Share

บทที่ 1129

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ไม่ทำให้ข้าสะดุ้งจนหัวใจวายตาย เจ้าคงไม่สาแก่ใจใช่หรือไม่?” เฉินฝานกุมหน้าอกแล้วลุกขึ้นนั่ง

“คนเมื่อครู่คือฝ่าบาทหรือ?” หวงหวั่นเอ๋อร์ตอบไม่ตรงคำถาม

“ใช่ คือฝ่าบาท!” เฉินฝานพยักหน้า เขาไม่มีความจำเป็นใดต้องปิดบังหวงหวั่นเอ๋อร์

“ฝ่าบาทชอบท่าน” ดวงตาของหวงหวั่นเอ๋อร์ทอประกาย

“ฝ่าบาทชอบข้าเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ?” เฉินฝานนึกสงสัย

“ชอบที่ข้าหมายถึงคือความรักของชายหญิง หรือข่าวลือจะเป็นความจริง ฝ่าบาทชมชอบพันธุ์ไม้เดียวกัน?”

“เป็น...ไปได้กระมัง”

วันหนึ่ง ฉินเย่ว์เหมยกลับมาเป็นสตรีได้ เช่นนั้นก็จะรักเขาอย่างเปิดเผย เขาพยายามเต็มกำลังเพื่อให้วันนั้นรีบมาถึง

“แต่ว่า สายตาของท่านยามมองฝ่าบาท...ท่านก็ชอบฝ่าบาท?” หวงหวั่นเอ๋อร์พูด

“แน่นอนว่าข้าชอบฝ่าบาท” เฉินฝานพูดด้วยความหนักแน่น ฉินเย่ว์เหมยเป็นภรรยาของเขา เขาจะไม่ชอบได้อย่างไร

“ท่านไม่อาจชอบฝ่าบาท!”

เฉินฝานเพิ่งพูดจบ หวงหวั่นเอ๋อร์ตะโกนเสียงดัง ทำให้เฉินฝานตกใจ

“เจ้าจะเสียงดังเช่นนั้นทำไม?”

“ท่านเป็นบุรุษ ท่านจะชอบฝ่าบาทได้อย่างไร!”

“ฝ่าบาทชอบข้าได้ เหตุใดข้าจึงไม่อาจชอบ...” เฉินฝานหยุดพูดกะทันหัน จับจ้องหวงหวั่นเอ๋อร์แล้วเอ่ยถ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1130

    “ครืน ครืน ครืน!”เฉินฝานสะดุ้งตื่นเพราะเสียง เขาเด้งตัวตื่นอย่างไม่มีเงื่อนไข“ฟ้าผ่าแล้ว ฝนตกลง รีบเก็บเสื้อผ้าเร็วเข้า!”“ปั้ง!”ประตูห้องพักถูกคนเปิดจากด้านนอกอย่างแรงร่างใหญ่ปรากฏตัวตรงหน้าเฉินฝาน “ฟ้าผ่าอะไรกัน ข้าเอง ข้ากลับมาแล้ว!”จากนั้น เฉินฝานก็รู้สึกตัวเบาหวิว ร่างใหญ่ยื่นมือข้างหนึ่งออกมา คว้าตัวเฉินฝานขึ้น“เขยรักของข้า เจอข้าแล้วเจ้าดีใจหรือไม่?”“...” เฉินฝานพูดไม่ออก “ขืนท่านยังไม่ปล่อย คอของเขยรักท่านจะหักแล้ว”“อ๊า! ข้าลืมไปเสียสนิท!” อ๋องตวนวางเฉินฝานลงทันที“...” เฉินฝานที่ล้มก้มกระแทกพื้นยิ่งหมดคำจะพูด“เขยรักของข้า เจ้าเป็นอะไรหรือไม่” ใบหน้าขนาดใหญ่อวัยวะทั้งหน้าชัดเจนของอ๋องตวน ยื่นมาตรงหน้าเฉินฝาน ห่างกับใบหน้าของเฉินฝานไม่ถึงหนึ่งมิลลิเมตรเขานิ่งงันเช่นนี้ ทำให้เฉินฝานตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง“อ๊าก!”เฉินฝานผลักอ๋องตวนอย่างแรงให้ตายสิ ไม่ช้าก็เร็วเขาคงตายด้วยน้ำมือของพ่อตา“อยากให้ข้าตาย บอกตั้งแต่แรกสิขอรับ ข้าหาเชือกมาแขวนคอตัวเองได้” เฉินฝานพูดอย่างไม่สบอารมณ์“ไม่เอาๆๆ ลูกเขยของข้าอายุยืนยาว จะตายได้อย่างไร”“ไม่อยากให้ข้าตาย เช่นนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1131

