บทที่ 2
ไอ้พี่...จะรับผิดชอบไหม
รถคันหรูถูกเหยียบมิดจากฝีตีนอันหฤโหดแห่งตระกูลบวรกิจพัฒนา นายทะเล (จากเรื่อง เมื่อไรจะรู้ว่า Love) ผู้ซึ่งไม่เคยกลัวใครและไม่เคยมีเหตุผลใดใดทั้งสิ้น
"ไอ้ทะเลมึงไม่ต้องรีบขนาดนั้นมึงช่วยดูตำรวจด้วยจะถูกจับความเร็ว" เอื้อบ่นใส่ทะเล "มึงไปดูเอกสารที่ส่งมาจากตำรวจที่บ้านมันกองเป็นภูเขาในแต่ละเดือนเรื่องความเร็วฝ่าไฟแดงงี้ น้าแป้งขี้เกียจบ่นมันแล้ว" ตะวัน (จากเรื่อง เมื่อไรจะรู้ว่า Love) บ่นถึงแฟนตัวเอง "ฮื่อ....ฮึก....พี่เอื้อ ..ฮื่อ ร้อน ....ร้อน... ถอดเสื้อหน่อย ฮึก..." เสียงร้องอย่างทรมานของเต็งหนึ่งดังขึ้นตลอดตั้งแต่ออกจากบาร์มา พยายามถอดกางเกงถอดเสื้อออกจากร่างกายและดิ้นตะเกียกตะกายเพื่อต้องการปลดปล่อยความร้อนที่อัดแน่นอยู่ภายในร่างกาย ด้วยฤทธิ์ของยารุนแรงมากทำให้เต็งหนึ่งทุรนทุราย ตั้งแต่ออกจากบาร์เหงื่อผุดทั่วหน้า ใบหน้าแดงก่ำบ่งบอกถึงความทรมานที่ร่างกายได้รับ ร่างกายอ่อนเพลียร้องไห้ตลอดทางมือตะกายกำเสื้อของโอบเอื้อไว้ เหมือนกับจะขาดใจเสียให้ได้ “พี่เอื้อ....จูบน้องหน่อย ...... หึก.... น้องไม่ไหว...แล้ว....ทรมานมากกกกกกกก เลย .....ฮื่อ.....ฮื่อ...” ใบหน้าแดงเถือกด้วยฤทธิ์ของยา เหงื่อเริ่มผุดพรายเต็มใบหน้า โอบเอื้อคอยเช็ดใบหน้าน้องด้วยผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำ จากฝีมือของตะวันผ้าเช็ดหน้าของทะเลถูกชุบด้วยน้ำในขวดภายในรถ กริ้ง...........กริ้ง.............. เสียงโทรศัพท์ของเต็งหนึ่งดังขึ้นโอบเอื้อพยายามดึงออกจากกระเป๋ากางเกง “ฉิบหาย..........หม่าม๊า.....ไอ้เต็งหนึ่งโทรมา......ทำไงดีว่ะ” โอบเอื้อตะโกนถามเพื่อนรัก“มึง...เอามานี้เดี๋ยวกูจัดการเอง.........มึงปิดปากไอ้เต็งหนึ่งไว้ก่อนอย่าให้เสียงเล็ดลอดออกมาเด็ดขาด” ตะวันเอื้อมมือมารับโทรศัพท์จากโอบเอื้อ
“ฮัลโหล......น้าธู” “อ้าว.........ตะวันเหรอลูกแล้วเต็งหนึ่ง ล่ะ” “เต็งหนึ่งอยู่ที่ห้องทะเลครับพอดีมันลืมโทรศัพท์ไว้ที่ห้องผมเมื่อกี้ พวกมันมานั่งดูบอลเพิ่งเดินออกไปรอแปปนะครับผมเดินเอาไปให้มัน” “ไม่เป็นไรลูกฝากบอกเต็งหนึ่งด้วยว่าพรุ่งนี้บ่ายอย่าลืมไปพบลูกค้ากับป๊าอย่าไปสายอีกแล้วกัน” ตะวันหันไปสบตากับโอบเอื้อแล้ ทำไม้ทำมือว่าจะบอกไปว่า อย่างไรดีโอบเอื้อวางแผนให้ตะวันบอกแม่ของเต็งหนึ่งไปว่า “ออ.... พรุ่งนี้พวกผมจะไปอัมพวากันครับเต็งหนึ่งไม่ได้บอกอาไว้เหรอครับ” “อ้าว.....