู่เหยียนซินตะคอกใส่สาวใช้ของหยางซูฉินเสียงดังส่งผลให้หญิงสาวทั้งสองสะดุ้งตกใจไปไม่น้อย

"คุณหนูหยางผิวหน้าของเจ้าคงบอบบางมากสินะช่างไม่เหมือนความใจกล้าที่เจ้ามีเลยสักเพียงนิด ท่านอ๋องผู้ปราดเปรื่องหากท่านจะสืบสาวราวเรื่องจริงๆ ท่านย่อมรู้ว่าใครพูดจริงพูดปดกันแน่"

อ๋องฉินได้ยินดังนั้นก็ไปมองหยางซูฉินเขามองเห็นความผิดปกติบางอย่าง หรืออาจจะเป็นเพราะความเกลียดชังที่มีต่อลู่เหยียนซินจึงทำให้เขาเลอะเลือนมองเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ถี่ถ้วนกันแน่

"ท่านอ๋องหม่อมฉันเจ็บเพคะ"

"ข้าเป็นชายาของท่านอยู่ในจวนของท่าน หากสืบสวนแล้วสรุปว่าข้านั้นผิดจริงท่านสามารถลงโทษข้าได้ทุกเมื่อ" นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยหน่ายเต็มทน

"แต่ตอนนี้พวกท่านรบกวนเวลาพักผ่อนของข้าแล้วเชิญพวกท่านออกไปเสียทีเถอะข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกท่าน หากพวกท่านอยู่นานมากกว่านี้มันพานทำให้ข้าอารมณ์เสียแล้วอาจจะทำเรื่องผิดๆขึ้นมาจริงๆ ก็ได้" 

นางพูดด้วยความเร็วน้ำเสียงนิ่งสายตาที่จับจ้องมายังหยางซูฉินนั้นแข็งกร้าวแลดูเยือกเย็นจนนางเองก็ยังรู้สึกขนลุกขนชันไม่หาย

อ๋องฉินมองลู่เหยียนซินนิ่งเขามองเห็นความหยาบกระด้างของวาจาและสายตาที่นางแสดงออกมา ความรักใคร่ที่นางเคยมีให้เขาดูเหมือนจะจางหายไปจนหมดสิ้นสร้างความประหลาดใจให้กับเขาอยู่ไม่น้อย

‘แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ’

"ท่านอ๋องพวกเราออไปจากที่นี่กันเถอะเพคะ"

“อืม” เขาหันไปตอบนางด้วยแววตาที่อ่อนโยนก่อนจะหันกลับมามองลู่เหยียนซินอีกครั้ง

"เจ้าอย่าได้คิดจะสร้างเรื่องอีก ครั้งนี้ข้าจะกักบริเวณเจ้าเพิ่มแต่หากเจ้ายังไม่สำนึกคิดจะก่อเรื่องขึ้นมาอีกก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้าก็แล้วกัน"

พูดจบก็ประคองหยางซูฉินออกไปจากเรือนแห่งนี้ด้วยความรวดเร็ว

"ท่านควรดูแลคนของท่านให้ดีอย่าให้นางมารบกวนข้าก็พอ!"

อ๋องฉินหันมองนางขวับด้วยใบหน้าบึ้งตึงเขาเห็นนางส่งยิ้มที่มุมปากพลางโบกมือให้ ชั่วขณะหนึ่งเขาเองก็ยังนึกสงสัยว่านางคือลู่เหยียนซินชายาที่เขาแต่งเข้ามาหรือไม่ เพราะดูเหมือนนางจะไม่หลงเหลือแววตาของสตรีที่คลั่งรักชายหนุ่มเลยสักเพียงนิด มีเพียงความว่างเปล่า ใช่แล้วเขาสัมผัสได้ว่าแววตาของนางนั้นว่างเปล่ามาก!

หยางซูฉินเองก็หันมาไปนางด้วยแววตาเกลียดชัง ‘สักวันเถอะข้าจะต้องเป็นพระชายาเอกของจวนแห่งนี้และจะเขี่ยเจ้าออกจากจวนแห่งนี้ให้จงได้!’

