共有

บทที่ 7 อย่าคิดล่วงเกินข้า

last update 最終更新日: 2025-05-16 08:34:25

หุบเขาจอมมาร…

ม่านหมอกจางลอยเหนือหุบเขาจอมมาร ฟ้าถูกบดบังด้วยเงาเมฆครึ้ม แสงจันทร์ส่องประกายลงมายังกลางหุบเขา ท่ามกลางความเงียบสงัด มีเพียงสตรีร่างบางระหงนอนอยู่บนแท่นบรรทมของจอมมาร แก้มขาวซีดของนางดูอ่อนแรง แต่ยังคงความมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างประหลาด

ไป๋เทียนหลงนั่งมองนางนิ่งนาน แววตาคมกริบของเขาฉายแววสับสน เหตุใดกัน…เหตุใดเขาจึงรู้สึกผูกพันกับนางลึกล้ำถึงเพียงนี้ เขาไม่อยากเห็นนางเจ็บปวด

ทันใดนั้น มู่หลินกระอักเลือดออกมา สีแดงเข้มไหลเปรอะริมฝีปาก

“มู่หลิน เจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง เจ็บตรงไหน บอกข้า” น้ำเสียงของเขาอ่อนลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“เจ้าช่วยข้าไว้ทำไม…” นางเอ่ยเสียงแผ่ว

“…ใยไม่ฆ่าข้าให้ตายเสียตั้งแต่ที่จวนนั้นเลย พาข้ามาที่นี่ทำไม”

ไป๋เทียนหลงนิ่ง ดวงตาฉายแววสำนึกผิด เขาเอื้อมมือไปหมายจะเช็ดคราบเลือดที่มุมปากของนาง แต่มู่หลินเบือนหน้าหนี

“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเจ้า ข้าขอโทษ”

“จอมมารเช่นเจ้ามีคำขอโทษด้วยรึ ข้าขันนัก”

นางแค่นหัวเราะแม้ร่างกายจะอ่อนแรง

เขาถอนหายใจแผ่วเบา

“ข้าไม่อยากทะเลาะกับเจ้า หายดีเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน เจ้ากินยาก่อน”

ไป๋เทียนหลงยื่นยาถ้วยหนึ่งให้นาง แต่มู่หลินสะบัดหน้าหนี เขาพยายามอีกครั้งแต่นางยังคงดื้อดึง จนในที่สุด…เขาตัดสินใจดื่มยาทั้งหมดก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าหานาง

ใช้สองมือประคองแก้มนางแนบแน่น จากนั้นริมฝีปากของเขาก็ประกบลงที่กลีบปากของนาง มอบยาให้ผ่านจูบอันแนบแน่น

มู่หลินเบิกตากว้าง นางพยายามผลักเขาออก แต่เรี่ยวแรงกลับหายไปหมดสิ้น นางรู้สึกถึงไออุ่นและหัวใจของเขาเต้นแรง

“นี่ท่าน…เลวอย่างจอมมารจริงๆ”

นางกัดฟันพูดทั้งใบหน้าแดงซ่าน

ไป๋เทียนหลงยกยิ้มมุมปาก

“เจ้าบังคับข้าเองนะ”

มู่หลินเม้มริมฝีปากแน่น นางพยายามข่มความรู้สึกบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจ

“ข้าจะเป็นตายอย่างไรไม่เกี่ยวกับท่าน ข้าจะกลับไปหาอาจารย์”

ไป๋เทียนหลงหัวเราะเบา

“เจ้าคิดว่าที่แห่งนี้อยากเข้าออกได้ตามใจอย่างนั้นหรือ”

มู่หลินนิ่งไปสักครู่ก่อนกระอักเลือดออกมาอีกระลอก แคร่ก แคร่ก!