เหรอ” “ครับ.....น่าจะกลับเย็นวันอาทิตย์เลยครับเพราะเต็งหนึ่งกับ เพื่อน ๆ จะไปเก็บรายละเอียดทำโปรเจคเกี่ยวกับประวัติบ้านเรือนไทย ริมน้ำเพราะต้องไปสัมภาษณ์เจ้าของเดิมกันด้วยครับ” “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวอาค่อยบอกป๊าเขาให้ตะวันอาฝากดูน้องด้วยนะ” “ค้าปปปปปปปปปป ......บ๊าย บาย ครับฝากความคิดถึง ไปยัง อาชาติชายด้วยครับ” ตะวันและทะเลถอนหายใจอย่างโล่งอกหันไปสบตากับโอบเอื้อ "มึงพาเต็งหนึ่งไปไหนคอนโดหรือบ้านมึง" ตะวันเอ่ยถามขึ้น เพราะทางแยกข้างหน้าจะเป็นแยกที่ทางไปคอนโดกับแยกไปยังบ้านของ โอบเอื้อ ทะเลชำเลืองมองคำตอบจากโอบเอื้อพลันสายตาครุ่นคิดปรากฎขึ้นในแววตาของโอบเอื้อ "กูว่าไปที่บ้านกูดีกว่าเพราะมีมือปืนอยู่เยอะมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยกัน" ทะเลจัดการหักพวงมาลัยเลี้ยวรถในทันทีเพื่อไปสู่บ้านของโอบเอื้อ เมื่อรถมาถึงบริเวณบ้านก็ขับรถไปจอดยังบันไดทางขึ้นไปยังตัวบ้าน มันไม่ควรเรียกว่าบ้านมันคือคฤหาสน์มีเนื้อที่บริเวณตัวบ้าน กว้างใหญ่มาก และมีบรรดาเหล่ามือปืนยืนดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านเป็นจุด จุด ห่างกันออกไป คฤหาสน์หลังนี้โอบเอื้ออาศัยอยู่คนเดียว แยกตัวมาจากบ้านใหญ่ด้วยเหตุผลต้องการสร้างตัวเองด้วยการทำธุรกิจสานต่อจากพ่อ ที่พ่อคอยอบรมสั่งสอนในการดูแลธุรกิจขาวและดำในทุกวันนี้มีเงินไหลเข้าบัญชีธนาคารอย่างเป็นกอบเป็นกำไหนจะ ธุกิจบาร์ My Boss บ่อนคาสิโน ค้าปืนเถื่อน อีกทั้งยังขึ้นนั่งตำแหน่งประธาน “บริษัท Boss Winner” ผลิตไวน์ภายใต้แบรนด์สามยี่ห้อส่งออกต่างประเทศและขายในประเทศเป็นธุรกิจที่ผู้เป็นพ่อสร้างขึ้น ธุรกิจผลิตไวน์เริ่มขึ้นตั้งแต่พ่อพาโอบเอื้อไปประเทศอังกฤษ ไปชมไร่องุ่นของผู้เป็นอาเด็กน้อยในวันนั้นได้บอกกับพ่อว่าโตขึ้นจะเป็นเจ้าของร้านขายไวน์จะเอาองุ่นของอาแสนไปทำเป็นไวน์ให้พ่อเหมาให้หมดไร่เลย ความคิดของเด็กน้อยในวันนั้นทำให้ผู้เป็นพ่อได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องไวน์ หลังจากนั้นไม่นานก็กว้านซื้อที่ดินเขาใหญ่ 300 ไร่ เพื่อปลูกองุ่นและสร้างโรงงานบ่มไวน์พร้อมทั้งหาสร้างทีมศึกษาและผลิตไวน์ เมื่อเปิดธุรกิจนี้ขึ้น ธุรกิจเจริญเติบโตขึ้นพร้อมกับวัยของลูกชายคนเดียว เมื่อโอบเอื้ออายุครบยี่สิบปีผู้เป็นพ่อทำการโอนกรรมสิทธิ์กิจการไวน์ทุกอย่างภายใต้ "บริษัท Boss Winner" ให้กับโอบเอื้อเป็นของขวัญวันเกิด ในวันครบรอบอายุ 20 ปีบริบูรณ์ บรรดาเหล่ามือปืนของโอบเอื้อเมื่อเห็นรถของเจ้านายมาก็รีบมาเปิดประตูรถ “ไอ้ดำมึงขึ้นไปเปิดประตูห้องนอนกูแล้วเปิดแอร์ตั้งไว้ ไอ้เพียรมึงไปเปิดน้ำใส่อ่างอาบน้ำให้เต็มรวดเร็วเลยมึง” ตะวัน รีบลงจากรถโอบเอื้ออุ้มเต็งหนึ่งขึ้นไปยังห้องนอน ทะเลขับรถเข้าไปจอดยังบริเวณลานจอดรถของตัวบ้านทะเลอ้าปาก จุ๊ จุ๊ เห็นบรรดารถแต่ละคันราคาหลักสิบล้านเดินไปยืนลูบลูบ คลำ คลำ แล้วรีบวิ่งขึ้นไปยังภายในบ้านของโอบเอื้อในทันที ทั้งสองรีบวิ่งตามไปในห้องนอนของโอบเอื้อภาพที่เห็นคือ โอบเอื้อ กำลังถอดเสื้อและกางเกงของเต็งหนึ่งแต่เต็งหนึ่งไม่ให้ความร่วมมือ พยายามตะเกียกตะกายเข้ามาจูบ โอบเอื้อ “มึงจะให้กูช่วยไหม” “ขอบใจมากเพื่อนไม่เป็นไรแล้ว ทีเหลือกูจัดการเองมึงจะนอนนี้ก็ได้หรือจะกลับคอนโดก็ได้ถ้ากลับไอ้ทะเลมึงเอารถแรมโบกินี่ไปได้เลยเบื่อเมื่อไรค่อยเอามาคืนกู” “จัดไปเฮียเอื้อ” ทั้งสองขับรถแรมโบกีนี่ออกจากคฤหาสน์ของโอบเอื้อที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของมันแล้ว ภายในห้องน้ำโอบเอื้อให้เต็งหนึ่งนั่งลงในอ่างอาบน้ำแล้วตนเอง นำฝักบัวเปิดน้ำรดไปยังร่างกายของเต็งหนึ่งเพื่อดับความเร่าร้อนกำลังเกิดขึ้นเต็งหนึ่งพยายามโอบกอดโอบเอื้อพยายามจะจูบโอบเอื้อ “เต็งหนึ่งอดทนไว้พี่จะไม่ทำอะไรน้องหากน้องไม่มีสติอดทนไว้ ผ่อนคลายอยากร้อง ร้องออกมา” เต็งหนึ่งน้ำตาไหลพรากสองข้างแก้มดิ้นทุรนทุราย ภายในอ่างอาบน้ำส่วนกลางลำตัวโป่งพองต้องการปลดปล่อย เต็งหนึ่งเอื้อมมือไปจับมันไว้แล้วจัดการจับแก่นกายของตนเองอย่างรวดเร็วบีบขย้ำ รูดขึ้นรูดลงพร้อมทั้งร่างกายบิดเร้าตามความต้องการของร่างกายตัวยาเริ่มอ่อนกำลังลงไปบ้างแล้วเมื่อน้ำขุ่นไหลทะลักออกจากแก่นกายขาวความเบาตัวทำให้เต็งหนึ่งผ่อนคลายและสลบลงในที่สุดโอบเอื้อจัดการทำความสะอาดร่างกายอุ้มมาที่เตียงเช็ดทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม เมื่อเห็นน้องยังเพลียและหลับไปแล้วตนเองกลับไปจัดการอาบน้ำปิดไฟและนอนลงเคียงข้างพร้อมทั้งเอื้อมมือไปโอบกอดน้องไว้ด้วยความรักและความแค้น ก๊อก....