ทั้งคู่รีบเดินออกไปจากบริเวณเรือนซินหยางหลังจากนั้นความเงียบสงบก็เข้ามาแทนที่ทำให้ลู่เหยียนซินเริ่มรู้สึกหายใจหายคอสะดวกขึ้น

"ไปได้เสียทีทำตัวน่ารังเกียจเสียจริงตาอ๋องบ้านั่นก็ช่างขี้เก๊กโง่เง่าเหมือนตัวอะไรสักอย่าง รู้เช่นนี้ข้าน่าจะตบเรียกสติสักทีสองทีท่าจะดีไม่น้อยเลย”

“!”

ลู่เหยียนซินหันหลังตั้งใจจะกลับไปนอนพักเอาแรงอีกสักหน่อยแต่เมื่อมองไปเห็นสีหน้าของลี่ถิงสาวใช้ของนางก็ถึงกับต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“เจ้าเป็นอะไรเหตุใดต้องทำหน้าเช่นนั้นด้วย”

“พระชายาเมื่อครู่ท่านพูดว่าอะไรนะเพคะ”

“โอ๊ยช่างเถอะถือว่าไม่ได้ยินแล้วกัน เจ้าช่วยเก็บกวาดห้องให้ข้าทีเตรียมน้ำให้ข้าด้วยข้าอยากแช่น้ำแล้วเหนื่อยเหลือเกิน"

"เพคะพระชายา"

ลู่เหยียนซินค่อยๆ ถอดอาภรณ์ออกทีละชิ้นจนร่างกายเปลือยเปล่าเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งที่ยั่วยวนสายตาแต่ความเจ็บแสบที่แผ่นหลังทำให้นางอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา

‘ในตอนที่นางถูกโบยจะเจ็บมากแค่ไหนกันนะทนไปได้อย่างไรกัน’

นางค่อยๆ ก้าวเท้าลงไปในถังน้ำเมื่อผิวกายสัมผัสกับความอุ่นก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บแสบบนแผ่นหลังที่หลงเหลืออยู่

"พระชายาเมื่อครู่ท่านไม่ควรทำร้ายท่านอ๋องเลยนะเพคะ"

"พวกนั้นหาเรื่องข้าก่อนนะเจ้าจะให้ข้าอดทนปล่อยให้พวกเขารังแกได้อย่างไรกัน”

"หม่อมฉันก็เพียงแต่กลัวว่าท่านอ๋องจะลงโทษพระชายาอีกตั้งแต่ท่านแต่งเข้ามาในจวนแห่งนี้ก็ไม่เคยเห็นท่านกล้าต่อปากต่อคำกับท่านอ๋องเลยสักครั้ง แต่วันนี้ท่านกลับกล้าต่อปากต่อคำทั้งยังทำร้ายท่านอ๋องด้วยคิดว่าพวกเราคงไม่พ้นที่จะต้องอดอาหารกันอีกแน่นอนเลยเพคะ"

"อดอาหารงั้นหรือ"

"ใช่แล้วเพคะครั้งก่อนที่ท่านสั่งให้คนไปทำร้ายคุณหนูหยางผู้นั้น ท่านอ๋องโกรธมากสั่งโบยท่านห้าสิบไม้และสั่งห้ามไม่ให้ส่งอาหารมาที่เรือนตั้งสามวันเลยนะเพคะ"

"สามวันเลยหรือ!"

ลู่เหยียนซินได้ยินดังนั้นก็คิดหนักทันทีสั่งกักบริเวณนางยังพอทนได้แต่จะให้นางอดอาหารนั้นไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด! นางต้องทำอะไรสักอย่าง

"พระชายาถ้าอาบน้ำเสร็จแล้วหม่อมฉันจะทายาที่หลังและเปลี่ยนผ้าปิดแผลให้นะเพคะ"

"อืม"

‘ให้อดอาหารตั้งสามวันนี่มันเท่ากับฆ่ากันชัดๆ เรื่องกินสำหรับข้าเรื่องใหญ่เลยนะไม่ได้ข้าต้องทำอะไรสักอย่าง!’