ไป๋เทียนหลงรีบประคองร่างของนาง

“เจ้าต้องไปแช่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อฟื้นฟูพลัง ไม่เช่นนั้นร่างกายเจ้าจะย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ ”

“ปล่อย! ท่านอย่ามายุ่งกับข้า”

แม้ปากจะปฏิเสธ แต่หัวใจของนางกลับร่ำร้องหาความอบอุ่นจากเขา

ไป๋เทียนหลงไม่พูดอะไร เขาอุ้มนางขึ้นแนบอก ก้าวเดินไปยังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ท่ามกลางม่านหมอกที่ลอยต่ำ แขนแกร่งกระชับร่างของนางไว้แน่น แก้มนวลแนบอยู่กับแผ่นอกแข็งแกร่งจนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นหนักแน่น

เมื่อมาถึงริมบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เขาค่อยๆ วางร่างของนางลง น้ำใสเย็นระยิบระยับใต้แสงจันทร์ทอดตัวอย่างเงียบสงบ เขาหันหลังให้นางโดยมิได้ละลาบละล้วง เพื่อให้เกียรตินางอย่างที่สุด

มู่หลินแช่กายในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ความเย็นซ่านแล่นไหลไปทั่วร่าง รู้สึกได้ถึงพลังชีวิตที่ค่อยๆ ฟื้นคืน นางหลุบตามองไป๋เทียนหลง แผ่นหลังกว้างของเขาดูสง่างาม

นางแช่น้ำไปสักพักก็มองเห็นงูที่เลื้อยอยู่ในน้ำ นางตกใจกรีดร้อง

“กรี๊ด!”

ไป๋เทียนหลงสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงร้องของนาง ก่อนจะหันไปมองอย่างรวดเร็ว

“มู่หลิน เจ้าเป็นอะไร!”

ยังไม่ทันให้นางตอบ เขาก็กระโดดลงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ทันที น้ำกระเซ็นเป็นวงกว้าง มู่หลินตกใจจนใช้มือปิดตา ไป๋เทียนหลงคว้างูโยนออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันกลับมาหานาง

แต่ทันทีที่เขาหันมา มู่หลินก็โผเข้ากอดเขาแน่น ลมหายใจอุ่นรดอยู่ตรงแผ่นอกกว้างของเขา

“มันไปหรือยัง”

“ยังอย่าพึ่งปล่อยข้านะ”

มูหลินรู้สึกแปลก ๆ กับคำพูดของเขา นางลืมตาขึ้นทันที

“นี่ท่านจับมันออกไปแล้วนี่ ทำไมไม่บอกข้า... ยังปล่อยให้ข้ากอดท่านอยู่อีก”

นางบ่นเสียงสั่น ไป๋เทียนหลงหัวเราะในลำคอ แววตาแฝงความเจ้าเล่ห์

“ก็เจ้ากลัว ข้าก็ต้องปกป้องเจ้า เจ้านี่แปลกจริงๆ ปราบมารปีศาจมามากมาย แต่กลับกลัวแค่งูตัวเล็ก ๆ”

มู่หลินเม้มปากแน่น นางถลึงตาใส่เขา

“ข้ากำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ก็เลยตกใจต่างหากเล่า!”

นางพยายามจะผละออกจากอ้อมแขนเขา แต่กลับพบว่าร่างกายทั้งสองแนบชิดกันมากเกินไป น้ำใสทำให้เสื้อผ้าของนางบางแนบเนื้อจนเห็นสัดส่วนราง ๆ นางรู้สึกถึงลมหายใจร้อนของไป๋เทียนหลงที่รินรดอยู่ข้างแก้ม เขามองนางนิ่ง ก่อนจะค่อยๆ ก้มลงมาใกล้

“ปล่อยข้าได้แล้ว…”

นางพึมพำ เสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ไป๋เทียนหลงกลับไม่ปล่อย เขากลับกระชับร่างบางให้เข้ามาแนบชิดอกมากขึ้น ดวงตาของเขาทอประกายวาววับ นางรับรู้ได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านจากร่างของเขา

“ข้าจะปล่อยก็ได้…”

เขาพูดเสียงแผ่ว ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นของเขาจะกดลงบนกลีบปากนุ่มของนางอย่างแผ่วเบา

มู่หลินสะดุ้ง หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก นางตั้งใจจะผละออก แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟัง นางได้แต่หลับตาแน่น

ลมหายใจหอบถี่ เมื่อไป๋เทียนหลงจูบลึกขึ้น เขาค่อยๆ ไซร้ริมฝีปากไปตามมุมปากของนางอย่างแผ่วเบา ก่อนจะส่งปลายลิ้นสัมผัสเพื่อชิมรสหวานจากโพรงปากของนาง 

นางเผลอครางออกมาแผ่วเบา ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง

แต่แล้ว ความรู้สึกบางอย่างก็แล่นเข้ามาในหัวของนาง มู่หลินได้สติขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นางผลักเขาออกอย่างแรง แล้วฟาดฝ่ามือไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มแรง

“เพี้ยะ!”