ก๊อก....ก๊อก โอบเอื้อขยับกายลุกขึ้นไปเปิดประตู เชนยืนรออยู่หน้าประตูห้อง ยื่นโทรศัพท์ให้ผู้เป็นนายเอื้อชื่อปรากฎที่หน้าจอมือถือ "ครับ...ป๊า" "เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรที่บาร์" "ใครบอกป๊า" "ป๊าเข้าไปบ่อนเห็นลูกน้องแกหิ้ววัยรุ่นออกมากำลังพาเข้าไปทางซอยหลังบาร์" "เป็นพวกเพื่อนไอ้ก้อง" "ลูกไอ้วิวัฒน์อีกแล้วเหรอว่ะ" "ครับ...ป๊า" "แล้วไอ้ก้องละเมื่อคืนป๊าไม่เห็นมันในกลุ่มนั้นนะ" "ผมจับมันขังไว้ที่ห้องเชือด" "จะทำอะไรก็ระวังแล้วกันแกโตแล้วเรื่องนี้ป๊าจะไม่เข้าไปยุ่งจำได้มั่ยที่ป๊าเคยบอก" "ก่อนจะกำจัดต้องจัดให้มันเชื่อง" "ดีมาก...ถ้ามีอะไรเกินมือก็ส่งมาให้ป๊า" "ครับ...ป๊า" "ออ...ลืมเลยคืนนี้จำนัดได้ไหม" "จำได้ครับ...ที่บาร์ ห้าทุ่ม...ครับ" "ดี....แล้วงานนี้..งานใหญ่แกจะให้พลาดไม่ได้เด็ดขาด" "ไม่ต้องห่วงทุกอย่างจะสำเร็จแต่เช้านี้ผมขอจัดการเคลียร์เรื่อง ไอ้ก้องก่อนครับ" "อืมมม....แค่นี้แหละ" "สวัสดีครับป๊า" ยื่นโทรศัพท์คืนให้มือขวา "อาหารเช้าตั้งโต๊ะเรียบร้อยแล้วครับหรือว่าจะทานบนห้องครับ" "ข้างล่าง...ดีกว่า...แกโทรเช็คไอ้ดำหรือยังทางโน้นเป็นไงบ้าง" "ยังไม่ฟื้นครับ" "อืมม..แกไปเตรียมรถให้พร้อมฉันจะพาเต็งหนึ่งไปที่บาร์ด้วย" "จะดีเหรอครับ" "แกไปบอกพนักงานทั้งหมดในบาร์ว่าเจ้าของบาร์คือไอ้วิวัฒน์ อย่าให้เต็งหนึ่งจับได้เด็ดขาดใครเผลอพูดอะไรออกไปกูจะจับเข้าห้องเชือดสามวันสามคืน" "ห๊ะ...โหดดไปมั่งนาย" โอบเอื้อยิ้มให้ลูกน้องส่ายหัวแล้วหันหลังเดินเข้าห้องไปปลุก เต็งหนึ่ง "ตื่นได้แล้วครับ" "ฮื่อ....หม๊าม่า...หนึ่งง่วงงงง" พลิกตัวขยับไปกอดหมอนข้างอย่างสบายใจ "ไม่ลุกใช่ไหมห๊ะ" โอบเอื้อใช้มือลูบไล้ไปตามแขนขาวผ่องไต่เรื่อยไปจนถึงใบหน้านวลจัดการเชยคางขึ้นมาพร้อมกับโน้มหน้าเพื่อจะจุมพิตทันใดนั้นเต็งหนึ่งลืมตาขึ้นมาจ้องหน้าด้วยความตกใจเอากำปั้นซัดเข้าไปกลางใบเบ้าตาของพี่อย่างรุนแรง "โอ้ยยยยย....." "เชี่ย.....ใครว่ะ" "แม่ง....หมัดหนักนี่หว่า" "ไอ้พี่เอื้อ....เข้ามาห้องกูได้ยังไง" "มึงช่วยแหกตาดูก่อนได้มั่ย....เจ็บฉิบหายต่อยมาได้... เต็งหนึ่งได้สติสอดสายตาหันไปดูรอบห้อง ตู้ โต๊ะ เตียง มันไม่ใช่ห้องตัวเอง "ฮ๊ากกกก.......