ย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน ก่อนที่ อันนา จะเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยใน กรุงเทพ ฯ
กลางหมู่บ้านเล็ก ๆ เป็นหมู่บ้านชนบทที่ห่างไกลจากความหรูหราและแสงสีของเมืองใหญ่ มีร้านขายของชำเก่าแก่ตั้งอยู่ริมถนนสายหลักของหมู่บ้าน
ร้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้จำเป็นสำหรับคนในละแวกนั้น แม้จะไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ที่นี่คือศูนย์กลางของชุมชน และเป็นหัวใจของครอบครัว อันนา
ภายในร้านมีชั้นวางไม้ที่ถูกใช้งานมานานจนมีร่องรอยของกาลเวลา ขวดน้ำอัดลมเรียงตัวเป็นแถวอยู่ในตู้แช่เก่า ๆ ขนมหลากชนิดใส่ไว้ในขวดโหลแก้วใส ส่วนเคาน์เตอร์คิดเงินเป็นโต๊ะไม้ตัวเดิมที่อยู่คู่กับร้านมาหลายสิบปี
หลังเคาน์เตอร์ มีหญิงวัยกลางคนสวมผ้ากันเปื้อนสีซีดกำลังจัดเรียงสินค้าบนชั้น
เธอคือ "ป้าสมพร" แม่ของอันนา ผู้เป็นเจ้าของร้านขายของชำแห่งนี้
ส่วนพ่อของเธอ "ลุงมนัส" กำลังนั่งนับเงินทอนอยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ ทั้งสองทำงานหนักทุกวันตั้งแต่เช้ายันค่ำ เพราะรายได้จากร้านเล็ก ๆ แห่งนี้คือสิ่งที่หล่อเลี้ยงครอบครัวของพวกเขา
และที่มุมหนึ่งของร้าน
อันนา — หญิงสาวที่ดูขี้บ่นและจริงจังกับชีวิต กำลังช่วยน้องชายตัวแสบของเธอทำการบ้าน
"อาร์ต" เด็กชายวัย 10 ขวบที่ซุกซนและไม่ค่อยอยากตั้งใจเรียนมากนัก กำลังนั่งทำตาปริบ ๆ มองโจทย์คณิตศาสตร์ตรงหน้าอย่างปวดหัว
"อาร์ต ตั้งใจหน่อยสิ ถ้าเธอไม่ทำเสร็จ เดี๋ยวก็จะไม่ให้ไปเตะบอลกับเพื่อนๆ นะ" อันนา พูดเสียงดุ
"โหยย……พี่อันนา ผมไม่อยากทำแล้ว มันยากอะ" เด็กน้อยโอดครวญ พลางเอาหัวซบโต๊ะอย่างหมดหวัง
ป้าสมพร ได้ยินเสียงลูกทั้งสองก็หันมายิ้มบาง ๆ
"อันนา อย่าไปเร่งน้องนักเลยลูก เด็กผู้ชายก็แบบนี้แหละ"
"แต่แม่คะ อาร์ตมันเอาแต่เล่น ไม่เคยตั้งใจเรียนเลยนะ"
"เพราะพี่อันนา เข้มงวดไง น้องเลยกลัวไปหมด" พ่อของเธอเสริมขึ้นพร้อมหัวเราะเบา ๆ
อันนา ถอนหายใจแรง ๆ พลางกอดอก "เฮ้อ… พ่อกับแม่ตามใจน้องแบบนี้ อาร์ต มันก็ไม่โตสักทีหรอกค่ะ"
พ่อกับแม่ หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
"น้องยังเด็กอยู่ลูก เดี๋ยวค่อยๆ สอน กันไป น้องก็ต้องเชื่อฟังพี่ รู้ไหมครับ" แม่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"คร้าบบบบบ…." น้องชายตัวแสบ พูดตอบรับไปพลาง เกาหัวไปพลาง
เธอเข้าใจว่าพ่อแม่ทำงานหนักเพื่อให้เธอกับอาร์ตได้มีอนาคตที่ดี แม้ว่าครอบครัวพวกเขาจะไม่ได้มีเงินมากมาย ไม่มีบ้านหลังโต ไม่มีรถหรู แต่บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นเสมอ
