สิบห้านาทีต่อมา ตีรณาและเพื่อนอีกสองคนได้แก่ ดุษิตาและกันยาถูกเรียกตัวมาเตรียมพร้อม ทั้งยังได้รู้ว่าแขกระดับวีวีไอพีที่ว่านั้นคือใครบ้าง หนึ่งในนั้นคือ คุณไทม์ ซึ่งปกติคุณไทม์จะไม่นั่งกับแขกไม่ว่าจะกับใครก็ตาม แต่คราวนี้คงเป็นวาระพิเศษจริงๆ เพราะมีทั้งรัฐมนตรีคนดังรวมทั้งหมดสามคน หนึ่งในนั้นคือเลิศลักษณ์ รัฐมนตรีคนดัง พร้อมทั้งสาวสวยระดับเกรดเอของที่นี่ซึ่งมีไว้บริการแขกระดับสูง ดังนั้นทุกอย่างจะถูกปกปิดเป็นความลับ จึงต้องมีช่องทางเข้าออกพิเศษสำหรับคนเหล่านี้โดยเฉพาะ
ทั้งสามนำเครื่องดื่มและอาหารเข้าไปเสิร์ฟ คุณไทม์นั่งริมสุด ข้างกันคือสาวสวยนามว่านลิน คนที่พนักงานบาร์เทนเดอร์เคยพูดถึง ชายหนุ่มเหลือบตามองมายังพนักงานเสิร์ฟของตนราวจะควบคุมไม่ให้มีความผิดพลาดใดเกิดขึ้น ไล่ตั้งแต่ดุษิตา กันยาและมาหยุดที่ตีรณาเป็นคนสุดท้าย หญิงสาวไม่ว่อกแว่กไปกับผู้ใด แต่ตั้งใจทำหน้าที่ของตนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
“คุณเกรียงว่ายังไง เรื่องที่เราคุยกันไว้ จะมีข่าวดีบ้างไหม” รัฐมนตรีเลิศลักษณ์กล่าว พลางหยิบเหล้าที่ดุษิตาเป็นคนชงขึ้นดื่ม ก่อนจะไล่สายตามองยังพนักงานเสิร์ฟทั้งสามด้วยความพึงพอใจ เพราะทุกคนล้วนหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม สบายตายิ่ง
“ไม่นานนี้แน่นอนคุณเลิศ คราวหน้า ผมไม่ยอมพลาดแน่”
“ผมเกรงว่าจะมีคนคัดค้านอีกน่ะสิ” เลิศลักษณ์กล่าว
“ก็แล้วจะปล่อยให้พวกนั้นมันคัดค้านง่ายๆ ทำไมล่ะครับ” เกรียงไกรกล่าวยิ้มๆ ราวกับว่าเขามีแผนเตรียมเอาไว้แล้ว ก่อนจะหันไปจูบแก้มสาวสวยอวบอึ๋มที่นั่งชิดจนแทบขึ้นไปบนตัก
ตีรณาตวัดตามองแวบหนึ่ง หล่อนจำได้ว่ารัฐมนตรีเหล่านี้ล้วนมีครอบครัวกันทั้งหมด อย่างนายเลิศลักษณ์เพิ่งแต่งงานครั้งที่สองไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ตอนนี้กลับนั่งกอดสาวงามหยาดเยิ้มเบอร์หนึ่งของเลานจ์จนแทบกลายเป็นเนื้อเดียว