    “ข้าขอเตือนเจ้า อย่ามั่นใจเกินตัว วันก่อนเจ้าเองก็เห็นแล้วว่าเฉินฝานช่วยคนตายเหล่านั้นให้รอดชีวิตได้ หากเฉินฝานถอนพิษหญ้าไส้ขาดได้แล้ว ข้าสามารถสร้างหุบเขาร้อยบุปผาให้เจ้าได้ ก็เผาหุบเขาร้อยบุปผาของเจ้าได้เช่นกัน”เสิ่นหมิงหยวนทำสีหน้าอำมหิตและเฉียบคม ไป่ชงซานรีบเอ่ยสาบานทันทีว่า “ใต้เท้า ท่านวางใจได้ขอรับ พิษหญ้าไส้ขาดของหุบเขาร้อยบุปผาของข้า ต่อให้เป็นบัวหิมะภูผาสวรรค์หรือโสมพันปีก็ไม่มีประโยชน์” เมื่อเห็นท่าทีสาบานอย่างหนักแน่นของไป่ชงซาน สีหน้าของเสิ่นหมิงหยวนก็ดูดีขึ้นเล็กน้อย เขาหันหน้าไปถามหลี่ชิ่งที่อยู่อีกด้านหนึ่ง“ข้าเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่าให้พวกเขาขนตัวยากลับมาได้อย่างราบรื่น? เหตุใดหงอิงกับอ๋องตวนถึงเข้าเมืองได้ง่ายดายถึงเพียงนั้น?” หลี่ชิ่งรีบตอบกลับว่า “ลูกน้องรายงานมาว่า สิ่งที่หงอิงกับอ๋องตวนนำกลับมาจากแคว้นหลู่ไม่ใช่ตัวยา ดังนั้นพวกเขาเลยไม่ได้ลงมือขอรับ” เสิ่นหมิงหยวนอึ้งไป “สิ่งที่ขนกลับมาไม่ใช่ตัวยา?”เสิ่นหยวนเลี่ยงเองก็รู้สึกประหลาดใจมาก “ไม่ขนตัวยากลับมา เช่นนั้นพวกเขาขนสิ่งใดกลับมา?”หลี่ชิ่งกำลังคิดจะตอบกลับ ฉินเย่ว์เหมยก็เดินเข้ามาจากปลายถนนอี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1132