ในทุก ๆ เช้า อันนา จะตื่นมาช่วยแม่เปิดร้าน ช่วยกวาดพื้น เช็ดโต๊ะ และเติมสินค้า แม้บางครั้งเธอจะรู้สึกเหนื่อย แต่เมื่อมองไปที่รอยยิ้มของพ่อกับแม่ เธอก็รู้ว่าความเหนื่อยนี้มีค่ามากกว่าทุกสิ่ง
และนั่นคือเหตุผลที่เธอเป็นคนขยัน ตั้งใจเรียน และไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรค เธอรู้ว่าหากเธออยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เธอต้องพยายามด้วยตัวเอง
อันนาเติบโตมาในครอบครัวที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วย
ความอบอุ่น พ่อและแม่ของเธอแม้จะมีเพียงร้านขายของชำเล็ก ๆ แต่ก็ทำงานหนักเพื่อส่งเสียลูก ๆ ให้ได้รับการศึกษาที่ดี
อันนาเป็นเด็กเรียนดีมาตลอด และเธอได้รับ
ทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในกรุงเทพฯ ด้วยผลการเรียนที่โดดเด่นและการเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นในการเรียนต่อในระดับปริญญาตรี
“อันนา ลูกต้องตั้งใจเรียนนะ” พ่อของเธอพูดในคืนก่อนที่เธอจะเดินทางไปศึกษาปีแรก ในมหาวิทยาลัย ที่กรุงเทพฯ
“พ่อกับแม่ภูมิใจในตัวลูกมาก”
“ค่ะพ่อ หนูจะไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง” อันนา กอด พ่อแม่แน่น
เธอรู้ว่าการจากบ้านมาเรียนในเมืองใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เธอพร้อมจะสู้เพื่อตามความฝันของตัวเอง
เช้าวันเดินทาง อันนา ลากกระเป๋าออกจากบ้าน มองไปรอบ ๆ ร้านขายของชำเล็ก ๆ ที่เธอเติบโตมา ทุกมุมของที่นี่เต็มไปด้วยความทรงจำ
แม่เดินเข้ามาหาเธอ กุมมือแน่น “ดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก”
อันนา พยักหน้า พยายามกลั้นน้ำตา “ค่ะแม่ หนูคิดถึงพ่อ แม่ และน้อง นะคะ”
พ่อเดินมาแตะไหล่เธอเบา ๆ “ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ที่นี่ก็ยังเป็นบ้านของลูกเสมอ”
น้องชายของเธอ — หอมแก้มเธอเบา ๆ “พี่อันนา อย่ามัวแต่เรียนจนลืมพักผ่อนนะ ครับ ผมเป็นห่วงพี่นะ”
อันนาหัวเราะทั้งน้ำตา “รู้แล้วจ๊ะ เจ้าน้องชายตัวป่วน”
เธอหันหลังเดินขึ้นรถประจำทาง หัวใจเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและหวั่นไหว รถเคลื่อนตัวออกจากสถานี ทิ้งไว้เพียงภาพครอบครัวที่ยืนโบกมือส่งเธอด้วยรอยยิ้ม
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ของอันนา ในเมืองใหญ่ที่เธอไม่คุ้นเคย
ชีวิตที่ต่างจาก พีท ที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีทุกอย่าง ยกเว้น ความรัก อันนา มีทุกอย่างที่ พีท ไม่มี — ความอบอุ่น เสียงหัวเราะ และการดูแลเอาใจใส่
และบางที…นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงแตกต่างกันมาก แต่กลับดึงดูดกันอย่างประหลาด