Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-12-29 20:38:10

“คุณหนูท่านว่าพวกเขาจะเลิกตามล่าเราหรือยังเจ้าคะ” ปี้หรูกระซิบถามโจวจินเซวียนในยามที่ช่วยใช้ผ้าซับน้ำตามเรือนผมให้อีกฝ่าย

“ข้าไม่รู้ นี่ผ่านมาสิบกว่าวันแล้ว ไม่รู้ว่าการปราบปรามเหวินอู่โหวเป็นอย่างไรบ้าง ท่านพ่อ...ท่านพ่อให้ข้ารับปากว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้าก็ต้องเดินทางไปยังเมืองต้าเหลียง ฉะนั้นเราก็ได้แต่หวังว่าเมื่อไปถึงที่นั่นท่านพ่อจะรอเราอยู่แล้ว”

“แล้วเมืองต้าเหลียงอยู่อีกไกลหรือไม่เจ้าคะ”

“หากเดินเท้าคงราวๆ ครึ่งเดือนกระมัง ข้าเองก็ไม่เคยไปเพียงได้ยินมาเท่านั้น”

“แห้งแล้วเจ้าค่ะคุณหนูนอนพักเถิดนะเจ้าคะ”

“ปี้หรูต่อไปก็เรียกข้าว่าพี่สาวเถิด เรียกเช่นนี้อาจทำให้ผู้อื่นสงสัยได้”

“เจ้าค่ะ” ปี้หรูพยักหน้าเห็นด้วย เพราะแม้จะสนทนากันเสียงเบา กระนั้นพวกนางก็ไว้ใจผู้ใดไม่ได้ “พี่สาวหน้าท่านถูกน้ำฝนล้างออกหมดแล้วข้าช่วยทาให้ท่านใหม่นะเจ้าคะ”

“ได้”

พวกนางทั้งสองต้องทนกลิ่นเหงื่อไคล ทั้งยังไม่กล้าอาบน้ำล้างเนื้อตัวและสวมเสื้อผ้าสกปรกเหม็นอับ รวมไปถึงใช้ผงถ่านทาใบหน้าให้อัปลักษณ์จนผู้คนไม่อยากเข้าใกล้เช่นนี้

หนึ่งในสาเหตุก็เพื่อปกป้องตัวเอง กระนั้นนี่ก็ไม่อาจทำให้พวกนางรู้สึกปลอดภัยในยามที่ทิ้งกายลงไปนอน

ปี้หรูเอื้อมมือดึงมือนุ่มเนียนของโจวจินเซวียนไปกุมไว้

“ท่านพยายามข่มตาให้หลับนะเจ้าคะ ข้าจะเฝ้าดูผลัดแรก ท่านตื่นข้าค่อยนอน” พวกนางทำเช่นนี้เสมอแม้จะเดิมทางมากับกลุ่มผู้อพยพก็ตาม

“เช่นนั้นเจ้าต้องรีบปลุกข้านะหากเจ้าง่วงจนทนไม่ไหว”

“เจ้าค่ะ”

โจวจินเซวียนหลับไปได้ครู่หนึ่ง ในยามที่นางพลิกกายก็ต้องตัวแข็งทื่อ หญิงสาวพยายามกะพริบตาเพื่อปรับการมองเห็น

ในมุมซึ่งไม่ไกลจากจุดที่นางซุกตัวนอน สายตาคมกริบดุร้ายวาววับคู่หนึ่งกลับจดจ้องมองมาในความมืด

เสียงอสุนีบาตฟาดลงมา พร้อมกับแสงวับแวมลอดเข้ามา ทำให้เห็นใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเป็นภาพรางๆ

บาดแผลเป็นทางยาวจากใบหูพาดลงมายังข้างแก้มสามเส้น ทำลายโฉมหน้าของเขาครึ่งหนึ่งจนแทบมองไม่ออกว่าเขามีหน้าตาเช่นไร และนั่นยิ่งส่งผลให้ใบหน้าของเขาดูน่าหวาดกลัวยิ่งขึ้น

เส้นผมรุงรังที่ปกปิดกรอบใบหน้าอีกฝั่ง ทำให้ใบหน้าเขาดูราวกับปีศาจร้ายที่เพิ่งโผล่ออกมาจากขุมนรก

“!”