กู อยู่ที่ไหนนนนนน" "จะแหกปากให้คนงานบ้านกูมาดูสารรูปมึงหรือไง" เต็งหนึ่งรีบลุกขึ้นเพื่อลงจากเตียงแต่พอขยับเพิ่งเห็นว่าตัวเองไม่ได้ใส่อะไรเลยสักชิ้นบนร่างกายมีแต่ร่างกายที่เปลือยหมดจดมีเพียงผ้าห่มที่คลุมไว้เท่านั้น "ไอ้พี่เอื้อ ..... มึง ..... มึง .... ฮาก .... ฮื่อ...ฮื่อ... ทำไมมึงเป็นคนแบบนี้ ....มึงจะรับผิดชอบกูมั่ย....กูมีเมียไม่ได้แล้ว....ฮื่อ....ฮื่อ....ไอ้พี่....มึงพรากความบริสุทธิ์กูไปแล้ว.....มึงเป็นผู้ชายคนแรกของกู....ฮื่อ....ฮื่อ..." เต็งหนึ่งร้องโว้ยวายเสียงดังลั่นห้องได้ยินไปถึงข้างล่างบรรดาลูกน้องก็เฝ้าระวังเผื่อจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น "หยุด.....กูบอกให้หยุด...นี่มึงจำอะไรไม่ได้เลยว่างั้น" เต็งหนึ่งน้ำตาไหลพราก พราก แล้วพยักหน้า รัว ๆ ด้วยใบหน้าเศร้าศร้อย "เวรกรรมอะไรของกูว่ะเนี่ยยยยย" โอบเอื้อตะโกนนนนเสียงดังลั่นห้อง "ไอ้พี่มึงจะรับกูเป็นเมียไหมหรือมึงจะไม่รับผิดชอบกู ฮาก .... ฮึก... ฮื่อ.... ฮื่อ....." "เดี๋ยวมึงช่วยหยุดร้องแล้วก็ช่วยตั้งใจฟังกู ดี ดี" เต็งหนึ่งหยุดร้องแต่ยังสะอื้นน้ำตายังคงไหล ยกมือขึ้นเช็ดน้ำมูก น้ำตาเหมือนเด็กนั่งจ้องมองโอบเอื้อตาแป๋วในใจก็ ครุ่นคิดไอ้พี่เอื้อคงกำลังเอาคืนกูอยู่แน่ แน่ เพราะมันไม่ชอบขี้หน้ากูเอามาก มาก แล้วกูก็ไม่ชอบขี้หน้ามันเมื่อคืนมันคงฉุดกูมาปู้ยีปู้ยำ แน่ แน่ เมื่อมันแก้แค้นได้สำเร็จก็จะทิ้งกู แล้วเยาะเย้ยกู เต็งหนึ่งในห้วงความคิดพลันยกยิ้มขึ้นเราต้องจับมันมาเป็นผัวเสียก่อน อย่าให้มันทันคิดที่จะทิ้งและสลัดกูก่อน โอบเอื้อจ้องมองหน้าเต็งหนึ่งด้วยความสงสัยกูจะทำอย่างไรดี ความคิดปิ๊งขึ้นมาในสมองแบบนี้ก็ดีบอกมันไปว่าเราเป็นของกันและกันแล้วต่อไปมันจะได้ไม่จงเกลียดจงชังไม่ต้องพูดจาไม่เข้าหู โอเคตามนี้แหละตกลงกับตัวเองในใจเสร็จเรียบร้อยก็ยกยิ้มอย่างมีความสุข "พี่จะรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดพร้อมที่จะดูแลเราแต่เราจะบอกเรื่องนี้กับใครไม่ได้เด็ดขาดเพราะน้องจะเสียหาย โอเคไหมครับ" เต็งหนึ่งยังคงนั่งมองตาแป๋วนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดมันไม่โว้ยวายหรือปฏิเสธเลยเหรอว่ะ พยายามคิดลำดับเหตุการณ์เมื่อคืนไปเข้าห้องน้ำในบาร์แล้วจำอะไรไม่ได้เลยหรือว่าไอ้พี่มันจะฉุดเรามาเพื่อแก้แค้นว่ะ แต่ช่างมันเถอะเอาตามที่ไอ้พี่ว่าไปก่อนแล้วกันเริ่มเจ็บหัวแล้วไม่อยากคิดอะไรแล้วว่าแล้วก็พยักหน้ารัว ๆ แบบ งง ในตัวเอง "งั้นน้องฟังพี่นะครับ ... น้องต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย ใส่เสื้อผ้าพี่ไปก่อนเราจะต้องรีบไปที่ บาร์ My Boss เพราะเมื่อคืนเรามีเรื่องกันวันนี้ตำรวจนัดไปดูที่เกิดเหตุแล้วน้องเดินไปสะดุดขาพวกมันล้มลงสลบไปเลยพี่เลยพาน้องมาบ้านพี่เพราะทุกคนวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง" "ไปกันสองคนอะ" "เราสองคนและไอ้ทะเลตัวการใหญ่" "อ๋อ... ทะเลมันไปมีเรื่องกันใช่ไหม" "ครับ" จากนั้นเต็งหนึ่งลุกขึ้นจากเตียงโดยใช้ผ้าห่มพันรอบเอวเข้าไปยังห้องน้ำ" "ไอ้พี่.....ผ้าขนหนู ด้วยยยย" ตะโกนเสียงดังออกมาจากห้องน้ำ "คร๊าบบบบบ" โอบเอื้อถอดหายใจโล่งอกไปทีที่เต็งหนึ่งมันไม่สงสัยอะไรเลยนี่กูได้เมียโดยที่กูยังไม่มีอะไรกับเมียเลย ทันใดนั้นทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างระอา Op มึงอยู่ไหน Sea กำลังไปบ้านเฮียนั้นแหละจะไปรับไอ้เต็งหนึ่งน้าธูโทรตามมาที่บ้านกู เมื่อเช้าม้าม๊าบอกว่าพวกกูเพิ่งกลับมาจากคอนโด ถามเรื่องจะไป อัมพวาด้วยกูบอกว่าเปลี่ยนแผน หม๊ากูเลยโทรไปบอกน้าธูซวยกูอีก เห้อ!... Op มึงมาที่บาร์กูเลยกูพาเต็งหนึ่งมาที่บาร์ Sea อ้าว!...เฮียไปทำไม Op กูจะมาจัดการไอ้ก้อง Sea แล้วไอ้เต็งหนึ่งไม่สงสัยอะ เฮียพาไปบาร์ Op กูโกหกบอกมันว่าเดี๋ยวตำรวจจะมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบาร์ตอนนี้กูให้มันนั่งรอในห้องทำงานกับไอ้วัฒน์ Sea แล้วมันไม่สงสัยเหรอเฮียให้มันไปนั่งที่ห้องทำงาน Op กูบอกว่าไอ้วัฒน์เป็นเจ้าของที่นี้และแนะนำให้มันรู้จักกับไอ้วัฒน์ Sea ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไอ้วัฒน์ผู้จัดการบาร์ได้เป็นเจ้าของบาร์เสียแล้วใกล้ถึงแล้ว เฮีย โอบเอื้อนั่งอยู่ภายใน” บาร์ My Boss” คิดแผนการทำลายไอ้ก้อง คู่ปรับที่มันมาหยามกันถึงถิ่น ไอ้ก้องมึงยังไม่สม ควรตาย จะได้รู้รสการทำลายหัวใจกู โอบเอื้อเรียกลูกน้องคนสนิทมาสั่งงาน ให้ไปจัดการสร้างหลักฐานว่าไอ้ก้องถูกฆ่าตายและนำศพใครก็ได้ใส่เสื้อผ้าที่มันไปที่บาร์เมื่อคืนนี้ แล้วนำศพไปทิ้งไว้ข้างทางตรงถนนสายนอกพร้อมทั้งจัดฉากว่าลูกนักการเมืองถูกอุ้มฆ่าด้วยเหตุผลการทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นและจัดการปิดปากตำรวจอย่าให้สาวมาถึง “บาร์ My Boss” ทะเลเดินเข้ามาภายใน “บาร์ My Boss” เห็นโอบเอื้อนั่งคุยกับ ราเชน “เฮีย” “เออ....