    เฉินฝานยิ้มบาง ๆ “ไม่มีสิ่งใดที่ไม่อาจให้เห็นได้ ฝ่าบาทกับใต้เท้าเสิ่นอยากดู เช่นนั้นก็ดูเถิด”เสิ่นหมิงหยวนก็รอคำพูดประโยคนี้ของเฉินฝาน เสียงพูดของเฉินฝานยังไม่ทันจบ หลี่ชิ่งก็แหวกม่านบนรถม้าออกภายใต้การบอกเป็นนัยของเขา ???!!!เมื่อผ้าม่านเปิดออก ผู้คนมากมายล้วนตะลึงงัน“ของพวกนี้ถือเป็นตัวยาอันใดกัน?”“ใต้เท้าเฉิน มีผู้ได้รับพิษมากมายถึงเพียงนั้น เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต ท่านไม่อาจทำเป็นเล่นได้นะ” มุมปากของเสิ่นหมิงหยวนจะฉีกยิ้มถึงหูแล้วครั้งนี้เขาอยากดูว่าเฉินฝานจะอธิบายอย่างไรของที่อยู่บนรถม้าไม่ใช่ตัวยาทั่วไปจริง ๆ แต่เป็นนมวัวและถั่วเขียวจำนวนมาก รวมถึงดอกพลับพลึงแมงมุมที่มีพิษไม่น้อยด้วย“นำของพวกนี้กลับมา ไม่ใช่ว่าจะให้ผู้ได้รับพิษรอความตายหรือไร?”“ก่อนหน้านี้เห็นว่าเขาช่วยชีวิตคนมากมายถึงเพียงนั้น อีกทั้งยังเฝ้าอยู่ที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ทั้งวันทั้งคืน ยังนึกว่าเขาตั้งใจช่วยเหลือคนจริง ๆ”“ข้ารู้ว่ามันต้องเป็นแบบนี้ หากเขาอยากช่วยเหลือคนจริง ๆ ก็คงไม่วางยาพิษหรอก”“โชคดีที่ท่านอัครเสนาบดีเบื้องขวาคอยยืนกรานจะดูของบนรถ ไม่เช่นนั้นพวกเราก็คงโดนเขาหลอกลวงเช่นนี้ไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1133

    “แต่ว่า...” ฉินเย่ว์เหมยยังคงทำสีหน้ากังวลใจ “อาหารอย่างถั่วเขียวกับนมพวกนี้จะเป็นยาได้อย่างไรแถมยังมีดอกพลับพลึงแมงมุมนั้นอีก...”“ดอกพลับพลึงแมงมุม นั่นมันดอกพลับพลึงแมงมุม!” คำพูดของฉินเย่ว์เหมยถูกเสียงตะโกนแหลมสูงกลบไว้ มีคนในหมู่ชาวบ้านจำดอกพลับพลึงแมงมุมได้ เมื่อเสียงของคนผู้นั้นดังขึ้นก็ทำให้เกิดความตื่นตระหนกขึ้นมาทันที“ดอกพลับพลึงแมงมุม?” “ดอกพลับพลึงแมงมุม!”“นั่นมันดอกไม้พิษไม่ใช่หรือ? ได้ยินว่าพิษร้ายแรงมาก หลังจากเผลอทานเข้าไปจะอาเจียนหนักไม่หยุดเป็นเวลานาน เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าไม่ได้ดูผิดไป?”“ไม่มีทางดูผิดอย่างแน่นอน ข้าไปแคว้นหลู่บ่อย ๆ แคว้นหลู่มีดอกพลับพลึงแมงมุมมากที่สุด”“ตอนแรกก็หญ้าไส้ขาด ตอนนี้ก็เป็นดอกพลับพลึงแมงมุม เฉินฝานยังไม่ยอมรับอีกหรือว่าเขาสมคบคิดกับแคว้นหลู่ทำร้ายต้าชิ่งของพวกเรา”“เขาอยากจะยกแคว้นต้าชิ่งของเราให้แคว้นหลู่! เขาคือคนขายชาติ!”“คนขายชาติเช่นนี้ ฝ่าบาทยังจะปกป้องเขาอีกหรือ?”ประชาชนเดือดดาล ไม่ว่าคำพูดอะไรล้วนมีหมด แน่นอนว่าคนที่ตะโกนเสียงดังเหล่านั้น ส่วนมากล้วนจงใจปลุกปั่น พวกเขาถึงขนาดที่ชี้ปลายหอกไปยังฉินเย่ว์เหมยด้วยชาวบ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1134