หญิงสาวรินเหล้าใส่แก้วให้คุณไทม์ เมื่อวางแก้วลงบนโต๊ะตรงหน้ายังไม่ทันชักมือกลับมือของเขาก็คว้าลงมาบนแก้วหรูใบนั้น ทำให้ปลายนิ้วเรียวยาวแตะลงบนหลังมือหล่อน มือข้างนั้นกระตุกราวกับมีไฟฟ้าชอร์ตปราดลงมา ก่อนจะค่อยๆ ซ่านสะท้านไปยังกึ่งกลางใจ ตีรณาชะงักลงเล็กน้อยรีบชักมือกลับ ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ไม่กล้าสบตาคมกริบของใครเลย แล้วสาวสวยนามว่านลินที่มองอยู่แล้วก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ
“แหม ที่นี่คัดพนักงานทุกระดับประทับใจจริงๆ นะคะ ขนาดพนักงานเสิร์ฟยังต้องสวยขนาดนี้”
คำพูดนั้นไม่ใช่คำชม แต่เป็นคำพูดแขวะแฝงด้วยอาการหมิ่นแคลนชัดเจน ทำให้คนในนั้นหันมามองพนักงานเสิร์ฟสาวเป็นตาเดียวแล้วก็เห็นด้วยกับคำพูดของนลิน นั่นคือทุกคนล้วนน่ารักจิ้มลิ้ม โดยเฉพาะตีรณาที่เมื่อสบตาสาวสวยผู้นั้นก็ใจหายเพราะเจ้าหล่อนมองมาอย่างเจาะจงราวจะกินเลือดกินเนื้อ ดูก็รู้ว่าหวงคุณไทม์มากแค่ไหน
“แน่นอนครับ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อการบริการที่จะนำไปสู่ความประทับใจของลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่าน” ริมฝีปากได้รูปของคุณไทม์ผุดยิ้ม แต่กลับทำให้น้องสาวของท่านรัฐมนตรีคนดังถึงกับค้อนขวับ
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจหล่อนนัก แต่ตวัดสายตามองพนักงานของตนพลางพยักหน้าให้ออกไป ก่อนที่จะเสียบรรยากาศไปมากกว่านี้ ทั้งสามจึงกลับออกไปอย่างเงียบเชียบและรวดเร็ว
“อื้อหือ ฉันละอยากจะจิกหัวแม่นั่นออกมาตบสักที คิดว่าตัวเองเลิศเลอเพอร์เฟกต์มากหรือไง ถึงมาพูดดูถูกกันได้ง่ายๆ น่ะ” ดุษิตากล่าวออกมาอย่างโมโห ไม่ต่างกับกันยาที่ใบหน้างอง้ำ
“จริงด้วย หมั่นไส้ฉิบหาย” พูดจบก็หันไปมองตีรณา “ยัยนั่นดูท่าจะเขม่นตี่นะ”
ตีรณาใจหายอีกรอบก่อนจะยิ้มแหย หล่อนเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้เพียงไม่นาน จึงไม่อยากมีเรื่องกับใครเลยให้ตายสิ
“ตี่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ทำไมเขาต้องเขม่นตี่ด้วย”
ดุษิตาหัวเราะหึๆ พลางมองสาวรุ่นน้องด้วยสายตารู้ทัน
“พี่เห็นมือคุณไทม์ชนมือตี่ตอนชงเหล้าให้ ยัยนั่นมองตาเขียววับ คงจะหวงจัด โธ่เอ๊ย ไม่รู้จักคุณไทม์ดีซะแล้ว พ่อฟันดะไม่เว้นลูกท่านหลานเธอ แต่ไม่มีใครจับคุณเขาได้เลยสักคนเดียว นั่นน่ะโคตรพ่อปลาไหลเลยเชียวนะ เรื่องลื่นไม่มีใครเทียบ ต่อให้ใบข่อยก็เอาไม่อยู่!”