ไป๋เทียนหลงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมามองนางด้วยสายตาขบขัน เขาเลียริมฝีปากตัวเองยกยิ้มเบาๆ

“จอมมารบ้า! คิดจะล่วงเกินข้าหรือไง!”

นางตวาด หน้าแดงซ่านทั้งโกรธและเขินอาย

ไป๋เทียนหลงยกมือแตะแก้มที่โดนตบ ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

“อะไรของเจ้า ก็เห็นอยู่ว่าเมื่อครู่เจ้าเต็มใจ เจ้ายังครางออกมาเลย ใยมาโทษข้าฝ่ายเดียว”

มู่หลินโกรธจนพูดไม่ออก นางรีบลุกขึ้นจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ทันที เดินสะบัดออกไปโดยไม่หันกลับมามอง

ไป๋เทียนหลงมองตามร่างระหงของนาง รอยยิ้มของเขายังไม่จางหาย นี่มันคือความรู้สึกจริง... หรือเป็นเพียงการหลอกล่อให้รัก เพื่อแย่งชิงมุกพลังจันทราเท่านั้นกันแน่…

ตลอดเวลาสามวันที่ผ่านมา ไป๋เทียนหลงไม่ได้ละเลยการดูแลมู่หลิน เขาป้อนยา ปรุงสมุนไพร และอยู่เคียงข้างนางเสมอ ไม่ปล่อยให้นางต้องเผชิญกับความเจ็บปวดเพียงลำพัง

แต่หัวใจของเขากลับปั่นป่วนทุกครั้งที่สบตานาง… และนางเองก็ไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นในใจได้เช่นกัน

“ข้าถามท่านหน่อย ทำไมท่านถึงมาเป็นจอมมาร”

มู่หลินถามด้วยความสงสัย เพราะจากที่นางสัมผัสเขาไม่ใช่คนที่มีจิตใจที่เลวร้าย

“อย่างที่เจ้าเห็น ครอบครัวของข้าไม่มีใครต้องการข้ากับท่านแม่ ท่านแม่ของข้าต้องทนทุกข์ทรมานกับการถูกเหยียดหยามสารพัด ต้องทนกับคำว่ามีลูกกับชู้ จนวันหนึ่งนางถูกใส่ร้ายว่าพยายามฆ่าเมียรองของท่านพ่อ

ทุกคนพยายามให้ท่านแม่รับผิดแต่ท่านแม่ยืนกรานว่าไม่ได้ทำ ท่านพ่อจึงทำโทษให้ไปคุกเข่ากลางหิมะ จนแม่ข้าล้มป่วยไม่เกินสามปีท่านก็จากข้าไป

ข้าต้องใช้ชีวิตโดดเดี่ยว โดนคนรังแก ข้าออกจากบ้านเป็นคนเร่ร่อน ใช้ชีวิตในคอกวัว คอกหมู เพื่อซุกหัวนอน หนาว ทรมาน อดมื้อกินมื้อ จนมาเจอจ้าวแห่งจอมมารรับข้าเป็นบุตรบุญธรรม”

เขาเล่าด้วยทั้งน้ำตาความขมขื่น เขากำหมัดแน่น

“แล้วท่านคิดจะเป็นจอมมารอย่างสมบูรณ์จริงๆ หรือ”

มู่หลินถามด้วยความห่วงใย

“ข้าเดินมาไกลกว่าที่จะหวนกลับ ข้าอยากแก้แค้นต่อจากนี้ต่อจะต้องเป็นจอมมารสืบทอดจากจ้าวจอมมาร”

“หากท่านไม่อยากเป็นข้าช่วยท่านได้ ไปหาอาจารย์ของข้า ได้ไหม”

“ข้า...ยังไม่คิดเรื่องนี้”

“ท่านเชื่อข้านะ ข้าช่วยท่านได้ ข้าจะช่วยเจ้ากำจัดจ้าวแห่งจอมมารเอง”

“เจ้าอย่าพูดคำพูดแบบนี้ที่นี่อีกถ้าไม่ยากตาย แม้แต่ข้ายังช่วยเจ้าไม่ได้”

มู่หลินเม้มปาก จิตใจของนางตอนนี้ต้องการช่วยให้เขาเป็นจอมมาร หรือจิตใจนางผูกพันกับเขาเสียแล้ว

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 68 รักนิรันดร์ (จบ)