โจวจินเซวียนส่งเสียงกรีดร้องออกมาได้เพียงนิดก็ถูกมือใหญ่ของเขาตะครุบเอาไว้ได้ ในยามที่เขารัดร่างของนางเอาไว้ ทั้งใช้มือเพียงข้างเดียวฉุดนางเข้าไปยังมุมที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้

มือเล็กตวัดไปยังจุดที่ปี้หรูนอนอยู่ กระนั้นกลับคว้าได้เพียงความว่างเปล่า

นัยน์ตาของหญิงสาวเบิกกว้าง ก่อนจะพบว่าบุรุษที่จับตัวนางเอาไว้ไม่แม้แต่จะมองมายังนาง

สายตาคมกริบของเขามองตรงไปข้างหน้า ไม่นานหูของนางจะได้ยินเสียงสุขสำราญของกลุ่มบุรุษที่พวกนางเดินทางมาด้วย

ท่ามกลางเสียงฟ้าฝนและเสียงลมกรรโชกแรง กลุ่มบุรุษเหล่านั้นไปรวมอยู่ที่มุมหนึ่ง บนพื้นที่โผล่ออกมาจากร่างหนาเปลือยเปล่าของพวกเขาคือท่อนขาเรียวเล็กของอิสตรี

รองเท้าปักลายคุ้นตาข้างนั้นทำให้โจวจินเซวียนเบิกตากว้าง หัวใจของนางหล่นวูบเมื่อตระหนักได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น นางพยายามดิ้นรนให้หลุดจากการเกาะกุมของบุรุษแปลกหน้า กระนั้นกลับไม่เป็นผล

“นางเสียสละตัวเองเพื่อช่วยเจ้า” เสียงทุ้มกระซิบเบาๆ ดังขึ้น กระนั้นกลับไม่อาจปลอบประโลมหัวใจที่สิ้นหวังของหญิงสาว

“รอครู่หนึ่งก่อน” สิ้นคำนั้นเสียงวัตถุแหวกอากาศพลันดังขึ้น ร่างของกลุ่มบุรุษที่กำลังหาความสำราญจากเรือนร่างของปี้หรูล้มลงทีละคนสองคน ก่อนที่กลุ่มโจรกลุ่มหนึ่งจะกรูกันเข้ามา

เสียงอึงคะนึงและเสียงกรีดร้องพร้อมเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นเป็นระยะ ดวงตาคู่งามที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาเบิกกว้าง

“อย่างส่งเสียง” เสียงเบากระซิบบอกนางซึ่งนางก็ทำตามแต่โดยดี เพราะกลุ่มโจรที่เข้ามาใหม่เริ่มเข่นฆ่าผู้คนที่อยู่ในศาลเจ้าร้าง

จากจุดที่นางอยู่สามารถมองเห็นการเข่นฆ่านั้นอย่างถนัดถนี่ นางดิ้นรนอีกครั้งเมื่อกลุ่มโจรเดินตรงไปยังปี้หรูที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้น ก่อนที่กระบี่เล่มหนึ่งจะแทงลงไปยังร่างเปลือยเปล่าของนาง

“เจ้าทำอะไร! เหตุใดไม่เก็บนางนี่ไว้หาความสำราญ!”