ดุษิตากล่าวอย่างโกรธๆ ทำเอากันยานึกภาพตามแล้วหัวเราะพรืด ขณะที่ตีรณาถอนหายใจก่อนส่ายหน้ายิ้ม อดขำกับคำเปรียบเทียบของสาวรุ่นพี่ไม่ได้เหมือนกัน
“แต่ตี่ไม่ได้ตั้งใจนะพี่ดุษ ชักมือออกไม่ทันก็เลยชนกันนิดหน่อยเอง ไม่น่าจะโกรธขนาดนี้” ยังจำแววตาที่นลินมองมาได้ไม่ลืม
“เพราะรู้ไงว่าไม่มีใครคุมคุณไทม์ได้ ก็เลยหันมาคุมสาวๆ ที่จะเข้าหาคุณเขาแทน” กันยาเปรย
ตีรณาได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ อย่างอ่อนใจ ขณะเตรียมเครื่องดื่มชุดใหม่เอาไว้รอเรียกเข้าไปเสิร์ฟครั้งที่สอง
“คุณคนนั้นคิดมากไป ตี่ไม่มีวันทำแบบนั้น อีกอย่างคุณไทม์เขาไม่ยุ่งกับสาวเสิร์ฟอย่างพวกเราอยู่แล้ว ตี่ไม่เคยเห็นเขายุ่งกับพนักงานคนไหนเลย” ที่ผ่านมามีแต่ดารานางแบบไม่ก็พวกลูกท่านหลานเธออย่างที่ดุษิตากล่าวที่เขายอมคบหาด้วย
“มันก็ไม่แน่นะ นี่ถ้าคุณไทม์ได้สบตาพี่สักครั้งพี่จะอ่อยให้หลงจนโงหัวไม่ขึ้น” กันยาเอ่ยพลางทำท่าทางยั่วยวนอย่างแม่เสือสาว ทำให้อีกสองสาวหัวเราะขัน
“เอาเถอะ ฉันเป็นกำลังใจให้ ถ้าคุณไทม์ไม่ถีบหล่อนออกมาซะก่อนนะ”
กันยาค้อนขวับ ก่อนจะแยกเขี้ยวใส่เพื่อนสาว ส่วนตีรณาที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กำลังคิดถึงสัมผัสร้อนวูบนั้น โดยเฉพาะสายตาคมกริบที่มองมา แม้เพียงแวบเดียวกลับทำให้ใจของหล่อนกระตุก นัยน์ตาคู่นั้นไม่ได้มีร่องรอยกรุ้มกริ่มสักนิด ทว่ามีอิทธิพลแฝงทำให้หญิงสาวลืมหายใจไปชั่วขณะ แต่รู้ดีว่าคนอย่างเขาไม่ลดตัวลงมาสุงสิงกับพนักงานอย่างหล่อนแน่นอน
เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง ตีรณาบอกลาเพื่อนๆ แล้วเตรียมตัวกลับห้องพัก แต่ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากเลานจ์นึกได้ว่าลืมของ จึงกลับเข้าไปอีกครั้ง ระหว่างนั้นเองกลับมีมือของใครคนหนึ่งคว้าหมับลงมาที่ต้นแขนกลมกลึง
“ว้าย!” เสียงร้องเงียบหายลงพร้อมอาการเบิกตากว้างเมื่อเห็นหน้าคนชนเต็มตา “เอ่อ คุณไทม์”
“โทษที รบกวนหน่อย”
ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ราวกับว่าเขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะเปล่งเสียงพูดออกมา ดวงตาคมกริบที่เคยพราวระยับยามนี้ดูลึกลับน่าหวั่นเกรง ทำให้หญิงสาวมองเขาอย่างนึกกลัว
“จะให้ตี่ช่วยอะไรหรือคะ” เอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจว่าคนอย่างหล่อนจะไปช่วยอะไรเขาได้ ทว่าท่าทางของเขาดูไม่ดีนัก คงต้องการความช่วยเหลือจริงๆ