    แสงแดดอ่อนของยามเช้าส่องลอดผ่านม่านหน้าต่าง อุณหภูมิในห้องผู้ป่วยอุ่นสบาย ทว่าหัวใจของหญิงสาวกลับเต้นแรงอย่างไม่เป็นจังหวะ เมื่อดวงตาคู่งามเริ่มขยับเปลือกตาขึ้นช้า ๆจางเจียว ลืมตาขึ้นอย่างเลื่อนลอยในวินาทีแรก เธอไม่รู้ว่าตัวเองฝันอยู่หรือไม่ แต่เมื่อเธอหันไปทางเตียงข้าง ๆ ...เธอเห็นเขา - กู้เหยี่ยนนอนอยู่ที่ ใบหน้าซีดจางแต่มีรอยยิ้มอ่อนโยน และที่สำคัญ... ดวงตาคู่นั้นกำลังจ้องมองเธออย่างอ่อนโยนเหมือนทุกครั้งที่เขารักเธอเขายิ้ม...เธอไม่อาจกลั้นเสียงสะอื้นได้อีกต่อไป“ขอบคุณ...”เสียงของเธอสั่นเครือเมื่อพูดออกมา“ขอบคุณที่คุณยังรักษาสัญญา…”“ขอบคุณที่ไม่ทิ้งฉันกับลูกไป… กู้เหยี่ยน คนบ้า…”น้ำตาของเธอไหลลงช้า ๆ ขณะที่รอยยิ้มค้างอยู่บนใบหน้าเธอไม่สนว่าตัวเองยังเพิ่งฟื้น ไม่สนแม้ร่างกายยังอ่อนแรง เธอรีบลุกจากเตียง เดินตรงเข้าไปหาชายคนที่เธอเกือบเสียไปตลอดกาลกู้เหยี่ยนยื่นมือออกมา...และเธอก็ทิ้งตัวลงกอดเขาแน่นทั้งน้ำตา“คุณรู้ไหม... ใจฉันแทบสลายตอนรู้ว่าคุณไม่หายใจ... ฉันกลัว... กลัวจนแทบจะตายตามคุณไป…”มือของเขาลูบผมเธอเบา ๆ จ้องมองเธอไม่ละสายตา“ผมต้องพยายามกลับมาให้ได้... เพราะผมสั

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 67 ไม่ว่านานแค่ไหนฉันจะรอคุณ

    ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกหนัก พายุคำรามราวกับฟ้ากำลังร่ำไห้ ประธานกู้ขับรถออกจากบ้านด้วยหัวใจอัดแน่นด้วยความกังวลเร่งรีบรถแน่นออกไปได้ไม่เกินสอบนาที เสียงล้อบดถนนดังกึกก้อง กระจกรถข้างหน้าพร่าเลือนด้วยม่านน้ำที่โปรยปรายลงมาไม่หยุด รถเสียหลักชนเข้ากับต้นไม้ข้างทางอย่างรุนแรง เสียงเหล็กบิดเบี้ยวดังลั่นไปทั่วบริเวณ ก่อนรถทั้งคันตีลังกาคว่ำสองตลบใครที่ผ่านไปพบเห็น ต่างพากันคิดว่าคนในรถคงไม่มีทางรอด...ในเวลาเดียวกันนั้นจางเจียว ยังนั่งรอฟังข่าวของลูกชายของ ดร.จอห์น ด้วยใจสั่นระรัว แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นฝันร้ายที่เธอไม่เคยคาดคิด“คุณนายค่ะ... ประธานกู้รถคว่ำค่ะ! ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล อาการเป็นตายเท่ากัน!”มือของจางเจียวสั่นระริก ใบหน้าเธอซีดเผือดก่อนเสียงสะอื้นแรกจะหลุดลอดริมฝีปากออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่“ไม่นะ... ไม่นะ... ฮือ ฮือ ฮือ... คุณอย่าทิ้งฉันกับลูกไปนะ... ได้โปรดกลับมาหาพวกเรานะคะ... ที่รัก...”โรงพยาบาลบรรยากาศในโรงพยาบาลเงียบงันแต่เต็มไปด้วยแรงสั่นสะเทือนแห่งความวิตก ทุกคนต่างมารวมตัวกันเฝ้ารอฟังผลจากห้องฉุกเฉิน ใบหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความหวังผสมความสิ้นหวังจางเจียว นั่งนิ่งอยู่