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนพิเศษ 4 ความวุ่นวายที่ไม่มีใครคิดเบื่อ

    -อารามชิงเหยียน-“ท่านอาจารย์อยากพบท่านแม่เจ้าค่ะ”“อยากพบข้างั้นหรือ”เยว่เหวินหลิงพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากตัวอารามเพื่อไปเล่นฟันดาบกับผู้เป็นพี่ชายฝาแฝดและฮั่วเฟิงอวี้ลู่เหยียนซินเดินเข้าไปในอารามชิงเหยียนอารามเก่าแก่ที่ผู้อาวุโสมาพำนักในที่แห่งนี้เป็นเวลากว่าหกปีมาแล้ว“หลิงเอ๋อบอกว่าท่านเรียกหาข้าหรือเจ้าคะ”“ไม่ผิด ที่ข้าเรียกท่านมานั้นไม่เกี่ยวข้องอันใดกับท่านหญิงเลยแม้เพียงนิดอย่ากังวลใจไปเลย”“แล้วท่านมีอะไรจะสนทนากับข้าอย่างนั้นหรือเจ้าคะ”“ข้าคิดว่าน่าจะได้เวลาที่ควรจะต้องบอกท่านแล้ว”“หืม”“พระชายาหลายปีมานี้เพราะใจของท่านนั้นปล่อยวางไปจนหมดสิ้นจึงไม่ทันได้สังเกตสิ่งใดที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวของท่านเลยสินะ”“ท่านหมายถึงอะไรหรือเจ้าคะ”“ยังจำแหวนหยกสองวงที่ข้ามอบให้ท่านได้อยู่หรือไม่”“เจ้าค่ะ”“ยังเก็บเอาไว้อยู่สินะ”“อยู่ที่สามีของข้าเอง”“ครั้งที่ท่านเดินทางมาที่จี้โจวครั้งแรกสิ่งที่ท่านเคยถามข้าว่าจะได้กลับบ้านหรือไม่ ท่านคงได้คำตอบนั้นแล้วสินะ”ลู่เหยียนซินไม่ได้ตอบเขาไปนางกำลังครุ่นคิดว่าผู้อาวุโสผู้นี้ต้องการจะสื่อสารสิ่งใดกับนางอยู่กันแน่“ไม่เสียดายเลยหรือ”

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนพิเศษ 3 เป็นเพียงสหายเท่านั้นเองหรือ

    -เจ็ดวันผ่านไป-“ท่านหญิง”“หือ”เยว่เหวินหลิงที่กำลังหยอกล้อกับเสี่ยวจ้านเสือขาวหิมะที่ได้รับมาจากผู้เป็นมารดาอยู่นั้นก็ได้หันไปมองคนที่เพิ่งเรียกขานนาง เมื่อเห็นใบหน้าของคนผู้นั้นก็ถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยทันที‘นั่นไม่ใช่คุณชายหลี่หรอกหรือมาที่นี่ได้อย่างไรกันนะ’และดูเหมือนเขาจะรู้ว่านางคิดสิ่งใดอยู่จึงได้เอ่ยออกมาว่า“ข้ามาหาพี่ชายของท่านน่ะ”“อ้อ งั้นหรอกหรือเจ้าคะพี่ชายของข้าน่าจะอยู่ด้านหลังจวน ท่านเดินไปแล้วเลี้ยวขวาอีกนิดก็ถึงลานประลองแล้วล่ะเจ้าค่ะ”“ลานประลองงั้นหรือ? ท่านจะบอกว่าเขากำลังประลองยุทธ์อยู่อย่างนั้นหรือขอรับ”“ก็น่าจะใช่ ท่านพี่ของข้าคงกำลังฝึกกระบี่กับท่านพี่เฟิงอวี้อยู่ อืมม...หากว่าท่านไปไม่ถูกต้องการให้ข้านำทางไปหรือไม่”“ไม่เป็นไรขอรับข้าไปเองได้”เขาพูดจบก็หันไปยิ้มให้นางอย่างอ่อนโยนทั้งยังสบตานางอย่างลึกซึ้ง เยว่เหวินหลิงก็ยิ้มรับอย่างเป็นมิตรโดยไม่ได้สนใจเลยว่าอีกฝ่ายต้องการสิ่งใดท่ามกลางการเฝ้ามองของผู้ใหญ่ทั้งสี่คนที่อยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งของเรือนใหญ่“ท่านอ๋องจะไปไหนหรือเพคะ”“เจ้าก็ดูสิ เจ้าเด็กคนนั้นกล้าดีอย่างไรมาเกี้ยวลูกสาวของข้า”“ท่านคิดมากไปห

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนพิเศษ 2 ความต้องการที่ไม่เคยแปรเปลี่ยน