“มากับผม” พูดจบเขาก็ดึงหล่อนให้เดินตามกลับเข้าไปด้านในอีกครั้ง คราวนี้เขาพาไปยังห้องพักผ่อนส่วนตัว นั่นทำให้คนที่เดินตามรู้สึกใจไม่ดี เริ่มขืนร่างหนีเมื่อเขาหยุดอยู่หน้าห้องมองเขากดรหัสประตู
“เอ่อ คุณไทม์ คือว่าตี่” ยังไม่ทันพูดจบประโยค หล่อนก็ถูกผลักเข้าไปด้านในพร้อมกับร่างสูงที่ก้าวตามมา ประตูถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว
ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก เมื่อหันกลับไปพบกับร่างสูงสง่าที่สามารถบดบังหล่อนได้มิด หญิงสาวถอยร่นแต่ยังช้ากว่ามือใหญ่ที่ตะครุบไหล่ทั้งสองข้างของหล่อนเอาไว้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับก้าวเข้าประชิด โน้มใบหน้าคมคาย หล่อเหลาลงมาและหยุดด้วยระยะห่างเพียงไม่ถึงเซนติเมตร
“ช่วยผม แล้วผมจะตอบแทนคุณ”
ทันทีที่สิ้นเสียงแหบดังจนแทบจะเป็นกระเส่า ริมฝีปากสีอ่อนหยักลึกก็ซุกลงมากับซอกคอหอมกรุ่น หัวใจดวงน้อยกระตุกวาบ กรีดร้องด้วยความตกใจ ยกมือขึ้นผลักอกกว้างที่ตึงแน่นเป็นมัดทันควัน สะเปะสะปะผลักไส แต่ก็ยังช้ากว่าท่อนแขนแกร่งที่กอดรัดหล่อนเอาไว้ทั้งสองข้าง แน่นแนบเหมือนกับงูที่กำลังรัดเหยื่อ
หัวใจดวงน้อยเต้นรัว พยายามส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ แต่เสียงร้องไม่เคยเล็ดลอดออกไปจากห้องแห่งนี้ เพราะมันเป็นห้องเก็บเสียงอย่างดีทีเดียว จึงพยายามสะบัดหน้าหนีและขัดขืนเต็มแรงสุดกำลัง แต่ท้ายที่สุดแรงของผู้หญิงตัวเล็กนิดเดียวหรือจะสู้คนตัวใหญ่ราวยักษ์ปักหลั่น ที่มีแรงกายมหาศาลพร้อมด้วยพลังเร้นลึกที่ปะทุจากภายใน ซึ่งหยุดไม่ได้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ถูกกระตุ้นด้วยอารมณ์ดำฤษณา
ทุกอย่างดำเนินต่อไปท่ามกลางอารมณ์ร้อนแรงราวพายุคลั่ง จุดจบครั้งนี้สำหรับเขาคือความสุขสมเมื่อได้รับการปลดปล่อย แต่กับใครบางคนที่ไร้หนทางต่อต้านกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาได้สร้างบาดแผลที่ไม่มีวันหายขาด ไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงจะลืม
“พี่ขอโทษ แต่พี่ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ ก็เลยไม่ได้เอามาเล่าให้ฟัง ความจริงวันนั้นพี่คุยกับเขาแป๊บเดียว แล้วพี่ก็ออกมา”“นอกจากเรื่องผู้หญิงแล้ว อีกเรื่องที่สำคัญมากคือ ตี่ไม่ชอบคนโกหก”ได้ฟังแบบนั้นเขาจึงรวบร่างบางเข้ามากอดแน่น“ต่อไปนี้ถ้าวันไหนพี่ออกไปเจอหรือต้องไปไหนกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่เมียตัวเอง สัญญาว่าจะกลับมารายงานให้ฟังทุกครั้ง แต่คนเรามันก็ย่อมมีหลงลืมกันบ้าง ถ้าวันไหนเกิดตี่รู้มาว่าพี่ไปกับใคร หมายถึงไปทำงาน แล้วพี่ลืมมาเล่าให้ฟังก็ถามได้เลย อย่ามัวแต่คิดไปเองแบบนี้ เพราะมันจะทำให้ตี่ไม่มีความสุขและระแวงพี่โดยไม่ใช่เรื่อง” เขาหยุดพูดไปอึดใจ จ้องมองดวงตาคู่สวย แล้วเอ่ยออกมาอีก “อันที่จริง ถ้าตี่จะเชื่อใจพี่สักนิด ตี่ก็คงไม่ต้องมานั่งคิดมากแบบนี้หรอก”หญิงสาวนิ่งงัน ดวงตาคู่สวยหลุบหลบ รู้สึกผิดขึ้นมาบ้าง นี่หล่อนไม่เชื่อใจเขาเสียตั้งแต่ตอนไหนกัน ถึงได้กระวนกระวายแบบนี้ อาจเป็นเพราะเรื่องของอาอี๊ด ทำให้หล่อนเกิดความกลัวอยู่ลึกๆ“ตี่ขอโทษ”ชายหนุ่มยิ้มตอบ เขาไม่โกรธหล่อนสักนิด ออกจะภูมิใจที่เมียแสดงอาการว่าหึงหวงเขาบ้าง“ไม่เป็นไร พี่แค่อยากให้ตี่เชื่อใจพี่มากกว่านี้ แต่จะหึงพ
บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน ทีปกรนั่งหัวไหล่ชนกับหัวไหล่ของตีรณาอยู่บนเสื่อ มองลูกชายวิ่งเล่นกับลูกหมาที่เพิ่งได้มาเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อไม่กี่วันมานี้ ซึ่งคุณตฤณก็เห่อชนิดกินนอนด้วยกันทีเดียว“ตี่”“หืม”เจ้าของดวงตาเรียวยาวเหลือบมองภรรยาที่นั่งมองลูกชายพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม“ตฤณสามขวบแล้ว”“ค่ะ” คนตัวนุ่มหอมกรุ่นไปทั้งตัวรับคำสั้นๆ แต่สายตายังไม่คลาดจากลูกชาย พร้อมกับหัวเราะเสียงใสเมื่อเจ้าหมาน้อยวิ่งจนหน้าทิ่มพื้นเท้าชี้ฟ้า“เรามาทำน้องให้ตฤณกันไหม”คราวนี้คนที่สนใจแต่ลูกกับหมาหันขวับมายังคนพูดทันที ดวงตากลมโตเบิกขึ้นราวกับจะถามว่า อะไรนะ ฟังไม่ชัด โปรดพูดใหม่อีกที ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็ยิ้มขันแล้วบอก“เรามาทำน้องให้ตฤณกัน” เขากระซิบชิดใบหูบอบบาง แล้วกดจมูกลงบนแก้มอุ่นของภรรยาสาวที่แดงเรื่อขึ้น“เอาจริงเหรอคะ” ถามด้วยอารมณ์ขบขันแกมเขินอาย ตาสบตาคมเข้ม ก่อนจะเมินมองไปยังลูกชายตัวน้อย “ถามลูกก่อนดีไหม”ชายหนุ่มยิ้มกว้างพลางบอก“ถามแล้ว ลูกโอเคมาก ลูกบอกว่าอยากมีน้อง”หญิงสาวหรี่ตามอง ค้นหาว่าคนตรงหน้ากำลังมารยาอะไรหรือไม่ แต่รอยยิ้มกรุ้มกริ่มสดใสไม่อาจทำให้หญิงสาวจับผิดเขาได้ตลอดรอดฝั่ง จึงเ