ถ้อยคำตะโกนนั้นได้รับคำตอบเป็นสายตาโกรธแค้นของผู้ลงมือสังหาร “ข้าเพียงปล้นทรัพย์สินไม่ย่ำยีอิสตรี คนที่เหลือจับไปใช้แรงงานในค่าย แม้ข้าทำตัวเยี่ยงโจรปล้นฆ่าผู้คนแต่ข้าลงมือเฉพาะกับบุรุษด้วยกันเท่านั้น ข้าไม่ต่ำช้าพอที่จะย่ำยีสตรีที่ไร้ทางสู้” น้ำเสียงที่แฝงแววข่มขู่ทำให้โจรถ่อยคนแรกรามือไป

ในยามที่กลุ่มโจรเหล่านั้นค้นของมีค่า จุดที่หญิงสาวกับบุรุษแปลกหน้าอยู่กลับไม่ได้รับความสนใจ อาจเพราะเป็นมุมมืดใต้โต๊ะซึ่งมีเศษผ้าเก่าๆ พาดลงไปหลงเหลือเพียงช่องเล็กๆ ทำให้นางเห็นเหตุการณ์ ทำให้ผู้มาใหม่เพียงสนใจในจุดที่กลุ่มผู้อพยพนอนเรียงรายกันอยู่

น้ำตาของโจวจินเซวียนยังคงหลั่งริน ในยามที่นางมองไปยังร่างแน่นิ่งเปลือยเปล่าของปี้หรู นางชะงักเมื่อมองเห็นโจรผู้ลงมือสังหารผู้นั้น ดึงเสื้อคลุมของหนึ่งในเหล่าบุรุษที่ย่ำยีปี้หรูขึ้น ก่อนจะใช้คลุมมันลงไปยังร่างเปลือยเปล่าน่าเวทนานั้น

แม้จะโกรธแค้นที่เขาลงมือฆ่าสาวใช้ของตน แต่ใจนางกลับแอบขอบคุณเขาในใจกับการกระทำนั้น เพราะโจรใจโฉดหลายคนยังกวาดสายตามองร่างไร้วิญญาณนั้นด้วยดวงตาหื่นกระหาย ราวกับพวกเขากำลังเสียดายอย่างสุดแสน

ไม่นานศาลเจ้าพลันกลับมาเงียบสงบ กลิ่นคาวเลือดยังคงคละคลุ้งแม้ด้านนอกสายฝนยังคงสาดซัด ร่างที่จมกองเลือดด้านนอก ถูกกลุ่มโจรเหล่าทิ้งเอาไว้อย่างไม่เหลียวแล คาดว่ากลุ่มอพยพน่าจะถูกติดตามมานานแล้ว กระทั่งกลุ่มโจรเหล่านั้นเห็นโอกาสในการโจมตีนี้ก่อนลงมืออย่างเหี้ยมโหด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เงารักกลางม่านเมฆา   บทที่ 4

    ร่างสูงยังคงก้าวเดินออกไปช้าๆ และนั่นทำให้โจวจินเซวียนก้าวตามเขาไปอย่างไม่มีทางเลือก แม้ว่าไม่รู้ว่าเขาเป็นใครและกำลังไปที่แห่งใดกระนั้นนางกลับรู้สึกว่าอยู่กับเขานางคงปลอดภัยกว่าอยู่ที่ศาลเจ้าร้างที่เต็มไปด้วยศพคนตาย หรืออีกทางเลือกหากนางเดินทางคนเดียวนั่นยิ่งอันตรายกว่า...เดินเท้าตั้งแต่เช้าตรู่กระทั่งตะวันบ่ายคล้อย โจวจินเซวียนเริ่มเหน็ดเหนื่อยจนก้าวเท้าไม่ออก เท้าของนางเจ็บจนชาแทบไม่มีความรู้สึก แผ่นหลังของบุรุษที่เดินอยู่ด้านหน้าทิ้งห่างไปเรื่อยๆ แต่กลับไม่กล้าเปล่งเสียงเรียกเขา เนื่องจากกลัวว่าเขาจะปฏิเสธที่จะให้นางร่วมทาง หญิงสาวจึงได้แต่เร่งฝีเท้าตามเขาอยู่ห่างๆ กระทั่งในที่สุดนางก็ตามเขาไม่ทันโจวจินเซวียนเคว้งคว้างเพียงลำพัง ท่ามกลางเสียงของสายลมพัดยอดไม้และเสียงเหล่าสกุณาที่กำลังบินกลับรัง ท้องฟ้าเริ่มทอแสงสีส้มเป็นสัญญาณสุดท้ายว่ากำลังจะค่ำลง นางเดินไปข้างหน้าด้วยใบหน้าซีดขาว ความหวาดกลัวเริ่มเข้าครอบงำจิตใจช้าๆ จนไม่อาจกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ น้ำตาที่เพียรห้ามไม่ให้หลั่งรินความอ่อนแอที่เพียรกดข่ม บัดนี้ทุกอย่างกลับพังครืน...ได้แต่ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นกอดห่อผ้าเอาไว้กับอกก่

  • เงารักกลางม่านเมฆา   บทที่ 3

    โจวจินเซวียนหาได้สงสารเหล่าเพื่อนร่วมเดินทางที่สิ้นใจอยู่โดยรอบ นางเห็นชัดเจนในยามที่มองกวาดสายตาไปยังสตรี คนแก่ หรือคนอื่นๆ ที่เดินทางมาด้วย พวกเขารู้ทั้งรู้ว่าปี้หรูโดนย่ำยีแต่ไม่กล้ายื่นมือเข้าช่วยเหลือ บางคนขยับกายมองด้วยสายตาเฉยชา บางคนขยับหนีด้วยความหวาดกลัว บางคนลุกขึ้นนั่งมองราวกำลังเห็นเรื่องน่าสนุกความสิ้นหวังและท้อแท้ลอยอวลท่ามกลางความเงียบ หญิงสาวได้แต่นอนนั่งในอ้อมแขนของบุรุษแปลกหน้า กลิ่นเหงื่อไคลที่โชยออกมาท่ามกลางกลิ่นคาวเลือด เสียงลมหายใจแผ่วเบาที่ดังขึ้นข้างหู เรียกสติและความนึกคิดของนางกลับมามือน้อยค่อยๆ ขยับก่อนจะพบว่าพันธนาการจากเขาได้คลายลงแล้ว นางขยับออกห่างเขาจากกายเขาแล้วพบว่าอีกฝ่ายแน่นิ่งไปแล้วคิ้วเรียวขมวดมุ่นในยามที่แสงฟ้าแลบแปลบปลาบนั้น ส่งผลให้นางมองเห็นคราบเลือดบนแขนเสื้อตัวเอง นางอยู่ห่างจากจุดที่เกิดการเข่นฆ่า แล้วเหตุใดตัวนางจึงเปรอะเปื้อนเลือดได้นั่นคือคำถามที่นางถามตัวเองในใจ กระทั่งเลื่อนสายตามองบุรุษที่หลับตานอนนิ่งอยู่ในมุมมืด แสงสายฟ้าเล็ดลอดเข้ามาอีกครั้งทำให้นางตระหนักในที่สุด บุรุษผู้นี้ได้รับบาดเจ็บนั่นคือคำตอบว่าเหตุใดในยามที่พวกนางเข้