มึงมาพอดีเชนมึงขึ้นไปตามเต็งหนึ่งลงมาไม่รู้ว่ามันถาม ได้วัฒน์ไปถึงไหนแล้ว” “ฮ่า ฮ่า ฮ่า เฮียกลัวมันด้วยเหรอ” “กูไม่อยากให้มันรู้ว่ากูเป็นมาเฟียอยากให้มันรู้แค่กูเป็นนักศึกษา ที่หล่อดูดีและสงบมากกว่า” “ทะเล.... มาได้ยังไงนี้” “มารับมึงนั้นแหละเป็นไงบ้างละมึง” “มึงหมายถึง.....อะไร” หันไปมองหน้าทะเลอย่างสงสัยเต็งหนึ่งเดินเข้าไปนั่งข้างโอบเอื้อพูดขอบใจพร้อมทั้งยิ้มไปด้วย ความรู้สึกดีกับพี่ที่เป็นคู่ปรับกันมาตลอดและพี่มันยังยอมรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
“ไอ้พี่ขอบใจมากนะที่ช่วยกู” “เออ.....มันก็ต้องรับผิดชอบสิว่ะ” “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปกูจะไม่ทะเลาะกับไอ้พี่อีกต่อไปเราจะต้องรักกันให้มากขึ้นทุกวันนะไอ้พี่" “กูขอเปลี่ยนจากขอบใจเป็นอย่างอื่นได้ไหมอะ” “ไอ้พี่....จะเอาอะไรกูไม่มีให้หรอกบ้านพี่ใหญ่ยังกับวังเครื่องเรือน อย่างแพงกูไม่มีของแพงให้หรอกนะ” “เอาไว้กูคิดได้ก่อนค่อยบอกมึงไปแล้วกัน” “แล้วไอ้พี่ไม่กลับพร้อมพวกกูเหรอตำรวจก็ยังไม่เห็นมารอตั้งนานแล้ว” “กูให้ไอ้ทะเลมารับมึงไปก่อนกูรอตำรวจมาดูกล้องวงจรปิดก่อน ถ้าหากเห็นหน้ามึงถ้าพวกนักข่าวรู้น้าธูกับน้าชาติ เอาพวกกูตายเลยกูจะขอกล้องเขาดูก่อนแล้วจะตัดตอนที่ไม่น่าชวนดูของพวกเราออกก่อน” โอบเอื้อโกหกให้เต็งหนึ่งสบายใจและหายสงสัย เต็งหนึ่งส่งรอยยิ้มที่ไม่เคยมีให้กับโอบเอื้อและเดินเข้าไปกอดขอบใจในความรักที่มีให้กันแบบนี้ที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะได้รับการดูแล อย่างดีสองมือโอบกอดผู้เป็นพี่ "เฮ้ย....ไปนอนบ้านเฮียคืนเดียว ..... เต็งหนึ่ง มึงกอดเฮียเลยเหรอว่ะ" "อืมมม......" "กูตกข่าวเรื่องอะไรไหมว่ะก็ไม่นะ" "ไม่มี๊......." สองเสียงตะโกนประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน "มันน่าสงสัยอยู่...นา......" ทะเลมองหน้าทั้งสองคนสลับไปมาอย่างฉงนสงสัย "มึงอย่ามาสงสัยมากรีบพาเต็งหนึ่งไปส่งที่บ้านก่อนเห็นว่าป๊ามันรออยู่ไม่ใช่เหรอ" "ลืมไปเลยเร็วเถอะทะเลไปช้าป๊ากูบ่นตาย" "พวกมึงอย่ามาเนียนเรื่องนี้มันมีเงื่อนงำมีอะไรที่กูไม่รู่แน่ แน่ เฮียบอกกูมาก่อนไม่งั้นกูไม่ไปส่งไอ้เต็งหนึ่ง" "หรือว่ามึง จะคืนรถให้กู" "ย๊ากกกกก......