บทส่งท้ายวันนี้เป็นวันเกิดครบสามขวบของคุณตฤณสุดหล่อ หนูน้อยอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าสวมทับด้วยกางเกงผ้าสีครีม ผมจัดทรงสุดเท่ตามแบบคุณพ่อ ใส่ชุดเหมือนกันราวกับฝาแฝดทั้งสองพาหนูน้อยกลับมาเยี่ยมย่าจิตที่ยังคงสุขภาพดี โดยเฉพาะหน้าตาแจ่มใสเป็นพิเศษเมื่อเหลนตัวน้อยกลับมาเยี่ยมเยือน“ทวดจิตค้าบ คุณแม่บอกให้ตฤณเอาขนมใส่ไส้มาให้ค้าบ” คนตัวเล็กประคองจานที่มีขนมใส่ไส้สามห่อวางลงบนตักของย่าจิต ท่านยิ้มกว้างพลางหัวเราะจนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยย่นยับยู่ยี่“ฮ่าๆ ขอบใจมากลูก แล้วหนูกินหรือยังล่ะครับ”เด็กน้อยใช้นิ้วโป้งเกี่ยวหูกางเกงไว้ทั้งสองข้างพลางส่ายหน้า“ตฤณไม่ชอบกินค้าบ” พูดจบก็วิ่งกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง สักพักใหญ่ก็กลับออกมาพร้อมกับแม่และย่าอิ๋ว คราวนี้พ่อหนูถือขวดน้ำมาด้วย“ตฤณเอาน้ำมาให้ทวดค้าบ”เด็กชายตฤณบอกอย่างน่ารัก ก่อนจะเดินไปนั่งตักมารดา หญิงสาวยกมือขึ้นลูบหัวของแกแผ่วเบาแล้วส่งยิ้มให้ย่าจิตกับป้าอิ๋ว“เก่งมากลูก ตฤณเป็นเด็กดีมีน้ำใจ” เมื่อป้าอิ๋วเอ่ยชม พ่อหนูจึงยิ้มหวานทีเดียว พอหันไปเห็นคุณพ่อเขาก็ลงจากตักแม่แล้ววิ่งไปกอดขาคนตัวโต“พ่ออุ้ม” คนเป็นพ่อหัวเราะเบาๆ ดวงหน้าคมคายดูกระ
คนตัวเล็กตาหวานยกมือไหว้คนแปลกหน้าทั้งหลายพลางยิ้มกว้าง ทุกคนต่างมองหนูน้อยลูกชายเจ้านายด้วยสายตาเอ็นดู“อ๊าย แก้มยุ้ยเลย น่าหยิกมาก ลูกตี่น่ารักมากจริงๆ สบายดีใช่ไหมเราน่ะ” พี่ดุษเอ่ยถามพลางยิ้มกริ่ม ดวงตาคู่สวยมองตีรณาสลับกับลูกชายตัวน้อยอย่างถี่ถ้วน“สบายดีค่ะพี่ พวกพี่ล่ะ เป็นไงบ้าง”กันยายิ้มหวานพลางบอก“สบายดี แต่พี่จะลาออกแล้วนะ”ตีรณาเลิกคิ้วสูง พลางหันไปมองดุษิตาที่พยักหน้าสำทับ“ใช่ แม่นี่จะทิ้งพี่ไปแล้ว มันจะมีผัวน่ะ ผัวมันรวย”สิ้นเสียงบอกเล่าของดุษิตากันยาจึงค้อนขวับ ส่วนตีรณานั้นหัวเราะขันกับท่าทางของทั้งคู่“ยินดีด้วยนะคะ” สาวสวยส่งยิ้มอ่อนหวาน ทำให้รุ่นพี่ทั้งสองต่างมองด้วยความรู้สึกยินดีตามไปด้วย ดวงตางดงามของคนตรงหน้าเต็มไปด้วยความสุข“ขอบใจจ้ะ คุณไทม์ดูแลตี่ดีมากเลยนะ ดูสิ สวยขึ้นจนจำแทบไม่ได้ หน้าตาผิวพรรณ ดูมีน้ำมีนวล ออร่าคุณนายจับสว่างจ้า จนพี่อิจฉาเลย แถมมีลูกน่ารักมากอีก”ตีรณายิ้มเขิน พลางหันไปมองหัวหน้าสาวที่ขยับเข้ามาร่วมวงสนทนา“พี่เห็นด้วยกับยานะ ตี่ดูมีความสุขมาก คุณไทม์เองก็ดูมีความสุขกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย แถมเดี๋ยวนี้ดูสุขุมภูมิฐาน หล่อมาก สลัดคราบแบดบอ