    “พระชายา”“ฮูหยินฮั่วไม่พบกันนานเลยนะเจ้าคะ”“ข้าคิดถึงท่านเหลือเกินเมื่อรู้ว่าท่านเดินทางมาถึงที่นี่แล้วก็รีบออกมาพบท่านทันทีเลยเพคะ”ฮูหยินฮั่วพูดพลางนั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้างของนาง ใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้นบ่งบอกว่านางดีใจเพียงใดที่ได้พบลู่เหยียนซินอีกครั้ง“แล้วลูกชายของท่านล่ะไม่ได้มาด้วยหรอกหรือ”“ไม่ทันได้พูดอะไรด้วยเลยสักคำแค่เท้าแตะถึงพื้นก็วิ่งไปหาคุณชายเยว่เหวินหลงเสียแล้วเพคะ”“ฮ่าๆๆ ช่างเถอะข้าไม่ถือสาหรอกปล่อยเด็กๆ เล่นกันไปเถอะ”“เพคะพระชายา”ทั้งสองยิ้มให้แก่กัน มิตรภาพระหว่างสตรีทั้งสองคนนี้นั้นแน่นแฟ้นยิ่งไปกว่าผู้เป็นสามีของทั้งคู่ที่คบหากันมาตั้งแต่เยาว์วัยเสียอีก“ฮูหยินของเจ้าดูจะตัวติดกับชายาของข้ามากเลยนะซื่อเหลียน”“ข้าก็คิดเช่นนั้นก่อนหน้านี้นางเอาแต่ถามว่าเมื่อไหร่พระชายาจะมาที่จี้โจวเสียที เมื่อรู้ว่าพวกท่านมาถึงแล้วก็รบเร้าให้ข้าพามาทันทีเลยน่าน้อยใจเป็นบ้า”“เอาน่าพวกนางรักใคร่กันก็ดีแล้วจะว่าไปเจ้าจัดการอนุผู้นั้นอย่างไร ส่งนางกลับบ้านไปแล้วงั้นหรือ?”ฮั่วซื่อเหลียนส่ายหน้าเบาๆ ใบหน้าของเขาไม่มีความกังวลหรือโกรธเกลียดใดๆ หลงเหลืออยู่เลย“นางพบรักกับชาวบ้านคนหนึ่

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนพิเศษ 1 น้องเล็กสุดแสบ

    -6 ปีต่อมา-เมืองจี้โจวเด็กๆ ทั้งสองเดินทางมาที่เมืองจี้โจวล่วงหน้าก่อนผู้เป็นบิดามารดาเนื่องจากพวกเขายังจัดการงานที่เมืองหลวงไม่เรียบร้อยนั่นเอง แม้อ๋องฉินจะห่วงเด็กๆ ไม่น้อยแต่เพราะพวกเขามีสัตว์เลี้ยงคู่ใจคอยดูแลอยู่ข้างกายจึงเบาใจไปได้แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น“ท่านพี่จะให้ข้าไปด้วยหรือไม่” เยว่เหวินหลิงเอ่ยถามพี่ชายฝาแฝดของนางด้วยเสียงอันเบา“ไม่ต้องหรอก”เยว่เหวินหลิงแม้จะดูแก่นๆ ไปบ้างแต่นางเชื่อฟังผู้เป็นพี่ชายมาโดยตลอดได้ยินแบบนั้นก็เกาหัวแกรกๆ“อ้อ เช่นนั้นข้าจะกลับไปรอที่จวนก่อนท่านพี่ก็กลับไวๆนะเจ้าคะ”เยว่เหวินหลงพยักหน้าให้นาง หลังจากส่งน้องสาวขึ้นรถม้าแล้วเขาก็ยืนดูอยู่สักพักก่อนจะหันหลังแล้วเดินตรงไปในตรอกถัดไปไม่ไกล เดินต่อไปอีกยี่สิบกว่าเก้าก็ถึงรถม้าของฮั่วเฟิงอวี้ เขากระโดดขึ้นไปบนรถม้าแล้วเข้าไปนั่งลงด้านในข้างๆ เด็กหนุ่มผู้นั้น“ท่านพี่เฟิงอวี้รอข้านานหรือไม่”“ไม่เลย ทีแรกข้าคิดว่าท่านจะพาหลิงเอ๋อร์มาด้วยเสียอีก”“นางพูดมากเกินไปเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง”“ฮ่าๆๆ เหตุใดถึงได้กล่าวหาน้องสาวของตนเองเช่นนั้นกันเล่า นางน่ารักถึงเพียงนั้นท่านก็ชอบพูดจาทำร้ายจิตใจนางอยู่เรื