เฮียยยยยย.....กูฝากไว้ก่อน..." ทะเลลุกขึ้นยืนรีบจับมือเต็งหนึ่งลากเดินออกจากบาร์ My Boss ไปด้วยความเร็ว ในทันที........ ......อีน้องกลัวผัวไม่รับผิดชอบ.... ..........อีพี่ได้เมียโดยไม่รู้ตัว..........บทที่ 2 ไอ้พี่...จะรับผิดชอบไหม รถคันหรูถูกเหยียบมิดจากฝีตีนอันหฤโหดแห่งตระกูลบวรกิจพัฒนา นายทะเล (จากเรื่อง เมื่อไรจะรู้ว่า Love) ผู้ซึ่งไม่เคยกลัวใครและไม่เคยมีเหตุผลใดใดทั้งสิ้น "ไอ้ทะเลมึงไม่ต้องรีบขนาดนั้นมึงช่วยดูตำรวจด้วยจะถูกจับความเร็ว" เอื้อบ่นใส่ทะเล "มึงไปดูเอกสารที่ส่งมาจากตำรวจที่บ้านมันกองเป็นภูเขาในแต่ละเดือนเรื่องความเร็วฝ่าไฟแดงงี้ น้าแป้งขี้เกียจบ่นมันแล้ว" ตะวัน (จากเรื่อง เมื่อไรจะรู้ว่า Love) บ่นถึงแฟนตัวเอง "ฮื่อ....ฮึก....พี่เอื้อ ..ฮื่อ ร้อน ....ร้อน... ถอดเสื้อหน่อย ฮึก..." เสียงร้องอย่างทรมานของเต็งหนึ่งดังขึ้นตลอดตั้งแต่ออกจากบาร์มา พยายามถอดกางเกงถอดเสื้อออกจากร่างกายและดิ้นตะเกียกตะกายเพื่อต้องการปลดปล่อยความร้อนที่อัดแน่นอยู่ภายในร่างกาย ด้วยฤทธิ์ของยารุนแรงมากทำให้เต็งหนึ่งทุรนทุราย ตั้งแต่ออกจากบาร์เหงื่อผุดทั่วหน้า ใบหน้าแดงก่ำบ่งบอกถึงความทรมานที่ร่างกา
บทที่ 1 แนะนำตัวละคร โอบเอื้อ (พระเอก) นักศึกษามหาวิทยาลัย ปี 4 เรียนเก่ง กิจกรรมเป็นเลิศใครหยามไม่ได้ อารมณ์ร้อนตาต่อตาฟันต่อฟัน จริงจังกับการทำงานทุกอย่างไม่เคยยอมให้ผู้ใดในมหาวิทยาลัย มักมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคู่ปรับประจำมหาวิทยาลัยอยู่เสมอ พ่อเป็นมาเฟีย ซึ่งมีเพื่อน ๆ ในมหาวิทยาลัยแค่คนสนิทไม่กี่คนที่รู้เรื่องราวตื้นลึกหน้าบางของตน ธุรกิจในเครือของ “เมธาอัครโยธิน” มีธุรกิจโรงแรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยภายใต้การดูแลของผู้เป็นบิดา ส่วนเบื้องหลังธุรกิจสีดำมีทั้งบ่อนคาสิโน เงินกู้นอกระบบค้าอาวุธเถื่อน ซึ่งต่อไปจะเป็นธุรกิจของรุ่นโอบเอื้อต่อไป เต็งหนึ่ง (นายเอก) รูปหล่อ พ่อรวย เรียนเก่ง มีหุ้นในบริษัทในเครือของ “วราเจริญภิวัฒน์” ของคุณแม่(คุณพธูทิพย์จากเรื่องคู่กันฉันกับเธอ) เพราะพ่อให้ศึกษาเรื่องธุรกิจในเครือตั้งแต่มัธยมปลาย ฉลาดแ