    เมื่อเข้ามาในศูนย์บรรเทาทุกข์ เฉินฝานสั่งหมอหลี่ทันที “ให้หมอและพยาบาลเหล่านั้นขนของบนรถม้าด้านนอกเข้ามา” หลังจากสั่งหมอหลี่แล้ว เฉินฝานก็หันหน้าไปพูดกับหวงหวั่นเอ๋อร์อีกว่า “รบกวนแม่นางหวงคุ้มครองพวกเขาด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาขนของมาที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ได้อย่างปลอดภัย” หวงหวั่นเอ๋อร์ไม่ได้ส่งเสียงพูด นางทะยานออกจากศูนย์บรรเทาทุกข์ดังฟิ้วอีกครั้ง ก่อนจะนั่งแกว่งเท้าบนกิ่งไม้เมื่อครู่นี้แล้วก้มหน้าชมเหตุการณ์คึกคักต่อ“พวกเรารออีกหน่อยก็ได้ กองทัพลาดตระเวนของเหอจื่อหลินจะมาถึงวันพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ค่อยขนก็ได้” ฉินเย่ว์เหมยกล่าวเวลานี้หงอิงคุ้มครองพวกเขาก็กินแรงมากแล้ว หากหวงหวั่นเอ๋อร์ไม่ยอมช่วยเหลือ หมอและพยาบาลของศูนย์บรรเทาทุกข์ออกไปขนของบนรถม้าจะต้องโดนขัดขวางอย่างแน่นอน เฉินฝานเหลือบมองหวงหวั่นเอ๋อร์ที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้อยากชมความคึกคักเท่านั้น “แม่นางหวงจะต้องช่วยเหลือแน่นอน”เฉินฝานพูดพลางเร่งหมอหลี่อีกครั้ง “อย่ามัวชักช้า รีบพาคนไปเสีย!” ผู้ป่วยมากมายได้รับพิษนานเกินสามวันแล้ว หากไม่รักษาอีก พิษแทรกซึมเข้าสู่กระดูกก็จะหมดหนทางช่วยเหลือแล้วจริง ๆเป็นอย่างที่เฉินฝานพู

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1135

    “ใต้เท้า ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” นัยน์ตาของหมอหลี่จู่พลันเปล่งประกาย “ท่านใช้ดอกพลับพลึงแมงมุมขจัดพิษในร่างของผู้ได้รับพิษใช่หรือไม่”เฉินฝานยิ้มพลางพยักหน้า“วิธีการนี้ มีเพียงใต้เท้าเท่านั้นที่กล้าใช้” หมอหลี่ทอดถอนใจ “เมื่อขจัดพิษส่วนใหญ่แล้ว ข้าค่อยใช้สมุนไพรอย่างชะเอมกับดอกสายน้ำผึ้งไปขจัดพิษที่เหลืออยู่ก็ได้แล้ว ดี ดีเลย!” “ไม่ดี!” เฉินฝานส่ายหน้า “ตอนนี้หากไปหาชะเอมกับดอกสายน้ำผึ้งจะเสียเวลามาก ใช้ถั่วเขียวไปเลย ตอนนี้เจ้าให้หมอกับพยาบาลครึ่งหนึ่งไปต้มน้ำแกงถั่วเขียว” “น้ำแกงถั่วเขียว?”“ใช่ ยามนี้ไม่มีเวลามาอธิบายให้เจ้าฟัง เจ้ารีบไปทำเถิด นมก็ต้องอุ่นไว้ด้วย อาเจียนแล้วดื่มน้ำแกงถั่วเขียว ผ่านไปครึ่งชั่วยามค่อยป้อนนมให้กิน” เฉินฝานกล่าวไม่มีเวลาแล้วจริง ๆ เสียงพูดของเฉินฝานเพิ่งจะสิ้นสุดลง ภายในศูนย์บรรเทาทุกข์ก็เริ่มมีเสียงอาเจียนดังออกมามากมาย“สวรรค์ เถี่ยหนิวของบ้านข้าอาเจียนแล้ว ดูเหมือนจะอาเจียนปอดออกมาเลย!”“ลูกชายข้าก็อาเจียนรุนแรงเหมือนกัน” เมื่อผู้ได้รับพิษอาเจียน ด้านนอกก็ยิ่งโกลาหล ผู้คนมากเกินไป พวกทหารรักษาพระองค์เริ่มต้านไม่ไหวแล้ว ก่อนจะเห็นคนเหล่านั้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1136