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 44 บทส่งท้าย_สีสันของชีวิตคู่

    -สี่ปีผ่านไป-วันเวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่าตลอดระยะเวลาสี่ปีมานี้เด็กทั้งสองคนเติบโตขึ้นมาภายใต้การเลี้ยงดูของทุกคน ฟังไม่ผิดแล้ว! ทุกคนช่วยกันเลี้ยงดูเด็กๆ แทนนางจริงๆพักนี้ท่านหญิงน้อยดูจะตัวอวบอ้วนขึ้นมามากเพราะไม่ว่าผู้ใดที่แวะมาเยี่ยมนางที่จวนล้วนหยิบเอาขนมหวานและของกินต่างๆ ติดมือมาให้นางด้วยทั้งนั้นคนในวังยิ่งแล้วใหญ่ขนมหวานมากมายตระการตาถูกประเคนใส่ปากนางไม่ยั้ง ฮองเฮาเองดูจะมีความสุขมากที่เห็นปากน้อยๆ ของนางเคี้ยวขนมอย่างเอร็ดอร่อยรัชทายาทก็ไม่น้อยหน้าเช่นกันทรงเสด็จไปต่างเมืองเมื่อกลับมาก็มักจะนำของเล่นขนมแปลกๆ มาฝากเด็กๆ ที่ขาดไม่ได้เลยคือขนมหวานของโปรดของนาง‘ทุกคนล้วนต้องการให้ลูกของนางอ้วนเป็นหมูใช่หรือไม่นะ’ลู่เหยียนซินใช้วิชาความรู้ของนางเปิดสถานศึกษาวิชาการแพทย์ นางนำความรู้ของนางที่มีอยู่ออกมาถ่ายทอดให้แก่เหล่าบัณฑิตและผู้ที่ต้องการเรียนรู้วิชาแพทย์แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหมอหลวงในวังหลวงแห่กันมาร่ำเรียนวิชาจากนางกันมากมายเช่นกันในสถานศึกษาแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการสอนวิชาแพทย์แต่เป็นสถานศึกษาสำหรับเด็กๆ ทั้งในเมืองหลวงและเมืองต่างๆ ใกล้เคียงกัน สถานศึกษาแห่งนี้มีอาจารย

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 43 พระชายาจะคลอดแล้ว

    “เสด็จพ่อ!”เป็นฮ่องเต้ที่เดินเข้ามาทันได้ยินที่หมอหลวงรายงานการตรวจครรภ์ของลู่เหยียนซินพอดี“พวกเจ้าต้องวางแผนการทำคลอดครั้งนี้ให้ดีอย่าให้ผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ข้าจะส่งหมอหลวงไปประจำที่จวนอ๋องฉินจงจำเอาไว้ว่าต้องระมัดระวังทำให้ดีที่สุด”“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”“เอาล่ะเจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะชายาฉิน ท้องของเจ้าใหญ่เกินไปน่าจะเดินเหินไม่สะดวกนักจากนี้ไปก็จงอยู่แต่ในจวนจนกว่าจะคลอดไม่ต้องเข้าวังมาถวายพระพรแล้ว”“เพคะเสด็จพ่อ หม่อมฉันทูลลาเพคะเสด็จปู่”“อืม ไปเถอะ”- - - - - - - - - - -เพราะลู่เหยียนซินที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกจากจวนก็รู้สึกเบื่อหน่ายยิ่งนัก วันเวลาผ่านไปจนครรภ์ของนางก็เข้าสู่เดือนที่เก้านางกำลังเดินออกมาจากห้องอาบน้ำขณะผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก็รู้สึกได้ว่ามีของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากต้นขาของนางเมื่อก้มมองดูถึงกับต้องรีบสูดหายใจเข้าปอดช้าๆ เพื่อลดอาการตื่นเต้น‘ถุงน้ำคล่ำของนางแตกแล้ว!’“ลี่ถิงมาช่วยข้าที”ลี่ถิงที่กำลังนั่งจัดของขวัญต้อนรับคุณหนูคุณชายน้อยอยู่นั้นก็ตกใจเสียงตะโกนเรียกของพระชายา นางรีบวิ่งเข้าไปในห้องอาบน้ำด้วยความรวดเร็วเกือบสะดุดขอบพักประตูไปแล้ว“พระชายาเกิดอะไรขึ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status