  • เงารักกลางม่านเมฆา   บทที่ 2

    “คุณหนูท่านว่าพวกเขาจะเลิกตามล่าเราหรือยังเจ้าคะ” ปี้หรูกระซิบถามโจวจินเซวียนในยามที่ช่วยใช้ผ้าซับน้ำตามเรือนผมให้อีกฝ่าย“ข้าไม่รู้ นี่ผ่านมาสิบกว่าวันแล้ว ไม่รู้ว่าการปราบปรามเหวินอู่โหวเป็นอย่างไรบ้าง ท่านพ่อ...ท่านพ่อให้ข้ารับปากว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้าก็ต้องเดินทางไปยังเมืองต้าเหลียง ฉะนั้นเราก็ได้แต่หวังว่าเมื่อไปถึงที่นั่นท่านพ่อจะรอเราอยู่แล้ว”“แล้วเมืองต้าเหลียงอยู่อีกไกลหรือไม่เจ้าคะ”“หากเดินเท้าคงราวๆ ครึ่งเดือนกระมัง ข้าเองก็ไม่เคยไปเพียงได้ยินมาเท่านั้น”“แห้งแล้วเจ้าค่ะคุณหนูนอนพักเถิดนะเจ้าคะ”“ปี้หรูต่อไปก็เรียกข้าว่าพี่สาวเถิด เรียกเช่นนี้อาจทำให้ผู้อื่นสงสัยได้”“เจ้าค่ะ” ปี้หรูพยักหน้าเห็นด้วย เพราะแม้จะสนทนากันเสียงเบา กระนั้นพวกนางก็ไว้ใจผู้ใดไม่ได้ “พี่สาวหน้าท่านถูกน้ำฝนล้างออกหมดแล้วข้าช่วยทาให้ท่านใหม่นะเจ้าคะ”“ได้”พวกนางทั้งสองต้องทนกลิ่นเหงื่อไคล ทั้งยังไม่กล้าอาบน้ำล้างเนื้อตัวและสวมเสื้อผ้าสกปรกเหม็นอับ รวมไปถึงใช้ผงถ่านทาใบหน้าให้อัปลักษณ์จนผู้คนไม่อยากเข้าใกล้เช่นนี้หนึ่งในสาเหตุก็เพื่อปกป้องตัวเอง กระนั้นนี่ก็ไม่อาจทำให้พวกนางรู้สึกปลอดภัยในยามที่

  • เงารักกลางม่านเมฆา   บทที่ 1

    ขบวนรถม้าที่กำลังวิ่งอยู่บนอันแสนขรุขระอย่างรีบเร่ง ทำให้บรรดาสัตว์น้อยใหญ่แตกตื่นพร้อมวิ่งหนีอย่างลุกลี้ลุกลน เหล่านกน้อยบินหวือออกไปทุกทิศทางเพราะความหวาดหวั่น เช่นเดียวกันกับใบหน้าของผู้คนที่อยู่ในขบวนรถม้า พวกเขาทุกคนต่างมองไปรอบทิศอย่างหวาดระแวงเสียงฝีเท้าม้าซึ่งตามหลังมาส่งผลให้ใบหน้าของพวกเขายิ่งเผือดสี คนบังคับรถม้าหวดแส้ไปยังม้าสองตัวที่ผูกยืดเข้ากับรถม้า พวกมันเร่งฝีเท้าขึ้นอีกตามแรงหวดกระนั้นกลับยังคงไม่เร็วดังใจเสียงตะโกนกู่ร้องด้านหลังทำให้คนในขบวนรถม้าแตกตื่น คนคุ้มกันส่วนหนึ่งหันหลังกลับไปยิงธนูอีกส่วนก็เตรียมพร้อมรับมือผู้ที่ไล่ตามมา รถม้าคันที่อยู่ด้านหลังสุดค่อยๆ ชะลอความเร็วกระทั่งจอดแน่นิ่ง ใบหน้านิ่งเฉยของบุรุษวัยกลางคนโผล่ออกมาจากม่านรถม้า ชะโงกออกไปมองไปยังรถม้าอีกคันข้างหน้า“พวกเจ้าคุ้มเซวียนเอ๋อร์ด้วย ข้าขอฝากบุตรสาวของข้าด้วย” “ขอรับท่านอาจารย์โจว” ผู้คุ้มกันสามคนรับคำเสียงหนักแน่นก่อนควบม้าตามรถม้าอีกคันไป ส่วนที่เหลือหันกลับไปถ่วงเวลาเหล่ามือสังหารในชุดสีดำซึ่งกำลังใกล้เข้ามา “ท่านพ่อ!” เสียงสตรีนางหนึ่งร้องเรี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status