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 66 ไม่คาดคิด

    หลังจบทริปบริษัท บรรดาพนักงานต่างเดินทางกลับด้วยรถบัส ขณะที่ประธานกู้และประธานสื่อต่างให้คนขับรถส่วนตัวมารับกลับอย่างเงียบๆกู้เหยี่ยนเลือกพาจางเจียว ไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศริมทะเล ซึ่งถูกโอบล้อมด้วยสวนดอกกุหลาบสีขาวที่เบ่งบานงดงามทั่วบริเวณทันทีที่จางเจียวก้าวลงจากรถหรู สายตาเธอก็ทอดมองไปทั่วสวนอย่างประทับใจ“ที่นี่สวยมากเลยค่ะ...”เสียงเธอเบาแต่นุ่มนวลเขายิ้มบาง เอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น“ผมสั่งให้เขาจัดสวนนี้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว...ผมทำเพื่อคุณนะ”เธอหันกลับมามองเขาด้วยแววตาอ่อนโยน“ขอบคุณที่ใส่ใจฉันนะคะ...มันสวยจริงๆ”“ผมยินดีทำทุกอย่างเพื่อคุณ เดือนหน้าเราก็จะแต่งงานกันแล้ว...ผมเฝ้ารอวันนั้นทุกลมหายใจเลย”“แต่ถ้าเราแต่งเร็ว คุณอาจไม่มีอิสระอีกนะ...”เธอพูดด้วยความลังเล“ผมไม่ต้องการอิสระอะไรทั้งนั้น ขอแค่มีคุณอยู่ข้างๆ แค่นั้นก็พอแล้ว”เธอยิ้มละมุน หัวใจพลันอ่อนลงกับคำพูดอ่อนโยนนั้น“ปากหวานจริงนะคะ...”“เข้าบ้านกันเถอะครับ” เขาเอ่ยพลางยื่นมือให้จางเจียวส่งยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่น ก่อนจะก้าวเดิน แต่ยังไม่ทันถึงขั้นบันได เธอกลับเซไปเหมือนจะวูบกู้เหยี่ยนเห็นท่าไม่ดี รีบเข้าประคองแล

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 65 ของขวัญจากอดีต

    เพื่อเป็นการตอบแทนความเหน็ดเหนื่อยของพนักงานที่ทำผลงานยอดเยี่ยมตลอดไตรมาส บริษัทกู้กรุ๊ปจึงจัดทริป “สานสัมพันธ์” ที่รีสอร์ตริมทะเล 3 วัน 2 คืน โดยมีพนักงานจากทุกแผนกเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงและสิ่งที่สร้างความตื่นเต้นมากที่สุดคือ…ประธานใหญ่ กู้เหยี่ยน ตอบตกลงเข้าร่วมงานด้วยตัวเอง!พร้อมกับพา จางเจียว เลขาสาวคนสนิท ที่ตอนนี้ทุกคนก็รู้ว่าไม่ใช่แค่เลขา แต่เป็นว่าที่คุณนายกู้นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญพิเศษจากบริษัทพันธมิตร ประธานสือและแฟนสาว หลินหลินที่เพิ่งเปิดตัวกันหมาด ๆ ก็ขอตามมาร่วมแจมด้วยเช่นกันเช้าวันเดินทาง รถบัสสองคันจอดรออยู่หน้าตึกสำนักงานใหญ่ พนักงานต่างถ่ายรูป เช็กอิน และโพสต์ภาพกันอย่างคึกคักประธานกู้เดินลงจากรถหรู พร้อมลากกระเป๋าเดินทางตรงมายังรถบัสในชุดลำลองสีขาวสะอาดตา แตกต่างจากภาพลักษณ์ประธานเย็นชาที่เห็นในห้องประชุมโดยสิ้นเชิงข้างกายคือจางเจียว ในเดรสยาวสีขาว สายเดี่ยวมัดโบว์ เผยให้เห็นความสดใสน่ารักอย่างล้นเหลือ“ทุกคนพร้อมรึยังครับ?”เขาถามพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นเสียงเฮดังลั่นทันที พร้อมเสียงแซวเบา ๆ“พร้อมตั้งแต่รู้ว่าประธานจะไปแล้วค่า~”ไม่นาน รถยนต์หรูอีกคันก็จอด

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 64 ใครคิดถึงผม (NC20++)