    “ถึงอย่างไรข้าก็เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง ข้าเชื่อใจใต้เท้าขอรับ!”ชายที่ชื่อเถี่ยนิวผู้นั้นเป็นคนแรกที่คลานกลับมาที่เตียงผู้ป่วยของตนเอง“ข้าก็เชื่อใจใต้เท้า!”“ข้าก็เชื่อใจเหมือนกัน”บรรดาผู้ได้รับพิษคลานกลับไปที่เตียงผู้ป่วยของตนเองติดต่อกัน สามวันแล้ว เสียงเอะอะโวยวายด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์ไม่เคยหยุดเลยชั่วขณะที่ประตูใหญ่ของศูนย์บรรเทาทุกข์เปิดออกนั้นเหมือนกับกดปุ่มหยุดชั่วคราวก็ไม่ปาน เสียงเอะอะด้านนอกหยุดลงในพริบตา เถี่ยนิวเป็นคนแรกที่เดินออกมาจากศูนย์บรรเทาทุกข์ มารดาและภรรยาของเขาดึงเด็กพุ่งมาตรงหน้าเขา มองเขาด้วยนัยน์ตาเบิกโต แต่ไม่กล้าส่งเสียง “ท่านแม่ เสี่ยวฟาง!”เถี่ยนิวเดินไปหามารดาและภรรยาของตนด้วยความตื่นเต้น ทว่ามารดาและภรรยาของเขากลับอุ้มลูกพลางถอยหลังติดต่อกัน“ท่านแม่ เสี่ยวฟาง พวกท่านถอยไปข้างหลังเพราะเหตุใด ข้าคือเถี่ยนิวอย่างไรเล่า!” จางเถี่ยนิวเดินเข้าไปด้วยความร้อนใจเล็กน้อยมารดาของจางเถี่ยนิวหยุดชะงักเป็นคนแรก ภายในดวงตาที่จ้องมองจางเถี่ยนิวอย่างพิจารณามีความหวาดกลัวเล็กน้อย “จะ เจ้าเป็นคนหรือเป็นผี?”“ได้ยินเซียนบอกว่า คนที่ได้รับพิษร้ายแรงจนตายแ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1137

    ราวกับมีแม่น้ำขวางกั้น ด้านในศูนย์บรรเทาทุกข์เต็มไปด้วยความครึกครื้น ส่วนด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์กลับเงียบสงัดอย่างยิ่งนอกจากครอบครัวของผู้ได้รับพิษเหล่านั้นแล้ว คนอื่น ๆ ต่างก็ตะลึงงันพิษของหญ้าไส้ขาดแก้ได้จริง ๆ หรือ?!“ว้าว ว้าว!”เสียงที่เหมือนกับระฆังใหญ่ของอ๋องตวนทำลายความเงียบสงัดด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์ อ๋องตวนตะโกนลั่นพลางวิ่งไปหาเฉินฝาน“ลูกเขยสุดที่รักของข้า เจ้ายอดเยี่ยมเกินไปแล้วจริง ๆ”“ฝ่าบาท! ใต้เท้าทำได้แล้ว เขาทำได้แล้วจริง ๆ!”หงอิงที่ปกติเคร่งขรึมเย็นชาและไม่ชอบยิ้มหรือพูดก็ตื่นเต้นไม่หยุดเช่นกัน“ใช่แล้ว เขาทำได้แล้ว” สายตาของฉินเย่ว์เหมยมองไปตามร่างของเฉินฝาน ปากก็ส่งเสียงพึมพำ รู้สึกภาคภูมิใจควบคู่ไปกับรักใครสุดซึ้งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อประตูศูนย์บรรเทาทุกข์เปิดออก เฉินฝานก็มองหาร่างของฉินเย่ว์เหมยเป็นอันดับแรก สายตาของทั้งสองสบกันโดยไม่คาดคิดเช่นนี้เอง สายตาของเจ้ากับข้าเปลี่ยนจากความกังวลมาเป็นความรักใคร่สุดซึ้ง สุดท้ายฉินเย่ว์เหมยก็หน้าแดงระเรื่อแล้วหันหน้าหนีไป หวงหวั่นเอ๋อร์ที่นั่งเอ้อระเหยแกว่งขาชมความคึกคักอยู่บนต้นไม้มาตลอด สีหน้าของดว

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status