ตีรณาแหงนเงยใบหน้ามองเพดาน เห็นแสงไฟวับแวมผ่านดวงตาพร่าเบลอ ก่อนจะก้มมองจุดเชื่อมต่อของร่างกาย แลบลิ้นเลียริมฝีปากพร้อมกลืนน้ำลายด้วยความเสียดเสียวร้อนฉ่ากับภาพตรงหน้า ร่างกายร้อนสลับเย็นซู่ซ่า เมื่อมองภาพท่อนลำแกร่งกร้านทรงพลัง เต็มไปด้วยเส้นเลือดหล่อเลี้ยงผลักดันตนเองเข้าออกในช่องทางชุ่มฉ่ำ ขณะที่ร่องเนื้อคับแคบก็ขมิบรัดรูดดูดราวบังคับให้เขาเร่งกระชั้นโถมทับบ้าคลั่งทีปกรตอบสนองอย่างรู้ใจ เขาไม่ทำให้เมียรักผิดหวัง โยกขย่มหนักหน่วง ก่อนปรับท่วงท่า มือใหญ่รองรัดเอวกิ่ว แล้วสอดเสียบแก่นกายเข้าสู่โพรงรักที่ขยายรับจนหญิงสาวครางอู้ ใบหน้างามแนบซบกับที่นอนนุ่ม สะโพกผายเชิดรับแรงกระแทก เสยสาดหยัดสู้ท่อนลำยาวเหยียดที่สอดเสียบลงมาอย่างหนักหน่วงเร่าร้อนและลึกสุด เสียงครางคำรามลอดลำคอแกร่ง พร้อมแรงกระทั้นกายที่ส่งภรรยาให้ไปถึงจุดหมายปลายทางได้ก่อน ในขณะที่เขาห้อตะบึงตามมาติดๆ แล้วครางกระหึ่มพร้อมปลดปล่อยหยาดรักทั้งหมดที่มีสู่ช่องทางหรรษา วินาทีต่อมาร่างกายใหญ่โตก็เกร็งกระตุกหลายต่อหลายครั้ง ก่อนซวนซบแนบอกกับแผ่นหลังนุ่มในท่านั้นด้วยความสุขสมกันทั้งสองฝ่ายนวลแก้มอิ่มแดงเรื่อถูกจูบจากคนตัวโต เขา
๒๓รัก ลบ ร้ายเรือนร่างงดงามปรากฏต่อสายตาทีปกร เขากวาดตามองด้วยสายตาชื่นชมไม่รู้เบื่อ จนหญิงสาวเริ่มจะเขินอายกับสายตาโลมเลียคู่นี้ จึงยกมือขึ้นปิดทรวงอกอวบอิ่ม แต่คนเจ้าเล่ห์ก็ยังตามมาดึงมือของหล่อนออก แล้วใช้เทคนิคพิเศษปิดยอดถันสีหวานโดยการตวัดปลายลิ้นดูดกลืนปลายยอดที่ชูชันพร้อมสู่สังเวียนรักจนหายวับจากสายตาปลายนิ้วเรียวยาวลูบไล้ทั่วเรือนร่างขาวผ่อง อบอุ่น นุ่มมือ เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทั้งหมดเกิดจากความรักและปรารถนาจากใจไม่ใช่เพียงใคร่ กลายเป็นความสุขสันต์จากความยินยอมพร้อมใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย“อืม” หญิงสาวปล่อยเสียงครางพอใจ ใบหน้างามแหงนเริด มือทั้งสองข้างเกาะกุมอยู่บนศีรษะได้รูปที่ซุกซบอยู่กับทรวงอกอวบหยุ่นร่างหนากำยำเคลื่อนกายพลิ้วไหว ทำให้หญิงสาวครวญครางด้วยความสุข แต่บางครั้งหล่อนกลับนึกถึงความตื่นเต้นเร่าร้อนแบบครั้งแรกที่ร่วมเสพสมกับเขา ครั้งนั้นไม่มีใครได้เตรียมตัวเตรียมใจ ความรู้สึกจึงก้ำกึ่งระหว่างยินยอมและหวาดกลัวตามประสาสาวบริสุทธิ์ แต่สุดท้ายจบลงที่ความเกษมสันต์ทว่านับจากแต่งงานกัน มีบางครั้งที่เขาเผลอทำรุนแรง พอนึกขึ้นได้ก็รีบปรับอารมณ์จนหล่อนรู้สึกขัดใจ ราวกับเขารำล