    “ไหนใครบ่นคิดถึงผม?”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลัง ทำเอาหลินหลินสะดุ้งเธอหันขวับไปตามเสียง ก่อนจะพบกับร่างสูงของ ประธานสือ ยืนไขว้ขาพิงกรอบประตู ใบหน้าเรียบเฉยภายใต้กรอบแว่นไร้ขอบที่มองมาไม่วางตาสูทสีดำหรู เสื้อเชิ้ตปลดกระดุมบนเพียงเม็ดเดียว เผยช่วงอกแน่นล่ำพอให้ใจเต้น เส้นผมเซตอย่างลวก ๆ แต่กลับดูดี“ประธานสือ! คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่!”เธอรีบวางแก้วกาแฟ ตาโตด้วยความตกใจ เขิน และ...หงุดหงิดเขาเดินเข้ามาใกล้ หยุดตรงหน้าเธอโดยไม่ตอบคำถาม ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ“เปิดดูแชทหลายรอบแล้วใช่ไหม? ผมเห็นตั้งแต่คุณถอนหายใจรอบแรก”“คุณ...แอบดูฉันเหรอ?!”“ก็คุณชอบทำตัวให้น่าจับตามอง”หลินหลินอ้าปาก แต่พูดไม่ออก ความเขินตีขึ้นหน้าแดงจัด ขณะมือหนาลูบศีรษะเธอเบา ๆ“ก็คุณไม่โทร ไม่ตอบแชท ฉันก็นึกว่าคุณไม่สนใจ...”“แบตหมดตอนประชุมครับ”เขาตอบ พร้อมยื่นมือถือให้ดูเธอชะงักไปชั่วครู่... แต่ก็ไม่ยอมให้เขาชนะง่าย ๆ“ก็ได้ งั้นฉันไม่โกรธก็ได้”เขายิ้มมุมปากบาง ๆ ก่อนโน้มตัวกระซิบข้างหู“ต่อให้คุณโกรธ ผมก็ตามง้ออยู่ดี”น้ำเสียงของเขานุ่มลึก แฝงแรงปรารถนาบางอย่างก่อนกระซิบข้าง ๆ ใบหูของเธอ“คืนนี้...ไปกินข้าวที

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 63 ประธานคลั่งรัก

    บริษัทตระกูลกู้ภายในห้องทำงานใหญ่ชั้นบนสุดของอาคารจางเจียวนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ พลางไล่ดูเอกสารอย่างตั้งใจ แสงแดดยามสายลอดผ่านม่านโปร่งบางสร้างบรรยากาศสงบแต่ไม่เงียบเหงาเสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆก๊อก... ก๊อก..“ขออนุญาตค่ะคุณจาง ประธานกู้สั่งให้เอานี่มาให้ค่ะ”เลขาซูเดินเข้ามาพร้อมถาดขนม ในถาดมีเค้กช็อกโกแลตเนื้อเนียนนุ่มกับชาผลไม้กลิ่นหอมสดชื่นเมนูโปรดของจางเจียวทั้งคู่ เธอวางถาดลงตรงหน้าจางเจียวอย่างสุภาพ“ขอบคุณมากนะคะ เลขาซู”“ยินดีค่ะ ตั้งแต่คุณจางเข้ามาทำงานที่นี่…ประธานของเราก็อารมณ์ดีขึ้นมากเลยค่ะ ไม่เย็นชาเหมือนเมื่อก่อนเลย”เลขาซูพูดยิ้ม ๆ แต่ยังไม่ทันจะพูดต่อ เสียงประตูเปิดออกเบา ๆ“แน่นอนอยู่แล้วครับเลขาซู...”เสียงทุ้มอบอุ่นของกู้เหยี่ยนดังขึ้นข้างหลัง“…ก็ผมได้อยู่ใกล้ว่าที่ภรรยา จะไม่ให้มีความสุขได้ยังไงล่ะ”“อุ๊ย! ท่านประธาน...”เลขาซูยกมือปิดปาก ยิ้มเขินแต่ไม่ลืมโค้งให้เบา ๆ ก่อนจะถอยออกจากห้องอย่างรู้จังหวะ“เลขาซู เดี๋ยวผมขอพักสักครู่ห้ามมีใครรบกวนผมนะครับ”“รับทราบค่ะท่านประธาน”จางเจียวยิ้มเขิน แก้มแดงระเรื่อเมื่อได้ยินคำพูดนั้นต่อหน้าคนอื่น เธอแสร้งก้มหน้

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status